Chapter 7
วันต่อมา
20.00 น.
@ โรงแรมหรู
"เจ้าพ่อบ่อนอย่างมึงคิดยังไงวะ ถึงนัดพวกกูมาดื่มไวน์ที่นี่ได้" ไอ้วาโยมันเอ่ยถามผมด้วยสีหน้าแปลกใจ เมื่อผมนัดมันและไอ้คินมาดื่มไวน์ที่โรงแรมหรูชั้นดาดฟ้าแทนที่จะนั่งดื่มตามผับบาร์เหมือนทุกครั้ง
"เออนั่นสิ" ไอ้ภาคินมันทำสีหน้าแปลกใจไม่ต่างจากไอ้วาโยนัก
"กูแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้างก็แค่นั้น" ผมเอ่ยตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนที่ผมจะยกไวน์แดงขึ้นมาจิบ
"หนูเอาผลไม้ไหมครับ?" ไอ้ภาคินมันเอ่ยถามเมียเด็กของมันที่ตอนนี้กำลังท้อง ก่อนที่มันจะเอามือลูบหัวเมียของมันเบา ๆ ด้วยความรักใคร่
"เอาค่ะ" เธอพยักหน้าตอบไอ้คินเบา ๆ ก่อนที่เธอจะเอนศีรษะซบไหล่ของไอ้คินเชิงออดอ้อน ผมเห็นไอด้าเธอทำแบบนี้ ผมอดที่จะคิดถึงนิลินไม่ได้ ผมอยากให้เธออ้อนผมแบบนี้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่เมินเฉยใส่ผมอยู่แบบนั้น
"รักเมียจริง ๆ โว้ย" ไอ้วาโยเอ่ยแซวไอ้ภาคิน
"กูมีเมียแค่คนเดียว กูก็ต้องรักของกูสิ" ไอ้ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเจ้าชู้แบบมันจะมาตกม้าตายกับเมียเด็กของมันได้ ไอด้าเธอเป็นเหมือนรักแรกพบของมัน เพราะมันเจอปุ๊บมันก็วางแผนจะเอาเธอมาเป็นเมียของมันทันที
"เอ่อ...ไอ้คิน คอนโดของมึงชั้นที่สิบ ที่อยู่ตรงข้ามกับห้อง J101 ว่างใช่ไหมวะ" ผมเอ่ยถามไอ้คิน
"อืม ว่าง มึงถามทำไม?" ไอ้คินมันถามผมกลับด้วยความสงสัย
"กูอยากได้ห้องนั้น" ผมเอ่ยตอบมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ถ้ามึงอยากได้ กูยกให้มึงไปเลย" ไอ้ภาคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่ต่างจากผม
"อืม…ขอบใจมึงมาก...เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะได้ให้คนยกเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องเลย"
"มึงรีบขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้โรม" ไอ้วาโยเอ่ยถามขึ้น
"เรื่องของกู" ผมตอบมันไปกวน ๆ ก่อนที่ผมจะยกไวน์แดงขึ้นมาดื่มหมดแก้ว
"หึ" ไอ้วาโยมันมองหน้าผม ก่อนที่มันจะเอามือลูบไปที่คางมันเบา ๆ เหมือนมันกำลังคิดว่าผมกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
"เฮ้ย! กูพาเมียกูกลับก่อนนะโว้ย เมียกูง่วงนอนแล้ว" ไอ้ภาคินเอ่ยขึ้นบอกผมและไอ้วาโย
"ขอให้นอนจริง ๆ เถอะมึง อย่าไปทำอะไรเมียมึงนะโว้ยไอ้คิน เมียมึงยิ่งกำลังท้องกำลังไส้อยู่" ไอ้วาโยเอ่ยแซวกวน ๆ ไอ้ภาคิน
"ถึงกูจะไม่ทำ เมียกูก็แอบลักหลับกูอยู่ดี" ไอ้ภาคินเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างมีความสุข
"พี่คิน พูดอะไรออกมาคะเนี่ย" ไอด้าเธอหยิกไปที่แขนไอ้คินเบา ๆ
"โอ๊ยหนู พี่เจ็บนะครับ" ไอ้ภาคินโอบกอดคลอเคลียเมียมันเชิงออดอ้อน
"มึงรีบไปเถอะ อย่ามาสำออยแถวนี้ไอ้คิน" ผมเอ่ยขึ้นทันที เมื่อเห็นมันออดอ้อนเมียเด็กของมัน ผมเห็นมันอ้อนเมียมันแล้วรู้สึกรกหูรกตาชะมัด ผมไม่ได้อิจฉามันหรอกนะครับ เพียงแต่ผมไม่อยากเห็นอะไรหวาน ๆ เลี่ยน ๆ แบบนี้
"อิจฉากูเหรอมึง ไอ้โรม" ไอ้คินเอ่ยถามผม
"..." ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ยกนิ้วกลางไปให้มันแทน
"ฮ่า ๆ เออ ๆ กูกลับแล้ว" เมื่อมันเห็นผมยกนิ้วให้มัน มันก็หัวเราะขบขัน จากนั้นมันก็โอบกอดเมียของมันเดินออกไป
"พริตตีคนที่มึงสนใจ ตอนนี้มึงได้คุยกับเธอแล้วหรือยังวะไอ้โรม?" ไอ้วาโยเอ่ยถามขึ้น เมื่อผมกับมันนั่งดื่มกันไปได้สักพัก
"อืม! เดี๋ยวมึงก็รู้" ผมยกยิ้มมุมปากร้ายกาจ
"กูนี่เสียวสันหลังแทนน้องพริตตีคนนั้นจริง ๆ เลยว่ะ" ไอ้วาโยมันพูดขึ้น พร้อมยกยิ้มมุมปากมองหน้าผม
"หึ ๆ! เธอเป็นของกูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"
"มึงหมายความว่าไง" ไอ้วาโยมันเอ่ยถามทันที
"เธอคือนิลิน ที่กูเคยทิ้งเธอไปก่อนที่กูจะไปเรียนต่อต่างประเทศ"
"มิน่าล่ะ! ทำไมกูถึงว่าเธอหน้าตาคุ้น ๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน"
"..." ผมไม่ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ
"มึงทำเขาเจ็บขนาดนั้น เขาจะยอมกลับมาเหรอวะ?"
"...”
PART NILIN
รุ่งเช้า
"เป็นไงบ้างยัยลิน สบายเลยละสิได้เป็นพริตตีค่ายยักษ์ใหญ่รถยนต์” พลอยใสเอ่ยถามฉันทันที ที่ฉันมาถึงที่คอนโดของมัน
"สบายกับผีอะไรล่ะ ฉันล่ะอยากฉีกสัญญาบ้า ๆ นี้ทิ้งจริง ๆ" ฉันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนที่ฉันจะทำสีหน้าทุกข์ใจ
"อ้าว เกิดอะไรขึ้น" พลอยใสเอ่ยถามฉันทันทีด้วยความตกใจที่ฉันเอ่ยออกมาเช่นนี้ จากนั้นฉันก็เล่าให้พลอยใสฟังเรื่องราวทั้งหมดที่ฉันไปเจอมาที่ RM CAR
"เอาน่า แกก็พยายามอยู่ห่าง ๆ จากคุณโรมก็แล้วกัน"
"ฉันยิ่งออกห่างเขามากเท่าไร...เขายิ่งเข้าใกล้ฉันมากเท่านั้น"
"แล้วแกยังรักคุณโรมอยู่หรือเปล่าล่ะลิน"
"ฉันไม่รู้" ฉันตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ฉันคิดยังไงกับเขา ยิ่งเขาเข้าใกล้ฉันมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น
"เฮ้อ! นิลินเอ๊ย…แกรู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าแกยังรักเขาอยู่” พลอยใสเอามือลูบหัวฉันเบา ๆ จากนั้นฉันก็นอนเกลือกกลิ้งที่คอนโดพลอยใสจนกระทั่งถึงตอนเย็น ฉันก็ขับรถกลับคอนโดของฉัน
@ คอนโดหรู
ตึ่ง เสียงลิฟต์เปิดออกชั้นที่สิบห้า
ฉันก้าวขาออกจากลิฟต์พร้อมกับผู้ชายรูปร่างสูงสมาร์ตที่สวมเสื้อยืดสีดำและใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ฉันเห็นเขาแวบเดียว ฉันก็รู้แล้วว่าเขานั้นหล่อมาก ถึงจะมีแมสก์ปิดบังความหล่อของเขาก็เถอะ จากนั้นเขาก็เดินไปกดรหัสผ่านที่ประตูห้องตรงกันข้ามกับฉัน เขาคงมาอยู่ใหม่สินะ ฉันคิดในใจแค่นั้น จากนั้นฉันก็หันไปกดรหัสผ่านประตูห้องของฉันเช่นกัน
“อื้อ” ฉันตกใจอย่างแรง เมื่อผู้ชายห้องตรงข้ามเอามือปิดปากของฉันและโอบกอดร่างบางของฉันจากทางด้านหลัง จากนั้นเขาอุ้มฉันเข้าไปในห้องของฉันและผลักประตูปิดอย่างแรง
“จะดิ้นทำไมล่ะลิน” เขาเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อฉันดีดดิ้นไม่หยุด จากนั้นเขาก็อุ้มฉันเดินเข้าไปในห้องนอน
“คุณโรม!” ฉันร้องเสียงดังเรียกชื่อเขา
“อืม…ฉันเอง” เขาตอบรับหน้าตาเฉย
“คุณออกไปจากห้องฉันเลยนะ” เมื่อเขาปล่อยฉันเป็นอิสระ ฉันเอ่ยเสียงดังลั่นและชี้หน้าเขาทันที
“ไม่ออก อ่าห์ ที่นอนนุ่มมากแถมยังมีกลิ่นหอมจากตัวของเธอติดอยู่บนที่นอนด้วย” เขาไม่สนใจในสิ่งที่ฉันพูด แต่เขากลับโน้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มของฉันแทน พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมบนที่นอนนุ่มของฉันอยู่แบบนั้นเหมือนโรคจิต
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันเอ่ยบอกเขาเสียงดัง
“...” เขาไม่ได้เอ่ยตอบโต้ฉัน แต่เขากลับมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ ฉันไม่ชอบเลยสักนิดที่เขามองฉันด้วยสายตามีเยื่อใยแบบนี้
“กลัวหวั่นไหวหรือไง ถึงไม่กล้ามองหน้าฉัน” เขาเอ่ยถามฉันทันที เมื่อเขาเห็นฉันหันหน้าหนีไปทางอื่น
“ฉันไม่มีทางโง่เป็นครั้งที่สองหรอกนะ ลุกขึ้นจากที่นอนฉันเดี๋ยวนี้” ฉันฉุดกระชากข้อมือหนาให้ลุกขึ้น แต่เขากลับขืนตัวไว้และดึงข้อมือของฉันอย่างแรง จนฉันเสียหลักล้มทับลงบนร่างแกร่งของเขา
“ว้าย...ปล่อยเลย” ฉันดีดดิ้นสุดแรงบนตัวของเขาไปมา แต่ยิ่งดิ้นมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกอดรัดไว้แน่นมากเท่านั้น
“หึ ๆ” เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขาเป็นอะไรของเขาอีกล่ะเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาหน้าตาเฉย
“หัวเราะอะไรเล่า แล้วคุณย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรกัน” ฉันเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“เมื่อเช้า”
“แล้วทำไมคุณต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ คอนโดของคุณก็มี”
“เพราะเธอไง ฉันอยากอยู่ใกล้เธอ”
“...”
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมนิลิน?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนเบา ๆ
“ปล่อยได้แล้ว” ฉันพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น
“ขอกอดแบบนี้อีกห้านาที”
“ไม่เอา ปล่อยนะ”
“อยู่นิ่ง ๆ” เขาเอ่ยเสียงดุ และในเมื่อฉันทำอะไรเขาไม่ได้ ฉันจึงนอนนิ่ง ๆ ให้เขากอดอยู่แบบนั้น
“หมดเวลาแล้ว” ฉันเอ่ยบอกเขาทันที เมื่อบ่งบอกว่าถึงเวลาห้านาที
"อ่า! ได้กอดเธอแบบนี้แล้วมีแรงขึ้นเยอะเลย จุ๊บ จุ๊บ" เขาพรมจุมพิตหน้าผากของฉันซ้ำ ๆ
"..."
“หิวข้าว ทำอะไรให้กินหน่อย” เขาเอ่ยบอกฉันพร้อมส่งสายตาออดอ้อนมาให้ฉัน คนนิ่ง ๆ แบบเขาอ้อนคนอื่นเป็นด้วยเหรอ?
“คุณก็ไปกินที่ห้องคุณสิคะ“
“เธอจะทำอาหารให้ฉันกิน หรือเธอจะให้ฉันกินเธอแทน” เขาเอ่ยขู่ฉัน ทำไมเขาถึงชอบขู่ฉันอยู่เรื่อยเลย…
“ละ…แล้วคุณอยากกินอะไรล่ะคะ?” ฉันรีบถามเขาออกไปทันทีแบบร้อนรน เพราะฉันกลัวว่าเขาจะทำตามที่เขาพูดจริง ๆ
“อะไรก็ได้ ฉันกินได้หมดแหละที่เธอทำ”
“งั้น...ข้าวผัดกุ้งดีไหม?” ฉันเอ่ยถามเขา เพราะฉันรู้ว่าเขาแพ้กุ้ง
“เธอลืมเหรอนิลิน ว่าฉันแพ้กุ้ง” เขาเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ฉันไม่อยากจำมากกว่า”
“...” เมื่อเขาเห็นว่าฉันเอ่ยออกมาเช่นนี้ เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา เขาเพียงแค่จ้องตาของฉันด้วยสายตาแปลก ๆ และกอดกระชับฉันไว้แน่นกว่าเดิม
“ปล่อยฉันได้แล้ว จะมากอดฉันไว้ทำไม ไหนคุณบอกว่าหิวข้าวไง”
“ฟอด! ฉันจะทำให้เธอใจอ่อนให้ได้” เมื่อเขาปล่อยฉันเป็นอิสระ จากนั้นฉันก็ลุกขึ้นเดินเข้าครัวทันที ส่วนเขาก็ลุกขึ้นเดินตามฉันเข้ามาในห้องครัวด้วย
“คุณไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเลย”
“ไม่เอา อยากดู” มีใครหน้ามึนแบบเขาอีกไหมล่ะเนี่ย?
“อยากให้เธอทำกับข้าวให้กินแบบนี้ทุกวัน” เขาเอ่ยพูดต่อ ส่วนสายตาของเขาก็มองฉันทำอาหารไปด้วย
“ออกไปรอที่โต๊ะอาหารเถอะ อยู่ตรงนี้เกะกะเปล่า ๆ”
“ฉันอยากดูเธอทำอาหาร”
“คุณโรม ฉันชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ”
“เออ ๆ ไปก็ได้ แค่นี้ไม่เห็นต้องดุเลย” เขาทำหน้าตาบูดบึ้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปรอที่โต๊ะอาหาร เขาอยากงอนก็งอนไปเถอะ ฉันไม่ง้อหรอกนะ แค่ทำอาหารให้กินก็ถือว่าฉันให้เขามากเกินไปแล้ว จากนั้นฉันก็หันไปทำข้าวผัดต่อ เมื่อทำเสร็จแล้วฉันก็ยกมาเสิร์ฟเขาที่โต๊ะอาหารทันที
"หืมม...หอมน่ากินมาก" เขาเอ่ยปากชมพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้ฉัน
"..." ฉันเผลอยิ้มบาง ๆ ตอบกลับเขาไป
"สวยมาก"
"อะไรสวยคะ" ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย
"รอยยิ้มของเธอไง สวยดี" เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ออกมา ก่อนที่เขาจะมองฉันอยู่แบบนั้นไม่วางตา
"กินข้าวได้แล้วค่ะ" ฉันเอ่ยบอกเขาด้วยอาการประหม่าที่เขาเอาแต่จ้องมองฉัน ฉันไม่ได้เขินอะไรเขาหรอกนะ เพียงแค่ฉันอยากให้เขารีบรับประทานข้าวก็แค่นั้น และเมื่อฉันเอ่ยบอกเขา จากนั้นเขาก็ก้มหน้าก้มตารับประทานข้าวผัดอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนฉันก็รับประทานแค่ผลไม้เพราะต้องควบคุมน้ำหนัก
“กินแค่นั้นจะไปอิ่มอะไร”
“พูดมาก” ฉันพูดเสียงงุมงำในลำคอเบา ๆ
“พูดว่าอะไรนะ ไหนลองพูดอีกทีซิ” เขาเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงดุ ๆ
“แล้วทำไมต้องดุเล่า”
“หึ!” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อเขาเห็นว่าฉันพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น...จากนั้นเขาก็ก้มหน้ารับประทานข้าวต่อ…
“อ่า! อิ่มมาก” เขายกแก้วน้ำขึ้นดื่ม จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนของฉัน
“คุณจะไปไหน” เมื่อฉันเห็นเขาเดินตรงไปที่ห้องนอนของฉัน ฉันก็รีบจับดึงข้อมือของเขาไว้ทันที
“ไปนอน”
“คุณก็ไปห้องของคุณสิ คุณจะเดินเข้าห้องนอนของฉันทำไม”
“ฉันจะนอนที่นี่กับเธอ”
“แล้วทำไมคุณต้องมานอนกับฉันด้วย” ฉันถามด้วยความไม่เข้าใจ โว้ย...ฉันจะบ้าตายกับเขาจริง ๆ ทำไมเขาถึงได้หน้ามึนขนาดนี้
“ฉันคิดถึงเธอ อยากกอด อยากหอม อยากอยู่ใกล้เธอ เหตุผลแค่นี้พอไหม?”