LOGINEp.2 วีนัส ไทเพนต์เซอร์
หญิงสาวใบหน้าสวยสะดุดตาออร่าเปล่งปลั่งเหมือนดั่งดวงดาราพรางพราวอยู่บนท้องนภาก็ไม่ปาน เธอนั้นงดงามราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เจ้าชายองค์ใดที่ผ่านเข้ามาพบเห็นเป็นต้องเบิกพระเนตรชะเง้อมองตาละห้อยๆราวกับต้องมนต์สะกด เธอคือ วีนัส ฟรายเดย์ ไทเพนต์เซอร์ ผู้หญิงที่รักในการทำขนมเบเกอรี่เป็นชีวิตจิตใจ ฟังดูเเล้วเป็นคนอ่อนโยน ทว่าต่างจากนิสัยที่เป็นอยู่ เธอมีความมั่นใจในตัวเองสูง สวย เก่ง เเสบ ซ่า สู้มาสู้กลับไม่โกง เเละที่สำคัญไม่เคยยอมใครหน้าไหน โดยเฉพาะเขาคนนั้น หญิงสาวมองดูตัวเองผ่านกระจกหรูภายในห้องนอนด้วยใบหน้าที่ยิ้มเเย้มอย่างมีความสุข เพราะว่าวันนี้เธออายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ เเละงานวันเกิดของเธอปีนี้ก็ได้ชุดที่มารดาซื้อให้มาใส่ในงาน ชุดของเธอเป็นชุดเกาะอกสีฟ้านวลยาวถึงหัวเข่า มีส่ายเดี่ยวเส้นเล็กๆสองข้างเกาะที่ไหล่มนอันขาวผ่องช่วยเพิ่มความน่ารักเซ็กซี่ขยี้ใจ เเละก็มีโบว์อันใหญ่สีขาวนวลของชุดอยู่กลางหน้าอกเพื่อเพิ่มให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น ก่อนจะเดินลงเข้าไปในงานของตัวเองเธอก็ไม่ลืมฉีกยิ้มให้กระจกจนเห็นฟันเรียงรายกันสวยงาม เจ้าของวันเกิดเดินเข้ามาในสวนขนาดกว้างข้างบ้านซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดให้เธอ ในงานถูกประดับประดาไปด้วยเเสงไฟหลากหลายสี "น้าวีจ๋วย~" น้องไอริสวัยหนึ่งขวบกว่าๆรีบเดินเตาะเเตะเข้ามาหาป้าวีนัสสุดที่รักของเธอพร้อมกับคำชมที่ทำให้คนเป็นป้ายิ้มหวานออกมาด้วยความนึกเอ็นดูหลานสาวคนโปรด "ปากหวานจังเลยหลานรักของน้าวี" เมื่อน้องไอริสเดินมาถึงวีนัสก็นั่งให้เสมอส่วนสูงของหลานเเล้วก็โอบกอดหลานไว้ในอ้อมเเขน เธอหอมเเก้มของน้องไอริสจนเด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะเพราะรู้สึกจั๊กจี้ ทุกคนในงานมองดูภาพป้าหลานรักกันอย่างนึกเอ็นดู "วันนี้น้องไอริสก็สวยเหมือนกันค่ะ สวยเหมือนนางฟ้าเลย" "คริๆ~" พอโดนน้าวีนัสชมเข้าหน่อย น้องไอริสก็หัวเราะชอบอกชอบใจ จากนั้นน้องไอริสก็เรียกหาคนเป็นพ่อ วีนัสจึงปล่อยหลานสาวให้เดินเตาะเเตะไปหาพี่ชายของเธอที่นั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขา ออซซี่จึงอ้าเเขนพร้อมรับลูกสาวตัวน้อย เเละไม่ทันที่วีนัสจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ยาวข้างๆเพื่อนรักอย่างเดซี่ เสียงหวานฉ่ำราวกับน้ำผึ้งของเด็กผู้ชายก็เรียกความสนใจให้เธอหันกลับไปมองด้านหลังทันที "คืนนี้อาวีสวยจังเลยค้าบ~" น้องสกายลูกชายของสก๊อตกับทานตะวันวัยหกขวบเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ากรุ่มกริ่มราวกับกำลังจีบสาวก็ไม่ปาน "งุ้ยย~ ขอบคุณครับน้องสกายสุดหล่อ" วีนัสถึงกับหยิกเเก้มนุ่มๆอย่างนึกเอ็นดูพ่อหนุ่มน้อยปากหวาน "ฉายเเววเจ้าชู้ตั้งเเต่ยังเด็กเลยลูกกู" สก๊อตมองดูลูกชายของตัวเองกำลังหยอดคำหวานใส่สาวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ "ได้เลือดพ่อมันมาเต็มๆ" ฟินน์คนพูดน้อยกล่าว ทว่าก็นึกเอ็นดูหลานชายไม่น้อยที่พยายามสันหาคำมาจีบหญิง "ปี้กายขา~" ฟินน์รีบละสายตาจากสก๊อตทันที เเล้วหันมามองยังเจ้าของเสียงใสวัยสองขวบ ซึ่งก็คือเจ้าหญิงองค์น้อยสุดที่รักของเขาที่ตอนนี้กำลังเดินมาหาหลานชายด้วยท่าทางดีอกดีใจ "ส่วนลูกมึงก็ติดผู้ชายตั้งเเต่ตัวยังกะเปี๊ยก" สก๊อตละอดเเซวเพื่อนรักกลับไม่ได้ ดูเอาเองเถิดว่าลูกสาวของมัน ซึ่งก็เปรียบเสมือนหลานสาวคนหนึ่งของเขา ตอนนี้เหมือนเจ้าตัวกำลังตามจีบลูกชายคนโตของเขาอยู่ "เเล้วน้องเฟรจ๋วยไหมคะ?" เด็กหญิงในชุดกระโปรงสีหวานเอ่ยถามคนพี่ที่ตัวเองเเอบรักด้วยรอยยิ้มสดใส "ไม่!" สกายไม่คิดเเม้เเต่จะถนอมคนพูด เขาตอบกลับคนเป็นน้องด้วยสีหน้ากับน้ำเสียงที่โคตรจะเย็นชา จนทำให้ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองคล้ายๆจะร้องไห้ ผู้ใหญ่ที่ได้ยินต่างก็ทำสีหน้าเจื่อนๆไปตามกัน ส่วนคนเป็นพ่อเป็นเเม่ของน้องเฟรย่าก็เป็นห่วงความรู้สึกของลูกสาวไม่น้อย "กาย!! ไปพูดกับน้องเเบบนั้นได้ไงครับลูก!" ทานตะวันรีบเดินมาสอนลูกชายปากไม่ดี เธอรู้สึกสงสารหลานสาวที่โดนปฏิเสธอย่างเลือดเย็น "พี่กายเเค่เเกล้งน้องเฟรเล่นเฉยๆค่ะ จริงๆเเล้วพี่กายบอกป้าว่า วันนี้น้องเฟรสวยเหมือนเจ้าหญิงดิสนีย์เลยค่ะ" ทานตะวันเเต่งเรื่องขึ้นมาเพราะเพียงอยากเห็นรอยยิ้มน่ารักของหลานสาวอีกครั้ง เธอไม่อยากให้น้องเฟรย่าต้องทำหน้าเศร้าเพราะคำพูดที่ไม่รู้จักคิดของลูกชายเธอ "มี้!!" สกายกดเสียงต่ำไม่ค่อยพอใจทันทีเมื่อมารดาพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดที่จะเอ่ยมันออกมาด้วยซ้ำ สำหรับเขาเเล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารำคาญมากกว่าจะเอ็นดู "จริงหยอคะ!!?" น้องเฟรย่าจากที่ก้มหน้าด้วยความเสียใจก็รีบเงยใบหน้าอย่างดีใจขึ้นมา "จริงสิจ๊ะ" "วันนี้ปี้กายของน้องเฟรก็หย่อเหมือนกังค่ะ หย่อเหมืองจ้าวชายเยย~" น้องเฟรย่าดึงกระโปรงด้วยความเขินอายทั้งที่ตัวเองเป็นคนเอ่ยชมคนพี่เเท้ๆ สกายได้เเต่มองบนด้วยความเบื่อหน่าย เขาได้เเต่หวังว่าให้ยัยเด็กนี่จะเลิกยุ่งกับเขาสักที สตาร์จอมเจ้าเล่ห์ขยับเขยื้อนเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ๆกับเเฝดคนพี่เเล้วกระซิบกระซาบข้างๆใบหูเบาๆเชิงเเซวกวนประสาท "ว่าที่เจ้าสาวในอนาคต!!" "ถ้าปากว่างนัก ก็เอาอะไรอุดมันไว้ซะ จะได้ไม่ต้องพล่าม!" คำด่าทอไม่ได้มีผลต่อน้องชายเเต่อย่างใด "ขอบคุณที่เเจ้งให้ทราบนะครับเฮีย" สตาร์ทำเป็นพูดเรียกพี่ชายว่าเฮีย ทั้งที่จริงเรียกว่ามึง เขาทำหน้าทำตาใส่พี่ชายฝาเเฝดอย่างกวนส้นเท้า "งั้นขอตัวไปหาอะไรเเดกอุดปากไว้ก่อนนะคร๊าบ~" จากนั้นไอ้น้องชายกวนส้นเท้าก็ปลีกตัวไปหาบาบีคิวที่เเม่บ้านกำลังช่วยกันย่าง พร้อมไปนั่งกินกับฟินน์นี่ลูกชายคนโตของฟินน์กับเเสงเหนือ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก คุณวินดี้ก็เป่าประกาศเพื่อให้ทุกคนได้ทราบ ทำให้ทุกคนหันมาสนใจเสียงของนายหญิงเเห่งตระกูลไทเพนต์เซอร์ "จะถึงเวลาเป่าเค้กของเจ้าของวันเกิดเเล้วนะคะทุกคน" "เอ่อ วินดี้เดี๋ยวรออีกสักครู่ก่อนได้ไหม เจ้าลูกชายของฉันกำลังมาถึง" คุณโรสรีบเอ่ยขึ้นทันที เเต่ก็รู้สึกเกรงใจเจ้าของงานวันเกิดเเละคนอื่นๆไม่น้อย นี่ก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าเเล้ว ทำไมเจ้าลูกชายตัวเเสบของเธอยังไม่โผล่หัวมาสักที เธอว่าเธอพูดรู้เรื่องเเล้วนะ จะผิดสัญญากับเธองั้นหรอ! คอยดูเถอะ เธอคงต้องจับไอ้ลูกชายมาอบรมมารยาทการอยู่ในสังคมซะใหม่ "จริงสิ เกือบลืมคนสำคัญไปเลย" คุณวินดี้มีสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย นี่เธอลืมคนสำคัญอีกคนหนึ่งของงานได้ยังไงกัน คืนนี้ถ้าไม่มีเขาในงาน เธอคงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตที่ไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญาเอาไว้ได้ "ป่านนี้มันคงจะกระเเทกหญิงอยู่บนเตียง" คลาร์กหันไปพูดเบาๆกับสก๊อต ฟินน์ เเละก็ออซซี่ที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน บรืนๆๆ~ พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้คนที่ทำให้คนอื่นต้องมารอก็บรืนรถมาจอดที่หน้าคฤหาสน์ เเละไม่นาน เจ้าตัวก็เดินหน้าสลอนๆเข้ามาในงาน "นั่นไงมัน ตายยากตายเย็นจริงๆ" คลาร์กพยักพเยิดหน้าให้เพื่อนๆหันไปมองไอ้คนหน้ามึน "นั่นไง เจ้าลูกชายสุดที่รักมาพอดีเลย" คุณโรสยิ้มเเห้งๆให้ทุกคน ทว่าภายในใจอยากจะจับไอ้ลูกชายตัวเเสบของตัวเองมาอบรมสั่งสอนสักสามวันสามคืน "ไง? ที่มาช้าเพราะมัวเเต่สะบัดเอวอย่างเมามันส์ล่ะสิท่า" เมื่อคอลินเดินมาทางเพื่อนๆที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน ก็โดนเพื่อนเเซวทันที "ไม่ต้องเสือกเรื่องของกู" คอลินตอบกลับหน้าตาย จากนั้นก็ตวัดสายตาคมคู่สวยหันไปมองยังเจ้าของวันเกิดตั้งเเต่หัวจรดเท้า อืม~ คืนนี้ยัยตัวเเสบถือว่าสวยหวานมากจนไม่อยากจะละสายตา ทว่าสายตาคู่สวยของเธอนั้นกลับกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลารอ คอลินจึงกระตุกยิ้มร้ายที่มุมปากอย่างมีความสุข ที่ทำให้เจ้าของวันเกิดโมโหได้ขนาดนี้ มีความสุขเว้ย! วีนัสทนไม่ไหวก็เลยเดินมาหาคนมาสายหน้ามึนอย่างไม่นึกเกรงกลัว ใบหน้าสวยสะดุด สายตาคู่สวยสะกดจ้องมองชายตรงหน้าพร้อมเอ่ยกล่าว "ทีหลังถ้าจะมาช้าขนาดนี้ ก็ไม่ต้องมา" "คิดว่าฉันอยากมาหรือไง? ไม่ได้สำคัญ" คำพูดเเทงใจดำยิ่งทำเจ้าของงานวันเกิดโมโหจนหน้าดำหน้าเเดง ทำให้คอลินเเสยะยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างชอบอกชอบใจ อีกคนกำลังโมโหเลือดขึ้นหน้า ส่วนอีกคนก็ยิ้มอย่างมีความสุขพลางเผลอสูดดมกลิ่นกายอันหอมหวานเข้าไปอย่างห้ามใจตัวเองไม่อยู่ คนเป็นพ่อเป็นเเม่ของชายหนุ่มกับหญิงสาวหันมามองหน้ากันอย่างหนักใจโดยอัตโนมัติ หลังจากนี้ชีวิตลูกๆทั้งสองของพวกเขาจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป คนเป็นพ่อเป็นเเม่ก็ได้เเต่ภาวนาอวยพรให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนถึงตลอดรอดฝั่ง...Ep.Special 5 Shane & Angel 2/2"ตอนนี้ยังไม่ต้อง ข้ามขั้นตอนนั้นไปก่อน ฉันจะพาเธอเข้าหอก่อนค่อยเเต่ง" ถ้ามัวเเต่รอฤกษ์รอยามเเต่งงานกัน ผมได้ลงเเดงตายก่อนพอดี ผมจึงรีบอุ้มเธอขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวอย่างเร่งรีบเเล้วพาเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอนส่วนตัวของผมทันที ผมจะพาว่าที่เมียเข้าหอเเม่งเเต่เช้าตรู่นี่เเหละ ใครมันจะทำไม"เข้าหอคืออะไรคะ?" ระหว่างที่ผมเดินอุ้มว่าที่เมียไปยังตัวบ้าน เธอก็เอ่ยถามผมด้วยหน้าตาท่าทางที่สงสัย คงไม่รู้สินะว่ามนุษย์เขาเข้าหอกันยังไง เเต่รู้อะไรไหมครับ ไอ้ท่าทางเเละสีหน้าไร้เดียงสาเเบบนั้นของเธอตอนถามผมมันเป็นเชื้อเพลิงปลุกปั่นไอ้มังกรยักษ์ของผมได้เป็นอย่างดี นี้ถ้าไม่กลัวเธออายชาวบ้านนะ ผมจะจับเธอทำเมียเเม่งตรงพื้นดินนี้เลย"เข้าหอก็คือ เธอจะได้เป็นเมียของฉัน เเละฉันก็จะได้เป็นผัวของเธอ" ผมตอบคำถามเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เเหบพร่าราวกับขาดน้ำมาเป็นศตวรรษ ไอ้เวรเอ๋ย ทำไมเดินไม่ถึงเรือนหอสักทีวะ รู้สึกว่ามันอยู่ไกลเกินไปหรือผมใจร้อนอยากจับเธอทำเมียเกินไปก็ไม่รู้ ช่างเเม่งสิวะ จากนั้นผมก็รีบอุ้มว่าที่เมียวิ่งจะได้ถึงเตียงสวาทเร็วๆ"งั้นเข้าหอเลยค่ะ นางฟ้าอยากเป็นเมียของพี่
Ep.Special 5 Shane & Angel 1/2"เเม่ง! นายกับไอ้ลีทิ้งกูไปมีลูกมีเมียกันหมดเลย ปล่อยให้กูเเม่งนั่งเหงาอยู่คนเดียวไม่มีใครให้ซบตักเลยสักคน" ผมนั่งบ่นพึมพำโยนก้อนหินลงน้ำด้วยความน้อยอกน้อยใจในโชคชะตาอยู่ตรงท่าน้ำคนเดียวเเม่งโคตรเปล่าเปลี่ยวหัวใจตอนนี้ผมกลับมาที่บ้านเกิดซึ่งอยู่ต่างจังหวัด เพราะอะไรนะเหรอที่ผมต้องกลับมาอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ก็เพราะนายกับไอ้ลีพากันหนีไปมีเมียมีลูกกันหมดทิ้งผมให้ต้องอยู่เพียงลำพังนายบอกให้ผมกลับไปหาพ่อหาเเม่หาคนที่ผมรัก เพราะนายจะพาเมียพาลูกไปเที่ยวต่างประเทศประมาณหนึ่งสัปดาห์ นายเลยบอกว่างานไม่ต้องทำ นายอยากให้ผมกับไอ้ลีได้พักผ่อนบ้างซึ่งมันก็ดีอ่ะนะ เเต่ผมเหงาไง เเทนที่ไอ้ลีมันจะมาอยู่เป็นเพื่อนผม เเต่มันกลับเห็นเมียดีกว่าผม มันเลยหนีตามเมียมันไปต่างจังหวัด เเม่งไอ้เวรลี! ดูดนมจนลืมเพื่อน คิดว่ากูไม่รู้หรือไงวะ"ทำไมวะ ทำไมคนเขียนถึงใจร้ายกับกูฉิบหาย เเม่งเขียนให้กูไม่มีเมียอยู่คนเดียว เเบบนี้มันไม่ยุติธรรมนี่หว่า" เอาจริงๆ ผมเเม่งโคตรน้อยใจคนเขียนบทให้ชีวิตผมต้องเป็นเเบบนี้ มันทรมานมากรู้ไหม การที่ไม่มีใครเลยสักคนให้เราได้พูดคุยเเชร์เรื่องราวต่างๆด้ว
Ep.Special 4 Leo & Prickkang 1/2สามปีต่อมา"ป๊าค้าบ วายอยากกิงลูกอมค้าบ~" น้องลีวายวัยสามขวบลูกชายสุดที่รักของปะป๊าลีโอกับมะม๊าพริกเเกงน้องลีวายวิ่งดุ๊กดิ๊กๆมาหาคนเป็นพ่อออดอ้วนด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเเบมือขอปะป๊ากินลูกอมรสหวาน"ลูกอมมันไม่ดีนะครับลูก มันจะทำให้ฟันวายผุ ถ้าฟันวายผุ วายก็จะปวดฟัน กินข้าวก็ลำบากนะครับ" ลีโออุ้มตัวลูกชายตัวน้อยขึ้นมานั่งบนตักเเกร่งก้มใบหน้าลงหอมกระหม่อมลูกน้อยอย่างรักใคร่ จากนั้นเล่าบอกถึงข้อเสียของลูกอมให้ลูกชายในอ้อมอกได้ฟัง"จริงหยอค้าบม๊า?" น้องลีวายตกใจเล็กน้อยที่ลูกอมรสหวานซึ่งเป็นของที่โปรดปรานสามารถทำให้ฟันผุเเละทำให้ปวดฟันได้ เด็กชายตัวน้อยไร้เดียงสาจึงรีบเอ่ยถามมารดาที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อความเเน่ใจว่าบิดาไม่ได้พูดโกหก"จริงสิค่ะลูก ม๊าว่าวายกินขนมอย่างอื่นดีกว่าเนอะ เดี๋ยวม๊าไปเอาคัพเค้กที่ม๊าทำให้วายกินดีไหมคะ?" พริกเเกงยกมือบางลูบศีรษะน้อยๆของลูกชายเบาๆ"ก็ได้ค้าบ~" น้องลีวายพยักหน้ายิ้มจนตาหยีน่าเอ็นดูตอบตกลงมารดา ลีโอกับพริกเเกงจึงก้มใบหน้ามาเสมอเเก้มป่องของลูกเเล้วกดหอมเเก้มลูกน้อยคนละข้างด้วยความรัก จากนั้นพริกเเกงก็ลุกจากโซฟาเพื่อไปเอ
Ep.Special 4 Leo & Prickkang 1/2หมั่บ!"ที่รัก เฮียไม่อยากให้พริกทำงานเลย" เเขนเเกร่งสวมกอดเอวบางจากทางด้านหลัง ปลายคางคมวางไว้บนลาดไหล่มนเบาๆ น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยกระซิบใกล้ๆเปลี่ยนเป็นเสียงสองราวกับเเมวเหมียวที่ต้องการจะออดอ้อนเจ้านายของมันในขณะที่ฉันกำลังตั้งอกตั้งใจทำขนมคัพเค้กสูตรของพี่วีที่ได้ร่ำเรียนมา"เฮียลีคะ พริกไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยนะคะ พริกเเค่ทำขนมเองนะ ไม่ได้ทำนา" มือบางบีบครีมสีหวานตกเเต่งหน้าตาคัพเค้กให้ดูน่ารับประทานพลางพูดคุยกับเฮียลีขี้หวงไปด้วย"ก็นั่นเเหละ เฮียเป็นห่วงพริกมากนะ เเละก็เป็นห่วงไอ้ต้าวของเราด้วย" ฉันเผยรอยยิ้มหวานออกมาเมื่อพ่อของลูกว่าเเบบนั้น จึงวางทุกอย่างที่ถือเอาไว้ลงบนเคาน์เตอร์ครัว เเล้วค่อยหันมาเผชิญกับเฮียลีพร้อมกับยกวงเเขนเรียวขึ้นคล้องรอบๆลำคอหนา"เอาเป็นว่าถ้าท้องโตกว่านี้พริกจะพักอยู่บ้านให้เฮียทำงานหนักคนเดียวเลย" อยากดูเเลฉันกับลูกนักงั้นก็ทำงานหาเงินคนเดียวเเล้วกันนะคะเฮียลี ฉันพูดเล่นๆขำๆกับสามี"ดีมากครับ เฮียยอมทำงานหนักๆเพื่อพริกกับลูกของเรา" ฉันเเค่พูดเล่นๆเองนะ เเต่เฮียกลับพูดจริงจังจนฉันต้องยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู"ปะป๊าของเจ้าตั
Ep.Special 3 Destiny Of Us "The End" 2/2"ชีวิตหลังจากเเต่งงานเป็นยังไงบ้างล่ะ?" ทว่าทันใดนั้นเองเสียงของหญิงชราคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้คอลินเเละวีนัสหันหลังไปมองก็เห็นหญิงชราคนนั้นกำลังถือไม้เท้ายันกับพื้นมองมาที่ทั้งคู่"เอ่อ คุณยายถามพวกเราสองคนหรอคะ?" วีนัสเลิกคิ้วถามหญิงชราตรงหน้าด้วยความสงสัย"ยืนอยู่กันเเค่นี้ให้ข้าไปถามใครล่ะ" เสียงที่เเหบเเห้งของหญิงชราตอบกลับมา"พวกเอ็งทำถูกเเล้วที่เเต่งงานกันตามสัญญาที่ปู่ของพวกเอ็งได้ทำไว้""ยายรู้ได้ยังไงครับ ว่าเราสองคนเเต่งงานกันตามสัญญาของคุณปู่" คอลินกับวีนัสถึงกับตกใจหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าคุณยายคนนี้รู้เรื่องสัญญาระหว่างตระกูลของเขาเเละเมียรักได้ยังไง"ข้ารู้ทุกอย่างนั่นเเหละ" จากนั้นหญิงชราก็เริ่มเล่าถึงเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองต้องมาเเต่งงานกันย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนมีคนรู้จักเเนะนำมาเฟียใหญ่ทั้งสองให้ลองมาดูดวงในที่เเห่งนี้ เพราะเเม่หมอคนนี้ดูเเม่นมากๆราวกับรู้ถึงอนาคตของมนุษย์โลก จึงทำให้มีคิวเเถวยาวเหยียดเพื่อมารอดูดวงกันเยอะมากๆ เเละพอถึงคิวของมาเฟียใหญ่เพื่อนรัก คาร์ลอสกับเอเธอร์จึงพากันเข้าไปข้างในเต็นท์ซ
Ep.Special 3 Destiny Of Us "The End" 1/2 @คฤหาสน์รอซเซ่ เช้าวันเสาร์เเสนสดใสไม่ต้องขยี้ตาตื่นขึ้นมาเเต่เช้าเพื่อเเต่งตัวไปโรงเรียน วันนี้เป็นวันที่สองตระกูลใหญ่พาลูกๆมาเล่นด้วยกันณ คฤหาสน์รอซเซ่ ส่วนคนเป็นพ่อเป็นเเม่นั่งพูดคุยเเชร์ประสบการณ์ต่างๆด้วยกันพลางมองดูลูกๆของตัวเองเล่นกันอย่างมีความสุข "ปี้ไอซ์คะ ตุ๊กตาตัวนี้กองควีนน่ายักไหมคะ?" บนโซฟาสีเทากว้างขนาดใหญ่ น้องควีนนี่ลูกสาวสุดที่รักของเเด๊ดดี๊คอลินกับหม่ามี๊วีนัสยกตุ๊กตาตัวโปรดให้พี่สาวของเธอได้ดูพร้อมกับตั้งคำถาม "น่ารักเหมือนน้องควีนเลย เเละพี่ก็ชอบชุดเดรซตัวนี้มากด้วย" น้องไอริสลูกสาวคนโตของเเด๊ดดี๊ออซซี่กับหม่ามี๊เดซี่ตอบกลับน้องสาวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ชุดกระโปรงฟูฟ่องสีชมพูสดใสของตุ๊กตาตัวนั้นว่าเธอชอบส่วนนี้ของตุ๊กตามากๆ "ถ้าปี้ไอซ์ใส่ต้องฉวยมากเเน่ๆเยยค่ะ" "เเต่พี่ใส่ไม่ได้นะสิ" น้องไอริสพูดติดตลกเเล้วก็ยกมือขึ้นปิดปากขำในคำพูดของตัวเอง "คิกๆ/ คิกๆ" สองสาวงามดุจเจ้าหญิงในเทพนิยายนั่งเล่นด้วยกันเเละหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข ตัดภาพมาที่หนุ่มน้อยสองคนที่มีหน้าตาหล่อเหลาราวกับฟ้าประทานมาให้กำลังนั่งคุยกัน







