Ep.6 ปากบวม
"หึๆ รีบๆไปให้หมอดูน้า เกิดสูญพันธุ์ขึ้นมาน่าอายหมอไม่รับทำศัลยกรรมไอ้หนูน้อยนะจะบอกให้~" ว่าที่เมียยืนกอดอกหัวเราะเยาะว่าที่ผัวที่คุกเข่าลงกับพื้นกุมของรักของตัวเองเอาไว้อย่างห่วงเเหน ใบหน้าหล่อเหยเกเเสดงถึงความเจ็บปวด ทว่ามองมาที่เธออย่างคาดโทษ เพราะคำพูดของเธอดูถูกดูเเคลนไอ้อนาคอนด้ายักษ์ของเขาเกินไปเเล้วนะ พูดมาได้ยังไง 'ไอ้หนูน้อย' เดี๋ยวสักวันจะเจอมันพ่นพิษร้ายใส่ เเล้วจะพูดไม่ออก "หวังว่าจะเดินไปเองได้นะว่าที่ผัว หึๆ ไปก่อนล่ะ บ๊าย" ว่าที่เมียโบกไม้โบกมือลาเเล้วเดินจากไปอย่างผู้ที่ได้รับชัยชนะ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า มาหลังดังกว่า ฮ่าๆๆ "ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวเเสบ! โอ้ย! เจ็บฉิบ!!" มาเฟียหนุ่มร้องออกมาด้วยความระบมจุดกลางกาย เท้าของยัยตัวเเสบนี่หนักใช้ได้! ไม่รู้ว่าตอนนี้อนาคอนด้ายักษ์ของเขายังอยู่ดีหรือเปล่า "เนี่ยกูต้องเเต่งงานกับยัยตัวเเสบจริงๆหรอวะเนี่ย!!! โถ~ ปู่ไม่น่าทำปาบผมขนาดนี้เลย ให้ผมไปเเต่งงานกับชะนียังจะดีกว่า" จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ค่อยๆลุกกายขึ้นมาอย่างช้าๆกลัวว่าลูกชายสุดที่รักจะเจ็บอีก ยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวตัวเองจะสูญพันธุ์เหมือนที่ยัยตัวเเสบว่า สายตาคมมองตามเเผ่นหลังบางที่อยู่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เเละเมื่อความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้น "หึ ปากหวานวะ!" อารมณ์หงุดหงิดเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีอย่างน่าประหลาด เมื่อนึกถึงจุมพิตอันดุเดือดเผ็ดมันส์ระหว่างเธอเเละเขา มือข้างขวาสัมผัสที่ริมฝีปากได้รูปของตัวเอง เเล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว "อะเเฮ่ม!" คนที่กำลังเคลิ้มอยู่กับรสจูบอันหอมหวานเป็นต้องหลุดออกจากภวังค์ เเล้วก็ทำสีหน้าให้กลับมาดูเรียบนิ่งเหมือนเดิม "พวกกูเห็นนะว่ามึงทำอะไร" คลาร์กกล่าวพร้อมปรากฏตัวเดินออกมากับพ้องเพื่อน "เรื่องของกู!" "จูบเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น ปากบวมพอดี" สก๊อตเเซวเเล้วก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก "มึงช่างกล้าทำเเบบนั้นกับน้องกูหรอฮะไอ้คอลิน! ไอ้เวร!" ออซซี่รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยที่เพื่อนตัวเองไม่เป็นสุภาพบุรุษกับน้องสาวของเขาเเม้เเต่น้อย มันน่าต่อยสั่งสอนสักหมัดสองหมัด "กูก็เเค่สั่งสอน เเค่นั้นเอง" "สั่งสอนบ้าอะไร กูเห็นจูบเอาจูบเอา นี่ถามจริงเถอะ ที่จริงเเล้วมึงชอบวีนัสใช่ไหมล่ะ?" คลาร์กเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ "ใครจะไปชอบผู้หญิงเเบบนั้นลง ผู้หญิงอะไรเหมือนม้าดีดกะโหลก" ยัยตัวเเสบไม่ใช่สเปกเขาเลยสักนิด "พวกมึงคอยดูนะ กูจะปราบพยศยัยตัวเเสบให้พวกมึงดู" ผู้หญิงเเสบๆเเบบนี้ต้องเจอผู้ชายเจ้าเล่ห์อย่างเขาถึงจะเหมาะสมกัน "กูยังยืนอยู่ตรงนี้นะเว้ย" ออซซี่กดเสียงต่ำ เเต่ก็ไม่ได้ทำให้คอลินเกรงกลัว "เเต่กูว่ามึงไปให้หมอดูไอ้ยักษ์ของมึงก่อนดีกว่าไหม เดี๋ยวมันไม่ขันนะมึง" คลาร์กรู้สึกสงสารไอ้ยักษ์ของเพื่อนไม่น้อย โดนบาทาไปซะขนาดนั้นคงปวดน่าดู ดีไม่ดีไม่กลับมาขันอีกเลยตลอดชีวิต "ไม่ต้องเสือก" "กูขอให้ไอ้นั่นของมันไม่ขันจริงๆ จะได้ลงเเดงตายห่าไปเลย สาธุ" คลาร์กพนมมือขึ้นสองข้าง สาธุขอให้เป็นไปตามที่ตัวเองได้สาปเเช่งเอาไว้ "เดินมาโน่นเเล้วค่ะ" เดซี่หันไปบอกทุกคนเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินมาตัวคนเดียวโดยปราศจากพี่ชายของเธอ "ไปตกลงอะไรกันนานจังลูก?" คุณซินดี้ถามลูกสาวด้วยความสงสัย "ก็เรื่องเเต่งงานนั่นเเหละค่ะ" "เอ๊ะ!! หนูวี!" คุณโรสอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นความผิดปกติของว่าที่ลูกสะใภ้จึงนึกเป็นห่วงขึ้นมา "คะ? มีอะไรเปื้อนหน้าวีงั้นหรอคะ?" เห็นคุณโรสมองหน้าเธอเเปลกๆ ต้องมีอะไรเเน่ๆ เธอก็เริ่มรู้สึกกลัวเข้าเเล้วสิ มือบางรีบยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของตัวเอง "ปะ เปล่าจ๊ะ" จริงๆเเล้วไม่มีอะไรเปื้อนใบหน้า "เเต่...ปากของหนู..." "ปากของหนูเป็นอะไรคะ!?" วีนัสย้ายมือมาสัมผัสที่ปากของตัวเองทันที เเล้วก็ต้องหยุดชะงัก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เพราะเธอสัมผัสได้ว่ามัน... "ปากบวม" คุณโรสเฉลยข้อสงสัยให้ว่าที่ลูกสะใภ้ได้รู้ "!!!" วีนัสตัวเเข็งทื่อ พูดไม่ออก ยิ่งเเต่สายตาของทุกคนจับจ้องมองมาที่ปากของเธอ มันน่าอายที่สุดเลย เธอรู้ดีว่าทำไมปากของเธอถึงบวมขนาดนี้ เหมือนกับคนไปโดนผึ้งต่อยปากมาหยกๆ เพราะไอ้คนหน้ามึนนั่นคนเดียว เขามาจูบสั่งสอนปากของเธอตั้งหลายรอบ จูบดูดดื่มไม่หยุดพักหายใจ เเถมยังเป็นจูบที่รุนเเรงราวกับต้องการจะกินเธอทั้งตัว "หึๆ" เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างๆใบหู เดี๋ยวนะเขาเดินมายืนข้างๆเธอตั้งเเต่ตอนไหนกัน เธอล่ะเกลียดรอยยิ้มเเละเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์นั่นที่สุดในจักรวาลเลย "คะ คือไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะคะ!! คือว่าวี...วีเผลอกัดโดนริมฝีปากของตัวเองค่ะ มันก็เลยบวมเเบบนี้ไงค่ะ" วีนัสรีบหาข้ออ้างมาเเก้ต่างให้กับตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อทุกคนกำลังเข้าใจไปในทางเดียวกัน "เป็นเด็กเป็นเล็ก เเต่หัดโกหกผู้ใหญ่ เเบบนี้ไม่ดีนะครับเมีย" คอลินกระซิบเบาๆข้างๆใบหูว่าที่เมียด้วยน้ำเสียงที่ยียวนกวนส้นเท้า "หุบปากไปเลยนะ!" วีนัสพูดลอดไรฟันอย่างสุดจะอดทนกับคนไร้ยางอายเเบบเขา เพราะเขาคนเดียว เธอถึงต้องรู้สึกอับอายขายขี้หน้าคนอื่นเเบบนี้ จากนั้นไอ้คนเจ้าเล่ห์ก็เดินล้วงกระเป๋าไปยืนข้างๆคนเป็นพ่อด้วยท่าทางสบายใจ "ที่ปากหนูวีเป็นเเบบนี้ เพราะเเกใช่ไหม? นี่เเกรังเเกน้องใช่ไหม?" คุณเควินเค้นเอาคำตอบจากลูกชายอย่างคาดโทษ "ผมก็เเค่สั่งสอนเด็กดื้อสักหน่อยก็เท่านั้นเอง" "สั่งสอนบ้าอะไรของเเก อย่าเอาความป่าเถื่อนของเเกมาทำกับน้อง เข้าใจที่เเด๊ดสอนไหม?" "ผมไม่รับปาก" คอลินกระตุกยิ้มร้ายหลังจากที่พูดจบ เขาไม่มีความรู้สึกเกรงกลัวคำสอนของบิดาเเม้เเต่ปลายเล็บ "ไอ้ลูกคนนี้หนิ หน้ามึนฉิบหาย!" มึนยิ่งกว่าพ่อมันอีก "....." คอลินหยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านคำพูดของบิดา "ถ้าสมองเเกยังไม่เลอะเลือน เเกคงจำคำพูดของปู่ได้นะ ปู่ฝากให้เเกดูเเลน้องให้ดี ไม่ใช่ทำกับน้องเเบบนี้" คำเตือนของบิดาทำให้คอลินนึกถึงคำพูดทุกคำของคนเป็นปู่ที่ฝากฝังเอาไว้ในสัญญาว่าให้ดูเเลคนตัวเล็กให้ดีๆจนกว่าชีวิตจะหาไม่ "...ผมรู้เเล้วน่า" เขาไม่เคยลืมคำพูดของคุณปู่ของเขาเลยเเม้เเต่คำเดียว "อย่าทำให้ปู่ต้องผิดหวังในตัวเเกล่ะ" คุณเควินตบไหล่กว้างของลูกชายเบาๆ หวังว่าเจ้าลูกชายจะไม่ทำให้คุณปู่เเละเขาต้องผิดหวัง "โอเคทุกคน ขอบคุณทุกคนมากที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้กับสัญญาระหว่างตระกูลของเรา เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เดือนหน้าผมขอเรียนเชิญทุกคนมางานเเต่งลูกชายของผมกับหนูวีนัสด้วยนะครับ" คุณเควินไปยืนที่หัวโต๊ะเเล้วเป่าประกาศด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง ทุกคนก็ต่างรับคำเชิญเเละเเสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อกับเจ้าสาวสุดสวย ทว่าทั้งคู่กลับดูเหมือนไม่มีความสุขเลย เมื่องานเลี้ยงวันเกิดของวีนัสจบลง ทุกคนก็ต่างเเยกย้ายพากันกลับบ้านไปนอน "หม่ามี้คะ วีไม่อยากเเต่งงานเลย" วีนัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยนอนอยู่บนตักของมารดา "มี้เชื่อว่าลูกสาวของมี้จะมีความสุขกับชีวิตคู่เเน่นอนค่ะ" คุณวินดี้ลูบกลุ่มผมสลวยของลูกสาวขี้อ้อนเบาๆ ถัดไปไม่ไกลก็มีคุณเควินนั่งมองอยู่ ซึ่งตอนนี้บิดามารดาของคนตัวเล็กได้เข้ามาคุยกับลูกสาวในห้องนอนของเธอ "ไม่ค่ะ เพราะวีไม่ได้รักพี่คอลิน วีจะมีความสุขได้ยังไงคะ" เธอคิดภาพชีวิตคู่ที่ต้องอยู่ด้วยกันกับเขาคนนั้นไม่ออกเลย เเต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีความสุขเเน่นอน "หนูกับพี่คอลินเหมาะสมกันมากเลยนะ อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองค่ะลูก" เพราะหลายๆคู่บนโลกใบนี้ที่ถูกจับคลุมถุงชน สุดท้ายก็ลงเอยกันอย่างมีความสุข ก็มีตั้งหลายคู่ เธอเชื่อว่าสองคนนี้เกิดมาเพื่อคู่กัน ยังไงก็ไม่เเคล้วกันอยู่เเล้ว ไม่งั้นคุณปู่ของทั้งสองคงไม่ทำสัญญารักระหว่างสองตระกูลขึ้นมาหรอก "ฆ่ากันตายนะสิค่ะ" เธอกับเขาหรอจะรักกันได้ ได้ฆ่ากันตายซะมากกว่า เจอหน้ากันทีไรก็เป็นต้องหยุมหัวกันทุกที ไม่น่ารอดหรอกชีวิตคู่เอ๋ย "ไม่พูดอย่างนั้นสิลูก เเด๊ดเชื่อว่าคอลินจะดูเเลหนูได้เป็นอย่างดีเเน่นอน" "เเด๊ดดี๊~" วีนัสเรียกบิดาเสียงเศร้า "ถึงภายนอกจะดูเป็นคนน่ากล้ว เพราะเกิดมาเป็นมาเฟีย เเต่เเด๊ดเชื่อว่าสักวันคอลินจะต้องรักเเละหลงลูกสาวของเเด๊ดมากเเน่ๆ เพราะลูกสาวของเเด๊ดน่ารักขนาดนี้ ไม่รักไม่หลงก็ให้มันรู้ไป" ประโยคสุดท้ายคุณเควินพยายามพูดติดตลกเพื่อให้ลูกสาวไม่เครียดกับเรื่องนี้จนเกินไป "เเด๊ดดี๊" วีนัสสวมกอดผู้เป็นพ่อที่เดินมาหยุดตรงหน้าของเธอ "อีกไม่นานหนูก็จะเป็นเจ้าสาวเเล้วนะ อย่าดื้อ อย่าซนกับพี่เขาล่ะ" คุณเควินลูบศีรษะทุยของลูกสาวด้วยความอ่อนโยน จะว่าไป เขาก็รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน เพราะอีกไม่นานเเก้วตาดวงใจของเขาก็ต้องย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหม่พร้อมกับสามีของเธอ เขาได้เเต่ภาวนาขอให้ชีวิตคู่ของทั้งสองราบรื่น เเละมีเเต่ความสุขเหมือนในนิยายรักด้วยเถิด สาธุ...Ep.8 มีผัวเเล้วเเต่ไปอ่อยคนอื่น บรืนๆๆ~ เสียงรถสปอร์ตคันหรูสีเเดงดังกระหึ่มอยู่หน้าร้าน V Bakery ทำให้ลูกค้าทุกคนที่นั่งทานเบเกอรี่อยู่หน้าร้านเป็นต้องหันไปมองด้วยความสนใจ ทว่าจากนั้นไม่นานดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง โดยเฉพาะพวกผู้หญิงเมื่อเห็นเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูเปิดประตูลงจากรถก้าวขาออกมาราวกับนายเเบบนายสวรรค์ นี่คนหรือเทพบุตร! ทำไมถึงได้หล่อกระชากวิญญาณสาวๆได้ถึงเพียงนี้ หล่อเเบบไม่บันยะบันยัง มาเฟียหนุ่มหยิบเเว่นตาที่เเนบไว้กับกระเป๋าเสื้อสูทขึ้นมาใส่ด้วยท่าทางสง่าเเล้วก็เดินเข้าไปในร้านโดยไม่สนใจสายตาเป็นประกายของสาวๆเลย เเละบางคนถึงกับน้ำลายไหลยืดออกมาตอนที่เขาเดินผ่านไป วาสนาเเม่หญิงใดหนอหนิ ที่จะได้พ่อหนุ่มรูปงามไปครอบครอง เป็นฉันได้ป่าว สาวๆได้เเต่อธิษฐานขอพรจากฟากฟ้า ทว่าไม่อาจประทานพรของพวกเธอให้เป็นจริงได้ เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในร้านก็ต้องเจอกับสายตาของลูกค้าหลายๆคนที่มองเขาไม่ต่างจากลูกค้านอกร้านเมื่อกี่นี้ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ หรือตื่นเต้นอะไรนะ มันเป็นเรื่องปกติของคนหล่ออ่ะนะ เเต่เขาจะรู้สึกรำคาญสายตาหยาดเยิ้มพวกนั้นซะมากกว่า "อุ้ย! พี่วีขา ว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล
Ep.7 ท้าต่อยกัน "นี่ไอ้ว่าที่เจ้าบ่าว" เพื่อนยังไม่ทันได้หย่อนก้นถึงเบาะโซฟาเลย คลาร์กก็เอ่ยเเซวอย่างกวนบาทาเสียก่อน "อย่าเรียกกูเเบบนั้น" คอลินตวัดสายตาคมเข้มไปมองเพื่อนเเล้วกล่าวด้วยความรำคาญ จากนั้นเขาก็รินวิสกี้เเล้วยกขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดทั้งเเก้ว "ก็มันเรื่องจริงหนิว้า เอ่อ ไม่ใช่พรุ่งนี้หรอที่มึงต้องไปรับว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดเเต่งงาน" "อืม" ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองที่เเก้วเหล้าอย่างไม่สื่ออารมณ์ขณะที่ตอบเพื่อน "อย่ากลับดึกล่ะเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปรับเจ้าสาวไม่ทันนะ" หลังพูดกวนประสาทเพื่อนจบ คลาร์กก็เเสยะยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางยกคิ้วข้างเดียวใส่ "มึงนี่เเม่งน่ารำคาญวะ!" คอลินรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่ที่คลาร์กเเซวเขาไม่หุบปากสักที คลาร์กจึงหยักไหล่อย่างไม่เเคร์ "ถ้ารู้สึกรำคาญ งั้นเดี๋ยวกูจะเรียกผู้หญิงให้เอาไหม?" คลาร์กรู้สึกมีความสุขสุดๆเมื่อได้กลั่นเเกล้งเพื่อนๆของตัวเอง "มึงอยากเจอตีนกูหรอ?" ออซซี่กล่าว เพราะเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในนี้ ที่สำคัญ ไม่อยากให้มีกลิ่นผู้หญิงติดตัวเขากลับบ้านไปหาเมีย "เออจริงด้วย กูลืมไป มีเเต่คนมีเมียเเล้วนี่หว่า" คลาร์กทำเป็นเ
Ep.6 ปากบวม "หึๆ รีบๆไปให้หมอดูน้า เกิดสูญพันธุ์ขึ้นมาน่าอายหมอไม่รับทำศัลยกรรมไอ้หนูน้อยนะจะบอกให้~" ว่าที่เมียยืนกอดอกหัวเราะเยาะว่าที่ผัวที่คุกเข่าลงกับพื้นกุมของรักของตัวเองเอาไว้อย่างห่วงเเหน ใบหน้าหล่อเหยเกเเสดงถึงความเจ็บปวด ทว่ามองมาที่เธออย่างคาดโทษ เพราะคำพูดของเธอดูถูกดูเเคลนไอ้อนาคอนด้ายักษ์ของเขาเกินไปเเล้วนะ พูดมาได้ยังไง 'ไอ้หนูน้อย' เดี๋ยวสักวันจะเจอมันพ่นพิษร้ายใส่ เเล้วจะพูดไม่ออก "หวังว่าจะเดินไปเองได้นะว่าที่ผัว หึๆ ไปก่อนล่ะ บ๊าย" ว่าที่เมียโบกไม้โบกมือลาเเล้วเดินจากไปอย่างผู้ที่ได้รับชัยชนะ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า มาหลังดังกว่า ฮ่าๆๆ "ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวเเสบ! โอ้ย! เจ็บฉิบ!!" มาเฟียหนุ่มร้องออกมาด้วยความระบมจุดกลางกาย เท้าของยัยตัวเเสบนี่หนักใช้ได้! ไม่รู้ว่าตอนนี้อนาคอนด้ายักษ์ของเขายังอยู่ดีหรือเปล่า "เนี่ยกูต้องเเต่งงานกับยัยตัวเเสบจริงๆหรอวะเนี่ย!!! โถ~ ปู่ไม่น่าทำปาบผมขนาดนี้เลย ให้ผมไปเเต่งงานกับชะนียังจะดีกว่า" จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ค่อยๆลุกกายขึ้นมาอย่างช้าๆกลัวว่าลูกชายสุดที่รักจะเจ็บอีก ยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวตัวเองจะสูญพันธุ์เหมือนที่ยัยตัวเเสบว่า ส
Ep.5 หล่อเเต่รูป จูบไม่หอม"ลากฉันมา มีอะไร?" ดูยัยตัวเเสบทำกับเขาสิ ฉุดลากกระชากตัวเขาออกมาจากงานทำเหมือนเขาเป็นสิ่งไม่มีชีวิตไม่มีจิตใจ อยากจะทำอะไรกับร่างกายของเขาก็ทำตามอำเภอใจได้งั้นสิ"ฉันก็ไม่อยากจะลากพี่มาหรอก เเต่ในเมื่อเราต้องเเต่งงานอยู่บ้านเดียวกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราต้องมาตกลงกันก่อน" การเเต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจ หรือเกิดจากความรักของทั้งสองฝ่าย ก็ต้องมีข้อตกลงก่อนที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่บ้านหลังเดียวกัน"พูดต่อดิ""ข้อเเรกเราเเต่งงานกัน หึ้ย!!" ไม่อยากกจะพูดประโยคต่อไปนี้เลย กระดากปากฉิบเป๋ง! "ก็ต้องเป็นสามีภรรยากันก็จริง เเต่ห้ามพี่เเตะต้องตัวฉันเด็ดขาด" คนตัวเล็กยกนิ้วขึ้นพร้อมชี้หน้าคนตัวสูงด้วยท่าทางที่โคตรจะจริงจัง"ใครอยากจะเเตะต้องตัวลิงเเสบเเบบเธอไม่ทราบ" มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างหน้ามึนๆเห็นเเล้วกวนประสาทเธอเข้าไส้"ห้ามพูดขัด!" ยังไม่ทันไร พูดจาสั่งนู่นสั่งนี่สั่งนั่นยิ่งกว่าเมียซะอีก ถ้าได้ยัยนี่มาเป็นเมียจริงๆหูเขาคงชาทุกวัน เเว๊ดๆเก่งฉิบหาย!"ข้อที่สอง ห้ามพี่ไปมั่วผู้หญิงคนอื่น" นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดของเรื่อง ถึงไม่ได้รักกัน ไม่ได้หึงหวงก
Ep.4 สัญญารักที่ไม่ได้ก่อ"ทุกคนโปรดฟังทางนี้ เชิญมานั่งที่โต๊ะกันก่อนให้เรียบร้อย ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องประกาศให้รู้โดยทั่วกัน" คุณออสตินยืนอยู่ที่หัวโต๊ะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เเละข้างๆก็มีคุณเควินยืนอยู่ด้วยทุกคนที่ได้ยินก็พากันเดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้ยาวสองข้างตามที่คุณออสตินบอก ถึงจะยังไม่เข้าใจว่าคุณออสตินมีเรื่องสำคัญอะไรจะมาเป่าประกาศทว่าจะมีเพียงเเค่นายใหญ่เเละนายหญิงของตระกูลไทเพนต์เซอร์กับตระกูลรอซเซ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้มานานเเล้ว เพียงเเค่รอวันเวลาที่เหมาะสม ซึ่งก็คือวันนี้"เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ของลูกสาวผม ผมเเละเควินในฐานะนายใหญ่ของตระกูล เราสองคนมีเรื่องสำคัญที่จะต้องเป่าประกาศให้กับทุกคนในที่นี้ได้รับทราบเเละเป็นสักขีพยานให้กับเราทั้งสองตระกูล ซึ่งเราสองคนได้รับมอบหมายมาจากพ่อของเราที่ล่วงลับไปเเล้ว""กระดาษใบนี้เป็นสัญญาระหว่างสองตระกูลไทเพนต์เซอร์เเละตระกูลรอซเซ่ที่พ่อของเราสองคนได้ร่วมกันทำสัญญาฉบับนี้ขึ้นมา" คุณออสตินดึงกระดาษเเผ่นหนึ่งออกมาจากซองสีน้ำตาลชูขึ้นให้ทุกคนได้เห็น"สัญญาอะไรวะ มึงรู้ไหม?" คลาร์กกระซิบถามออซซี่ที่นั
Ep.3 นิสัยคล้ายกัน"ในเมื่อทุกคนก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันเเล้ว งั้นก็เชิญเจ้าของวันเกิดคนสวยของเรามายืนตรงนี้เลยนะคะ" เจ้าของวันเกิดจึงยอมละสายตาพิฆาตออกจากใบหน้าคมที่ยังคงเเสยะยิ้มกวนประสาทใส่เธอไม่เลิกฟึบ!หลังจากเจ้าของงานมายืนอยู่ที่ประจำจุดหน้าโต๊ะ ไฟทุกดวงก็ดับลงสนิททันที"อุ้ย!! ฟายดับ~ น้องเฟรกัว~" น้องเฟรย่ากอดลำคอหนาของบิดาเเน่นขึ้นเพราะกลัวความมืด"ไม่ต้องกลัวนะครับคนดี ป๊าอยู่นี่เเล้วนะ" ฟินน์ลูบศีรษะทุยของลูกสาวพร้อมใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญ ทว่า..."ปี้กาย ปี้กายอยู่ไหนคะปะป๊า?" คนเป็นพ่อถอนหายใจออกมาพรวดเมื่อลูกสาวยังไม่หยุดถามถึงหลานชายอีก"ได้ยินปะ ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตเรียกหาอ่ะ" สตาร์ขยับกายเข้ามากระซิบข้างๆใบหูพี่ชายอย่างกวนส้นเท้าผู้ใหญ่ที่ได้ยินประโยคนั้นก็ต่างพากันขำกลิ้งใหญ่เลย ยกเว้นฟินน์เพียงเดียวที่ไม่สามารถขำออกมาได้ เพราะว่าปะป๊าเป็นคนห่วงลูกสาวมากๆตุบ!หลังจากสตาร์กระซิบจบ ผู้ใหญ่ก็ขำไม่หยุด สกายก็เลยยกมือขึ้นตบกระบาลน้องชายไปทีหนึ่งเพราะรู้สึกว่ามันจะกวนส้นตีนเขาเกินไปเเล้ว นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นน้องชาย เขาจะกระโดดถีบหน้ามันต่อหน้าทุกคนเลย"อ่ะ โอ