ตอนที่
25
แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
ค่ำคืนนั้นงดงามราวกับความฝัน...
บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ อคิณและพราวตะวันกำลังนั่งทานอาหารค่ำด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก แสงเทียนบนโต๊ะสะท้อนแววตาที่มีความสุขของคนทั้งสอง ขณะที่เบื้องหลังคือทะเลดาวที่ส่องระยิบระยับ
“ไม่ยักรู้นะคะว่าท่านประธานจะมีมุมโรแมนติกแบบนี้กับเขาด้วย” พราวตะวันแกล้งแซว ขณะจิบไวน์รสเลิศ
อคิณหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เขาเอื้อมมือข้ามโต๊ะมากุมมือของเธอไว้ “กับคุณ ผมมีทุกมุมที่คุณยังไม่เคยเห็นอีกเยอะครับ”
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรกัและความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบ ทันใดนั้นเอง
โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมาเบาๆ หน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาปรากฎชื่อที่เธอเคยจดจำขึ้นใจ “ P’ Film ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของพราวตะวันชะงักไปชั่วครู่ หัวใจของเธอกระตุกวูบด้วยสัญชาตญาณ แต่มันเป็นเพียงชั่ววูบเดียวเท่านั้น เธอเหลือบมองใบหน้าของอคิณที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มอบความสุขและความปลอดภัยให้เธอในตอนนี้
เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอและมองไปยังโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นไม่หยุด
“รับสายก่อนก็ได้นะครับ” อคิณพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งและเต็มไปด้วยความไว้ใจ
พราวตะวันส่ายหน้าช้าๆ เธอไม่ได้ลังเลแม้แต้น้อย ปลายนิ้วเรียวของเธอเลื่อนไปกดปุ่มสีแดงเพื่อตัดสาย สายเรียกเข้านั้นอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ตัดขาดการติดต่อจากอดีตอย่างสิ้นเชิง
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาอคิณอีกครั้ง แววตาของเธอแน่วแน่และมั่นคงกว่าครั้งไหนๆ
“ไม่มีอะไรสำคัญค่ะ” เธอยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “กว่าตอนนี้แล้วค่ะ”
คำพูดของเธอทำให้อคิณรู้สึกเหมือนหัวใจทั้งดวงถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์ เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้ว...
รอยยิ้มของอคิณค่อยๆ จางลงเมื่อสายตาของเขาเหลือบไปเห็นใครบางคน พราวตะวันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงจึงมองตามไป และได้เห็น นิชา ในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่โดดเด่น กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเขาราวกับนางพญา
“อ้าว พี่คินน์ บังเอิญจังเลยนะคะ ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่” น้ำเสียงของเธอหวานหยดย้อย แต่แววตาไม่เป็นมิตรอย่างสิ้นเชิง เธอจงใจเรียกชื่อเล่นของอคิณเพื่อแสดงความสนิทสนม
อคิณขมวดคิ้วทันที น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเป็นทางการ “นิชาคุณมาทำอะไรที่นี่”
นิชาเมินคำถามของอคิณแล้วหันไปใช้สายตาประเมินของพราวตะวันตั้งแต่หัวจรดเท้า “สวัสดีค่ะ พราวตะวัน สบายดีไหม” เธอจงใจเน้นย้ำความสัมพันธ์ในอดีตของเธอกับอคิณแทน
“แหม ชุดสวยจังเลยนะ แต่สีครีมแบบนี้ ปกติพี่คินน์เขาไม่ชอบให้ใครใส่หรอกนะ เขาบอกว่ามันดูจืดชืดยกเว้นนิชาคนเดียวน่ะ” เธอยิ้มหวาน แต่สายตากลับจ้องไปที่อคิณราวกับจะทวงคืนคนรักเก่า
พราวตะวันรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว แต่เธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “คงเป็นรสนิยมเมื่อก่อนหรือเปล่าคะ” เธอยิ้มตอบอย่างสุภาพ “แต่ตอนนี้ สามีของฉันบอกว่าฉันใส่สีนี้สวยที่สุดแล้วค่ะ”
คำว่า “สามีของฉัน” ทำให้ใบหน้าของนิชาเจื่อนลงเล็กน้อย อคิณถือโอกาสนั้นพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหนักแน่น “ผมว่าคุณคงจำอะไรผิดไปเยอะนะนิชาและที่สำคัญ ผมไม่คิดว่าคุณมีสิทธิ์มาวิจารณ์ภรรยาของผม”
เขาเอื้อมมือมาวางทับมือของพราวตะวันที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างปกป้อง “เรากำลังมีเดทที่สำคัญกันอยู่ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วก็เชิญ”
นิชาหัวเราะในลำคออย่างไม่ยอมแพ้ “เดทเหรอคะ ร้านนี้เป็นร้านโปรดของนิชากับพี่คินน์เลยนะ จำไม่ได้เหรอคะพี่คินน์ โต๊ะมุมนี้ไงคะ ที่เราชอบมานั่งด้วยกันบ่อยๆ” เธอจ้องเข้าไปในตาของอคิณพยายามจะรื้อฟื้นความทรงจำที่เคยมีร่วมกัน
นิชาเริ่มต้นเปิดฉากรุกรานด้วยสงครามประสาท เธอยังไม่ยอมแพ้ เธอพยายามพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยมีร่วมกันกับอคิณ เพื่อทำให้พราวตะวันรู้สึกเป็นส่วนเกิน
เธอยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมา “พี่คินน์จำไวน์ขวดนั้นที่เราดื่มกันที่ปารีสได้ไหมคะ ขวดนี้รสชาติสู้ไม่ได้เลยเนอะ”
“ผมจำไม่ได้หรอกนิชา เรื่องมันนานมาแล้ว” อคิณกล่าวเสียงแข็ง ก่อนจะเอื้อมมือมาวางทับมือของพราวตะวันที่วางอยู่บนโต๊ะ “ตอนนี้ผมอยู่กับภรรยาของผม และเรากำลังมีความสุขกันดี”
นิชาชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบแสร้งทำหน้าเห็นใจ “พอได้ยินว่าพี่คินน์ต้องแต่งงาน นิชาเป็นห่วงแทบแย่ กลัวว่าจะไม่มีคนดูแลคินน์ได้ดีเท่านิชา โดยเฉพาะเรื่องอาหาร พี่คินน์เขาไม่ชอบทานเผ็ด” เธอหันไปบอกพราวตะวัน
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ฉันกับสามีก็กำลังเรียนรู้กันใหม่ค่ะ อะไรที่เดิมๆ ก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิมเสมอไปค่ะ”
นิชาจำใจต้องลุกขึ้นยืน แต่เธอก็ยังไม่ยอมจบง่ายๆ ขณะทีเดินผ่านพราวตะวัน เธอแกล้วทำกระเป๋าถือหล่นลงพื้น เมื่อก้มลงเก็บก็ฉวยโอกาสกระซิบข้างหูพราวตะวันด้วยเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน
“ของที่เคยเป็นของฉัน ยังไงมันก็ต้องเป็นของฉันอยู่วันยังค่ำ จำไว้”
พูดจบเธอก็เดินจากไป ทิ้งบรรยากาศที่เคยโรแมนติกให้พังทลายลงจนหมดสิ้น
“พราว” อคิณเอื้อมมือไปกุมมือพราวตะวัน “ผมขอโทษนะ ผมไม่คิดว่า”
พราวตะวันค่อยๆ ชักมือกลับอย่างเผลอตัว สัมผัสของเขาที่เคยทำให้เธออบอุ่นใจ บัดนี้กลับทำให้เธอรู้สึกสับสน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ” น้ำเสียงของเธอเรียบเฉยจนน่าใจหาย
“เธอไม่ได้เข้าใจ เธอไม่เข้าใจอะไรเลย”
คำพูดของนิชายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ร้านโปรดของพวกเขา โต๊ะมุมนี้ที่เราชอบมานั่งด้วยกัน ไวน์ที่ปารีส เรื่องราวและความทรงจำมากมายที่เธอไม่เคยรู้ อดีตที่จับต้องไม่ได้แต่กลับทำให้พราวตะวันรู้สึกไม่มั่นใจ
พราวตะวันก้มหน้าลงมองจานอาหารที่พร่องไปเพียงเล็กน้อย เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กำแพงบางอย่างที่มองไม่เห็นได้ก่อตัวขึ้นในแววตาของเธออีกครั้ง อคิณมองท่าทีที่เปลี่ยนไปนั้นด้วยหัวใจที่หล่นวูบ
ที่เขาใจดีกับเธอ ที่เขาอ่อนโยนกับเธอ เป็นเพราะเขารักเธออย่างที่เขาบอกจริงๆ หรือเป็นเพียงเพราะเธอเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เขาแค่ต้องการใครสักคนมาแทนที่เงาของความรักครั้งเก่าที่ยังฝังใจ
ความเชื่อใจที่เธอเพิ่งจะมอบให้เขาทั้งหมดใจ บัดนี้กลับถูกสั่นคลอนด้วยคำถามเดียวที่ดังก้องอยู่ในใจ
เขาลืมรักเก่าได้จริงๆ แล้วหรือยัง
ตอนที่28ความห่วงใยที่ไม่ถูกมองเห็น--- Part ของอคิณ ---เสียงปิดประตูรถของพราวตะวันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของอคิณ เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน มองบ้านหลังใหญ่ที่บัดนี้เงียบสงัดและอ้างว้างลงไปถนัดตา กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอยังคงหลงเหลืออยู่ในอากาศแต่เจ้าของกลิ่นได้จากไปแล้วเขาเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงขึ้นไปยังห้องนอน ภาพโซฟาที่ว่างเปล่าตอกย้ำความจริงที่ว่าเขาถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังอีกครั้ง อคิณทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงกว้าง ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเทียบไม่ได้เลยกับความเหนื่อยล้าในหัวใจของเขาในตอนนี้‘ผมทำอะไรผิด...หรือการที่ผมเปิดใจให้คุณเร็วเกินไป...’เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมทุกอย่างถึงพังทลายลงได้ง่ายดายขนาดนี้ เพียงแค่การปรากฏตัวของผู้หญิงคนเดียวที่เขาพยายามจะลบออกจากชีวิตมาตลอดวันต่อมาที่โรงพยาบาล อคิณจมตัวเองอยู่กับงานอย่างหนัก เขาประชุม สั่งงาน และตรวจคนไข้ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยและน่าเกรงขามกว่าเดิม จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ชวินมองปราดเดียวก็รู้ว่าเพื่อนรักของเขากำลังแตกสลายจากข้างใน“มึงโอเคนะไอ้คินน์” ชวินเอ่ยถามขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องทำงานอคิณถอนหายใจยาว
ตอนที่27ใต้ชายคาที่อึดอัด พราวตะวันลืมตาขึ้นบนโซฟา ความปวดร้าวที่แล่นไปทั่วแผ่นหลังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกอึดอัดที่บีบรัดอยู่ในหัวใจ เธอตื่นก่อนแสงแรกของวันจะมาถึง จัดการเก็บผ้าห่มและหมอนเข้าที่อย่างเงียบเชียบ แล้วก้าวออกจากห้องนอนโดยไม่หันกลับไปมองเตียงกว้าง เมื่ออคิณตื่นขึ้น เขาพบเพียงความว่างเปล่าข้างกายและโซฟาที่ถูกจัดเรียบร้อยราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าหนักอึ้งจนน่าอึดอัด เสียงช้อนส้อมกระทบจานเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบงัน พราวตะวันเอาแต่ก้มหน้าทานข้าวราวกับว่าอาหารในจานคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลก “อรุณสวัสดิ์ครับ” อคิณเอ่ยขึ้นเบาๆ “เมื่อคืนนอนไม่สบายใช่ไหม” “ก็ดีค่ะ” เธอตอบโดยไม่สบตา คำตอบสั้นๆ ที่ไร้เยื่อใยนั้นเหมือนกำแพงที่มองไม่เห็น “วันนี้ผมไม่มีประชุมช่วงบ่าย เราไปหาอะไรทำกันข้างนอกไหม เผื่อคุณจะรู้สึกดีขึ้น” เขาพยายามอีกครั้ง ความหวังริบหรี่ฉายอยู่ในแววตา “ไม่ดีกว่าค่ะ” พราวตะวันวางช้อนลงทันที “พอดีฉันมีธุระต้องทำ” เธอลุกขึ้นยืน เป็นการจบการสนทนาอย่างสิ้นเชิง แล้วเดินจากไป ทิ้งให้อค
ตอนที่26คืนที่เงียบงัน บรรยากาศภายในรถยนต์คันหรูเงียบสนิท แสงสีของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนที่วิ่งผ่านกระจกไปอย่างรวดเร็ว ความสุขและความโรแมนติกเมื่อชั่วโมงก่อนได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบที่หนักอึ้งและน่าอึดอัด อคิณกำพวงมาลัยแน่นขึ้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นระยะ พราวตะวันเอาแต่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย แสงไฟนีออนสาดกระทบใบหน้าสวยของเธอ เผยให้เห็นแววตาที่ว่างเปล่าและเย็นชา ในหัวของเธอ มีแต่เสียงของนิชาที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา คำพูดเหล่านั้นเหมือนยาพิษที่ค่อยๆ ซึมลึกเข้าไปในหัวใจที่เพิ่งจะเริ่มแข็งแรงของเธอ ความเชื่อใจที่เพิ่งก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม บัดนี้กลับถูกความสงสัยเข้ากัดกินหัวใจของเธอ เดทที่ควรจะพิเศษที่สุด กลายเป็นเพียงการตอกย้ำว่าเธอเป็นเพียงเงาของใครอีกคน เป็นเพียงตัวแทนในสถานที่แห่งความทรงจำของเขา “พราว...” อคิณลองเรียกชื่อเธอเบาๆ ทำลายความเงียบที่น่าทรมาน เธอไม่ได้หันมามอง เพียงแต่ขานรับในลำคอด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน “คะ” ความเย็นชาในน้ำเสียงนั้นทำให้อคิณรู้สึกจุกในอก แต่เข
ตอนที่25แขกที่ไม่ได้รับเชิญ ค่ำคืนนั้นงดงามราวกับความฝัน... บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ อคิณและพราวตะวันกำลังนั่งทานอาหารค่ำด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก แสงเทียนบนโต๊ะสะท้อนแววตาที่มีความสุขของคนทั้งสอง ขณะที่เบื้องหลังคือทะเลดาวที่ส่องระยิบระยับ “ไม่ยักรู้นะคะว่าท่านประธานจะมีมุมโรแมนติกแบบนี้กับเขาด้วย” พราวตะวันแกล้งแซว ขณะจิบไวน์รสเลิศ อคิณหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เขาเอื้อมมือข้ามโต๊ะมากุมมือของเธอไว้ “กับคุณ ผมมีทุกมุมที่คุณยังไม่เคยเห็นอีกเยอะครับ” บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรกัและความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบ ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมาเบาๆ หน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาปรากฎชื่อที่เธอเคยจดจำขึ้นใจ “ P’ Film ” รอยยิ้มบนใบหน้าของพราวตะวันชะงักไปชั่วครู่ หัวใจของเธอกระตุกวูบด้วยสัญชาตญาณ แต่มันเป็นเพียงชั่ววูบเดียวเท่านั้น เธอเหลือบมองใบหน้าของอคิณที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มอบความสุขและความปลอดภัยให้เธอในตอนนี้ เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอและมองไปยังโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นไม่หยุด
ตอนที่24เดทแรก เย็นวันหนึ่งหลังจากอคิณกลับมาจากที่ทำงาน เขาบอกกับพราวตะวันด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า “คืนนี้แต่งตัวสวยๆ นะครับ” พราวตะวันที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ แววตาฉายแววสงสัยระคนตื่นเต้น “ทำไมคะ” เขาเดินเข้ามาใกล้โซฟาที่เธอนั่งอยู่ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ก็เพราะว่าคืนนี้ เป็นคืนพิเศษของเราไงครับ” พราวตะวันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ “พิเศษยังไงเหรอคะ” “ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ” เขาขยิบตาให้เธออย่างมีเลศนัย “แต่รับรองว่า คุณจะต้องชอบแน่นอน” ความขี้เล่นของเขาทำให้เธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้ “ก็ได้ค่ะ ไม่บอกก็ไม่บอก” เธอยอมแพ้ “แล้วต้องสวยขนาดไหนคะ มีธีมสีหรือเปล่า” อคิณส่ายหน้าช้าๆ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “ไม่ต้องมีธีมหรอกครับ” เขายกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ข้างแก้มของเธอเบาๆ “แค่เป็นตัวคุณเองก็สวยที่สุดแล้ว” อคิณเอ่ยจบก็มองหน้าของพราวตะวันด้วยสายตที่ทำให้เธอเขินจนแทบไปไม่เป็นแต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนแก้มร้อนผ่าว เธ
ตอนที่23เริ่มต้นบทบาทสามีภรรยา ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้น อคิณขมวดคิ้วแน่นขณะจ้องมองตัวเลขบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ การประชุมที่เคร่งเครียดลากยาวมาตั้งแต่เช้าทำให้เขารู้สึกอ่อนล้าและเริ่มปวดหัว เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารแล้วนวดขมับเบาๆ ก๊อกๆ... เสียงเคาะประตูที่ไม่ได้นัดหมายไว้ดังขึ้น “ผมบอกแล้วไงว่ายังไม่” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ต้องชะงักคำพูดไว้เมื่อบานประตูเปิดออก พราวตะวันไม่ได้เดินเข้ามาทันที เธอค่อยๆ แง้มประตูโผล่หน้าสวยๆ เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น “ท่านประธานจะรับอาหารกลางวันตอนนี้เลยไหมคะ”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอคิณในทันที ความเหนื่อยล้าทั้งหมดมลายหายไปสิ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“คุณมาได้ยังไงครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที“ก็ห่วงคนแถวนี้ กลัวจะทำงานหนักจนลืมทานข้าวน่ะสิคะ” เธอเดินเข้ามาในห้อง ในมือของเธอหิ้วปิ่นโตเถาเล็กๆ สีพาสเทลมาด้วย การปรากฏตัวของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดเข้ามาในห้องทำงานที่ร้อนระอุของเขา“พักทานข้าวก่อนนะคะ” เธอเดินเข้ามาแล้ววางปิ่นโตลงบนโต๊ะทำงานของเขา“เห็นคุณประชุมไม่หยุด