ในตอนที่ฉันเรียนจบ ปีเตอร์ก็อายุสองขวบแล้ว ตอนนั้นเขาเดินไปทั่วทุกที่และมักจะเกาะติดอยู่กับคุณยายเสมอ ซึ่งคำว่าคุณยายเป็นคำแรกที่เขาพูดได้ เขาเป็นเด็กน่ารัก มีผมดำตรง ผิวขาว จมูกเชิดเล็กน้อย และดวงตาสีม่วงกลมโตที่ทำให้ฉันต้องทอดถอนใจ เขาเป็นแสงสว่างของฉัน! และตอนนี้ฉันก็จะมีเวลาให้เขามากขึ้น หลังจากเรียนจบ เจ้านายก็เรียกฉันเข้าไปคุย เขาเป็นเจ้านายที่ยอดเยี่ยมมาก เขาบอกว่าพอใจกับการทำงานในบริษัทของฉันมาก แต่เขาก็รู้ว่าฉันสมควรจะก้าวไปให้ไกลกว่านี้และควรหางานในสายงานของตัวเองซึ่งเขาก็เข้าใจ เขายืนยันว่าถ้าฉันยังอยากทำงานที่บริษัทก่อสร้างนี้ ตำแหน่งก็จะยังเป็นของฉันเสมอและถ้าฉันออกไปแล้วมันไม่ดีอย่างที่คิด ฉันก็สามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ แต่เขาแนะนำว่าฉันควรมองหาโอกาสในสายงานของฉัน เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับลูกชาย สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากและรับคำแนะนำดี ๆ ของเขาไว้ ฉันบอกเมลิสซ่า และเธอก็บอกทันทีว่าจะคุยกับพ่อของเธอเพื่อขอให้ช่วยติดต่อหาโอกาสให้ ไม่นานนัก คุณโอลิเวอร์ ลาร์สัน พ่อของเมลก็เรียกฉันเข้าไปในห้องทำงานและยื่นนามบัตรให้ฉันพร้อมพูดว่า “แคทเธอรีน ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดีแ
ฉันมาถึงบริษัทตอนแปดโมงเช้า คุณเทย์เลอร์ต้อนรับฉันอย่างอบอุ่นและแนะนำฉันให้รู้จักกับทุกคน ซึ่งทุกคนก็น่ารักมาก เว้นแต่เจ้านายที่ไม่อยู่เนื่องจากเขากำลังเดินทางและจะกลับมาปลายสัปดาห์ ออฟฟิศก็สวยมาก มันทันสมัย ตกแต่งด้วยสีขาว สแตนเลส และสีเขียวเล็กน้อย ดูเป็นมืออาชีพแต่ก็อบอุ่นทั้งยังดูหรูหราอีกด้วย และฉันชอบที่นี่มาก ฉันรู้สึกดีใจเป็นพิเศษที่เลือกใส่สูทสีดำกับเสื้อผ้าไหมสีเขียวเข้มด้านใน บวกกับรองเท้าส้นสูงสีดำ จากนี้ไปฉันต้องแต่งตัวให้ดูดีทุกวัน เพราะฉันจะต้องทำงานใกล้ชิดกับประธานบริษัท ช่วงสาย ฉันก็ได้รับข้อความจากเมล เธอบอกว่าเธอสามารถนัดผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลเด็กที่อยู่ใกล้อะพาร์ตเมนต์ของเราได้แล้วในช่วงพักเที่ยง ฉันอธิบายสถานการณ์ให้คุณเทย์เลอร์ฟังและขออนุญาตออกไปตอนเที่ยงโดยรับรองว่าจะกลับมาตรงเวลา "คุณมีลูกเหรอ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะคะ?" เธอถามพร้อมรอยยิ้ม "สองขวบแล้วค่ะ เขาเป็นเด็กฉลาดมาก ฉันไม่ได้วางแผนจะมีเด็กคนนี้ แต่ตอนนี้เขาคือเหตุผลของชีวิตฉันเลย!" "ชื่ออะไรเหรอคะ?" "ปีเตอร์ค่ะ" "ปีเตอร์ ชื่อฟังดูแข็งแกร่งดีนะคะ ฉันรู้ว่าคุณยังไม่ได้แต่งงาน แล้วพ่อของลูกคุณ
มุมมองของอเล็กซานเดอร์ในห้องพักของโรงแรมที่นิวยอร์ก ความคิดบางอย่างยังวนเวียนอยู่ในหัวของอเล็กซานเดอร์ มิลเลอร์ ผู้ช่วยคนใหม่ของเขาจะเป็นยังไงนะ?เสียงนั้นดูเหมือนจะติดอยู่ในหัวผมไปแล้ว ตอนที่โทรเข้าออฟฟิศวันนี้ ผมแค่อยากจะบอกมารีอาน่าว่าผมปิดดีลที่มาทำที่อเมริกาได้แล้ว แต่พอได้ยินเสียงนั้นบางอย่างในตัวผมก็ปั่นป่วนไปหมด มันเป็นเสียงที่ไพเราะและสงบมาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องพักโรงแรม โดยมีแก้ววิสกี้ในมือและมองออกไปยังเซ็นทรัลพาร์คผ่านหน้าต่าง พลางคิดถึงเจ้าของเสียงนั้น มันทำให้ผมหลุดโฟกัสจากรายละเอียดที่ควรจะพูดไปอย่างสิ้นเชิง และผมก็หงุดหงิดเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แถมความคิดยังไม่เป็นระบบอีก ผมเลยลงเอยด้วยการตะโกนใส่ผู้หญิงปลายสายนั่นไปเหมือนกับคนบ้า ผมอาจทำให้เธอตกใจ บางทีพอผมกลับไป เธออาจจะไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็ได้ และมารีอาน่าอาจจะฆ่าผมทิ้ง เพราะเธอไม่อยากเลื่อนแผนย้ายไปลอนดอนออกไปอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่ามารีอาน่าเลือกใครมาแทนที่เธอ รู้เพียงว่ามีคนแนะนำหล่อนมาว่าดีแล้วก็เก่งมาก อย่างน้อยก็ตามที่มารีอาน่าบอกไว้ ผมเองก็หวังว่าจะเป็นอย
ฉันจดข้อมูลสำคัญทั้งหมดอย่างระมัดระวังระหว่างที่คุณเทย์เลอร์อธิบายทุกอย่างให้ฉันฟัง เราทำงานเข้าขากันได้ดีจนช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอบอกว่าจำเป็นต้องโทรศัพท์เป็นการส่วนตัว แล้วก็ออกจากห้องไป พร้อมกับบอกว่าจะมีคนจากแผนกไอทีเอาโทรศัพท์ของบริษัทมาให้ฉัน ซึ่งโทรศัพท์นั้นต้องเปิดไว้ตลอดเวลาไม่นานหลังจากนั้น ผู้ชายรูปร่างสูงผอม หน้าตาเนิร์ด ๆ คนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง แล้วก็สะดุ้งเมื่อเห็นฉัน“ว้าว! เอ่อ...ขอโทษนะครับ คุณเป็นใครเหรอ?”ฉันลุกขึ้นเพื่อทักทายเขา“ฉันคือแคทเธอรีน เวอร์การ่า ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณมิลเลอร์ค่ะ” เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกำลังประเมินฉัน“คุณแคทเธอรีน เวอร์การ่าใช่ไหมครับ?”ฉันพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มแบบมืออาชีพ เขายิ้มแล้วพูดว่า“นี่เป็นของคุณครับ” เขายื่นมือมาพร้อมโทรศัพท์เครื่องใหม่กับแท็บเล็ตให้ฉัน “นี่คือโทรศัพท์บริษัทของคุณนะครับ เจ้านายมีเบอร์คุณแล้ว และเบอร์โทรของเขาก็ถูกเซฟไว้ในเครื่องเรียบร้อย อีเมลทำงานก็เชื่อมไว้แล้ว ส่วนแท็บเล็ตก็ลงระบบของบริษัทไว้หมดแล้ว รวมไปถึงตารางงานของคุณกับของคุณมิลเลอร์ด้วย คุณต้องการให้ผมอธิบายวิธีใช้ไหมครับ?”
หลังเลิกงาน เมลก็มารอฉันอยู่หน้าประตูพร้อมกับปีเตอร์ที่นั่งอยู่ในคาร์ซีทด้านหลัง เราวางแผนว่าจะไปห้างกัน เพื่อซื้อของที่เขาต้องใช้สำหรับไปศูนย์ดูแลเด็ก “เพื่อนรัก! วันแรกของเธอเป็นไงบ้าง? เล่ามาให้หมดเลยนะ!” เธอพูดอย่างร่าเริงพร้อมรอยยิ้มกว้าง “เมล ฉันว่าเดี๋ยวคงต้องโทรหาอาเธอเพื่อขอกลับไปทำงานเก่าแล้วล่ะ” ฉันพูดเสียงเศร้า ๆ เธอมองฉันอย่างตกใจ “แต่ก่อนอื่น บอกฉันก่อนว่าเธอสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง” “ไม่จริงน่า แคทเธอรีน! อย่าบอกนะว่าเธอถูกไล่ออกตั้งแต่วันแรก?! เล่ามาให้หมดก่อน แล้วฉันจะเล่าเรื่องสัมภาษณ์งานให้ฟัง” ฉันยิ้มและเล่าให้เธอฟังทุกอย่าง ตอนที่เธอดับเครื่องยนต์หน้าที่จอดรถของห้าง เธอก็หัวเราะจนแทบหยุดไม่อยู่กับเรื่องของฉัน “แคท เธอนี่แหละตัวจริง เถียงกับบอสตั้งแต่วันแรกได้ยังไงเนี่ย เธอรู้ใช่ไหมว่าเขาโคตรหนุ่มเลยนะ?!” ฉันมองเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองแล้วถามว่า “หมายความว่าไงที่ว่าเขายังหนุ่ม?” “โถ แคท เธอไม่หาข้อมูลเรื่องเจ้านายของเธอบนอินเทอร์เน็ตเลยเหรอ?” “ไม่เคย เมล ฉันเข้าแค่เว็บไซต์ของบริษัท อ่านข้อมูลทุกอย่างแล้ว แต่ในนั้นไม่มีรูปหรือข้อมูลเรื่
“สวัสดียามเช้า แคทเธอรีน สบายดีไหม?” มารีอาน่าเดินเข้ามาในออฟฟิศพร้อมรอยยิ้ม เธอวางกระเป๋าไว้ข้างตัวก่อนจะมองฉัน“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณมารีอาน่า ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะคะ?” ฉันกำลังยืนจัดเอกสารอยู่ และเมื่อฉันหันกลับมา ฉันเห็นเธอมีสีหน้าแบบเดียวกับเมลและพนักงานของร้านเมื่อวาน ฉันใส่เดรสของตัวเอง รองเท้าคู่ใหม่และชุดชั้นในสุดวาบหวิวที่เมลซื้อให้ฉัน"แคทเธอรีน เวอร์การ่า เธอดูเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากนิตยสารเลย! สาวน้อย ชุดนี้ทำให้เธอดูสวยเป๊ะมากเลยล่ะ" "ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง" ฉันตอบกลับด้วยความรู้สึกเขินเล็กน้อย และสงสัยว่าฉันจะแต่งตัวเวอร์ไปไหม แต่เธอก็รีบทำให้ฉันหายสงสัยทันที"รู้ไหม เธอจะทำให้เจ้านายประทับใจได้แน่นอน เขาจะกลับมาวันนี้แหละ ฉันยังตกใจเลย เพราะเขาไม่น่าจะกลับมาถึงก่อนวันศุกร์ แต่ดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะตัดสินใจเร่งงานให้เสร็จจากที่นี่แทน อ้อ แล้วก็ หยุดเรียกฉันว่าคุณเถอะนะ" ฉันยิ้มให้ตามคำขอของเธอ แต่ไม่ได้พูดออกไปว่าฉันรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายจะมา "เอาล่ะ ไปเริ่มงานกันเถอะ"ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันไปทานมื้อกลางวันกับมารีอาน่า เธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ฉลาด และเป็นมิตร ระห
มุมมองของอเล็กซานเดอร์เมื่อผมหยุดอยู่ที่หน้าประตูและมองผู้หญิงที่หันหลังให้ประตูกำลังโน้มตัวอยู่เหนือแฟ้มเอกสาร สายตาของผมก็ตรงไปที่เรียวขาคู่นั้นและหยุดอยู่ที่รองเท้าคู่นั้น และรองเท้านั่น! ส้นสูงแบบนั้นมันร้ายกาจมาก ผมควรจะสั่งแบนมันจากออฟฟิศไปเลย จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงผิวปากของแพทริค เธอลุกขึ้นยืนทันที และผมก็ได้เห็นว่าเธอมีรูปร่างที่งดงามแค่ไหน! ผมดำยาวถึงเอวและเป็นประกายสวยงามของเธอถูกรวบไว้บางส่วน แน่นอนว่านั่นทำให้แพทริคเริ่มน้ำลายไหลทันที หมอนี่มันเป็นพวกบ้าผู้หญิงแบบไร้ทางเยียวยา ผมส่งสายตาดุไปให้เขา ซึ่งนั่นกลับทำให้รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นเมื่อเห็นผมไม่พอใจแต่พอผู้หญิงคนนั้นหันกลับมา แพทริคก็เบิกตากว้างขึ้นอีก เธอสวยเหลือเชื่อ ดวงตาสีมรกตสว่างโดดเด่น ผมแค่อยากไล่เพื่อนออกไปจากตรงนั้นทันทีและห้ามไม่ให้เขาแม้แต่จะมองเธอ เธอเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของผมแน่นอน และไม่มีทางที่ผมจะให้แพทริคหว่านเสน่ห์ใส่เธอ แต่แน่นอนว่าเขาไม่สนใจสายตาไม่พอใจของผมเลย เพราะเขารู้ดีว่าผมคิดอะไรอยู่ เขาจึงก้าวไปข้างหน้าเหมือนตั้งใจจะยั่วผมเธอเป็นกันเองและดูเป็นมืออาชีพ และเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้เพื่อจับมือ
มุมมองของอเล็กซานเดอร์อยู่ ๆ ยายแอนนา แคโรไลน์จอมจุ้นจ้านที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า ก็พูดขึ้นมาชนิดแทบจะตะโกน “แกคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยายตัวแสบ? เอามือออกจากตัวอเล็กซ์ซะ ยายจอมฉวยโอกาส!” ผมยังคงกอดเอวผู้ช่วยของผมไว้แน่น แล้วกระซิบที่ข้างหูเธอว่า “อย่าแม้แต่จะขยับไปไหนนะ” แน่นอนว่าเธอรู้ว่าผมกำลังตื่นตัวอยู่ แต่ไม่จำเป็นที่คนอื่นจะต้องรู้ไปด้วย ผมมองยายปากปีจอคนนั้นด้วยสายตาอาฆาตแล้วพูดว่า “ลดเสียงลงซะ แอนนา แคโรไลน์ แล้วขอโทษคุณแคทเธอรีนเดี๋ยวนี้” “นี่มันอะไรกันคะ อเล็กซ์! ฉันแค่จะสั่งสอนยายบ้านี่ให้รู้จักอยู่ในที่ของมัน เธอเกาะแกะกับคุณแบบโต้ง ๆ แถมยังกันประตูไม่ให้ฉันเข้าไปอีก เธอบอกว่าต้องแจ้งคุณก่อน นั่นมันไร้สาระสิ้นดี! ฉันต้องรอให้ใครอนุญาตตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? บอกเธอไปสิว่าฉันเป็นใคร แล้วสั่งสอนเธอซะ คุณควรจะตำหนิเธอ อเล็กซ์ ฉันว่าคุณควรไล่เธอออกไปเลยด้วยซ้ำ” ดวงตาของแอนนา แคโรไลน์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “แอนนา แคโรไลน์ ขอโทษคุณแคทเธอรีนซะ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาโทษผมแล้วหัน” ผมพูดเสียงเรียบ พยายามอดทนอย่างสุดกำลัง แอนนา แคโรไลน์มองผมเหมือน
มุมมองของอเล็กซานเดอร์ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ กดรับสายผ่านลำโพง แล้วก็ได้ยินเสียงแหลมดังลอดมาว่า “อเล็กซานเดอร์ เรื่องปรับปรุงชั้นของฝ่ายการเงินโดยไม่ผ่านฉันนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?” “ลดเสียงลงหน่อย จอห์นสัน ผมไม่ใช่เด็กที่คุณจะมาตะโกนใส่ได้นะ ผมเป็นเจ้านายคุณ และผมไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครในบริษัทของผมทั้งนั้น!” “นี่มันไม่ให้เกียรติกันเลย! ฉันเพิ่งออกจากตึกไปไม่นานก็ได้รับข้อความจากมารีอาน่าว่าตั้งแต่วันจันทร์ ฝ่ายการเงินจะต้องไปอยู่ที่ชั้นสิบหก ชั้นเดียวกับฝ่ายการตลาด เรื่องที่ฝ่ายการเงินต้องไปอยู่ร่วมกับฝ่ายอื่นนี่มันบ้าบอที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายการตลาด! ฉันพยายามจะกลับไป แต่ลิฟต์ไม่ยอมหยุดที่ชั้นเรา มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?” “ก็อย่างที่ข้อความบอกนั่นแหละ ชั้นของฝ่ายการเงินจะถูกตกแต่งปรับปรุงใหม่ ทำตามคำแนะนำในอีเมลซะ ตั้งแต่วันจันทร์ คุณจะไปทำงานที่ชั้นสิบหก ฝ่ายการเงินกับฝ่ายการตลาดจะใช้ชั้นนั้นร่วมกันชั่วคราว ในตึกเราไม่มีชั้นอื่นเหลือว่างแล้ว” “มันไม่ใช่แบบนั้นนะอเล็กซานเดอร์ จู่ ๆ ใครเป็นคนตัดสินใจว่าชั้นนั้นต้องมาปรับปรุงเอาเสียเดี๋ยวนี้?” “มันไม่ใช่จู่ ๆ หรอกน
มุมมองของอเล็กซานเดอร์หลังจากทุกคนออกจากห้องทำงานไป ผมก็ถือโอกาสโทรศัพท์อีกสองสามสาย และจัดการเอกสารบางอย่าง ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานแพทริคก็โผล่มาลากผมออกไปกินข้าวกลางวัน พอกลับมาผมตัดสินใจแวะร้านเบเกอรี่ คิดว่าจะทำให้วันของผู้ช่วยของผมสดใสขึ้นอีกนิด ผมกำลังร้อนรุ่มด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับพ่อของลูกเธอ แต่ก็ตัดสินใจรอให้เธอผ่อนคลายกว่านี้ก่อนแล้วค่อยถาม พอกลับมาถึงออฟฟิศ เธอก็นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมถามถึงลูกชายเธอก็ยิ้มกว้าง บอกว่าเขาสบายดีพูดเก่งเหมือนเดิม ผมยิ้มแล้วเดินเข้าห้องทำงานตัวเอง เมื่อใกล้เลิกงาน ผมก็เดินไปที่ประตูแล้วเรียกผู้ช่วยของผมเข้ามา พอเธอเข้ามา ผมก็ล็อกประตู เธอมองผมตาโต ผมบอกให้เธอนั่งลงบนโซฟา ที่จริงผมมีคำถามมากมายอยากถามเธอ แต่ตัดสินใจว่าจะเก็บไว้ถามพรุ่งนี้ที่บ้าน มันจะได้ไม่เป็นทางการเกินไป ตอนนี้เธอก็ดูจะเครียดอยู่แล้ว และผมก็แค่อยากให้เธอผ่อนคลายลงสักหน่อย พอเธอนั่งลงแล้วไขว่ห้าง ผมก็ยื่นจานเค้กช็อกโกแลตให้เธอ เธอยิ้มเขิน ๆ แล้วรับมันไป “ผมคิดว่าจะเติมความหวานให้วันของคุณด้วยเค้กของเราสักหน่อย” ผมพูดพลางมองเข้าไปในตาเ
มุมมองของอเล็กซานเดอร์ ผมนอนไม่หลับและใช้เวลาทั้งคืนเดินวนไปมาภายในอะพาร์ตเมนต์ของตัวเอง ตอนตีห้า ผมลงไปที่ยิมของตึก เพราะรู้สึกว่าจำเป็นต้องปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดออกมา ผมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อมาเตะและต่อยกระสอบทราย ตอนเจ็ดโมง ผมก็อยู่ที่บริษัทแล้ว ผมถือโอกาสโทรหาอัลแบร์โต้ อเลนคาร์ ผมรู้จักเขาและรู้ว่าเขาเป็นคนประเภทที่ตื่นเช้าและเริ่มทำงานตั้งแต่เช้า ดังนั้นผมจึงไม่กังวลเรื่องเวลา เราคุยกันพักใหญ่ และผมก็อธิบายอย่างคร่าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกว่าการที่ผมติดต่อเขาเป็นคำแนะนำจากแคทเธอรีน เขาดีใจมากที่ได้ยินชื่อเธอ เขาบอกว่าเธอเป็นบุคลากรที่มีค่ามากสำหรับเขา และความเห็นของเธอก็มีความสำคัญในการค้นหาหลักฐาน หลังจากพูดคุยกับอเลนคาร์ ผมได้รับข้อความจากผู้ช่วยของผม ที่ถามว่าเธอขอเข้าทำงานสายได้ไหม เพราะเธอต้องรอให้พี่เลี้ยงเด็กมาถึงบ้านก่อน เนื่องจากลูกชายของเธอไปศูนย์ดูแลเด็กไม่ได้ ผมตอบกลับทันทีว่า "แคทเธอรีน วันนี้คุณอยู่บ้านกับลูกชายเถอะ" ทว่าหน้าจอโทรศัพท์กลับสว่างขึ้นพร้อมข้อความตอบกลับของเธอทันที "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ลูกชายของฉันไม่มีไข้แล้ว แล้วพี่เลี้ยงเด็กก็มีประ
มุมมองของอเล็กซานเดอร์ระหว่างทาง ผมสังเกตเห็นว่าแคทเธอรีนดูเครียดและกังวลมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็เปลี่ยนอารมณ์ของผู้ช่วยของผมไปโดยสิ้นเชิงพอเรามาถึง เธอก็กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไปทันที และผมก็รีบตามไป เธอหันมามองเหมือนจะถามว่าผมตามมาทำไม และผมก็ตอบทันทีว่า“ผมจะไปกับคุณด้วย ผมไม่รู้ว่าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น แต่คุณอาจต้องการความช่วยเหลือ”เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า ตอนที่เราเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ของเธอ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเรา“แคทเธอรีน ฉันดีใจมากที่คุณกลับมา ฉันกำลังจะโทรหาคุณพอดีเลย” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างกังวล“เขาอยู่ไหนคะ ลีเจีย?” แคทเธอรีนถามอย่างร้อนรน“เขาอยู่ในห้องนอน ไข้ขึ้นสูงกว่าเดิมอีก ฉันกำลังจะไปเอาน้ำให้เขา” เธอตอบ ขณะที่ผมสงสัยว่า ‘เขา’ คือใครกันแน่แคทเธอรีนรีบวิ่งไปตามทางเดิน และผมก็อดตามไปไม่ได้ พอผมเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นเธออุ้มเด็กคนหนึ่งขึ้นมาแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นไรนะลูกรัก แม่อยู่นี่แล้ว”แม่งั้นเหรอ? เธอเป็นแม่เหรอ? หัวผมหมุนติ้วขณะที่มองภาพนั้น ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าเธอมีลูกแล้ว?ลีเจียเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดว่า“ฉันว่าพาเขาไปหาห
ฉันได้ยินเสียงเจ้านายเรียกเลยหันกลับไป คิดว่าเขาจะสั่งงานเพิ่มอีก“คะ คุณมิลเลอร์?”“ปิดประตูด้วยครับ แล้วมานี่”ฉันปิดประตู เดินกลับไป และยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขานั่งอยู่บนโซฟาเดิมซึ่งทำให้ฉันนึกถึงเรื่องบ้า ๆ ขึ้นมาอเล็กซานเดอร์นั่งในท่าทางหดหู่เล็กน้อย เขาวางข้อศอกบนเข่าแล้วก้มหน้า ฉันอยากเอามือลูบผมเขาแล้วบอกว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ฉันไม่ได้ทำทุกครั้งที่เขาแตะตัวฉัน มันพาฉันออกห่างจากเหตุผลโดยสิ้นเชิง แค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยจากเขา ไม่ว่าจะตื้นเขินแค่ไหน ก็ทำให้ผิวฉันร้อนวูบและร่างกายร้องหาเขา สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันรู้สึก มันอธิบายไม่ได้เลยเขายืนขึ้นตรงหน้าฉันแล้วดึงเอวฉันเข้ามากอด มันเป็นการกอดที่สงบ อ่อนโยน และอบอุ่น มันแตกต่างจากปฏิสัมพันธ์ทุกครั้งที่ผ่านมาของเรา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความรู้สึกคุ้นเคยอันอบอุ่นหัวใจฉันรู้สึกว่าเขาจูบเบา ๆ ที่ไหล่ขวาก่อนพูดที่ข้างหูฉัน"ผมไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้มันจะไปจบที่ตรงไหน..."ฉันคิดว่าเขาหมายถึงเรื่องการตรวจสอบบัญชี เลยอยากปลอบเขา ฉันโอบแขนรอบคอเขาแล้วลูบผมของเขาเบา ๆ"ใจเย็น ๆ นะคะ อเล็กซานเดอร์ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้"เขาถอนหายใจ
เมื่อทุกคนมาครบแล้ว และเจ้านายของฉันก็บอกให้ฉันล็อกประตูห้องทำงานตัวเองและปิดประตูห้องของเขาตอนที่ฉันเข้าไป เรานั่งลงที่โซฟา และอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มพูด"คืออย่างนี้นะ พวกคุณสี่คนคือคนที่ผมไว้ใจได้ตอนนี้ ดังนั้นเนื้อหาของการประชุมนี้ต้องเป็นความลับ และนอกจากพวกเราแล้วก็ไม่ควรมีใครรู้อีก""เมื่อหกเดือนก่อน ผมเริ่มสังเกตเห็นความไม่สอดคล้องเล็ก ๆ ระหว่างรายงานการเงิน รายงานบัญชี และรายงานฝ่ายการค้า ดังนั้นผมกับแพทริคจึงเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น ด้วยรายงานการเงินฉบับล่าสุด เรามั่นใจแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อเราเปรียบเทียบข้อมูล ผมคิดว่ามีคนกำลังยักยอกเงินจากบริษัท"ฉันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา นี่มันเรื่องใหญ่มาก ฉันมองไปที่ริค ซึ่งก็ดูตั้งใจเหมือนกับฉัน จากนั้นแพทริคก็พูดขึ้นว่า"ใช่เลยทุกคน แต่มันไม่ใช่แค่เงินที่ถูกโยกย้าย พวกเขากำลังโยกย้ายทรัพยากรอื่นด้วย แถมลูกค้าบางรายก็เริ่มลดการทำธุรกิจกับเรา และบางรายก็ยกเลิกสัญญาไปเลยด้วย""งั้นทุกคน เรื่องนี้มันยิ่งใหญ่มาก เพราะถ้าบริษัทถูกโจมตีหลายทาง เราก็เสี่ยงที่จะถูกล้างบริษัทจนล้มละลายได้เลยนะ" มารีอาน่าเอ่ยอย่างตกใจ"ใช่ มารี นี
ฉันเดินเข้าบ้านโดยที่คำพูดสุดท้ายของเจ้านายยังคงดังก้องอยู่ในหัว เขาชอบแหย่ฉันอยู่เรื่อย ต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ? วันนี้มันช่างเหมือนรถไฟเหาะ เรื่องในออฟฟิศจะสงบและเป็นปกติบ้างไหมนะ? ฉันเข้าไปดูลูกชาย ซึ่งหลับสนิทไปแล้วโดยที่ยังกอดตุ๊กตาหมีเอาไว้ ฉันคิดว่าจะถามเมลดีไหมเรื่องที่เราจะพาเขาไปสวนสาธารณะวันอาทิตย์นี้ นั่นคงเป็นความคิดที่ดี ฉันเดินผ่านห้องของเพื่อนซึ่งก็นอนหลับอยู่เช่นกัน แล้วหยิบเครื่องเฝ้าระวังเด็กติดมือมา ฉันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเครียดทั้งวัน แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ฉันผล็อยหลับไปพร้อมกับคิดถึงเจ้านาย ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ฉันตื่นขึ้นมาแล้วเตรียมตัวให้ลูกชายเพื่อพาเขาไปส่งที่ศูนย์ดูแลเด็กก่อนจะออกไป เขาตื่นมาด้วยอารมณ์ดีเสมอ ยิ้มให้ฉันและพูดคุยอย่างร่าเริงว่ารักโรงเรียนของเขามากแค่ไหน ตอนที่ฉันกำลังแต่งตัวให้เขา เขาก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ค้นพบนับพันเรื่องให้ฟัง ฉันยิ้มไม่หยุด มันช่างวิเศษเหลือเกินที่ได้เห็นลูกชายเติบโตอย่างมีความสุข ฉันเตรียมตัวเองให้พร้อมแล้วเดินไปที่ครัว และพบว่าเมลเตรียมกาแฟไว้แล้ว “อรุณสวัสดิ์เพื่อนรัก เป็นยังไงบ้าง? ฉั
ฉันกลับมาที่โต๊ะทำงานตอนเกือบเลิกงาน ฉันจัดการงานประจำวันที่เหลือให้เสร็จ แล้วได้ยินเสียงริคร้องเพลง “โอ้ พริตตี้ วูแมน” ดังเข้ามา “ริค ถ้าคุณเป็นนักร้องรับรองดังแน่” ฉันยิ้มให้เขา “อาจจะนะ อาจจะ แต่ผมชอบบรรยากาศที่ออฟฟิศนี้น่ะ เซเลสต์เล่าให้ผมฟังหมดแล้ว ตอนนั้นผมกำลังถ่ายเอกสารอยู่ชั้นสาม คุณโอเคไหม?” เขามองหน้าฉัน อย่างรอคำตอบ “โอเคแล้ว ขอบใจนะ” “งั้นเพื่อนรัก ผมกลับแล้วนะ ภรรยาผมโทรมาบอกว่าวันนี้เธอกลับบ้านเร็ว และมีเซอร์ไพรส์รอผมอยู่ด้วย ผมชอบเซอร์ไพรส์ของเธอมาก นี่ก็แทบรอไม่ไหวแล้ว!” “ดูคุณสิ โชคดีชะมัดเลย ขอให้คืนนี้เป็นคืนที่ดีนะ!” “ขอบใจนะ ไว้มื้อกลางวันพรุ่งนี้ผมจะเล่าว่าเธอเตรียมอะไรไว้ ว่าแต่เราควรวางแผนทำอะไรสักอย่างสุดสัปดาห์นี้ไหม? ผมเล่าเรื่องคุณให้ภรรยาฟังแล้ว เธออยากเจอคุณมากเลย” “เยี่ยมเลย! ฉันพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม?” “ได้สิ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ คนสวย!” ฉันยิ้มกับชื่อเล่นที่เขาเรียก แล้วก็ได้ยินเสียงดังจากข้างหลัง ซึ่งใกล้กับหูฉันว่า “โอ้ คุณเวอร์การ่า ผมจะทำยังไงกับคุณดีนะ? เพื่อนผมผิวปากเหมือนต้องมนต์ทุกครั้งที่เจอคุณ ผู้ช่วยของเขาก็เรียก
แพทริคยื่นแก้วน้ำให้ ซึ่งฉันรับไว้ด้วยมือที่สั่นเทา ฉันมารู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้ก็ตอนที่อเล็กซานเดอร์ใช้เรียวนิ้วลูบผ่านใบหน้าฉันไป“ใจเย็น ๆ นะ แคทเธอรีน เขาไม่มีอำนาจพอจะทำอะไรคุณได้หรอก อย่ากลัวไปเลย คุณจะไม่ต้องเสียงานไปเพราะคนโง่นั่นหรอก” เจ้านายฉันพูดอย่างอ่อนโยน พร้อมกับลูบหลังฉันเพื่อปลอบใจ “ใช่เลย แคท อย่าไปใส่ใจจอห์นสันเลย หมอนั่นงี่เง่า คุณเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง อย่าให้เขาขู่คุณได้สำเร็จ” แพทริคพูดให้กำลังใจ “นายเรียกผู้ช่วยฉันด้วยชื่อเล่นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”“ก็ตั้งแต่พวกเรากลายเป็นเพื่อนกันแล้วไง อย่าทำตัวเป็นเจ้านายใจยักษ์นักเลยน่า!”ฉันหัวเราะกับการหยอกล้อของพวกเขา แล้วเจ้านายฉันก็ลุกขึ้นจับคางฉันให้มองหน้าเขา “ไม่ใช่ใจยักษ์หรอก แต่บางทีอาจจะเจ้าเล่ห์นิดหน่อยเท่านั้นเอง” เขาพูดพร้อมกับขยิบตาและยิ้มให้ ทำไมผู้ชายบ้านี่ถึงได้หล่อขนาดนี้นะ! “โอ้พระเจ้า พวกนายสองคนกำลังหลีกเลี่ยงสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้!” แพทริคพูดพร้อมรอยยิ้ม “แต่แคท ผมเพิ่งบอกเจ้านายคุณว่า ผมจองร้านสำหรับดินเนอร์คืนนี้ไว้แล้ว เขาไม่มีข้ออ้างอะไรได้เลย คืนนี้เราจะได้ใช้เวลากับผู้หญิงที่ยอดเยี่