공유

บทที่ 3

작가: มาเรีย แอนนิต้า
ในวันจันทร์ตอนพักเที่ยง ฉันได้เจอกับเมล เธอยื่นถุงเล็ก ๆ จากร้านหรูให้ ฉันก็มองเธออย่างงง ๆ

“แม่ฉันฝากให้เอามาให้เธอ บอกว่ามันเหมาะกับเธอมากกว่า แต่ไม่เข้ากับตัวแม่เลย” เมลพูดพร้อมยิ้มกว้าง

ฉันเปิดถุงดู แล้วก็เห็นน้ำหอมที่ฉันใช้ในคืนงานเต้นรำ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าฉันทันที ฉันรักน้ำหอมนั่น มันเป็นส่วนหนึ่งของคืนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน ฉันแค่หวังว่าคืนที่ดีที่สุดของฉันจะไม่ทิ้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไว้ให้เป็นของฝาก ฉันขอบคุณเมลและบอกเธอว่าฉันจะโทรหาแม่ของเธอทีหลัง แล้วก็บอกว่าฉันอยากโทรหาห้องแล็บเพื่อนัดตรวจร่างกาย

ฉันโทรไปที่ห้องแล็บ แล้วก็ได้รับแจ้งว่าต้องมีใบสั่งจากแพทย์ก่อนถึงจะใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพได้ ขอบคุณพระเจ้าที่บริษัทมีประกันสุขภาพให้พนักงาน ไม่งั้นฉันคงไม่รู้จะทำยังไง เงินเดือนฉันก็ไม่ได้สูง แล้วที่เหลือจากจ่ายค่าเรียนก็นำไปช่วยที่บ้าน เพราะแม่ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน และรายได้จากงานขับรถของพ่อก็มีไม่มากด้วย

ฉันเลยนัดหมอไว้ แต่คิวเร็วที่สุดคือในอีกสองอาทิตย์ถัดไป ฉันได้แต่รออย่างกระวนกระวาย ยิ่งวันเวลาผ่านไป ฉันก็ยิ่งเครียดมากขึ้น แม้เมลจะทำทุกทางเพื่อให้ฉันใจเย็นลงก็ตาม พอถึงวันนัด เมลก็ไปหาหมอกับฉันด้วย พอได้ใบรายการตรวจ เมลก็เป็นคนจัดการนัดกับห้องแล็บให้เอง ทั้งยังยืนกรานจะไปกับฉัน ผ่านไปสามอาทิตย์นับจากวันงานเต้นรำ ฉันถึงได้ตรวจร่างกาย ซึ่งผลออกมาในอีกห้าวันให้หลัง และฉันก็กลับไปหาหมออีกครั้ง แน่นอนว่าเมลก็ไปด้วย

หมอดูผลแล้วมองตาฉัน

“คุณแคทเธอรีน สุขภาพคุณดีมาก คุณแข็งแรงดี แต่จากนี้ไปคุณต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้วนะครับ”

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ในใจก็คิดว่า หมอจะบ่นฉันเรื่องที่มีเซ็กส์แบบไม่ป้องกันใช่ไหมเนี่ย? แต่ก็สมควรโดนแหละ การมีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันมันโง่มากเพราะฉันอาจติดโรคก็ได้ แล้วหมอก็พูดต่อ

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณกำลังตั้งครรภ์! เดี๋ยวผมจะส่งตัวคุณไปฝากครรภ์กับสูตินรีแพทย์นะครับ…”

ฉันไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วนอกจากเสียงอื้ออึงในหู ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! ตั้งครรภ์งั้นเหรอ? ฉันจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี? มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเนี่ยนะ คนที่เรียบร้อยที่สุด ไม่เคยทำอะไรนอกกรอบ คนที่คิดก่อนทำเสมอ เป็นคนมีความรับผิดชอบตลอด แต่แค่ปล่อยตัวตามใจครั้งเดียว ฉันกลับท้องเสียอย่างนั้น แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อของลูก! เมลจับมือฉันไว้แล้วพูดซ้ำ ๆ

“ใจเย็น ๆ นะแคท ทุกอย่างจะโอเค!”

มันจะโอเคได้ยังไงล่ะ? ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ บ้าเอ๊ย! ฉันต้องบอกพ่อแม่ ลูกสาวคนเดียวของพวกเขาจะทำให้พวกเขาเสียใจ พวกเขาคงผิดหวัง เกลียดฉัน แล้วก็ไล่ฉันออกจากบ้านแน่ ฉันจะอธิบายยังไงดีว่าฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของลูกหน้าตาเป็นยังไง ฉันเริ่มหายใจถี่จนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกถึงมือคุณหมอที่จับมือฉันไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น

“ใจเย็นก่อนนะหนู! จริงอยู่ที่สถานการณ์นี้อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เธอตระหนกแบบนี้ไม่ได้ มันจะกระทบต่อลูกในท้องนะ ตอนนี้เธอต้องดูแลตัวเองเพื่อลูก คนที่รักเธอจะคอยอยู่ข้าง ๆ และช่วยเหลือเธอแน่นอน แต่เธอต้องใจเย็น ๆ ไว้ก่อน เพราะมีแค่เธอคนเดียวที่จะทำให้เด็กคนนี้เติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัยได้ เข้าใจที่หมอพูดไหม?”

ฉันมองหมอผู้ชายร่างสันทัด ผมขาว มีแว่นตาวางอยู่บนปลายจมูก ดูตุ้ยนุ้ยหน่อย ๆ แล้วก็พยักหน้าช้า ๆ

ไม่รู้ทำไม แต่เขาทำให้ฉันสงบลงได้นิดหน่อย อาจเพราะแววตาเขาฉายประกายความเมตตาและเข้าใจ ซึ่งหาได้ยากในยุคนี้ หมอบอกเลขาให้เอาชาคาโมมายล์มาให้ฉัน ระหว่างที่ฉันจิบชาและพยายามตั้งสติ หมอก็อธิบายข้อมูลทั้งหมดให้เมลฟัง ซึ่งเธอตั้งใจฟังอย่างมาก

เราออกจากคลินิก แล้วเมลก็พาฉันไปร้านอาหารบอกว่าเราควรกินอะไรกันหน่อย ทันทีที่ฉันนั่งลง น้ำตาก็ไหลออกมา เพื่อนฉันกอดฉันไว้แล้วก็ย้ำกับฉันอีกครั้งว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันมองหน้าเธอแล้วพูดว่า

“สิ่งเดียวที่ฉันแน่ใจตอนนี้ก็คือ ฉันอยากให้เธอกับเฟร็ดเป็นพ่อทูนหัวและแม่ทูนหัวของลูกฉัน เพราะฉันรู้ว่าพวกเธอจะรักแล้วก็สนับสนุนเขาเต็มที่”

แววตาเธอเป็นประกายแล้วเธอก็ปล่อยโฮออกมาพร้อมพูดทั้งน้ำตาว่า

“ฉันจะเป็นแม่ทูนหัวที่ดีที่สุดในโลก แล้วก็จะอยู่ใกล้ ๆ ลูกของเราตลอดเวลา! ฉันมั่นใจว่าเฟร็ดต้องดีใจมากแน่ ๆ!”

เธอย้ำว่าจะเคียงข้างฉันเสมอ เธอทำให้ฉันมั่นใจว่าฉันจะไม่ต้องเผชิญเรื่องพวกนี้เพียงลำพัง และเธอจะอยู่กับฉันตอนที่ฉันไปคุยกับพ่อแม่ พอพูดถึงพ่อแม่ฉัน... โอ๊ย! ฉันเริ่มคิดแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไม่ปิดบังพวกท่านแม้แต่วันเดียว ฉันจะบอกพวกท่านคืนนี้เลย ฉันจะไม่ไปมหาวิทยาลัยแต่จะกลับบ้านเพื่อคุยกับพวกเขา เมลเองก็สนับสนุนฉันทันทีแล้วพูดว่า

“งั้นไปกันเลย ฉันอยู่กับเธอเอง!”

พอเรามาถึงบ้าน พ่อแม่ฉันก็ตกใจ แล้วแม่ก็รีบเข้ามาหาฉันด้วยความกังวล

“ลูก ๆ ไม่ไปเรียนกันเหรอ? มีอะไรหรือเปล่า?”

“ก็ไม่เชิงค่ะแม่ หนูมีเรื่องอยากคุยกับพ่อแม่”

พ่อแม่ฉันรู้ทันทีว่าต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ เราทุกคนนั่งลงในห้องนั่งเล่น แล้วฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ฉันยอมรับว่าฉันไร้ความรับผิดชอบแค่ไหนที่ไปมีอะไรกับคนแปลกหน้าในงานปาร์ตี้ แน่นอนว่าฉันไม่ได้เล่ารายละเอียด แต่ก็บอกชัดเจนว่าฉันไม่สามารถหาพ่อของลูกเจออีกแล้ว ความผิดหวังในสายตาพวกเขามันชัดเจนมาก แม่ฉันร้องไห้ไม่หยุด พูดว่าชีวิตฉันพังยับเยินหมดแล้ว ส่วนพ่อยังเงียบ พอเห็นแม่เสียใจมากขนาดนั้น เมลก็รีบไปที่ครัว แล้วกลับมาพร้อมแก้วน้ำใส่น้ำตาลให้แม่ เมลชอบเอาน้ำตาลชงใส่น้ำให้คนที่กำลังเครียด แล้วก็บอกว่ามันช่วยให้ใจเย็นลง ซึ่งฉันไม่เคยเข้าใจเหตุผลข้อนี้เลย

ในที่สุดพ่อก็พูดขึ้นว่า

“ลูกทำพลาดครั้งใหญ่แล้ว และมันก็ย้อนกลับไปแก้อะไรไม่ได้ด้วย”

พ่อแม่ฉันเป็นคนเรียบง่าย พ่อเป็นผู้ชายตัวสูง แข็งแรง ส่วนแม่ก็เหมือนฉันในเวอร์ชันที่แก่กว่า แต่ทั้งคู่เป็นคนมีหลักการและมีคุณธรรม และก็พยายามปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้ฉันเสมอ การได้ยินพ่อพูดว่า ฉันทำพลาด ทำให้ใจฉันปวดร้าวยิ่งขึ้นไปอีก ฉันเริ่มร้องไห้แล้วพูดว่า

“หนูรู้ค่ะพ่อ หนูขาดความรับผิดชอบ แต่ตอนนี้ก็ย้อนกลับไปแก้ไม่ได้แล้ว หนูจะลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเลี้ยงลูก แล้วหนูจะเก็บของออกจากบ้าน…”

“เก็บของ? ลูกเข้าใจผิดมากเลยนะ ถ้าคิดว่าจะได้ออกจากบ้านนี้ไปแบบนั้น ลูกทำผิดก็จริงแล้วก็ทำให้พ่อแม่เสียใจด้วยแต่เรารักลูก เราจะผ่านมันไปด้วยกัน และเราจะช่วยลูกเอง ลูกไม่ได้อยู่คนเดียวเสียหน่อย! แล้วเด็กคนนี้ก็เช่นกัน!” พ่อพูดแบบนั้น แล้วใจฉันก็เต็มไปด้วยความหวัง

“แต่พ่อคะ หนูทำให้พ่อแม่ต้องอับอาย…”

“ลูกไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้ายที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวในโลกนี้ เราก็แค่อยากให้ชีวิตลูกง่ายกว่านี้ ลูกก็เป็นคนมีความรับผิดชอบมาตลอดนี่นา! แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว เราก็ต้องเผชิญมันไปด้วยกัน ลูกจะไม่ลาออกจากมหาวิทยาลัย ยิ่งตอนนี้ลูกต้องโตขึ้นจะได้ดูแลลูกของตัวเอง ลูกจะต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งความรับผิดชอบมันใหญ่หลวงมาก เราจะช่วยลูก แล้วถึงแม้มันจะลำบากแต่ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี”

เมลที่ร้องไห้แล้วรีบบอกพ่อแม่ฉันว่า “คุณลุงแอนโทนี่ คุณป้าเซลิน่า หนูจะช่วยทุกอย่างเลยนะคะ!

แล้วหนูก็เป็นแม่ทูนหัวของเด็กคนนี้ด้วย แคทก็เหมือนน้องสาวหนู หนูจะอยู่ข้าง ๆ เสมอค่ะ”

พ่อแม่ฉันมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ ฉันมองทั้งสามคน แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีสุด ๆ ที่มีพวกเขาในชีวิต ฉันรู้สึกเต็มตื้นไปด้วยความรักที่มีต่อพวกเขา และความรู้สึกใหม่ทั้งหมดที่มีให้กับชีวิตเล็ก ๆ ที่กำลังเติบโตในตัวฉัน ซึ่งฉันเพิ่งรู้ถึงการมีอยู่ของชีวิตนี้!

แม้ว่าการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจะยากแค่ไหน คืนนั้นในงานเลี้ยงก็เป็นคืนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน ฉันไม่มีวันลืมดวงตาสีม่วงอมฟ้าที่มองฉันด้วยสายตาอ่อนโยนในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างเราสองคน รวมถึงสิ่งที่ร่างกายฉันได้สัมผัสในคืนนั้น ฉันจะเก็บความทรงจำแสนหวานนั้นไว้กับตัวเสมอ

หลายเดือนต่อมาผ่านไปอย่างลำบาก ฉันเก็บชุด กระเป๋า รองเท้า หน้ากาก และน้ำหอมที่แม่ของเมลให้ฉันไว้ในกล่อง ในวันที่เหนื่อยใจ ฉันจะเปิดกล่องนั้นแล้วหวนนึกถึงค่ำคืนนั้นอีกครั้ง

แม้ว่าการตั้งครรภ์ของฉันจะราบรื่นดี แต่คำพูดและความโหดร้ายของคนรอบข้างก็ทำให้ใจฉันเจ็บ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือแฟนเก่าของฉันกับลูกพี่ลูกน้องของฉันก็ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอหลังจากแต่งงานกันแล้ว ซึ่งบ้านหลังนั้นอยู่ที่ถนนเส้นเดียวกับบ้านฉัน พวกเขาคอยหาโอกาสดูถูกฉันด้วยคำพูดแย่ ๆ ทุกครั้งที่เจอ และยังไปพูดทั่วทั้งละแวกบ้านว่าฉันไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูก แล้วยังใส่ความว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่าย นั่นแหละคือเหตุผลที่คล็อดทิ้งฉันไป ฉันอยากจะฆ่าพวกเขาจริง ๆ! แม่ของเคลลี่ ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ฉัน ไม่เคยพลาดโอกาสที่จะมาเย้ยหยันเราถึงบ้าน เธอมักจะพูดว่าโชคดีแค่ไหนที่ลูกสาวเธอไม่เหมือนฉัน เธอบอกว่าเคลลี่เป็นเด็กดีถึงได้แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ เหมือนกับลืมไปแล้วว่ายายสารเลวคนนั้นขโมยแฟนฉันไป แล้วยังมีอะไรกับเขาบนเตียงของฉันอีกด้วย

แต่ฉันก็กล้ำกลืนมันทั้งหมด มันไม่คุ้มที่จะเถียงกับคนพวกนี้ และฉันก็ไม่อยากส่งต่อความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้ไปให้ลูกของฉัน ยิ่งวันเวลาผ่านไป ฉันก็ยิ่งรักลูกในท้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความรักแบบนี้มันมีอยู่จริง ทุกอย่างที่ฉันทำ ฉันทำเพื่อเขา ฉันจะปกป้องเขาจากทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันจะยอมตายเพื่อเขาและน่าแปลกที่ระหว่างตั้งครรภ์ ทุกอย่างดูเหมือนจะค่อย ๆ เป็นใจ ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง

เจ้านายฉันดีมาก เขาเข้าใจสถานการณ์ของฉัน แถมยังขึ้นเงินเดือนให้นิดหน่อยด้วย ซึ่งนั่นช่วยได้มากเลย! เมลกับเฟร็ดก็เอาใจใส่ฉันเต็มที่ ทั้งคู่หลงรักลูกทูนหัวของตัวเองทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกเขายืนยันว่าจะซื้อของทั้งหมดในห้องเด็กให้ ซึ่งสุดท้ายห้องก็ออกมาสวยงามมาก เมลไปเป็นเพื่อนฉันตามนัดของแพทย์ทุกครั้งโดยไม่เคยพลาด เธอถึงขั้นจัดงานเลี้ยงรับขวัญหลานให้ถึงสองงาน คือที่บริษัทงานหนึ่ง แล้วก็ที่มหาวิทยาลัยอีกหนึ่งงาน ลูกของฉันจะเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความรัก

พอฉันรู้ว่าลูกเป็นผู้ชาย ฉันก็ตัดสินใจตั้งชื่อเขาว่าปีเตอร์ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ปีเตอร์เกิดมาสุขภาพแข็งแรง มีดวงตาสีม่วงอมฟ้าคู่โตที่ทำให้ฉันไม่มีวันลืมคืนนั้น คืนที่เปลี่ยนชีวิตฉัน แต่ก็เป็นคืนที่ดีที่สุดในชีวิตฉันด้วย ฉันไม่มีวันลืมผู้ชายคนนั้นแน่นอน!

ลูกชายของฉันมีความรักโอบอุ้มตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาลืมตาดูโลก พ่อแม่ฉันตกหลุมรักหลานชายของพวกเขาอย่างหมดใจ เมลกับเฟร็ดก็มาที่บ้านเพื่อมาดูลูกทูนหัวของพวกเขาทุกวัน ทั้งยังคอยเช็กว่าฉันกับปีเตอร์โอเคดีไหม เมลอยู่เคียงข้างฉันตลอด ไม่เคยทิ้งไปไหนเลย พ่อแม่ของเธอก็ยังมาหาปีเตอร์ด้วย พวกเขาบอกว่าจะเป็นตายายทูนหัวให้ปีเตอร์อีกต่างหาก เพราะพวกเขารู้สึกว่าฉันก็เหมือนลูกสาวคนหนึ่งของพวกเขาเหมือนกัน ซึ่งฉันก็ซาบซึ้งใจมาก พวกเขาก็เอาใจใส่ฉันไม่ต่างกัน พวกเขายืนยันว่าจะซื้อรถเข็นเด็กให้เป็นของขวัญ แล้วในวันที่ปีเตอร์เกิด พวกเขาก็มาที่โรงพยาบาลพร้อมกับช่อดอกไม้ยักษ์ กับลูกโป่งต้อนรับสุดอลังการ

หลังจากวันลาคลอดหมดลง แม่ของฉันก็ดูแลลูกชายให้ตอนฉันไปทำงานและไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ฉันทำงานหนักมาก และเวลาที่เหลือจากเรียนหรือทำงาน ฉันก็ทุ่มให้กับลูกชายอย่างเต็มที่ ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ และพ่อแม่ทูนหัวของลูกฉัน ฉันสามารถจัดการทุกอย่างได้และไม่ต้องหยุดเรียนแม้แต่เทอมเดียว ฉันเรียนจบพร้อมกับเมลิสซ่า มันเป็นช่วงเวลาที่สุดยอดมากสำหรับฉันและครอบครัวของฉัน พอมีใบปริญญาอยู่ในมือ ฉันก็พร้อมจะไล่ตามอนาคตที่ดีกว่า พร้อมด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าลูกชายของฉันจะไม่มีวันขาดสิ่งใดเลย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 4

    ในตอนที่ฉันเรียนจบ ปีเตอร์ก็อายุสองขวบแล้ว ตอนนั้นเขาเดินไปทั่วทุกที่และมักจะเกาะติดอยู่กับคุณยายเสมอ ซึ่งคำว่าคุณยายเป็นคำแรกที่เขาพูดได้ เขาเป็นเด็กน่ารัก มีผมดำตรง ผิวขาว จมูกเชิดเล็กน้อย และดวงตาสีม่วงกลมโตที่ทำให้ฉันต้องทอดถอนใจ เขาเป็นแสงสว่างของฉัน! และตอนนี้ฉันก็จะมีเวลาให้เขามากขึ้น หลังจากเรียนจบ เจ้านายก็เรียกฉันเข้าไปคุย เขาเป็นเจ้านายที่ยอดเยี่ยมมาก เขาบอกว่าพอใจกับการทำงานในบริษัทของฉันมาก แต่เขาก็รู้ว่าฉันสมควรจะก้าวไปให้ไกลกว่านี้และควรหางานในสายงานของตัวเองซึ่งเขาก็เข้าใจ เขายืนยันว่าถ้าฉันยังอยากทำงานที่บริษัทก่อสร้างนี้ ตำแหน่งก็จะยังเป็นของฉันเสมอและถ้าฉันออกไปแล้วมันไม่ดีอย่างที่คิด ฉันก็สามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ แต่เขาแนะนำว่าฉันควรมองหาโอกาสในสายงานของฉัน เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับลูกชาย สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากและรับคำแนะนำดี ๆ ของเขาไว้ ฉันบอกเมลิสซ่า และเธอก็บอกทันทีว่าจะคุยกับพ่อของเธอเพื่อขอให้ช่วยติดต่อหาโอกาสให้ ไม่นานนัก คุณโอลิเวอร์ ลาร์สัน พ่อของเมลก็เรียกฉันเข้าไปในห้องทำงานและยื่นนามบัตรให้ฉันพร้อมพูดว่า “แคทเธอรีน ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดีแ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 5

    ฉันมาถึงบริษัทตอนแปดโมงเช้า คุณเทย์เลอร์ต้อนรับฉันอย่างอบอุ่นและแนะนำฉันให้รู้จักกับทุกคน ซึ่งทุกคนก็น่ารักมาก เว้นแต่เจ้านายที่ไม่อยู่เนื่องจากเขากำลังเดินทางและจะกลับมาปลายสัปดาห์ ออฟฟิศก็สวยมาก มันทันสมัย ตกแต่งด้วยสีขาว สแตนเลส และสีเขียวเล็กน้อย ดูเป็นมืออาชีพแต่ก็อบอุ่นทั้งยังดูหรูหราอีกด้วย และฉันชอบที่นี่มาก ฉันรู้สึกดีใจเป็นพิเศษที่เลือกใส่สูทสีดำกับเสื้อผ้าไหมสีเขียวเข้มด้านใน บวกกับรองเท้าส้นสูงสีดำ จากนี้ไปฉันต้องแต่งตัวให้ดูดีทุกวัน เพราะฉันจะต้องทำงานใกล้ชิดกับประธานบริษัท ช่วงสาย ฉันก็ได้รับข้อความจากเมล เธอบอกว่าเธอสามารถนัดผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลเด็กที่อยู่ใกล้อะพาร์ตเมนต์ของเราได้แล้วในช่วงพักเที่ยง ฉันอธิบายสถานการณ์ให้คุณเทย์เลอร์ฟังและขออนุญาตออกไปตอนเที่ยงโดยรับรองว่าจะกลับมาตรงเวลา "คุณมีลูกเหรอ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะคะ?" เธอถามพร้อมรอยยิ้ม "สองขวบแล้วค่ะ เขาเป็นเด็กฉลาดมาก ฉันไม่ได้วางแผนจะมีเด็กคนนี้ แต่ตอนนี้เขาคือเหตุผลของชีวิตฉันเลย!" "ชื่ออะไรเหรอคะ?" "ปีเตอร์ค่ะ" "ปีเตอร์ ชื่อฟังดูแข็งแกร่งดีนะคะ ฉันรู้ว่าคุณยังไม่ได้แต่งงาน แล้วพ่อของลูกคุณ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 6

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์ในห้องพักของโรงแรมที่นิวยอร์ก ความคิดบางอย่างยังวนเวียนอยู่ในหัวของอเล็กซานเดอร์ มิลเลอร์ ผู้ช่วยคนใหม่ของเขาจะเป็นยังไงนะ?เสียงนั้นดูเหมือนจะติดอยู่ในหัวผมไปแล้ว ตอนที่โทรเข้าออฟฟิศวันนี้ ผมแค่อยากจะบอกมารีอาน่าว่าผมปิดดีลที่มาทำที่อเมริกาได้แล้ว แต่พอได้ยินเสียงนั้นบางอย่างในตัวผมก็ปั่นป่วนไปหมด มันเป็นเสียงที่ไพเราะและสงบมาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องพักโรงแรม โดยมีแก้ววิสกี้ในมือและมองออกไปยังเซ็นทรัลพาร์คผ่านหน้าต่าง พลางคิดถึงเจ้าของเสียงนั้น มันทำให้ผมหลุดโฟกัสจากรายละเอียดที่ควรจะพูดไปอย่างสิ้นเชิง และผมก็หงุดหงิดเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แถมความคิดยังไม่เป็นระบบอีก ผมเลยลงเอยด้วยการตะโกนใส่ผู้หญิงปลายสายนั่นไปเหมือนกับคนบ้า ผมอาจทำให้เธอตกใจ บางทีพอผมกลับไป เธออาจจะไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็ได้ และมารีอาน่าอาจจะฆ่าผมทิ้ง เพราะเธอไม่อยากเลื่อนแผนย้ายไปลอนดอนออกไปอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่ามารีอาน่าเลือกใครมาแทนที่เธอ รู้เพียงว่ามีคนแนะนำหล่อนมาว่าดีแล้วก็เก่งมาก อย่างน้อยก็ตามที่มารีอาน่าบอกไว้ ผมเองก็หวังว่าจะเป็นอย

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 7

    ฉันจดข้อมูลสำคัญทั้งหมดอย่างระมัดระวังระหว่างที่คุณเทย์เลอร์อธิบายทุกอย่างให้ฉันฟัง เราทำงานเข้าขากันได้ดีจนช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอบอกว่าจำเป็นต้องโทรศัพท์เป็นการส่วนตัว แล้วก็ออกจากห้องไป พร้อมกับบอกว่าจะมีคนจากแผนกไอทีเอาโทรศัพท์ของบริษัทมาให้ฉัน ซึ่งโทรศัพท์นั้นต้องเปิดไว้ตลอดเวลาไม่นานหลังจากนั้น ผู้ชายรูปร่างสูงผอม หน้าตาเนิร์ด ๆ คนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง แล้วก็สะดุ้งเมื่อเห็นฉัน“ว้าว! เอ่อ...ขอโทษนะครับ คุณเป็นใครเหรอ?”ฉันลุกขึ้นเพื่อทักทายเขา“ฉันคือแคทเธอรีน เวอร์การ่า ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณมิลเลอร์ค่ะ” เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกำลังประเมินฉัน“คุณแคทเธอรีน เวอร์การ่าใช่ไหมครับ?”ฉันพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มแบบมืออาชีพ เขายิ้มแล้วพูดว่า“นี่เป็นของคุณครับ” เขายื่นมือมาพร้อมโทรศัพท์เครื่องใหม่กับแท็บเล็ตให้ฉัน “นี่คือโทรศัพท์บริษัทของคุณนะครับ เจ้านายมีเบอร์คุณแล้ว และเบอร์โทรของเขาก็ถูกเซฟไว้ในเครื่องเรียบร้อย อีเมลทำงานก็เชื่อมไว้แล้ว ส่วนแท็บเล็ตก็ลงระบบของบริษัทไว้หมดแล้ว รวมไปถึงตารางงานของคุณกับของคุณมิลเลอร์ด้วย คุณต้องการให้ผมอธิบายวิธีใช้ไหมครับ?”

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 8

    หลังเลิกงาน เมลก็มารอฉันอยู่หน้าประตูพร้อมกับปีเตอร์ที่นั่งอยู่ในคาร์ซีทด้านหลัง เราวางแผนว่าจะไปห้างกัน เพื่อซื้อของที่เขาต้องใช้สำหรับไปศูนย์ดูแลเด็ก “เพื่อนรัก! วันแรกของเธอเป็นไงบ้าง? เล่ามาให้หมดเลยนะ!” เธอพูดอย่างร่าเริงพร้อมรอยยิ้มกว้าง “เมล ฉันว่าเดี๋ยวคงต้องโทรหาอาเธอเพื่อขอกลับไปทำงานเก่าแล้วล่ะ” ฉันพูดเสียงเศร้า ๆ เธอมองฉันอย่างตกใจ “แต่ก่อนอื่น บอกฉันก่อนว่าเธอสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง” “ไม่จริงน่า แคทเธอรีน! อย่าบอกนะว่าเธอถูกไล่ออกตั้งแต่วันแรก?! เล่ามาให้หมดก่อน แล้วฉันจะเล่าเรื่องสัมภาษณ์งานให้ฟัง” ฉันยิ้มและเล่าให้เธอฟังทุกอย่าง ตอนที่เธอดับเครื่องยนต์หน้าที่จอดรถของห้าง เธอก็หัวเราะจนแทบหยุดไม่อยู่กับเรื่องของฉัน “แคท เธอนี่แหละตัวจริง เถียงกับบอสตั้งแต่วันแรกได้ยังไงเนี่ย เธอรู้ใช่ไหมว่าเขาโคตรหนุ่มเลยนะ?!” ฉันมองเธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองแล้วถามว่า “หมายความว่าไงที่ว่าเขายังหนุ่ม?” “โถ แคท เธอไม่หาข้อมูลเรื่องเจ้านายของเธอบนอินเทอร์เน็ตเลยเหรอ?” “ไม่เคย เมล ฉันเข้าแค่เว็บไซต์ของบริษัท อ่านข้อมูลทุกอย่างแล้ว แต่ในนั้นไม่มีรูปหรือข้อมูลเรื่

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 9

    “สวัสดียามเช้า แคทเธอรีน สบายดีไหม?” มารีอาน่าเดินเข้ามาในออฟฟิศพร้อมรอยยิ้ม เธอวางกระเป๋าไว้ข้างตัวก่อนจะมองฉัน“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณมารีอาน่า ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะคะ?” ฉันกำลังยืนจัดเอกสารอยู่ และเมื่อฉันหันกลับมา ฉันเห็นเธอมีสีหน้าแบบเดียวกับเมลและพนักงานของร้านเมื่อวาน ฉันใส่เดรสของตัวเอง รองเท้าคู่ใหม่และชุดชั้นในสุดวาบหวิวที่เมลซื้อให้ฉัน"แคทเธอรีน เวอร์การ่า เธอดูเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากนิตยสารเลย! สาวน้อย ชุดนี้ทำให้เธอดูสวยเป๊ะมากเลยล่ะ" "ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง" ฉันตอบกลับด้วยความรู้สึกเขินเล็กน้อย และสงสัยว่าฉันจะแต่งตัวเวอร์ไปไหม แต่เธอก็รีบทำให้ฉันหายสงสัยทันที"รู้ไหม เธอจะทำให้เจ้านายประทับใจได้แน่นอน เขาจะกลับมาวันนี้แหละ ฉันยังตกใจเลย เพราะเขาไม่น่าจะกลับมาถึงก่อนวันศุกร์ แต่ดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะตัดสินใจเร่งงานให้เสร็จจากที่นี่แทน อ้อ แล้วก็ หยุดเรียกฉันว่าคุณเถอะนะ" ฉันยิ้มให้ตามคำขอของเธอ แต่ไม่ได้พูดออกไปว่าฉันรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายจะมา "เอาล่ะ ไปเริ่มงานกันเถอะ"ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันไปทานมื้อกลางวันกับมารีอาน่า เธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ฉลาด และเป็นมิตร ระห

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 10

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์เมื่อผมหยุดอยู่ที่หน้าประตูและมองผู้หญิงที่หันหลังให้ประตูกำลังโน้มตัวอยู่เหนือแฟ้มเอกสาร สายตาของผมก็ตรงไปที่เรียวขาคู่นั้นและหยุดอยู่ที่รองเท้าคู่นั้น และรองเท้านั่น! ส้นสูงแบบนั้นมันร้ายกาจมาก ผมควรจะสั่งแบนมันจากออฟฟิศไปเลย จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงผิวปากของแพทริค เธอลุกขึ้นยืนทันที และผมก็ได้เห็นว่าเธอมีรูปร่างที่งดงามแค่ไหน! ผมดำยาวถึงเอวและเป็นประกายสวยงามของเธอถูกรวบไว้บางส่วน แน่นอนว่านั่นทำให้แพทริคเริ่มน้ำลายไหลทันที หมอนี่มันเป็นพวกบ้าผู้หญิงแบบไร้ทางเยียวยา ผมส่งสายตาดุไปให้เขา ซึ่งนั่นกลับทำให้รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นเมื่อเห็นผมไม่พอใจแต่พอผู้หญิงคนนั้นหันกลับมา แพทริคก็เบิกตากว้างขึ้นอีก เธอสวยเหลือเชื่อ ดวงตาสีมรกตสว่างโดดเด่น ผมแค่อยากไล่เพื่อนออกไปจากตรงนั้นทันทีและห้ามไม่ให้เขาแม้แต่จะมองเธอ เธอเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของผมแน่นอน และไม่มีทางที่ผมจะให้แพทริคหว่านเสน่ห์ใส่เธอ แต่แน่นอนว่าเขาไม่สนใจสายตาไม่พอใจของผมเลย เพราะเขารู้ดีว่าผมคิดอะไรอยู่ เขาจึงก้าวไปข้างหน้าเหมือนตั้งใจจะยั่วผมเธอเป็นกันเองและดูเป็นมืออาชีพ และเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้เพื่อจับมือ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 11

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์อยู่ ๆ ยายแอนนา แคโรไลน์จอมจุ้นจ้านที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า ก็พูดขึ้นมาชนิดแทบจะตะโกน “แกคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยายตัวแสบ? เอามือออกจากตัวอเล็กซ์ซะ ยายจอมฉวยโอกาส!” ผมยังคงกอดเอวผู้ช่วยของผมไว้แน่น แล้วกระซิบที่ข้างหูเธอว่า “อย่าแม้แต่จะขยับไปไหนนะ” แน่นอนว่าเธอรู้ว่าผมกำลังตื่นตัวอยู่ แต่ไม่จำเป็นที่คนอื่นจะต้องรู้ไปด้วย ผมมองยายปากปีจอคนนั้นด้วยสายตาอาฆาตแล้วพูดว่า “ลดเสียงลงซะ แอนนา แคโรไลน์ แล้วขอโทษคุณแคทเธอรีนเดี๋ยวนี้” “นี่มันอะไรกันคะ อเล็กซ์! ฉันแค่จะสั่งสอนยายบ้านี่ให้รู้จักอยู่ในที่ของมัน เธอเกาะแกะกับคุณแบบโต้ง ๆ แถมยังกันประตูไม่ให้ฉันเข้าไปอีก เธอบอกว่าต้องแจ้งคุณก่อน นั่นมันไร้สาระสิ้นดี! ฉันต้องรอให้ใครอนุญาตตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? บอกเธอไปสิว่าฉันเป็นใคร แล้วสั่งสอนเธอซะ คุณควรจะตำหนิเธอ อเล็กซ์ ฉันว่าคุณควรไล่เธอออกไปเลยด้วยซ้ำ” ดวงตาของแอนนา แคโรไลน์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “แอนนา แคโรไลน์ ขอโทษคุณแคทเธอรีนซะ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาโทษผมแล้วหัน” ผมพูดเสียงเรียบ พยายามอดทนอย่างสุดกำลัง แอนนา แคโรไลน์มองผมเหมือน

최신 챕터

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 30

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ กดรับสายผ่านลำโพง แล้วก็ได้ยินเสียงแหลมดังลอดมาว่า “อเล็กซานเดอร์ เรื่องปรับปรุงชั้นของฝ่ายการเงินโดยไม่ผ่านฉันนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?” “ลดเสียงลงหน่อย จอห์นสัน ผมไม่ใช่เด็กที่คุณจะมาตะโกนใส่ได้นะ ผมเป็นเจ้านายคุณ และผมไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครในบริษัทของผมทั้งนั้น!” “นี่มันไม่ให้เกียรติกันเลย! ฉันเพิ่งออกจากตึกไปไม่นานก็ได้รับข้อความจากมารีอาน่าว่าตั้งแต่วันจันทร์ ฝ่ายการเงินจะต้องไปอยู่ที่ชั้นสิบหก ชั้นเดียวกับฝ่ายการตลาด เรื่องที่ฝ่ายการเงินต้องไปอยู่ร่วมกับฝ่ายอื่นนี่มันบ้าบอที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายการตลาด! ฉันพยายามจะกลับไป แต่ลิฟต์ไม่ยอมหยุดที่ชั้นเรา มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?” “ก็อย่างที่ข้อความบอกนั่นแหละ ชั้นของฝ่ายการเงินจะถูกตกแต่งปรับปรุงใหม่ ทำตามคำแนะนำในอีเมลซะ ตั้งแต่วันจันทร์ คุณจะไปทำงานที่ชั้นสิบหก ฝ่ายการเงินกับฝ่ายการตลาดจะใช้ชั้นนั้นร่วมกันชั่วคราว ในตึกเราไม่มีชั้นอื่นเหลือว่างแล้ว” “มันไม่ใช่แบบนั้นนะอเล็กซานเดอร์ จู่ ๆ ใครเป็นคนตัดสินใจว่าชั้นนั้นต้องมาปรับปรุงเอาเสียเดี๋ยวนี้?” “มันไม่ใช่จู่ ๆ หรอกน

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 29

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์หลังจากทุกคนออกจากห้องทำงานไป ผมก็ถือโอกาสโทรศัพท์อีกสองสามสาย และจัดการเอกสารบางอย่าง ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานแพทริคก็โผล่มาลากผมออกไปกินข้าวกลางวัน พอกลับมาผมตัดสินใจแวะร้านเบเกอรี่ คิดว่าจะทำให้วันของผู้ช่วยของผมสดใสขึ้นอีกนิด ผมกำลังร้อนรุ่มด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับพ่อของลูกเธอ แต่ก็ตัดสินใจรอให้เธอผ่อนคลายกว่านี้ก่อนแล้วค่อยถาม พอกลับมาถึงออฟฟิศ เธอก็นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมถามถึงลูกชายเธอก็ยิ้มกว้าง บอกว่าเขาสบายดีพูดเก่งเหมือนเดิม ผมยิ้มแล้วเดินเข้าห้องทำงานตัวเอง เมื่อใกล้เลิกงาน ผมก็เดินไปที่ประตูแล้วเรียกผู้ช่วยของผมเข้ามา พอเธอเข้ามา ผมก็ล็อกประตู เธอมองผมตาโต ผมบอกให้เธอนั่งลงบนโซฟา ที่จริงผมมีคำถามมากมายอยากถามเธอ แต่ตัดสินใจว่าจะเก็บไว้ถามพรุ่งนี้ที่บ้าน มันจะได้ไม่เป็นทางการเกินไป ตอนนี้เธอก็ดูจะเครียดอยู่แล้ว และผมก็แค่อยากให้เธอผ่อนคลายลงสักหน่อย พอเธอนั่งลงแล้วไขว่ห้าง ผมก็ยื่นจานเค้กช็อกโกแลตให้เธอ เธอยิ้มเขิน ๆ แล้วรับมันไป “ผมคิดว่าจะเติมความหวานให้วันของคุณด้วยเค้กของเราสักหน่อย” ผมพูดพลางมองเข้าไปในตาเ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 28

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์ ผมนอนไม่หลับและใช้เวลาทั้งคืนเดินวนไปมาภายในอะพาร์ตเมนต์ของตัวเอง ตอนตีห้า ผมลงไปที่ยิมของตึก เพราะรู้สึกว่าจำเป็นต้องปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดออกมา ผมใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อมาเตะและต่อยกระสอบทราย ตอนเจ็ดโมง ผมก็อยู่ที่บริษัทแล้ว ผมถือโอกาสโทรหาอัลแบร์โต้ อเลนคาร์ ผมรู้จักเขาและรู้ว่าเขาเป็นคนประเภทที่ตื่นเช้าและเริ่มทำงานตั้งแต่เช้า ดังนั้นผมจึงไม่กังวลเรื่องเวลา เราคุยกันพักใหญ่ และผมก็อธิบายอย่างคร่าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกว่าการที่ผมติดต่อเขาเป็นคำแนะนำจากแคทเธอรีน เขาดีใจมากที่ได้ยินชื่อเธอ เขาบอกว่าเธอเป็นบุคลากรที่มีค่ามากสำหรับเขา และความเห็นของเธอก็มีความสำคัญในการค้นหาหลักฐาน หลังจากพูดคุยกับอเลนคาร์ ผมได้รับข้อความจากผู้ช่วยของผม ที่ถามว่าเธอขอเข้าทำงานสายได้ไหม เพราะเธอต้องรอให้พี่เลี้ยงเด็กมาถึงบ้านก่อน เนื่องจากลูกชายของเธอไปศูนย์ดูแลเด็กไม่ได้ ผมตอบกลับทันทีว่า "แคทเธอรีน วันนี้คุณอยู่บ้านกับลูกชายเถอะ" ทว่าหน้าจอโทรศัพท์กลับสว่างขึ้นพร้อมข้อความตอบกลับของเธอทันที "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ลูกชายของฉันไม่มีไข้แล้ว แล้วพี่เลี้ยงเด็กก็มีประ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 27

    มุมมองของอเล็กซานเดอร์ระหว่างทาง ผมสังเกตเห็นว่าแคทเธอรีนดูเครียดและกังวลมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็เปลี่ยนอารมณ์ของผู้ช่วยของผมไปโดยสิ้นเชิงพอเรามาถึง เธอก็กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไปทันที และผมก็รีบตามไป เธอหันมามองเหมือนจะถามว่าผมตามมาทำไม และผมก็ตอบทันทีว่า“ผมจะไปกับคุณด้วย ผมไม่รู้ว่าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น แต่คุณอาจต้องการความช่วยเหลือ”เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า ตอนที่เราเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ของเธอ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเรา“แคทเธอรีน ฉันดีใจมากที่คุณกลับมา ฉันกำลังจะโทรหาคุณพอดีเลย” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างกังวล“เขาอยู่ไหนคะ ลีเจีย?” แคทเธอรีนถามอย่างร้อนรน“เขาอยู่ในห้องนอน ไข้ขึ้นสูงกว่าเดิมอีก ฉันกำลังจะไปเอาน้ำให้เขา” เธอตอบ ขณะที่ผมสงสัยว่า ‘เขา’ คือใครกันแน่แคทเธอรีนรีบวิ่งไปตามทางเดิน และผมก็อดตามไปไม่ได้ พอผมเข้าไปในห้องนอน ผมเห็นเธออุ้มเด็กคนหนึ่งขึ้นมาแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นไรนะลูกรัก แม่อยู่นี่แล้ว”แม่งั้นเหรอ? เธอเป็นแม่เหรอ? หัวผมหมุนติ้วขณะที่มองภาพนั้น ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าเธอมีลูกแล้ว?ลีเจียเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดว่า“ฉันว่าพาเขาไปหาห

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 26

    ฉันได้ยินเสียงเจ้านายเรียกเลยหันกลับไป คิดว่าเขาจะสั่งงานเพิ่มอีก“คะ คุณมิลเลอร์?”“ปิดประตูด้วยครับ แล้วมานี่”ฉันปิดประตู เดินกลับไป และยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขานั่งอยู่บนโซฟาเดิมซึ่งทำให้ฉันนึกถึงเรื่องบ้า ๆ ขึ้นมาอเล็กซานเดอร์นั่งในท่าทางหดหู่เล็กน้อย เขาวางข้อศอกบนเข่าแล้วก้มหน้า ฉันอยากเอามือลูบผมเขาแล้วบอกว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ฉันไม่ได้ทำทุกครั้งที่เขาแตะตัวฉัน มันพาฉันออกห่างจากเหตุผลโดยสิ้นเชิง แค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยจากเขา ไม่ว่าจะตื้นเขินแค่ไหน ก็ทำให้ผิวฉันร้อนวูบและร่างกายร้องหาเขา สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันรู้สึก มันอธิบายไม่ได้เลยเขายืนขึ้นตรงหน้าฉันแล้วดึงเอวฉันเข้ามากอด มันเป็นการกอดที่สงบ อ่อนโยน และอบอุ่น มันแตกต่างจากปฏิสัมพันธ์ทุกครั้งที่ผ่านมาของเรา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความรู้สึกคุ้นเคยอันอบอุ่นหัวใจฉันรู้สึกว่าเขาจูบเบา ๆ ที่ไหล่ขวาก่อนพูดที่ข้างหูฉัน"ผมไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้มันจะไปจบที่ตรงไหน..."ฉันคิดว่าเขาหมายถึงเรื่องการตรวจสอบบัญชี เลยอยากปลอบเขา ฉันโอบแขนรอบคอเขาแล้วลูบผมของเขาเบา ๆ"ใจเย็น ๆ นะคะ อเล็กซานเดอร์ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้"เขาถอนหายใจ

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 25

    เมื่อทุกคนมาครบแล้ว และเจ้านายของฉันก็บอกให้ฉันล็อกประตูห้องทำงานตัวเองและปิดประตูห้องของเขาตอนที่ฉันเข้าไป เรานั่งลงที่โซฟา และอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มพูด"คืออย่างนี้นะ พวกคุณสี่คนคือคนที่ผมไว้ใจได้ตอนนี้ ดังนั้นเนื้อหาของการประชุมนี้ต้องเป็นความลับ และนอกจากพวกเราแล้วก็ไม่ควรมีใครรู้อีก""เมื่อหกเดือนก่อน ผมเริ่มสังเกตเห็นความไม่สอดคล้องเล็ก ๆ ระหว่างรายงานการเงิน รายงานบัญชี และรายงานฝ่ายการค้า ดังนั้นผมกับแพทริคจึงเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น ด้วยรายงานการเงินฉบับล่าสุด เรามั่นใจแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อเราเปรียบเทียบข้อมูล ผมคิดว่ามีคนกำลังยักยอกเงินจากบริษัท"ฉันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา นี่มันเรื่องใหญ่มาก ฉันมองไปที่ริค ซึ่งก็ดูตั้งใจเหมือนกับฉัน จากนั้นแพทริคก็พูดขึ้นว่า"ใช่เลยทุกคน แต่มันไม่ใช่แค่เงินที่ถูกโยกย้าย พวกเขากำลังโยกย้ายทรัพยากรอื่นด้วย แถมลูกค้าบางรายก็เริ่มลดการทำธุรกิจกับเรา และบางรายก็ยกเลิกสัญญาไปเลยด้วย""งั้นทุกคน เรื่องนี้มันยิ่งใหญ่มาก เพราะถ้าบริษัทถูกโจมตีหลายทาง เราก็เสี่ยงที่จะถูกล้างบริษัทจนล้มละลายได้เลยนะ" มารีอาน่าเอ่ยอย่างตกใจ"ใช่ มารี นี

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 24

    ฉันเดินเข้าบ้านโดยที่คำพูดสุดท้ายของเจ้านายยังคงดังก้องอยู่ในหัว เขาชอบแหย่ฉันอยู่เรื่อย ต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ? วันนี้มันช่างเหมือนรถไฟเหาะ เรื่องในออฟฟิศจะสงบและเป็นปกติบ้างไหมนะ? ฉันเข้าไปดูลูกชาย ซึ่งหลับสนิทไปแล้วโดยที่ยังกอดตุ๊กตาหมีเอาไว้ ฉันคิดว่าจะถามเมลดีไหมเรื่องที่เราจะพาเขาไปสวนสาธารณะวันอาทิตย์นี้ นั่นคงเป็นความคิดที่ดี ฉันเดินผ่านห้องของเพื่อนซึ่งก็นอนหลับอยู่เช่นกัน แล้วหยิบเครื่องเฝ้าระวังเด็กติดมือมา ฉันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเครียดทั้งวัน แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ฉันผล็อยหลับไปพร้อมกับคิดถึงเจ้านาย ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ฉันตื่นขึ้นมาแล้วเตรียมตัวให้ลูกชายเพื่อพาเขาไปส่งที่ศูนย์ดูแลเด็กก่อนจะออกไป เขาตื่นมาด้วยอารมณ์ดีเสมอ ยิ้มให้ฉันและพูดคุยอย่างร่าเริงว่ารักโรงเรียนของเขามากแค่ไหน ตอนที่ฉันกำลังแต่งตัวให้เขา เขาก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ค้นพบนับพันเรื่องให้ฟัง ฉันยิ้มไม่หยุด มันช่างวิเศษเหลือเกินที่ได้เห็นลูกชายเติบโตอย่างมีความสุข ฉันเตรียมตัวเองให้พร้อมแล้วเดินไปที่ครัว และพบว่าเมลเตรียมกาแฟไว้แล้ว “อรุณสวัสดิ์เพื่อนรัก เป็นยังไงบ้าง? ฉั

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 23

    ฉันกลับมาที่โต๊ะทำงานตอนเกือบเลิกงาน ฉันจัดการงานประจำวันที่เหลือให้เสร็จ แล้วได้ยินเสียงริคร้องเพลง “โอ้ พริตตี้ วูแมน” ดังเข้ามา “ริค ถ้าคุณเป็นนักร้องรับรองดังแน่” ฉันยิ้มให้เขา “อาจจะนะ อาจจะ แต่ผมชอบบรรยากาศที่ออฟฟิศนี้น่ะ เซเลสต์เล่าให้ผมฟังหมดแล้ว ตอนนั้นผมกำลังถ่ายเอกสารอยู่ชั้นสาม คุณโอเคไหม?” เขามองหน้าฉัน อย่างรอคำตอบ “โอเคแล้ว ขอบใจนะ” “งั้นเพื่อนรัก ผมกลับแล้วนะ ภรรยาผมโทรมาบอกว่าวันนี้เธอกลับบ้านเร็ว และมีเซอร์ไพรส์รอผมอยู่ด้วย ผมชอบเซอร์ไพรส์ของเธอมาก นี่ก็แทบรอไม่ไหวแล้ว!” “ดูคุณสิ โชคดีชะมัดเลย ขอให้คืนนี้เป็นคืนที่ดีนะ!” “ขอบใจนะ ไว้มื้อกลางวันพรุ่งนี้ผมจะเล่าว่าเธอเตรียมอะไรไว้ ว่าแต่เราควรวางแผนทำอะไรสักอย่างสุดสัปดาห์นี้ไหม? ผมเล่าเรื่องคุณให้ภรรยาฟังแล้ว เธออยากเจอคุณมากเลย” “เยี่ยมเลย! ฉันพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม?” “ได้สิ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ คนสวย!” ฉันยิ้มกับชื่อเล่นที่เขาเรียก แล้วก็ได้ยินเสียงดังจากข้างหลัง ซึ่งใกล้กับหูฉันว่า “โอ้ คุณเวอร์การ่า ผมจะทำยังไงกับคุณดีนะ? เพื่อนผมผิวปากเหมือนต้องมนต์ทุกครั้งที่เจอคุณ ผู้ช่วยของเขาก็เรียก

  • สัมผัสรักจากคุณบอส   บทที่ 22

    แพทริคยื่นแก้วน้ำให้ ซึ่งฉันรับไว้ด้วยมือที่สั่นเทา ฉันมารู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้ก็ตอนที่อเล็กซานเดอร์ใช้เรียวนิ้วลูบผ่านใบหน้าฉันไป“ใจเย็น ๆ นะ แคทเธอรีน เขาไม่มีอำนาจพอจะทำอะไรคุณได้หรอก อย่ากลัวไปเลย คุณจะไม่ต้องเสียงานไปเพราะคนโง่นั่นหรอก” เจ้านายฉันพูดอย่างอ่อนโยน พร้อมกับลูบหลังฉันเพื่อปลอบใจ “ใช่เลย แคท อย่าไปใส่ใจจอห์นสันเลย หมอนั่นงี่เง่า คุณเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง อย่าให้เขาขู่คุณได้สำเร็จ” แพทริคพูดให้กำลังใจ “นายเรียกผู้ช่วยฉันด้วยชื่อเล่นได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”“ก็ตั้งแต่พวกเรากลายเป็นเพื่อนกันแล้วไง อย่าทำตัวเป็นเจ้านายใจยักษ์นักเลยน่า!”ฉันหัวเราะกับการหยอกล้อของพวกเขา แล้วเจ้านายฉันก็ลุกขึ้นจับคางฉันให้มองหน้าเขา “ไม่ใช่ใจยักษ์หรอก แต่บางทีอาจจะเจ้าเล่ห์นิดหน่อยเท่านั้นเอง” เขาพูดพร้อมกับขยิบตาและยิ้มให้ ทำไมผู้ชายบ้านี่ถึงได้หล่อขนาดนี้นะ! “โอ้พระเจ้า พวกนายสองคนกำลังหลีกเลี่ยงสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้!” แพทริคพูดพร้อมรอยยิ้ม “แต่แคท ผมเพิ่งบอกเจ้านายคุณว่า ผมจองร้านสำหรับดินเนอร์คืนนี้ไว้แล้ว เขาไม่มีข้ออ้างอะไรได้เลย คืนนี้เราจะได้ใช้เวลากับผู้หญิงที่ยอดเยี่

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status