หัวยังเจ็บอยู่เลย คนป่วยลืมตาอยากขยับร่างกายแต่แทบไม่มีแรง ดูท่าฤทธิ์ยายังไม่หมด หมอคงต้องการให้พักผ่อนมากๆ ชันกายลุกรู้สึกร้าวไปทั้งศีรษะ ลืมตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงภายใน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ กวาดตามองรอบๆ รู้สึกถึงความไม่แน่นอนเขา... แตกต่างกับเธอเหลือเกินเหมือนอยู่คนละโลก บ้านหลังใหญ่ บริวารล้อมหน้าล้อมหลัง ผู้หญิงมากมายอยากแย่งชิง มีทุกอย่างที่มนุษย์ทุกคนพึงต้องการ ทว่าทำไม ธีภพถึงเลือกเธอ เลือกให้มาอยู่เคียงข้างในเวลานี้ และรอวันเขี่ยทิ้งเมื่อไม่ปรารถนา ความปวดร้าวนี้คงไม่มีใครเข้าใจ ความสัมพันธ์ทางกายมันสร้างความผูกพันในหัวใจด้วยเช่นกันเธอ.. กลัวสักวัน อาจรู้สึกบางอย่างกับเขา หากวันนั้นมาถึง หัวใจคงรวดร้าว และใช้เวลาเยียวยาแอด...ประตูห้องเปิดออก คนในความคิดก้าวเข้ามาพร้อมถาดอาหารในมือ ญรินดาจ้องมองด้วยความแปลกใจ เขาวางมันตรงหน้าแล้วยิ้มบางๆ“กินข้าวแล้วกินยา เธอต้องพักผ่อนมากๆ ได้หายไวๆ” เขาบอกแล้วสบตา เห็นคนตรงหน้าไม่ขยับ มีเพียงคิ้วบางซึ่งกำลังขมวดเข้าหากัน “เป็นอะไรไป ไม่หิวก็ต้องกินนะรู้ไหม”คนถูกถามส่ายหน้า ไม่เข้าใจ เขาทำแบบนี้ทำไม“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้” น้ำ
ประเทศอังกฤษจีน่านั่งไขว่ห้างเพื่อรอใครบางคน จนกระทั่งเขาลงมาจากชั้นบน ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทหยุดเท้าจ้องมอง ก่อนอ้าแขนกว้างเพื่อรอรับ จีน่ากระโดดเข้ากอดเขาซบหน้าด้วยความคิดถึง และหวังพึ่งพิง“เป็นอะไรเรา มาหาพี่ถึงอังกฤษได้ ปกติเห็นมาก็ไม่เคยมาเยี่ยมเลย” โจนาธานเอ่ยถาม แล้วกอดน้องพร้อมเดิน“พี่โจ จีน่ามีเรื่องจะบอกค่ะ”คนเป็นพี่ขมวดคิ้ว “เรื่องอะไรเหรอ”“ไปที่คอนโดก่อนได้ไหมพี่ จีน่าไม่อยากบอกตรงนี้”“อืม ได้สิ”สองร่างนั่งเบาะหลังรถบีเอ็มสีบรอนซ์ โดยมีคนขับพาเคลื่อนห่างออกจากบริษัทไฮคลาส บริษัทส่งออกวัสดุสำหรับผลิตรถยนต์ โจนาธานเหลือบมองใบหน้าน้อง แววตาและท่าทางดูเปลี่ยนไป เหมือนมีความทุกข์บางอย่างภายในใจรถเคลื่อนมาจอดหน้าคอนโดหรู สองพี่น้องลงจากรถ โจนาธานเดินนำน้องไปสู่ห้องพักตนเอง มาถึงห้องเขาทิ้งกายลงบนโซฟา โดยมีจีน่านั่งอยู่ตรงข้าม สูทถูกถอดออก กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดแล้วพับแขน โน้มกายมาด้านหน้า มือสองข้างผสานกัน แล้วช้อนสายตามองน้องสาว“มีเรื่องอะไร เราถึงมาหาพี่จีน่า” คนเป็นพี่เริ่มบทสนทนาจีน่าสะอื้นขึ้นมาทันที ยกมือกรีดน้ำตา ตีหน้าเศร้าหมอง“น้อง... โดนข่มขืน” กัดริมฝีปา
ป้าชม้อยถูกดันออกนอกห้อง ประตูปิดลง เธอไม่อยากให้ใครเขามา จีน่าอันตรายเกินไป คนถูกเหลี่ยงกำมือแน่นกัดริมฝีปากจนเลือดซึม ลุกยืนจ้องมอง“แกกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ อีสารเลว!” ไม่พูดเปล่า จีน่ากวาดตามองรอบห้อง เดินพล่านลมหายใจหนักหน่วงเพล้ง!โคมไฟหัวเตียงถูกเหวี่ยงมา มันแตกตรงปลายเท้าเธอ ญรินดาตระหนกตกใจ รีบกระโจนหนีเมื่อเครื่องสำอาง และของในห้องถูกขว้างมาเป็นระยะๆ“นังร่าน ฉันไม่มีวันปล่อยแกไป!”“หยุดนะคุณจีน่า คุณบ้าไปแล้วหรือไง!” คนตัวเล็กตวาดลั่นแรงโทสะทำให้อีกฝ่ายไม่ฟังเสียง เรือนร่าง หน้าตาเรียกความต้องการเพศตรงข้ามเช่นนี้ มีหรือธีภพจะปล่อยไว้ เกินเลยไปขนาดไหน กี่ครั้งที่นอนด้วยกัน โดยที่เธอไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเขาคิดแตะต้อง มันเจ็บปวด จับที่วางกระดาษดวงตาเบิกกว้างเหวี่ยงออกไปผลั่ก!“โอ้ย!” น้ำตาเริ่มไหลริน เมื่อมันลงตรงจุดเดิมที่เคยเกิดอุบัติเหตุ แผลยังไม่หายดีนัก เลือดไหลนองออกมา มันมากกว่าเดิมและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนโดนจีน่าหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ เดินปรี่เข้าหา คนโดนกระทำทรุดกายยกมือกุมศีรษะตัวเอง หยุดยืนตรงหน้าศัตรูหัวใจ แล้วกระชากคอเสื้อให้ลุกยืนเผชิญหน้า“รู้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินางแบบสุดฮอตรีบเร่งฝีเท้าออกจากช่องทางผู้โดยสาร ข่าวมาแรงตามการรายงานของสาวใช้ในบ้านธีภพ ทำเอาเธอร้อนรนยิ่งกว่าสิ่งใด ร่างสูงโปร่งกระแทกก้นลงบนเบาะรถส่วนตัว ให้คนขับพาไปยังจุดหมาย โดยไม่คิดแวะที่ไหน แม้กระทั่งกลับคอนโดตนเอง ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอถึงที่นั้น รั้วบ้านเปิดออกรถเคลื่อนผ่านสวนหย่อมดวงตาเรียวหรี่มอง ภาพหญิงสาวกำลังเล่นกับสุนัขสนุกสนาน พอได้ยินเสียงรถเลยหันมามอง เห็นลุกยืนเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน พอรถจอดเทียบด้านหน้าจีน่าเปิดประตูลงแล้ววิ่งเข้าไปข้างในทันที สาวใช้และคนงานพากันตระหนกตกใจ แน่ใจว่าต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่นอนญรินดาเดินขึ้นไปชั้นบน ไม่อยากเผชิญหน้ากับแขกของเขาอีกแล้ว เธอกลัวเกิดปัญหาแบบรอบคุณภาวินทร์ จีน่าก้าวขึ้นบันไดตรงดิ่งไปยังห้องของชายที่ตนหมายปอง จับลูกบิดเปิดประตูออกในทันทีแอด....คนในห้องชะงักลุกยืนจ้องมองผู้มาเยือน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกัดแน่น ญรินดายืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ดวงตาผู้หญิงคนนั้นดุดัน น่ากลัว ราวกับต้องการฆ่าเธอให้ตาย“เธอมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง!” นางแบบสาวตวาดถาม แววตาวาวโรจน์“ฉะ...ฉัน” หญิงสาวอึกอัก“ต
ธีภพปล่อยเพื่อนเป็นอิสระในทันที ถลาเข้าประคองคนเจ็บ ภาวินทร์จ้องมองภาพนั้น คนอย่างไอ้เพื่อนตัวดีเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงงั้นเหรอ“ริน ริน ผมขอโทษ!” ละล่ำละลักบอก มือไม้สั่นเทา ไม่กล้าแตะเกรงคนตัวเล็กจะเจ็บมากกว่าเดิมภาวินทร์ถลาคิดเข้ามาช่วยอีกคน แต่บอดี้การ์ดกันไว้ ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องมอง แววตาไม่พอใจ“ผมว่าคุณกลับไปดีกว่านะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจองเจ้านายผมกับผู้หญิงของเจ้านาย คุณไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้” อยุทธ์บอกเสียงเรียง สีหน้าเยือกเย็นคนถูกไล่กัดฟันแน่น “อยุทธ์ นายเคยเป็นทหารมาก่อน นายน่าจะรักษาความยุติธรรม แล้วทำไมถึงทำเรื่องน่าทุเรศแบบนี้!”“ตรงไหนที่เรียกว่าทุเรศ ในเมื่อคุณรินเองเธอบอกคุณไม่ใช่เหรอว่าเต็มใจอยู่ที่นี่”ภาวินทร์หาคำมาถกเถียงไม่ได้อีก“ได้... ฉันกลับก็ได้” เขาตวัดมองเพื่อน “ธีภพ ฉันขอเตือนให้แกปล่อยคุณรินไป ถ้าแกไม่ไปสักวันแกต้องเสียใจ ไม่ใช่เพราะฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่แกต่างหากที่จะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำ” ตัดบทเสร็จเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกจากรั้วบ้านธีภพนิ่งเงียบ จ้องมองน้ำตาคนเจ็บไหลริน เขาจะเจ็บปวดจากเรื่องอะไร ญรินดาไม่มีทางทำให้คนอย่างเขาเจ็บ
เสียงรถแล่นเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วจอด ญรินดาชะเง้อมองเมื่อประตูเปิดเห็นคนก้าวลงหน้าตาคุ้นเคย แต่เขาไม่ได้เข้าด้านในกลับเดินตรงมายังสวนหย่อมซึ่งเธอกำลังเล่นกับสุนัขอยู่ ภาวินทร์ระบายยิ้มเมื่อเห็นหน้าคนสวย เขาหยุดยืนตรงหน้า“สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่เหรอ” ชายหนุ่มเริ่มทักทายก่อน“เล่นกับปาท่องโก๋ค่ะ”“ปลาที่ไหนครับ นี่มันสุนัขนะ” เขาแสร้งเย้าคนตัวเล็กเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ขำแค่รู้สึกว่ามุกเขามันช่างไม่ช่วยให้มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ภาวินทร์ยิ้มเก้อยกมือเกาศีรษะ แล้วหัวเราะแผ่ว เธอเลยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นท่าทีเป็นมิตรของชายผู้นี้“ไม่ทำงานเหรอครับ เป็นคนใช้ไม่ใช่เหรอ” แววตาคนถามกำลังจดจ้องไปยังลำคอ คิ้วเริ่มขมวด รอยจ้ำแดงตรงนั้น มันไม่ปกติเอาเสียเลย“เอ่อ... ฉันทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว หลบเลี่ยงสายตาด้วยการเมินทางอื่นแทน ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรทั้งสีหน้า ทั้งแววตา มีเพียงความกังวลผสานความเศร้า ไม่เข้าใจมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วรอยแดงนั้น ไม่บอกก็พอรู้ว่ามันถูกทำขึ้นมาแน่นอน ภาวินทร์ขบกรามแน่น หัวใจสั่นไหว“ผมมาที่นี่เจอคุณครั้งที่สองแล้ว พอจะบอกได้ไหมว่าคุณชื