ป้าชม้อยถูกดันออกนอกห้อง ประตูปิดลง เธอไม่อยากให้ใครเขามา จีน่าอันตรายเกินไป คนถูกเหลี่ยงกำมือแน่นกัดริมฝีปากจนเลือดซึม ลุกยืนจ้องมอง“แกกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ อีสารเลว!” ไม่พูดเปล่า จีน่ากวาดตามองรอบห้อง เดินพล่านลมหายใจหนักหน่วงเพล้ง!โคมไฟหัวเตียงถูกเหวี่ยงมา มันแตกตรงปลายเท้าเธอ ญรินดาตระหนกตกใจ รีบกระโจนหนีเมื่อเครื่องสำอาง และของในห้องถูกขว้างมาเป็นระยะๆ“นังร่าน ฉันไม่มีวันปล่อยแกไป!”“หยุดนะคุณจีน่า คุณบ้าไปแล้วหรือไง!” คนตัวเล็กตวาดลั่นแรงโทสะทำให้อีกฝ่ายไม่ฟังเสียง เรือนร่าง หน้าตาเรียกความต้องการเพศตรงข้ามเช่นนี้ มีหรือธีภพจะปล่อยไว้ เกินเลยไปขนาดไหน กี่ครั้งที่นอนด้วยกัน โดยที่เธอไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเขาคิดแตะต้อง มันเจ็บปวด จับที่วางกระดาษดวงตาเบิกกว้างเหวี่ยงออกไปผลั่ก!“โอ้ย!” น้ำตาเริ่มไหลริน เมื่อมันลงตรงจุดเดิมที่เคยเกิดอุบัติเหตุ แผลยังไม่หายดีนัก เลือดไหลนองออกมา มันมากกว่าเดิมและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนโดนจีน่าหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ เดินปรี่เข้าหา คนโดนกระทำทรุดกายยกมือกุมศีรษะตัวเอง หยุดยืนตรงหน้าศัตรูหัวใจ แล้วกระชากคอเสื้อให้ลุกยืนเผชิญหน้า“รู้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินางแบบสุดฮอตรีบเร่งฝีเท้าออกจากช่องทางผู้โดยสาร ข่าวมาแรงตามการรายงานของสาวใช้ในบ้านธีภพ ทำเอาเธอร้อนรนยิ่งกว่าสิ่งใด ร่างสูงโปร่งกระแทกก้นลงบนเบาะรถส่วนตัว ให้คนขับพาไปยังจุดหมาย โดยไม่คิดแวะที่ไหน แม้กระทั่งกลับคอนโดตนเอง ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอถึงที่นั้น รั้วบ้านเปิดออกรถเคลื่อนผ่านสวนหย่อมดวงตาเรียวหรี่มอง ภาพหญิงสาวกำลังเล่นกับสุนัขสนุกสนาน พอได้ยินเสียงรถเลยหันมามอง เห็นลุกยืนเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน พอรถจอดเทียบด้านหน้าจีน่าเปิดประตูลงแล้ววิ่งเข้าไปข้างในทันที สาวใช้และคนงานพากันตระหนกตกใจ แน่ใจว่าต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่นอนญรินดาเดินขึ้นไปชั้นบน ไม่อยากเผชิญหน้ากับแขกของเขาอีกแล้ว เธอกลัวเกิดปัญหาแบบรอบคุณภาวินทร์ จีน่าก้าวขึ้นบันไดตรงดิ่งไปยังห้องของชายที่ตนหมายปอง จับลูกบิดเปิดประตูออกในทันทีแอด....คนในห้องชะงักลุกยืนจ้องมองผู้มาเยือน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกัดแน่น ญรินดายืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ดวงตาผู้หญิงคนนั้นดุดัน น่ากลัว ราวกับต้องการฆ่าเธอให้ตาย“เธอมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง!” นางแบบสาวตวาดถาม แววตาวาวโรจน์“ฉะ...ฉัน” หญิงสาวอึกอัก“ต
ธีภพปล่อยเพื่อนเป็นอิสระในทันที ถลาเข้าประคองคนเจ็บ ภาวินทร์จ้องมองภาพนั้น คนอย่างไอ้เพื่อนตัวดีเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงงั้นเหรอ“ริน ริน ผมขอโทษ!” ละล่ำละลักบอก มือไม้สั่นเทา ไม่กล้าแตะเกรงคนตัวเล็กจะเจ็บมากกว่าเดิมภาวินทร์ถลาคิดเข้ามาช่วยอีกคน แต่บอดี้การ์ดกันไว้ ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องมอง แววตาไม่พอใจ“ผมว่าคุณกลับไปดีกว่านะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจองเจ้านายผมกับผู้หญิงของเจ้านาย คุณไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้” อยุทธ์บอกเสียงเรียง สีหน้าเยือกเย็นคนถูกไล่กัดฟันแน่น “อยุทธ์ นายเคยเป็นทหารมาก่อน นายน่าจะรักษาความยุติธรรม แล้วทำไมถึงทำเรื่องน่าทุเรศแบบนี้!”“ตรงไหนที่เรียกว่าทุเรศ ในเมื่อคุณรินเองเธอบอกคุณไม่ใช่เหรอว่าเต็มใจอยู่ที่นี่”ภาวินทร์หาคำมาถกเถียงไม่ได้อีก“ได้... ฉันกลับก็ได้” เขาตวัดมองเพื่อน “ธีภพ ฉันขอเตือนให้แกปล่อยคุณรินไป ถ้าแกไม่ไปสักวันแกต้องเสียใจ ไม่ใช่เพราะฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่แกต่างหากที่จะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำ” ตัดบทเสร็จเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกจากรั้วบ้านธีภพนิ่งเงียบ จ้องมองน้ำตาคนเจ็บไหลริน เขาจะเจ็บปวดจากเรื่องอะไร ญรินดาไม่มีทางทำให้คนอย่างเขาเจ็บ
เสียงรถแล่นเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วจอด ญรินดาชะเง้อมองเมื่อประตูเปิดเห็นคนก้าวลงหน้าตาคุ้นเคย แต่เขาไม่ได้เข้าด้านในกลับเดินตรงมายังสวนหย่อมซึ่งเธอกำลังเล่นกับสุนัขอยู่ ภาวินทร์ระบายยิ้มเมื่อเห็นหน้าคนสวย เขาหยุดยืนตรงหน้า“สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่เหรอ” ชายหนุ่มเริ่มทักทายก่อน“เล่นกับปาท่องโก๋ค่ะ”“ปลาที่ไหนครับ นี่มันสุนัขนะ” เขาแสร้งเย้าคนตัวเล็กเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ขำแค่รู้สึกว่ามุกเขามันช่างไม่ช่วยให้มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ภาวินทร์ยิ้มเก้อยกมือเกาศีรษะ แล้วหัวเราะแผ่ว เธอเลยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นท่าทีเป็นมิตรของชายผู้นี้“ไม่ทำงานเหรอครับ เป็นคนใช้ไม่ใช่เหรอ” แววตาคนถามกำลังจดจ้องไปยังลำคอ คิ้วเริ่มขมวด รอยจ้ำแดงตรงนั้น มันไม่ปกติเอาเสียเลย“เอ่อ... ฉันทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว หลบเลี่ยงสายตาด้วยการเมินทางอื่นแทน ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรทั้งสีหน้า ทั้งแววตา มีเพียงความกังวลผสานความเศร้า ไม่เข้าใจมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วรอยแดงนั้น ไม่บอกก็พอรู้ว่ามันถูกทำขึ้นมาแน่นอน ภาวินทร์ขบกรามแน่น หัวใจสั่นไหว“ผมมาที่นี่เจอคุณครั้งที่สองแล้ว พอจะบอกได้ไหมว่าคุณชื
ใบหน้าโน้มหาแนบริมฝีปากจนร่างบางอ่อนระทวย ลิ้นร้อนหยอกเย้าควานหาความหวาน มือสองข้างบีบเคล้นทรวงอกซึ่งมีบราเซียปกปิด แล้วเอื้อมไปยังด้านหลังปลดตะขอออก มือใหญ่ดันบราเซียจนดอกบัวโผล่ออกมาท้าสายตา ละริมฝีปากเลื่อนลงมาดูดกลืนยอดแข็งชูชัน เลียวนกระดกลิ้นหยอก“อ๊า อ๊า คะ...คุณธีภพ ฉะ...ฉันกลัวคนมาเห็น” คนตัวเล็กพยายามร้องห้าม กัดริมฝีปากแน่น แต่ไม่อาจทำอะไรได้เลยธีภพไม่ได้สนใจเสียงทัดทาน เลื่อนมือลงสู่ใจกลางผ่านกางเกงในผ้าลูกไม้สีเดียวกัน แหวกแล้วใช้นิ้วเรียวยาวแยกกลีบออก ตวัดละเลงจนน้ำหวานฉ่ำทั่ว คนตัวเล็กหนีบเรียวขาเพราะอับอาย แต่ร่างกายกลับทรยศไม่ฟัง ไม่นานเรียวขานั้นแยกออกอีกครั้ง พรั่งพร้อมให้เขาใช้นิ้วช่วยให้เธอพบความสุขสม“อ๊ะ อ๊า อ๊า อื้อ อื้อ ฉะ...ฉัน สะ...เสียวค่ะ” เธอร้องบอกเสียงกระเส่า“เธอยังต้องเจออะไรที่เสียวกว่านั้นอีกญรินดา นี่คือการทำโทษฐานที่เธอโกหกเพื่อนฉัน”ร่างบางถูกดันให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ศาลา ธีภพย่อกายลงจั๊มสูทถูกรูดออกมาพร้อมกับอันเดอร์แวร์ แสงจันทราสาดส่องเข้ามา เผยให้เห็นภาพอันเลือนราง ร่างงามนอนบนไม้ศาลาสีขาวนวล เรือนร่างงดงาม น่าเชยชมไปทุกส่วน ยิ่งเปลี่ยนสถานที
ชายหนุ่มชะงักมองเพื่อนแววตาเครียดขึ้น ถึงว่าพักหลังวฤญาติดต่อหาเขาบ่อย แถมยังชวนไปนั้นไปนี่ พอรู้ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนล้ำเข้ามาหาเลยตัดสินใจปฏิเสธทุกอย่าง ไม่นานเธอก็เงียบหายไป รู้สึกว่าจะได้เกือบเดือนแล้วละมั้ง ก็คิดว่ากลับไปหาเพื่อนที่ไหนได้ ดันเลิกกันซะแล้ว“ก็ดีแล้ว แกได้หาแฟนใหม่ น่ารักๆ สดๆ ใสๆ แบบที่แกชอบไง” ธีภพเย้าพอฟังคำเพื่อน ภาวินทร์ยิ้มกว้าง“ว่าแต่ฉันมีอะไรจะถามสักหน่อย”ธีภพขมวดคิ้ว “อะไรวะ”“ผู้หญิงที่อยู่ตรงสวนหย่อม เป็นสาวใช้คนใหม่เหรอ” เขาบอกแล้วเดินไปตรงหน้าต่างเจ้าของบ้านลุกยืนก้าวตามไปดู เห็นร่างบางกำลังวิ่งเล่นกับสุนัขอย่างสนุกสนาน เขาเผลอยิ้มจนภาวินทร์สังเกตเห็นความผิดปกติ“ว่าไงวะไอ้ธีภพ ตกลงสาวใช้คนใหม่บ้านแกเหรอ” ภาวินทร์ถามย้ำเขาหันมามองเพื่อน “ใครบอกวะว่าเป็นคนใช้บ้านฉัน”“ก็เจ้าตัวบอกเอง”คนฟังชักสีหน้าไม่พอใจ นี่เธอกล้าโกหกแบบนี้เหรอ หรือเพราะต้องการอ่อยคนอื่นอีก“ใช่ สาวใช้บ้านฉันเองแหละ!” ธีภพประชดด้วยความไม่พอใจ ทิ้งกายลงบนเก้าอี้ทำงานอีกครั้งภาวินทร์ก้าวตามมาแล้วยิ้มกว้าง “ฉันจีบได้ไหมวะ สเป็คเลย”คนถูกถามตวัดสายตามองสีหน้าไม่พอใจ“ไมได้!”“ทำไมวะ แ