Home / รักโบราณ / สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง / ตอนที่ 3 ความตายและจุดเริ่มต้น

Share

ตอนที่ 3 ความตายและจุดเริ่มต้น

last update Last Updated: 2024-12-04 12:43:12

 หวังฉีหลินในยุค 2021 จากไปแล้วอย่างไม่เต็มใจ จะให้เต็มใจได้ยังไง รู้อยู่ว่าตัวเองต้องตายไปแต่มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอแถมยังตายแบบเจ็บปวดศพของเธอเองก็คงจะเละไม่มีชิ้นดี ยังดีที่เธอเตรียมของเอาไว้ครบแล้วโดยเฉพาะยารักษาโรคต่าง ๆ ยาสามัญขั้นพื้นฐานก็ซื้อมาจนครบ

แล้วเงินที่เหลือนี่ล่ะเธอยังไม่ได้บริจาคเลย แบบนี้จะใจร้ายกับเธอมากเกินไปแล้ว ตายก็ตายก่อนกำหนด ตายแบบอนาถศพไม่สวยไม่พอยังเหลือสิ่งที่อยากทำอยู่ เครื่องสำอางยังไม่ได้ซื้อเลยนะคิดแล้วมันน่าแค้นใจอย่าให้เจออีกนะตาแก่

เบื้องบนตาแก่ที่ฉีหลินคาดโทษยืนดูเธอก่นด่าด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ใครจะไปรู้ได้ว่าจะมีเทพเกเรทะเลาะกันจนทำให้ไปเผลอทำเส้นชะตาคนอื่นขาดกัน ดีเท่าไหร่ว่าเป็นหวังฉีหลินที่เหลือเวลาอยู่ไม่เท่าไหร่ แต่หากเป็นคนอื่นไม่รู้จะแก้ไขยังไงดีแล้ว

“เป็นเพราะพวกท่าน ท่าน ท่าน แล้วก็ท่าน ทำให้นางก่นด่าข้า พวกท่านอายุเท่าไหร่กันแล้วทำไมยังทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระอยู่อีก”

“ท่านจะบ่นทำไม ไหน ๆ อีกไม่กี่วันนางก็จะตายอยู่แล้ว ท่านเองไม่ใช่รึไงที่ทำดวงวิญญาณนางหลุดลอยไปน่ะกว่าจะตามหานางพบกี่พันปีกัน ยังจะมาโทษพวกข้าทำไม”

“พวกท่านนี่มันเป็นพวกหน้าหนาจริง ๆ ทำผิดแล้วไม่ยอมรับ ข้าทำดวงวิญญาณนางหลุดลอยไปก็จริงตอนนี้ข้าได้ชดให้ให้นางแล้ว แต่พวกท่านเล่าจะชดใช้ให้นางยังไง ข้าจะไปบอกนางว่าที่นางตายก่อนเวลามันเป็นเพราะพวกท่านนั่นแหละ นางจะได้ก่นด่าสาปแช่งพวกท่านให้อายุพวกท่านลดลง”

“เห้ย ๆ อย่านะ อย่าทำแบบนั้นเลยน่ะ เอาแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเงินที่นางมีอยู่ข้าจะเปลี่ยนให้เป็นเงินในที่ที่นางกำลังจะไปดีหรือไม่”

“ข้าก็จะช่วยขยายมิติของนางให้กว้างใหญ่และแถมน้ำพุวิญญาณให้อีกด้วยเลยเอ้า”

“ข้าก็จะส่งตัวช่วยไปให้นางก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกขอข้าคิดก่อนว่าจะส่งตัวอะไรไป”

“เหอะก็แค่นี้ ทำผิดก็ต้องชดใช้ จะมาให้ข้าออกหน้ารับผิดแทนทุกเรื่องไม่ได้หรอก ทีหน้าทีหลังอย่าได้ทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ อีก หากมีครั้งหน้าข้าจะบอกท่านมหาเทพ”

ด้วยเหตุนี้ฉีหลินจึงได้ของแถมมาอีกโดยที่นางไม่รู้ตัว และเงินในโลกของเธอได้กลายเป็นเงินของอีกโลกที่เธอกำลังจะไปทันที 

ทางด้านตระกูลหยางที่ตอนนี้กำลังมีปากเสียงกันเพราะสะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองบ้านหลักที่ขึ้นเขาไปขุดผักป่าและบังเอิญเจอกับหวังฉีหลินสะใภ้ใหญ่บ้านรอง 

ฉีหลินแต่เดิมร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้สามีของนางไปทำงานสร้างบ้านและตกจากหลังคาบ้านเศรษฐีในเมืองบาดเจ็บสาหัสกลับมาและบ้านใหญ่อย่างป้าสะใภ้ไม่ยอมจ่ายเงินค่าหมอค่ายา

พ่อสามีที่ปกติไม่มีปากมีเสียงแต่เพื่อลูกชายของตัวเองจึงได้ไปทวงถามเงินกับพี่ชายของตัวเองที่เป็นผู้นำตระกูลอยู่ตอนนี้ เงินส่วนกลางมีไว้ใช้จ่ายแต่เหตุใดจึงไม่ยอมจ่ายค่าหมอที่มารักษาลูกของตน

แต่เมื่อไปทวงถามกลับบอกว่าเงินส่วนกลางมีไม่พอเพราะตอนนี้พวกเขาทำงานได้เงินน้อยในบ้านมีกี่ปากท้องกันทั้ง ๆ ที่เงินที่หามาได้พี่สะใภ้ผู้นี้เป็นคนเก็บเอาไว้ทั้งหมดนี่นางจะบีบให้ครอบครัวพวกเขาตายหรืออย่างไร

เมื่อไม่มีเงินจึงทำได้เพียงแค่หายาสมุนไพรในป่ามาต้มให้ลูกชายเพื่อบรรเทาไปก่อน ฉีหลินที่สงสารสามีของนางไหนจะลูก ๆ ของนางอีก อีกทั้งน้องสามีก็ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ 

หวังฉีหลินพาน้องชายและน้องสาวสามีเข้าป่าหาของป่า ในตอนที่นางพบโสมคนและขุดมันขึ้นมาได้ สองสะใภ้บ้านใหญ่ก็มาเจอนางพอดีและเกิดการยื้อแย่งกันจึงเป็นเหตุให้ฉีหลินตกลงไปในร้องเขาหัวกระแทกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ในตอนที่ยื้อแย่งกันอยู่นั้นน้องชายน้องสาวของสามีนางมาเจอพอดี จึงได้ช่วยกันผลักและแย่งโสมกลับมาได้ จึงสร้างความไม่พอใจให้สองสะใภ้บ้านใหญ่เป็นอย่างมาก

เรื่องราวทั้งหมดหวังฉีหลินที่มาจากอนาคตกำลังมองดูอยู่ด้วยความเคียดแค้น ช่างชั่วช้าเสียจริง คนพวกนี้หาดีไม่ได้ ชั่วช้าทั้งบ้าน แต่เธอจะทำอะไรได้เธอยังคงเป็นวิญญาณล่องลอยและเฝ้ามองดูอยู่เท่านั้น

“พวกเจ้า กล้าดียังไง เอาของของพวกข้าคืนมานะ”

“ของพวกท่านเหรอ ท่านแย่งมันจากพี่สะใภ้ของข้าและผลักนางตกเขาข้าจะไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านให้แจ้งทางการ”

เจ้าก็ลองดูสิ เจ้าคิดว่าพี่สะใภ้เจ้ามีปัญญาหรือ เอาโสมมาให้พวกข้า"

“ไม่ให้ อยากได้ก็ไปฟ้องร้องเอาสิเจ้าคะ”

“หนอยนังเด็กปากดี เพี๊ยะ” สะใภ้ใหญ่ฟาดมือเข้าที่หน้าของหยางเยว่เล่ออย่างแรง

“เอามานี่ น้ำหน้าอย่างพวกเจ้าไม่สมควรมีของล้ำค่าเอาไว้ครอบครองหรอก” สะใภ้รองกระชากโสมคนออกจากมือหยางเยว่เล่อ ถ้ายอมให้ตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องเจ็บตัวหรอก

ส่วนหยางเฟยจินที่ลงไปช่วยพี่สะใภ้ที่ตกลงไปในร่องเขาขึ้นมาด้วยความทุลักทุเล พอพาร่างของพี่สะใภ้ขึ้นมาถึงก็เห็นน้องสาวกุมหน้าร้องไห้อยู่

“เยว่เล่อใครทำอะไรเจ้า สองคนนั้นรุมรังแกเจ้าใช่หรือไม่ ”

“พี่รอง พวกนั้นแย่งโสมของพี่สะใภ้ไปแล้วเจ้าค่ะ พวกนางเอาของที่พี่สะใภ้หามาด้วยความยากลำบากไปแล้ว ทำไมคนพวกนั้นต้องทำกับครอบครัวของเราเช่นนี้”

“พวกนั้นคงเห็นว่าพี่ใหญ่บาดเจ็บและหาเงินเข้าบ้านไม่ได้และไม่จำเป็นต้องเกรงใจพวกเราซึ่งปกติพวกเขาก็ไม่เห็นหัวบ้านสองอย่างพวกเราอยู่แล้วถึงพวกนางรังแกเราพี่น้องแล้วอย่างไร ลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ใหญ่ย่อมถือหางพวกเขาอยู่แล้ว เผลอ ๆ ยังเห็นดีเห็นงามไปกับพวกเขาด้วย”

“คงเป็นเช่นนั้น พี่รองรีบเดินเถอะเจ้าค่ะ พี่สะใภ้เลือดออกเยอะมาก พวกนางสองคนใจดำอำมหิตผลักพี่สะใภ้ตกร่องเขาเพียงเพราะต้องการแย่งชิงโสมของนาง ถ้าหากเรามาไม่ทันไม่เพียงแต่จะเสียโสมไปเท่านั้น พี่สะใภ้จะเป็นเช่นไรข้าไม่อยากคิด”

"เกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้ของเจ้ากัน เยว่เล่อทำไมพี่สะใภ้ของเจ้าถึงอยู่ในสภาพแบบนี้"

"ฮึก ท่านแม่ พี่สะใภ้ถูกสะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองบ้านท่านลุงผลักตกร่องเขาเจ้าค่ะ แถมพวกนางยังแย่งเอาโสมของพี่สะใภ้ขุดได้ไปด้วยเจ้าค่ะ"

"ทำไมพวกเขาถึงร้ายกาจได้เพียงนี้ แล้วมีใครไปตามหมอหรือยังพี่รองของเจ้าไปไหน"

"พี่รองกำลังไปตามหมอเจ้าค่ะ"

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ตื่นสิท่านแม่ ฮึก ฮือ ท่านแม่” สองแฝดประสานเสียงกันร้องไห้ดังลั่นบ้าน

ทางด้านบ้านสายหลักที่ตอนนี้นางหลินและสองลูกสะใภ้กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับโสมที่แย่งมาจากหวังฉีหลินว่าจะนำไปขายที่ไหนดี

“ท่านแม่เจ้าคะหากว่าบ้านท่านอามาโวยวายเรื่องนังฉีหลินล่ะเจ้าคะ พวกเราจะทำเช่นไรดีเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่

“ เหอะ มาโวยวาย โวยวายเหรอโวยวายเอาอะไร น้ำหน้าอย่างน้องรองน่ะหรือจะกล้าอย่าลืมสิว่าผู้นำตระกูลตอนนี้คือท่านพ่อของพวกเจ้า”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่ ข้าแค่กลัวว่าท่านอาจะมาโวยวายเดี๋ยวจะหาว่าข้ารังแกลูกสะใภ้บ้านสอง”

“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่ต้องกังวลข้าจัดการเอง ตอนนี้พ่อของพวกเจ้ายังอยู่ที่ทุ่งนาส่วนอารองของพวกเจ้าก็คงอยู่ที่ทุ่งนาหวังว่าจะไม่มีใครคาบข่าวไปบอกหรอกนะ”

“เช่นนั้นข้าไปทำอาหารไปส่งที่ทุ่งนาก่อนนะเจ้าคะ ไปกันเถอะสะใภ้รอง”

ทางด้านวิญญาณของหวังฉีหลินที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ก่นด่าบ้านสายหลักถึงความชั่วที่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ

ทางด้านหยางเฟยเทียนที่ตอนนี้นอนป่วยไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ได้แต่นอนมองภรรยาของตัวเองนอนไม่ได้สติอยู่บนเสื่อที่ปูอยู่บนพื้นห้อง

เขาได้แต่เสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือภรรยาได้ ยามนี้ครอบครัวกำลังลำบากเขาเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้หากว่าภรรยาของเขาเป็นอะไรไปตัวเขาเองยามนี้ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เมื่อมองดูลูกน้อยร้องไห้ใจของคนเป็นพ่อนับว่าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“หลีกทางให้ข้าได้ดูคนเจ็บหน่อย”

“ท่านหมอรบกวนท่านแล้วเจ้าค่ะ ช่วยดูลูกสะใภ้ของข้าด้วย โปรดช่วยนางด้วยเจ้าค่ะ”

“เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วข้าจะทำให้เต็มที่”

“เฟยจิน ไปตามพ่อของเจ้ามาวันนี้แม่จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว” นางฟางเหนียงบอกลูกชายทั้งน้ำตา

“ขอรับท่านแม่ ข้าเองก็จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ข้าเห็นกับตาว่าพวกนางสองคนผลักพี่สะใภ้”

ฉีหลินที่เป็นวิญญาณมองดูคนเหล่านี้ด้วยความสงสารหากเป็นเธอแล้วล่ะก็เธอจะไม่ยอมให้สองคนนั้นมารังแกเอาง่าย ๆ คนชั่วช้าแบบนี้ร้ายมาจะต้องร้ายกลับ กตัญญูอะไรกันคนแบบพวกนั้นสมควรจะได้รับหรือ

“เจ้าจะดูอีกนานไหม ทำไมยังไม่รีบเข้าร่างของเจ้าไปอีก” ชายชราผู้ทำงานผิดพลาดได้โผล่มาอย่างเงียบ ๆ

“อ๊ะ คุณตา มาก็ดีแล้วค่ะไหนว่าอีก 7 วันไงคะ แล้วทำไมหนูตายก่อนเวลาหนูยังไม่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำเลยนะ แถมตายแบบศพไม่สวยด้วยบอกมานะคะว่าจะชดใช้ให้หนูยังไง ทำไมไม่รักษาคำพูดล่ะคะคุณตา”

“ใจเย็น ๆ นางหนู เอาเป็นว่าข้าขอโทษตอนนี้ข้าได้ชดเชยให้เจ้าแล้ว มิติของเจ้ากว้างใหญ่ขึ้นและแถมน้ำพุจิตวิญญาณให้เจ้าด้วย น้ำพุจิตวิญญาณมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้ เจ้าพอใจหรือยัง”

“ยังค่ะยังไม่พอแล้วเงินล่ะ เงินน่ะส่งหนูมาในที่แบบนี้คุณตาก็เห็นแล้วนี่พวกคนชั่วนั้นยึดเงินไปหมดอะไรก็เข้าส่วนกลาง ๆ มันใช่ที่ไหนแบบนี้มันเอาเปรียบกันชัด ๆ ทำไมคนพวกนี้กตัญญูไม่ลืมหูลืมตา ทำไมไม่แยกครอบครัวกันเล่า ไม่ได้ดั่งใจเลย”

“เอาเถอะ ๆ เจ้าก็ไปจัดการเองก็แล้วกัน ส่วนเงินของเจ้าที่เหลือข้าได้เปลี่ยนเป็นเงินของโลกนี้ให้แล้วมันคงจะพอช่วยเจ้าได้”

“ขอบคุณค่ะ มีเท่านี้หรือคะ”

“เอาไว้ถึงเวลาอันสมควรข้าจะส่งตัวช่วยมาให้นะ ”

“แล้ววิญญาณของฉีหลินคนเดิมล่ะคะคุณตาจะทำยังไง”

“นางหมดหน้าที่แล้วในโลกนี้นางเพียงแค่ทำหน้าที่รักษาร่างกายของเจ้าเอาไว้เท่านั้น ในเมื่อเจ้ากลับมาแล้วก็ถือว่าหมดหน้าที่ของนาง”

“อ่อ ค่ะ ค่อยยังชั่วหนูไม่อยากมาแย่งร่างกายของใครนะคะ มันรู้สึกไม่ดี”

“ไป ๆ ไปเข้าร่างของเจ้าได้แล้ว จะมาเสียเวลาพูดอะไรมากมาย”

ชายชราผลักฉีหลินเข้าร่างและจากไปทันที พอดีกับที่หมอตรวจชีพจรของนางเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าคนเจ็บมีอาการอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมากนอกจากนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

“วางใจเถอะลูกสะใภ้เจ้าไม่เป็นไรมาก ให้นางนอนพักมาก ๆ นางเสียเลือดไปเยอะให้นางกินอาหารบำรุงร่างกายและกินยาไม่กี่เทียบก็หายแล้ว”

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านหมอ ค่ารักษาเท่าไหร่เจ้าคะ”

“รวมค่ายาด้วยก็ 3 ตำลึง พวกเจ้ามีเมื่อไหร่ค่อยเอาไปจ่าย ข้าเข้าใจว่าตอนนี้ครอบครัวของเจ้ากำลังลำบาก แถมพี่สะใภ้ของพวกเจ้าก็เห็นแก่ตัวยังกับอะไรดี”

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านหมอ”

หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไปหมดแล้วหวังฉีหลินได้ลืมตาขึ้นมาถึงแม้จะมีอาการปวดหัวอยู่บ้าง แต่ความแค้นครั้งนี้เธอจะต้องเอาคืนให้สาสมในเมื่อตอนนี้เธอคือหวังฉีหลินที่ไม่เหมือนหวังฉีหลินคนก่อน รอก่อนเถอะพวกเจ้าทั้งหลาย

“พวกคนชั่วช้า ข้ามาแล้ว เตรียมตัวเอาไว้ให้ดี ฉีหลินคนนี้จะตอบแทนพวกเจ้าอย่างสาสม” หลังจากพูดพึมพำเสร็จก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 130 ความสุข

    ในตอนที่ประมุขมารได้ตายไปพร้อมกับดวงจิตที่แตกสลาย แต่ทว่ากลับไม่ได้แตกสลายไปทั้งหมด ยังมีดวงจิตอีกเสี้ยวได้หลุดลอยไปเกิดใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง เกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถระลึกชาติได้ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เพียงใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ประมุขมารร่ำร้องขอความเมตตาจากสวรรค์ก่อนที่เข้าจะแหลกสลายไปหวังฉีหลินและเฟยเทียนกลับถึงหมู่บ้านป่าหมอก ทุกอย่างนางไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ในที่สุดประมุขมารก็คิดได้เสียที และหวังว่าพรที่นางและสามีร้องขอกับท่านมหาเทพนั้นจะทำให้ประมุขมารไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขและมีภรรยาที่รักเขามากแล้วก็ขอให้ทั้งสองคนเป็นคู่ด้ายแดงทุกภพทุกชาติไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางและสามีทำได้หลังจากที่หมดปัญหา หมดสงคราม ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แคว้นหลงอยู่ในยุคที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และข่าวการกลับมาขององค์ชายแปดผู้หายสาบสูญ ตอนนี้ถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง ที่ดินศักดินาหมู่บ้านป่าหมอกและหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสามหมู่บ้าน หวังฉีหลินทิ้งงานให้ลูกชายทั้งหลายแล้วหนีไปท่องเที่ยวกับสามี ทั้งสองคนออกไปท่องโลกกว้าง และมักจะนำผลไม้หรือพืช

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 129 การตัดสินใจของประมุขมาร

    หลังจากที่ประมุขมารได้รับสารท้ารบจากเฟยเทียน ทำให้เขาได้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนบุรุษผู้กระหายสงครามและพร้อมจะทำลายศัตรูตรงหน้าให้ย่อยยับได้ทุกเมื่ออย่างแม่ทัพสวรรค์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยถึงแม้ในชาติภพนี้เขาจะลงมาจุติในดินแดนของมนุษย์แต่ความสามารถของเขายังติดตัวมานั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงแม้มหาเทพจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกเขยสักเท่าไหร่ แต่มหาเทพผู้รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดย่อมไม่มีทางให้นางลำบากส่วนมารอย่างตัวเขาเล่าทำอันใดได้บ้าง เป็นเขาเองที่ไปตกหลุมรักนางข้างเดียว เป็นเขาเองที่ยึดมั่นถือมั่น เป็นเขาเองที่ไม่ยอมปล่อยวาง เขารู้ตัวเองดีด้วยพลังของตัวเขาเองยังไม่ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด ต่อให้สู้จนตัวตายก็ไม่สามารถเอาชนะทั้งสองได้ถึงแม้จะเอาชนะแม่ทัพสวรรค์ได้แล้วธิดามหาเทพจะชายตาแลเขาหรือก็ไม่ นางไม่เพียงไม่ชายตาแลหากแต่นางคงแก้แค้นเขาที่ทำให้สามีของนางต้องมีอันเป็นไป นอกจากจะไม่ได้ความรักแล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือความเกลียดชังต่างหากที่นางจะหยิบยื่นให้เขาแล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้ามืดตามัวเช่นนี้อยู่ถึงแสนปี ประชาชนเผ่ามารล้วนล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ น้องชายคนเดียวของเขาที่เฝ้าเตือนสติเขาอยู่ตลอด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 128 เดินทางไปเผ่ามาร

    เวลาผ่านไปแล้วนับเดือน ตอนนี้กองกำลังที่ฉีหลินฝึกฝนขึ้นมาก็ออกจากด่านกักตนกันทุกคนแล้ว เวลานี้ฉีหลินกับสามีพร้อมด้วยเหล่าสัตว์เทพพร้อมไปเยือนเผ่ามารแล้วเฟยเทียนเองก็เห็นสมควรว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ หลังจากจบปัญหานี้ได้เท่ากับภารกิจของภรรยาได้เสร็จสิ้นลงเช่นกัน ต่อจากนี้ไปพวกเขาสามีภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียทีหลังจากกำหนดวันเคลื่อนพลได้แล้วฉีหลินก็ให้ทุกคนได้พักผ่อนให้เต็มที่ และเตรียมข้าวของที่จำเป็นใส่ลงในแหวนมิติให้เรียบร้อย ทั้งอาหารการกิน ยารักษาต่าง ๆ ทุกคนต่างเตรียมไปให้พร้อมสรรพ ด้วยศึกครั้งนี้อีกฝ่ายคือเผ่ามารไม่รู้ว่าจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดไหน แต่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวนายท่านและนายหญิงว่าจะนำพาพวกเขากลับบ้านมาอย่างปลอดภัยเฟยจิน เฮ่ออี และฮั่นเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการรบในครั้งนี้ ลูก ๆ ของเฟยเทียนทุกคนก็เช่นเดียวกัน ส่วนสัตว์เทพที่คอยดูแลความปลอดภัยที่หมู่บ้านป่าหมอกมีเพียงต้าเซี่ยกับเสี่ยวเสวียนอู่เพียงสองตัวเท่านั้นส่วนเสี่ยวหลาง เสี่ยวหู่ เสี่ยวเฮย เสี่ยวรุ่ยจื่อ และพี่ใหญ่อย่างจินหลงล้วนเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ คนที่กระตือรือร้นมากที่สุดคื

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 127 ตอนพิเศษ วันว่าง ๆ ของไป๋อี้ถัง

    ไป๋อี้ถังผู้โสดสนิท ครองตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ประหนึ่งนักพรตผู้ทรงศีล อีกทั้งรังเกียจสตรีมากเล่ห์ หลังจากออกจากด่านกักตนมา เขาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนลูกศิษย์ในสำนัก ไม่มีภรรยาและบุตรให้ดูแล เวลาทั้งหมดที่มีนอกจากฝึกฝนพลังปราณแล้ว เวลาส่วนที่เหลือเขาจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วยความเข้มงวดในเวลาต่อมา อาจารย์ใหญ่ไป๋อี้ถังจึงมีฉายาว่า อาจารย์ใหญ่จอมโหด หากใครไม่ทำการบ้านมาส่งก็จะโดนลงโทษให้ไปวิ่งรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังจะต้องทำการบ้านในครั้งหน้ามากกว่าคนอื่นสองเท่าเท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดอีก 100 จบ และไปเก็บมูลทำความสะอาดคอกของสือเอ้อร์กับสืออีแทนคนงานในไร่ แถมยังต้องถูกเจ้าสือเอ้อร์กับสืออีกลั่นแกล้งจนหน้าทิ่มกองอึอีก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไม่ทำการบ้านอีกเลยวันนี้เป็นวันที่ไป๋อี้ถังว่างมาก มากที่สุด วันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษา ไป๋อี้ถังจึงคิดว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง และหาซื้อพู่กันกับแท่นฝนหมึกเพิ่มเพราะเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้วจากนั้นเขาตั้งใจว่าจะชวนสหายทั้งสามของเขาไปด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครไปเพราะแต่ละคนต้องการอยู่กับภรรยาแ

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 126 วางแผนรับมือกับเผ่ามาร

    หลังจากที่เฟยเทียนกับฉีหลินเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านป่าหมอกพร้อมลูกชายและเหล่าสหาย หนึ่งเดือนให้หลังเฟยจินก็กลับมาพร้อมกับฮั่นเหวินและเฮ่ออี หลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน รวมถึงส่งรายชื่อหนอนให้กับเบื้องบนแล้ว ตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ ตอนนี้สงครามสงบลงแล้ว ทั้งสามจึงได้ยื่นหนังสือขอลาพักกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมบิดามารดาไป๋อี้ถังและสหายทั้งสามจะเข้าด่านกักตนเพื่อฝึกฝนในอีก 3 วันข้างหน้า โดยผู้ที่จะรับหน้าที่สั่งสอนศิษย์ในสถานศึกษาก็คือราชครูไป๋หย่งเต๋อที่เดินทางตามหลังเฟยจินได้เพียง 7 วันนอกจากไป๋หย่งเต๋อแล้วยังมีไป๋เจิ้นกั๋วเจ้ากรมอาญา เดินทางมาพร้อมกับไท่ปิงองครักษ์ประจำตัว นับเป็นการรวมตัวกันระหว่างองครักษ์เลยก็ว่าได้ เซียวหลางตัดสินใจแต่งงานและติดตามไป๋อี้ถัง ม่อถูเองก็เช่นเดียวกัน มีเพียงไท่ปิงเท่านั้นที่มีหน้าที่ดูแลไป๋เจิ้นกั๋วที่เมืองหลวงไท่ปิงเองก็อยากจะมีชีวิตเฉกเช่นสหายทั้งสองบ้าง เขาเองก็คงต้องเร่งฝึกองครักษ์ขึ้นมาใหม่เพื่อจะได้ทำหน้าที่แทนเขา ส่วนตัวเขาเองจะตามมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านป่าหมอกแห่งนี้ตามสหายทั้งสองคนวันนี้ฉีหลินเรียกประชุมหน่วยลับที่เป

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 125 สิ้นสุดสงคราม เดินทางกลับบ้าน

    เฟยเทียนพาภรรยามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านป่าหมอกทันที หลังจากจัดการทั้งสองแคว้นเรียบร้อยแล้ว และด่านสุดท้ายของภารกิจในครั้งนี้ก็คือจัดการกับเผ่ามารให้เด็ดขาด หากไม่กำจัดประมุขเผ่ามารเสียตอนนี้ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก มีเพียงกำจัดประมุขมารให้ได้เท่านั้นทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ตอนนี้มีข่าวส่งว่าอ๋องมารน้องชายเพียงคนเดียวของประมุขมารได้หนีออกจากเผ่ามารไปตั้งรกรากที่อื่นแต่เดิมอ๋องมารก็ไม่เห็นด้วยกับประมุขมารเรื่องยึดดินแดนมนุษย์ แต่ไหนเลยประมุขมารผู้เป็นพี่ชายจะยอมฟัง ในเมื่อมันเป็นความแค้นใจที่มีต่อธิดามหาเทพและสามี ต่อให้อีกนับล้านปีประมุขมารก็วางความแค้นในใจลงไม่ได้“ไม่รู้ว่าเจ้าสามแสบจะทำเรื่องปวดหัวให้ท่านพ่อกับท่านปู่มากมายเพียงใด โดยเฉพาะลูกสาวของท่านพี่ ป่านนี้ไม่ใช่พี่อี้ถังปวดหัวจนผมขาวหมดหัวแล้วหรือเจ้าคะ”“ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นกระมัง ลูกสาวของเราออกจะน่ารัก อีกอย่างพี่อี้ถังก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้เลยนี่นะ”“ท่านพี่ก็เข้าข้างนางตลอดล่ะเจ้าค่ะ อีกหน่อยนางก็เสียคนพอดี”“ไม่ใช่ว่านางกลัวท่านแม่อย่างเจ้าอยู่หรอกหรือ เอาน่าลูกยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ความ มีพวกต้าเซี่ยอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status