Home / รักโบราณ / สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง / ตอนที่ 2 ความลับของหินสีรุ้ง

Share

ตอนที่ 2 ความลับของหินสีรุ้ง

last update Last Updated: 2024-12-04 12:42:07

เช้าวันที่สองของวันหยุดหลังจากที่ฉีหลินมานอนที่สวนสมุนไพร เธอตื่นขึ้นมาด้วยความขุ่นมัวในใจและความคับแค้นใจ ความฝันในวันนั้นยังตามหลอกหลอน คนเราจะร้ายกาจได้ขนาดนั้นเชียวหรือ 

ฉีหลินคิดว่าหากมีใครมาทำเลวกับเธอเธอจะตอบสนองในแบบเดียวกันเพราะเธอถือว่าไม่อยากให้ใครทำเลวกับตัวเองก็อย่าไปทำเลวใส่ใคร เพราะถ้าหากกล้าที่จะทำจะต้องทำใจยอมรับผลที่ตามมาด้วย ไม่มีใครยอมถูกทำร้ายและโดนรังแกไปตลอดย่อมต้องหาทางตอบโต้และเอาคืนให้สาสมใจ

ในขณะที่ฉีหลินกินอาหารเช้าเสร็จแล้ววันนี้เธอสังเกตเห็นหินสีรุ้งที่ข้อมือมีสีเข้มขึ้นเหมือนกับว่ามันเปล่งประกายได้ เธอจึงใช้มืออีกข้างไปลูบที่หินสีรุ้ง

เมื่อฉีหลินลูบไปที่หินสีรุ้งในตอนนั้นเองมือข้างที่เธอใช้ลูบหินสีรุ้งนั้นได้จมหายเข้าไปในหินสีรุ้งก้อนนั้น ฉีหลินตกใจเป็นอย่างมากเธอรีบดึงมือกลับมาทันที

“นี่มันเรื่องอะไรกันนี่ หรือว่าเราจะตาฝาด แต่ไม่น่าจะใช่จะว่านอนไม่พอก็ไม่น่าใช่ เมื่อวานเรานอนแต่หัวค่ำแถมวันนี้ยังตื่นสายอีก ” ฉีหลินได้แต่พูดกับตัวเอง 

แต่เพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้คิดไปเองหรือมีอาการประสาทหลอนเธอจึงลูบที่หินสีรุ้งอีกครั้งและครั้งนี้ก็เป็นเช่นเดิม มือของเธอได้จมหายเข้าไปในหินสีรุ้งก้อนเล็กนั่นอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้

หลังจากพบเจอเหตุการณ์ที่น่าตกใจเธอตั้งสติและเอามือออกจากหินสีรุ้ง จากนั้นก็นั่งคิดหาเหตุผลว่าเพราะอะไรทำไมมือของเธอจึงจมเข้าไปในหินก้อนเล็ก ๆ ได้

ฉีหลินถอนหายใจออกมาจากนั้นเพ่งมองเข้าไปในหินสีรุ้งที่ข้อมือของตัวเธอเอง แต่เธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเธอพบว่าภายในก้อนหินเล็ก ๆ นั้นกลับมีห้องโถงกว้างขนาดหลายสิบเมตรและไม่แน่ว่ามันอาจจะกว้างเท่ากับบ้านหลังใหญ่ ๆ ที่มีเนื้อที่ขนาด 1 ไร่ เลยทีเดียว

“ตายล่ะหว่า นี่เราไปเก็บก้อนหินอะไรมาเนี่ย จะเกิดอะไรขึ้นกับเราหรือเปล่านะ หรือเราต้องเอาไปคืนที่เดิม จะทำยังไงต่อดี" 

ฉีหลินที่ตอนนี้เริ่มหวาดกลัวและทำตัวไม่ถูกว่าจะทำยังไงดี ทำไมหินก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือแต่ภายในกลับกว้างขวางเสียขนาดนั้นไปได้ แบบนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว หากเธอนำไปพูดให้คนอื่นฟังมีหวังได้ถูกคนกล่าวหาว่าเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ

“หรือว่ามันจะเป็นเหมือนนิยาย ที่นิดาชอบอ่านและมาเล่าให้เราฟังกันนะหรือเจ้าสิ่งนี้จะเป็นมิติเหมือนในนิยาย ถ้ามันสามารถเอาของเข้าไปได้และเอาออกมาได้เหมือนในนิยายจะทำยังไง แบบนี้ต้องลองดู”

หลังจากที่นั่งพูดคนเดียวพูดเองเออเองได้สักพัก เธอก็คิดว่าจะลองนำเอาแก้วน้ำเข้าไปในหินสีรุ้งดูแต่เธอไม่รู้วิธีที่จะเอาแก้วน้ำเข้าไป แต่ก็เหมือนจะมีเรื่องบังเอิญอยู่บ้าง ในตอนที่เธอกำลังคิดหาวิธีเอาแก้วน้ำเข้าไปในหินสีรุ้งนั้น 

แก้วน้ำก็หายไปทันทีเธอจึงเพ่งสายตาเข้าไปในหินสีรุ้งพบว่าแก้วน้ำที่หายไปจากมือของเธอตอนนี้ได้เข้าไปอยู่ในหินสีรุ้งเรียบร้อยแล้ว

“โอ๊ะ ทำได้จริง ๆ เหรอนี่ แบบนี้ก็ดีสิเอาไว้เก็บของมีค่าจะดีเสียยิ่งกว่าตู้เซฟอีกนะเนี่ย”

หลังจากค้นพบความลับของหินสีรุ้งแล้ว ฉีหลินจึงออกไปข้างนอกใช้วันหยุดยาว 5วันนี้ในการพักผ่อนและทำงานในสวนสมุนไพรของเธอ

วันสุดท้ายของวันหยุดยาวมาถึงฉีหลินเก็บของเพื่อที่จะกลับไปนอนที่ตัวเมืองและเริ่มงานในเช้าวันถัดไป วันหยุดยาวในครั้งนี้เธอรู้สึกว่าเธอสนุกกับมันมาก 

ยังมีเรื่องของหินสีรุ้งอีกตอนนี้เธอเอาผลไม้หลายอย่างเข้าไปเก็บเอาไว้ในหินสีรุ้ง และยังเอาสมุนไพรหลายอย่างใส่เข้าไปด้วยหลังจากเวลาผ่านไปหลายวันเธอพบว่าผลไม้และสมุนไพรยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เหี่ยวเฉา เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับฉีหลิน

เช้าวันรุ่งขึ้นฉีหลินไปทำงานตามปกติและพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานด้วยความสนุกสนานเมื่อถึงเวลาเลิกงานเธอก็ไปเดินเที่ยวกับเพื่อนก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้านไปพักผ่อน

ในคืนนั้นเองฉีหลินได้ฝันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ฝันถึงครอบครัวเหล่านั้นที่โดนเอารัดเอาเปรียบ เธอฝันถึงชายชราคนหนึ่ง ที่ใส่ชุดฮั่นฝูสีขาวล้วนเหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์จีน

ในฝันชายชราได้บอกกับฉีหลินว่าเวลาของเธอในที่แห่งนี้เหลือน้อยเต็มที ฉีหลินไม่เข้าใจว่าเหตุใดชายชราถึงพูดแบบนี้กัน ที่น่าแปลกใจคือเธอสามารถฟังภาษาจีนเข้าใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ชายชราบอกกับเธอว่าเธอมีเวลาเตรียมตัวเพียงแค่ 7 วันเท่านั้น ส่วนหินสีรุ้งที่ข้อมือของเธอเป็นของที่ชายชราตั้งใจมอบให้เธอโดยเฉพาะเพื่อเป็นการไถ่โทษต่อเธอ แต่ชายชราไม่ได้บอกเธอว่าเขาทำอะไรผิดต่อเธอ ถึงแม้ว่าฉีหลินจะถามชายชราหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่ตอบคำถามของเธอเลย

ชายชรายังบอกอีกว่าหินสีรุ้งก้อนนี้ไม่เพียงแต่ใช้เป็นมิติเท่านั้น สิ่งของที่เก็บเอาไว้จะไม่เน่าเสียแต่ไม่สามารถใส่สิ่งชีวิตเข้าไปในมิติได้ 

และหินสีรุ้งเมื่อนำไปแช่น้ำและนำน้ำที่แช่ไปรดพืชผักจะเร่งการเจริญเติบโตให้พืชผักได้อีกด้วย หากดื่มกินน้ำที่แช่หินสีรุ้งเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย ๆ

“เอาล่ะนังหนู สิ่งที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้ข้าก็บอกเจ้าไปจนหมดแล้ว เจ้ามีอะไรสงสัยอีกหรือไม่”

“หนูมีเวลากี่วันหรือคะคุณตา แล้วคุณตาจะพาหนูไปไหนหรือคะ แล้วที่ที่จะไปเป็นที่แบบไหน”

“เวลาของเจ้าในที่แห่งนี้ใกล้หมดแล้ว และเมื่อเจ้าจากไปทุกคนจะลืมเลือนเจ้าเหมือนเจ้าไม่เคยมีอยู่ในที่แห่งนี้ ส่วนเจ้าจะไปที่ไหน ข้าบอกเพียงได้ว่าเป็นโลกคู่ขนานและอยู่คนละห้วงมิติเวลากับที่แห่งนี้ ที่นั่นเจ้าจะมีครบทุกอย่างที่เจ้าปรารถนาจะมี แต่ที่แห่งนั้นครอบครัวของเจ้าล้วนยากจนและลำบาก ที่แห่งนั้นเป็นโลกล้าหลังในยุคของจีนโบราณที่ไม่มีอยู่จริง เอาล่ะไม่ต้องถามแล้ว เจ้าใช้เวลาที่เหลืออยู่เตรียมตัวเถอะ อีก 7 วันข้าจะมารับ ข้าบอกเจ้าได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับสติปัญญาของเจ้าแล้ว”

“อ้าว เดี๋ยว ๆ คุณตา เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป อ้าวไปแล้ว แล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย พี่เหมียวจะเสียใจไหม นิดาล่ะ จะคิดถึงเราหรือเปล่า ไหนจะรฐาอีก ถ้าเราไม่เก็บก้อนหินนี่มาก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หรือว่ามันเป็นโชคชะตากันแน่"

เมื่อทำอะไรไม่ได้ฉีหลินจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของชายชรา เธอลาพักร้อนในวันรุ่งขึ้นโดยบอกกับหัวหน้าว่ามีธุระด่วนที่ต้องไปทำซึ่งหัวหน้าก็อนุญาตให้เธอลาทันที

 เธอได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์สวนสมุนไพรให้กับสามีภรรยาที่ดูแลสวนให้เธอ ส่วนเงินในธนาคารเธอถอนออกมาและได้บริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมา

ส่วนเงินที่เหลือฉีหลินขับรถไปตามห้างสรรพสินค้า และเริ่มซื้อข้าวสาร เครื่องปรุงอย่างเช่นเกลือ น้ำตาล ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ฉีหลินซื้อข้าวสารจำนวนมากและยังซื้อซาลาเปาร้านประจำที่เธอกินประจำอีก 1,000 ลูก 

ฉีหลินไม่รู้หรอกว่าเธอจะได้ไปอยู่ในที่แบบไหน มีข้าวสารย่อมดีกว่า มีข้าวกินดีกว่าไม่มี กับข้าวค่อยหาเอาข้างหน้า ฉีหลินขายของมีค่าทุกอย่าง รวมถึงรถของเธอด้วยเช่นกันหลังจากนั้นเธอได้บอกยกเลิกสัญญาเช่าคอนโดที่เธออาศัยมากว่า 5 ปี

เมื่อจัดการทุกอย่างฉีหลินนำเงินที่เหลือโอนให้สถานเด็กกำพร้าอีกรอบและเหลือเงินติดตัวเองไว้แค่พอสำหรับใช้จ่ายในอีกไม่กี่วันที่เหลือ เธอคิดว่าจะออกมาเช่าโรงแรมอยู่เพื่อรอเวลา

แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าเธอจะอยู่ไม่ถึง 7 วันตามที่ชายชราบอก ทันทีที่เธอเดินออกจากคอนโด ยังไม่ทันข้ามถนนเลยด้วยซ้ำ ก็มีรถยนต์เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนพุ่งมาชนเธอจนเกิดเสียงดังสนั่น

ร่างของฉีหลินลอยตามแรงกระแทกของรถ ร่างของเธอตกลงบนถนนท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนและสติของเธอที่เริ่มลางเลือน เธอยังไม่ได้บอกลาใครแม้แต่คนเดียว

ไหนว่าอีก 7 วัน นอกจากจะไม่รักษาสัญญาและไม่รักษาเวลาแล้วยังให้เธอจากไปด้วยความเจ็บปวดอีกด้วย อ่า ช่างเป็นชายชราที่น่าโมโหเสียจริง ๆ หากเธอได้เจออีกครั้งกับชายชราคงต้องต่อว่าเขาสักหน่อยเป็นผู้ใหญ่ทำไมถึงไม่รักษาคำพูดเลย

สติของฉีหลินค่อย ๆ ลางเลือนและจากไปในที่สุด ชายชราที่มาช้าและไม่ทันการณ์ได้แต่ถอนหายใจ เขาทำได้แค่นำพาดวงวิญญาณของเธอไปส่งในที่อันห่างไกลให้สมกับที่ฉีหลินตั้งใจและคาดหวังอย่างไม่รู้ตัว

“ข้าส่งเจ้าได้แค่นี้ จากนี้ไปข้าขออวยพรให้เจ้าใช้ชีวิตให้ดี ให้สมกับที่เจ้าปรารถนานะข้าหวังว่าเจ้าจะผ่านพ้นความลำบากไปได้ พบกันใหม่ภพชาติต่อไปนะนังหนู ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 130 ความสุข

    ในตอนที่ประมุขมารได้ตายไปพร้อมกับดวงจิตที่แตกสลาย แต่ทว่ากลับไม่ได้แตกสลายไปทั้งหมด ยังมีดวงจิตอีกเสี้ยวได้หลุดลอยไปเกิดใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง เกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถระลึกชาติได้ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เพียงใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ประมุขมารร่ำร้องขอความเมตตาจากสวรรค์ก่อนที่เข้าจะแหลกสลายไปหวังฉีหลินและเฟยเทียนกลับถึงหมู่บ้านป่าหมอก ทุกอย่างนางไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ในที่สุดประมุขมารก็คิดได้เสียที และหวังว่าพรที่นางและสามีร้องขอกับท่านมหาเทพนั้นจะทำให้ประมุขมารไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขและมีภรรยาที่รักเขามากแล้วก็ขอให้ทั้งสองคนเป็นคู่ด้ายแดงทุกภพทุกชาติไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางและสามีทำได้หลังจากที่หมดปัญหา หมดสงคราม ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แคว้นหลงอยู่ในยุคที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และข่าวการกลับมาขององค์ชายแปดผู้หายสาบสูญ ตอนนี้ถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง ที่ดินศักดินาหมู่บ้านป่าหมอกและหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสามหมู่บ้าน หวังฉีหลินทิ้งงานให้ลูกชายทั้งหลายแล้วหนีไปท่องเที่ยวกับสามี ทั้งสองคนออกไปท่องโลกกว้าง และมักจะนำผลไม้หรือพืช

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 129 การตัดสินใจของประมุขมาร

    หลังจากที่ประมุขมารได้รับสารท้ารบจากเฟยเทียน ทำให้เขาได้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนบุรุษผู้กระหายสงครามและพร้อมจะทำลายศัตรูตรงหน้าให้ย่อยยับได้ทุกเมื่ออย่างแม่ทัพสวรรค์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยถึงแม้ในชาติภพนี้เขาจะลงมาจุติในดินแดนของมนุษย์แต่ความสามารถของเขายังติดตัวมานั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงแม้มหาเทพจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกเขยสักเท่าไหร่ แต่มหาเทพผู้รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดย่อมไม่มีทางให้นางลำบากส่วนมารอย่างตัวเขาเล่าทำอันใดได้บ้าง เป็นเขาเองที่ไปตกหลุมรักนางข้างเดียว เป็นเขาเองที่ยึดมั่นถือมั่น เป็นเขาเองที่ไม่ยอมปล่อยวาง เขารู้ตัวเองดีด้วยพลังของตัวเขาเองยังไม่ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด ต่อให้สู้จนตัวตายก็ไม่สามารถเอาชนะทั้งสองได้ถึงแม้จะเอาชนะแม่ทัพสวรรค์ได้แล้วธิดามหาเทพจะชายตาแลเขาหรือก็ไม่ นางไม่เพียงไม่ชายตาแลหากแต่นางคงแก้แค้นเขาที่ทำให้สามีของนางต้องมีอันเป็นไป นอกจากจะไม่ได้ความรักแล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือความเกลียดชังต่างหากที่นางจะหยิบยื่นให้เขาแล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้ามืดตามัวเช่นนี้อยู่ถึงแสนปี ประชาชนเผ่ามารล้วนล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ น้องชายคนเดียวของเขาที่เฝ้าเตือนสติเขาอยู่ตลอด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 128 เดินทางไปเผ่ามาร

    เวลาผ่านไปแล้วนับเดือน ตอนนี้กองกำลังที่ฉีหลินฝึกฝนขึ้นมาก็ออกจากด่านกักตนกันทุกคนแล้ว เวลานี้ฉีหลินกับสามีพร้อมด้วยเหล่าสัตว์เทพพร้อมไปเยือนเผ่ามารแล้วเฟยเทียนเองก็เห็นสมควรว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ หลังจากจบปัญหานี้ได้เท่ากับภารกิจของภรรยาได้เสร็จสิ้นลงเช่นกัน ต่อจากนี้ไปพวกเขาสามีภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียทีหลังจากกำหนดวันเคลื่อนพลได้แล้วฉีหลินก็ให้ทุกคนได้พักผ่อนให้เต็มที่ และเตรียมข้าวของที่จำเป็นใส่ลงในแหวนมิติให้เรียบร้อย ทั้งอาหารการกิน ยารักษาต่าง ๆ ทุกคนต่างเตรียมไปให้พร้อมสรรพ ด้วยศึกครั้งนี้อีกฝ่ายคือเผ่ามารไม่รู้ว่าจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดไหน แต่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวนายท่านและนายหญิงว่าจะนำพาพวกเขากลับบ้านมาอย่างปลอดภัยเฟยจิน เฮ่ออี และฮั่นเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการรบในครั้งนี้ ลูก ๆ ของเฟยเทียนทุกคนก็เช่นเดียวกัน ส่วนสัตว์เทพที่คอยดูแลความปลอดภัยที่หมู่บ้านป่าหมอกมีเพียงต้าเซี่ยกับเสี่ยวเสวียนอู่เพียงสองตัวเท่านั้นส่วนเสี่ยวหลาง เสี่ยวหู่ เสี่ยวเฮย เสี่ยวรุ่ยจื่อ และพี่ใหญ่อย่างจินหลงล้วนเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ คนที่กระตือรือร้นมากที่สุดคื

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 127 ตอนพิเศษ วันว่าง ๆ ของไป๋อี้ถัง

    ไป๋อี้ถังผู้โสดสนิท ครองตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ประหนึ่งนักพรตผู้ทรงศีล อีกทั้งรังเกียจสตรีมากเล่ห์ หลังจากออกจากด่านกักตนมา เขาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนลูกศิษย์ในสำนัก ไม่มีภรรยาและบุตรให้ดูแล เวลาทั้งหมดที่มีนอกจากฝึกฝนพลังปราณแล้ว เวลาส่วนที่เหลือเขาจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วยความเข้มงวดในเวลาต่อมา อาจารย์ใหญ่ไป๋อี้ถังจึงมีฉายาว่า อาจารย์ใหญ่จอมโหด หากใครไม่ทำการบ้านมาส่งก็จะโดนลงโทษให้ไปวิ่งรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังจะต้องทำการบ้านในครั้งหน้ามากกว่าคนอื่นสองเท่าเท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดอีก 100 จบ และไปเก็บมูลทำความสะอาดคอกของสือเอ้อร์กับสืออีแทนคนงานในไร่ แถมยังต้องถูกเจ้าสือเอ้อร์กับสืออีกลั่นแกล้งจนหน้าทิ่มกองอึอีก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไม่ทำการบ้านอีกเลยวันนี้เป็นวันที่ไป๋อี้ถังว่างมาก มากที่สุด วันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษา ไป๋อี้ถังจึงคิดว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง และหาซื้อพู่กันกับแท่นฝนหมึกเพิ่มเพราะเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้วจากนั้นเขาตั้งใจว่าจะชวนสหายทั้งสามของเขาไปด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครไปเพราะแต่ละคนต้องการอยู่กับภรรยาแ

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 126 วางแผนรับมือกับเผ่ามาร

    หลังจากที่เฟยเทียนกับฉีหลินเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านป่าหมอกพร้อมลูกชายและเหล่าสหาย หนึ่งเดือนให้หลังเฟยจินก็กลับมาพร้อมกับฮั่นเหวินและเฮ่ออี หลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน รวมถึงส่งรายชื่อหนอนให้กับเบื้องบนแล้ว ตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ ตอนนี้สงครามสงบลงแล้ว ทั้งสามจึงได้ยื่นหนังสือขอลาพักกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมบิดามารดาไป๋อี้ถังและสหายทั้งสามจะเข้าด่านกักตนเพื่อฝึกฝนในอีก 3 วันข้างหน้า โดยผู้ที่จะรับหน้าที่สั่งสอนศิษย์ในสถานศึกษาก็คือราชครูไป๋หย่งเต๋อที่เดินทางตามหลังเฟยจินได้เพียง 7 วันนอกจากไป๋หย่งเต๋อแล้วยังมีไป๋เจิ้นกั๋วเจ้ากรมอาญา เดินทางมาพร้อมกับไท่ปิงองครักษ์ประจำตัว นับเป็นการรวมตัวกันระหว่างองครักษ์เลยก็ว่าได้ เซียวหลางตัดสินใจแต่งงานและติดตามไป๋อี้ถัง ม่อถูเองก็เช่นเดียวกัน มีเพียงไท่ปิงเท่านั้นที่มีหน้าที่ดูแลไป๋เจิ้นกั๋วที่เมืองหลวงไท่ปิงเองก็อยากจะมีชีวิตเฉกเช่นสหายทั้งสองบ้าง เขาเองก็คงต้องเร่งฝึกองครักษ์ขึ้นมาใหม่เพื่อจะได้ทำหน้าที่แทนเขา ส่วนตัวเขาเองจะตามมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านป่าหมอกแห่งนี้ตามสหายทั้งสองคนวันนี้ฉีหลินเรียกประชุมหน่วยลับที่เป

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 125 สิ้นสุดสงคราม เดินทางกลับบ้าน

    เฟยเทียนพาภรรยามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านป่าหมอกทันที หลังจากจัดการทั้งสองแคว้นเรียบร้อยแล้ว และด่านสุดท้ายของภารกิจในครั้งนี้ก็คือจัดการกับเผ่ามารให้เด็ดขาด หากไม่กำจัดประมุขเผ่ามารเสียตอนนี้ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก มีเพียงกำจัดประมุขมารให้ได้เท่านั้นทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ตอนนี้มีข่าวส่งว่าอ๋องมารน้องชายเพียงคนเดียวของประมุขมารได้หนีออกจากเผ่ามารไปตั้งรกรากที่อื่นแต่เดิมอ๋องมารก็ไม่เห็นด้วยกับประมุขมารเรื่องยึดดินแดนมนุษย์ แต่ไหนเลยประมุขมารผู้เป็นพี่ชายจะยอมฟัง ในเมื่อมันเป็นความแค้นใจที่มีต่อธิดามหาเทพและสามี ต่อให้อีกนับล้านปีประมุขมารก็วางความแค้นในใจลงไม่ได้“ไม่รู้ว่าเจ้าสามแสบจะทำเรื่องปวดหัวให้ท่านพ่อกับท่านปู่มากมายเพียงใด โดยเฉพาะลูกสาวของท่านพี่ ป่านนี้ไม่ใช่พี่อี้ถังปวดหัวจนผมขาวหมดหัวแล้วหรือเจ้าคะ”“ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นกระมัง ลูกสาวของเราออกจะน่ารัก อีกอย่างพี่อี้ถังก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้เลยนี่นะ”“ท่านพี่ก็เข้าข้างนางตลอดล่ะเจ้าค่ะ อีกหน่อยนางก็เสียคนพอดี”“ไม่ใช่ว่านางกลัวท่านแม่อย่างเจ้าอยู่หรอกหรือ เอาน่าลูกยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ความ มีพวกต้าเซี่ยอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status