หลิงเอ๋อกำลังยกชามอาหารที่หลิวชิวเยว่รับประทานเสร็จไปเก็บ ระหว่างกลับมานางพบกับท่านหมอจินซีถิงกับผู้เฒ่าหยางและกุนซือจ้าวหยุนฟาง ทั้งสามกำลังเดินตรงมายังเรือนพักของหลิวชิวเยว่
“ท่านกุนซือ ท่านหมอ ท่านลุง พวกท่านจะไปที่ใดกัน”
หลิงเอ๋อเอ่ยถาม ทั้งที่รู้ดีว่าทั้งสามมุ่งหน้ามายังเรือนบุปผาย่อมต้องมาหาคุณหนูของนาง
“พวกเราขอเข้าพบฮูหยินท่านแม่ทัพ รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อช่วยเรียนฮูหยินด้วย”
หมอจินซีถิงเอ่ยขึ้น เขาอาศัยว่าเคยช่วยเหลือหลิวชิวเยว่มาก่อนจึงเป็นคนเอ่ยปากเอง
“ท่านหมอจะมาตรวจอาการของฮูหยินหรือเจ้าคะ แล้วท่านกุนซือกับท่านลุง...”
หลิงเอ๋อมองทั้งสองคน ก่อนหน้านางเห็นผู้เฒ่าหยางกับท่านหมอแล้ว แต่ท่านกุนซือนี่สิมีธุระอันใดกับคุณหนูของนาง
“พวกเรามีเรื่องสำคัญ จะมาขอความช่วยเหลือจากฮูหยิน รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อสักนิด”
กุนซือจ้าวหยุนฟางโปรยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ใบหน้าหล่อเหลานั้นชวนให้เคลิบเคลิ้ม แก้มของหลิงเอ๋อพลันเห่อร้อนขึ้นมา หลบสายตาแพรวพราวรีบเดินเข้าไปรายงานผู้เป็นนายทันที
“ท่านกุนซือ โปรดระวังกิริยาด้วย”
หมอจินซีถิงปรามคนชอบโปรยเสน่ห์ ในบรรดาพวกเขาสี่คนกุนซือจ้าวหยุนฟางนั้น มีใบหน้าหล่อเหลาที่สุด และมักใช้จุดเด่นนี้ของตนเป็นประโยชน์ ไม่ว่าเขาเจรจาสิ่งใดก็มักประสบความสำเร็จ ผู้คนล้วนย่อมชมชอบคนหน้าตาดี
“ซีถิงเจ้าพูดราวกับหึงหวงข้า”
“ข้ามิกล้าหึงหวงท่านหรอก เกรงฟ้าจะผ่าตาย”
หมอจินซีถิงสะบัดเสียงใส่ อีกฝ่ายหัวเราะอารมณ์ดีเอ่ยวาจากวนอารมณ์อีกว่า
“กลิ่นน้ำส้มหึ่งขนาดนี้ เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรือ”
“ปากเสีย เจ้าอยากตายหรือ”
โชคดีหมอจินไร้วรยุทธ ไม่เช่นนั้นคงซัดฝ่ามือตอบแทนกุนซือจ้าวไปสักทีสองที ทำได้เพียงแยกเขี้ยวใส่
ผู้เฒ่าหยางได้แต่มองทั้งสองหยอกเย้ากัน แล้วสงบปากของตัวเองให้นิ่งไว้ ในใจนั้นอดนึกถึงเสียงนินทาที่เคยผ่านหูมาไม่ได้
จวนแม่ทัพเสิ่น ล้วนมีแต่บุรุษหน้าตาดี เหล่าบุรุษอยู่ได้อย่างไรโดยไม่มีสตรี มิใช่ว่า...
ผู้เฒ่าหยางลูบขนบนแขนของตัวเอง เท้าขยับห่างจากทั้งสองโดยไม่รู้ตัว
“เชิญท่านทั้งสามเจ้าค่ะ”
ครู่ต่อมา หลิงเอ๋อก็เชิญทั้งสามไปพบกับเจ้านายของตน ใบหน้าของสาวใช้คนนี้ยังแต้มสีระเรื่อแววตาหรุบมองพื้นไม่กล้าสบตากับกุนซือหนุ่มรูปงาม หมอจินเห็นกิริยาของนางแล้วลอบถอนหายใจออกมา
มิใช่ว่า... สตรีนางนี้หลงเสน่ห์กุนซือจ้าวเข้าอีกคนแล้วหรือ
“คารวะฮูหยิน” ทั้งสามทำความเคารพ
“ตามสบายเถอะ เชิญพวกท่านนั่งก่อน”
หลิวชิวเยว่ให้แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อจัดเก้าอี้ให้ทั้งสามคน สายตามองจับไปยังใบหน้าของแต่ละคน ท่านหมอจินนางเคยพบตอนฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ ตอนนั้นนางไม่ได้สนใจเขานัก ตอนนี้เมื่อนางเห็นเขาอีกครั้งก็อดชื่นชมใบหน้าอันหล่อเหลาท่าทางทรงภูมิแลดูมีเมตตาของหมอหนุ่มไม่ได้ สายตามองผ่านไปยังใบหน้าของกุนซือหนุ่มนามว่าเจ้าหยุนฟาง หลิวชิวเยว่แอบลอบถอนหายใจ คนนี้หน้าตาดีกว่าหมอจินเสียอีก ใบหน้าหล่อเหลาหมดจด แววตาแพรวพราว อีกทั้งยังมีตำแหน่งกุนซือของแม่ทัพใหญ่ย่อมเฉลียวฉลาด เรียกว่าฟ้าจงใจปั้นสวรรค์ลำเอียงโดยแท้
“พวกเรามาพบฮูหยินโดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า ต้องขออภัยด้วย”
กุนซือจ้าวเกริ่นนำขึ้นมา เขามองใบหน้ากลมมนราวดวงจันทร์วันเพ็ญด้วยแววตานิ่งสงบ ไม่กล้าใช้สายตาแพรวพราวเหมือนที่ใช้กับหลิงเอ๋อ ด้วยหลิวชิวเยว่เป็นฮูหยินของเจ้านาย
“ไม่ต้องเกรงใจ เชิญท่านเอ่ย”
“นี่คือผู้เฒ่าหยางเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านกุ้ยฮวา ครั้งนี้มาขอความช่วยเหลือจากท่านแม่ทัพ ด้วยเรื่องขาดแคลนอาหาร เนื่องจากหมู่บ้านกุ้ยฮวาประสบกับภัยโรคระบาดในพืช ทำการเพาะปลูกไม่เกิดผล ผู้คนล้วน...”
กุนซือจ้าวเล่าถึงความลำบากของชาวบ้าน ตามที่ผู้เฒ่าหยางได้เล่าให้แม่ทัพเสิ่นให้หลิวชิวเยว่ฟังอีกครั้ง เขาเล่าถึงที่มาที่ไปของหมู่บ้านนี้ รวมถึงความภาระที่แม่ทัพเสิ่นแบกรับเอาไว้
หลิวชิวเยว่นิ่งฟังอย่างแปลกใจ นึกทึ่งในความเมตตาของสามีตน ในยุคของนางการช่วยเหลือผู้คนนั้น ย่อมทำโดยการเปิดมูลนิธิหาผู้มาบริจาค แต่แม่ทัพเสิ่นกลับใช้เงินทองของตนโอบอุ้มดูแลครอบครัวทหารผ่านศึกเหล่านี้เพียงลำพัง
“เหตุใดถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากทางการ”
นางเอ่ยถามออกไป ราษฎรเดือดร้อนทางการย่อมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เหตุใดผู้เฒ่าหยางถึงได้ถ่อสังขารมาขอความช่วยเหลือแม่ทัพเสิ่น
“เรียนฮูหยิน ชาวบ้านหมู่บ้านกุ้ยฮวา ล้วนลำบากยากจนมีเพียงคนชราหญิงม่ายและเด็ก ชีวิตของพวกเราไม่ต่างจากขอทานไร้ค่า ทางการไม่เห็นความสำคัญ ข้าเคยเข้าไปขอให้นายอำเภอช่วยเหลือแต่ก็เงียบหายไป จำต้องแบกหน้ามาขอพึ่งท่านแม่ทัพ ฮูหยินได้โปรดเห็นใจด้วย”
ผู้เฒ่าหยางปาดน้ำตาเมื่อนึกถึงท่าทางรังเกียจของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น พวกเขามีเพียงท่านแม่ทัพเสิ่นเป็นที่พึ่ง
“ผู้คนในหมู่บ้านกุ้ยฮวา อาศัยอยู่บนที่ดินของตระกูลเฉิน เปรียบเหมือนคนใต้อาณัติของแม่ทัพเสิ่น ย่อมต้องดูแล”
หมอจินซีถิงเอ่ยขึ้น เขาสบตากับกุนซือจ้าวให้เอ่ยต่อ
“ตอนนี้ท่านแม่ทัพเสิ่นจะมอบข้าวสารอาหารแห้ง ให้ผู้เฒ่าหยางไปปันส่วนให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน แต่ในคลังของจวนเรายังขาดแคลนข้าวสาร ข้าจึงมารบกวนให้ฮูหยินช่วยเหลือ”
กุนซือจ้าวเอ่ยเป้าประสงค์ออกมาตามตรง เขารู้มาว่าสินเดิมของฮูหยินท่านแม่ทัพนั้น มีร้านข้าวสาร และร้านค้าอื่นๆ อีกหลายร้าน เมื่อหลิวชิวเยว่เป็นคนของเจ้านายพวกเขาแล้ว ก็ย่อมต้องช่วยเหลือสามี พวกเขาไม่คิดรอให้ผู้เป็นเจ้านายเอ่ยปากก่อน ด้วยรู้นิสัยท่านแม่ทัพเสิ่นดีว่าเป็นคนปากหนัก แต่งงานครั้งนี้ก็เป็นไปเพราะไม่อาจขัดพระราชประสงค์ของฮ่องเต้ได้
ในวันเลือกเจ้าสาวจากบรรดารายชื่อของหญิงสาวที่ส่งเข้ามา แม่ทัพเสิ่นให้พวกเขาเขียนรายชื่อผู้หญิงทุกคนบนกระดาษแล้วม้วนใส่ลงไปในไห จากนั้นก็หยิบรายชื่อออกมาส่งให้คนในวังไปจัดการต่อ
นึกถึงเรื่องนี้แล้วกุนซือจ้าวก็นึกเสียใจ เหตุใดตอนนั้นเขาไม่คัดค้าน ยอมให้ท่านแม่ทัพเลือกฮูหยินด้วยวิธีจับสลาก กุนซือหนุ่มมองขนาดตัวของฮูหยินแม่ทัพแล้ว ลอบถอนหายใจออกมา
แม้อยู่ไกลสิบลี้ ก็ยังมองเห็นนางได้ !
“ท่านแม่ทัพให้พวกท่านมาขอให้ข้าช่วย”
หลิวชิวเยวเอ่ยขึ้น มองหน้ากุนซือจ้าว หมอจิน และมองไปยังผู้เฒ่าหยาง ทั้งสามก้มหน้าลงหลบสายตา นางเข้าใจในทันทีว่าลูกน้องของแม่ทัพเสิ่น คิดการกันเอง
“ท่านแม่ทัพย่อมไม่เอ่ย พวกเราคิดว่าฮูหยินมีเมตตา อาจจะช่วยเหลือชาวบ้านได้ ดังนั้นจึงมาขอร้องท่าน”
กุนซือจ้าวกับหมอจินปรึกษากันแล้ว จึงคิดกระทำการเช่นนี้ แม้หลิวชิวเยว่จะเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพ แต่เป็นเพียงลูกพ่อค้า สิ่งเดียวที่นางมีเหนือท่านแม่ทัพก็คือเงินทอง หากนางคิดจะเอาใจสามีย่อมต้องยอมช่วยเหลือ
“เรื่องช่วยคนนั้นข้าย่อมช่วยได้ แต่ข้าเป็นฮูหยินของท่านพี่ หากสามีไม่เอ่ยข้าก็ไม่อาจทำอะไรได้”
หลิวชิวเยว่ไม่ได้ปฏิเสธนางมีใจอยากช่วยชาวบ้าน แต่ให้นางออกหน้าเองเกรงจะไม่เหมาะ นางจึงอยากให้สามีเป็นเอ่ยเรื่องนี้กับนางก่อน
“ขอบคุณฮูหยินที่เมตตา ข้าจะไปพูดกับท่านแม่ทัพเอง”
กุนซือจ้าวรีบตัดความ เขามาที่นี่เพียงต้องการให้หลิวชิวเยว่รับปากช่วยเหลือ ส่วนเรื่องเกลี้ยกล่อมท่านแม่ทัพนั้น เขาคิดว่าตัวเองมีความสามารถเรื่องนี้
คืนนั้นแม่ทัพเสิ่นไปเยือนห้องนอนของหลิวชิวเยว่ แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อรีบพากันออกมาจากห้อง แม่นมฉียิ้มแก้มแทบฉีกหลิงเอ๋อนั้นก็นึกดีใจแทนคุณหนูของนาง
บริจาคข้าวสักสิบเกวียนก็ถือว่าคุ้ม !
///
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง