เมื่อปล่อยให้สามีนอนหลับแล้ว เนี่ยหยวนซูกลับกลัวว่าพวกที่แอบฟังอยู่ด้านนอกจะผิดหวัง ดังนั้นนางจึงต้องจัดการแสดงชุดใหญ่เพื่อให้สมศักดิ์ศรีลูกสาวคนเล็กของเจ้าบ้านเนี่ย ซึ่งเป็นโต้โผออกเงินให้มีการแต่งงานใหญ่โต ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นบุญคุณต่อแคว้นเฉิงโจว!
“อ๊ะ...อี้...อื้อ...ท่านพี่...อื้อ...อ๊าย” ยามนั้น เนี่ยหยวนซูพยายามเหลือเกินที่จะไม่หลุดขำ ทว่าในขณะเดียวกันยามที่มองไปยังร่างกายแกร่งบนเตียงกว้าง หญิงสาวปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจิ่งหลัวคุณหล่อเหลาเป็นบ้า แม้ขาที่สามเขาจะหลับสงบนิ่งอยู่ในฝัก แต่สิ่งอื่นนอกเหนือจากนั้น ล้วนมีคุณภาพคับไหสุรา ชนิดเต็มสิบไม่หักสักแต้ม!
แต่ช้าก่อน สิ่งที่นางย่อมรู้ดีคือ สตรีแซ่เนี่ยต้องทำทุกวิถีทางให้ได้หย่าขาดกับจิ่งหลัวคุน โดยถูกต้องตามกฎหมายแคว้นเฉิงโจว และมีสักขีพยานรู้เห็น ซึ่งต้องเป็นการจากกันด้วยดี ต่างฝ่ายต่างมีชีวิตของตน ไม่มีการแค้นฝังใจต่อกัน โดยทั้งหมดต้องเกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลงฮ่องเต้องค์ใหม่ มิเช่นนั้นหายนะครั้งใหญ่ในภายภาคหน้าอาจส่งผลให้ร่างงาม ๆ ของนาง ได้รับโทษสถานหนักคือ ถูกจับเลาะกระดูก แล้วแยกชิ้นส่วน สุดท้ายก็เป็นจิ่งหลัวคุนที่ผนึกนางให้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด
ซึ่งเรื่องเศร้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังที่นางเข้าหอกับจิ่งหลัวคุนได้ราว ๆ สามปีเศษ ฝ่ายนั้นไม่เคยย่างกรายมาที่เรือนนางอีกเลย เขาเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายทหาร ไม่ก็หาเรื่องไปอยู่ต่างเมืองเฝ้าการสร้างกำแพงสูงปกป้องข้าศึก เมื่อกลับจวนจิ่ง เขามักเก็บตัวอยู่ที่เรือนหลักของตน อาจแวะเวียนไปหาอนุคนโปรดบ้าง แต่กลับเพิกเฉยทิ้งให้เนี่ยหยวนซูเปลี่ยวเหงาราวกับถูกจองจำในตำหนักเย็น สุดท้ายสภาพจิตใจนางจึงบอบช้ำ
ยามนั้น ภาพต่าง ๆ ปรากฏในหัว พลอยให้นางทั้งโกรธแค้นและนึกสมเพชโชคชะตาเจ้าของร่าง ซึ่งก่อนนั่งเกี้ยวเจ้าสาวมาที่จวนจิ่ง ก็ใช่ว่าเขาอยากได้นางเป็นฮูหยินใหญ่ เขาเพียงแต่อยากช่วยกองทัพ เรื่องทั้งหมดเป็นฝ่ายไทเฮาที่เอ่ยปากกับฮ่องเต้ สุดท้ายจึงมีราชโองการให้จิ่งหลัวคุนแต่งงานกับเนี่ยหยวนซูอย่างเอิกเกริก
เรียกได้ว่ามีงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ราวกับว่าเขาเป็นองค์ชายคนสำคัญผู้หนึ่งทีเดียว
“เมื่อผูกผมด้วยกันและดื่มเหล้ามงคลแล้ว เจ้าคงเป็นสตรีที่ดีขึ้น ไม่คิดร้ายต่อคนในครอบครัวข้า!”
เสียงทุ้ม ๆ ดังในหัวเนี่ยหยวนซู
“ฮึ เมื่อก้าวขาเข้าจวนจิ่ง ข้าจะทำสิ่งใดเดือดร้อนผู้อื่นได้เล่า”
ชายหนุ่มข่มสติ ไม่อยากโต้เถียงกับสตรี แต่อย่างไร เขาควรบอกความในใจของตนให้นางได้รับรู้บ้าง “ก่อนหน้านั้น เจ้าทำหลายสิ่งที่เหลวไหล ข้าไม่เห็นก็แล้วไป แต่เมื่อเป็นผัวเมียกัน เจ้าต้องถือกุญแจทั้งจวน ดังนั้นหัดมีเมตตาต่อผู้อื่นย่อมเป็นสิ่งที่ดี”
เนี่ยหยวนซูขัดหูคำพูดอีกฝ่าย สีหน้าสีตาแจ้งชัดว่าเขาโกรธนาง
“โปรดกล่าวให้แจ้งชัด ข้าทำเรื่องใดลับหลังท่านแม่ทัพจิ่งเยี่ยงนั้นหรือ ท่านถึงได้แสดงท่าทางราวกับเกลียดชังข้านัก”
คนตัวโตพ่นลมหายใจร้อน ๆ ออกมา และเอ่ยเสียงหนัก
“ทั้งที่รู้ว่าไทเฮาประสงค์ให้เจ้าแต่งเข้าจวนจิ่ง แต่เจ้ายังหว่านเสน่ห์ไปทั่ว หากไม่ใช่เพราะข้าเห็นว่าสกุลเนี่ยมีประโยชน์อยู่บ้าง บุรุษคนนี้คงไม่ฝืนใจยอมรับราชโองการดังกล่าว”
ยามนี้เนี่ยหยวนซูอยากเล่นงิ้วและฟ้อนเล็บข่วนหน้าหล่อเหลาสุดกำลังแต่นางกลับเลือกที่จะส่งเสียงดัง ๆ ใส่เขา พร้อมถ้อยคำร้ายกาจ “แต่สุดท้าย แม่ทัพจิ่งก็ยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อเกาะชายกระโปรงผ้าไหมของข้า เพราะอยากได้เงินไปเติมเสบียงให้ทหาร และหวังใบเปิดทางโรงหลอมเหล็ก รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับเผ่าทางใต้ ด้วยอยากได้อาชาชั้นดีมาเสริมทัพของฮ่องเต้ ที่ทำทั้งหมดท่านคงอยากเป็นสุนัขตัวโปรดของฝ่าบาทสินะ!”
ดวงตาคมกริบจ้องคนงามเขม็ง เขาขบกรามจนใบหน้าคมคายสั่นกระตุก อีกทั้งไอสังหารแผ่ขยายออกมา
“คุณหนูเนี่ย ขอบคุณที่เตือนสติ ย้ำให้ข้าตระหนักว่าเจ้ากับข้าแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ หาใช่เพราะมีความผูกพันอันใด!”
สิ้นคำพูดดังกล่าว เนี่ยหยวนซูก็อยากฟาดฝ่ามือเรียวใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่สิ่งที่ทำได้กลับเป็นการที่นางต้องเก็บความแค้นเอาไว้ในใจ เพื่อรอเวลาคิดบัญชีเขาและครอบครัวในคราวเดียวกัน
ซึ่งการที่นางได้ย้อนเวลามาเกิดใหม่ในร่างนี้ เนี่ยหยวนซูอยากเอาคืนคนที่หน้าเนื้อใจเสือและคิดชั่วกับนาง เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนจิ่งต่อจากนี้บีบบังคับให้เนี่ยหยวนซูสติวิปลาส นางกลายเป็นคนบ้าอันเป็นผลมาจากคนในจวนจิ่งร่วมมือกันบีบบังคับให้ฮูหยินใหญ่คนนี้ร้าย ร้ายถึงขั้นลุกขึ้นมาวางแผนฆ่าทุกคนที่พยายามทำให้นางอยู่ที่นี่อย่างไม่สงบสุข
เมื่อคิดได้แล้ว สตรีสกุลเนี่ยย่อมต้องหัดใช้สมองมากกว่าบีบน้ำตา หรือตีโพยตีพายโทษชะตาชีวิตตน ในเมื่อสามสิบลิขิตฟ้าเจ็ดสิบต้องฝ่าฟัน นางย่อมต้องสวมบทบาทนี้ให้ทั้งใต้หล้าต้องจดจำไปตราบนานเท่านาน
ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ ห้อง แสงสว่างที่มาจากเทียนไข ก่อให้เกิดเงาวูบไหว อีกทั้งในยามนี้ หากนางคาดการณ์ไม่ผิดย่อมต้องมีสาวใช้ บ่าวคนสนิท รวมถึงฝ่ายตรงข้ามของนางแอบฟังเสียงต่าง ๆ ในห้อง แล้วรีบไปรายงานนายของตน
หญิงสาวปีนขึ้นเตียง ก่อนไปนั่งแปะอยู่กึ่งกลางลำตัวแม่ทัพหนุ่ม มือเรียวสวยลูบไล้ใบหน้าคมคายช้า ๆ ลมหายใจเขาสม่ำเสมอ แผงหน้าอกแกร่งนั้นกระเพื่อมขึ้นลงอย่างน่ามอง บุรุษผู้นี้มีเสน่ห์จับใจ จนนางไม่อาจจะถอนสายตามองที่อื่น
เครื่องหน้านั้นสวรรค์ก็ช่างสรรค์สร้าง จมูกโด่ง ริมฝีปากสีสดมีรอยหยักลึก ปลายคางมีแผลเป็นเล็ก ๆ ไม่น่าเกลียด และทั้งหมดขับให้เขาเป็นที่โปรดปรานของสตรีได้ไม่ยาก
“แม้ข้าจะเสียดายหากต้องหย่าร้างกับท่าน แต่มันคือโชคชะตาที่ไม่อาจฝืน อย่างไรชาตินี้ หากเราดึงดันเป็นสามีภรรยากัน ย่อมไม่แคล้วทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ เยี่ยงนี้ ตัดใจจากข้าเสียเถอะ ท่านพี่”
คนตัวโตยังหลับตาเช่นเดิม พิษในสุราและกำยานที่เขาสูดดมก่อนหน้าคงเล่นงานหนักหน่วงจนเป็นเหตุให้คนตัวโตไร้สติ
“แต่หยวนซูคนงามคงย่อมเสียหน้าไม่ได้ ดังนั้นคืนนี้ท่านกับข้าสมควรมาเล่นละครให้คนทั้งจวนนอนไม่หลับกันเถิด ส่วนเรื่องการหย่าขาดของเรา รับรองว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน และมันจะต้องเป็นที่โจษขานไปทั้งแคว้นเฉิงโจว”
เนี่ยหยวนซูพึมพำกับตนเสร็จ นางจึงเริ่มทำท่าคล้ายควบม้าบนกายแกร่ง ในขณะเดียวกันนั้นก็ครางเสียงหวานล้ำประหนึ่งว่าได้กินของเผ็ดร้อนแสนโอชะยิ่งนัก ....
7 เดือนต่อมา หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เนี่ยหยวนซูที่ยามนี้ท้องโตใกล้คลอด มีความสุขในการกินกว่าใคร ส่วนจิ่งหลัวคุนแม้จะเลิกแพ้อาหารแทนนางและไม่ค่อยเป็นลมหรือมีอาการหน้ามืด แต่เขากลับเป็นห่วงภรรยาชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมห่างไปไหน ด้วยได้ยินเรื่องสตรีเสียชีวิตระหว่างคลอดบุตร รวมถึงอันตรายหลังการคลอด อีกทั้งสิ่งที่อาจเกิดกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ทั้งหมดเป็นเพราะเขาฟังผู้อื่นมากเกินไป ทั้งยังอ่านตำราต่างๆ เยอะ เรื่องนี้เนี่ยหยวนซูเข้าใจว่าเป็นเพราะเขารักและห่วงนาง “ท่านพี่ ข้าเพียงแค่อยากเดินเล่นสักหน่อย...” เนี่ยหยวนซูบอกเขา เช้านี้นางกินทั้งของคาวของหวานแล้วยังมีผลไม้อีก “แต่หมอบอกให้เจ้าอยู่นิ่งๆ ช่วงนี้ใกล้กำหนดที่ลูกจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว” “ท่านพูดถูก แต่ให้นั่งๆ นอนๆ ไม่ขยับตัว มันทำให้ข้าอึดอัด บางทีก็เครียด ซึ่งอาจส่งผลถึงเด็กน้อยของเรา” นางว่าจบจึงมองชายหนุ่ม อ้อนวอนเขาด้วยสายตา “ได้ แต่แค่เดินที่สวนด้านหน้าเท่านั้น เราจะไม่ไปมากกว่านี้” เนี่ยหยวนซูไม่อยากขัดใจสามี แค่เขาให้นางออกจากเร
จิ่งหลัวคุนไม่อาจยืนนิ่งเฉย อาการเขาคล้ายคนจะหน้ามืดตามด้วยการวูบหมดสติ ยามนั้นแม้จิ่งป๋อฉุดแขนพี่ชายไว้ แต่กลายเป็นว่าเขาถูกเตะเสียนี่ แถมไม่ใช่เตะธรรมดา หากส่งผลให้จิ่งป๋อร้องโอดโอยอย่างน่าสงสาร ด้วยใครกันจะทนแรงของอดีตแม่ทัพหนุ่มไหว โดยเฉพาะอีกฝ่ายคือนักแสดงในโรงละคร วันๆ ร้องเพลง เล่นดนตรี สรรหาเรื่องรื่นเริงเท่านั้น ยามนี้จิ่งป๋อไม่ใช่หนุ่มน้อย ปีนี้อายุเขาสมควรออกเรือน ทว่าอย่างที่พี่ชายห่วงคือจนป่านนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจิ่งป๋อสนใจสตรีหรือบุรุษกันแน่ และที่จิ่งหลัวคุนแสดงท่าทีขึงขังก่อนทำร้ายน้องชาย เป็นเพราะเขา อ้างว่าตนสุขภาพดี ทว่าสภาพอย่างที่เห็น เขาดูแย่หนัก หน้าซีดท่าทางอิดโรย ฝ่ายจื่อเยว่มองคนเป็นพ่อสลับอาหนุ่มหล่อ ก่อนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย และถามว่า “เมื่อเช้าท่านพ่อ แพ้อาหารใดหรือไม่เจ้าคะ” นางถามอย่างซื่อๆ นั่นแหละ ดวงตากลมโตมองจิ่งหลัวคุนอย่างต้องการคำตอบ “เหตุใดถึงถามพ่อเช่นนี้ เรื่องพรรคนั้นย่อมไม่เกิดขึ้น” “เอ แต่ลูกได้ยินเสียงคล้ายคนอาเจียน โอ้กอ้ากหลายหนเชียว” และสายตาลูกสาวกับน้องชายหันไปทางจิ่งห
ผิดแต่เรื่องทายาทอีกฝ่ายที่เสี่ยวฉุนไม่ได้รายงานไป เนื่องจากตกลงกับเกอสวินไว้ว่าอยากให้เนี่ยหยวนซูกับจิ่งหลัวคุนได้ปรับความเข้าใจกันเสียก่อน และช่วงสองสามปีให้หลังนางติดต่อเกอสวินไม่ได้เช่นกัน จวบจนได้พบหน้าอีกครั้ง เสี่ยวฉุนก็ต้องยอมรับว่าเกอสวินเป็นหนุ่มเต็มตัว และเขาขโมยหัวใจนางไปหมดแล้วช่วงเช้าวันส่งตัวเจ้าสาว ฝานเหอมีสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยของที่เตรียมเอาไว้ในห้องหอหายไป รวมถึงพัดของเจ้าสาวแล้วก็ผ้าคลุมหน้า สิ่งที่สำคัญมาก ด้วยสองสิ่งนี้เกี่ยวพันถึงเจ้าบ่าวด้วย แต่ยังโชคดีที่มีชุดสำรองเอาไว้“ไม่มีเจ้าคะเถ้าแก่เนี้ย” ฝานเหอบอกเนี่ยหยวนซู และนางไม่ได้เซ้าซี้ถามสิ่งใดหายไปอีกบ้าง แต่กวาดตามองหาไปทั่วๆ ห้องก่อนก้าวออกไปด้านนอก ยามนั้นเสียงดนตรี เสียงโห่ร้องดังเป็นระยะและอาหารเครื่องดื่มมีให้กินอิ่มหนำเป็นอย่างมากร่างสูงของจิ่งหลัวคุนเดินมาหาหญิงสาว ใบหน้าเขาแดงด้วยฤทธิ์สุรา“อาซู... เห็นน้องสามหรือไม่”เนี่ยหยวนซูถอนหายใจเล็กน้อย และถามว่า “นี่คงไม่ใช่ว่า ท่านกับคุณชายสามจะวางแผน ร้ายๆ กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหรอกนะ”“โอ้มิได้ ไม่มีการมอมสุรา หรือใส่ยากำหนัดในอาหารทั้งนั้น อาซูก็รู้ บ่า
ตอนพิเศษของหมั้นต่างหน้าจิ่งหลัวคุนไม่ได้รับใช้ทางด้านทหารแคว้นเฉิงโจวมาได้เกือบสามปี และเขาดูมีความสุข หัวเราะบ่อยครั้ง ใบหน้าคมคายประดับรอยยิ้มให้เห็นบ่อยๆ แม้ตัวเขาเสียดายหลายสิ่งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่สะสมมา แต่ชีวิตย่อมต้องเดินหน้าส่วนภรรยาเขา เนี่ยหยวนซูนั้นอยากเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนดังดูแลการค้าทั่วทั้งอาณาจักรอันกว้างใหญ่ และปากบอกอยู่เสมอว่าไม่สนใจเขา ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต่อจากนี้ให้จิ่งหลัวคุนเลือกเอง แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคืนตำแหน่งทางการทหารก็แอบเสียดายไม่ได้ ดังนั้นจึงต่อว่าเขาพอให้หายหงุดหงิดใจ ด้วยหากเขายังเป็นแม่ทัพแคว้นเฉิงโจว อย่างไรคงมีความสามารถเจรจาค้าขายกับทางการและแคว้นพันธมิตรได้“ตอนนี้ นอกจากเป็นลาโง่ ท่านยังเป็นฉลามตาบอด ว่ายน้ำไม่รู้ทิศทาง คิดอย่างไร ถึงทิ้งตำแหน่งทรงเกียรติแล้วมาเป็นโจรสลัด!”จิ่งหลัวคุนหัวเราะ และเอ่ยว่า“เป็นเพราะต้องการแบ่งเบาภาระภรรยา การค้าขายทางน้ำ นับว่าสำคัญ ข้าจึงอยากทำหน้าที่เป็นหน่วยพิเศษคุ้มครองสินค้าทุกอย่างที่เจ้าขายและต้องการซื้อหาให้ปลอดภัยที่สุด”“ฮึ... แล้วคิดว่า เงินที่ท่านหาได้จากการเป็นคนส่งของ มันจะพอให้ข้าถลุงเล่นหรือ”ชายหน
เนี่ยหยวนซูส่ายหน้า “อย่าเลย...จะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่า ข้ากำลังต้องการคำตอบจากพ่อค้าเรือเหล่านี้ หากเขายินยอมขายให้ข้า พวกท่านจะได้ทำการเก็บอากรเพื่อเข้าหลวงอย่างถูกต้อง ในครั้งต่อไปสินค้าทุกอย่างที่มาถึงเมืองเป่ยซาน ไม่ว่าจะค้าขายสิ่งใดต้องจ่ายเงินเข้าหลวง!”น้ำเสียงเนี่ยหยวนซูฟังแล้วก็เด็ดขาด แต่นั่นคือการป้องกันปัญหาในภายภาคหน้า เพื่อไม่ให้ใครคิดเอาเปรียบ หรือนำสินค้าไร้คุณภาพมาหลอกขายในราคาที่สูงเกินกว่าเหตุเมื่อเนี่ยหยวนซูเอ่ยจบ ร่างสูงใหญ่ของบุรุษที่มีผมหยักสลวยเส้นเล็กสีปีกอีกา ก้าวลงมาจากเรือลำใหญ่ที่สุดดวงตาคมกริบจ้องมาที่เนี่ยหยวนซู ในวาบแรกที่สายตาคนทั้งคู่ประสานกัน เป็นเหตุให้หญิงสาวต้องหวั่นไหว“เอ...คนตัวโต ท่านเป็นใครถึงกล้ามองมารดาข้าเช่นนี้ ไม่กลัวข้าควักลูกตาท่านหรือ” จื่อเยว่เอ่ย และวางท่าราวกับเป็นผู้พิทักษ์เนี่ยหยวนซู“เยว่เอ๋อร์อย่าได้เสียมารยาทกับผู้อื่น”“มิได้นะท่านแม่...ข้าเป็นลูกย่อมต้องปกป้องท่าน จะให้บุรุษใดมามองเช่นนี้ ถูกต้องที่ไหนกัน”“ฮ่า ๆ ๆ ลูกของอาซูหรอกหรือ...มิน่า ถึงขี้เหร่เช่นเจ้า และยังเป็นแม่นางน้อยด้วย”คนผู้นั้นเอ่ยและหัวเราะชอบใจ“ไร้มา
บทส่งท้ายเนี่ยหยวนซูคาดไว้แล้วว่า เมื่อวันที่นางสามารถยืนด้วยลำแข้งของตน มีกิจการใหญ่โต ขยายสาขาไปมากมาย ย่อมมีวันที่สินค้าขาดแคลน และยามนี้ต้องผลิตถ่านที่ทั้งหอม ไร้ควัน ให้ความร้อนได้นาน ที่ต้องส่งเข้าคลังหลวงเพื่อเป็นของวังหลังโดยเฉพาะ แต่กลับขาดวัตถุดิบซึ่งก็คือไม้ดำหอม นอกจากนั้นยังมีชุดหนังกระดาษที่ใช้ในการรบยุคใหม่ เนื่องจากน้ำหนักเบาป้องกันสนิมได้ดีสำหรับเมืองติดแม่น้ำหรือชายทะเล“วันนี้จะมีเรือการค้าจากชาวต่างชาติ และเมืองทางใต้เข้ามาหลายลำ พวกเขาเป็นชาวเล สกุลเก่าแก่เจ้าค่ะ”เนี่ยหยวนซูได้ยินเรื่องนี้มาพักใหญ่ ทั้งเป็นปัญหาต่อการค้านางมิน้อย การค้าทางเรือยังไม่ได้มีการควบคุมดีพอ อีกทั้งมีสินค้าหลากหลาย ผู้คนให้ความสนใจทุกครั้งที่เดินทางมาถึงสร้างความตื่นตาตื่นใจต่อชาวเมือง ขุนนางน้อยใหญ่ และเศรษฐีต่างออกมาใช้เงินซื้อหาสิ่งของต่าง ๆ เข้าเรือน พลอยให้ช่วงเวลาดังกล่าวร้านค้าในเครือสกุลเนี่ยได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมานางจึงเปิดโต๊ะเจรจากับทางการ ขอให้สินค้าทุกชนิด ลงทะเบียนก่อนทำการซื้อขาย ในภายภาคหน้าต้องเข้าร่วมสมาคมของเมืองเป่ยซาน ก่อนนำมาวางขายได้ มิเช่นนั้นการค้าในเมืองนี้คงเ