ทั้งสี่คนเดินกลับมาถึงบ้าน เซียวจ้านเป่ยหันไปถามบุตรสาว
"ผิงผิง ลูกอยากไปเล่นกับพี่ๆที่บ้านลุงเซี่ยไหม วันนี้พ่ออนุญาตเจ้าเดี๋ยวค่ำๆพ่อจะไปรับ กลับ ต้องทำความสะอาดบ้านอีกฝุ่นเยอะเดี๋ยวลูกจะป่วยได้"
เซียวจ้านเป่ยบอกลูกสาวผิงผิงทำสีหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่ง
"ท่านพ่อบอกว่าหากอยากมีน้องของตัวเอง ข้าต้องให้ท่านพ่ออยู่กับท่านแม่สองคนบ่อยๆ อืมท่านพ่อคงอยากให้ข้ามีน้อง ได้เอาตามนี้"
เซียวผิงผิงคิดในใจเรียบร้อยก็พยักหน้า
"ท่านแม่เจ้าคะ ลูกปวดใจนักที่ต้องห่างท่านแม่ แต่เมื่อวานท่านแม่บอกว่าบ้านเราฝุ่นเยอะหากไม่ทำความสะอาดจะป่วยได้ ข้าไม่อยากป่วยไม่อยากกินยา ท่านแม่ข้าจะคิดถึงท่านแม่นะเจ้าคะ ท่านพ่อไม่ต้องรีบไปรับก็ได้ท่านต้องช่วยงานท่านแม่ ห้ามอู้งานนะเจ้าคะ"
เซี่ยตงหยางถึงกับเหนื่อยใจกับความหน้าด้านของเซียวจ้านเป่ย คำพูดเหล่านี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยพูดเองหรือเขาสอนให้พูดกันแน่
เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าบุรุษตรงหน้าอยากจะรักเมียตัวเองขนาดไหน สายตาเจ้ามันฟ้อง ก่อนจะอุ้มเซียวลี่ผิงไปเล่นกับเด็กๆที่บ้านตนเอง
เซี่ยตงหยางไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยก็ยิ้มใส่คนในอ้อมกอด เขายังอุ้มนางอยู่ไม่ยอมวาง ส่วนจูเหมยลี่ก็อยากรู้นักว่าเขาจะอึดได้ถึงเมื่อไหร่เจ้าไม่อยากวางก็เรื่องของเจ้า ข้าสบายดี
"ลี่เอ๋อร์จ๋า ไปช่วยโกนหนวดให้หน่อยสิ ข้าซื้อมีดโกนมาแล้วคนดีเวลาจูบเจ้าๆจะได้ไม่เจ็บอีก"
"ตาแก่ลามก วันๆคิดเรื่องอื่นเป็นบ้างไหมหึ วางข้าลงได้แล้ว"
ปากบ่นเขาแต่ก็ยอมทำให้ จากนั้นทั้งคู่ช่วยกันเอาข้าวของที่เซียวจ้านเป่ยซื้อมาลงจากเกวียน
จูเหมยลี่มองดูธัญพืช ข้าวสาร แป้งสาลี แป้งหมี่ และสิ่งที่เขาหาซื้อมาให้ เสื้อผ้าและผ้าเนื้อดีหลายผืน
จูเหมยลี่เก็บผ้าไว้อีกห้อง นางเริ่มปูเตียงให้เขาก่อน นำผ้านวมผืนนุ่มมาปูให้ เสร็จจากห้องเขาก็ไปห้องของนางกับเจ้าตัวน้อยเซียวลี่ผิง
"ลี่เอ๋อร์ วันมะรืนมีคุณชายคนนึงอยากให้ข้านำทางไปล่าสัตว์บนเขา ค่าตอบแทนหนึ่งพันสองร้อยตำลึง ข้าต้องไปชายแดนเลยรับปากเขา นี่เป็นเงินมัดจำข้าเปิดเป็นชื่อของเจ้าที่ร้านฝากเงิน"
เซียวจ้านเป่ยส่งป้ายถอนเงินให้จูเหมยลี่นางรับมาก่อนจะเอ่ย
"เหตุใดท่านไม่ไปจ่ายทางการ ตัวเองก็ไม่ต้องไปเป็นทหารไม่ต้องจากลูกอีกด้วย หรือว่า ท่านมีเหตุผลอื่น"
"อืม ข้าอยากใช้ฝีมือเผื่อจะได้ตำแหน่งขุนพล นายกองให้เจ้าได้เป็นฮูหยินจะได้สุขสบาย"
"เฮ้อ ข้าไม่ใช่คนยึดติด ท่านดูรั้วดีๆแล้วกัน วันนี้หมาขี้เรื้อนยังเข้ามาได้ ไม่รู้อีกหน่อยใครจะย่องมาอีก ช่วยสร้างห้องน้ำ กับห้องเก็บเสบียงให้ข้าหน่อย ซื้ออิฐมาปูพื้นบ้านด้วย ซื้อไหมาให้ข้าเยอะๆด้วย หน้าฝนยอดผักป่า หน่อไม้มีเยอะ ดองเอาไว้กินหน้าหนาว เอาไว้ไปกินกองทัพด้วย"
"ได้ ข้าจะซ่อมประตูกับเสริมรั้วให้แข็งแกร่ง ทางการเลื่อนวันเดินทางออกไปข้าได้เวลาเพิ่มอีกยี่สิบวัน เท่ากับมีเวลาอีกเดือนครึ่ง ข้าจะซื้ออิฐมาเสริมแล้วกัน"
เซียวจ้านเป่ยที่กำลังขนของลงเอ่ยปากบอกกับนาง
"ไม่ต้องหรอก ก้อนหินในลำธารเยอะนัก เอามาซ่อมแซมได้ พรุ่งนี้ท่านขึ้นเขาไปหาหินปูนมาเยอะหน่อย ซื้ออิฐสักสองพันก้อนก็พอ ข้าจะมาปูพื้นบ้าน นี่เพิ่งเข้าหน้าฝนไม่ถึงครึ่งเดือน บ้านกลายเป็นปลักโคลนหมดแล้ว"
เซียวจ้านเป่ยที่ขนของเสร็จแล้วเดินมาหานาง พร้อมกับกอดจูเหมยลี่จากด้านหลัง
"ไปอาบน้ำกันข้าเสร็จแล้ว ช่วยโกนหนวดให้ข้าด้วย เดิมกะว่าไปล่าสัตว์แล้วค่อยโกน แต่เมื่อตอนสาย อยู่บนเขาเจ้าบอกว่าหากไม่โกนจะไม่ให้ข้าชื่นใจเจ้าอีก ข้าทนไม่ได้หรอก คิดถึงเมียแต่ให้นั่งมองอย่าเดียวข้าลงแดงตายแน่ๆ"
จูเหมยลี่ พลิกตัวกลับมามองหน้าเขาก่อนจะกำมือแล้วทุบไหล่เขาแรงๆสองที
"ลามกทุกเวลา ข้าจะทำกุญแจลงกลอนห้องข้า ไม่ให้ท่านเข้ามาได้ อื้อๆ"
เซียวจ้านเป่ยจูบจูเหมยลี่เนิ่นนาน จนคนตัวเล็กเริ่มวาบหวามกับเขาแล้ว คลุกเคล้าทุกทีที่มีโอกาสเลย เซียวจ้านเป่ยถอนจุมพิตออกก่อนจะจุงมือนางไปที่ลำธาร
นี่คือสาเหตุที่เขาให้ลูกไปอยู่บ้านสหาย เขาไม่ใช่บุรุษขี้เหร่ เขารูปงามที่สุดในแคว้นก็ว่าได้ เพราะเขาเหมือนเสด็จปู่ ไม่เหมือนเสด็จพ่อสักนิด
หากได้โกนหนวดออกแล้วเผื่อเมียอยากปล้ำเขาๆจะได้นอนรอให้นางจับเขากิน หึๆๆ หัวเราะในลำคอจนจูเหมยลี่หันมามองอย่างสงสัย
จูเหมยลี่นั่งลงริมตลิ่ง เซียวจ้านเป่ยนอนหนุนตักนางหลับตาลง จูเหมยลี่ค่อยๆโกนหนวดให้เขาอย่างเบามือ ผู้ชายคนนี้ปากร้ายมาก แต่จิตใจค่อนข้างดี บางทีในชีวิตอาจผ่านเรื่องเลวร้ายมาจึงกลายเป็นคนเช่นนี้
"เอ่อ ท่านลุง อื้ม ท่านพี่เจ้าคะ ท่านจะไปชายแดนสองปี ก่อนจะไปข้าอยากตกลงกับท่านหน่อย"
มือบางค่อยๆถากหนวดของเขาทีละนิดๆ เซียวจ้ายเป่ยหลับตาก่อนจะตอบกลับมาแค่ "อืม ว่ามา"
จากนั้นก็ไม่มีเสียงตอบกลับอีก จูเหมยลี่ลังเลว่าควรเอามีดโกนปาดคอเขาตอนนี้เลยได้ไหม เขาหลับอยู่ไม่ระวังตัวหรอก ก่อนจะมีเสียงเอ่ยขึ้น
"อยากปาดคอขา มือเจ้าต้องไวนะเมียจ๋า ไม่งั้นข้าจะเชือดเจ้าให้ขาอ่อนลงจากเตียงไม่ได้เลย" จูเหมยลี่ตกใจรู้ได้ไงวะ
"ตาบ้านี่ เป็นผีหรือไงนะ"
"คือว่าข้าอยากขอเวลาท่านหน่อย ข้ารู้ว่าตนเองแต่งให้ท่านแล้ว แต่ข้ายังเด็กอยู่ อายุแค่สิบห้าเอง รอท่านกลับจากทหารก่อนลองศึกษานิสัยกันอีกสักปีแล้วค่อย เอ่อ.."
"แล้วค่อยเข้าหอ แม่ตัวดีเจ้าเด็กที่ไหนกันล้นมือข้าขนาดนี้ อืมแต่ข้ายังไม่ได้พิสูจน์ดอกเหมยของเจ้าเลยนี่นา ว่าดอกอวบอิ่มชุ่มชื่นหรือไม่แค่ไหนกัน ไม่รดน้ำจะแห้งเหี่ยวนะ"
"ท่านมันตาแก่โรคจิต"
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย