"พี่นิ่ม มาทำอะไรตรงนี้คะ"สายธารร้องถาม เมื่อเห็นพี่เลี้ยงมายืนลับๆล่อๆอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน ร่างบางภายใต้เสื้อนักศึกษาพอดีตัวกับกระโปรงยาวกรอมเท้ายิ้มหวาน เมื่อคิดว่าพี่เลี้ยงมารอรับเหมือนทุกวัน
"อย่าเพิ่งเข้าไปค่ะ!"นารีวิ่งมาขวางเอาไว้ เมื่อสายธารจะเดินเข้าบ้าน
"มีอะไรคะ"หญิงสาวหันมาถาม เมื่อเห็นสีหน้าพี่เลี้ยงสาวก็พาให้สงสัยไปใหญ่
"พ่อเลี้ยงสนิทมาค่ะ กำลังคุยกับคุณปู่อยู่ในบ้าน"คำตอบของนารี ทำให้สายธารหายสงสัย แต่กลับรู้สึกกังวล เพราะรู้สาเหตุการมาของพ่อเลี้ยงสนิท ปู่เธอใช้หนี้พ่อเลี้ยงสนิทยังไม่หมดอีกหรือ หญิงสาวไม่สนใจคำห้ามของนารี เพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคนที่อยู่ในบ้านมากที่สุด พ่อเลี้ยงสนิทมาแต่ละครั้ง คุณปู่ของเธอก็มักจะล้มป่วย
"อย่าค่ะคุณธาร"นารีดึงแขนเรียวเอาไว้ เมื่อสายธารจะเดินเข้าบ้าน
"ธารเป็นห่วงคุณปู่ค่ะ"
"พี่รู้ว่าคุณธารห่วงคุณปู่ แต่พ่อเลี้ยงสนิทเขา..."
"ช่างเถอะค่ะ ธารไม่กลัว"หญิงสาวตอบพี่เลี้ยง เธอรู้ว่าตาเฒ่าหัวงูนั่นมาทำไม พ่อเลี้ยงสนิทต้องการตัวเธอไปขัดดอก หญิงสาวฟังคำพูดนี้มาตั้งแต่อายุ 15 จนตอนนี้อายุ 22 ก็ยังได้ยินคำพูดเหล่านี้ เป็นไงเป็นกัน คุณปู่ของเธอกำลังไม่สบาย ยิ่งพ่อเลี้ยงสนิทอยู่นาน อาการของท่านก็จะยิ่งทรุด
ร่างบางแกะมือพี่เลี้ยงออกจากแขน ใบหน้าสวยเชิดขึ้น ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กหญิงสายธาร ที่เคยวิ่งแอบหลังคุณปู่ตอนเจอคนแปลกหน้าอีกแล้ว เธอคือนางสาวสายธาร คนที่พร้อมจะปกป้องดูแลทุกคนในบ้าน เมื่อปู่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง ต้นกล้าอย่างเธอก็พร้อมจะหยั่งรากลงดิน เพื่อเป็นหลักให้กับทุกคน
ร่างบางหยุดยืนหน้าห้องรับแขก ลูกน้องที่พ่อเลี้ยงสนิทขนมา มองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า นารีหน้าตึงเมื่อเห็นสายตาที่พวกมันใช้มองนายสาว
"ข้อเสนอของผม ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนี่ครับ คุณมีแต่ได้กับได้"พ่อเลี้ยงสนิทพูดกับผู้สูงวัย ถึงข้อเสนอที่เขาหยิบยื่นให้ คุณโอฬารได้แต่ถอนหายใจ เพราะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หนี้สินหลายสิบล้านที่ขาดส่งดอกเบี้ยมานานหลายปี จนตอนนี้ดอกทบต้น จะถูกยกเลิกทันที ถ้าเขาตกลงยกหลานสาวให้กับคนตรงหน้า
"ฉันขอเวลาหน่อย..."น้ำเสียงที่เคยทรงอำนาจเบาลง เมื่อเจ้าของแทบจะไม่มีแรงเปล่งมันออกมา จะให้เขาตัดสินใจอะไรได้ เมื่อพ่อเลี้ยงสนิทล้อมไว้ทุกทาง ถ้าไม่ยกสายธารให้เขา ที่ดินผืนนี้ก็จะถูกยึด ชายชราหลับตาลง รู้สึกหนักบริเวณหัวตา เขาเป็นคนสร้างหนี้มากับมือ จะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบได้อย่างไร
"คุณผลัดแบบนี้มานานแล้วครับ วันนี้ผมคงต้องได้คำตอบสักที"พ่อเลี้ยงสนิทยืนยันคำเดิม เขาเสียเวลากับคนบ้านนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าไม่ได้คนก็ต้องเอาที่
"ฉันตกลงค่ะ!"สายธารที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องขานรับ ก่อนจะเดินเข้ามา ร่างบางคุกเข่าลงข้างเก้าอี้ที่คุณโอฬารนั่ง ชายชรายกมือขึ้นเพื่อจะห้ามปราม แต่กับถูกมือขาวสะอาดรวบจับเอาไว้
"ฉันตกลงรับข้อเสนอพ่อเลี้ยงค่ะ พร้อมวันไหนก็มารับฉันได้เลย"สายธารยืนยันหนักแน่น เธอได้ยินคำพูดแบบนี้มานาน ปู่เธอก็เช่นกันท่านก็ลำบากใจมาหลายปี
คำตอบของหญิงสาว ทำให้คนมาเยือนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ผิดกับเจ้าของบ้านที่ตกใจจนพูดไม่ออก ป้านวลร้องไห้ ในขณะที่นารีแทบช็อก คุณโอฬารก็เช่นกัน ท่านก็เสียใจจนพูดไม่ออกเช่นกัน
"หนูธารแน่ใจแล้วเหรอครับถึงรับปากอาแบบนี้"เฒ่าหัวงูถามเพื่อความแน่ใจ อันที่จริงเขาตั้งใจมาเอาแค่คำตอบ แต่ถ้าหญิงสาวตกลงแบบนี้เขาก็เต็มใจรับ
"แน่ใจค่ะ พร้อมเมื่อไรก็มารับฉันได้เลย"
"คุณธาร!"นารีที่นั่งอยู่ข้างๆเขย่าแขนนายสาว เพื่อเตือนสติ
"ถ้าหนูตกลงแบบนี้อาก็สบายใจ เอาตามนี้นะครับคุณโอฬาร หนูธารเขาตกลงเอง"พูดพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้น
"อีกสามวันอามารับนะครับ"เฒ่าหัวงูยังไม่วายหันมาพูดกับเธอ สายธารยกมือไหว้ตามมารยาท มองตามหลังคนกลุ่มนั้นด้วยสายตาเกลียดชัง
"ธารลูก ทำไมหนูทำแบบนี้"คุณโอฬารพูดกับหลานสาว น้ำเสียงที่ใช้เบาจนแทบไม่ได้ยิน เพราะไม่มีแรงจะเปล่งมันออกมา
"คุณปู่ขา อย่าห้ามธารอีกเลยนะคะ นี่เป็นทางเดียวที่เราจะรักษาที่ดินของเราไว้ได้"สายธารบอกกับคนชรา เธอรู้ว่าท่านเสียใจ
"ปู่ผิดเอง ปู่สร้างหนี้จนทำให้ลูกหลานเดือดร้อน ปู่เสียใจ"คุณโอฬารพูดออกมาด้วยความเสียใจ
"คุณปู่อย่าพูดแบบนี้สิคะ หนี้สินที่เกิดขึ้น มันก็เป็นเพราะธาร ให้ธารได้ตอบแทนบุญคุณคุณปู่บ้างนะคะ"พูดพร้อมกับซบหน้าลงบนฝ่ามือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลา พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เธอจะให้ท่านรู้ไม่ได้ว่าเธอเองก็เสียใจ ไม่มีใครอยากเป็นเมียน้อย ยิ่งเป็นเมียน้อยคนรุ่นราวคราวพ่อ นั่นยิ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่สุด แต่เมื่อไม่มีทางเลือก เธอก็ต้องทำ
"ป้านวลพาคุณปู่ไปพักเถอะค่ะ เรื่องนี้ธารตัดสินใจดีแล้ว"สายธารบอกกับแม่บ้าน ก่อนจะช่วยกันพยุงคุณโอฬารให้ลุกขึ้น ร่างบางเดินแยกไปอีกทาง โดยมีพี่เลี้ยงสาวเดินตามไปติดๆ
"คุณธาร ทำไมไปรับปากพ่อเลี้ยงสนิทแบบนั้นคะ"นารีถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง
"พี่นิ่มก็รู้นี่คะ ว่านี่มันเป็นทางออกเดียวที่เรามี"
"พี่นิ่มรู้ค่ะ แต่เราผลัดพ่อเลี้ยงไปก่อนไม่ดีเหรอคะ รอให้คุณธารเรียนจบก่อน แล้ว..."นารีเสนอความคิด เพราะสงสารนายสาว แต่ความหวังดีของเธอต้องถูกกลืนลงคอ เมื่อเห็นสายตาที่สายธารมองมา
"เพื่ออะไรคะ ช้าเร็วธารก็ต้องเป็นเมียน้อยพ่อเลี้ยงสนิท สู้ให้ธารเป็นตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีเหรอ คุณปู่จะได้สบายใจ ต่อให้ธารเรียนจบก็ไม่มีประโยชน์ ชีวิตของธารคงถูกลิขิตมาให้เป็นแบบนี้ ธารฝากคุณปู่ด้วยนะคะ"สายธารเอ่ยเสียงเศร้า เมื่อต้องก้มหน้ารับโชคชะตาตัวเอง
"พี่นิ่มจะไปกับคุณธารค่ะ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ พี่ก็จะไม่มีวันทิ้งคุณธาร"นารีพูดด้วยความจริงใจ เธอจะไม่มีวันทิ้งสายธาร
"ขอบคุณนะคะพี่นิ่ม"หญิงสาวขอบคุณพี่เลี้ยงจากใจ ดวงตากลมโตมองดวงจันทร์บนท้องฟ้า วันนี้เมื่อสองปีก่อน เธอเคยช่วยใครคนหนึ่งเอาไว้ เขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ น่าแปลกที่เธอไม่เคยลืมเขาได้เลยสักครั้ง
"อยู่ที่ไหนคะ ตอนนี้ธารมืดแปดด้านแล้วนะ ส่งกำลังใจมาให้ธารด้วยนะคะ"หญิงสาวพูดกับตัวเอง เมื่อขอกำลังใจจากเขาคนนั้นผ่านดวงจันทร์
สิงห์ถอนหายใจเมื่อความซวยมาเยือน จะเดินหนีก็ใช่ที่ ไหนๆก็เป็นคนพาพวกเธอมา ช่วยสักครั้งจะเป็นไรไป เพิ่งเจอกันครั้งแรก ไอ้ธงชัยคงไม่พิศวาสถึงขนาดฆ่าเขาทิ้งหรอกมั้ง ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปใกล้วงล้อมอีกนิด โดยมีน่านนทีตามไปอีกคนสายธารเหมือนโดนมนต์สะกด ตากลมโตไม่ล่ะจากใบหน้าคมเข้ม เธอแน่ใจแล้วว่าเขาคือผู้ชายที่ทะเลจริงๆ โลกกลมจนน่าตกใจ"ไอ้สิงห์! ไอ้น่าน!"ธงชัยเอ่ยชื่อคนมาใหม่ ก่อนจะกัดกรามด้วยความโมโห หมูกำลังจะหามดันเอาคานมาสอด"ฉันบอกให้รอที่รถ เดินมาทำอะไรตรงนี้"น่านนทีเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อต้องเล่นไปตามบท สองคนนี้บ้านอยู่ท้ายไร่เขา ไม่แปลกถ้าเธอจะติดรถเขามาตลาดด้วย"มึงพาสองสาวนี้มาเหรอ"ธงชัยถาม เขาเองก็สังเกตเห็นอาการของเธอที่ดีใจเมื่อเห็นหน้าน่านนที จนออกนอกหน้า"ใช่ ขอติดรถกูมาซื้อของ ถ้ารู้ว่าวุ่นวายขนาดนี้ กูไม่พามาหรอก"น่านนทีพูดขึ้น สองสาวหน้าตึง "ฉันมากินก๋วยเตี๋ยว"สายธารตอบ "ไม่ต้องกิน ฉันจะกลับแล้ว"น่านนทีพูดเสียงเย็น สายธารกลืนน้ำลายลงคอ เข้าใจว่าเขากำลังช่วย แต่จำเป็นต้องโหดและนิ่งขนาดนี้เลยหรือ ดูก็รู้ว่าเขาไม่พอใจ และรำคาญพวกเธอ"หลีกทางให้น้องเขาสิ แล้วพี่จะไปหาที่ไร่นะคร
"หลานตาชุบ มัคนายกที่บ้านอยู่ท้ายไร่ไอ้น่านนะเหรอ"ภูชิตถามต่อ เมื่อสองสาวเดินผ่านไป"เออ...ก็มีอยู่ชุบเดียวนั่นแหละ""สวยเนอะมึงว่าไหม""ก็งั้นๆ"คำพูดนี้น่านนทีเป็นคนตอบ จะว่าสวยก็สวย แต่จะดูให้ธรรมดาก็ธรรมดา เขาเคยเห็นคนสวยมาเยอะ ระดับนางงามก็เคยเจอมาแล้ว"มากันสองคน กล้าหาญจริงๆ""หน้าตาแบบนี้ ถ้าไอ้ธงชัยเห็นคงไม่รอด"คำว่าธงชัยทำให้คิ้วเข้มกระตุก มือแกร่งยกแก้วสาดเหล้าลงคอ ใครจะชอบไม่ชอบใคร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสองสาวกลายเป็นหัวข้อสนทนาของสี่หนุ่ม เมื่อยิ่งพูดก็ยิ่งสนุกปาก จะมีก็แต่น่านนทีคนเดียวที่นั่งฟังเงียบๆ เพราะผู้หญิงกลายเป็นของแสลงสำหรับเขาไปแล้วอีกด้านของตลาด ธงชัยกับพรรคพวก ก็สนใจคนแปลกหน้าเช่นกัน ข้อมูลที่ได้มาจากลูกน้อง ทำให้รู้ว่า สาวแปลกหน้าเป็นหลานตาชุบ "สวยนะพี่"ลูกน้องคนสนิทกระซิบที่หูเจ้านาย เมื่อสองสาวเดินมาทางนี้"อืม..."ธงชัยขานรับในลำคอ สายตาจับจ้องไปยังใบหน้าของผู้หญิงทั้งสอง ก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าขาวเนียน ของคนที่ผิวขาวกว่า"คนหลังน่าจะอ่อนหวานเอาใจเก่ง"เหล้าในมือ ถูกกลืนลงคอ เมื่อเลือกคนที่ถูกใจได้แล้ว"ไปทำความรู้จักกันหน่อย"ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ เมื
เสียงไก่ขันที่ลอยมาตามลม ปลุกคนที่เพิ่งงีบหลับไปเมื่อตอนค่อนคืนให้ตื่นขึ้น สายธารลืมตา เมื่อคนที่นอนข้างๆขยับตัว "ไปไหนคะ""คุณธาร พี่ทำให้คุณธารตื่นหรือเปล่า"นารีพูดอย่างสำนึกผิด"พี่นิ่ม!"สายธารเสียงดัง เมื่อนารียังใช้ถ้อยคำเดิมๆพูดกับเธอ"ขอโทษค่ะ พี่ลืม""แล้วจะไปไหนคะ""พี่จะไปดักรถกับข้าวค่ะ ลุงแกว่ารถจะมาตีสี่ จะได้ถามชาวบ้านด้วยว่าตลาดไปทางไหน ธารนอนต่อนะ เดี๋ยวพี่มา""ธารไปด้วยค่ะ"สายธารพูด พร้อมกับมุดมุ้งตามออกมานารีขี่จักรยานโดยมีสายธารนั่งซ้อนท้าย โชคดีที่ลุงชุบทิ้งไฟฉายไว้ให้ เธอจึงมีไฟส่องทาง ตากลมโตมองไปรอบๆบริเวณ ที่มีดวงไฟสีส้มเป็นจุดๆ "ตรงที่มีไฟน่าจะเป็นบ้านคนนะ"สายธารพูด เมื่อสังเกตรอบๆ"นั่นสิพี่ก็ว่าใช่"นารีเห็นด้วย ลมหนาวพัดมากระทบผิว ทำให้สายธารคิดถึงบ้าน ที่บ้านอากาศตอนเช้าก็หนาวแบบนี้ แต่เธอไม่เคยออกจากบ้านในสภาพนี้เลยสักครั้ง ถ้าจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ก็จะมีคนขับรถไปส่งเสมอ "นั่นใช่ไหมรถกับข้าวที่ว่า"นารีชี้มือไปด้านหน้า ที่มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมุงรถกระบะ"น่าจะใช่นะ"สองสาวปั่นจักรยาน มาจอดบริเวณที่รถขายกับข้าวจอดอยู่ แล้วพากันไปเลือกซื้อกับข้
เมื่อความมืดโรยตัว ความเหงาก็เข้าเกาะกุมหัวใจ ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่หน้าบ้าน ตากลมโตมองดวงดาวบนท้องฟ้า น้ำตาพากันไหลลงมาเป็นสาย "คุณปู่ขาธารคิดถึงคุณปู่"หญิงสาวพูดกับตัวเอง เมื่อตระหนักได้ว่า ที่พึ่งเดียวในชีวิตได้จากเธอไปแล้ว "คุณธารมานอนได้แล้วค่ะ พี่นิ่มผูกมุ้งให้แล้ว โชคดีนะคะหนูไม่กัดพวกผ้าห่ม เหม็นสาบหน่อยแต่ใช้ได้"นารีเดินออกมาจากตัวเรือน หญิงสาวหยุดอยู่กับที่ เมื่อเห็นนายสาวกอดเข่าร้องไห้"คุณธาร ร้องไห้อีกแล้ว"นารีนั่งลงข้างๆ "พี่นิ่ม ธารคิดถึงคุณปู่ คิดถึงบ้าน"สายธารบอกกับนารี เมื่อซบลงบนไหล่พี่เลี้ยงสาว"พี่เข้าใจ ร้องออกมาเถอะค่ะ ร้องออกมาให้หมด""ธารพยายามจะเข้มแข็งแล้ว แต่ธารทำไม่ได้ ขอให้ธารร้องอีกครั้งนะคะ ธารสัญญาว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย""ไม่ต้องสัญญาค่ะ น้ำตาคือเพื่อนที่ดีที่สุด คุณธารอยากร้องก็ร้อง ร้องออกมา คนเข้มแข็งก็ร้องไห้ได้ค่ะ""ทำไมธารต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยคะ เวรกรรมอะไรของธาร""ไม่ใช่เวรกรรมหรอกค่ะ ไอ้สนิทมันเลว ต่อให้เราไม่เป็นหนี้มัน สักวันมันก็ต้องหาเรื่องมาเอาตัวคุณธารไปอยู่ดี"นารีกำหมัดแน่น เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พ่อเลี้ยงสนิทจ้องสายธารมาตั้งแต่อายุ 15
ทองชุบที่ป้านวลแนะนำมา แท้จริงแล้วเป็นพี่ชายของป้านวล และก็ไม่ได้เป็นสัปเหร่ออย่างที่ผู้ชายคนนั้นบอก ลุงทองชุบเป็นมัคนายกวัดอย่างที่สองสาวเดาไว้ตั้งแต่ตอนแรก เมื่อแนะนำตัวและบอกที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ลำปาง ทองชุบก็ถอนหายใจ แล้วมองหน้าสองสาวที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แล้วคิดหนัก ทุกวันนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีอาชีพอะไร อาศัยทำงานในวัด เพื่อแลกข้าวก้นบาตรไปวันๆ กินนอนที่วัด จะรับสองคนนี้ไว้ก็ไม่สะดวก ครั้นจะปล่อยไปก็ไม่ได้ เมื่ออ่านจดหมายที่ป้านวลฝากมา ก็เข้าใจความจำเป็นทั้งหมดทั้งมวล"ธารกับพี่นิ่มไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอบคุณลุงมากนะคะ"สายธารพูดขึ้น เมื่อเห็นความลำบากใจในดวงตาของชายวัยกลางคนที่มองมาที่เธอ การที่จะรับคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องคิดมาก "ใช่จ้ะแค่นี้ก็รบกวนลุงมากแล้ว"นารีเห็นด้วยกับสายธาร แค่ทองชุบรับฟังเรื่องราว หาข้าวหาน้ำให้พวกเธอกิน ก็มากพอแล้ว เธอคงไม่รบกวนไปมากกว่านี้"แล้วพวกเอ็งจะไปไหนกัน"ทองชุบถาม อดรู้สึกห่วงไม่ได้ ผู้หญิงมากันตามลำพังย่อมไม่ปลอดภัย"พวกฉันก็ยังไม่รู้จ้ะ"นารีตอบไปตามความจริง ตอนนี้พวกเธอสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีที่ไหนให้พึ่งพา บ้านที่
นารีปัดสิ่งที่กวนใจออกจากไหล่ เมื่อมันรบกวนเวลานอนของเธอ มือบางฟาดหนักๆลงไปบนสิ่งนั้น เมื่อมันยังกวนเธอไม่เลิก"นี่เธอสองคนน่ะ ตกลงจะนอนใช่ไหม"สิงห์เรียกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเรียกสองสาวมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะตื่น "เสียเวลาฉิบ!"พูดอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเบื่อหน่ายสองคนนี้เต็มทน"นี่ยายขี้เซา ตื่นได้แล้ว!"ชายหนุ่มตะโกนใส่หูหญิงสาวคนที่นั่งใกล้เขา ไม่ได้ผล แทนที่เธอจะตื่น กลับผลักหน้าเขาออก แล้วหันไปอีกทาง เพื่อหนีจากสิ่งรบกวน คนที่นั่งข้างประตูก็เช่นกัน หัวที่พิงบานประตูหมุนกลับมาพิงกับหัวคนที่ขยับหนีเขา เป็นตำแหน่งที่เหมาะจริงๆ สองสาวหันหัวมาชนกัน แล้วหลับต่ออย่างสบายอารมณ์"ซ้อมหรือตายไงวะ"สิงห์บ่นอย่างหัวเสียปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊นเสียงแตรรถที่ขับสวนมา ดึงความสนใจของสิงห์ไปจากสองสาว เมื่อชายหนุ่มหันไปคุยกับคนที่ตะโกนมาจากรถคันนั้น"กลับมาแล้วเหรอ ได้ของครบไหม!"น่านนทีตะโกนถาม เมื่อเห็นรถสิงห์ ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่เห็นสิงห์จอดรถอยู่หน้าวัด"ครบ มึงจะไปไหน!"สิงห์ตะโกนตอบ แล้วถามกลับ"ไปเอาต้นกาแฟที่ไร่ไอ้เพชร ไปไหม!""เดี๋ยวตามไป!"สายธารปรือตาขึ้น เมื่อได้ยินเสีย