หน้าหลัก / รักโบราณ / สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง / 2 บุคคลที่ต้องหลีกเลี่ยงเป็นอันดับหนึ่ง

แชร์

2 บุคคลที่ต้องหลีกเลี่ยงเป็นอันดับหนึ่ง

ผู้เขียน: มายุมายูมายา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-09 10:50:24

ฮือ เฟยเมี่ยวขอถอนคำพูดที่เคยบอกไว้ว่าขี่ม้าง่ายกว่าขี่รถมอเตอร์ไซค์เสียตอนนี้ ชาติก่อนเฟยเมี่ยวขี่รถในสนามแข่งทีไรชนะที่หนึ่งตลอด ไยพอขี่ม้าแข่งบ้าง นางกลับไม่ชนะเสียทีเล่า !

แดดแรงแล้ว เฟยเมี่ยวจึงขอทดไว้แข่งกับองค์รัชทายาทหวงลู่คราวหน้าแทน ทั้งสองคนลงจากหลังม้าได้ก็เดินเคียงคู่กันออกมาจากสนามวิ่งม้า จากที่เฟยเมี่ยวคิดไว้ว่าจะเดินกลับตำหนักของทันทีก็ต้องชะลอแผนนั้นไว้ก่อน เพราะที่ทางออกจากสนาม พบผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่งยืนอยู่

เจอหน้ากันเพียงนี้แล้ว จะเลี่ยงตามกฎที่ตนตั้งไว้ก็ไม่ได้ จำต้องเผชิญหน้าเท่านั้น

“ถวายบังคมชินอ๋องเพคะ”

“คำนับเสด็จอาพะยะค่ะ”

ตรงหน้าของนางนั้นคือบุรุษร่างสูงใหญ่สวมชุดสีดำทมึนพาดลายงูใหญ่นูนแต่ดูกลมกลืน บนชุดมีเพียงสีแดงเลือดกับสีทองบ้างช่วยแต่งเติมให้ดูยิ่งทรงอำนาจขึ้นไปอีก ชินอ๋องผู้นี้เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้ที่อายุห่างกว่าสิบปี ปีนี้เขาน่าจะอายุยี่สิบห้า เป็นโอรสองค์เล็กสุดในอดีตฮ่องเต้ ไม่รู้ด้วยความรักสายสัมพันธ์พี่น้อง หรือเป็นเพราะพระมารดาของชินอ๋องเป็นอดีตนางกำนัลคนสนิทของไทเฮา หรือเหตุอันใดทำให้ชินอ๋องผู้นี้สามารถดำรงอยู่ในเมืองหลวงข้างกายฮ่องเต้ได้ ทั้งที่พระญาติพระองค์อื่นของฮ่องเต้ล้วนถูกส่งไปประจำเมืองชายแดน หรือไม่ก็ถูกประหารหมดแล้วทั้งสิ้น

ซึ่งนอกจากเฟยเมี่ยวจะไม่สามารถสืบรู้ความเป็นมาของชินอ๋องแน่ชัดแล้ว นางก็ยังไม่รู้ว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากสีดำนั่นเป็นอย่างไรด้วย

ชินอ๋องได้รับสมญานามว่าเป็นอ๋องลึกลับ จากสองเหตุผล...

หนึ่งคือชินอ๋องไม่ค่อยเข้าร่วมงานของพระราชวังเท่าใดนัก สองคือเขามักปรากฏตัวพร้อมหน้าสีดำปิดหนึ่งในสามของหน้า คลุมตั้งแต่หน้าผาก ตาสองข้าง และส่วนบนของจมูก ทำให้ยิ่งดูลึกลับไปใหญ่

ชินอ๋องผู้นี้ถือเป็นบุคคลที่เฟยเมี่ยวตั้งกฎในใจไว้ว่าต้องหลีกเลี่ยงเป็นอันดับหนึ่ง ! เพราะนางไม่สามารถอ่านความคิดจากสายตาของเขาได้เลย อีกทั้งตำหนักเฮยลู่ของชินอ๋องนั้นก็เป็นเพียงตำหนักเดียวที่เฟยเมี่ยวไม่สามารถล่อลวงคนของตำหนักให้มาเป็นสายได้เยี่ยงตำหนักอื่น ยามนางหาทางผูกมิตรกับคนในตำหนักนั้นแล้วเป็นอันต้องล้มเหลวทุกที จนนางล้มเลิกแผนนั้นเสีย ในเมื่อไม่สามารถหาผู้หวังดีภายในคอยส่งข่าว หรือนางไม่สามารถสืบจากใครได้จึงต้องตั้งตนหลีกห่างแทน

ตอนนี้ภาพจำชินอ๋องสำหรับเฟยเมี่ยวคือ ลาสบอสในเกมส์ที่เคยเล่นในชาติก่อน นางต้องพัฒนาตนเองและฝ่าฟันอุปสรรคจนหมดก่อนค่อยปะทะกับคนผู้นี้ได้ อันใดทำนองนั้นน่ะ

“มิคาดว่ามาคราวนี้จะได้ดูการแข่งขันขี่ม้าขององค์รัชทายาทนะ ฝีมือการควบคุมทิศทางม้าของพระองค์ดีขึ้นมากเชียว ดูเข้าใจสื่อสารได้ดียิ่งกับม้าของพระองค์...”

ในใจของเฟยเมี่ยวนั้นสวดภาวนาให้ชินอ๋องไม่สนใจตนคราแล้วคราเล่า แต่พอเอ่ยชมหวงลู่เสร็จก็เหลือบตามามองนางเสียแล้ว

สิ่งที่สวดขอไว้เป็นอันจบสิ้น

“ทว่าเมื่อครู่พระองค์กลั่นแกล้งคุณหนูซุนเกินไปแล้ว ฝีมือห่างชั้นกันเพียงนี้ไยมิต่อให้นางเสียหน่อยเล่า ฝีเท้าม้าตัวนี้มิอาจเทียบได้ไม่พอ การคุมทิศทางของคนขี่กับตัวม้ายังไม่สอดรับเท่าใดนัก แต่ต้องขอชมว่าคุณหนูซุนนั้นตัดสินใจได้ฉับไว และเปี่ยมด้วยความกล้าหาญยิ่ง หากฝึกถูกทิศทางเสียหน่อยย่อมเก่งกาจกว่านี้แน่”

ฟังไปแล้ว เฟยเมี่ยวเหมือนกำลังถูกตบหัวแล้วเขาก็ลูบหลังนางเพื่อปลอบประโลมต่ออย่างไรอย่างนั้น ชินอ๋องผู้นี้วิจารณ์เสียจนเฟยเมี่ยวอยากกลับไปแข่งอีกรอบเสียตอนนี้เลย แต่ก็ต้องข่มใจไว้ ฝืนหยักยิ้มขอบพระทัยและเอ่ยเสียงหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ในอารมณ์ตอนนี้

“ขอบพระทัยชินอ๋องที่เสนอแนะหม่อมฉันเพคะ หม่อมฉันจะนำไปปรับใช้และพัฒนาตนเองในอนาคตแน่เพคะ”

ยิ้มเข้าไว้เฟยเมี่ยว แม้นร่างกายจะอายุเพียงสิบสี่ย่างสิบห้า แต่จิตวิญญาณของเฟยเมี่ยวจากยุคสองพันก็ปาไปเกือบสามสิบได้แล้ว เพียงนางถูกคำพูดดูถูกและสายตามองอย่างเย้ยหยันเบา ๆ ของชินอ๋องไม่สามารถทลายภาพลักษณ์สตรีสุขุมเรียบร้อยได้หรอก

“หากฝึกเองย่อมมิสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้หรอก...”

น้ำเสียงเข้มขรึมพูดโต้กลับมาล้วนพุ่งทิ่มแทงจุดบอดของเฟยเมี่ยวอย่างแรง

เขาไม่รู้ว่าคำกล่าวเมื่อสักครู่นางเพียงพูดตามมารยาท หรือว่าตั้งใจกดข่มนางอย่างเจ็บแสบกันแน่ !

“หม่อมฉันจะตั้งใจเรียนรู้จากองค์รัชทายาทอย่างตั้งใจเพคะ”

“ฝีมือเท่านี้ของคุณหนูซุนก็ได้มาจากการได้องค์รัชทายาททรงช่วยมิใช่หรือ...”

อา ชินอ๋องผู้นี้กวนน้ำโหเฟยเมี่ยวมากเกินไปแล้ว เขากำลังบอกว่านางเรียนกับหวงลู่ไปก็เท่านั้น อย่างไรก็ได้เท่านี้ใช่หรือไม่

ทว่าแม้นในใจของนางจะร้อนดั่งไฟโหมลุกกองใหญ่ แต่สีหน้าก็ยังชื่นบานและหยักยิ้มไม่คลาย

“หมะ...”

“งั้นเอาอย่างนี้ ไว้ชินอ๋องผู้นี้จะช่วยสอนคุณหนูซุนเอง เป็นสัปดาห์ละหนึ่งหนเป็นอย่างไร ช่วงนี้งานราชการไม่มาก พอจัดเวลาสอนได้บ้าง”

นี่ไม่ใช่ข้อเสนอ แต่มันคือคำสั่งต่างหาก !

เฟยเมี่ยวอยากหลบเลี่ยงบุคคลลึกลับผู้นี้แทบใจขาดดิ้นกลับกลายเป็นต้องมาเจอเขาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งหรือนี่

จะปฏิเสธก็ถูกสายตาพิฆาตขององค์รัชทายาทที่ยืนเฉียงหันหน้ามาทางนางหยุดไว้ ในสายตาของเขาที่มองชินอ๋องอย่างเลื่อมใสแต่มองเฟยเมี่ยวอย่างศรัตรูทำเอาเฟยเมี่ยวมิรู้จะเอ่ยคำใดออกไปเลย...

“หากไม่เป็นการเสียเวลาเสด็จอา หม่อมฉันขอมาร่วมเรียนด้วยนะพะยะค่ะ”

เมื่อไม่กี่ปีก่อนเขาเคยขอร้องให้บิดาผู้เป็นฮ่องเต้ช่วยเอ่ยปากขอให้เสด็จอามาสอนขี่ม้าแต่ก็ถูกปฏิเสธ มิคิดว่าจะมีวันนี้ที่อยู่ดีดีก็มีโอกาสได้เรียนเสียเองแล้ว แม้ตอนแรกเสด็จอาผู้เป็นดั่งต้นแบบให้เขาตั้งใจเรียนจะเอ่ยปากสอนเฟยเมี่ยวมิใช่เขา แต่สุดท้ายเขาก็ติดสอยห้อยตามไปด้วยได้ก็ดีที่สุดแล้ว ก่อนหน้าเป็นอย่างไรหาได้สำคัญไม่...

หนึ่งคนแสนจะดีใจ แต่อีกหนึ่งคนน้ำตาตกในใจ ท่าทีทั้งสองคนล้วนอยู่ในสายตาของชินอ๋องทั้งสิ้น สีหน้าภายใต้หน้ากากกำลังเป็นอย่างไรหาได้มีใครรู้ แต่มุกปากหยักยกเล็กน้อยนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจนในมุมมองของขันทีมากประสบการณ์อย่างขันทีฉีแน่นอน

วันนี้เจ้านายของเขาล้วนทำแต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือแบบแผนเดิม จนคนมั่นใจว่าตนเข้าใจชินอ๋องได้ถ่องแท้ที่สุดเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว...

“ท่านอ๋องพะยะค่ะ ท่านเสนาบดีหลิง กรมตุลาการ ส่งคนมาสอบถามพะยะค่ะ เอ่อ ที่นัดหมายไว้ก่อนหน้าไม่ทราบว่าพระองค์ยังจะเสด็จไปอยู่หรือไม่ขอรับ”

เป็นผู้ช่วยประจำตัวของชินอ๋องเต๋อรุ่ยเองที่เดินเข้ามาแทรกบทสนทนา ดูจากสีหน้าที่นิ่งเฉยไม่แพ้ผู้เป็นนาย ย่อมบอกได้ว่าสีหน้า ท่าทางต่างถอดแบบมาจากเจ้านายยันลูกน้องเลยเชียว รวมถึงชุดสีดำทั้งตัวด้วยเช่นกัน

มองไปทางสองนายบ่าว บรรยากาศรอบกายดูมืดครึ้มเยี่ยงท้องฟ้ายามค่ำคืน หรือ เหมือนอยู่ในงานศพอย่างไรอย่างนั้น...

“เดี๋ยวไปเลย เขารีบมากเลยหรือ?”

ฟังจากน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่แผ่รังสีเคล้าลางความไม่พอใจออกมาพร้อมน้ำเสียงแล้ว ใครจะกล้าบอกว่ารีบกันเล่า เฟยเมี่ยวมองคนของเสนาบดีหลิงที่ถูกส่งมาแล้วก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ นางเห็นเขาส่ายหน้าพัลวันจนคอแทบหลุดจากบ่า

“ท่าอาจะเสด็จไปที่ศาลกลางใช่หรือไม่ หม่อมฉันขอไปด้วยได้หรือไม่พะยะค่ะ เป็นการศึกษางานช่วยเสด็จอาไปด้วยในทีเดียวนะพะยะค่ะ”

เต๋อรุ่ยเป็นคนที่ทำงานแล้วไม่ชอบให้คนมาเฝ้าดูเยอะ ยามใดที่เขาถูกเชิญไปช่วยตัดสินคดีความใด ภายในศาลวันนั้นมักจำกัดจำนวนคนเข้าฟังได้ไม่มาก เข้าได้เฉพาะคนที่มีความเกี่ยวข้องกับโจทก์และจำเลยเท่านั้น ด้วยความที่เต๋อรุ่ยนั้นมิได้มีหน้าที่เป็นผู้พิพากษา แต่เขาจะไปช่วยในคราวที่เกินกำลังของท่านเสนาบดีหลิงเท่านั้น ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษที่ฮ่องเต้เป็นผู้แต่งตั้งให้

เฟยเมี่ยวคิดไปคิดมาว่า หนึ่งปีกว่าที่อยู่ในยุคนี้นางยังไม่เคยไปเที่ยวชมศาลเลยนี่นา นางชักอยากรู้แล้วสิว่าศาลในยุคนี้เป็นอย่างไร แตกต่างจากศาลในสมัยที่นางจากมาหรือไม่ ฉะนั้นเฟยเมี่ยวต้องอาศัยเกาะติดองค์รัชทายาทหวงลู่ดั่งปลิงเกาะขาดูดเลือด เขาไปที่ใดนางต้องได้ไปที่นั่นเช่นกัน

“องค์รัชทายาททรงพาหม่อมฉันไปด้วยนะเพคะ เพราะฮองเฮาทรงฝากฝังให้ท่านดูแลสอนสั่งข้าแล้ว ทรงอย่าลืมนะเพคะ...”

เฟยเมี่ยวไม่ได้พูดออกมาทันที แต่นางค่อย ๆ เขยิบไปหาหวงลู่และกระซิบบอกเขาเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้น

ที่เฟยเมี่ยวต้องยกเอารับสั่งฮองเฮามาเพราะกลัวหวงลู่ปฏิเสธนั่นเอง

“อย่างนั้นก็ตามมาได้...”

หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีตาเปล่งประกายทันที ที่ได้ยินคำยินยอมของชินอ๋อง

...หวงลู่ตื่นเต้นยิ่งที่จะได้ไปดูต้นแบบอย่างชินอ๋องทำงานจริงด้วยตาตนเอง

...ส่วนเฟยเมี่ยวนั้นดีใจที่ตนจะได้ออกจากวังในช่วงกลางวัน อีกทั้งมีเรื่องน่าตื่นตาให้ชม แทนที่จะอยู่วังรู้สึกเบื่อไปวันวัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   3 ช่วยว่าความสืบคดี (1)

    ศาลยุคโบราณนี้ไม่ต่างจากยุคปีค.ศ.สองพันมากนัก มีตำแหน่งนั่งของคนเข้าดูบรรจุได้หลายสิบคน ตรงกลางเว้นไว้เป็นลานโล่งมีที่นั่งของจำเลย และทุกตำแหน่งนั่งหันไปทางตำแหน่งผู้พิพากษาและเหล่าเจ้าหน้าที่ตัดสินต่าง ๆ ซึ่งจัดไว้ในที่ปิดอย่างเหมาะสมเมื่อกลุ่มของชินอ๋อง องค์รัชทายาทและเฟยเมี่ยวมาถึงก็มีคนอยู่เต็มศาลว่าคดีแล้ว พวกนางมาถึงก็ไปอยู่ตรงตำแหน่งหลังที่นั่งของชินอ๋องอันนั่งแทนตำแหน่งของเสนาบดีหลิงทันที“เริ่มเลย”สิ้นคำของเต๋อรุ่ย บุรุษเคราย้อยผู้หนึ่ง ก็เดินออกมาข้างหน้าพร้อมหนังสือในมือเตรียมเปิดอ่านรายละเอียดคดีให้ทุกคนในศาลว่าคดีรู้กันถ้วนทั่วเขาคือบิดาของเหลียงซู สหายใหม่ที่โดนไล่ออกจากการเป็นพระสหายของเหล่าองค์หญิงองค์ชายไปแล้วนั่นเอง เขามีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเสนาบดีกรมตุลาการ หรือที่คนเรียกกันว่า ผู้ช่วยเลี่ยง“คดีนี้มีผู้ตายคือ นายตู้ อายุสี่สิบห้าปี อาชีพเก็บของป่าไปขาย ไม่มีภรรยา บิดามารดาตายหมดแล้ว เขาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าคนเดียว ในวันเกิดเหตุนั้นมีนายซางที่เป็นสหายมาร่วมดื่มสุราด้วยที่บ้าน เช้าวันต่อมามีชาวบ้านแถบนั้นพบศพนายตู้นอนสิ้นใจอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านในที่ลับตาคน ไม่ไกลมีมีดที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-09
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   3 ช่วยว่าความสืบคดี (2)

    รับสั่งของชินอ๋องผ่านไปไม่นาน นอกจากเก้าอี้ของจำเลยที่ถูกมัดมือและมีทหารยืนคุมแล้ว ตรงกลางลานก็ปรากฏเป็นพ่อลูกร้านเกี๊ยวเพิ่มมาเฟยเมี่ยวมองพ่อค้าร้านเกี๊ยวแล้วเขาดูนิ่งเฉยติดจะมีอารมณ์กรุ่นโกรธเล็ก ๆ ไม่ได้ดูร้อนรนอย่างคนทำความผิดเท่าไหร่ ผิดก็แต่ลูกสาวที่ถูกนายตู้ไปชื่นชอบนั่นล่ะ ที่มีสีหน้าลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ อีกทั้งการแต่งตัวของสตรีนางนี้ก็ดูฟุ้งเฟ้อเกินจะเป็นเพียงลูกสาวร้านขายเกี๊ยวเสียด้วย ทั้งปิ่นทอง กำไล และชุดตัวใหม่ ทุกอย่างถูกประโคมเข้ามาอย่างคนไม่เคยมี พอได้มีก็กำลังเห่อของใหม่อย่างไรอย่างนั้นสมัยที่เฟยเมี่ยวเป็นสายลับในชาติก่อนนั้น ตอนที่ยังไม่มีภารกิจให้ออกไปปฏิบัติการเป็นสายลับที่ประเทศอื่น นางเคยไปช่วยทำงานในศาลช่วยสืบคดีกับนักสืบเก่ง ๆ มาบ้าง นางเคยได้รับบทเรียนมาว่า การจะหาคนร้ายในคดีที่ยากไขนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือทักษะการสังเกตและจินตนาการ คนสืบคดีต้องเอะใจในสิ่งที่แปลกและใส่จินตนาการเข้าไปเพื่อตั้งสมมติฐานขึ้นมา ลองพิสูจน์ดูว่าจริงหรือไม่ หากใช่ก็จบ หากสมมติฐานนี้ไม่ใช่ก็แค่เปลี่ยนใหม่ไปจินตนาการอีกอย่างก็เท่านั้นจากที่นางสังเกตและฟังเรื่องราวการสืบคดีของเหล่ามื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-20
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   3 ช่วยว่าความสืบคดี (3)

    “ตอนดื่มสุรานายตู้เอ่ยอันใดกับเจ้าบ้าง พูดมาให้หมด”คนเมาสองคนเรื่องที่คุยย่อมไม่พ้นเรื่องปรับทุกข์ในช่วงนั้นหรอก แม้นางจะไม่รู้ว่านายตู้เมาหรือไม่ แต่การทำให้สหายเมาถึงกับค้างที่บ้านได้ เขาก็ต้องดื่มไปพอสมควรนั่นล่ะ“ตามจริงที่พี่ตู้ชวนมาคราวนี้ข้าก็แปลกใจอยู่ เพราะเราทั้งสองไม่ค่อยสนิทกันมาก หากเขาไม่บอกว่าจะเลี้ยงสุราข้าทั้งหมดก็คงไม่ไปหรอก...อา เขาเหมือนกำลังบ่น ๆ เรื่องการหาเงินแต่งเมียนั่นล่ะ บอกว่าชอบพอนางมากแต่บิดานางยื่นคำขาดว่าให้มีสินสอดมากประมาณนึงถึงจะยกให้ เขายังเอ่ยว่าอยากยืมเงินข้าอยู่เลย เพียงแต่ข้าเดิมทีก็จนยิ่งกว่าเขาอยู่แล้ว ไม่มีให้หรอก...เอ่อ เหมือนมีอยู่คราหนึ่งเขาบอกว่าตามจริงเขายืมเงินคนผู้หนึ่งมามากแล้วเพื่อนำไปซื้อของ ตอนนี้ยังไม่มีเงินคืนเลย ยังต้องหาเงินไปสู้ขอเพิ่มอีก อันใดทำนองนั้นขอรับ เอ่อ ข้าจำได้เพียงเท่านั้น”พอนายซางเห็นว่าเฟยเมี่ยวอยู่ข้างตน กำลังช่วยตนเองจึงพยายามนึกทุกอย่างที่พอนึกได้ออกมาจนหมด...แหม ก็ใครจะไม่อยากรอดเล่าเมื่อฟังจนจบเจ้าของคำถามก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนหลุดหัวเราะออกมา นางฟังแล้วดันนึกเรื่องราวหลังจากนี้ออกซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตกตะล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-20
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   4 การเดิมพันอันแสนเท่าเทียม (1)

    วันธรรมดาของเฟยเมี่ยวที่ไม่มีอันใดน่าตื่นเต้นตื่นตาใจก็เป็นเยี่ยงวันนี้ หลังจากไปเข้าเฝ้าคุยเล่นกันฮองเฮาแล้ว นางก็ต้องมาร่วมเรียนวิชาต่าง ๆ กับเหล่าองค์ชาย องค์หญิง และลูกหลานขุนนางคนอื่น ๆ ที่ได้รับสิทธิ์มาเรียนร่วมด้วย ที่ตำหนักศึกษานี้มีหลายห้องเลย วันนี้ถึงคราววิชาเขียนอักษรที่ เฟยเมี่ยวไม่อยากเรียนที่สุดนั่นเองนางนั่งเรียนหลังห้องสุดริมสุด โดยทั้งข้างหน้าและข้าง ๆ โต๊ะเขียนหนังสือว่างอย่างที่เห็นได้ประจำ องค์รัชทายาทหวงลู่นั้นนั่งแถวหน้าสุดนู่นน่ะ ส่วนเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็นั่งกระจายกันออกไปตามความต้องการของตนมีลูกหลานขุนนางที่ขอเข้าพวกเรียบร้อยไปนั่งตามกลุ่มของเจ้านายตน ส่วนเฟยเมี่ยวจะมาช้าก่อนเริ่มเรียนเสมอ เพื่อหาที่นั่งไกลจากผู้คนหน่อยและสำหรับวิชานี้นางมักจะแอบหลับนั่นเองเชื้อพระวงศ์ที่มาร่วมเรียนในชั้นนี้ครอบคลุมอายุตั้งแต่อายุสิบปีถึงจนกว่าจะสอบจบได้เลยล่ะ ในห้องเรียนนี้นอกจากหวงลู่ที่เฟยเมี่ยวพอสนิทด้วยแล้ว ก็มีคุณหนูไป๋ ไป๋หนิงอันที่หลังจากถูกองค์หญิงสามแกล้งไปแล้ว เฟยเมี่ยวจึงบอกให้นางไปหาเชื่อพระวงศ์ติดตามเถิด ซึ่งหนิงอันก็เลือกอยู่รวมกับท่านหญิงเจียวจิง แม้ไม่ใช่องค์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-20
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   4 การเดิมพันอันแสนเท่าเทียม (2)

    “เจ้าอย่าได้เล่นลิ้น ตกลงเดิมพันกับข้าบัดเดี๋ยวนี้!!”นางไม่ตกลงวันนี้อย่างไรองค์หญิงสาวลู่เอินก็ต้องหาเหตุผลอื่นมาจัดการนางอีกอยู่ดี“หม่อมฉันไม่ใช่ไม่ตกลงเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันคิดเพียงว่า แล้วหากพระองค์เป็นฝ่ายแพ้ล่ะ หม่อมฉันจะได้อันใดตอบแทนเพคะ” จะให้องค์หญิงมารับใช้เฟยเมี่ยวก็ไม่ได้อยู่แล้ว...“เรื่องนั้นไว้ค่อยคิดภายหลังก็ยังมิสาย อย่างไรข้าก็ไม่แพ้เจ้าอยู่แล้ว”เฟยเมี่ยวคิดไว้แล้วมิผิดเลย องค์หญิงผู้นี้มิรู้ถูกไทเฮาเลี้ยงมาอย่างไร นิสัยช่างต่างจากฮองเฮาและองค์รัชทายาทหวงลู่มากเพียงนี้“เอาอย่างนี้ไหมเพคะ หากหม่อมฉันบังเอิญชนะ ก็ให้ขออันใดก็ได้กับองค์หญิงอย่างไม่มีข้อแม้ ส่วนหากองค์หญิงชนะก็เอาตามที่พระองค์ตรัสมาก่อนหน้าเลย แม้นโอกาสชนะของหม่อมฉันจะน้อยนิดแต่รับรองว่าหากชนะได้จะไม่ขออันใดมากเกินความสามารถองค์หญิงสามแน่เพคะ”ข้อเสนอของเฟยเมี่ยวล้วนอ้างอิงมาจากสิ่งที่คนเสนอต้องการทั้งสิ้น นางมิได้สรุปเกินเลยสักหน่อย ด้วยความมั่นใจในตนเองของลู่เอินย่อมไม่คิดว่าตนเองจะแพ้ได้ แม้จะตงิดในเงื่อนไขขออันใดก็ได้แต่ในเมื่อโอกาสเกิดยาก ย่อมปล่อยผ่านแน่นอน“ตกลง ข้าจะเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรส่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-20
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   5 กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลัก

    5กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลักเฟยเมี่ยวมาถึงโรงสุราท้ายตรอกแล้ว โรงสุราแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่คนทั่วไปรู้จักกัน คนที่มาใช้บริการที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุทธภพที่เดินทางเข้าเมืองหลวง และอยากได้ที่พักราคาเป็นกันเองพร้อมกันนั้นแบบไม่ต้องการคนรับใช้มาก เพราะที่นี่ไม่มีเสี่ยวเอ้อให้เรียกรับใช้ มีเพียงห้องและเครื่องนอนให้เท่านั้น ทำความสะอาดวันละครั้ง มีร้านอาหารที่เน้นสุราขนาดเล็ก ให้บริการ ทว่าโรงสุราแห่งนี้มีอีกบริการหนึ่งที่คนในเครือข่ายจะรู้กัน นั่นคือ บริการหางานรับจ้างนั่นเอง เจ้าของที่นี่มีสายสัมพันธ์กว้างขวางรับงานจากใครก็ตามที่ต้องการคนทำงานแบบเงียบ ๆ และหาคนมาทำงานให้ ซึ่งเฟยเมี่ยวก็รู้บริการนี้จากสายข่าวหนึ่งในขอทาน นางจึงมารับงานไปทำบ่อยครา หาเงินเพิ่มจากที่ตระกูลซุนส่งมาให้ใช้ประจำนั่นล่ะ“ขอข้าวสารหน่อย”รหัสในการขอรายนามภารกิจในตอนนี้นั่นเอง เฟยเมี่ยวส่งเงินค่าขอดูข่าวให้และรับกระดาษแผ่นใหญ่มา นางเลือกโต๊ะที่ว่างอยู่มุมร้านเพื่อไล่ดูงาน เกณฑ์การเลือกงานของเฟยเมี่ยวคือ ลงแรงแล้วต้องได้เงินคุ้มค่าเหนื่อย จะเป็นงานอันใดนางทำได้หมดแต่ไม่ต้องกังวลนะ งานของที่นี่เลือกรับแต่งานสุจริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-21
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   6 การชุมนุมลึกลับที่หอโคมแดง

    6การชุมนุมลึกลับที่หอโคมแดงเฟยเมี่ยวไปยังโรงเตี๊ยมที่ชุดของนายท่านตระกูลหลี่สั่งให้ไปส่ง นางเปิดห้องพักหนึ่งห้องและลงมานั่งสั่งกับข้าวสองสามอย่างในโรงเตี๊ยมนั้นเอง ที่รวมตัวของคนในสมัยนี้ก็เหมือนอย่างทวิตเตอร์สมัยที่มีอินเทอร์เน็ตอย่างไรอย่างนั้น ต่างเพียงเป็นสังคมที่แคบกว่าเท่านั้น อยากรู้เรื่องไหนก็ต้องพาตนเองไปอยู่ในคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆสิ่งที่เฟยเมี่ยวรู้มาใหม่จากฝีปากชาวโรงเตี๊ยมนั่นก็คือ ช่วงนี้มีขุนนางจากหลายเมืองเดินทางมาพักที่เมืองซีเปียนนี้มากกว่าปรกติ มีหลายเหตุผลที่ชาวโรงเตี๊ยมเดาไปต่าง ๆ นานา ซึ่งเฟยเมี่ยวก็เก็บเหตุผลเหล่านั้นไว้ในคลัง ส่วนตัวนางนั้นก็ต้องสอบถามหาความจริงกันต่อไป“เสี่ยวเอ้ออย่าเพิ่งไป ข้าถามอันใดหน่อยสิ”เฟยเมี่ยวรั้งไว้ด้วยคำพูดไม่พอ หากอยากให้ปากเปิดด้วยนางต้องง้างด้วยเงิน เฟยเมี่ยววางเงินก้วนไว้นิดหน่อยก็ทำให้เสี้ยวเอ้อตาวาวได้แล้ว“นายท่านว่ามาเลยขอรับ”“ช่วงนี้มีขุนนางต่างเมืองแห่มาพักที่นี่เยอะมากเลยหรือ ?”“ใช่แล้วขอรับ ที่โรงเตี๊ยมอื่นก็มีมากเช่นเดียวกัน”แปลกจริงนั่นล่ะ หากช่วงนี้มีจัดเทศกาลใดก็ว่าไปอย่าง...“ข้าเดินทางมายังไม่เคยเห็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-21
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   7 สิ่งที่ควรมีก็ไม่มี อย่าได้โอ้อวดเกินตัว

    7สิ่งที่ควรมีก็ไม่มี อย่าได้โอ้อวดเกินตัว“ข้ามีการแสดงหนึ่งมาช่วยให้พวกนายท่านพิจารณากันเจ้าค่ะ ถือว่าเป็นการพักสายตากับของสวย ๆ งาม ๆ แล้วมาชมความแปลกตากันบ้าง...นายท่านเห็นเหรียญทองแดงในมือของข้าใช่ไหมเจ้าคะ อีกประเดี๋ยวข้างน้อยจะร่ายมนต์ทำให้เหรียญนี้หายไปทันตาเห็นเจ้าค่ะ...”สิ้นคำพูดของนางในชุดเหลืองอร่ามงดงามตาก็ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะจากทั่วสารทิศทันที จะดังมากโดยเฉพาะที่ชั้นล่างนี้เองแหละ แต่คนบนเวทีไม่ได้สะทกสะท้านอันใด ยังพยายามเคลื่อนไหวมือไปมาหลอกล่อคนให้มองตามพร้อมเคลื่อนย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเสียงพิณที่มีคนบรรเลงคลอมา“มิคิดว่าหอโคมแดงนอกเมืองอย่างนี้จะมีการแสดงแปลกประหลาดเยี่ยงนี้ด้วย ข้าน้อยว่าแม่นางคนนี้คงต้องการใช้คำพูดหลอกล่อให้คนสนใจเท่านั้นล่ะ มิได้ตั้งใจเสกมนต์อันใดหรอกขอรับ”คำพูดของบุรุษชุดสีขาวอันเป็นผู้ติดตามที่ยืนมองอยู่ข้างหลังเอ่ยตามสิ่งที่เห็น เพราะเมื่อสักครู่แม่นางชุดเหลืองทำทีเป็นทำเหรียญตกและบอกว่าหายไปแล้วอย่างต้องการเรียกเสียงขบขัน ผู้คนที่มองดูอยู่พากันเริ่มสั่นหัวมองตามแบบผ่าน ๆ ไม่จ้องเหมือนอย่างเคยแล้ว เพราะส่วนใหญ่ย่อมคิดแบบที่ผู้ติดตามชุดขาวข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-21

บทล่าสุด

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย“ถวายพระพรชินอ๋องพะยะค่ะ”คนตระกูลซุนที่ออกมาต้อนรับยังไม่ทันลงไปทำความเคารพที่พื้นก็ต้องชะงักลงก่อนเพราะคำพูดแปลกประหลาดผู้สูงศักดิ์ที่มาใหม่นั่นเอง“ไม่ต้องเคารพถึงเพียงนั้นหรอกท่านว่าที่พ่อตา...”เฟยเมี่ยวอึ้งเช่นเดียวกันกับคนอื่น เพราะเขาไม่เห็นบอกนางล่วงหน้าให้ทำใจก่อนเล่า ใครจะคิดว่าอยู่ที่ดีก็ยกขบวนหมั้นหมายมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า“ท่านอ๋องหมายความอันใดหรือ ? กระหม่อมไม่เข้าใจ”ขนาดไม่เข้าใจของบิดานางนะเนี่ย น้ำเสียงยังแข็งกร้าวขึ้นเปลี่ยนไปจากตอนแรกมากเลยดูท่าการเป็นอริอย่างเช่นข่าวลือบิดาของนางจะอินเกินจนเข้ากระแสเลือดไปแล้วกระมัง“ก็วันนี้ข้ามาสู่ขอเมี่ยวเมี่ยวไปเป็นพระชายาเอกอย่างไรเล่า เดี๋ยวก็คงจะได้เรียกพ่อตาแล้วในอนาคต”เฟยเมี่ยวเห็นประกายไฟระหว่างสองสายตาที่จ้องกันอยู่ตอนนี้ของแม่ทัพใหญ่ซุนเหวินเชาและชินอ๋องขึ้นมาลาง ๆ แล้ว ดีที่มารดาของนางรีบเข้ามายืนขวางหน้าซุนเหวินเชาเสียก่อน“ท่านอ๋องมาแล้วก็เชิญข้างในจวนก่อนเถอะเพคะ เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกยาว...”“ไม่ให้แต่ง อย่างไรก็ไม่ให้แต่ง !!!”“ใช่ขอรับ ลูกไม่ให้แต่งเช่นกัน!!”สองพ่อลูกตระกูลซุนตะโกนแทบจะพร้อมกันต่อ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   24 ตัดขาด

    24ตัดขาดภายในห้องรับรองตระกูลซุนสายรอง มีเจ้าของจวนนั่งเรียงหน้าเครียด โดยเฉพาะซุนเหวินเชา แม่ทัพไร้พ่ายที่หน้านิ่งแผ่รังสีความไม่พอใจ จนทำให้เหล่าแขกของจวนที่นั่งรวมกันอยู่ฝั่งที่นั่งแขกพากันนั่งเกร็งจนเฟยเมี่ยวที่มองอยู่แทบกลั้นขำไม่ไหวเหล่าแขกที่ว่าคือ พวกตระกูลซุนสายหลักนั่นเอง มีท่านลุงซุนโหว ท่านป้าสะใภ้ซูเม่ย และท่านย่า พวกเขามาคราวนี้เพื่อมาขอขมา ให้สายรองให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น“อาเหวิน เจ้าก็ให้อภัยพี่ชายเจ้าหน่อยเถอะ อย่างไรก็คนตระกูลซุนเช่นเดียวกัน”ท่านย่าเอ่ยเสียงอ่อน รอยยิ้มเหี่ยวย่นของหญิงชราผู้นี้จืดเจื่อนยิ่งนัก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเอ่ยทั้งที่น้ำเสียงติดสั่นระริกจากรังสีกดดันของแม่ทัพไร้พ่าย“ท่านแม่มิคิดหรือเจ้าคะ หากอาเมี่ยวรักษาไม่ทันจะเป็นเช่นไร ท่านพี่สะใภ้นั้นอาจถูกหลอกใช้ก็จริง แต่ว่าอย่างไรเสียเมื่อไม่รู้แหล่งที่มาดีดีไยต้องเสี่ยงให้บุตรสาวของข้ากินด้วย หรือว่าเพราะไม่ใช่บุตรสาวของตนจึงจะให้กินอันใดก็ได้”“ไม่เลย ๆ น้องสะใภ้อย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใครทั้งสิ้น เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้น ทว่าอย่างไรบุตรสาวเจ้าก็ไม่เป็นอันใดนี่ เจ้าสบายดีใช่ไหมอาเ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   23 ไปหาหลักฐาน

    23ไปหาหลักฐานเมื่อเป็นเรื่องความเป็นไประดับแคว้น พอเฟยเมี่ยวไปปรึกษากับชินอ๋องนางก็เพิ่งได้รู้ว่าเขากำลังติดตามเรื่องมีคนลักลอบจำหน่ายฝิ่นอยู่เช่นเดียวกัน พอเฟยเมี่ยวเอาสิ่งที่นางสืบมาโดยตลอดผนวกเข้ากับความจริงจากปากมารดามันทำให้เฟยเมี่ยวสงสัยไปที่ตระกูลซุนสายหลักโดยเฉพาะท่านป้าซูเม่ยทันที พอเอ่ยขอให้ชินอ๋องไปติดตามและสืบเชิงลึกที่ตระกูลหลิงก็พบเบาะแสบางอย่างที่พุ่งไปว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบค้าฝิ่นจริง โดยประมุขตระกูลหลิงที่เป็นถึงหัวหน้ากรมตุลาการหากลักลอบขายฝิ่นย่อมสะเทือนต่อแคว้นมากแน่ตอนนี้ขอเพียงหาหลักฐานมาก็สามารถจับกุมตัวการหลักแล้ว สิ่งที่ชินอ๋องกำลังทำอยู่ตอนนี้คือติดตามคนของตระกูลหลิงที่มีการเดินทางไปมาที่ชายแดนกับเมืองต่าง ๆ โดยแน่นอนว่าเฟยเมี่ยวขอติดตามมาด้วยซึ่งตอนแรกบิดานางจะไม่ให้ไปแต่เพราะชินอ๋องเอ่ยปากและบอกว่าให้พี่ใหญ่ตามมาด้วยได้ เฟยเมี่ยวจึงมีโอกาสได้ติดตามไปชายแดนเยี่ยงตอนนี้“อาเมี่ยวไหวหรือไม่อีกไม่ไกลก็ได้เข้าเมืองแล้ว”พี่ใหญ่เอ่ยถามนางมาตลอดทางทุก ๆ ครึ่งชั่วยาม เขาเป็นห่วงนางเกินไปจนเฟยเมี่ยวเหนื่อยจะตอบแล้ว คงเพราะการเดินทางครานี้รีบเร่งจนมิอ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   22 ไหน้ำส้มใครแตกกันนะ

    22ไหน้ำส้มใครแตกกันนะวันนี้เฟยเมี่ยวออกจากจวนไปร่วมงานชมดอกไม่ที่ตระกูลไป๋จัดขึ้น นางมาถึงก็มีเหล่าคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนมาบ้างแล้ว พอเลี่ยงเหลียงซูเห็นเฟยเมี่ยวเข้างานมาก็รีบมาเดินด้วยกันทันที ทำให้เฟยเมี่ยวไม่เดินเหงาคนเดียวอีกต่อไปรอเวลาผ่านไปจนเริ่มงานชมดอกไม้แล้ว บ่าวตระกูลไป๋จึงมาเชิญเหล่าคุณหนูไปยังลานนั่งล้อมโต๊ะที่มีชาดอกไม้กลิ่นหอมกรุ่นวางตรงหน้า เป็นการให้ลิ้มรสชาก่อนที่จะไปยังสวนเพื่อชมดอกไม้นั่นล่ะ“ชาดีทีเดียว หนิงอันยังมีรสนิยมดีเยี่ยงเดิมนะ”ท่านหญิงเจียวจินเอ่ยชมเป็นคนแรก แล้วคุณหนูคนอื่น ๆ ก็เอ่ยชมตามมาอีกไม่ขาดส่วนเฟยเมี่ยวนั้นมิได้มางานชมดอกไม้เพียงหาสหาย แต่นางต้องการมารับข่าวสารจากวงสตรีด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่พี่ใหญ่สงสัยว่าตระกูลซุนสายหลักกำลังสู่ขอท่านหญิงตรงหน้านี้อยู่“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านหญิงถูกใจข้าน้อยก็เบาใจลงมากเลยเจ้าค่ะ”หนิงอันยิ้มหวานน้อมรับคำชม บทสนทนาของเหล่าสตรีลื่นไหลอย่างหยุดไม่อยู่ ส่วนเฟยเมี่ยวนั้นก็มีคุยบ้างเป็นครั้งคราวไม่ให้เงียบและแปลกพวกเกินไป แต่ไม่มีใครเอ่ยเข้าประเด็นที่เฟยเมี่ยวอยากรู้เลย“ว่าแต่ท่านหญิงเจียวจินผ่านวัยปักปิ่นมาแล้ว ค

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   21 ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่

    21ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่จากการที่มีข่าวลือในวันต่อมาว่ามีกลุ่มโจรซุ่มทำร้ายซุนฮูหยินที่ขอบเมืองหลวง สิ่งที่ชาวเมืองเดาไปต่าง ๆ นานา ก็คือกลุ่มโจรนั้นอาจเป็นคนของชินอ๋องก็ได้ เหตุเพราะการที่สองฝ่ายไม่ลงรอยกันนั่นเองเฟยเมี่ยวที่คุ้นชินกลยุทธ์การสร้างข่าวเท็จนี้มองออกทันที นางอยากไขข้อสงสัยมากจนตัดสินใจว่าจะไปสอบถามความจริงจากตัวการใหญ่ ทำให้ดึกคืนนั้นเองเฟยเมี่ยวในชุดดำล้วนอาศัยทางลับที่ตนสร้างไว้สมัยอยู่ในวังเข้ามาได้ในที่สุด นางพุ่งตรงไปยังตำหนักเฮยลู่ อันเป็นตำหนักที่มีเวรยามรัดกุมที่สุดจนนางไม่สามารถมีคนของตนในตำหนักแห่งนี้ได้เลยที่น่าแปลกคือ ตอนนี้เฟยเมี่ยวแอบเข้ามาจนจะถึงตำหนักหลักส่วนในแล้ว นางยังไม่เจอทหารเฝ้ายามเลยสักคน เฟยเมี่ยวคิดว่าตนเองอาจกำลังหลงกลไกการเฝ้ายามซับซ้อนอยู่นางจึงรีบหมุนตัวรีบกลับกลังทางเดิมเสียก่อนที่จะถูกจับได้ทันที“เมี่ยวเมี่ยวจะหนีอีกแล้ว เข้ามาไม่ใช่เพราะคิดถึงข้าหรือ ยังไม่ทันเจอก็จะกลับเสียแล้ว...”นั่นอย่างไร ที่แท้ชินอ๋องผู้นี้ก็คิดว่านางต้องมาหาเขาอยู่แล้ว ทหารเฝ้ายามจึงหายไปหมดเช่นนี้เมื่อเจอตัวการที่นางต้องการเจอแล้ว อันใดคือต้องหนีกันเล่า !“ทห

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   20 อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีก

    20อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีกงืม ๆ“เช้าแล้วหรือ?...”“ใช่ เช้าแล้ว เมี่ยวเมี่ยวตื่นแล้ว ขี้เซายิ่งนัก”หืม นางไม่ได้นอนอยู่ในห้องคนเดียวหรือไร ไยรู้สึกเหมือนเสียงพูดเมื่อครู่เกิดขึ้นที่ข้างหูนางนี้เองกันนะ ลมที่พัดผ่านใบหูมันชวนให้จั๊กกะจี้จนต้องย่นคอหนีทั้งที่ยังหลับตา ไหนจะสัมผัสบางอย่างที่คลอเคลียแก้มจนทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นดูแล้วค่อยหลับอีกคราก็แล้วกัน“ท่านอ๋องมาอยู่นี่ได้อย่างไร ! โอ๊ะ”ไม่สิ ตอนนี้นางนอนอยู่ในป่านี่นา นางลืมไปเสียได้ คงเพราะเมื่อวานเหนื่อยมากจนหลับไม่รู้เรื่องแน่เลย“แล้วไยถึงถูกท่านกอดได้ !! ปล่อยนะ”ได้สติแล้วเฟยเมี่ยวก็สังเกตว่าตนเองถูกเต๋อรุ่ยกอดอยู่ แก้มของนางแนบคางของเขาจนรู้สึกประหลาดไปหมด แต่แรงกอดรัดของคนที่บาดเจ็บนั้นเฟยเมี่ยวสู้ไม่ไหวจริง นี่ขนาดเขาบาดเจ็บนะแรงยังมากเพียงนี้เลย ไม่อยากจะคิดยามปรกติจะแรงเยอะเพียงใด แต่ที่แน่นอนคือแรงสตรีตัวเล็กอย่างนางสู้เขาไม่ได้แน่นอน“เมี่ยว ๆ กอดข้าเองนะ อีกทั้งยังกอดไม่ปล่อยอีกด้วย ข้าเลยต้องนอนรออยู่เยี่ยงนี้อย่างไรล่ะ”“แต่เมื่อคืนหม่อมฉันไม่ได้นอนท่านี้ หม่อมฉันเพียงให้ความอบอุ่นแก่พระองค์ผ่า

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   19 ทำตัวเหมือนอาฉีคนที่สอง

    19ทำตัวเหมือนอาฉีคนที่สองเดินต่อมาเรื่อย ๆ ก็เจอเข้ากับถ้ำกลางป่าเข้า ตอนแรกที่มองเห็นตัวผนังถ้ำนั้นไม่คิดว่าจะมีทางเข้าหรอก เฟยเมี่ยวให้ ชินอ๋องยืนรอสักครู่ก่อน นางค่อยเดินไปสำรวจดู จึงพบทางเข้าขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ ดีที่มีเถาวัลย์และใบไม้เขียวขจีปกทับจนเกือบมองไม่ออกเลย นางกลับมาพาชินอ๋องเข้าไปนั่งพักด้านใน และไม่ลืมใช้เหล่าเถาวัลย์เกลี่ยปิดทางเข้าเช่นเดิมหน้าหนาวแล้วยามกลางคืนอากาศยิ่งหนาวไปใหญ่ หากนั่งโดยมีเพียงเสื้อผ้าที่สวมตลอดคืนมีหวังทั้งนางและคนป่วยต้องเป็นไข้หนาวสั่นตายอยู่ที่นี่เป็นแน่“พระองค์ไหวไหมเพคะ”เฟยเมี่ยวมองใบหน้าภายใต้หน้ากากที่มีเหงื่อเกาะเต็มหน้า หน้าของเขา ปากของเขาล้วนซีดขาวไปหมด ดูท่าจะรอให้ออกไปแล้วค่อยให้หมอหลวงนำลูกธนูออกก็คงไม่ทันแล้ว นางคงต้องจัดการเรื่องนั้นเอง ด้วยอุปกรณ์ที่นางพกมาติดกายไว้ตลอดตั้งแต่รู้ว่าจะต้องเข้าป่าก็เพียงพอให้ช่วยชินอ๋องได้อยู่“ข้าไหว เมี่ยวเมี่ยวนั่งพักก่อนเถอะ เจ้าวิ่งวุ่นมาตลอดแล้ว”เต๋อรุ่ยพูดไม่เกินจริง ตลอดทางมานี้นางทั้งใช้หัวคิดและแรงกายพาเขามาที่นี่อย่างไม่หยุดพัก ท่าทีคล่องแคล่วว่องไวนี้เขาที่มีวรยุทธ์ยังรู้สึกยกย่องเ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   18 เรื่องไม่คาดฝัน

    18เรื่องไม่คาดฝันเช้าวันต่อมา...งานล้อมป่าล่าสัตว์เริ่มแล้ว เสียดายที่งานนี้ให้เฉพาะบุรุษเข้าร่วมเท่านั้น ส่วนสตรีนั้นจะไปรวมกันอีกที่เพื่อชมดอกไม้บานท่ามกลางอากาศเย็นเยี่ยงนี้แทนดีที่ตอนนางมาได้เจอกันอดีตสหายอย่างคุณหนูเลี่ยง เหลียงซู และเดินคุยไปอีกหน่อยก็เจอหนิงอันยืนกับท่านหญิงเจียวจิน ซึ่งมีคุณหนูที่นางเจอที่บอน้ำพุร้อนเมื่อคืนยืนอยู่ด้วย การชมดอกไม้ยามนี้จึงไม่เหงาอีกต่อแล้ว“เจ้าสองคนอาจยังไม่รู้จักกัน นี่ท่านหญิงเฟยเมี่ยว บุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่ซุน และนี่คุณหนูซีอิ๋ง ตระกูลหวัง”“คารวะท่านหญิงเจ้าค่ะ”เฟยเมี่ยวพยักหน้าตอบรับ พอนางรู้เรื่องที่คุณหนูซีอิ๋งทำเมื่อวานก็ทำให้ไม่สามารถมองใบหน้านางแล้วไม่คิดเรื่องเมื่อวานได้เลย อีกทั้งดูเหมือนจะคุณหนูนางนี้จะยังไม่หายเสียใจ เพราะนางดูหมดแรงและดวงตาแดงช้ำเหมือนคนร้องไห้หนัก“พวกเราไปดูดอกไม้ทางนู้นเถอะ เห็นเขาว่ากันว่างามยิ่งนัก”เฟยเมี่ยวเดินตามเหล่าคุณหนูไปเพราะอย่างไรเสียนางก็ไม่ได้มีเป้าหมายชมดอกไม้ใดเป็นพิเศษอยู่แล้ว ทว่านางคิดผิดเสียแล้ว เพราะตรงที่ดอกไม้บานย่อมตามด้วยมีคนมาดูมากซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือองค์หญิงสามลู่เอิน คู่อริขอ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   17 จวนตากอาการที่มีบ่อน้ำพุร้อน

    17จวนตากอาการที่มีบ่อน้ำพุร้อนเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวช่วงกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมยิ่งสำหรับการออกล่าสัตว์ กรมพระราชพิธีจัดงานล้อมป่าล่าสัตว์ประจำปีขึ้นมาเพื่อให้เหล่าบุรุษลูกขุนนางเข้าร่วมเพื่อความสนุกสนาน แข่งกันล่าสัตว์ชิงรางวัลจากฮ่องเต้ และประโยชน์โดยอ้อม นั่นก็คือนำสัตว์ที่ได้จากการล่าไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในช่วงที่ปลูกพืชพันธุ์เป็นอาหารได้น้อยพอดีแน่นอนตระกูลฝ่ายบู๊อย่างตระกูลซุนสายรอง อันมีประมุขเป็นซุนเหวินเชา แม่ทัพไร้พ่าย ย่อมต้องเข้าร่วมด้วย มีพี่ใหญ่ และเฟยเมี่ยว ส่วนสายหลักก็มาเช่นกัน นำโดยซุนเหวินเจี๋ย หรือท่านซุนโหว ป้าสะใภ้ และบุตรชายที่เพิ่งกลับมาจากไปศึกษาที่สำนักศึกษาบนภูเขามาพอดี เฟยเมี่ยวเรียกเขาว่า ญาติผู้พี่ซุน จือหลิน ...พี่จือด้วยความที่ป่าที่จัดเป็นป่าขนาดใหญ่ฝั่งตะวันออกของแคว้น เป็นป่าที่ตั้งอยู่ไกลออกจากเมืองหลวงไม่มากใช้เวลาเดินทางด้วยรถม้าเพียงหนึ่งชั่วยามครึ่งเท่านั้น จึงมีทั้งขุนนางพร้อมครอบครัวเข้าร่วมงานประจำปีนี้มาก ทยอยกันไป ขอเพียงให้ทันวันเริ่มงานเท่านั้น ส่วนใหญ่ขุนนางขั้นสูงมักซื้อจวนทิ้งไว้แล้ว หากใครไม่มีก็จะมีบร

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status