บทที่ 9

“เฮ้อ” วราลีเอนหลังพิงเก้าอี้พลางถอนหายใจด้วยความเซ็ง

แอ๊ด...

เสียงประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ หญิงสาวรูปร่างระหงก้าวเข้ามา เจ้าหล่อนสวมเดรสเปิดไหล่สีแดงเพลิง ตัดกับผิวขาวผ่อง ใบหน้ารูปไข่ล้อมกรอบด้วยผมสีน้ำตาลลอมทองเป็นลอน จมูกโด่ง ตาโต ดูออกว่าเป็นลูกครึ่ง

“เอ๊ะ...” หญิงสาวหุ่นนางแบบทำท่าแปลกใจ ฝ่ายวราลีลุกขึ้นแล้วยิ้มตามมารยาทให้ ก่อนถาม

“ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ”

“ฉันมาหาสิงห์ เธอเป็นใคร ลูกจ้างใหม่ของไร่?” ดีดี้ หรือ ดลฤดี หญิงสาวลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ ถามหญิงสาวที่อยู่หน้าห้องสิงหราชด้วยน้ำเสียงสงสัยแกมไม่พอใจ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ามีใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักสะดุดตา รูปร่างถึงแม้จะไม่อวบอิ่ม เซ็กซี่ ถึงแม้จะรู้ว่าแม่คนตัวเล็กนี่ไม่ใช่สเปกสิงหราช แต่ใครจะรู้อยู่ใกล้กัน เห็นหน้ากันทุกวันจะไม่หวั่นไหว

ดลฤดีคิดอย่างไม่พอใจ สิงหราชเป็นแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบสองปี ดลฤดี เป็นดารามีชื่อเสียงพอสมควรคนหนึ่ง หญิงสาวดังจากบทนางร้าย ถึงแม้จะไม่ดังเท่านางเอก แต่ภาพพจน์สวย โฉบเฉี่ยว และเชื้อสายลูกครึ่งก็ทำให้มีงานเข้ามาตลอดไม่ขาดสาย แต่เพราะเป็นคนติดหรู ข้าวของเครื่องใช้จะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกซีซั่น เงินที่ได้จากการถ่ายละคร และเป็นนางแบบเริ่มไม่พอใช้จ่าย และแล้วตอนนั้นหญิงสาวก็ได้พบกับสิงหราชเป็นครั้งแรกที่ไร่ชานี้ เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นดลฤดีรับบทนางร้าย และต้องมาถ่ายทำที่ไร่ชา ทางกองถ่ายเลือกไร่ชาสิงหราช เพราะเป็นไร่ชาที่กว้างใหญ่ และมีชื่อเสียงในเชียงราย

แรกเริ่มดลฤดีไม่เคยสนใจพ่อหนุ่มชาวไร่คนนี้ ดูภายนอกชายหนุ่มดูเซอร์ ๆ จน ๆ เห็นเดินผ่านไปผ่านมาในไร่ชา บางทีก็ยืนคุยกับคนเก็บชา หญิงสาวยังนึกว่าเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งของไร่ แต่พอรู้ว่าสิงหราชก็คือเจ้าของไร่ชาเนื้อที่พันไร่ ทั้งยังมีกิจการโรงแรมรีสอร์ทอีกหลายแห่งในเชียงราย ดลฤดีก็ตาลุกวาวและตั้งมั่นว่าจะต้องจับพ่อหนุ่มผ้าขี้ริ้วห่อทองนี้ให้ได้ และโชคก็เข้าข้าง เมื่องานเลี้ยงส่งท้ายปิดกองละครที่จัดขึ้นในไร่ คืนวันนั้น สิงหราชต้องอยู่ร่วมงานเลี้ยงในฐานะเจ้าของสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ดลฤดีแอบใช้เล่ห์กล ติดสินบนเล็กน้อยให้คนในแอบวางยาในแก้วเหล้าชายหนุ่ม พอสิงหราชตกหลุมพรางหญิงสาวก็จัดฉากทำเหมือนว่าตนเองตกเป็นของเขา พอตื่นขึ้นมาถึงแม้ชายหนุ่มจะจำอะไรไม่ได้ แต่เพราะความเป็นสุภาพบุรุษเขาจึงรับผิดชอบ โดยการให้เธออยู่ข้างกายในฐานะแฟน ทั้งสองจึงคบกันมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ครั้งแรกดลฤดีใช้เล่ห์กลจัดฉาก แต่พอคบกันนานเข้า หญิงสาวพยายามเอาอกเอาใจชายหนุ่ม ประกอบกับความมั่นใจในตนเอง รูปร่างสวยอวบอิ่ม ครั้งที่สอง ที่สาม และครั้งต่อ ๆ มา หญิงสาวก็ไม่ต้องจัดฉากอีก รสรักจากชายหนุ่มทำให้ดลฤดีหลงรักหัวปักหัวปำ และตั้งมั่นจะเข้ามาเป็นคุณนายของไร่นี้ให้ได้ แต่เวลาก็ผ่านมาสองปีกว่า สิงหราชไม่เคยเอ่ยปากขอแต่งงานกับเธอเสียที มาครั้งนี้หญิงสาวจึงตั้งใจจะอยู่ที่ไร่หาทางให้สิงหราชเอ่ยปากเรื่องแต่งงานให้ได้

“ใช่ค่ะ ดิฉันชื่อ วราลี เป็นเลขาใหม่ของคุณสิงห์ คุณสิงห์เข้าไปในไร่ชาค่ะ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าจะกลับเข้ามาเมื่อไร” วราลีตอบคำถามดาราสาวสวย เธอรู้ว่าดลฤดีคือใคร หญิงสาวคุ้นหน้าคุ้นตาดลฤดีจากจอทีวี ดลฤดีเป็นดาราที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง บทนางร้ายแต่ละเรื่องก็ดังเปรี้ยงปราง เธอไม่นึกว่าดาราสาวจะมีความเกี่ยวข้องกับสิงหราช แต่พอเจอวันนี้จากท่าทางเหมือนเป็นคุณนายเจ้าของไร่ก็ทำให้วราลีเริ่มเดาอะไรได้ ดลฤดีคนนี้ คงจะมีความสัมพันธ์ที่แนบสนิทกับเจ้านายหน้าหนวดเป็นแน่

“ไม่รู้ว่ากลับมาเมื่อไร?” ดลฤดีถามเสียงสูง “เธอเป็นเลขาได้ยังไง ไม่รู้ก็โทรถามตามให้ฉันสิ”

“ดิฉันไม่มีเบอร์คุณสิงห์ค่ะ” วราลีตอบกลับเสียงเรียบ ถึงแม้มีเธอก็ไม่โทร ดูเอาเถอะมาทำเกรี้ยวกราดกับเธอแบบนี้ แสดงว่านางร้ายสาวก็คงติดต่อไม่ได้เหมือนกัน

“ไม่ได้เรื่อง!” ดลฤดีตวาดใส่อย่างไม่พอใจ ก่อนเดินนวยนาดเข้าไปรอในห้องแฟนหนุ่ม

หญิงสาวมองแขกของเจ้านายตนที่เดินสะบัดก้นเข้าไปยังห้องทำงานก็ยักไหล่เบา ๆ อยากรอก็รอไป แต่ถ้าจะให้เธอไปตามเจ้านายปากร้ายหน้าหนวดให้ล่ะก็...ไม่มีทาง!