บิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งอเล็กซ์และคุณนายบริตทานีจะอยู่ที่นี่ด้วยเขามาถึงในช่วงเวลาหกโมงเย็นเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เขาดูอึมครึมอารมณ์เสียหลังจากได้รับการหยามเกียรติจากท่านเล็กซ์ กันเธอร์ บิลช่างดูแตกต่างจากวันนั้นไปอย่างสิ้นเชิง ในวันนี้นั้นเขาดูอารมณ์ดีและหัวเราะระหว่างเดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ “แกวิน! มันเกิดอะไรขึ้นกันนาย? ช่างเป็นโอกาสที่หายากเสียจริง ๆ ที่นายจะชวนฉันออกมาดื่ม ฮ่า ๆ !”จากนั้นเขาก็เห็นอเล็กซ์ยืนอยู่ข้าง ๆ แกวิน โคลรอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นมันได้จางหายไปจากใบหน้าของเขาแทบจะทันที “คนทรยศ แกมาทำอะไรที่นี่?”บิลช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนและโยนความผิดให้อเล็กซ์ เพราะเห็นว่าเขาเป็นแค่เด็กที่ไร้ค่าอเล็กซ์มองตรงไปข้างหน้าและยังคงนิ่งเงียบบริตทานีกลับพูดขึ้นมาว่า “คุณพ่อคะ อเล็กซ์ยังคงเป็นหลานชายของคุณพ่ออยู่นะคะ คุณพ่อจะมาพูดกับเขาแบบนั้นได้อย่างไรคะ?”"อ๊ะ! บริตทานี… เธอยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ?”บิลตกใจมาก“แน่นอน แต่ทำไมคุณพ่อถึงดูไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้เลยล่ะคะ?”เมื่อกลับมาตั้งสติได้ สีหน้าของบิลก็เคร่งขรึมขึ้น
อเล็กซ์ เคลื่อนไหวป้องกันตัวเองได้อย่างรวดเร็วและคว้ามือของบิลไว้กลางอากาศเขาจ้องมองและเย้ยหยัน “ตาแก่งี่เง่าเอ๋ย จงมีความสุขกับวันสุดท้ายของการลุกขึ้นยืน วันที่มีความสุขของแกกำลังจะหมดไป”ก่อนหน้านี้เขาสังเกตเห็น บิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ มีภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันในสมองของเขา และอีกไม่นานเขาจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงบิลนั้นโกรธมากจนแทบที่จะระเบิดออกมา เขาไม่พูดอะไรเลยและเดินออกจากคฤหาสน์ของโคลไปแกวิน โคล ถอนหายใจออกมา “ฉันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงอารมณ์ร้ายได้ขนาดนี้ พวกคุณทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่ากังวลไปเลย บริตทานี ฉันจะคุยกับเขาให้เอง”บริตทานียังคงนิ่งเงียบบริตทานีและอเล็กซ์ ต้องการมาพบบิลเพื่อค้นหาความรู้สึกของเขา แต่การตอบสนองของบิลนั้นมันกลับแย่กว่าที่พวกเขาได้คาดคิดไว้เสียอีกบิลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเสียชีวิตของวิลเลียม ร็อกกี้เฟลเลอร์ อย่างจริงจัง และทัศนคติของเขาที่มีต่อบริตทานีและอเล็กซ์นั้นมันแย่มาก ความจริงเรื่องการเสียชีวิตนั้นไม่สำคัญอะไรสำหรับบิลเลย ทั้งหมดที่เขาต้องการคือไล่บริตทานีและอเล็กซ์พออกจากตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์เหมือนขยะที่ถูกกวาดออกจากบ้านฝ
จอห์น ร็อคกี้เฟลเลอร์ ใจเต้นไม่เป็นส่ำหลังจากได้ยินข่าวนั้นแต่ไม่นานนัก เขาก็ใจเย็นลง “ฟื้นขึ้นมาแล้ว มันจะทำไมกันเล่า? ตอนนี้หล่อนก็เป็นได้เพียงหญิงน่าไม่อาย ไร้สกุล ไม่มีอะไรคู่ควรกับเราเลยสักนิด”บิล ร็อคกี้เฟลเลอร์พลันลดเสียงลง “จอห์น บริตทานีบอกว่าหล่อนมีหลักฐานการทุจริตของลูกและธุรกิจที่ร่วมกับคนญี่ปุ่น คิดว่าจากนี้มันจะราบรื่นใช่ไหม?”จอห์นหัวเราะเยาะ “พ่อครับ เรื่องนี้มันผ่านไปครึ่งปีแล้วนะ แม้ว่ามันอาจจะมีเรื่องที่เคลือบแคลงใจอยู่บ้าง แต่ร่องรอยหลักฐานทั้งหมดคงหายไปหมดแล้วล่ะครับ”บิลถอนหายใจอย่างโล่งอก “ขอบคุณพระเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ปจะไม่มีวันตกไปเป็นของไอ้สารเลวอย่างอเล็กซ์แน่”บิลประกาศกร้าวว่าจะขัดขวางอเล็กซ์ให้ถึงที่สุด“ไม่ต้องห่วงครับ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน กระทั่งถึงวันที่มันตาย วิลเลียมไม่แม้แต่จะระแคะระคายถึงตัวจริงของมันด้วยซ้ำ ไอ้โง่นั่น! มันคงไม่เคยคิดเลยว่าความพยายามทั้งชีวิตของมันจะตกไปของคนอื่นเสีย”เที่ยงของวันถัดไป ณ คฤหาสน์ของแอสเส็กซ์โดโรธี แอสเส็กซ์เดินทางถึงบ้านอย่างเหนื่อยล้าพร้อมสัมภาระที่พะรุงพะรังในขณะที่เข้า
บริตทานี ร็อคกี้เฟลเลอร์ หมดสติและนอนอยู่บนเตียงนานกว่าครึ่งปี ในระหว่างนั้นมีเพียงแค่สายน้ำเกลือเท่านั้นที่พยุงชีวิตของเธอให้ผ่านไปได้ในแต่วันแม้ว่าจะฟื้นคืนสติ แต่เธอก็ใช้เวลาไม่น้อยในการพักฟื้นเพื่อในร่างกายกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมด้วยเหตุนี้ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ ออกใบสั่งยาเพื่อช่วยเร่งกระบวนการการฟื้นฟูของเธออย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ เขาจึงไม่สามารถที่จะซื้อยาที่จำเป็นต่อการรักษา จากร้านขายยาและโรงพยาบาลได้ มีเพียงคุณหมอเชอริล โคนีย์ เท่านั้นที่จะช่วยได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโทรหาเธอเชอริลอยู่ที่โรงพยาบาลตอนที่พวกเราพูดคุยและตกลงกัน ยิ่งไปกว่านั้น เธอทึ้งกับการรักษาของอเล็กซ์เป็นอย่างมากเขาขับรถ M8 มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูง จึงถึงจุดหมายในไม่ช้าเชอริลกำลังคุยกับครอบครัวของผู้ป่วยภายในห้องทำงาน อเล็กซ์รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงอันอ่อนโยนและท่าทางที่สง่างามของเธอแต่ในทางกลับกัน โดโรธี แอสเส็กซ์เป็นเวลานานแล้วที่อเล็กซ์ไม่ได้รับความอบอุ่นจากเธอ การละเลยและความเฉยชาเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน และด้วยเบียทริซและแคลร์ แอสเล็กซ์เก
โดโรธีตบหน้า แอสเส็กซ์ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ อย่างเต็มแรง ชายหนุ่มมองเธอด้วยความประหลาดใจในขณะที่เชอริล โคนีย์อุทานออกมา “คุณตบเขาทำไม!”โดโรธีจ้องเขม็งไปยังหมอหญิงที่สวมใส่ชุดกราวน์และเอ่ยออกไป “มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ? ห๊ะ? เรายังคงเป็นสามีภรรยากันอยู่ หมายความว่าเธอก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ชู้!”ตอนนี้มีพยาบาลรอที่จะพบคุณหมอเชอริลอยู่ เธอสีหน้างุนงงทันทีหลังจากเห็นเหตุการณ์สิ่งที่เธอคิดได้มีแค่คุณหมอเชอริล โคนีย์ หลานสาวของหมอที่เก่งที่สุดในรัฐแคริฟอร์เนียและคนดังของโรงพยาบาลเราเล่นชู้กันอยู่อเล็กซ์ขมวดคิ้วและมองไปยังพยาบาลคนนั้น เขารีบดึงโดโรธีออกมาและอธิบาย “หยุดไร้สาระเสียที ไม่มีเรื่องอะไรระหว่างผมกับคุณหมอโคนีย์ทั้งนั้น!”โดโรธีสะบัดมือของเธอ “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน! เมื่อกี้คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่ ห๊ะ? ฉันเห็นหมดทุกอย่าง!”พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของพยาบาลสองสามคนที่อยู่ตรงนั้นอเล็กซ์เข้าใจถึงผลที่จะตามมา หากปล่อยทุกอย่างทิ้งไว้แบบนี้ อเล็กซ์และโดโรธีที่เดินตามอยู่ด้านหลังเดินมุ่งหน้าออกไปพร้อมตะโกน “ขอโทษด้วยครับ คุณหมอโคนีย์! ผมหวังพึ่งคุณเรื่องแม่ผมอยู่! ภรรยาของผมคงจะเชื่อเรื่อ
อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์อยากออกไปรับสาย แต่มันคงจะทำให้เขาดูมีความผิดเขาอธิบาย “คุณหมอโคนีย์โทรมาน่ะ ผมต้องการที่จะให้เธอช่วยเตรียมใบสั่งยา”เขาไม่ควรอธิบายอะไรเพิ่มอีก ทันใดนั้นโดโรธี แอสเส็กซ์พูดแทรกขึ้น “คุณจะเปิดลำโพงหรือเปล่า?”“เปิดสิ” อเล็กซ์ตอบ“สวัสดีครับคุณหมอโคนีย์!” เขาทักทายหลังจากที่รับสายและเปิดลำโพงสนทนาแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เชอริลตอบเขาด้วยน้ำเสียงจิกกัดเล็กน้อย “ทำไมถึงเรียกฉันว่า คุณหมอโคนีย์ ล่ะ? เรียกแค่เชอริลก็พอ ไหน ๆ เราก็ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว”อเล็กซ์สะดุ้งเขาสังเกตรังสีอำมหิตจากโดโรธี“อืม คุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”“ฉันก็แค่อยากจะรู้….ว่าคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”อเล็กซ์ตอบ “แน่นอน! ไม่ต้องห่วง”เชอริลยิ้ม “ภรรยาเก่าของคุณนี่เล่นใหญ่ไม่เบาเลย ว่าไหม? ฉันก็ตกใจกลัวนิดหน่อย แล้วเธอเป็นยังไงกันบ้าง? ฉันคิดว่าพวกเธอหย่ากันแล้วเสียอีก แล้วทำไมถึงยังเข้ามายุ่งเรื่องของคุณอยู่อีก?”นั่นเป็นเชือกฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่โดโรธีจะระเบิดออกมาเธอแย่งโทรศัพท์จากมือเขาและตะโกน “ฟังนะ ฉันไม่ใช่ภรรยาเก่าของเขา! เราไม่ได้หย่ากันและไม่มีวัน! ยอมแพ้ซะเถอะ!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ คฤหาสน์แอสเส็กซ์โดโรธีกลับมาด้วยสีหน้าอมทุกข์หลังจากได้เห็นสีหน้าของลูกสาว แคลร์ แอสเส็กซ์ แสดงท่าทีพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งและพูดเชิงเย้ยหยัน “เป็นอย่างที่บอกใช่ไหม? ศาลเปิดพรุ่งนี้ตอนเช้าโมงเช้า เราจะไปเขียนคำร้องฟ้องหย่ากันทันที”“จะไม่มีการหย่าเกิดขึ้นทั้งนั้นค่ะ” โดโรธีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแคลร์ลุกยืนขึ้นทันที “โดโรธี ทำไมถึงหลงมันได้ขนาดนี้? มันมีดีอะไร? ทั้ง ๆ ที่มันทำกับลูกขนาดนี้? ดูนี่ แม่รู้ว่า สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ชอบลูก พรุ่งนี้แม่จะคุยกับเขาให้”“คุณแม่ นี่เป็นอะไรไปคะ? ลืมไปแล้วเหรอคะว่าไอ้เลวนั้นทำอะไรกับหนูไว้?”“อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าอเล็กซ์! มันนอกจากใจลูก!” แคลร์ตอบโดโรธีขึ้นบันไดไปอย่างเกรี้ยวกราดโดยไม่ตอบอะไรแม้แต่นิดเดียว และเธอก็ไม่มีอารมณ์จะรับประทานมื้อค่ำด้วยตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงเมื่อโดโรธีได้รับสายจากเชอร์แมน ฟอร์ด “คุณหนูแอสเส็กซ์สำนักงานใหญ่โทรมาเพื่อนัดประชุมสำคัญในวันพรุ่งนี้เวลาเก้าโมงเช้าที่บริษัทของเรา คณะกรรมการจะส่งตัวแทนของเขามาทั้งหมดสามคน และผู้บริหารสูงสุดของบริษัทต้องเข้าร่วมด้วย การประชุมจะจัดขึ้นที่ห้อง
เชอร์แมน ฟอร์ดหักหลังเธอโดโรธี แอสเส็กซ์รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอช่วยเหลือเชอร์แมนมาจนทำให้เธอมาถึงจุด ๆ นี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่เธอได้เข้ามาจัดการงานต่าง ๆ ในบริษัททันทีที่เรียนจบ หรือเรื่องหนี้สินก็ตาม นั่นก็เป็นความช่วยเหลือของโดโรธีมาโดยตลอดแต่ท้ายที่สุด เชอร์แมนก็ตัดสินใจเลือกเอ็มม่า แอสเส็กซ์ และเล่นสกปรกกับโดโรธีแบบนี้ เธออับอายเหลือเกินในการประชุมที่สำคัญอย่างนี้คนทรยศเอ็มม่า ลูกสาวของแอนเดอร์สันและยังเป็นบุคคลที่ลือกันว่าจะมาทำหน้าที่ผู้จัดการคนใหม่แทนโดโรธี เธอมองไปยังลูกพี่ลูกน้องเธอพร้อมยิ้มเย้ย “คุณหนูโดโรธี ฉันเชื่อว่าเลขาของคุณบอกข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ ฉันเดาว่าคุณคงนอนเพลินไปหน่อย โธ่ ลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของร็อคกี้เฟลเลอร์หอบสัญญาก้อนใหญ่มาวางไว้ตรงหน้าเรา แต่เธอกลับพังมันลงไปไม่เหลือชิ้นดี ฉันรู้ว่าเธอคงจะเสียใจไม่ใช่น้อย ก็เลยเลือกที่จะปลอบใจตัวเองด้วยการนอนซมอยู่บนเตียง แต่ยังไง ก็อย่าเอาแต่จมปลักอยู่กับมันสิ เธอมีบริษัทที่ต้องดูแลนะ”สีหน้าของโดโรธีเยือกเย็นราวกับสายลมฤดูหนาว “เอ็มม่า แอสเส็กซ์ เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! คุณไม่ได้อยู่ในคณะผู