หญิงสาวเปลี่ยนชุดออกมาจากห้องลองชุดและเป็นชุดที่คล้ายกับเสื้อผ้ากันหนาว แถมยังมีโค้ทตัวยาวคลุมทับอีกที สุริยะเริ่มสงสัยหนักขึ้นที่ดาเนียทำตัวแปลก ๆ คล้ายกับจะรีบเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง
"จะใส่ไปเลยเหรอ ไม่ร้อนหรือไง"
"ใส่เล่น ๆ เดี๋ยวก็ถอดค่ะ เนียไปจ่ายเงินก่อนนะคะ"
"ไม่เป็นไรฉันจ่ายเอง" สุริยะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ แต่ดาเนียรีบซอยเท้าวิ่งมาประกบเขาจนหัวกระแทกกับแผ่นหลังกว้าง เขาตวัดตาขุ่นมามอง
"คือขอโทษค่ะ จริง ๆ เฮียแซ็คไม่ต้องออกให้เนียหรอก เนียไม่อยากติดค้างใคร"
"พูดอะไรไร้สาระ" เสียงเข้มบอกแล้วเดินนำออกไปจากร้าน ไหล่เล็กห่อลู่เดินตามตัวลีบ จังหวะที่เดินผ่านร้านเครื่องประดับผู้ชายเธอก็สะดุดเข้ากับสร้อยข้อมือคู่รัก จึงแอบย่องเข้าไปซื้อโดยไม่ให้เขาเห็น เฮียแซ็คที่เดินฉับฉับนำไปที่รถถึงไม่เอะใจว่าเธอหายไปไหน เพราะเธอไม่สำคัญกับเขาเท่าไหร่เขาถึงได้เดินนำไปโดยไม่คิดจะรอเธอ แต่ก็ดีแล้วล่ะอย่ามาผูกพันอะไรกับเธอมากนักเลย อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะไปแล้ว
"ขอโทษนะคะที่เนียมาช้า โฮ่ยยเหนื่อยจัง" ดาเนียกระโดดขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วทำลับลมคมในยัดถุงกระดาษห่อเล็กใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างรีบร้อน
"ไปไหนมาอีก แว่บเก่งเหลือเกิน ต่อไปมีแฟน แฟนคงปวดหัวตาย" ทำไมชอบไล่ให้เธอไปมีคนอื่นจัง เฮียแซ็คคนใจไม้ไส้ระกำ
"เขาอาจจะไม่ปวดหัวก็ได้ค่ะ อาจจะมีความสุขม๊ากมากเลยก็ได้ที่ได้เนียเป็นแฟน เพราะเนียสวยและก็ไม่ได้โง่แบบที่ใครบางคนบอกด้วย" สุริยะเลิกคิ้วสูงหลุดยิ้มกับท่าทางสรรเสริญเยินยอตนเองของดาเนีย
ให้ตายเหอะเขาไม่ได้อยากยิ้มแบบนี้มานานแล้ว แต่ยัยเด็กนี่กลับทำให้เขายิ้มออกมาได้
"และก็ไม่มีวันเป็นฉันด้วย เอาล่ะพร้อมจะกลับบ้านหรือยัง หรือจะให้ไปส่งที่ไหน" ดาเนียมองนาฬิกาดิจิตอลในรถของเขาที่บอกเวลาสองทุ่มครึ่ง ถ้าขับรถไปตอนนี้ก็น่าจะถึงก่อนเวลา
"ไป...ไปสนามบินค่ะ"
สุริยะหันขวับจ้องมองใบหน้าที่อ้างว้าง ดวงตากลมหลุบมองกระจกด้านนอกพยายามหลีกเลี่ยงที่จะถูกเขาซักถาม และเขาก็บ้าขับรถไปส่งเธอที่สนามบินโดยไม่ปริปากหรือถามเหตุผลว่ามาทำอะไร
แล้วทำไมเขาจะต้องถามด้วย ไม่ได้สำคัญอะไร ไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกัน อยากไปไหนก็ไป เขาไม่สนใจหรอก
"ขอบคุณนะคะ.....เอ่อคือเนียมีของจะให้ด้วยค่ะ" ดาเนียควักกล่องเครื่องประดับออกมาจากถุงใบเล็กที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าแล้วส่งให้กับสุริยะ เขาหลุบมองแล้วเปิดของในมือของเธอออกมาดู สร้อยสีทองห้อยด้วยแม่กุญแจและลูกกุญแจ
"ให้ทำไม" เขาไม่คิดจะรับมันไปจากมือเธอด้วยซ้ำ
"เผื่อว่าวันหนึ่งเฮียแซ็คจะพบใครสักคนที่ดีที่รักเฮียแซ็ค เนียรู้มาว่าเฮียเคยจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แต่ง"
"ไอ้เรนไอ้ปากพล่อย" กร่นด่าอย่างหงุดหงิด
"ช่วยรับไว้หน่อยได้ไหมคะ ถือว่าเป็นของขวัญแลกกับที่เฮียแซ็คจ่ายค่าเสื้อผ้าพวกนี้ให้ ขอร้องเถอะค่ะ"
บ่อน้ำตาของเธอมันจะแตกอยู่แล้วทำไมเขาไม่รีบรับ ๆ ไปให้สิ้นเรื่อง หรือเขารังเกียจเธอมากจนถึงขนาดไม่อยากรับของจากเธอเชียวหรือ เขาเห็นดวงตากลมพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
"ขอบใจ" เขารีบรับมาแล้วย่นคิ้วติดกันเหมือนโบว์ใหญ่ ดาเนียยิ้มกว้างเห็นเขี้ยวเล็กสองซี่ด้วยความดีใจ
"ขอบคุณนะคะที่วันนี้พาเนียไปเที่ยว ขับรถกลับดี ๆ นะคะ"
"อือ ฉันไปล่ะ" บอกแล้วหันหลังจากไป ทว่าทำไมเขาต้องรู้สึกหวิว ๆ ข้างในใจด้วย ทำไมใจมันหายแปลก ๆ
"เฮียแซ็ค!" ดาเนียตะโกนไล่หลังแล้ววิ่งตามมา พอเขาเอี้ยวตัวหันกลับไปก็ถูกสองมือเล็กตะครุบที่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำแล้วโน้มลงไปให้รับจุมพิตนุ่มละมุน แถมยังเป็นจูบที่ไม่ตาสีตาสา จูบเด็กน้อยที่ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด
แต่มันกลับทำให้หัวใจของเขาเต้นตูมตาม เต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เป็นไปไม่ได้เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับรสจูบอนุบาลของดาเนีย เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ ไม่ได้รู้สึก....
ริมฝีปากอิ่มถอดถอนออก ดวงหน้าสว่างสวยเฉี่ยวแบบเชื้อสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ยิ้มหวานอย่างปลื้มใจ น้ำตาอาบไหลนองแก้มนวลแดง "เนียรักเฮียแซ็คนะคะ และจะรักตลอดไป"
"คุณหนูครับ" เสียงของทนายความกริชตะโกนเรียกดาเนียจากทางด้านหลังพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ถูกลากเข้ามาหาเธอ พร้อมกับหุ่นสูงโปร่งหน้าตาละม้ายคล้ายพิรุณที่เดินตรงเข้ามาหาเขากับน้องสาวของมัน ขาแว่นสีดำถูกเกี่ยวออกพลางถอนหายใจเฮีอกใหญ่เมื่อเห็นน้องสาวอยู่กับไอ้เพื่อนใจแข็ง
"พี่เรนคะ มาแล้วเหรอ" ดาเนียกระโจนเข้าไปกอดพี่ชาย พิรุณเกลี่ยเช็ดน้ำตาของน้องสาวด้วยสองมืออย่างทนุถนอม จนป่านนี้แล้วเพื่อนซี้ของเขามันก็ยังงมความทุกข์ของตัวเองอยู่เหมือนเดิม โดยไม่รู้เลยว่าใครอีกคนที่มีผลต่อจิตใจกำลังจะจากไปอีกนานแสนนาน
"หน้าตาเลอะเทอะหมด อย่าร้องไห้อีกนะคนเก่งของพี่" หลังมือของลูกพี่ลูกน้องที่เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ ๆ และพ่ออีกคนของเธอกระซิบนุ่มนวล "ไปอยู่กับทนายกริชก่อน พี่จะคุยกับไอ้หมาบ้าซะหน่อย"
ดาเนียชายตามองสุริยะอย่างอาลัยแต่ก็ยอมเดินไปหาทนายกริช ทันใดนั้นเพื่อนสนิทที่ระดับความสูงไล่เลี่ยกันเดินมาประจันหน้าด้วยแววตาเย็นชาและโกรธกร้าว
"สมใจมึงแล้วนะไอ้แซ็ค ดาเนียจะไม่อยู่เมืองไทยแล้ว มึงจะได้เป็นอิสระจากน้องกูสักที"
"หมายความว่าไงไอ้เรน" เขาถามแต่ก็ยังชำเลืองมองดาเนียเป็นระยะ
"เมื่อคืนพ่อเนียถูกยิงอาการสาหัสกูเลยจะย้ายลุงไปรักษาตัวที่บ้านเกิดเนีย ถ้าลุงกูหายเมื่อไหร่กูจะบินกลับมา แต่เนียจะไม่กลับจนกว่าจะเรียนจบ"
"แล้วไงกูต้องแคร์ด้วยเหรอวะ" เขาเชิดหน้าขึ้นไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ดาเนียจะจากไป
"หึหึ! ไอ้เชี่ยเอ้ย มึงนี่มันจริง ๆ งั้นมึงก็จมอยู่ในโลกมืด ๆ ของมึงไปนะ กูขี้เกียจตื๊อมึงละ อุตส่าห์เชียร์ขนาดนี้ เดี๋ยวกูแม่งไปเชียร์คนอื่นซะเลย"
"ไม่ได้!!!"
ห่าเอ้ย! เขาพูดอะไรออกไปวะ ทำไมถึงพูดไปแบบนั้นวะไอ้แซ็ค
"สรุปมึงจะเอายังไง สามปีนะที่ดาเนียไม่อยู่ มึงไม่กลัวใครจะสวบน้องกูก็ตามใจ"
"ไม่มีใครไม่มีวันได้สวบเนียหรอก เนียต้องเป็นของกูคนเดียว"
"มึงมันชอบคิดได้ตอนที่สายเกินไป สมน้ำหน้าสามปีนี้มึงก็หอนไปนะ" เสียงเข้มแดกดันเพื่อนอย่างหงุดหงิด
สุริยะถอนหายใจเขาเองก็ยังสับสนอยู่ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมถึงรู้สึกหึงหวงดาเนียทั้งที่ยังไม่เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ หรือเพราะวันทั้งวันนี้เขาได้พบตัวตนที่สดใสของเธอ
ตัวตนของดาเนียที่เปล่งแสงส่งมาถึงสุริยะที่ดำมืดอย่างเขา และพลิกฟื้นคืนดวงอาทิตย์ไร้แสงให้รอดพ้นจากหลุมแห่งความมืดมิดอีกครั้ง ทว่าแสงสุดท้ายที่อบอุ่นนี้กำลังจะจากเขาไปไกล
และเป็นเวลาอีกหลายปีกว่าที่เขาจะได้พบเธออีกครั้ง ทว่าเมื่อวันนั้นมาถึงดาเนียจะหมดรักเขาแล้วหรือยัง
เขาก็แค่จะอยู่รอให้ถึงวันนั้น หากเธอยังมั่นคงต่อความรู้สึกอยู่ล่ะก็ เขาจะพลีกายถวายหัวใจให้เธอเพียงคนเดียว
การจากลูกจากเมียเกือบสองเดือนทำให้สุริยะปล่อยผมเผ้ายาวรุงรังไม่ต่างกับโจรป่าห้าร้อย ความโฉดและความโหดที่ลือกระฉ่อนอยู่ก่อนแล้วทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาน่ากลัวขึ้นไปอีก เวลาเดินผ่านลูกค้าที่คาเฟ่บนร้านหนังสือ ชายหญิงทั้งหลายต่างผงะมองค้างไม่คิดว่าจะเจอทาร์ซานหลงมาเดินอยู่ใจกลางเมืองแสงสีเช่นนี้ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาอิดโรยอ่อนล้าปรากฏขึ้นฉาบความหล่อเหลาจนเห็นชัด เพียงแค่ตวัดหางตาไปยังกลุ่มลูกค้าสาวที่นั่งอยู่มุมโต๊ะด้านในสุด พวกเธอก็สะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากสุริยะทมิฬที่ถูกหลุมดำดูดดึงเข้าไป ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจให้ดาเนียไปอยู่ไกลถึงนิวยอร์กกับพ่อตา เธอก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับเหตุผลแต่โดยดี แต่เขากลับสังเกตเห็นดาเนียนอนตะแคงร้องไห้พยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดทั้งที่ปากก็บอกว่าจะยอมไปคลอดลูกอยู่ที่โน่น แต่วันก่อนหน้าที่จะเดินทางไปกลับไม่คุยเล่น ไม่ให้เขาจับหรือหอมใด ๆ ทั้งสิ้น บอกเพียงแค่ว่า 'เนียกลัวตัวเองไม่กล้าปล่อยมือเฮีย' เธอพูดขึ้นมาแค่นั้น แล้วก็เดินไปกลับกลุ่มบอดี้การ์ดของพ่อตา ไม่ยอมหันหน้ามายิ้มหวานอย่างที่ชอบทำวินาทีก่อนลากันเมื่อแผ่นห
การแต่งงานผ่านพ้นไปอย่างสวยงามแม้ในคืนแต่งเจ้าบ่าวตัวดีจะไปเมามาย แต่คืนนั้นสุริยะก็โอบกอดภรรยาคนสวยของตนไม่ยอมปล่อย ยิ่งท้องของดาเนียใหญ่ขึ้นเขาก็ยิ่งหวนแหนและวิตกจริตกว่าใคร โดยเฉพาะทุกครั้งที่เขากำลังจะมีความสุข มันจะมีลางสังหรณ์ว่าความทุกข์กำลังจะมาเยือน*********************************** สำนักอัญฏรญามี สุริยะไปหาอาจารย์เธียร หมอดูญาณทิพย์คนดังพ่อของพณาธีร์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับดาเรศ พี่สาวต่างแม่ที่ลึกลับของภรรยา"พวกเธออาจจะมีเหตุต้องจากกันไปสักพัก แต่จากกันครั้งนี้มันจะไม่มีอะไรที่หนักหนาอีก ก็อาจเจอเรื่องน่าหงุดหงิดบ้างแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เกิดเรื่องเลือดตกยางออกนะแซ็ค" อาจารย์เธียรนั่งขัดสมาธิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"หมายถึงอะไรครับพ่อ""บอกหมดเลยไม่ได้หรอก มันเป็นกฏ บางครั้งเธอก็ต้องฟังหูไว้หู เธอเชื่อฉันได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่างไรก็จงฟังไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงวันนี้เธออกจากสำนักฉันไปก็ระวังผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อดาเรศไว้ วันนี้หล่อนจะมาคุยบางอย่างกับเธอ"อาจารย์เธียรทิ้งทวนประโยคอย่างเป็นปริศนา สุริยะที่นั่งอยู่เบาะหลังรถ
หาดพัทยา สุริยะกับดาเนียเลือกจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงห้าสิบคน รวมทั้งเพื่อน ๆ ในกลุ่มบรรณาธิการมาเฟียที่ควงภรรยาของตัวเองมาเปิดตัวในงานแต่งด้วย สาว ๆ ทั้งหกคนได้พบกันและคุยกันอย่างออกรสออกชาติที่โต๊ะเลี้ยงฉลองริมทะเล แต่กระนั้นสิ่งที่ทำให้ดาเนียอึ้งที่สุดคือ ยัยเหมียวเพื่อนสนิทกลับกระหนุงกระหนิงเคลียคลอมาพร้อมพนาธีร์เจ้าสาวรีบลากเหมียวมานั่งร่วมวงสนทนากับเหล่าภรรยาของเพื่อนพี่ชาย และเริ่มเปิดประเด็นถามไถ่ความจริงจากปากของเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันครึ่งค่อนปี แต่พอชวนให้มางานแต่งของเธอกับเฮียแซ็ค ยัยเหมียวดันควงแขนมากับพี่ป่าแบบงง ๆ"แกไปคบกับพี่ป่าตอนไหน เล่ามาเดี๋ยวนี้" ดาเนียจิกตาส่งให้เหมียวที่กำลังทำหน้าอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากจุดไหนก่อน"ก็คบกันหลังจากที่ฉันบินมางานเปิดตัวสตูดิโอแกนั่นแหละยัยเนีย พี่ป่าเขาไปตามตื๊อฉันถึงนอร์เวย์ แล้วฉันก็กลับมาดูแลกิจการที่เมืองไทยแทนแม่ก็เลยได้มีโอกาสศึกษาดูใจกัน" เหมียวพูดไปเขินไป"แล้วน้องเหมียวกลัวเจ้าดงดิบของพี่ป่าไหม พี่เรนพาไปบ้านพี่ป่าทีไรพี่ตกใจเจ้าตัวนั้นทุกที ฮื่อ...ขนลุก" ปาลินเล่ายกมือขึ้นกอดตัวเอง"ทำ
"ยุบหนอ! พองหนอ! สติสติ! ฮู่ว...."ท่องในใจหลับตาข่มอารมณ์ที่กำลังวาบหวามจนหัวหมุนติ้วจากฝ่ามือซุกซนที่กำลังเลื้อยไปทั่วเนื้อตัว"เฮียถึกขึ้นนะคะ แสดงว่าระงับความหื่นได้แล้ว ต่อไปมีผู้หญิงมาอ่อยเฮียจะได้ไม่ไปสอยเข้าร่วงเหมือนเมื่อก่อน" กระซิบแล้วงับลงมาที่ใบหูจนขนแขนพากันลุกตั้งโดยมิได้นัดหมาย "เนียวันนี้เฮียต้องทำงานดึกนะ" พูดไปกำผ้าขนหนูแช่เย็นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ ดาเนียกระตุกยิ้มสะใจที่ได้กลั่นแกล้ง"ปกติเฮียชอบกินรอบดึกไม่ใช่เหรอคะ วันนี้นึกยังไงไม่กินซะแล้ว แต่ทำงานแทน สงสัยของเฮียคงจะเหี่ยวแล้วแน่เลย""ของเฮียไม่ได้เหี่ยวนะ แข็ง แน่น และฟิตมากไม่เชื่อจับดูสิ"หมับ!!"อึ้มจริงด้วยค่ะ" มือข้างหนึ่งของภรรยาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง "เนีย....ขอร้องอย่า" หลับตาวิงวอนขอกล่องดวงใจที่กำลังแข็งขืนในกำมือคืนมากจากดาเนีย"อย่าหยุดเหรอคะ ว่าไงล่ะ พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ เนียไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ" มือที่ว่างอีกข้างนวดบั้นท้ายสามีแล้วขยำแรง ๆ จนคุณพ่อบ้านสะดุ้งโหยง"ตัวแสบปล่อยเฮียเถอะนะคะ" ปากหวานระดับสิบแสดงว่าคงมุ่งมั่นตั้งใจในการขอแต่งงานมากจริง ๆ "ปล่อยแล้วค่ะ" บอกแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้มิ
สำนักหมอดูอัญฏรญามีสุริยะถูกพนาธีร์รบเร้าให้มาดูฤกษ์กับพ่อของตนเองที่สำนัก ปกติไปที่ไหนก็จะต้องได้จิบกาแฟ แต่มาสำนักไอ้ป่าต้องจิบน้ำมนต์ทุกที ไม่นานนักพ่อของเพื่อนซี้เดินเข้ามาพร้อมกับแผ่นกระดาษที่จดฤกษ์มงคลในการขอดาเนียแต่งงานไว้เรียบร้อย ดวงตาคมตวัดมองไปที่กระดาษแล้วหันขวับไปหาบิดาของเพื่อนอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ"ขอแต่งตอนตีหนึ่งเหรอครับ ไม่มีฤกษ์อื่นแล้วเหรอครับคุณพ่อ""ดวงพวกเธอสองคนมันไม่ค่อยปกติแบบชาวบ้านเขา ยิ่งเจ้าป่าประหลาดเลยแหละ" อาจารย์เธียรเหลือบมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้สืบทอดสำนักคนต่อไป"ของกูนะไอ้แซ็ค ไปเดทที่ป่าช้า ขอแต่งที่กุฏิหลวงปู่ธร สงสัยถ้าน้องเหมียวท้อง สงสัยได้ไปคลอดในถ้ำหมีแน่"ป้าบ!!ฝ่ามืออรหันต์ของอาจารย์เธียรฟาดลงมาบนหัวของลูกชาย สุริยะสะดุ้งเฮือกมองพ่อลูกคู่พิลึกแล้วรีบขอตัวกลับก่อนจะได้ฤกษ์มงคลที่แปลก ๆ มาอีกชายหนุ่มนัดแนะกับพ่อบ้านศิวดล และอรุณฉายรวมทั้ง จิตตรีป้าพยาบาลพิเศษให้ช่วยกันล่อดาเนียไว้อย่าให้มายุ่งแถวสวนหลังบ้านเพราะเขากำลังตกแต่งประดับประดาหลอดไฟสวยงามพาดไปกับต้นหางนกยูง สถานที่ประทับจิตประทับใจที่เขาปลุกเร้าภรรยาจนเป็นลมและทำให้รู้ว่
"อ๊ะ....อื้อเฮียบ้า" ดาเนียพยายามถดตัวหนีจากนิ้วร้ายที่ทะลวงเข้ามาไม่ยั้ง แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี"เฮียขอร้องนะเนีย มีอะไรก็พูดกับเฮียตรง ๆ ได้ไหมคะเราถือเป็นคน ๆ เดียวกันแล้วนะเนีย""ยอมแล้วค่ะ....อ๊าหยุดก่อนนะคะ ได้โปรด" ดวงหน้าเว้าวอนน่าสงสารทำให้สุริยะตัดใจถอนนิ้วออกมา เคลื่อนตัวขึ้นจรดริมฝีปากบนหน้าผากเพื่อปลอบประโลม"ขอโทษนะคะ เฮียแค่น้อยใจเนียน่ะ" พูดเสียงนุ่มรั้งตัวของภรรยาให้ลุกขึ้นมา"เมื่อวานพี่แนท ก็คือคุณดาเรศ พี่สาวของนิ้งมาพบเนียและห้ามให้เนียไปเยี่ยมนิ้งอีก รวมทั้งขู่...ขู่ว่าจะแย่งเฮียไปจากเนีย จะขโมยเฮียไปเป็นของตัวเอง ตอนที่ได้ยินแบบนั้นเนียเจ็บไปหมด ทั้งโกรธทั้งหวงจนคิดอะไรไม่ออก รู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน"ใบหน้าคมคายรู้สึกปลื้มปีติที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงดาเนียรักและหวงแหนเขามากแค่ไหน เรื่องทั้งเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากหึงผัวตัวเองเท่านั้น ช่างน่ารักเหลือเกินภรรยาคนนี้"ไม่ต้องกลัวนะ จะไม่มีใครมาแย่งเฮียไปจากเนียได้ นอกจากความ...ตา...อุ๊บ!" คนฟังไม่ยอมให้เขาเอ่ยคำอัปมงคลออกมาจึงรีบประกบปากของตนดันบ่ากว้างให้นอนลงกับพื้นเตียง บดจูบหนักหน่วงและรุนแรง