Home / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๑๐/๒ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

Share

บทที่ ๑๐/๒ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

Author: KUNNUK
last update Last Updated: 2025-06-11 23:18:35

บิดาไม่เคยสั่งสอนมาให้ไร้เกียรติ!

อวี่เทียนเหมยเพราะความสงสัยมากมายอยู่ในใจ ไท่จื่อยืนอยู่ต่อหน้า นางมองผ่านไปเบื้องหลัง พูดออกมาเสียงเบาราวกับรำพึง ด้วยความไม่เข้าใจอย่างจริงแท้ “พี่ใหญ่”

โม่เทียนอวี่หันหลังกลับไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงความล่องลอยนั้น ทว่าเขาก็ยังช้ากว่านางหนึ่งก้าว อวี่เทียนเหมยผลักตัวเขาออก ก่อนจะวิ่งผ่านมายืนขวางด้านหน้า หวังว่าจะรับคมมีดแทน

อนิจจา…

‘ความหวานเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่ขมเหลือเกินของข้า ไยจะปล่อยให้เจ้าตาย หากข้าไม่อนุญาต’

ต้องให้ลงโทษอีกกี่ครั้งจึงจะจดจำ!

นางเร็วเพียงใด เขาเร็วกว่าร้อยพันเท่า มีดสั้นพุ่งตรงมาปักแน่นที่สีข้างเกิดเป็นแผลใหญ่ เลือดไหลทันที โม่เทียนอวี่นิ่วหน้า สายตาสำรวจบริเวณโดยรอบ

ครั้งนี้ของจริงแล้ว คนชุดดำนับร้อยกำลังดาหน้าเข้ามาให้รับมือ

ไม่ตัดสินใจคิดให้มากมาย ชีวิตตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเอง เมื่อครู่มาหลักสิบ เขายังเลิ่นเล่อจนปล่อยให้นางถูกกระบี่จ่อคอจนได้ ครั้งนี้จำนวนคนมากเกินไป ไม่นับรวมที่เขามีแผลใหญ่และไร้อาวุธ มีดสั้นเล่มเดียวที่ติดตัวมา ตอนนี้ก็อยู่กับซากศพที่เลือดยังไม่หายอุ่น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๐/๕ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

    อวี่เทียนเหมยถอนหายใจ ความรู้สึกผิดต่อเขายังมีเต็มเปี่ยม เรื่องราวมากมายอยู่ในหัว คิดวนไปมาอยู่ไม่รู้วาย มือเล็กสัมผัสไปที่ปลายคางของคนบนตักอย่างแผ่วเบา นอกจากมือของเขาที่หยาบกร้านแล้ว คางของเขาก็สากไม่ต่างกัน อยู่ใกล้จนมองเห็นไรหนวดที่ถูกโกนออกอยู่จาง ๆ นึกฉงนขึ้นมาในใจอีกครั้ง คนเป็นมนุษย์ยามป่วยไข้ ไร้สีสันบนใบหน้า เหตุใดยังหล่อเหลาดูดี เขาจ้องหน้านางนิ่ง อวี่เทียนเหมยเลือกจะเลื่อนสายตาผ่านดวงตาเขาไป ไม่อยากสบตา ประคองคางเขาให้ยกสูงขึ้นเล็กน้อย ใจหวิวเมื่อเห็นฟันขาวเรียงตัวเป็นระเบียบ และลิ้นสีแดงเปียกชื้นของเขา อยู่ ๆ ใบหน้าของนางก็แดงก่ำขึ้นมา รีบปัดความคิดสกปรกออกไปจากหัว เอาใจของตนเองกลับมา สนใจกับหน้าที่ นางกำลังจะเอียงใบไม้เทน้ำเข้าปาก เสียงฝีเท้าของคนก็ดังขึ้น ใช้คำว่าคนไม่น่าจะถูกต้องนัก ใช้คำว่ากลุ่มคนดูจะเหมาะสมมากกว่า ดูเอาเถิดเผอเรอเพียงใด จนคนเดินเข้ามาใกล้แล้ว จึงเพิ่งได้ยินเสียงฝีเท้า อวี่เทียนเหมยใจหายวาบ มือชะงักค้าง ท่าทางคนงามตรงกันข้ามกับโม่เทียนอวี่ เขายังรอที่จะกินน้ำอยู่ ไม่ได้ประมาท แต่เพราะประสบการณ์กับการใช้ชีวิตร่วมกันม

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๐/๔ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

    แต่ถ้าหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา อวี่เทียนเหมยรู้ว่าอย่างไรความเดือดร้อนก็ต้องมาถึงหน้าจวนของนาง อวี่เหวินแซ่เดิมคืออะไรใครจะสนใจ อย่างไรแต่งงานอีกสิบครั้งพี่ใหญ่ก็ยังแซ่อวี่ โดนสืบสาวราวโทษขึ้นมา ในฐานะผู้เลี้ยงดูสั่งสอน ความผิดในฐานลอบฆ่า บิดาของนางต้องได้รับโทษไปด้วย และหากบิดาได้รับโทษ ตายเจ็ดชั่วโคตรคือโทษประหาร ครอบครัวของนางจะได้รับการยกเว้นหรือ เหมือนเวลานับย้อนถอยหลังในทุกลมหายใจ แต่ผิดก็คือผิด คุณธรรมในใจทำให้กลับดำกลายเป็นขาวไม่ได้ อวี่เทียนเหมยขยับตัว เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่เปลือกตาของไท่จื่อ ไม่นานนัก เขาก็ลืมตาขึ้นมามองนาง นัยน์ตาสีดำสนิทยังทำให้หัวใจกระตุกทุกครั้งที่ได้สบตา เขามองอยู่นาน ราวกับว่าจำไม่ได้แล้วว่านางคือใคร แววตาเขาอิดโรย บ่งบอกว่าพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ นางไม่เอ่ยทักทายชวนเขาพูดคุยอย่างเคย ความละอายใจทำให้พูดสิ่งใดไม่ออก คนงามเบนสายตาหนี ก้มหน้ามองพื้น ไม่นานนักเสียงของไท่จื่อก็ดังขึ้น เสียงแหบพร่าทว่าชัดเจน เขาพูดมาหนึ่งประโยคที่ทำให้นางต้องเงยหน้ามองทันที “ข้าหิวน้ำ” อวี่เทียนเหมยเปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดบนใบหน้า นึกสงสัย

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๐/๓ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

    เขาและนางแรกเริ่ม นับตั้งแต่ยามพบเจอหน้ากันครั้งแรก หากให้ยกนิ้วขึ้นมานับอีก เขายังสนทนากับนางได้ไม่ถึงสิบประโยค หรือบางทีก็อาจจะเกินไปบ้างเล็กน้อย คำพูดไม่กี่ประโยคนี้ ที่มอบให้แก่กันล้วนมีหลากหลายอารมณ์ ทำให้เกิดน้ำตาก็มีมาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่อารมณ์ที่เด่นชัดในใจ ยามนี้จึงประจักษ์จะเป็นอารมณ์ใดได้ นอกจากอารมณ์รัก ซึ่งรับรู้ได้ด้วยใจของตนเอง โม่เทียนอวี่ความคิดสะดุด อยู่ ๆ ก็นึกสงสัยขึ้นมาว่า ‘หากเขานึกรักใครขึ้นมา ทั้งที่สนทนาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่’ เสียงแมลงร้องระงมรบกวนความคิด เขาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของตนเอง หลับตาแสร้งว่ากำลังพักผ่อนอยู่ต่อไป กลัวว่าถ้านางตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าเขาไม่ได้นอน จะเป็นกังวลอีก เรื่องราวในค่ำคืนนี้ถูกนำมาคิดทบทวนไม่มีจบสิ้น เสียงถอนหายใจไม่ช่วยผ่อนคลายความหนักในอก คิดว่าหลังจากกลับไปที่วังเมื่อใด คงมีเรื่องราวมากมายให้ต้องสะสาง แต่หากเรื่องราวเหล่านั้น มีนางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้เพียงเล็กน้อย ‘เขาต้องทำเช่นไรดี…’. อวี่เทียนเหมยกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายเหนื่อยล้า แต่ใจนางเหนื่อยยิ่งกว่า ยิ่งเห

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๐/๒ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

    บิดาไม่เคยสั่งสอนมาให้ไร้เกียรติ! อวี่เทียนเหมยเพราะความสงสัยมากมายอยู่ในใจ ไท่จื่อยืนอยู่ต่อหน้า นางมองผ่านไปเบื้องหลัง พูดออกมาเสียงเบาราวกับรำพึง ด้วยความไม่เข้าใจอย่างจริงแท้ “พี่ใหญ่” โม่เทียนอวี่หันหลังกลับไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงความล่องลอยนั้น ทว่าเขาก็ยังช้ากว่านางหนึ่งก้าว อวี่เทียนเหมยผลักตัวเขาออก ก่อนจะวิ่งผ่านมายืนขวางด้านหน้า หวังว่าจะรับคมมีดแทน อนิจจา… ‘ความหวานเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่ขมเหลือเกินของข้า ไยจะปล่อยให้เจ้าตาย หากข้าไม่อนุญาต’ ต้องให้ลงโทษอีกกี่ครั้งจึงจะจดจำ! นางเร็วเพียงใด เขาเร็วกว่าร้อยพันเท่า มีดสั้นพุ่งตรงมาปักแน่นที่สีข้างเกิดเป็นแผลใหญ่ เลือดไหลทันที โม่เทียนอวี่นิ่วหน้า สายตาสำรวจบริเวณโดยรอบ ครั้งนี้ของจริงแล้ว คนชุดดำนับร้อยกำลังดาหน้าเข้ามาให้รับมือ ไม่ตัดสินใจคิดให้มากมาย ชีวิตตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเอง เมื่อครู่มาหลักสิบ เขายังเลิ่นเล่อจนปล่อยให้นางถูกกระบี่จ่อคอจนได้ ครั้งนี้จำนวนคนมากเกินไป ไม่นับรวมที่เขามีแผลใหญ่และไร้อาวุธ มีดสั้นเล่มเดียวที่ติดตัวมา ตอนนี้ก็อยู่กับซากศพที่เลือดยังไม่หายอุ่น

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๐/๑ หากเรานึกรักใครขึ้นมา แม้พูดจาด้วยไม่ถึงสิบประโยค แบบนี้เรียกว่าแปลกหรือไม่

    พอถอยผละห่างออกจากกัน ต่างก็หันหน้าหนีออกจากกันในทันที บุรุษใบหน้าเรียบเฉย คิดสิ่งใดในใจผู้ใดจะรู้ สตรีใบหน้าแดงก่ำ ชัดเจนว่าขวยเขินทั้งยังนึกว่าฝันอยู่ไม่รู้วาย ดึกแล้ว คงต้องส่งนางกลับจวน โม่เทียนอวี่ขยับตัวอีกครั้ง กำลังจะหันหน้าไปหานาง ทว่าสายตากลับต้องหยุดชะงัก เมื่อหางตาเห็นความเคลื่อนไหว สัญชาตญาณบ่งบอกว่าสถานการณ์รอบตัวไม่ปกติ เงียบเกินไป มือเลื่อนไปที่เอวของตนเอง หยิบมีดสั้นเล่มเดียวที่พกติดตัวอยู่ออกมา ราวกับว่ารอให้ส่งสัญญาณอยู่ ทันทีที่รู้ว่าเขารู้ตัวแล้ว ลูกธนูก็ลอยผ่านอากาศพุ่งตรงมาหา เป้าหมายแน่ชัดว่าต้องการเอาชีวิต โม่เทียนอวี่ใจหายวาบ เขาผลักอวี่เทียนเหมยให้หลบวิถีของลูกธนู ศัตรูในที่มืดนั้นยากจะมองเห็น ในหัวรีบคิดแผนมารับมือกับสถานการณ์โดยไว อย่างแรกคือต้องรู้จำนวนคนก่อน เขาร้องตะโกนออกไปว่า “สุนัขลอบกัด อยู่ที่ใดเจ้าก็ตาย ออกมาเถิด ข้าสัญญาจะส่งเจ้าลงนรกด้วยวิธีที่ทรมานที่สุด” นับว่าไม่ไร้เกียรติมากนัก ลูกธนูดอกแรกเป็นแค่คำทักทาย ยามเหล่าคนชุดดำราวสิบกว่าคนปรากฎกายพร้อมอาวุธครบมือตามคำเรียกร้อง เขารู้สึกกลัวขึ้นมาครั

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๙/๕ ยามเมื่อลมบูรพาพัดหวน

    เขากลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกกระหายคอแห้งขึ้นมา คงเป็นเพราะวันนี้พูดมากมายหลายประโยค กระนั้นแม้จะกล่าวว่าตนเองพูดมาก เขาก็ยังพูดเสียงเบาออกไปอีกว่า “เผื่อเจ้าจะลืม…” เว้นช่วงให้ตนเองได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน อยู่ ๆ ก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา เขากำลังจะทำตัวเป็นหมาป่าหลอกกินแกะ หวังหลอกกินเต้าหู้[1]คนงาม ที่แท้คุณธรรมมากมายในใจล้วนเป็นเรื่องเสแสร้ง ทว่า…พอนึกดูแล้ว เขาก็ไม่เคยเอ่ยปากว่าตนเป็นคนดี เพราะรู้แก่ใจว่าตนเองนั้นชั่วทั้งกายและใจ หากไม่สั่งสอนให้รู้ความเสียบ้าง ไหนเลยจะรู้สำนึก เหตุผลถูกยกขึ้นมาอ้างเพื่อให้ทำได้ตามใจ เขาหลอกตนเองว่าทำดี ที่แท้กลับทำชั่ว สายตาลุ่มลึกปิดบังความปรารถนาไม่ให้ฉายชัด เสียงเบาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบว่า “ข้าก็เป็นบุรุษผู้หนึ่ง” อวี่เทียนเหมยหมดสิ้นแล้วกับวิธีรับมือ นางเงยหน้าขึ้นหวังจะใช้ความจริงใจช่วยผ่อนเบาโทษ พูดประโยคซ้ำคำเดิมรอบที่สอง “เช่นนั้นให้หม่อมฉันรับโทษเถิดเพคะ ไท่จื่อจะให้หม่อมฉันตายด้วยวิธีใดก็ทรง…..” ยังพูดได้ไม่จบประโยค เสียงหวานกลายเป็นเสียงอื้ออึงในลำคอ ก่อนจะถูกดูดกลืนหาย ราวกับว่าเป็นคำอนุญาตให้ก้าวล่วง ปากบา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status