Share

หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่

บทที่ 1 หญิงอ้วนอัปลักษณ์

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
มีคนเตะเธอเข้าที่ท้องอย่างแรง ร่างกลม ๆ ของถูซินเยว่กลิ้งหลุน ๆ อยู่สองทีบนกระดานไม้ก่อนที่จะหยุดอย่างไม่เต็มใจ หน้าผากของเธอกระแทกด้านข้างอย่างแรงจนมีก้อนสีแดงแข็ง ๆ บวมนูนขึ้น ความเจ็บปวดทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธออยากจะลืมตาขึ้นเหลือเกิน

ถูซินเยว่ยกเปลือกตาหนัก ๆ ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเธอขึ้นอย่างยากลำบาก...

เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ข้างหูของเธอดังและชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภาพเงาผู้คนรอบตัวที่เลือนลางก็เริ่มปรากฏชัดขึ้น

“เรื่องนี้ ตระกูลถูต้องมาคุยกับตระกูลซูให้รู้เรื่อง!”

หือ?

นี่มันที่ไหนกัน?

คนพวกนั้นพูดเรื่องอะไรกันอยู่นะ?

หัวของเธอเจ็บมากเสียจนถูซินเยว่ทำได้เพียงมองดูผู้คนที่แต่งตัวประหลาดเหล่านั้นและพึมพำอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถพูดอะไรสักคำออกมาได้ เธอหลับตาลงอย่างอ่อนแรงและฟังผู้คนโต้เถียงกันต่อไป

"ลูกสะใภ้คนใหม่ของข้าอยู่ดี ๆ กลายเป็นนางอัปลักษณ์นี่ได้อย่างไรกัน?"

“คนตระกูลถูพูดจาเชื่อถือไม่ได้เลยจริง ๆ อยากกลั่นแกล้งพวกข้าอย่างนั้นรึ เอาคนอัปลักษณ์มาเล่นตลกกับพวกข้า ถูหมิงซวนอยู่ที่ไหน รีบพาตัวนางออกมาให้พวกข้าเดี๋ยวนี้ ข้าไม่เอานังอัปลักษณ์นี่!”

บุตรสาวคนโตของบ้านตระกูลซูและลูกชายคนเล็กซูฟาเสียงตะโกนเสียงอึกทึกอยู่นอกประตู มีเกวียนวัวผูกอยู่ใต้ต้นพุทราที่ประตูทางเข้า ข้างในเกวียนนั้นมีเสื่อกกเก่าขาดพันรอบตัวหญิงอ้วนในชุดแต่งงานสีแดงสด

หญิงอ้วนที่ตัวเปียกชุ่มก็คือถูซินเยว่ที่กำลังตัวสั่นจากความหนาวเย็น

ขณะที่ตระกูลซูกำลังทำสงครามน้ำลายและกำลังจะผลักประตูไม้เปิดออกนั้น จู่ ๆ ประตูไม้เล็กโทรมก็เปิดออกด้วยเสียงดังเอี๊ยด ศีรษะของหญิงชราโผล่ออกมาจากข้างใน

หญิงชรามองไปรอบ ๆ ข้างนอกหนึ่งครั้ง ดวงตาขุ่นเคืองแต่กลับดูเฉียบแหลม "พวกเจ้าจะทำอะไร ดึก ๆ ดื่น ๆ จะมาพังบ้านตระกูลถูของข้าอย่างนั้นรึ มีอะไรก็ไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมา ข้าไม่อยากมาเสวนาเรื่องไร้สาระกับพวกเจ้า”

"แม่เฒ่าถู เจ้าหมายความว่ายังไงกัน" บุตรสาวคนโตของตระกูลซูแผดเสียงสูง "ใครอยากจะมาทะเลาะกับดินโคลนอย่างพวกเจ้า เจ้าคิดว่าข้าอยากจะมาเหยียบบ้านผุ ๆ พัง ๆ ของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ”

"เข้าเรื่องเถอะ" เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนโตของตระกูลซูกำลังจะนอกเรื่อง ชายแก้มตอบปากยื่นท่าทางน่าเกลียดก็กระตุกชายแขนเสื้อของนาง

ท้องฟ้าเริ่มดูน่ากลัว ถ้าฝนเกิดตกขึ้นเรื่องราวจะยิ่งยากจะแก้ไข

ฝ่ายบุตรสาวคนโตของตระกูลซูถลึงตาใส่ชายคนนั้นและยิ้มหยัน "ตระกูลถูของพวกเจ้าทำเรื่องงามหน้าจริง ๆ ตระกูลซูของพวกข้ามาสู่ขอถูหมิงซวนหลานสาวจากบ้านลูกคนรองของพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับพานังอัปลักษณ์สติไม่ดีมาให้พวกข้าอย่างส่งเดช คิดว่าตระกูลซูรังแกได้ง่าย ๆ อย่างนั้นรึ”

พูดจบ นางก็เดินมาที่เกวียนและกระชากเสื่อเก่าขาดเปิดออกเผยให้เห็นถูซินเยว่ร่างอ้วนกลมที่ใบหน้ามีรอยเลือดซิบจากการถูกหนามไม้ไผ่บาดกรอกตาขาวไปมาด้วยความเจ็บปวด

บุตรสาวคนโตของตระกูลซูกำลังยุ่งอยู่กับการโต้เถียงกับแม่เฒ่าตระกูลถู จึงไม่มีเวลามองเธอ นางเตะร่างอ้วนกลมของถูซินเยว่ตกลงมาจากเกวียน ถึงแม้จะเนื้อเยอะ แต่เธอก็ไม่สามารถทนต่อแรงเตะแบบนี้ได้ เธอตกลงมากระแทกลงกับพื้นอย่างน่าสังเวช ถูซินเยว่รู้สึกเพียงแค่ว่าความเจ็บปวดที่กะโหลกศีรษะที่เกิดจากแรงกระแทกนั้นเกือบทำให้วิญญาณเธอหลุดออกจากร่าง

เธอนอนราบอยู่บนพื้นไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้น

บุตรสาวคนโตของตระกูลซูเดินไปหาแม่เฒ่าของบ้านตระกูลถูด้วยท่าทางดุร้ายพร้อมกับยิ้มหยัน"ดู ดูเสียให้เต็มตา เจ้าเอานางอ้วนอัปลักษณ์สติไม่ดีของตระกูลถูของเจ้ามาเล่นตลกกับพวกข้างั้นรึ? วันนี้เป็นวันมงคลของจื่อหัง ตระกูลซูของพวกข้าไม่ต้องการทำให้เป็นเรื่องใหญ่ รีบไปพาตัวถูหมิงซวนลูกสะใภ้ของตระกูลซูออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นก็เอาสินสอดทองหมั้นมาคืนพวกข้าให้หมด!”

พูดจบ นางก็แบมือออกกว้าง

แต่แม่เฒ่าตระกูลถูซึ่งอยู่ข้างในประตูก็อ้าปากแล้วพ่นเสมหะออกมาใส่กลางฝ่ามือของบุตรสาวคนโตของบ้านตระกูลซู

"ถุ๊ย หมิงซวนเป็นหลานคนโต ส่วนนางสติไม่ดีนั่นเป็นหลานคนเล็ก วันนี้นางทั้งสองคนเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันทั้งคู่ บ้านเจ้าจับผิดตัวไป แล้วยังจะมาถามหาความยุติธรรมอะไรจากพวกข้าอีก รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"

ก่อนที่พวกเขาจะได้ทันโต้ตอบแม่เฒ่าถูก็ปิดประตูไม้ใส่เสียงดังปัง

บุตรสาวคนโตของตระกูลซูตะลึงงัน ก้มลงมองดูก้อนเสมหะสีเหลืองที่กลิ้งอยู่บนฝ่ามือ นางหันกลับมาและอาเจียนเสียงดัง "อุ๊บ...โอ๊กกกกก"

แม้ว่าจะเติบโตมากับกองดินกองทราย แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา งานบ้านทั้งหมดก็เป็นหน้าที่ของแม่ของจื่อหัง มือที่ได้รับการดูแลอย่างดีของนางไม่เคยต้องพบกับสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้มาก่อน

แม่เฒ่าถูคนนี้ถ่อยเกินไปแล้ว

ซูฟาเสียงผู้น่าเกลียดอดไม่ได้ที่จะเกาหัวแกรกแล้วพูดขึ้นว่า "ทำยังไงดีล่ะทีนี้ คนก็ไม่ได้ เงินก็ไม่ได้ ดึกดื่นป่านนี้ ครอบครัวลูกคนที่สามของบ้านตระกูลถูคงอยู่ในเมืองกันหมด ทิ้งนางสติไม่ดีนี่ไว้ให้พวกข้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?"

เขายื่นมือออกไปชี้ถูซินเยว่ที่นอนกองอยู่บนพื้น

วันนี้เป็นวันที่เจ็ดเดือนหก ซึ่งเป็นวันมงคล หลานสาวสองคนของตระกูลถูออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝา คนหนึ่งแต่งกับตระกูลเหลียงในเมือง อีกคนแต่งกับตระกูลซูที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ เดิมทีนี่เป็นวันมงคล ใครจะคิดว่าพวกเขาจะได้เจ้าสาวผิดตัวไประหว่างทาง

ลูกสะใภ้คนงามของตระกูลซูกลายเป็นคนสติไม่ดีที่ทั้งอ้วนและอัปลักษณ์

ในคืนวันแต่งงาน นางสติไม่ดีกลับตกลงไปในบ่อน้ำในสวนหลังบ้านของตระกูลซู เมื่อเห็นว่าถูซินเยว่หายใจรวยริน ครอบครัวตระกูลซูจึงรีบนำตัวเธอใส่เกวียนแล้วพาไปที่บ้านตระกูลถู โดยหวังว่าจะยกเลิกการแต่งงาน

แต่ใครจะคิดว่าแม่เฒ่าถูจะใจจืดใจดำถึงขนาดเมินหลานสาวที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างไม่ใยดี หันหลังปิดประตูดังปังเข้าใส่

คนของตระกูลซูสองคนมองหน้ากันและกัน จากนั้นก็มองไปที่ถูซินเยว่ที่อยู่บนพื้น

"ไม่ได้เด็ดขาด ตระกูลถูคดโกงการแต่งงาน วันนี้ข้าต้องจัดการให้ได้" บุตรสาวคนโตของตระกูลซูเช็ดเสมหะสีเหลืองออกจากมือของเธอ เตะประตู สีหน้าไม่ยอมแพ้

แต่ในทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟ้าร้องขึ้น เม็ดฝนห่าใหญ่ตกลงมา

"ฝนตกแล้ว รีบกลับกันเถอะ ถ้าช้ากว่านี้เราจะกลับไม่ได้นะ" ซูฟาเสียงยกมือขึ้นบังศีรษะ

"แล้วนางอ้วนนี่ล่ะจะทำยังไง" บุตรสาวคนโตของตระกูลซูลังเลเล็กน้อย หญิงอ้วนนี่ทั้งสติไม่ดีและตัวหนัก ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพาตัวนางมาจากบ้านตระกูลซู ตอนนี้ยังต้องมาลากกลับ... และที่สำคัญที่สุดคือถ้าลากนางสติไม่ดีนี่กลับไป ต่อไปถ้าจะพากลับมาก็คงไม่ง่ายแล้ว

ถูซินเยว่ที่อยู่บนพื้นรู้สึกใจสั่น หลังจากนอนอยู่บนพื้นเป็นเวลานาน บวกกับความทรงจำต่าง ๆ ที่ยุ่งเหยิงอยู่ในหัว ในที่สุดเธอก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่เพียงแต่เดินทางย้อนอดีตมาเท่านั้น แถมยังเข้ามาอยู่ในร่างของหญิงอ้วน ตอนนี้พ่อแม่ของหญิงอ้วนคนนี้ไปสังสรรค์อยู่ในเมือง ดูท่าทางแล้วแม่เฒ่าถูคนนั้นคงไม่สนใจใยดีเธอเป็นแน่ ถ้าคนตระกูลซูกลับไปแบบนี้ ตัวเธอเองคงถูกทิ้งไว้นอกบ้านทั้งคืนแน่

ฝนตกหนักปานนี้ อีกทั้งตนเองตอนนี้ก็อ่อนแอมาก ถ้าต้องถูกทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ ต้องตายแน่!

แม้ว่าจะข้ามภพมาเข้าร่างของหญิงอ้วน แต่ถูซินเยว่ก็ยังไม่อยากตาย

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนวางแผนที่จะทิ้งเธอไว้ข้างหลัง ถูซินเยว่ก็ยื่นมือออกอย่างสุดกำลังและคว้ากางเกงของบุตรสาวคนโตของตระกูลซูเอาไว้ บุตรสาวคนโตของตระกูลซูกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ นางก้มศีรษะลงและเห็นใบหน้าที่อ้วนกลมของถูซินเยว่ ดวงตาสีเข้มกำลังจ้องมองตน นางอยากจะสะบัดออกไปด้วยความรังเกียจเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงอ่อนโยนดังมาจากไม่ไกล

“พานางกลับไปด้วยเถอะ ไม่เช่นนั้นนางคงตายอยู่ที่นี่”

หลังจากที่ต้องฟังเสียงวิวาทราวกับสงครามปีศาจระหว่างบุตรสาวคนโตของตระกูลซูกับแม่เฒ่าถู เวลานี้เสียงหยาดน้ำฝนที่กระทบต้นใบหญ้านั้นช่างไพเราะเสนาะหูของถูซินเยว่เสียเหลือเกิน

เธอหันไปด้วยความงุนงงสับสน เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าวยืนถือร่มกระดาษเคลือบน้ำมันอยู่ท่ามกลางสายฝน

ขณะที่เธอหันไปมองดู ดวงตาเย็นชาของชายหนุ่มก็สบกันกับเธอ

จู่ ๆ หัวใจของถูซินเยว่ก็เต้นผิดจังหวะ หล่อเหลือเกิน!

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจ ถูซินเยว่ก็หมดสติไป ก่อนที่เธอจะหมดสติ ก็ได้ยินเสียงแว่วอันประหลาดใจของบุตรสาวคนโตของตระกูลซู "จื่อ...จื่อหัง เจ้ามาทำอะไรที่นี่"
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (9)
goodnovel comment avatar
Hansu Kanwar
coz u want me to do the
goodnovel comment avatar
Hansu Kanwar
to the hospital for my phone died
goodnovel comment avatar
Hansu Kanwar
K can you come back in town for
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status