..หลังจากวันนั้น..นี่ก็ร่วมอาทิตย์แล้วที่น้ำหนึ่งทำตัวต่อต้าน ปกรณ์ ทำให้คิดว่าตัวเองทำแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จึงคิดแผนใหม่ที่มันดีกว่านี้ อันดับแรก น้ำหนึ่งจึงทำทีเข้าไปตีสนิทกับแม่บ้าน คนที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้น้ำหนึ่งทุกวัน วันนี้เธอก็เอาข้าวมาให้น้ำหนึ่งเช่นทุกวัน เธอชื่อพาขวัญ เป็นคนเงียบๆ
"พี่พาขวัญ หนึ่งไม่อยากอยู่ในห้องอะ ไปบอกนาย ปกรณ์ให้หน่อยให้หนึ่งไปช่วยงานพี่ที่ครัวก็ได้ นะๆๆๆ""
น้ำหนึ่งทำน้ำเสียงออดอ้อนแม่บ้านให้ทำตามแผนตัวเอง คิดในใจนี่คงเป็นทางเดียวที่จะรอดคือต้องเล่นตามน้ำที่ ปกรณ์นั้นบอกเอาไว้ เพื่อให้นายนั่นตายใจ แค่คิดก็สนุกแล้วละหึๆ
ในห้องทำงานของปกรณ์ประดับประดาไปด้วยอัญมณี และของสะสมมากมาย เช่น งาช้าง หนังสัตว์ที่หายาก ชึ่งแน่นอนที่เขาได้มามันผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเขารวมถึง การทำเหมืองเเร่ และ การส่งออกพวกหนังสัตว์ข้ามประเทศ มันทำให้เขามีรายได้มหาศาลมากพอที่จะไม่ต้องทำงานตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ เขากำลังจดจ่ออยู่กับงานเอกสาร แล้วเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ซึ่งต้นเสียงมาจาก บอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตูนั่นเอง
"นายครับ แม่บ้านต้องการพบครับ"
"ให้เข้ามาได้"
เขาละสายตาจากเอกสารสำคัญเพื่อมองมาทางเเม่บ้านที่เดินก้มหน้าเข้ามา ด้วยความหวาดกลัว ตามจริงในใจเขาไม่ได้โหดเหี้ยมกับผู้หญิงขนาดนั้น แต่ด้วยใบหน้าที่มันนิ่งเฉย คนอื่นเลยมองเขาว่าเป็นคนโหดเหี้ยม "มีอะไรว่ามา"
"คือคุณน้ำหนึ่งฝากมาบอกเจ้านายค่ะ ว่าไม่อยากอยู่ห้องแล้วให้นางทำอะไรก็ได้ เมื่อกี้นางขอมาช่วยงานในครัวค่ะ"
ปกรณ์ได้ฟังที่แม่บ้านเล่าถึงเจตนาที่ เจ้านกน้อยของเขาต้องการ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าน้ำหนึ่งนั้นมีแผนจะทำอะไร
"ยังไม่ต้องให้นางเข้าครัว ให้นางไปขุดดินทำแปลงปลูกผักดีกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่ในห้องนั่นแหละไม่ต้องออกมา!!"
แม่บ้านรับคำสั่งแล้วออกมาจากห้องทำงานปกรณ์ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ มีหวังเธอโดนลูกหลงแน่ เพราะไม่มีใครคาดเดาความคิดของปกรณ์ได้เลย
..น้ำหนึ่ง..ได้ยินที่แม่บ้านมาบอกเรื่องที่ขอออกจากห้อง ได้รับอนุญาตแล้ว ตอนนี้อยู่ในชุดเตรียมพร้อมทำงาน เสื้อเชิ้ตผ้าบางรัดรูปกับกางเกงยีนส์ พร้อมกับรองเท้าบูท หมวกพร้อม จอบ เสียม พร้อม น้ำหนึ่งคิดแผน เอาคืนปกรณ์ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้จิ๊บๆ คงคิดว่าน้ำหนึ่งจะทนไม่ไหวสิท่า อยากให้นายปกรณ์คนนั้นได้รู้ไว้ ว่าน้ำหนึ่งคนนี้สู้ตายเว้ย
พื้นที่หลังคฤหาสน์ ของปกรณ์นั้นมันกว้างสุดลูกหูลูกตา ตอนนี้น้ำหนึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำแปลงผักอยู่ ในเวลาบ่ายแก่ๆ ซึ่งมันแดดร้อนมาก นายปกรณ์โรคจิตนั้น ตั้งใจจะแกล้งฉันสินะ น้ำหนึ่งคิดในใจพร้อมกับ ขุดแปลงผักต่อไป มือที่ไม่เคยจับจอบ เสียม มันเสียดสีกับด้ามจับ จนตอนนี้มันพุพองเป็นตุ่มใสๆแล้ว ยิ่งทำนานเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสบมากเท่านั้น
ปกรณ์มองดูน้ำหนึ่งจากชั้นบนบ้านด้วยกล้องส่องทางไกล เขาอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนได้นานสักแค่ไหนกัน พอมองไปสักพักจู่ๆเธอถอดกระดุมเสี้อลงสองเม็ดมันทำให้เห็นร่องหน้าอกของเธอที่มันชิดกันจนแน่น นี่เธอคงจะอ่อยเขาทางอ้อมใช่ไหม เสร็จแล้วเธอเปิดน้ำจากสายยางเพื่อล้างแขน ล้างหน้า น้ำที่มันหยดจากหน้าที่เธอล้างมันไหลลงเสื้อเชิ้ตตัวบาง นี่คงเป็นแผนเธอสินะ
"นั่นแหละๆรีบๆมองของดีให้ไวให้โรคจิต ฉันอยากรู้นักว่านายจะไม่ตกหลุมพรางฉันให้มันรู้ไป"
น้ำหนึ่งพูดพร้อมกลับฉีดน้ำขึ้นบนฟ้า จำลองว่าเป็นฝนตก แล้วตอนนี้เธอก็ถอดหมวก พร้อมปล่อยผมยาวตรงของเธอ ตอนนี้เหมือนว่าเธอมีความสุขกับมัน ปกรณ์มองภาพนั้นแล้วเคลิ้มไปพักใหญ่ ก่อนที่จะตื่นจากพะวัง แล้วเดินตรงลงไปหาเธอ
"นี่ฉันให้เธอมาทำงานนะ ไม่ได้ให้มาเล่นน้ำ เห็นไหมว่ามันเปลืองน้ำโดยเปล่าประโยชน์!!"
เป็นเจ้าของคฤหาสน์แต่หวงน้ำเนี่ยนะเชื่อเขาเลยจริงๆ น้ำหนึ่งปิดน้ำ แล้วหยิบของเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่พูดกับปกรณ์สักคำ
"เดี๋ยว จะไปไหนมาคุยให้มันรู้เรื่องก่อน"
เขาพูดพร้อมกับขว้ามือน้ำหนึ่งเอาไว้ "โอ้ยยย เจ็บนะ😥" แผลพุพองที่เกินจากการทำงาน บนมือน้ำหนึ่งมันแตกทำให้ยิ่งแสบเพราะ ปกรณ์นั้นบีบมือเธออย่างแรงเมื่อกี้
"ฉันไม่ได้ตั้งใจ ใครจะไปรู้ล่ะช่วยไม่ได้หรอกนะเธอทำตัวเธอเอง"
แค่เอ่ยปากขอโทษเขายังพูดมันออกมาไม่ได้ ไม่อยากเสียเวลากับคนแบบนี้จริงๆ น้ำหนึ่งพยายามสบัดมือออก
"ปล่อยนะ งานที่นายให้ฉันทำก็เสร็จหมดแล้วไง จะให้อยู่ต่ออีกนานไหม ฉันเปียกหมดแล้ว"
น้ำหนึ่งรีบกลับมาถึงห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดนอนสายเดี่ยวเตรียมนอน ไม่อยากสนอะไรแล้วตอนนี้มันเพลียไปหมด ค่อยคิดแผนจัดการใหม่ละกัน
"ทำไมน้ำหนึ่งยังไม่กินข้าว" ปกรณ์ถามแม่บ้านหหลังจากที่ยกกับข้าวออกมาจากหน้าห้องเธอ แม่บ้านได้บอกปกรณ์ว่าน้ำหนึ่งล็อคห้องไว้ เคาะเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิดนี่มันก็2ทุ่มแล้ว เธอบอกกลับมาอาบน้ำตั้งแต่ห้าโมงเย็นไม่ใช่หรอ เขาเดินไปเคาะประตูห้องเธอใหม่
"ก๊อกๆ น้ำหนึ่ง ได้ยินฉันไหม รีบเปิดประตูก่อนที่ฉันจะไขกุญแจเข้าไป ฉันบอกให้เปิดประตู!!"
ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ทุกอย่างมันเงียบไปหมด "ไปเอากุญแจสำรองมา"แม่บ้านหยิบกุญแจมาให้ปกรณ์ เสร็จแล้วปกรณ์บอกให้แม่บ้านออกไป เขาไขกุญแจเข้ามาห้องน้ำหนึ่ง เจอน้ำหนึ่งนอนบนเตียงนิ่ง ทำเขาใจหาย ปกรณ์ค่อยเดินตรงเข้าไปตรงข้างเตียง เรียกเธอเบาๆ
"น้ำหนึ่ง ตื่นมากินข้าวก่อนได้ไหม ค่อยนอนต่อ" เขากลัวเธอเป็นอะไรไปยิ่งวันนี้ใช้แรงงานเธอ แท้จริงแล้วเขาไม่อยากให้เธอทำแบบนั้น แต่เด็กหัวดื้ออย่างเธอต้องโดนสั่งสอนให้หลาบจำ เขาเอาฝามือไปอิงหน้าผากเธอเบาๆ มันร้อนมาก เธอคงเป็นไข้เพราะไปเล่นน้ำตากเเดดเมื่อตอนกลางวัน ปกรณ์กำลังจะไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้เธอ
"อย่าาา อย่าไปป..พ่ออยู่กับหนึ่งนะ..หนึ่งจะรีบใช้หนี้ให้พ่อ..แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกัน"
เสียงนอนละเมอจากปากของเธอ เขากำลังจะเดินไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอต่อ จู่ๆน้ำหนึ่งก็ดึงแขนเขาไว้ ทำให้เสียการทรงตัว ปกรณ์ล้มทับตัวน้ำหนึ่ง ดีที่เขายั้งแขนตัวเองไว้ ไม่ให้ลงน้ำหนักที่ตัวเธอมากไปกว่านี้ แต่ขนาดนี้คนตัวเล็กยังไม่ยอมตื่น พิษไข้ทำงานเสียแล้ว ตอนนี้หน้าของเขาใกล้กับหน้าเธอมาก แรงลมหายใจอันร้อนของเธอเพราะพิษไข้ ส่งตรงที่หน้าของเขาสัมผัสได้
"คงมีแต่ตอนนี้สินะที่หมดฤทธิ์แล้ว"
เขาลูบหน้าเธอด้วยความเอ็นดู คงเพราะมีอะไรมารบกวนทำให้น้ำหนึ่งลืมตาขึ้นมองปกรณ์ตาแป๋ว โดยไม่พูดอะไร ดูเธอไม่ตกใจที่เราสองคนอยู่ในสภาพที่เขานอนทับเธอจากข้างบนแบบนี้
นี่ฉันฝันไปสินะ ทำไมนายปกรณ์โรตจิตมาอยู่บนตัวฉันได้ละเนี้ย ถ้านี่คือความฝันฉันขอเอาคืนนายละกัน น้ำหนึ่งคิดว่าตัวเองนั้นฝันไป จึงได้โน้มคอปกรณ์ลงมาจูบอย่างดูดดื่ม แท้จริงแล้วนี่มันคือความจริง ปกรณ์คิดว่าน้ำหนึ่งตั้งใจอ่อยเขา เขาจึงตอบสนอนเธอเช่นกัน เขาค่อยๆจูบเธออย่างนุ่มนวลปนดุดัน พร้อมกับแทรกลิ้นเข้าไปในปากเธอ มันช่างเร่าร้อนมากขึ้นไปอีกเพราะเธอนั้นเป็นไข้ตัวเธอมันร้อนไปหมด เขาต้องหยุดความคิดที่จะไปเอามาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอไว้ก่อน เพราะตอนนี้เขาแทบทนไม่ไหวที่เธอยั่วเขาสะขนาดนี้
ให้ตายเถอะ..ภาพที่เห็นคือน้ำหนึ่งที่อยู่บนตัวเขา เธอช่างงดงาม ทรวดทรงของเธอที่มันเคลื่อนไหวขึ้นลงบนตัวเขา บวกกับสีหน้าที่แสดงออกมาว่าเธอมีความสุขแค่ไหน มันทำเขาหลงไหลเสน่ห์ของเธอ...เขาจับเอวสองข้างเธอกระแทกเข้ากับตัวเขาแรงๆ แรงสั่นบนตัวเธอมันส่งผ่านมายังตัวเขา สองเราตอนนี้ท่วมไปด้วยเหงื่อ "เหนื่อยไหมคะคนดี"...เขาพูดปลอบประโลมเธอพร้อมกับช่วยยกเอวเธออีกแรงแบบนี้เธอจะได้ไม่เหนื่อยมาก เขาอยากให้เธอมีความสุขร่วมกันกับเขา สองมือเปลี่ยนจากเอวมาจับหน้าอกเธอสองข้าง พร้อมกับโน้มหน้าเธอลงมาจูบอย่างดูดดื่ม"อื้ออ"น้ำหนึ่งทำมันค่อยๆช้าลงปกรณ์รู้ว่าเธอคงหมดแรงแล้วเลยจับเธอลงมานอนแทนที่เขา"รักจัง..น้ำหนึ่ง""😲😮"น้ำหนึ่งอึ้งกับคำที่เขาบอกไม่ทันไรเขายัดเหยียดตัวตนของเขาเข้ามาจนสุด.."อึกก มันจุกนะ🥺" ปกรณ์ก้มลงไปจูบเธอพร้อมกับกระแทกรัวๆ จนตอนนี้น้ำหนึ่งแทบหายใจไม่ทั่วท้อง.."...พลั่บๆๆ ตึกๆ.." ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความเร่าร้อน เขาจับเธอนอนตะแคงเพื่อเปลี่ยนรสรัก เขาเหมือนเครื่องจักร ที่ทำอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสักนิด "หันหลังหน่อยนะค้าบ"น้ำเสียงออดอ้อนของเขา มันต่างจากตอนท
ทันทีที่ถึงที่นอนนายปกรณ์โยนฉันลงเตียงด้วยความโมโหเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าฉันจะเจ็บมากไหม เขามันโหดร้ายเกินไปแล้วนะ"นี่นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ""ทำไมล่ะ!..ทีคืนนั้นเธอไม่เห็นจะขัดขืนฉันด้วยซ้ำ มาทบทวนความหลังกันหน่อยไหม"เขาพูดเรื่องน่าอายได้หน้าตาเฉยมาก มันมีคนหน้าด้านแบบนี้ในโลกด้วยหรอ ให้ตายเถอะ"ยังไงก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนอยู่แล้วนี่!! งั้นก็ใช้ตัวเธอใช้หนี้สิ เรื่องบนเตียงงานถนัดเธอไม่ใช่หรอ หืมม"ปกรณ์จูบปิดปากคนอวดดีด้วยความดุดัน มันเป็นจูบที่เร่าร้อนกว่าครั้งก่อน ริมฝีปากที่กระทบกันแรงมันเลยทำให้เลือดไหลชิพ"งื้ออ เจ็บ🥹..หยุดทำแบบนี้สะที"เขาไม่ฟังเธอด้วยซำ้เอาแต่จูบเธออย่าบ้าคลั่ง ยิ่งเลือดปากเธอไหลออกมามากเท่าไหร่ เขายิ่งบดขยี้ริมฝีปากเธอแรงหนักเข้าทุกที มันเจ็บจนน้ำตาของน้ำหนึ่งนั้นไหลออกมา😣 "อึกก..ฮืออ คนใจร้าย"เขาเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าสิ่งที่ทำลงไปมันมากเกินกว่าเธอจะรับไหว จึงจูบเธอเบาๆ เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้คนตัวเล็กกลัวเขามากไปกว่านี้ ตอนนี้มันเป็นจูบที่แสนหวานลิ้นของเขาเกี่ยวพันลิ้นของเธอ และเธอเริ่มตอบโต้เขาแล้ว"อ๊ะ..อื้ม.." เธออ่อนไปทั้งตัวแล้วตอนนี้ หลับตาแ
ตอนเช้าตรู่..เสียงคนคุยกันมันแว่วเข้ามาในหัวน้ำหนึ่ง...พอพยายามลืมตาแล้วแต่ตอนนี้ในหัวมันหนักอึ้งไปหมด"คอแห้งจังง.."น้ำหนึ่งลืมตาตื่นมาด้วยความหิวน้ำ แต่พอจะพยายามลุกจากที่นอน มันกลับเจ็บจี้ดทั้งตัว..โดยเฉพาะตรงหว่างขาเธอ จึงต้องเปิดผ้าห่มแล้วก้มมองดู มันเป็นรอยเขียวช้ำ บ้างก็รอยแดงเป็นจ้ำๆ น้ำหนึ่งพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้น จนนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาเผลอมีไรกับปกรณ์ และนั่นมันเป็นความฝันนี่หน่าตอนนี้ต้องไปถามความจริงกับนายปกรณ์ โรคจิตนั่น..น้ำหนึ่งใส่เสื้อผ้าแล้วเปิดประตูออกไปกำลังจะลงบันไดจากชั้น2 จู่ๆได้ยินเสียงดังมาจากห้องที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้จึงย้อนกลับมาดู "ก๊อกๆ..มีอะไรให้ช่วยไหมคะ มีคนอยู่ไหม"น้ำหนึ่งถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ภาพในห้องคือหญิงวัยกลางคนที่นอนบนที่นอน แล้วพื้นเต็มไปด้วยเศษแก้วแตกทั่วห้อง"อย่าเข้ามานะหนู เดี๋ยวจะโดนเศษแก้ว"นั่นเป็นน้ำเสียงของแม่ปกรณ์นั่นเอง แกคงหิวน้ำแต่แปลกที่ไม่มีคนดูแล หายไปไหนหมดปล่อยให้คนป่วย หยิบของเอง"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเก็บกวาดให้"น้ำหนึ่งไม่ได้คิดอะไร แค่หยิบน้ำแก้วใหม่ให้แม่นายปกรณ์ พร้อมกับเก็บกวาด เศษที่ตกพื้
น้ำหนึ่งไม่รู้ตัวเลยที่ทำไปเพราะพิษไข้ทั้งนั้น ในขณะที่ปกรณ์ก็หลงคิดว่าน้ำหนึ่งสมยอม "ร้อนจัง"น้ำหนึ่งพูดพร้อมกับผลักปกรณ์ออกไป เธอพยายามขัดขืนเขา แต่เขากลับจับแขนสองข้างของเธอไว้เหนือหัว มันเลยทำให้เธอผลักเขาไม่ได้อีกต่อไป ปกรณ์จูบปิดปากเธอไว้ไม่ให้เธอต่อต้านเขาได้อีกต่อไป มืออีกข้างของเขาจับปากเธอให้มันอ้ากว้างกว่าเดิม ให้เขาได้เอาลิ้นเข้าไปสำรวจได้ง่ายขึ้น เขาจูบอยู่แบบนั้นนานสองนาน แล้วค่อย ไหลมาจูบตรงแก้มของเธอสูดกลิ่นครีมอาบน้ำของเธอเข้าไปเต็มปอด แล้วย้ายลงมายันต้นคอ ดูดเม้มมันจนเป็นรอยแดง.."อ๊ะ..โอ้ย.." เสียงเจ็บปวดที่เขาทำรอยบนคอเธอ ตอนนี้สมองของน้ำหนึ่งทื่อไปหมด เพราะด้วยพิษไข้ทำให้ไม่มีแรงขัดขืนด้วยซ้ำ น้ำหนึ่งจึงยกมือ2ข้างคล้องคอปกรณ์ไว้ ด้วยตอนนี้เธอคงปรารถนาเขาเช่นกัน ปกรณ์ไล่จมูกลงมาที่ไหปลาร้าของเธอเขาเอาปลายจมูกเขี่ยวนไปช้าๆ มันยิ่งทำให้น้ำหนึ่ง รู้สึกเสียวซ่านขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวแบบนี้มันยิ่งกระตุ้นความต้องการของเขา ตอนนี้เขาอยากจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอเต็มทนแล้ว แต่ก็ต้องอดใจไว้ก่อนรอให้เธอ พร้อมมากกว่านี้ ปกรณ์ค่อยๆไหลตัวลงมาช้าๆเขาไล่จูบเธ
..หลังจากวันนั้น..นี่ก็ร่วมอาทิตย์แล้วที่น้ำหนึ่งทำตัวต่อต้าน ปกรณ์ ทำให้คิดว่าตัวเองทำแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จึงคิดแผนใหม่ที่มันดีกว่านี้ อันดับแรก น้ำหนึ่งจึงทำทีเข้าไปตีสนิทกับแม่บ้าน คนที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้น้ำหนึ่งทุกวัน วันนี้เธอก็เอาข้าวมาให้น้ำหนึ่งเช่นทุกวัน เธอชื่อพาขวัญ เป็นคนเงียบๆ "พี่พาขวัญ หนึ่งไม่อยากอยู่ในห้องอะ ไปบอกนาย ปกรณ์ให้หน่อยให้หนึ่งไปช่วยงานพี่ที่ครัวก็ได้ นะๆๆๆ""น้ำหนึ่งทำน้ำเสียงออดอ้อนแม่บ้านให้ทำตามแผนตัวเอง คิดในใจนี่คงเป็นทางเดียวที่จะรอดคือต้องเล่นตามน้ำที่ ปกรณ์นั้นบอกเอาไว้ เพื่อให้นายนั่นตายใจ แค่คิดก็สนุกแล้วละหึๆในห้องทำงานของปกรณ์ประดับประดาไปด้วยอัญมณี และของสะสมมากมาย เช่น งาช้าง หนังสัตว์ที่หายาก ชึ่งแน่นอนที่เขาได้มามันผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเขารวมถึง การทำเหมืองเเร่ และ การส่งออกพวกหนังสัตว์ข้ามประเทศ มันทำให้เขามีรายได้มหาศาลมากพอที่จะไม่ต้องทำงานตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ เขากำลังจดจ่ออยู่กับงานเอกสาร แล้วเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ซึ่งต้นเสียงมาจาก บอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตูนั่นเอง"นายครับ แม่บ้านต้องการพบครับ""
"อย่าได้หวังคำขอโทษจากฉันล่ะ เพราะเธอไม่มีวันจะได้มันแน่นอน"เขาพูดพร้อมกับโน้มตัวลงมาใกล้หน้าน้ำหนึ่ง ใจเขาตอนนี้อยากจะแกล้งเจ้าตัวเล็กนี่ด้วยการจูบสั่งสอนสะหน่อย คิดแบบนั้นพร้อมกับกำลังจะเอาหน้าออกห่างแต่ทันใดนั้น..เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..เจ้าเด็กแสบคนนี้มันกล้าจูบเขาเฉยเลย กล้าเล่นกับไฟสะด้วยปากที่มาสัมผัสเขานั้นมันช่างเป็นจูบที่ไม่ได้เรื่อง เหมือนเจ้าเด็กนี้ ต้องการทำตัวให้เหนือเขา ทั้งๆที่จูบไม่เป็นด้วยซำ้ ไหนจะริมฝีปากที่มันสั่นเพราะตื่นเต้น อีก เดี๋ยวพี่จะสอนจูบแบบดูดดื่มเขาทำกันยังไง..ปกรณ์วางฝามือบนแก้มของน้ำหนึ่งอย่างเบามือ ค่อยๆลูบเบาๆตรงใบหู ส่วนปากของเขานั้นได้ทำหน้าที่อย่างผู้ชำนาญการ ปกรณ์ค่อยๆดูดตรงริมฝีปากล่างของน้ำหนึ่งพร้อมกับกัดปากนั้นแรงหน่อยนึง เพื่อให้ความซาบซ่านในตัวเธอทำงาน แล้วมันก็ได้ผลสะด้วย เขาจึงสอดลิ้นเข้าไปพัวพันกับลิ้นของเธอ แต่เธอเอาแต่ดันลิ้นเขาออก เขาจึงค่อยๆโน้มตัวเธอลงเตียงช้าๆ พร้อมกับจูบเธออย่างนุ่มนวล มือที่ลูบหูเธอค่อยๆไล่ลงมา ที่ตรงหน้าอกเพราะเขาไม่ต้องปลดกระดุมเสื้อให้มันเสียเวลาแล้วตอนนี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ทำขาดแล้ว เขาค่อยๆเ