ระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯไพลินขับรถอย่างระมัดระวัง ยายจันหลับไปแล้วหญิงสาวรู้สึกอบอุ่น เธอคิดไว้แล้วว่าสิ้นปีนี้จะกลับไปอยู่กับยาย แต่แค่ยังไม่ได้บอกยาย ไว้กลับไปทำงานครั้งนี้เธอจะแจ้งกับหัวหน้างานให้หาคนมาแทนเธอ และเมื่อได้คนมาแทนแล้ว เธอจะลาออกทันทีระหว่างทางที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯไพลินคิดตลอดเวลาว่า ทำไมเธอต้องให้ยายลำบากมา อยู่คอนโดกับเธอด้วย ความสุขของยายคืออยู่บ้านสวน เปลี่ยนใจแล้วพรุ่งนี้ไปทำงานเธอจะเขียนใบลาออกทันที
“ยายจ๋ายาย พายแวะปั้มเข้าห้องน้ำ ลงไปด้วยกันไหมจ๊ะ”
“ถึงไหนแล้วลูก ยายอยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน หลับสนิทเลยหนูพาย ขับรถนิ่งมากเลยนะลูก” ยายจันชมหลานสาวหญิงชราหลับสนิทจริงๆ ถ้าไพลินไม่ปลุกคงยังไม่ตื่นน่าจะเป็นเพราะกินยาด้วย
ไพลินประคองยายลงจากรถพาไปเข้าห้องน้ำ ภาพที่หญิงสาวสวยหุ่นดีที่อยู่ในชุดเดรสผ้าลินนินแขนสั้นคอเชิ้ตยาวเลยเข่าสี่เหลืองไพร ไพลินเป็นคนผิวขาว ใส่เสื้อผ้าสีสดยิ่งขับให้ผิวขาวนวลยิ่งขึ้น ผู้คนที่แวะพักรถระหว่างการเดินที่เดินไปเดินมา อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมอง
“ยายจ๋าเราพักกันก่อนนะ พายว่าจะซื้อกาแฟสักแก้ว เราเข้าไปนั่งพักที่ร้านกาแฟดีกว่าค่ะ”
“ดีเหมือนกันลูกยายอยากกินชาเขียวเหมือนกัน”
“ยายทันสมัยจังเลยน่ารักที่สุด"
หญิงสาวประคองยายจากห้องน้ำเดินไปที่ร้านกาแฟชื่อดัง เธอยิ้มยายทันสมัยจริงๆ ช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์แบบนี้ ผู้คนบางตาอาจกำลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยว คนและรถยังไม่มากนักสักบ่ายๆ รถคงเยอะกว่านี้
“ยายจ๋านั่งข้างนอกหรือข้างในดี”
“ข้างนอกนี่ดีกว่าลูกอยู่กับแอร์มาตั้งนานข้างนอกนี่โล่งโปร่งดี”
“งั้นยายนั่งรอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพายเข้าไปซื้อน้ำข้างในแป๊ปเดียวค่ะ”
ในร้านกาแฟลูกค้านั่งเรียงรายอยู่ที่บริเวณเก้าอี้และโซฟามากมาย ไพลินได้คิวแล้วระหว่างนั้นหญิงสาวยืนรอเครื่องดื่ม มองออกไปด้านนอกยายจันนั่งหลังพิงเก้าอี้ท่าทางสบาย ด้านหลังของระเบียงที่ยายนั่ง มีต้นไม้ปลูกเต็มพื้นที่อากาศไม่ร้อนมาก เห็นยายแล้วสงสาร คงเพราะห่วงหลานกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุเหมือนตากับแม่
ตอนนี้เท่ากับว่าเธอเหลือยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อเธอไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งกับครอบครัวใหม่ของพ่อ ยายคงรู้ว่ากำลังมีคนแอบมอง ไพลินยิ้มให้ยายเต็มหน้าทำไมรู้สึกอยากกอดยาย เหมือนยายก็คงจะรู้ความรู้สึกของเธอเวลานี้ ยายจันยิ้มตอบกลับมาอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน ไพลินกระพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาก่อนที่มันจะไหลออกมา หลังจากที่แม่เสียไปอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดก็คือกอดของยาย
เก้าอี้ในร้านไม่ว่างไพลินต้องยืนรอเครื่องดื่มร่างสูงของเธอรวมถึงชุดที่สวมใส่ ทำให้ดูโดดเด่นมาก ลักษณะของไพลินเป็นลักษณะที่ผู้ชายไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ ไม่มีจริตกับผู้ชาย ผู้หญิงแบบไพลินผู้ชายที่คิดจะมาจีบแบบเล่นๆ มักเข้าไม่ถึง และเธอเองก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใคร รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา มีผู้ชายหลายวัยที่รอเครื่องดื่มและนั่งอยู่บริเวณนั้นแอบมองหญิงสาวไม่วางตา
แปลกผู้หญิงแบบไพลินแต่งตัวมิดชิดท่าทางนิ่งๆ กลับเป็นที่สนใจของเหล่าผู้ชาย แต่จะมีผู้หญิงอีกแบบที่พยายามแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ บางคนอาจคิดว่าเป็นสิทธิ์ของตัวเอง และเป็นความสุขของตัวเองที่จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ แต่บางคนก็ลืมว่าไม่เหมาะสมในบางเวลาและบางสถานที่
“ยายจ๋ามาแล้วค่ะ คนข้างในเยอะจังเลยค่ะยาย ช้านิดนึงยายรอนานไหม”
“ไม่นานหรอกลูกนั่งตรงนี้ลมเย็นมากสบายดี ไม่รู้ดอกอะไรนะหอมมากเลยปลูกอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”
“เดี๋ยวพายถ่ายรูปไว้ค่ะ วันเสาร์เดี๋ยวพายพายายไปหาตามร้านต้นไม้ลองไปดูกันว่ามีแบบนี้ไหม”
“หนูพายล่ะลูกเหนื่อยไหมเนี้ย คอยดูแลยายทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องห่วงพายเลยค่ะยาย สบายมากพายไหวอีกชั่วโมงหน่อยๆ ก็ถึงแล้วเราไปกันเลยดีไหมคะ”
ไพลินประคองยายกลับไปที่รถสองยายหลานออกเดินทางอีกครั้งเธอไม่อยากไปถึงที่พักค่ำเพราะรถจะเยอะมาก หญิงสาวขับรถสบายๆ ไม่นานก็ถึงคอนโดไพลินจอดรถหน้าคอนโด และพายายจันเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าประตูลิฟต์ แล้วรีบขนกระเป๋าลงมาวางไว้ที่พื้นด้านล่าง จากนั้นขับรถวนไปเพื่อหาที่จอดไกลสุดเกือบถึงรั้วคอนโดอีกฝั่ง หญิงสาวมารู้สึกตัวอีกทีรถของตัวเองก็เข้ามาอยู่ท่ามกลางรถหรูคันใหญ่ที่จอดอยู่แล้วโชคดีที่มีที่ว่างให้เธอได้จอดไพลินถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากวนอยู่สามรอบในที่สุดเธอก็ได้ที่จอดรถ หลังล็อครถเรียบร้อยเธอรีบเดินไปหายายทันทีไม่ได้สังเกตุหรือพิจารณาอะไรรอบๆ ตัวหรือบริเวณนั้นเลย ตอนนี้เธออยากพายายและขนสัมภาระขึ้นห้องให้เร็วที่สุด เป็นห่วงยายกลัวว่าจะรอนาน
ปกติรถเธอจอดตลอดไม่อยู่แค่เสาร์อาทิตย์ วันนี้แปลกรถเยอะมีแต่ราคาแพงๆ ทั้งนั้น หรือว่าที่คอนโดจะมีงาน นอกจากรถเยอะแล้ว ยังมีชายชุดดำแต่งตัวคล้ายตำรวจ หรือบอดี้การ์ดอะไรประมาณน้ัน เดินไปมาแถวที่ลานจอดรถเต็มไปหมด
หญิงสาวมองหายายและสัมภาระ ยายจันหายไปไหนกระเป๋าก็ด้วย อย่าบอกนะว่าขึ้นไปข้างบนห้องแล้ว ไม่น่าใช่ยายจำห้องเธอไม่ได้หรอก และจะขนของไปได้ยังไงคนเดียว ตัดสินใจเข้าไปถามพนักงาน
“คุณคะขอโทษนะคะเห็นคุณยายที่นั่งอยู่ตรงนี้ไหมคะ แล้วพวกกระเป๋าที่วางอยู่ตรงบันได หายไปไหนหมดพอจะทราบไหมคะ”
“อ๋อ....คุณยายที่คุณพายพามานั่งเมื่อสักครู่ใช่ไหมคะ เราพาคุณยายไปที่ห้องแล้วค่ะ แล้วก็ขนกระเป๋าขึ้นไปไว้ให้ที่ห้องข้างบนแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“เหรอคะ ใจดีจังยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ที่นี่มีงานอะไรเหรอคะเห็นรถและคนเต็มไปหมดเลย”
“อ้อ..พอดีเจ้าของคอนโดมาตรวจค่ะ พนักงานเลยเยอะหน่อย มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเดี๋ยวก็เสร็จแล้วต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องหาที่จอดรถไกลเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะขอบคุณอีกครั้งที่พายายและกระเป๋าไปส่งที่ห้อง”
“ยินดีค่ะคุณพาย” พนักงานหญิงประจำคอนโดยิ้มให้ไพลิน ก่อนที่จะหันไปทำงานต่อ เธออยู่ที่นี่จนรู้สึกคุ้นเคยกับพนักงานแต่ก็ไม่ไ้ด้สนิทอะไรมาก
เจ้าของคอนโดเหรอ เธอไม่เคยได้ยินว่าเวลามาตรวจคอนโด ทำไมต้องมีบอดี้การ์ดตามมาอารักขาเต็มไปหมดในห้องรับรองลูกค้านี่ก็เหมือนกัน ผู้ชายชุดดำนั่งกันเต็มพื้นที่ ดูเหมือนเป็นบอดี้การ์ดหรือตำรวจนอกเครื่องแบบมากกว่าเป็นพนักงานบริษัทฯ แม้แต่ในลิฟก็ยังมีผู้ชายใส่ชุดดำ ไพลินระวังตัวตลอดเวลาถึงแม้จะเป็นเวลาเลิกงานก็ตาม บางห้องเจ้าของกลับจากทำงานบ้างแล้ว
ห้องของไพลินอยู่ชั้นสิบ พวกผู้ชายชุดดำนี่ดูน่ากลัวมา กเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ารู้ว่ามีคนจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา มองผ่านแว่นดำด้วย ไม่มีมารยาทหญิงสาวขยับตัวหนีเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์เพิ่ม เธอถอยหลังไปจนเกือบชิดผนัง ผู้ชายชุดดำตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ หูไม่ฝาดแน่เธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ยืนใกล้กันขนาดนั้นทำไมถึงจะไม่ได้ยิน นึกใจว่าทำไมลิฟต์หยุดบ่อยจังเธออยากถึงห้องเต็มทีแล้ว เหมือนมีคนกดลิฟต์เล่นวิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่นั่น ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ
คอนโดคึกคักไปด้วยคนมากมาย และดูเหมือนว่าจะมีคนย้ายเข้ามาพักใหม่ด้วย อย่าบอกนะว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของคอนโด ไพลินถอนหายใจในที่สุดก็ถึงชั้นที่เธอพักอาศัยสักที เธอต้องแปลกใจอีกครั้งคนชุดดำสี่ห้าคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก้าวขาออกไปจากลิฟต์ทุกคนเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจขึ้นมาชั้นสิบเหมือนเธอ หรือว่าสิ่งที่เธอคิดจะเป็นจริง หญิงาวยืนนิ่งและดูเหมือนว่าคนชุดดำทั้งหมดก็หยุดพร้อมเธอ
ไพลินหันไปมองหน้าคนเหล่านั้น เธออยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับเธอไหม รู้สึกไม่ปกติเลยจริงๆ คนเหล่านั้นหันไปพูดคุยกัน หญิงสาวอาศัยช่วงเวลานั้นรีบเดินไปที่ห้องของเธอและเปิดประตูห้องพาตัวเองเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เสียงยายเปิดทีวีดูทำไมยายรู้ว่ารีโมทตัวไหนเปิดทีวี วางอยู่ด้วยกันตั้งสองสามอัน แปลกอีกแล้ว
“มาแล้วเหรอลูกหนูพาย”
“กว่าจะมาได้ค่ะยาย คนเยอะจังเลยกว่าจะหาที่จอดรถได้ ปกติไม่เป็นแบบนี้นะคะเลยทำให้ยายลำบากเลย”
“ไม่ลำบากหรอกลูก พนักงานของที่นี่เขาน่ารักมากเลยนะ พายายมาที่ห้องช่วยยกกระเป๋ามาเหมือนเขารู้ว่าหนูพายคงนานกว่าจะหาที่จอดรถได้พวกเขาเลยพายายขึ้นมาส่ง เปิดแอร์เปิดทีวีให้ยายด้วย”
“พายก็ว่าอยู่ ว่าทำไมยายเปิดทีวีได้ พนักงานเขามาเปิดให้นี่เอง”
“พนักงานที่นี่น่ารักกันทุกคนเลยนะ พูดจาดีพอเขารู้ว่ายายมากับหนูพาย เขากุลีกุจอช่วยกันเต็มที่เลย”
ไพลินงงกับคำบอกเล่าของยาย ปกติเธอก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับพนักงานที่นี่ถึงขนาดเข้ามาในห้องได้ เอาจริงๆ เธอไม่รู้จักใครเลยแค่เห็นหน้า แทบจะไม่เห็นด้วยซ้ำเช้าเธอออกไปทำงานแต่เช้า เย็นกลับค่ำทุกวันช่างเถอะเขาดีด้วยก็ดีแล้ว ไว้วันหลังถ้าได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เธออาจจะซื้อขนมมาฝากขอบคุณที่เขาช่วยพายายมาที่ห้องและช่วยขนกระเป๋าขึ้นมาถือว่ามีน้ำใจ จากที่รู้สึกตื่นๆ ที่เห็นแต่ชายชุดดำค่อยรู้สึกปลอดภัยหน่อยแต่เธอก็กังวลใจนิดๆ บอกไม่ถูกว่ากังวลใจเรื่องอะไร
หญิงสาวสลัดความรู้สึกนั้นออกจากหัว แล้วเริ่มจัดการกับกระเป๋าเสื้อผ้าของยาย และสัมภาระที่ขนมาจากบ้านสวนพรุ่งนี้เธอจะไปเขียนใบลาออกไพลินไม่รู้อนาคตเลยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่เหมือนเดิมเลยอีกเลย
ไพลินสะดุ้งตื่นกับเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นาฬิกาบอกเวลาตีสอง ตั้งใจฟังว่าเสียงเคาะห้องใคร อยู่โรงแรมเป็นแบบนี้ กลางค่ำกลางคืนอาจจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องข้างๆ หรือข้างห้องอาจจะเมาก็ได้ ฟังไปฟังมาเหมือนเสียงดังที่หน้าห้องเธอ หญิงสาวตกใจแดนไทยมาเคาะห้องเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตายโหงข้างห้องมิด่าแล้วเหรอเนี้ย“คุณมาทำอะไรป่านนี้คะ ไม่ต้องเคาะแล้วค่ะ ชาวบ้านชาวช่องเขาจะด่าเอา”“ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับสาย ปล่อยให้ฉันเคาะประตูตั้งนาน”“ฉันหลับค่ะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” ไพลินยังงัวเงียเดินไปเปิดไฟกลางห้องหน้าตาของเธอเวลานี้เหนื่อยหน่ายมาก เพิ่งหลับไปสมองและร่างกายเธอต้องการพักผ่อน แต่เวลานี้คืออะไร อยู่ๆ แดนไทยก็มาปรากฏตัวที่นี่อะไรของเขา มีเรื่องด่วนอะไรกัน“ทำไมไม่ชาร์ตโทรศัพท์ แล้วจะได้ยินไหมเวลามีคนโทรมา” แดนไทยค้นหาสายชาร์ตจัดการเรียบร้อย“จะมีไว้ทำไมโทรศัพท์ มีแล้วไม่ใช้ไม่ต้องมีดีกว่ามั้ง ถ้าเธอรับสาย ฉันก็ไม่ต้องมาที่นี่”“ไพลิน” เขาหันกลับมาอีกทีหญิงสาวก็นอนตะแค
รถเลี้ยวเข้าประตูบ้าน เลิศวัฒนากิจ ไพลินพยายามปรับอารมณ์ ทำได้ดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา การมีสติทำให้เธออยู่ได้ในทุกสถานการณ์และใช้มาตลอด“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า พี่ดา”“คิดถึงจังเลยหนูพายสบายดีนะลูก” คุณดรุณีเข้ามากอดไพลิน“สบายดีค่ะคุณป้า”“ดีใจนะหนูพาย ป้าเขาลงมือทำกับข้าวเองเลยนะ” คุณทัตเทพทักทายไพลิน“มาน้องพายคิดถึงจังเลย นี่พวกเราคุยกันอยู่นะว่าจะไปเยี่ยมน้องพายที่บ้าน พ่อบอกว่าจะไปหาดูที่ดินแถ้วบ้านน้องพายจ๊ะ ปีหน้าว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว”“เหรอคะ เรื่องที่ทางนี่พายไม่รู้เลยค่ะ ปกติก็อยู่แต่บ้าน”“ไม่เป็นไรหรอกลูก ลุงกับป้าแค่จะรบกวนช่วงที่ไปดูที่ดิน จะแวะพักที่บ้านหนูพายสักคืนสองคืนแค่นั้นแหละ เห็นว่าเสาร์ อาทิตย์ หนูพายกลับบ้านใช่ไหมลูก”“เอ่อ....ค่ะ” ไพลินจำต้องตามน้ำผู้ใหญ่พูดขนาดนี้แล้วจะปฎิเสธได้ยังไงระหว่างที่ทุกคนทักทายพูดคุยกัน มีอีกคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสบายใจมากกว่าใคร หลังจากนั้นไพลินก็เหมือนหล
ท่าทางที่ไพลินกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยฝีมือการทำของแดนไทยนั่นทำให้คนทำแอบยิ้มอย่างพอใจ “ขอบคุณนะคะ ฉันขอตัวไปทำงานต่อ ไม่ช่วยล้างนะคะขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขา และกลับไปทำงานเหมือนเดิม นั่งทำงานต่อกระทั่งสามทุ่ม แดนไทยยังไม่เข้ามาด้านใน เขารักษาสัญญาปล่อยให้เธอทำงานอย่างสบายใจ เวลาที่มีสมาธิหญิงสาวทำงานได้เยอะมาก“ไงหิวเหรอ” แดนไทยเงยหน้ามองคนที่เดินออกมาจากห้อง เขาเดาว่าไพลินหิว”หญิงสาวไม่ตอบ แต่เดินผ่านเขาเข้าไปในห้องครัว ได้กลิ่นขนมปังปิ้งทาเนยไม่นานหญิงสาวก็ยกขนมปังปิ้งและนมออกมาวางที่ตั่งใกล้ๆ ที่แดนไทยนั่งทำงาน“ฉันทำมาเผื่อค่ะ ตอบแทนที่คุณทำกับข้าวให้ฉันกิน เนยเยอะนิดนึงนะคะฉันชอบ คุณจะกินแยมไหมคะมีสัปปะรดกับสตรอเบอรรี่ แยมหม่อนก็มีนะคะอันนี้ฉันทำเอง เป็นหม่อนในสวน”แดนไทยไม่ตอบเขาพยักหน้าอย่างเดียว“ทำงานเหรอคะ งั้นฉันแบ่งไว้ให้นะคะ ฉันจะเข้าไปทำงานต่อ”แดนไทยติดคุยงานทางเมลกับลูกค้าต่างประเทศ ได้แต่เพียงพยักหน้าให้ไพลินเขานั่งทำงานต่อ เที่ยงคืนแดนไทยเก็บโน๊ตบุ๊ค เข้าไปใน
บ้านสวนเวลาสี่ทุ่มสิบนาที ไพลินที่กำลังนั่งวาดรูปเหมือนของลูกค้าต่างประเทศเพลินต้องตกใจกับเสียงแตรรถ พร้อมเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวมองหาโทรศัพท์ เธอแทบจะไม่ได้พกติดตัวเพราะอยู่บ้านตลอด ไม่ได้ติดต่อใคร คุยกับลูกค้าแค่ทางเมลเท่านั้น“สวัสดีค่ะ”“ไพลินฉันเอง ลงมาเปิดประตูรั้วให้หน่อย”“คุณมากับใครคะ”“ทำไม จะไม่ให้ฉันเข้าบ้านเหรอ นี่กี่ทุ่มแล้วไพลิน อย่าใจดำนักเลยฉันเหนื่อย”ไพลินวางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะ ลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน เธอเหมือนจะลืมเขาไปแล้วจู่ๆ เขาก็โผล่มา คราวนี้มีเรื่องอะไรอีก เขามาแบบนี้ เธอจะได้ทำงานแบบมีความสุขไหม หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ก่อนที่จะไขกุญแจรั้วปล่อยให้รถเขาเข้ามาจอดด้านใน“สวัสดีค่ะ” ไพลินยกมือไหว้คนที่เพิ่งลงมาจากรถแดนไทยรับไหว้เขามองไพลินไม่วางตา ถ้าอีกฝ่ายสังเกตจะเห็นว่าดวงตาของเขาเป็นประกายฉายแววดีใจออกมาชัดเจนมาก“ส่งมาค่ะฉันช่วยถือ” ไพลินยื่นมือไปรับสัมภาระของเขาที่ขนลงจากรถเต็มสองไม้สองมือ“ส่งกุญแจมา เดี๋
แดนไทยหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า เขาแวะไปที่สำนักงานทนายความ เซ็นเอกสารให้คุณอำพล เข้าบริษัทฯเพื่อจัดการงานและประชุมช่วงบ่ายเขาแวะไปที่คอนโดนั่งดื่มอยู่คนเดียว อยู่ตรงไหนก็คิดถึงแต่ไพลิน หัวใจวุ่นวายไปหมด เวลาอยู่ใกล้ไพลินเขาก็เป็นอีกอารมณ์ทั้งหมั่นไส้หมั่นเขี้ยวอยากพูดคุยด้วย อยากพูดดีๆ ด้วย แต่ปากเขามันไม่ดีคอยแต่จะพูดแดกดัน พยายามจะทำให้ใจเย็นๆ แต่ก็ยากทุกครั้ง หงุดหงิดในใจ อะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดทุกอย่างจริงๆ หรือบางทีเขาต้องเริ่มทำสมาธิ หัดสวดมนต์ใหม่เพื่อที่จิตใจจะได้สงบลงบ้าง แต่นั่นแหละที่เขาร้อนรุ่มเพราะกิเลสตัณหา ซึ่งมันน่าจะยากถ้าใช้ธรรมะเข้าข่ม ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลยจริงๆ ถ้าไพลินมีใจให้เขาบ้างสักนิดก็คงดี นึกย้อนหลังไปที่เขาทำไม่ดีไม่น่าใจร้อนเลย ถ้าจะรอให้ไพลินคิดที่จะมีใคร เขาคงรอไม่ไหวหรอกเข้าใจว่าไพลินเพิ่งจะโต แต่ผู้หญิงบางคนก็แต่งงานเร็วนี่นา บางคนยังเรียนไม่จบก็แต่งแล้ว บางจบเรียนจบรับปริญญายังไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำก็แตงงานเลย แต่ไพลินมีแต่งานๆ อย่างเดียว และตั้งใจว่าจะยังไม่มีใคร แบบนี้น่าจะยากกว่าจะเจอคนถูกใจ แต่ก็ไม่แน่ถ้าบังเอิญหญิงสาวเจอคนถูกใจจริง ก็
ตีห้าของวันใหม่ไพลินตื่นเช้าทำกับข้าวใส่บาตรตามปกติเธอใส่บาตรคนเดียว ด้วยความรีบเธอลืมกรวดน้ำ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยายเคยสอนไว้ว่า การกรวดน้ำไม่ได้ทำให้ใครได้บุญ บุญสำเร็จด้วยใจของเราแล้ว การกรวดน้ำถือเป็นกุุศโลบาย เธอจำได้ จริงๆ ยายอธิบายมากกว่านี้เจ็ดโมงเช้าทั้งสองคนกินข้าวเช้าด้วยกันเสร็จแล้ว ไม่นานช่างเข้ามาทำการติดเหล็กดัดและมุ้งลวด ช่างเข้ามาทำงานหลายคนมาก บ่ายสามโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ไพลินโอนจ่ายค่าแรงทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แดนไทยจ่าย“อะไรคะ” ไพลินรับกระดาษจากแดนไทยมาหนึ่งแผ่น เธอก้มหน้าอ่านเอกสารนิ่งๆ“เอกสารชุดนี้เธอเก็บไว้หนึ่งชุด และภายในหกเดือนที่เธอทำงานที่บริษัทฯฉันจะไม่มาวุ่นวายกับเธออีกสบายใจได้ ทุกอย่างคุณอำพลจะเป็นคนคุยกับเธอ ส่วนเอกสารในกล่องนี่เดี๋ยวจะมีพนักงานมารับไป ช่างทำงานเสร็จแล้วฉันจะกลับเลย ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะมาวุ่นวายอีก เสื้อผ้าและของใช้ฉันเก็บหมดแล้ว”“ขอบคุณสำหรับสัญญา ฉันไม่ส่งนะคะ” ไพลินยกมือไหว้เขาแดนไทยหิ้วกระเป๋าลงบันไดไป ไม่นานไพลินลงไปปิดประตู้รั้วหน้าบ้าน รู้สึกสบายใจ พรุ่งนี้ไปทำบุญที่วัดแล้วกวาดลานวัดดีกว่าหญิงสาว เดินชมสวนด้วยความสบายใจสั