สามสัปดาห์แล้วที่ยายมาอยู่กับไพลิน หญิงสาวสังเกตุว่ายายมีความสุขก็จริงแต่ก็ไม่สุขที่สุด เธอรู้ว่ายายคิดถึงบ้านสวน คนแก่ไม่ชินกับคอนโดป่าปูนมันไม่ธรรมชาติ
“ยายจ๋าพายไปทำงานก่อนนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก ไม่ต้องห่วงยาย”
ไพลินอยู่ในชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่า เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวรองเท้าส้นสูง ยายห่อข้าวใส่กล่องให้เธอไปกินที่บริษัทฯไพลินไม่บอกยายว่าลาออกแล้ว กรองกาญเข้าใจในเหตุผลของเธอดีว่าจำเป็นจริงๆเมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน ไพลินเลยถือโอกาสวันนี้คุยกับหัวหน้าจะพายายกลับบ้านเลย เพราะเหลือเวลาแค่สัปดาห์เดียว
“มีอะไรหรือเปล่าพาย เรื่องยายหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะพี่กรอง ยายดูไม่มีความสุขเลย พายอยากพายายกลับบ้านค่ะเหลือเวลาอีกอาทิตย์เดียว พายขอไปเลยได้ไหมคะ ”
กรองกาญถอนหายใจเสียดายก็เสียดาย พนักงานดีๆซื่อสัตย์ ทำงานดีนิสัยดีแบบนี้สมัยนี้หายากมากและที่สำคัญไพลินโสด เวลามีงานเร่งงานด่วนไม่เคยขัดช่วยงานได้ทุกอย่างแต่ด้วยเหตุผลเธอต้องยอมปล่อยไพลินไป อีกไม่แน่วันข้างหน้าอาจได้มาร่วมงานกันอีก
“งั้นก็ลงวันที่ในใบลาออกใหม่ล่ะกัน แล้วเดี๋ยวพี่คุยกับฝ่ายบุคคลเอง”กรองกาญถอนหายใจอย่างแสนเสียดายลูกน้องที่เรียกว่าแสนดีของเธอ เมื่อไหร่จะหาพนักงานดีๆแบบนี้ได้อีก
“พายขอบคุณพี่กรองมากนะคะที่เข้าใจพาย”หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณกรองกาญหลังจากนั้นไพลินเก็บของเลยทันทีนึกใจหายเหมือนกัน ตั้งแต่เธอจบก็ทำงานที่นี่เป็นที่แรกและโชคดีของเธอ ทำงานที่แรกก็ดีทุกอย่างถึงงานจะเยอะแต่เพื่อนร่วมงานดีทุกคน แต่ยายก็สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดยายก็เหมือนแม่ของเธอ ถ้ายายไม่เลี้ยงไม่รู้ว่าตัวเองจะอยูยังไงอาจไปอยู่กับแม่เลี้ยงก็ได้ ถ้าไม่มียายชีวิตเธอคงไม่มาถึงขนาดนี้ ไพลินใช้เวลาไม่นานก็เก็บของหมด
“พายพรุ่งนี้มาวันสุดท้ายนะ พี่จะเลี้ยงส่งภายในแผนกเรา”
“เศร้าจังเลยนะคะพี่กรอง พายไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลยแต่ยายสำคัญมากค่ะ”
“พี่เข้าใจ ไว้สบายใจทุกอย่างอยู่ตัวแล้วพี่ยินดีต้อนรับตำแหน่งของพายยังอยู่เหมือนเดิมพี่ให้น้องไปช่วยงานอย่างอื่น แค่รักษาการแทนพายนะ”
“พี่กรองเมตตาพายมากเลยค่ะ”ไพลินยกมือไหว้กรองกาญ
“เอาน่าพายก็เหมือนน้องสาวพี่คนหนึ่งมีอะไรก็ช่วยกัน พายช่วยงานพี่มาตั้งเยอะ”
“งั้นวันนี้เดี๋ยวพายเคลียร์งานให้นะคะพี่กรอง”
มื้อเที่ยงไพลินไปกินข้าวพร้อมกรองกาญและเพื่อนร่วมงานอีกเกือบสิบคนกรองกาญแจ้งข่าวกับทุกคนเรื่องที่ไพลินมีความจำเป็นต้องลาออกจากงาน เพราะยายป่วยไม่มีใครดูแล เพื่อนทุกคนเพิ่งรู้วันนี้ว่าไพลินอยู่กับยาย แม่เสียชีวิตพ่อมีครอบครัวใหม่ ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่ไพลินลาออก ภายในห้องอาหารวันนี้ยังคงมีเหล่าผู้ชายชุดดำเข้ามากินข้าวเหมือนดังเช่นทุกวัน กรองกาญให้เจ้าของร้านต่อโต๊ะให้ มื้อนี้ทุกคนขอหารกันจ่ายค่าอาหาร ส่วนวันพรุ่งนี้กรองกาญขอเป็นเจ้าภาพเอง เธอจองร้านอาหารข้างล่างไว้
“ป้าครับโต๊ะนั้นเขามีเลี้ยงอะไรเหรอครับเห็นต่อโต๊ะกันคนเต็มเลย”
“อ้อ...แผนกนั้นเขาเลี้ยงส่งคุณพายค่ะ”
“อ๋อเลี้ยงส่งพนักงานเหรอครับ”
“ใช่ค่ะวันนี้เขาเลี้ยงเล็กๆค่ะพรุ่งนี้คุณกรองกาญจองอาหารเลี้ยงแบบจัดเต็มให้คุณพายที่ร้านข้างล่างตึกนี้ค่ะ”
“แสดงว่าพนักงานคนนี้เป็นที่รักของทุกคนแน่ๆเลยใช่ไหมครับป้า”
“อูยคุณพายนี่น่ารักค่ะ นอบน้อมนิสัยดีนี่ป้าก็เพิ่งรู้นะคะว่าคุณพายอยู่กับยาย แม่เสียชีวิตพ่อมีครอบครัวใหม่ นี่เห็นว่ายายไม่ค่อยสบายค่ะเลยลาออกไปดูแล คุณพายเธอมาทำงานแต่เช้าทุกวัน กว่าจะเลิกก็ดึกดื่นไม่น่าเชื่อนะคะว่าสวยขนาดนี้ไม่มีแฟน นี่ถ้าป้ามีลูกชายป้าจะให้จีบ ต่อไปนี้เช้าๆก็จะไม่ได้เจอหน้าสวยๆของคุณพายแล้ว”
“นี่ครับป้าค่าข้าวของพวกผมทั้งแปดคนนะครับไม่ต้องทอน”แดนไทยยื่นเงินแบงค์สีเทาให้กับแม่ค้าข้าวจานละสี่สิบห้าบาทที่เหลือคือทิป
“อูยคุณคะทำไมให้เยอะจังเลยไม่เอาหรอกค่ะแค่สามร้อยหกสิบบาท”
“ไม่เป็นไรครับป้า พอดีเดือนที่ผ่านมาผมทำโอทีเยอะ อยากให้ป้าครับ”
“พ่อคุณขอบคุณนะคะ ป้าจะเก็บไว้ทำทุนค่ะ”ป้าแม่ค้ายกมือไหว้ขอบคุณแดนไทยอย่างดีใจ
หลายวันมานี่เขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณพายัพเยอะมาก และเพิ่งรู้ว่าสถานการณ์การเงินของบริษัทฯ คุณพายัพไม่ให้ครอบครัวรู้เรื่องเลย ถ้าเงินของเขาไม่มากถึงยี่สิบล้านเขาจะไม่สนใจเลย อาจจะยังยืดเวลาออกไปให้ผ่อนชำระได้อีก นี่ครบหนึ่งปีคุณพายัพยังไม่มีเงินมาใช้หนี้เขา แต่ลูกเมืยอยู่ดีกินหรูมันไม่ถูกต้องเขายื่นคำขาดผ่านทนายความให้คุณพายัพนำเงินมาคืนให้หมดทุกบาททุกสตางค์ภายในสองเดือนนี้ แดนไทยรอจนกลุ่มของไพลินลุกออกไปแล้วเขาถึงลุกตามออกไปข้างนอก ป้าร้านขายข้าวยังอุตสาห์หันมายิ้มให้เขา
ชายหนุ่มกลับไปพักที่คอนโด เขานั่งทำงานอยู่ภายในห้องดูรายละเอียดเกี่ยวกับคุณพายัพอีกครั้ง หกโมงเย็นแดนไทยปรากฏตัวที่ร้านอาหาร เขาเลือกนั่งมุมลับที่สามารถมองเห็นของกลุ่มกรองกาญชัดเจน
หกโมงสิบนาทีร่างสูงสมส่วนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเข้ารูปปล่อยแขนยาวติดกระดุมปลายแขนกางเกงยีนต์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว สะพายเป้สีดำใบเล็กๆไว้ด้านหน้า ปล่อยผมยักศกยาวแสกกลาง แต่งหน้าบางๆ ท่าทางที่ยืนตรงหน้าประตูแล้วกวาดสายตามองหาโต๊ะที่จองไว้ แค่ยืนเฉยๆแต่งตัวก็ธรรมดา แต่คนที่อยู่ในห้องอาหารต่างก็มองกันเป็นแถว
ไพลินมองเห็นป้ายจองที่วางไว้ที่โต๊ะ หญิงสาวก้าวขายาวๆเดินตรงเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารที่กรองกาญจองไว้ ยังไม่มีใครมาเธอมาก่อนเวลานิดหน่อย จริงๆไม่อยากปล่อยยายให้อยู่คนเดียวเลย แต่ก็ไม่อยากขัดหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน ที่มีน้ำใจอยากเลี้ยงส่ง
เกือบสิบนาทีทุกคนก็เริ่มทยอยกันมาจนครบ บรรยากาศการดื่มกินเป็นไปด้วยดี ดูเหมือนว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ไพลินตอบคำถามเพื่อนๆเกือบทุกอย่าง
“พายแล้วนี่กลับบ้านไปอยู่กับยาย แล้วแฟนล่ะทำยังไง”
จู่ๆเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
“มีที่ไหนล่ะไม่มีหรอก แต่ถึงมียังไงพายก็ต้องกลับบ้านไปดูแลยายอยู่ดี”
“หนุ่มๆบริษัทฯอื่นคงชะเง้อชะแง้แลหาคนสวยของเรากันใหญ่แน่ๆเลย ที่เคยมาติดต่องานต่อไปก็คงไม่มาแล้วล่ะเนาะพวกเรา”เพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นและหัวเราะพร้อมกัน
ไพลินยิ้มเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“พายขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะคะ”
หญิงสาวเดินเลยเข้าไปในสวนหย่อมเล็กๆที่บริษัทฯจัดไว้ให้พนักงานได้มานั่งพักผ่อน เกือบสองทุ่มรอบบริเวณนี้ไม่น่ากลัวแสงไฟส่องสว่างมาก คิดในใจว่าคุยโทรศัพท์เสร็จกลับเข้าไปนั่งอีกสักหน่อยเธอก็จะขอตัวกลับ
“ชมพูว่างแล้วใช่ไหม วันมะรืนพายจะยายกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ”
“ดีจังเลยพาย แล้วยายเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมอีกสองวันชมพูได้วันพัก แล้วเดี๋ยวไปหาที่บ้านนะ”
“ดีเลยงั้นพายจะฝากให้ชมพูรับยาให้ยายด้วยได้ไหม”
“ได้เลย เดี๋ยวชมพูจัดการให้แล้วนี่จะมาอยู่กี่วัน”
“อยู่ยาวเลย พายลาออกจากงานแล้ว พอดีวันนี้หัวหน้ากับเพื่อนในแผนกมาเลี้ยงส่งที่ร้านอาหารใกล้ๆบริษัทฯนี่แหละ แค่นี้ก่อนนะชมพูอย่าลืมยาของยายนะ ขอบใจมากเพื่อน”
“อุ้ย....ขอโทษค่ะ”ด้วยความรีบที่จะเข้าไปด้านในทำให้เธอไม่ได้ระวัง ไม่คิดว่าจะมีคนมายืนอยู่ด้านหลัง แรงที่เธอชนใครอีกคนทำให้ไพลินเซไปปะทะกับต้นสนที่อยู่ใกล้ๆชนแรงจนโทรศัพท์หลุดร่วงลงพื้น
“คุณเป็นอะไรไหมคะ ฉันขอโทษจริงๆไม่คิดว่าจะมีใครมายืนอยู่ใกล้ขนาดนี้ หลังจากที่เก็บโทรศัพท์จากพื้นมาถือไว้แล้ว หญิงสาวยกมือไหว้ขอโทษชายชุดดำร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอดูหน้าเขาเหมือนโกรธมาก ดูโกรธมากจริงๆไพลินเริ่มใจไม่ดีผู้ชายคนนั้นถอดแว่นยิ่งทำให้เขาน่ากลัวมากกว่าเดิมหญิงสาวเริ่มใจเต้นแรง รู้สึกกลัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แผลเป็นที่แก้มขวาของเขานูนขึ้นมามีรอยเย็บยิ่งทำให้เขาน่ากลัวมากกว่าเดิม ไพลินทำในดีสู้เสือ
"ทำไมถึงไม่ระวัง คนยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน"เสียงเขาดุเหมือนหน้าตาเขาเวลานี้
"ฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆคุณเจ็บตรงไหนไหมคะ ไหนขอฉันดูหน่อยค่ะ"
แดนไทยก้มมองไพลินที่เข้ามาใกล้ๆเขาและสำรวจรอบตัว จับแขนจับมือเขาขึ้นมาดู
"เท่าที่ดูคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรนี่คะ ฉันซะอีกที่เจ็บมากกว่าคุณดีนะที่ไม่ได้พับแขนเสื้อขึ้น ไม่งั้นคงถูกกิ่งไม้เกี่ยวแน่ๆ"
"ใครใช้ให้เธอมาแตะต้องตัวฉัน ฉันจะเจ็บหรือไม่เจ็บเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาสำรวจตัวฉัน"
"อ้าวคุณ ฉันก็ขอโทษคุณแล้วนะคะ จริงๆฉันไม่ต้องขอโทษด้วยซ้ำ ใครใช้ให้คุณมายืนอยู่ข้างหลังฉันเงียบๆนี่อย่าบอกนะว่ามาแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์ ตรงนี้มีคุณกับฉันแค่สองคน เรื่องอะไรที่จะต้องมายืนอยู่ข้างหลังฉันด้วย นี่โทรศัพท์ฉันหล่นนะไม่รู้ว่าเสียหายหรือเปล่า แล้วที่ฉันเซไปปะทะกับต้นไม้เนี้ยฉันก็เจ็บนะคุณยืนนิ่งเป็นหินแบบนั้นไม่ได้เจ็บอะไรเลยด้วยซ้ำยังมีหน้ามาว่าฉันอีก ฉันไม่ควรขอโทษคุณเลยมารยาทน่ะมีไหม เป็นผู้ชายซะเปล่า คุณกับฉันก็ไม่ได้รู้จักกันเลยเรื่องอะไรมาทำหน้ายักษ์ใส่ฉันล่ะ ซวยจริงๆเลย ไม่ผิดแต่ต้องมาขอโทษ"
ไพลินบ่นเสียงดังแล้วรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้น ปล่อยผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาน่ากลัวนั่นไว้ที่สวนหย่อมคนเดียว
ไพลินสะดุ้งตื่นกับเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นาฬิกาบอกเวลาตีสอง ตั้งใจฟังว่าเสียงเคาะห้องใคร อยู่โรงแรมเป็นแบบนี้ กลางค่ำกลางคืนอาจจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องข้างๆ หรือข้างห้องอาจจะเมาก็ได้ ฟังไปฟังมาเหมือนเสียงดังที่หน้าห้องเธอ หญิงสาวตกใจแดนไทยมาเคาะห้องเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตายโหงข้างห้องมิด่าแล้วเหรอเนี้ย“คุณมาทำอะไรป่านนี้คะ ไม่ต้องเคาะแล้วค่ะ ชาวบ้านชาวช่องเขาจะด่าเอา”“ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับสาย ปล่อยให้ฉันเคาะประตูตั้งนาน”“ฉันหลับค่ะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” ไพลินยังงัวเงียเดินไปเปิดไฟกลางห้องหน้าตาของเธอเวลานี้เหนื่อยหน่ายมาก เพิ่งหลับไปสมองและร่างกายเธอต้องการพักผ่อน แต่เวลานี้คืออะไร อยู่ๆ แดนไทยก็มาปรากฏตัวที่นี่อะไรของเขา มีเรื่องด่วนอะไรกัน“ทำไมไม่ชาร์ตโทรศัพท์ แล้วจะได้ยินไหมเวลามีคนโทรมา” แดนไทยค้นหาสายชาร์ตจัดการเรียบร้อย“จะมีไว้ทำไมโทรศัพท์ มีแล้วไม่ใช้ไม่ต้องมีดีกว่ามั้ง ถ้าเธอรับสาย ฉันก็ไม่ต้องมาที่นี่”“ไพลิน” เขาหันกลับมาอีกทีหญิงสาวก็นอนตะแค
รถเลี้ยวเข้าประตูบ้าน เลิศวัฒนากิจ ไพลินพยายามปรับอารมณ์ ทำได้ดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา การมีสติทำให้เธออยู่ได้ในทุกสถานการณ์และใช้มาตลอด“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า พี่ดา”“คิดถึงจังเลยหนูพายสบายดีนะลูก” คุณดรุณีเข้ามากอดไพลิน“สบายดีค่ะคุณป้า”“ดีใจนะหนูพาย ป้าเขาลงมือทำกับข้าวเองเลยนะ” คุณทัตเทพทักทายไพลิน“มาน้องพายคิดถึงจังเลย นี่พวกเราคุยกันอยู่นะว่าจะไปเยี่ยมน้องพายที่บ้าน พ่อบอกว่าจะไปหาดูที่ดินแถ้วบ้านน้องพายจ๊ะ ปีหน้าว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว”“เหรอคะ เรื่องที่ทางนี่พายไม่รู้เลยค่ะ ปกติก็อยู่แต่บ้าน”“ไม่เป็นไรหรอกลูก ลุงกับป้าแค่จะรบกวนช่วงที่ไปดูที่ดิน จะแวะพักที่บ้านหนูพายสักคืนสองคืนแค่นั้นแหละ เห็นว่าเสาร์ อาทิตย์ หนูพายกลับบ้านใช่ไหมลูก”“เอ่อ....ค่ะ” ไพลินจำต้องตามน้ำผู้ใหญ่พูดขนาดนี้แล้วจะปฎิเสธได้ยังไงระหว่างที่ทุกคนทักทายพูดคุยกัน มีอีกคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสบายใจมากกว่าใคร หลังจากนั้นไพลินก็เหมือนหล
ท่าทางที่ไพลินกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยฝีมือการทำของแดนไทยนั่นทำให้คนทำแอบยิ้มอย่างพอใจ “ขอบคุณนะคะ ฉันขอตัวไปทำงานต่อ ไม่ช่วยล้างนะคะขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขา และกลับไปทำงานเหมือนเดิม นั่งทำงานต่อกระทั่งสามทุ่ม แดนไทยยังไม่เข้ามาด้านใน เขารักษาสัญญาปล่อยให้เธอทำงานอย่างสบายใจ เวลาที่มีสมาธิหญิงสาวทำงานได้เยอะมาก“ไงหิวเหรอ” แดนไทยเงยหน้ามองคนที่เดินออกมาจากห้อง เขาเดาว่าไพลินหิว”หญิงสาวไม่ตอบ แต่เดินผ่านเขาเข้าไปในห้องครัว ได้กลิ่นขนมปังปิ้งทาเนยไม่นานหญิงสาวก็ยกขนมปังปิ้งและนมออกมาวางที่ตั่งใกล้ๆ ที่แดนไทยนั่งทำงาน“ฉันทำมาเผื่อค่ะ ตอบแทนที่คุณทำกับข้าวให้ฉันกิน เนยเยอะนิดนึงนะคะฉันชอบ คุณจะกินแยมไหมคะมีสัปปะรดกับสตรอเบอรรี่ แยมหม่อนก็มีนะคะอันนี้ฉันทำเอง เป็นหม่อนในสวน”แดนไทยไม่ตอบเขาพยักหน้าอย่างเดียว“ทำงานเหรอคะ งั้นฉันแบ่งไว้ให้นะคะ ฉันจะเข้าไปทำงานต่อ”แดนไทยติดคุยงานทางเมลกับลูกค้าต่างประเทศ ได้แต่เพียงพยักหน้าให้ไพลินเขานั่งทำงานต่อ เที่ยงคืนแดนไทยเก็บโน๊ตบุ๊ค เข้าไปใน
บ้านสวนเวลาสี่ทุ่มสิบนาที ไพลินที่กำลังนั่งวาดรูปเหมือนของลูกค้าต่างประเทศเพลินต้องตกใจกับเสียงแตรรถ พร้อมเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวมองหาโทรศัพท์ เธอแทบจะไม่ได้พกติดตัวเพราะอยู่บ้านตลอด ไม่ได้ติดต่อใคร คุยกับลูกค้าแค่ทางเมลเท่านั้น“สวัสดีค่ะ”“ไพลินฉันเอง ลงมาเปิดประตูรั้วให้หน่อย”“คุณมากับใครคะ”“ทำไม จะไม่ให้ฉันเข้าบ้านเหรอ นี่กี่ทุ่มแล้วไพลิน อย่าใจดำนักเลยฉันเหนื่อย”ไพลินวางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะ ลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน เธอเหมือนจะลืมเขาไปแล้วจู่ๆ เขาก็โผล่มา คราวนี้มีเรื่องอะไรอีก เขามาแบบนี้ เธอจะได้ทำงานแบบมีความสุขไหม หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ก่อนที่จะไขกุญแจรั้วปล่อยให้รถเขาเข้ามาจอดด้านใน“สวัสดีค่ะ” ไพลินยกมือไหว้คนที่เพิ่งลงมาจากรถแดนไทยรับไหว้เขามองไพลินไม่วางตา ถ้าอีกฝ่ายสังเกตจะเห็นว่าดวงตาของเขาเป็นประกายฉายแววดีใจออกมาชัดเจนมาก“ส่งมาค่ะฉันช่วยถือ” ไพลินยื่นมือไปรับสัมภาระของเขาที่ขนลงจากรถเต็มสองไม้สองมือ“ส่งกุญแจมา เดี๋
แดนไทยหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า เขาแวะไปที่สำนักงานทนายความ เซ็นเอกสารให้คุณอำพล เข้าบริษัทฯเพื่อจัดการงานและประชุมช่วงบ่ายเขาแวะไปที่คอนโดนั่งดื่มอยู่คนเดียว อยู่ตรงไหนก็คิดถึงแต่ไพลิน หัวใจวุ่นวายไปหมด เวลาอยู่ใกล้ไพลินเขาก็เป็นอีกอารมณ์ทั้งหมั่นไส้หมั่นเขี้ยวอยากพูดคุยด้วย อยากพูดดีๆ ด้วย แต่ปากเขามันไม่ดีคอยแต่จะพูดแดกดัน พยายามจะทำให้ใจเย็นๆ แต่ก็ยากทุกครั้ง หงุดหงิดในใจ อะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดทุกอย่างจริงๆ หรือบางทีเขาต้องเริ่มทำสมาธิ หัดสวดมนต์ใหม่เพื่อที่จิตใจจะได้สงบลงบ้าง แต่นั่นแหละที่เขาร้อนรุ่มเพราะกิเลสตัณหา ซึ่งมันน่าจะยากถ้าใช้ธรรมะเข้าข่ม ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลยจริงๆ ถ้าไพลินมีใจให้เขาบ้างสักนิดก็คงดี นึกย้อนหลังไปที่เขาทำไม่ดีไม่น่าใจร้อนเลย ถ้าจะรอให้ไพลินคิดที่จะมีใคร เขาคงรอไม่ไหวหรอกเข้าใจว่าไพลินเพิ่งจะโต แต่ผู้หญิงบางคนก็แต่งงานเร็วนี่นา บางคนยังเรียนไม่จบก็แต่งแล้ว บางจบเรียนจบรับปริญญายังไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำก็แตงงานเลย แต่ไพลินมีแต่งานๆ อย่างเดียว และตั้งใจว่าจะยังไม่มีใคร แบบนี้น่าจะยากกว่าจะเจอคนถูกใจ แต่ก็ไม่แน่ถ้าบังเอิญหญิงสาวเจอคนถูกใจจริง ก็
ตีห้าของวันใหม่ไพลินตื่นเช้าทำกับข้าวใส่บาตรตามปกติเธอใส่บาตรคนเดียว ด้วยความรีบเธอลืมกรวดน้ำ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยายเคยสอนไว้ว่า การกรวดน้ำไม่ได้ทำให้ใครได้บุญ บุญสำเร็จด้วยใจของเราแล้ว การกรวดน้ำถือเป็นกุุศโลบาย เธอจำได้ จริงๆ ยายอธิบายมากกว่านี้เจ็ดโมงเช้าทั้งสองคนกินข้าวเช้าด้วยกันเสร็จแล้ว ไม่นานช่างเข้ามาทำการติดเหล็กดัดและมุ้งลวด ช่างเข้ามาทำงานหลายคนมาก บ่ายสามโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ไพลินโอนจ่ายค่าแรงทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แดนไทยจ่าย“อะไรคะ” ไพลินรับกระดาษจากแดนไทยมาหนึ่งแผ่น เธอก้มหน้าอ่านเอกสารนิ่งๆ“เอกสารชุดนี้เธอเก็บไว้หนึ่งชุด และภายในหกเดือนที่เธอทำงานที่บริษัทฯฉันจะไม่มาวุ่นวายกับเธออีกสบายใจได้ ทุกอย่างคุณอำพลจะเป็นคนคุยกับเธอ ส่วนเอกสารในกล่องนี่เดี๋ยวจะมีพนักงานมารับไป ช่างทำงานเสร็จแล้วฉันจะกลับเลย ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะมาวุ่นวายอีก เสื้อผ้าและของใช้ฉันเก็บหมดแล้ว”“ขอบคุณสำหรับสัญญา ฉันไม่ส่งนะคะ” ไพลินยกมือไหว้เขาแดนไทยหิ้วกระเป๋าลงบันไดไป ไม่นานไพลินลงไปปิดประตู้รั้วหน้าบ้าน รู้สึกสบายใจ พรุ่งนี้ไปทำบุญที่วัดแล้วกวาดลานวัดดีกว่าหญิงสาว เดินชมสวนด้วยความสบายใจสั