LOGIN“งั้นก็ต้องคุยกันยาว เชิญคุณนั่งก่อนครับ”
พริษฐ์ผายมือออกไปข้างหน้าเพื่อให้เธอนั่งลงเจรจา ดูแล้วถ้ายืนแบบนี้หญิงสาวอาจจะล้มลงได้ง่ายๆ ท่าทางของเธอนั้นตื่นกลัวเขาเสียเต็มประดา
“ค่ะ” ดวงตากลมโตจ้องมองเสี้ยวใบหน้าคมอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ความอึดอัดเหล่านี้จะจบลงซะที มือของหญิงสาวเย็นเฉียบ
“อืม...ว่ามา...”
พริษฐ์จ้องมองไปที่ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ ที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มใดๆ ความนวลเนียนแบบธรรมชาติของแก้มใสส่องประกายดูมีออร่าราวกับสาวสุขภาพดี ไล่เรื่อยลงมาก็พบกับริมฝีปากบางอวบอิ่มเป็นรูปกระจับสีชมพูระเรื่อเผยอขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวคนนี้คงถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีประคบประหงม นายเจนภพคงรักและหวงมากสินะ
“คือ...ดิฉันจะขอเจรจาผ่อนผัน เรื่องหนี้สินของพ่อดิฉันค่ะ ดิฉันไม่รู้เรื่องราวในอดีตที่พ่อดิฉันทำไว้หรอกนะคะ แต่ดิฉันในฐานะลูกจะมาขอร้องคุณค่ะ ทั้งที่ดิฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาร้องขอให้คุณเห็นใจด้วยซ้ำ แต่ดิฉันก็ยังอยากให้คุณทบทวน และขอคุณให้โอกาสพ่อดิฉันหน่อยได้มั้ยคะ เราขอผ่อนผันเรื่องบ้านออกไปก่อน ดิฉันแค่ขอยืดเวลาเพื่อที่ดิฉันจะหาเงินมาชดใช้คุณค่ะ”
การพูดครั้งนี้เป็นประโยคที่ยืดยาวที่สุดในชีวิตของนันท์นลิน ทั้งที่เธอจะพยายามเรียบเรียงมันมาก่อนหน้านี้แล้วมันก็ดูผิดๆ ถูกๆ นั่นก็เป็นเพราะความประหม่ากับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนั่นเอง
“บ้านของคุณมูลค่าประมาณเจ็ดสิบล้าน และนายเจนภพเอามาค้ำเพื่อนำเงินสดของผมไปสี่สิบล้าน คุณจะมีวิธีการคืนผมยังไง ไหนคุณลองบอกวิธีของคุณมาสิ ว่าคุณจะทำวิธีไหนกัน...”
ชายหนุ่มหรี่ตา สังเกตเห็นความตระหนกบนใบหน้าเล็กๆ หญิงสาวแลดูกระวนกระวายราวกับนั่งอยู่บนกองไฟ
“สะ-สี่สิบล้านเหรอคะ...”
หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ร่างบอบบางเหมือนจะแข็งค้างไปโดยพลัน ทำไมมันมากมายขนาดนี้ ที่พ่อของเธอให้มาเจรจาขอผ่อนผันกับเขา มันไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว
“คุณคิดว่าสี่แสนหรือยังไง ถ้าเงินแค่นั้นผมคงไม่ต้องลงทุนไปทวงด้วยตัวเองหรอกนะ”
คำพูดเจือน้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นมาเบาๆ นายเจนภพคิดยังไงถึงได้ส่งลูกสาวมาเจรจากับเขาแบบนี้ คงหมดหนทางแล้วสินะ
“ดะ-ดิฉันไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้นี่คะ”
“อืม...แค่นี้ใช่มั้ยธุระของคุณ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมคงต้องขอตัวครับ...”
ร่างสูงกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่ทว่ามือบางกลับรีบคว้าแขนของเขาเอาไว้ พริษฐ์ชะงักและเต็มไปด้วยความประหลาดใจกับการกระทำอันอุกอาจของเธอ
“เดี๋ยวก่อนค่ะ...”
นันท์นลินคว้าแขนแกร่งเอาไว้อย่างลืมตัว เธอตกใจที่อยู่ดีๆ เขาก็ตัดจบแบบดื้อๆ เธอไม่ทันที่จะได้ต่อรองอะไรกับเขาเลย
“คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่ พ่อคุณส่งคุณมาทำอะไร”
เสียงทุ้มของเขามีร่องรอยสะกดกลั้นอารมณ์ พริษฐ์เดาใจผู้หญิงคนนี้ไม่ออกเลย
“คุณให้โอกาสดิฉันอธิบายหน่อยได้ไหมคะคุณพริษฐ์”
“โอกาสของคุณผมให้คุณไปแล้ว ทางเดียวที่ผมจะยอมคุณได้ก็คือ คุณกับพ่อของคุณต้องหาเงินมาชดใช้ผมตามกำหนดในวันพรุ่งนี้...พ่อของคุณรู้อยู่แล้วว่าไม่มีปัญญาหาเงินสี่สิบล้านในเวลาวันเดียวหรอกนะ เพราะฉะนั้นผมเลยต้องถามคุณ ว่าพ่อของคุณส่งคุณมาหาผมเพื่ออะไรกันแน่...บอกมา!”
“พ่ออยากให้ดิฉันมาเจรจาขอผ่อนผันเรื่องเวลาค่ะ ขอแค่คุณยืดเวลาให้ดิฉันหน่อยได้ไหมคะ สักหนึ่งปีจะได้มั้ยคะ ถ้าคุณจะกรุณาช่วยดิฉันสักครั้ง...นะคะ”
น้ำเสียงของเธอฟังคล้ายๆ จะร้องไห้ออกมาเต็มแก่ ความอัดอั้นที่อยู่ในอกของเธอนั้นแทบจะระเบิดออกมา
“นายเจนภพไม่เล่าให้คุณฟังหรือไง ว่าสิ่งที่พ่อของคุณทำไว้ครอบครัวของผมยังไงบ้าง...มันจำเป็นหรือที่ผมจะต้องมานั่งฟังคำร้องขอของคุณแบบนี้ ผมไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรกับผมเลย ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการที่ช่วยคุณและพ่อของคุณเลย กลับกัน! ผมอยากจะเหยียบพวกคุณให้จมดินด้วยซ้ำ!”
เสียงทุ้มแฝงร่องรอยความอัดอั้นและเจ็บปวด พริษฐ์ไม่เคยลืมการกระทำอันโหดร้ายของนายเจนภพได้เลย ไม่ลืมแม้แต่วินาทีเดียว!
“งั้น...ดิฉันจะต้องทำยังไงคะ คุณถึงจะ...”
“กลับไป! ผมไม่ต้องการ...พ่อของคุณไม่มีอะไรให้ผมเป็นข้อแลกเปลี่ยนได้อีกแล้ว ผมเป็นนักธุรกิจไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ที่ต้องเห็นใจคนอย่างพ่อคุณ...จบแล้ว...คุณกลับไปซะ!”
ในดวงตาของเขาฉายแววของความเจ็บปวดอย่างที่สุดออกมา
“ตะ-แต่...”
เธอระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ข่มกลั้นความรู้สึกอยากร้องไห้เอาไว้ นันท์นลินจะทำอย่างไรดี ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด นัยน์ตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เงียบ...
นันท์นลินนิ่งงันไปชั่วขณะ สมองของเธอกำลังประมวลผลอย่างหนัก เพื่อหาวิธีทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
“กลับไปบอกนายเจนภพด้วยว่า นี่แค่การเริ่มต้น ของจริงยังมีเยอะกว่านี้แน่นอน”
ร่างสูงเตรียมจะผละออกไป
“ไม่นะคะ”
หญิงสาวร้องเสียงหลง เพราะความตื่นเต้นและความตระหนก วินาทีสุดท้ายของนันท์นลินกำลังจะจบลง...
“งั้น...ดิฉันขอแลกระยะเวลาการผ่อนผันการใช้หนี้หนึ่งปีด้วยตัวของดิฉันค่ะ...คุณพริษฐ์”
ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคออย่างห้ามไม่อยู่ หลังจากประโยคอันเด็ดเดี่ยวของเธอจบลง นันท์นลินไม่รู้จะหาหนทางไหนมาต่อรองกับเขาได้อีกแล้ว นอกจากวิธีนี้
“...”
พริษฐ์นิ่งงันกับสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าเขานั้น โพล่งออกมา เขาไม่คิดว่าเด็กสาวคนนี้จะกล้าเอาตัวเองเข้าแลกกับการต่อรองครั้งนี้ เธอจะบ้าหรืออย่างไร นายเจนภพจะรู้หรือเปล่าว่าลูกสาวตัวเองได้ตัดสินใจอะไรลงไป
“ดิฉันยังไม่มีมลทินใดๆ มาก่อน ถ้าคุณจะพิจารณา... ในช่วงเวลาหนึ่งปีดิฉันจะนอนกับคุณเพื่อชดใช้หนี้สินของพ่อค่ะ”
ใบหน้าสวยร้อนผ่าว นันท์นลินมาไกลเกินกว่าที่จะกลับไปได้อีกแล้ว เธอไม่มีสิ่งไหนที่จะต่อรองได้อีกนอกจากสิ่งนี้
“คุณเสนอขายตัวเพื่อแลกหนี้ของพ่อคุณงั้นซิ!”
คำพูดเย้ยหยันแฝงในน้ำเสียงของชายหนุ่ม ‘ความเจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่ง ของนายเจนภพก็คือ การต้องทนเห็นลูกสาวอันเป็นที่รักถูกย่ำยีอย่างไร้ศักดิ์ศรี’ ริมฝีปากหนายกยิ้มทันที บางทีนายเจนภพอาจตายทั้งเป็นเพราะสิ่งนี้ก็เป็นได้
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ



![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



