로그인ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟน...
“ค่ะคุณธัญญ์...”
แววดาวรับโทรศัพท์ผู้เป็นนาย พร้อมกับปรายตามองไปยังเด็กสาวที่นั่งตัวตรงอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ นานเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว แววดาวทึ่งในความอดทนของเด็กสาวคนนี้จริงๆ ถึงแม้อายุยังน้อย แต่เธอคนนี้มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ไม่บ่นไม่โวยวาย กลับทำตัวนิ่งสงบ มีเพียงน้ำเปล่าสองแก้วเท่านั้นที่เธอดื่มในระหว่างที่ตั้งหน้าตั้งตารอคนที่เธอต้องการพบ
“ลูกนายเจนภพยังรอผมอยู่ไหม?”
พริษฐ์อยากรู้ว่าความอดทนของหญิงสาวนั้นจะแตกต่างจากผู้เป็นพ่อของเธอหรือไม่ พริษฐ์คิดว่าถ้านายเจนภพปล่อย ลูกสาวสุดที่รักของตัวเองมาแบบนี้ นั่นก็เท่ากับว่านายเจนภพนั้นยอมทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อหวังผลสิ่งที่ดีกว่า แต่สำหรับพริษฐ์แล้วเขายังไม่ปักใจเชื่อชายใจร้ายคนนี้อย่างแน่นอน
“เอ่อ...เธอยังรออยู่ค่ะ เธอน่าจะอยากพบคุณธัญญ์จริงๆค่ะ ป้าว่าคุณธัญญ์ลองมาคุยกับเธอดีกว่านะคะ เธอไม่ยอมทานอะไรเลย นอกจากน้ำเปล่าสองแก้วค่ะ”
แววดาวเหลือบมองอาหารว่างเป็นขนมที่เธอให้สาวใช้นำมาเสิร์ฟ แต่ทว่าเด็กสาวคนนี้กลับไม่แตะเลยสักนิด
“ครับ...อีกครึ่งชั่วโมงครับ”
“หนู...ป้าว่าหนูทานของว่างก่อนมั้ยคะ อีกสักครู่คุณธัญญ์จะถึงกลับค่ะ หนูรอนานแล้วป้าเกรงว่าหนูจะ..เอ่อ...เป็นลมไปซะก่อนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะป้า...ไม่เป็นไรค่ะ รออีกไม่นานเดี๋ยวพระพายเอ้ย...หนูก็จะได้เจอคุณพริษฐ์และคุยธุระเสร็จก็กลับแล้วค่ะ ขอบคุณป้าอีกครั้งนะคะ”
ข้างในอกของนันท์นลินกลับร้อนรนอย่างที่สุด เธอตื่นเต้นลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา มือบางชุ่มไปด้วยเหงื่อ ความกังวลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนนันท์นลินต้องปิดมือถือเอาไว้ ไม่งั้นทั้งพ่อและแฟนหนุ่มของเธอจะต้องโทรตามเธออย่างแน่นอน นันท์นลินยังไม่ได้บอกเรื่องที่เธอจะมาเจรจากับเจ้าหนี้กับกวินกานต์ เพราะถ้าเธอบอกไป กวินกานต์ก็อาจจะไม่ยอมอย่างแน่นอน นันท์นลินต้องการแก้ปัญหานี้ด้วยตัวของเธอเอง
“ทานสักหน่อยก็ดีนะคะ ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณธัญญ์เธอไม่ดุหรอกค่ะ”
แววดาวหลุดเผลอปลอบใจเด็กสาวที่นั่งหน้าตื่นอยู่ตรงหน้า เธออดสงสารไม่ได้ ถ้าสิ่งที่เด็กสาวคนนี้เป็นอยู่ และไม่ได้แกล้งแสดงล่ะก็ แววดาวคิดว่าพ่อกับลูกช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
“ค่ะ...” ป้าคนนี้จะรู้หรือไม่ ว่านันท์นลินเครียดจนทานอะไรไม่ลงต่างหาก ความกลัวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในไม่กี่นาทีข้างหน้า ทำให้เธอแทบจะเสียสติ นันท์นลินพยายามบีบมือตัวเองอยู่หลายครั้ง เพื่อให้กำลังใจตัวเอง...
“ทำตัวตามสบายนะคะ...”
“...”
แกร๊ก! ประตูบานใหญ่เปิดออก
“ป้าดาวคะ...ป้าดาวอยู่ไหนคะ?”
“อยู่นี่ค่ะคุณธารา”
“ป้าดาว...เอ่อ...แล้วนี่คือ...ใครคะ?”
พรินทร์ยืนงงกับเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่อยู่เบื้องหน้า
“เอ่อ...เธอมารอคุณธัญญ์ค่ะ...คุณธารา”
“หือ? มาพบตาธัญญ์เหรอ?”
“สวัสดีค่ะ”
นันท์นลินยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร แต่เท่าที่สังเกตภาพจากฝาผนังที่มีเธอและผู้ชายคนนั้นถ่ายคู่กัน ก็น่าจะเป็นสามีภรรยากันแน่นอน เพราะดูจากหน้าตาของคนทั้งสองคล้ายคลึงกันอย่างที่สุด ‘เนื้อคู่มักจะหน้าตาคล้ายกัน’ นันท์นลินสรุปอย่างนั้น
“สวัสดีจ้า...เอ่อ...”
พรินทร์ยืนตะลึงอยู่แบบนั้น เธอไม่คิดว่าน้องชายฝาแฝดของเธอจะนัดผู้หญิงมาบ้านแบบนี้ พริษฐ์ไม่เคยพาใครมาที่บ้านเลยด้วยซ้ำ แม้แต่รมิตาแฟนของน้องชาย ก็ยังไม่เคยที่จะย่างกรายเข้ามา ‘แล้วเธอคนนี้เป็นใครกัน ถ้าเป็นคนใหม่...’ สเปกของน้องชายเธอนั้นดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาผิวพรรณทรวดทรงองค์เอวราวกับปฏิมากรรมปูนปั้นสวยงาม พรินทร์อดชื่นชมเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เลย
“เธอมาคุยธุระกับคุณธัญญ์ค่ะ แต่ไม่ใช่อย่างที่คุณธาราคิดนะคะ”
แววดาวไม่กล้าที่จะบอก ว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใคร เธอรอให้นายของบ้านมาจัดการเองดีกว่า
“อืม...โอเค...เชิญตามสบายนะคะ ทานขนมฝีมือป้าดาวหน่อยเป็นไร...ไม่งั้นป้าดาวเสียใจแย่เลยนะคะ อุตส่าห์ยืนมอง”
พรินทร์เผยรอยยิ้มให้กับเด็กสาว เพื่อให้เธอผ่อนคลายความตึงเครียดลง ‘หรือจะเป็นลูกหนี้น้องชายของเธอ’
“ขอบคุณค่ะ”
“โอเค...ป้าดาว วันนี้ธารางดข้าวเย็นนะคะ ว่าจะขอพักผ่อนสักหน่อย”
“ค่ะคุณธารา”
เวลาผ่านไปราวสี่สิบนาที...
เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตหรูกำลังใกล้เข้ามา แสดงให้คนที่อยู่ภายในบ้านรู้ได้ทันที ว่านาทีแห่งความระทึกกำลังจะมาถึง
“คุณธัญญ์มาแล้วค่ะ”
แววดาวเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเด็กสาวที่มีเพิ่มขึ้นไปอีก ความกลัวที่ไม่รู้ว่าเบื้องหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ” นันท์นลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น มือบางเย็นเฉียบและชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ มันโครมครามจนแทบจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว...
ร่างสูงของชายหนุ่มที่เป็นประมุขของบ้านเดินย่างกรายเข้ามาอย่างช้าๆ สายตาคมกำลังมองหาบุคคลที่มาขอพบเขา ตอนนี้ พริษฐ์อ่านเกมของนายเจนภพไม่ออกเลย ว่าส่งลูกสาวของตัวเองมาเพื่ออะไรกันแน่
“สวัสดีค่ะ”
นันท์นลินลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตรงจุดที่เธออยู่ ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมเข้มเพื่อดูท่าทีของฝ่ายตรงข้าม เมื่อวานนันท์นลินไม่ทันได้สังเกตใบหน้าของชายหนุ่มในระยะใกล้ขนาดนี้ ยิ่งนันท์นลินได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของชายหนุ่ม ก็ยิ่งทำให้หัวใจของนันท์นลินเต้นรัวเร็วขึ้น เป็นการยากอย่างยิ่งที่หญิงสาวจะเก็บงำความตะลึงลานในดวงตาไว้ได้
“ครับ...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ จ้องตากับหญิงสาวซึ่งมีสีหน้าท่าทางระแวดระวังดุจเสือดาวที่กำลังตื่นภัย อาการประหม่าของเธอแสดงให้พริษฐ์เห็นอย่างชัดเจน
“ฉัน เอ่อ ดิฉันเป็นลูกสาวของ...”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยจบประโยค เสียงทุ้มของชายหนุ่มก็แทรกขึ้นทันที
“ผมรู้แล้ว...ไม่ต้องบอกครับ...คุณมาที่นี่เพื่ออะไร? ผมอยากรู้แค่นั้น...”
คำพูดแบบผ่าตรงของพริษฐ์ทำให้ร่างบางเบิกตามองเขาอย่างตกใจกลับเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก
“ค่ะ...ดิฉันต้องการมาเจรจากับคุณค่ะ เรื่องหนี้สิน และเรื่องของพ่อดิฉันค่ะ”
ยากนักที่นันท์นลินจะปิดกั้นความกลัวของตัวเองไว้ได้ ทั้งน้ำเสียงของการพูดและกลิ่นอายอำมหิตของเขาแฝงอยู่ในนั้นช่างรุนแรงเหลือเกิน
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







