Share

โซ่น้อยคล้องใจ

last update Last Updated: 2025-02-22 11:16:09

บทที่13

โซ่น้อยคล้องใจ

            ผ่านไปแค่เพียงสองวัน ทางทนายก็โทรมาแจ้งให้ติณห์ไปรับนาเดียร์มาดูแลได้เลย เขาจัดการเรื่องกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

            “เราไปรับเย็นนี้เลยไหมคะ คุณมีเบอร์ติดต่อแม่บ้านที่ดูแลไหม” ลลิลตื่นเต้น

            “ผมว่าจะจ้างแม่บ้านคนที่เลี้ยงนาเดียร์ ให้มาอยู่ที่นี่ด้วย ผมได้เบอร์จากทนายก็เลยโทรคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เธอขอกลับไปดูแลบ้านของเจ้ายายเธอเดือนละครั้ง” ติณห์จัดการก่อนที่หญิงสาวจะบอกเสียอีก

            “แล้วเราจะให้ลูกนอนที่ไหนคะ” หญิงสาวเรียกลูกอย่างเผลอตัว

            “ลูก...อ๋อ เราจะเป็นพ่อแม่กันแล้วเนาะ นอนบ้านใหญ่ยังมีห้องว่างอยู่ ผมจะให้นอนกับแม่บ้านที่เลี้ยงเขามานั่นแหละ” ติณห์วางแผนไว้เรียบร้อย โดยผ่านการปรึกษาบิดาและป้าช่วยก่อน

            “ลลิลคิดว่าตื่นเต้นอยู่คนเดียว ที่แท้คุณแอบจัดการทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนลลิลจะคิดอีกนะคะ”  หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขให้กับคุณพ่อคนใหม่ที่ดูตื่นเต้นกว่าเธอแต่เก็บอาการไว้

            ได้เวลาไปรับลูกสาวคนใหม่ของบ้าน นอกจากคุณพ่อคุณแม่จำเป็น แล้วยังมีคุณปู่อีกคน ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน กิตต์ขจรอยากให้บ้านนี้มีเด็ก มันคงช่วยให้ชีวิตเขามีสีสันมากขึ้น เพราะดูแล้ว ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้มีหลานแท้ๆเป็นของตัวเอง

            “เสื้อผ้าข้าวของเอาเท่าที่จำเป็นไปก่อน เดี๋ยววันหลังจะให้คนรถพามามาขน” ติณห์บอกกับรัตน์แม่บ้านที่ทำหน้าที่เลี้ยงนาเดียร์

            “สวัดดีจ๊ะหนูนาเดียร์ ไปอยู่บ้านหลังใหม่กันนะ ไปอยู่กับพ่อจ๋า แม่จ๋า และยังมีปู่จ๋าอีกคน ทุกคนยินดีต้อนรับหนูนะลูก” ลลิลโน้มตัวลงไปลูบผมสวยของเด็กน้อย ที่น้ำตาคลอเบ้า

            หญิงสาวเข้าใจความรู้สึกเด็กน้อยตรงหน้าดี เพราะเธอก็สูญเสียมารดา จากการฆ่าตัวตายเหมือนกัน ถึงแม้เธอจะเหลือบิดา แต่ก็เหมือนไม่มี นาเดียร์ยังเด็กอีกไม่นานเธอก็จะลืมไม่เหมือนลลิลที่ยังจำได้ทุกเรื่อราว ภาพแม่ของเธอยังอยู่ในความทรงจำตลอด

            “รัตน์จ๊ะ เราต้องช่วยกัน สร้างความทรงจำใหม่ให้นาเดียร์กันนะ” ลลิลพูดกับรัตน์สมาชิกใหม่ของบ้านอีกคน

            “ค่ะ คุณผู้หญิง”

            “เรียกลิลก็พอค่ะ” หญิงสาวตกใจที่ถูกเรียกเป็นถึงคุณผู้หญิง

            “ค่ะคุณลิล” แม่บ้านคนใหม่ยังคงยืนยันจะเรียกนำหน้าว่าคุณเช่นเดิม

            เสียงรถขับเข้ามา ในบริเวณบ้าน คนป่วยที่เคยเอาแต่นอนไปวันๆ กลับมารู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะเขากำลังรอการมาของหลานสาวคนใหม่ของบ้าน

            “สวัสดีคุณปู่จ๋าสิลูก” ลลิลพาเด็กน้อยเดินเข้าไปใกล้เพื่อสวัสดีคุณปู่คนใหม่ ที่วันนี้สีหน้ายิ้มแย้มกว่าทุกวัน

            “พระคุ้มครองนะลูก มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ปู่ดีใจนะที่ได้มีหลานสาวน่ารักอย่างหนู” กิตต์ขจรพยายามเอียงตัวมาลูบหัวหลานสาว แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะเขาไม่ค่อยยอมขยับตัวตามที่นางพยาบาลพาทำ

            นาเดียร์ยังคงไม่ค่อยพูด เอาแต่เดินเกาะรัตน์ที่เป็นคนเลี้ยงตลอดเวลา อาจเป็นเพราะต้องมาอยู่ต่างที่ และยังคงคิดถึงพ่อกับแม่อยู่

            “รัตน์เก็บข้าวของให้เรียบร้อย นาเดียร์ไปหาไอศกรีมกินกันไหม เดี๋ยวแม่จ๋ากับพ่อจ๋าพาไป ไปดูของเล่นกันด้วย” ลลิลมองหน้าติณห์ที่ยังงงๆเพราะเธอไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า

            “ไปเถอะค่ะคุณหนู เดี๋ยวรัตนืเก็บของแล้วรออยู่ที่นี่ ซื้อของเล่นมาฝากรัตน์ด้วยนะคะ” นาเดียร์ทำท่าลังเล จนคนเลี้ยงต้องช่วยพูด

            “ค่ะ รอหนูอยู่นี่นะ ห้ามไปไหน” เด็กน้อยหันมาบอกคนเลี้ยง

           

            ร้านไอศกรีมชื่อดัง ถูกเลือกให้เป็นสถานที่แรก ในการสร้างความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ให้มีความคุ้นเคยสนิทสนมกัน นาเดียร์เริ่มคุ้นเคยกับลลิลแต่ยังทำท่าไม่ค่อยไว้วางใจติณห์สักเท่าไหร่

            “จะมีใครอยากให้พ่อจ๋าซื้อตุ๊กตาให้บ้างนะ” ติณห์หาของมาดึงใจลูกสาวคนใหม่

            “หนูอยากค่ะ” นาเดียร์ยกมือ

            “ต้องจูงมือพ่อจ๋าไปซื้อนะ ตุ๊กตาร้านไหนดีนะ” ชายหนุ่มเดินจูงมือลูกสาวไปที่ร้านตุ๊กตาที่อยู่ใกล้ๆ

            ลลิลเลือกที่จะรออยู่ที่ร้านไอศกรีม เพราะถ้าเธอไปด้วย นาเดียร์จะไม่ยอมสนิทกับติณห์แน่ๆ แต่ดูจากที่กล้าจูงมือพอจ๋าแล้ว อีกไม่นานคงสนิทสนมกันแน่ๆ

            “น่ารักทั้งนั้นเลย ลูกอยากได้ตัวไหนบอกพ่อจ๋านะ” ติณห์นั่งลงคุยกับสาวน้อยที่กำลังมองตุ๊กตาในร้านอย่างตื่นตาตื่นใจ

          “หนูซื้อได้กี่ตัวคะ” นาเดียร์หันมาถาม

            “หนูจะเอากี่ตัวล่ะครับ”

            “สองค่ะ” สาวน้อยชูมือสองนิ้ว

            “ถ้าอย่างนั้นก็สองตัว เดินเลือกเลย จูงมือพ่อไปดูด้วยนะ”

            เลือกอยู่นานแสนนาน สองคนพ่อลูกก็เดินจูงมือกันกลับมา ต่างคนต่างถือตุ๊กตากลับมาคนละตัว ลลิลคิดว่านาเดียร์คงเลือกตัวใหญ่ แต่เด็กน้อยกับเลือกมาตัวขนาดเล็กที่เธอจะอุ้มได้ถนัดแค่นั้น

          “น่ารักเชียว ขอแม่จ๋าลองอุ้มบ้างสิ” นาเดียร์ส่งตุ๊กตาให้แม่จ๋าคนใหม่

            “คุณคะเดี๋ยวลิลว่าจะไปซื้อนมกับขนมให้นาเดียร์ด้วย เมื่อกี้ลิลโทรถามแล้วว่าลูกกินนมอะไร”

            สามคนพ่อแม่ลูก พากันเดินซื้อนมและขนมจนเต็มรถเข็น ลลิลกลัวว่าถ้าตอนที่ติณห์ไม่อยู่ และนาเดียร์อยากกินขนมขึ้นมาเธอไม่รู้จะทำอย่างไร เลยซื้อตุนไว้เพียบ

          เมื่อเดินกันเสียนาน เด็กน้อยก็เริ่มทำท่าทางหมดแรง ตาปรือ ติณห์อุ้มลูกสาวคนใหม่ขึ้นมา เพราะลืมไปว่าเดินมากขนาดนี้ เด็กตัวนิดเดียวคงจะเหนื่อยแล้ว เมื่อถูกอุ้มได้ไม่นานเด็กน้อยนาเดียร์ก็หลับสนิทอยู่บ่าของพ่อจ๋า ที่ค่อยเดินเพราะกลัวจะทำลูกสาวตื่น

           

            “หลับมาเชียว” รัตน์ประคองรับเด็กน้อยที่หลับสนิท วางลงบนเตียง ถึงตาจะหลับแต่มือยังกอดตีกตาสองตัวไว้แน่น อย่างน่าเอ็นดู

            “ขนมกับนม เดี๋ยวขนจากรถมาเก็บไว้ในห้องกับในครัวนะ” ลลิลเริ่มทำหน้าที่แม่

          “เหนื่อยไหมคุณแม่” ติณห์เดินโอบเอวคุณแม่คนใหม่กลับห้อง

            “คุณพ่อสิคะเหนื่อยไหม อุ้มตลอดทางเลยตินเดินกลับ”

            “ไม่เหนื่อยนะ ตัวเล็กนิดเดียว เมื่อคืนอุ้มคนตัวใหญ่กว่ายังไม่เหนื่อยเลย” คนตัวใหญ่ดึงคนในอ้อมแขนเข้ามาใกล้อย่างหยอกเย้า

            “ทะลึ่ง” ลลิลอายจนหน้าแดง เพราะพื้นที่แคบทำให้เมื่อคืนเขาถึงกับอุ้มเธอเชียวในห้องน้ำ

            “ช่วย ไปดูสิพ่อแม่ลูกเขาทำอะไรกัน หายเงียบกันไปเลย เห็นว่าจะออกไปข้างนอกกันก็เห็นกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ” คุณปู่ไม่ทันไรก็อยากเจอหลานสาวแล้ว

            “ค่ะคุณท่าน”

            ป้าช่วยเจอรัตน์ที่กำลัง ยกนมและขนมลงจากรถ จึงได้ความว่า ตอนนี้สาวน้อยของบ้านกำลังหลับสนิทอยู่บนที่นอน ไว้ตื่นเมื่อไหร่ จะรีบพามาเล่นกับคุณปู่ทันที

            “ยังไม่ทันข้ามคืนก็ติดหลานแล้วเหรอคะ” ป้าช่วยแซวคนป่วยที่ไม่ทันไร ก็เรียกหาแต่หลานแล้ว

            “ตามประสาคนแก่ นี่ขนาดไม่ใช่สายเลือดนะ เฮ้อ...เมื่อไหร่เจ้าติณห์มันจะลงหลักปักฐานกับใครเขาสักคนนะ” คนเป็นพ่ออยากเห็นลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นก่อนที่ตัวเองจะจากโลกใบนี้ไป

            “คุณท่านดูไม่ออกเหรอคะ คุณติณห์คงไม่ไปไหนแล้ว ตัวติดกับกับคุณลลิลขนาดนั้น ทำเป็นปากแข็ง เพราะกลัวผิดหวังล่ะสิ” ป้าช่วยเลี้ยงติณห์มากับมือ เขาแค่มองสายตาก็รู้ใจแล้ว

            “ใจหนึ่งฉันก็แอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากคาดหวังอะไร คนของเราหลงเขาหรือรักเขาก็ยังไม่แน่ใจ ส่วนตัวหนูลลิลเองก็อ่านยาก ตั้งแต่วันแรกที่ก็าวเข้ามาอยู่ที่นี่ จนถึงวันนี้ หนูลลิลเองก็มีทีท่าเหมือนเดิมทุกอย่าง”

            กิตต์ขจรอ่านลูกชายไม่ออกเพราะเขาได้เจอแค่บางมุมบางเวลา ส่วนป้าช่วยเองอาจจะได้เห็นบางมุมที่แตกต่าง และเธอก็เป็นคนเลี้ยงดูติณห์มาตั้งแต่เด็ก

            “ถ้าเป็นคู่กันแล้วไม่แคล้วกันแน่นอนค่ะ” ป้าช่วยเชื่อแบบนั้น

            “ว่าแต่คุณท่านเถอะ เห็นไหมดื้อไม่ยอมทำตามหมอสั่ง แล้วเมื่อไหร่จะได้ลุกมานั่งเล่นกับหลานคะ” ได้ทีแม่บ้านคนเก่าคนแก่ หาทางพุดให้เจ้านานหันกลับมามีกำลังใจ ที่จะทำกายภาพให้กับมานั่งได้ก็ยังดี

            “ก็จริงของเธอ แค่จะเอื้อมไปจับหัวฉันยังทำแทบไม่ได้ เอาวะ...เดี๋ยวจะลองสู้กันสักตั้ง นี่ถ้าเจ้าติณห์มีหลานแท้ๆให้ จะวิ่งให้ดูเลย” กิตต์ขจรอารมณ์ดี

            “จำไว้นะคะ พูดไว้ว่าอะไร ช่วยว่าอีกไม่นาน คุณท่านได้วิ่งเล่นกับหลานแน่ๆ” ป้าช่วยเห็นความหวานของทั้งคู่ แล้วคิดว่าอีกไม่นาน กิตต์ขจรต้องได้หลานเป็นของตัวเองแน่ๆ

            “เอาวะ วิ่งก็วิ่ง” แต่ตอนนี้คนป่วยทำได้แค่ยกมือก็ยังเหนื่อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หนี้รักบำเรอสวาท   โซ่น้อยคล้องใจ

    บทที่13โซ่น้อยคล้องใจ ผ่านไปแค่เพียงสองวัน ทางทนายก็โทรมาแจ้งให้ติณห์ไปรับนาเดียร์มาดูแลได้เลย เขาจัดการเรื่องกฎหมายเรียบร้อยแล้ว “เราไปรับเย็นนี้เลยไหมคะ คุณมีเบอร์ติดต่อแม่บ้านที่ดูแลไหม” ลลิลตื่นเต้น “ผมว่าจะจ้างแม่บ้านคนที่เลี้ยงนาเดียร์ ให้มาอยู่ที่นี่ด้วย ผมได้เบอร์จากทนายก็เลยโทรคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เธอขอกลับไปดูแลบ้านของเจ้ายายเธอเดือนละครั้ง” ติณห์จัดการก่อนที่หญิงสาวจะบอกเสียอีก “แล้วเราจะให้ลูกนอนที่ไหนคะ” หญิงสาวเรียกลูกอย่างเผลอตัว “ลูก...อ๋อ เราจะเป็นพ่อแม่กันแล้วเนาะ นอนบ้านใหญ่ยังมีห้องว่างอยู่ ผมจะให้นอนกับแม่บ้านที่เลี้ยงเขามานั่นแหละ” ติณห์วางแผนไว้เรียบร้อย โดยผ่านการปรึกษาบิดาและป้าช่วยก่อน “ลลิลคิดว่าตื่นเต้นอยู่คนเดียว ที่แท้คุณแอบจัดการทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนลลิลจะคิดอีกนะคะ” หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขให้กับคุณพ่อคนใหม่ที่ดูตื่นเต้นกว่าเธอแต่เก็บอาการไว้ ได้เวลาไปรับลูกสาวคนใหม่ของบ้าน นอกจากคุณพ่อคุณแม่จำเป็น แล้วยังมีคุณปู่อีกคน ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน กิตต์ขจรอยากให้บ้านนี้มี

  • หนี้รักบำเรอสวาท   คุณพ่อคุณแม่จำเป็น

    บทที่12คุณพ่อคุณแม่จำเป็น “ขากลับทำไมของเยอะกว่าขามาเยอะเลยนะ” ชายหนุ่มยืนมองท้ายรถของตัวเอง ที่ไม่มีที่วางเหลือเหมือนตอนมา ท้ายรถเต็มไปด้วยของฝากที่หญิงสาวซื้อไปฝากคนที่บ้าน “ทำเป็นบ่น ขึ้นรถเถอะค่ะ เดี่ยวจะถึงมืด” ลลิลไม่อยากยืนเถียงด้วย เพราะข้างหลังมีแต่ของเธอจริงๆ “ผมจัดการเรื่องเงินให้พ่อคุรเรียบร้อยแล้วนะ” ติณห์จัดการทุกอย่างตั้งแต่วันที่พ่อหญิงสาวโทรศัพท์มาแล้ว แต่เขายังไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลลิล เพราะไม่อยากทำให้เธอเครียดขึ้นมาอีก โชคดีที่รถไม่ติดมาก ทั้งคู่จึงมาถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ ลลิลรีบหยิบของฝากที่เธอซื้อมฝากป้าช่วย และบิดาของติณห์ “ทำไมกลับกันมาเร็ว กว่าที่บอกพ่อไว้” กิตต์ขจรคิดว่าลูกชายคงไปนานกว่านี้ “มีงานด่วนนิดหน่อยครับพ่อ” ติณห์ยังไม่อยากเล่าให้บิดาฟัง เขาอยากรอให้เรื่องราวที่จะเปิดพินัยกรรมพรุ่งนี้เสร็จสิ้นไปก่อน “คุณพ่อคะ ลิลซื้อเสื้อหล่อๆ มาฝากคุรพ่อหลายชุดเลยค่ะ เดี๋ยวให้ป้าช่วยเอาไปซักก่อนนะคะ พรุ่งนี้คุณพ่อจะเป็นหนุ่มเหนือ” หญิงสาวหยิบเสื้อออกจากถุง มากางให้คนนอนป่วยดู

  • หนี้รักบำเรอสวาท   เผชิญหน้ากับปัญหา

    บทที่11เผชิญหน้ากับปัญหา ปัญหาชีวิตของลลิล ทำให้ติณห์ชายหนุ่มที่มีความพร้อมกว่าทุกอย่าง อย่างน้อยเขาก็ยังเหลือพ่อ เขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาได้ก่อไว้ เขาตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปหาฤทธิ์ลูกน้องคนสนิท ที่เฝ้าโทรหาเขาไม่รู้กี่ร้อยสาย ป่านนี้คงตื่นแล้ว เพราะก็ใกล้เวลาไปจัดการเรื่องเอาเงินเข้าธนาคาร ซึ่งตอนนี้ ลูกน้องคนนี้ต้องทำหน้าที่แทนลูกพี่ทุกอย่าง “ฤทธิ์ มีอะไร โทษที ใจยังแย่เลยไม่อยากรับสายใคร” ชายหนุ่มออกมาคุยด้านนอก เพราะไม่อยากให้ลลิลรับรู้ด้านมืดของเขา “ผมจะโทรมาบอกคุณติณห์ว่า สองคนนั้นเขาฆ่าตัวตาย เพราะป่วยเป็นเอดส์ และจากที่เราเอาคลิปลงคนเป็นเมียเลยจับผัวไปตรวจเลือด และเมื่อรู้ผล ก็ตรวจของตัวเอง จนรู้ว่าทั้งคู่ติดเชื้อ” ลูกน้องรีบอธิบาย “แกไม่ได้โกหกใช่ไหม” ติณห์ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่สาเหตุ “แต่มันยังมีบางอย่างมากกว่านั้น แต่ผมไม่รู้ ทางตำรวจและทนายความส่วนตัวของบ้านนู้น ติดต่อมาต้องการพบคุณโดยด่วน ผมจึงพยายามติดต่อคุณ” ฤทธิ์รายงานแบบคนลืมหายใจ “ในเมื่อฉันไม่ใช่สาเหตุแล้วทำไมต้องอยากเจอ

  • หนี้รักบำเรอสวาท   รสรักบำบัดความเครียด

    บทที่10รสรักบำบัดความเครียด อาหารมือเย็น มื้อแรกของที่นี่ เป็นกับข้าวทางเหนือ ที่ทั้งคู่ซื้อมาจากตลาดนัดที่อยู่ใกล้ๆ ระเบียงหน้าห้องมีตะสำหรับนั่งกินอาหาร บรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน สวยงามมากกว่าทุกวันที่ทั้งสองเคยพบเจอ “อยากให้พ่อหายเป็นปกติ นานแล้วที่ท่านไม่เคยได้ออกไปไหน” ติณห์คิดถึงภาพเมื่อครั้งที่เขากับพ่อมาเที่ยวด้วยกัน “หมอบอกว่ามีโอกาสไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความมารู้ถึงอาการ “มีโอกาสกลับมาลุก นั่งได้ แต่เดินคงยาก เพราะพ่อเอาแต่นอน เหมือนไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ร่างกายส่วนล่างก็ลีบลงเรื่อยๆ” เสียงของคนพูดหมดหวัง “คุณเป็นลูกย่อมเข้าใจดี ว่าทำอย่างไรพ่อของคุณถึงจะกำลังใจ ในการมีชีวิตอยู่มากขึ้น ถ้ามีอะไรให้ลิลช่วยก็บอกนะคะ อย่างน้อยมันคงช่วยลดกรรมที่พ่อลิลทำไว้กับพ่อของคุณ”“กินข้าวกันเถอะ ผมทำเสียบรรยากาศหมด มีแต่อาหารเหนือทั้งนั้นเลย น้ำพริกหนุ่มลองกินสิลิล คุณน่าจะชอบ”ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูดสำเร็จแต่เขาเปลี่ยนสีหน้าแววตาที่เก็บงำความเครียดไว้ไม่สำเร็จ ลลิลสัมผัสมันได้ตลอดเวลา เขาคุยกับเธอแค่เพียงร่างกาย แต่

  • หนี้รักบำเรอสวาท   การเดินทางของความรู้สึก

    บทที่9การเดินทางของความรู้สึก จากวันแรกที่ลลิลได้รับหน้าที่ดูแลกิตต์ขจร มาถึงวันนี้ก็เกือบจะครบหนึ่งเดือนแล้ว ทั้งสองคนสนิทกันมาก ความสดใส น่ารัก และเป็นเด็กที่กตัญญู ทำให้คนป่วยอยากได้ลลิลเป็นลูกอีกคน ไม่ว่าจะในฐานะลูกสะใภ้หรือลูกสาวก็ได้ทั้งสองอย่าง “ติณห์พ่อรักและเอ็นดูหนูลลิลมาก ถ้าลูกไม่คิดจะจริงจังกับเธอ ก็ปล่อยเธอจาสถานะที่เธอเป็นอยู่เสีย และรับเธอเข้ามาเป็นน้องสาวของลูกซะ” ผู้เป็นพ่อทั้งรักทั้งสงสาร “จริงจังไหม คงไม่มั้งครับ เพราะพ่อก็รู้ว่าเธอเข้ามาอยู่ที่นี่เพราะอะไร ส่วนที่พ่อจะให้ผมรับเธอมาเป็นน้องสาว คงไม่ได้ ผมนอนกับเธอแล้วนะ อยุ่ดีจะให้มาเป็นพี่น้องกัน” “ถ้าเป็นพี่น้องมันยาก ลูกก็ให้เธอเป็นเมียเสียสิ พ่ออยากมีหลาน พ่อจะอยู่อีกสักกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ก็ยังไม่รู้ ลูกไม่คิดจะมีครอบครัวมีหลานให้พ่อสักคนเหรอ” ก่อนหน้านี้กิตต์ขจรไม่คิดจะพูดเรื่องการมีครอบครัวกับลูกชาย เพราะเขามองไม่เห็นทาง แต่ตอนนี้ ติณห์มีผู้หญิงข้างกาย และเธอก็แสนจะน่ารัก ผู้เป็นพ่ออยากมีหลานเต็มที่แล้ว “เรื่องนี้มันก็ไม่ได้อยู่ที่ผมค

  • หนี้รักบำเรอสวาท   ผิดหรือที่แค้น

    บทที่8ผิดหรือที่แค้น คืนนี้เป็นอีกคืน ทีทั้งคู่หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน โดยที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวเกิดขึ้น มันมีแต่ความห่วงใย และความอบอุ่นที่มอบให้กัน เมื่อวานติณห์เองก็หมดเรี่ยวแรงไปกับการตามแก้แค้นแทนบิดา เขาไล่รายชื่อลูกหนี้ที่คิดว่า มีส่วนในการจ้างมือปืนมายิงพ่อของเขา นอกจากทัตเทพแล้ว ยังนักธุรกิจ และชาวบ้านฐานะปานกลาง อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งวิธีการแก็แค้นก็ถูกเลือกวิธีที่ต่างกันไป สองคนที่โดนจัดการไปเมื่อวาน ชายหนุ่มรู้ว่าทั้งสองมีหน้ามีตาในสังคม และก็ต่างก็ภรรยามากด้วยกันทั้งคู่ เพราะอาศัยบารมีของครอบครัวฝ่ายหญิงอยู่ ติณห์ได้ทำการปล่อยคลิปวิดีโอ ที่ทั้งสองคนมาขอยืมเงินของเขา โดยชายหนุ่มไม่ลืมที่จะกันตัวเอง เขาให้คนทั้งสองพูดว่า จะยืมไปเพื่อเอาเงินไปเลี้ยงดูบรรดาเมียเด็กๆ ระเบิดครอบครัวก้อนใหญ่ ถูกส่งผ่านโลกโซเชี่ยลเพียงไม่ถึงชั่วโมง เรื่องราวก็ถูกแชร์ออกไป บรรดาเมียทั้งหลายต่างพากันหัวร้อน จัดการสามีของตัวเองแบบจัดหนัก เมื่อเรื่องราวความอื้อฉาวของประธานบริษัทถูกพูดถึง อย่างสนุกปาก ลูกค้าต่างไม่ให้กา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status