Beranda / โรแมนติก / หนี้รักราชันสีเลือด / บทที่ 9 : ตัวตนเปิดเผย

Share

บทที่ 9 : ตัวตนเปิดเผย

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:40:40

บทที่ 9 : ตัวตนเปิดเผย

หลังจากใช้เวลาสักพักในสวนสวยที่สงบเงียบ ชิงอี้หรานก็ขอตัวกลับเข้าไปในงานเลี้ยงในวังหลวงอีกครั้ง หญิงสาวกลับเข้าสู่ตำหนัก

“อี้หราน เจ้าหายไปไหนมา พวกเข้าร้อนใจจนเกือบจะออกตามหาเจ้า” ชิงหลงพี่ชายคนรองกระซิบถามอย่างห่วงใย

“ข้าเพียงออกไปเดินเล่นเท่านั้น ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเจ้าค่ะ” ชิงอี้หรานกล่าวตอบพร้อมคีบอาหารเข้าปาก ทำท่าทางประหนึ่งมิได้มีสิ่งใดเกิดขึ้น

สักพักหนึ่ง พลันเสียงขันทีที่ประกาศขึ้นอย่างก้องกังวานดึงความสนใจของทุกคนในงาน

"องค์ชายห้าเสด็จ!"

เสียงขันทีทำให้ทุกสายตาหันไปยังประตูตำหนัก ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แสดงสีหน้าดีใจ เมื่อเห็นบุตรชายของสนมอันเป็นที่รักเสด็จมา หนิงซีโย่วเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าสง่างาม สายตาของชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ และประสานเข้ากับชิงหยวนเปา อัครเสนาบดีผู้ทรงอำนาจ สายตานั้นล้ำลึก มิอาจคาดเดาได้ แต่ก็หาได้มีความเป็นมิตรแต่อย่างใด

ทันใดนั้น หนิงซีโย่วเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายชิงหยวนเปา ใจของชายหนุ่มพลันตกตะลึงอย่างยิ่งยวด "หยานเอ๋อ!" หนิงซีโย่วร้องเรียกในใจ หญิงสาวที่เขารู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งกำลังยืนเคียงข้างชายชั่วที่ชายหนุ่มมีความแค้นรุนแรงฝังลึก

ชิงอี้หรานเองก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นหนิงซีโย่วเดินเข้ามาในตำหนักในฐานะองค์ชายห้าแห่งแคว้นโย่ว หญิงสาวยืนเบิ่งตากว้าง หัวใจเต้นระรัว หญิงสาวไม่เคยรู้เลยว่าหนิงซีโย่วคือองค์ชายผู้สูงศักดิ์

ในขณะที่ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันในความเงียบงัน เสียงขันทีที่ประกาศต่อไปอีกทำให้บรรยากาศในงานเลี้ยงเคร่งขรึมมากขึ้น

"ขอต้อนรับองค์ชายห้าเสด็จ!"

หนิงซีโย่วฝืนยิ้มและก้าวเข้ามายืนด้านหน้าบิดาของนาง ชายหนุ่มยังคงมีท่าทางนิ่งสงบ หน้าตาเรียบเฉย ดวงตาฉายแววคมกริบทว่ากลับยากที่จะมองออกว่าเขารู้สึกเช่นใด

"ขอถวายพระพรฮองเฮา ขอให้ฮองเฮาทรงมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง" หนิงซีโย่วกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวลและโค้งคำนับต่อหน้าฮองเฮาและฮ่องเต้

ฮ่องเต้ยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวตอบ "ขอบใจเจ้ามาก ซีโย่ว ข้าดีใจที่เจ้าได้มาในวันนี้"

ชิงอี้หรานไม่สามารถเอ่ยคำใดได้ เพียงแต่ยืนนิ่งอยู่ข้างบิดาของนาง ใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง เมื่อรู้ว่าหนิงซีโย่วคือองค์ชายห้าที่มีความสำคัญและสูงศักดิ์เพียงใด

หลังจากหนิงซีโย่วกล่าวอวยพรฮองเฮาแล้ว ชายหนุ่มก้าวถอยออกไปยังอัครมหาเสนาบดีชิงหยวนเปา

หนิงซีโย่วพยายามเก็บอาการและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มคำนับและกล่าวทักทายชิงหยวนเปา “อัครมหาเสนาบดี ข้าดีใจที่ได้พบเจ้าในงานเลี้ยงนี้”

ชิงหยวนเปายิ้มอย่างเย็นชา “คารวะ องค์ชายห้า ด้านนี้คือบุตรชายทั้งสามของข้า ชิงหยาง ชิงหลง และชิงเฟย ส่วนนี่บุตรสาวของข้านาม ชิงอี้หราน”

หลังจากนั้น หนิงซีโย่วหันไปทางชิงอี้หราน ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยและเย็นชา ชายหนุ่มแย้มปากยิ้มเพียงเล็กน้อย “ข้าขอคารวะคุณหนูชิง”

หลังจากนั้น หนิงซีโย่วได้แต่เก็บงำความลับไว้ในใจ ชายหนุ่มฝืนปั้นหน้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความรักที่เขามีต่อชิงอี้หรานแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นเคือง ชายหนุ่มได้สัญญากับตนเองว่าจะทำให้ครอบครัวสกุลชิงต้องพังพินาศ หนิงซีโย่วได้แต่ยิ้มอย่างเยือกเย็น และในใจของเขากล่าวสาบาน

ชิงอี้หรานไม่สามารถรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในใจของหนิงซีโย่ว หญิงสาวเพียงแต่ยืนมองชายหนุ่มในงานเลี้ยงนี้ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งความดีใจที่ได้พบชายหนุ่มอีกครั้ง และความหวาดหวั่นในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

หนิงซีโย่วจึงเดินผ่านชิงอี้หรานด้วยใบหน้าเย็นชา และหญิงสาวไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยืนมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและผิดหวัง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 64 : จบบริบูรณ์

    บทที่ 64 : จบบริบูรณ์ หลังจากการต่อสู้และความวุ่นวายในราชสำนักได้สงบลง หนิงซีโย่วได้สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าขุนนางในราชสำนักด้วยการประกาศเรียกตัวครอบครัวสกุลชิงเข้าวัง ในท้องพระโรงที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมสีทองและภาพจิตรกรรมที่งดงามบัดนี้เสียงดังเซ็งแซ่อย่างต่อเนื่อง เหล่าขุนนางต่างเฝ้ารอดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้ พวกเขาต่างพากันคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ บ้างมีสีหน้าดีใจ บ้างมีสีหน้าหนักใจปะปนกันไปเมื่อทุกคนพร้อมหน้าในท้องพระโรง ขันทีก็ออกประกาศราชโองการ “ด้วยฝ่าบาทมีพระกรุณาแต่งตั้งใต้เท้าชิงหยวนเปากลับคืนสู่ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี บุตรชายทั้งสามล้วนมากความสามารถ แต่งตั้งชิงหยางบุตรชายคนโตเป็นแม่ทัพบูรพา และชิงเฟยบุตรชายคนเล็กเป็นรองแม่ทัพดูแลกองทัพรักษาดินแดน แต่งตั้งชิงหลงบุตรชายคนรองเป็นที่ปรึกษาราชกิจ จบราชโองการ”เมื่อสิ้นเสียงราชโองการ ขุนนางทั้งหลายล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อเรื่องราวกลับพลิกผันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ หลายคนพยายามเหลือบมองหนิงซีโย่วด้วยไม่อาจคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ผู้เอาแต่ใจคนนี้ได้ คงมีเพียงหลีซานที่ยังคงรักษาท่าทีสุขุม ชาย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืน

    บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืนในตำหนักบรรทมที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องแสงอ่อนๆ ผ่านหน้าต่างทำให้ห้องดูมีมนต์ขลัง หนิงซีโย่วและชิงอี้หรานนั่งหันหน้าเข้าหากันบนเตียงผ้าไหมเนื้อนุ่ม สายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาทำให้ผ้าม่านปลิวไหว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังชัดในความเงียบ สายตาทั้งคู่ประสานกันด้วยความโหยหา ความตึงเครียดต่าง ๆ ค่อย ๆ บรรเทาลงหนิงซีโย่วมองชิงอี้หรานด้วยความรู้สึกผสมผสานทั้งความรักและความรู้สึกผิด ในขณะที่เขากำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างออกมา พลันทหารองครักษ์สามสี่นายก็ก้าวเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ชิงอี้หรานทำหน้าตื่นตระหนก เธอสะดุ้งขึ้นอย่างแรง เบี่ยงตัวไปข้างหนึ่งและปกป้องหนิงซีโย่วไว้ข้างหลัง มือบางล้วงกริชสั้นชูขึ้นมา ดวงตาของเธอกวาดมองทหารเหล่านั้นด้วยความแข็งกร้าว ความหวาดระแวงทำให้หญิงสาวพลันกล่าวออกไปด้วยเสียงอันดัง "พวกเจ้าบังอาจนัก"องครักษ์คุกเข่าลง "หม่อมฉันได้ยินเสียงจากภายนอกจึงเข้ามาตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ"หนิงซีโย่วทำหน้าเคร่งครึม พลันตวาดไล่ทหารทั้งหมดให้ออกไป "พวกเจ้าถอยออกไปเสีย ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามใครเข้ามารบกวนอีก" เหล่าองครักษ์รีบเร่งเดินจากไปอย่างหวาด

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่

    บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่ท่ามกลางเงามืดและแสงจันทร์ที่สาดส่อง ชิงหยางและชิงเฟยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการหลบเลี่ยงการสังเกตของผู้คน ทั้งคู่พาชิงอี้หรานเคลื่อนที่ผ่านเงามืดและตรอกที่เล็กแคบและมืดมิดของพระราชวังอย่างเงียบกริบ ท้องฟ้ามืดมิดแสงจันทร์ที่แทรกซึมผ่านยอดไม้ใหญ่สร้างแสงสลัวบนทางเดินที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปช่วยให้พวกเขาเห็นทางไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้ชัดเจนขึ้น เส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านนั้นเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ชิงอี้หรานไม่อาจห้ามใจได้ที่จะรู้สึกแปลกใจกับความเงียบงันนี้ ไม่มีเสียงของทหารยาม ไม่มีเสียงขององค์รักษ์ ราวกับทุกอย่างถูกระงับเวลาไว้ท่ามกลางความมืดและความเงียบ ชิงหยางกระซิบถามชิงอี้หรานด้วยความเป็นห่วงที่แฝงไว้ในน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน "อี้หราน เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้วใช่ไหม" เสียงของเขาเบาและอ่อนโยน พยายามลดความกังวลใจที่นางมีชิงอี้หรานเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ คำตอบของนางแทบจะไม่มีเสียง "ข้าพร้อม ข้าต้องเห็นเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" คำพูดของหญิงสาวดูมั่นคงแต่ก็ประหนึ่งมีอะไรบางอย่างที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกัน

    บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกันหนึ่งวันก่อนการเดินทาง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมจนสิ้น ชิงอี้หรานนั่งเหม่อลอยอยู่ที่สวนภายในบ้าน สวนที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสและความงดงามของดอกไม้บัดนี้กลับดูเศร้าหมองตามความรู้สึกของนาง ใบหน้าของนางดูหม่นหมอง แววตาเศร้าสร้อยยิ่งนัก เสียงนกร้องขับกล่อม ลมที่พัดผ่านเบาๆ ทำให้บรรยากาศยิ่งเหงาหงอยชิงหยาง ชิงหลง ชิงเฟยต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขารับรู้เรื่องจากหลีซานเกี่ยวกับการที่หญิงสาวปฏิเสธชายหนุ่ม ทำให้พวกเขาต่างเข้าใจดีว่าภายในใจหญิงสาวมีใครที่แอบซ่อนไว้ ทั้งสามจึงได้แต่อดเป็นห่วงน้องสาวของตนชิงหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างรู้สึกเป็นห่วงน้องสาว เขาหยุดมองชิงอี้หรานอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปถามทั้งสองด้วยเสียงเคร่งเครียด "พวกเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะดีหรือ"ชิงหยางได้แต่ส่ายหน้า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล "อี้หรานแม้ภายนอกจะดูเรียบร้อยอ่อนโยน แต่พวกเจ้าก็รู้ดีว่านางดื้อรั้นมากเพียงใด"ชิงเฟยรีบถามกลับ "หรือเราควร...เอ่อ...ควรช่วยพวกเขากันดี"ชิงหยางได้ยินคำถามนี้ก็หันมองหน้าน้องชายด้วยสายตาโกรธขึ้ง "ชิงเฟย เจ้านี่นะ" เขาตำหนิด้วยเสียงเข้มชิงเฟยยกมือขึ้นลูบลำคอไปมา

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก

    บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก ในระหว่างที่ครอบครัวสกุลชิงเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกล แขกประจำบ้านสกุลชิงคงไม่พ้นหลีซาน ชายหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาพูดคุย ถามไถ่ รวมถึงช่วยตระเตรียมข้าวของอยู่เสมอแรกเริ่มเมื่อหลีซานถูกกักตัวอยู่ที่จวนของเขา ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวสกุลชิงอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากสืบถามข่าวคราวจากคนใกล้ชิด แต่ข่าวที่ได้รับมามักน้อยนิดและไร้ประโยชน์จนทำให้เขาเครียดและวิตกกังวลกระทั่งราชโองการประกาศเรื่องการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮา ในช่วงแรกที่ได้รับข่าวดังกล่าวหลีซานรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก ภาพความเป็นไปได้ที่ชิงอี้หรานอาจถูกทำร้ายหรือถูกกักขังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ความห่วงใยที่มีต่อหญิงสาวทำให้เขาไม่อาจนอนหลับได้อย่างสงบ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด แม้ภายหลังจวนของเขาเองจะไม่ถูกทหารควบคุมเช่นเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความกังวลในใจของเขาลดน้อยลงเลย เขาหวังว่าจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับชิงอี้หรานที่ปลอดภัย แต่ความเงียบงันอย่างผิดปกติยิ่งทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุขจนกระทั่งวันหนึ่ง ข่าวดีที่เขารอคอย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด

    บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด ภายในตำหนักที่เงียบสงบ ชิงอี้หรานพักฟื้นอยู่เกือบเดือน ตั้งแต่คืนนั้นหนิงซีโย่วก็ไม่เคยมาหาหญิงสาวอีกเลย ข่าวคราวเรื่องการกบฏถูกปิดเงียบไม่ปรากฏให้ผู้ใดได้รู้ เฉกเช่นไม่เคยเกิดเรื่องราวใดมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานหนิงซีโย่วมีราชโองการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮาชิงอี้หรานนั่งอยู่ที่หน้าต่างทอดสายตามองออกไปภายนอก รู้สึกเหมือนดวงตาของนางได้มองทะลุผ่านทุกสิ่ง หัวใจของนางเหมือนถูกดึงออกไปจากร่างกาย มีเพียงความเมินเฉยและความว่างเปล่าเพียงเท่านั้นซิวเอ๋อเดินเข้ามาหานายหญิงของตนด้วยความห่วงใย "คุณหนู ฝ่าบาทมิได้มาหาท่านตั้งแต่คืนนั้นอีกเลย ท่านยังคิดถึงฝ่าบาทอยู่หรือไม่"ชิงอี้หรานยังคงมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย "ความคิดถึงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ข้ารู้ว่าทั้งตัวข้าและซีโย่ว ไม่ว่าจะรักหรือแค้นก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันอีก จากกันวันนี้ก็คงดีกว่าต้องประหัตประหารกันจนใครคนใดคนหนึ่งต้องตายจาก"ซิวเอ๋อมองหญิงสาวด้วยความสงสาร "คุณหนู โปรดทบทวนอีกสักคราเถิด บางทีท่านและฝ่าบาทอาจจะสามารถหาทางแก้ไขแล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status