แชร์

ช่องทางชำระหนี้(2)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-09 03:29:43

สูดอากาศเข้าให้เต็มปอด ขันติๆ แต่ตอนนี้ขันแตกแล้ว มนสิชาเดินกระแทกไหล่จิน หั่ว อย่างแรงเพื่อให้เขาหลบทางให้

แล้วก้าวเดินลงบันไดไปอย่างเร็วตรงลิ่วไปที่โรงแรมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลทันที มีเพียงจิน หั่ว ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมนสิชาให้ทัน

โดยมีลูกน้องสองสามคนวิ่งตามหลังมา ตั้งแต่ทำงานกับคุณหวังมาไม่เคยมีใครจะมีปัญหาและปวดหัวได้เท่ากับยัยผู้หญิงคนนี้สักคน คุณหวังคิดอะไรของเขาอยู่จะต่อรองอะไรให้เสียเวลา

มนสิชาเดินมาถึงโรงแรมได้ก็เดินตรงดิ่งไปยังลิฟต์ VIP ที่เธอเคยขึ้นประจำเมื่อหลายวันก่อน แต่ก็ถูกพนักงานวิ่งมาดักไว้ ไม่ให้ขึ้นไปเพราะเธอยังไม่ได้แจ้งว่าขึ้นไปพบใคร และจะขึ้นไปด้วยจุดประสงค์อะไร อีกอย่างรายชื่อเธอก็ไม่ได้อยู่ในลิสต์แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า

“ฉันมาหา หวัง จาง...เหว่ย,,, “เธอเอ่ยชื่อลอดผ่านร่องฟันออกมาทีละคำ

“นัดไว้หรือเปล่าคะ”

“ไม่ได้นัดค่ะ แต่ฉันมีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับเขา”

“ถ้าไม่ได้นัด ก็ขึ้นไปพบไม่ได้ค่ะ”

มนสิชาถอนหายใจด้วยความเซ็ง แล้วหันกลับไปมองหน้า จิน หั่ว ที่เดินมาถึงพอดี เชิงบอกว่าจะเอายังไง

จิน หั่วจึงพยักหน้าให้พนักงานสาวว่าหลบทางให้เธอขึ้นไป หญิงสาวจึงหลบให้ด้วยท่าทางงงๆ ว่า เจ้าหล่อนเป็นใคร ถึงมีสิทธิพิเศษเข้านอกออกในได้

ทั้งๆ ที่ปกติจะถูกสั่งห้ามนัก ห้ามหนาว่าถ้าไม่ได้นัดไว้หรือไม่มีรายชื่อลงมาใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นไป แล้วยิ่งหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือหนาหูว่าเจ้านายถูกลอบยิง ทีมรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น

“ไอ้คนบ้าอำนาจ”

เปิดประตูมาได้คำสบถด่าคำแรกก็ถูกตะโกนใส่ หวัง จางเหว่ย ทันที

ชายหนุ่มที่กำลังนั่งหั่นเนื้อสเต๊กอยู่ มีดในมือถึงกับหยุดนิ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ก่อนจะส่งสายตาเย็นเฉียบ พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงไปให้

“ที่บ้านเธอไม่สั่งสอนเรื่องมารยาทว่าการจะเข้าห้องคนอื่นต้องเคาะประตูก่อนหรือไง”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แล้ววางมีดลงในจานอย่างช้าๆ เพราะหมดอารมณ์ที่จะกินแล้ว

“สอน แต่ไม่จำ ไม่ใช่สิเลือกที่จะมีมารยาทกับคนที่คู่ควรมากกว่า”

มนสิชาเดินมานั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานแล้ววางเอกสารลงตรงหน้า จิน หั่ว เดินตามเข้ามาแต่ก็ถูก จางเหว่ย ยกมือขึ้นห้ามเชิงประมาณว่าไม่ต้อง จิน หั่ว เห็นดังนั้นแล้วจึงหันหลังเดินกลับออกไป

“เธอ มีอะไร”

“สัญญาเลือดนี่มันคืออะไร คุณจะบ้าเหรอให้ฉันหาเงินมาคืนคุณทุกวันจนครบ 5 ล้าน ตอนที่ฉันตกลงกับคุณมันไม่ใช่แบบนี้”

“ก็ถูกแล้วนี่ เธอเป็นคนบอกเองว่าจะคืนเงินฉันให้ครบ 5 ล้าน ภายใน 6 เดือน”

“ก็ใช่ แต่ฉันหมายถึงทยอยจ่ายไง แบบมีมากจ่ายมาก มีน้อยจ่ายน้อย แต่นี่อะไรคุณให้ฉันหามาให้คุณทุกวัน แล้วฉันต้องหางานทำกี่อย่าง แล้วค่าแรงที่นี่ ชั่วโมงละ 32 ดอลลาร์ ต่อให้ฉันทำงานวันละ 18 ชั่วโมง ยอดเงินที่จะเอามาคืนคุณ คิดเป็นเงินไทยมันไม่กี่บาทเองนะ แล้วคิดดูสิเอาเงิน 20 ล้าน หาร ด้วย 6 เดือน ตกเฉลี่ยแล้วฉันต้องหาเงินมาคืนคุณทุกวัน วันละ 111,111 บาทเลยนะ ไม่มีที่ไหนบนโลกใบนี้หรอกที่จะให้ค่าแรงเยอะแบบนี้”

จางเหว่ย นั่งมองมนสิชาที่เอาแต่คำนวณตัวเลขด้วยท่าทางที่กระหืดกระหอบพร้อมทั้งสาธยายค่าแรงรายวันที่ต้องหามาคืนเขา พอมนสิชาเหลือบสายตามา ชายหนุ่มก็ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“พูดจบหรือยัง”

“ที่ฉันพูดมาทั้งหมดเนี่ย คุณไม่ได้คิดตามฉันเลยเหรอ” ใบหน้าเริ่มแดงก่ำด้วยความโมโห

“ฟังสิ ฉันก็ฟังเธอมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่งั้นเธอคงไม่ได้มานั่งด่าฉันอยู่แบบนี้หรอก ป่านนี้ ฉันเชือดเธอเป็นชิ้นๆ โยนลงบ่อจระเข้ที่ฉันเลี้ยงไว้ตั้งแต่วันแรกแล้ว”

จางเหว่ยพูดพร้อมกับใช้มีดที่หั่น สเต๊กจี้ไปที่คอขาวๆ ของมนสิชา ทำเอาหญิงสาวถึงกับหน้าซีด กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอแล้วก็กลบเกลื่อนความกลัวเอาไว้

“ก็ใคร ใช้ให้คุณตั้งสัญญาหน้าเลือดนั้นขึ้นมาทำไมละ ใครมันจะหาเงินวันละเป็นแสนๆ มาให้ทัน” จากเสียงแว้ดๆ ก็กลายเป็นน้ำเสียงเรียบๆ

“ฉันหน้าเลือดตรงไหน เธออ่านในสัญญาบรรทัดไหนที่ฉันบอกว่าเธอต้องเอาเงินมาใช้หนี้ฉันวันละแสน ฉันแค่บอกให้เธอเอาเงินมาใช้หนี้ฉันทุกวัน ต่อให้เธอเอาเงินมาให้ฉันวันละบาท ฉันก็รับแต่พอครบ 6 เดือนมันต้องครบ 20ล้าน”

จางเหว่ย พูดพร้อมกับเอามีดลงมาวางไว้ในจานเหมือนเดิม แต่สายตาที่มองมานั้น ทำให้มนสิชาหงุดหงิดในความเจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นที่สุด

“แต่ว่า.....”

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นละ หมดธุระแล้วใช่ไหม เชิญ!! อ้อ ถ้าเธอเอาเวลาที่มาวิ่งไล่ฉอดๆใส่หน้าฉันไปหางาน ป่านนี้เธอก็คงจะได้งาน ได้เงินแล้ว”

จางเหว่ย ยักคิ้วพร้อมกับกระตุกยิ้มกวนๆ ใส่มนสิชาไป 1ที เธอทำท่าปั้นปึ่ง ลุกขึ้นจะเดินออกไป แต่ท้องเจ้ากรรมที่ไม่มีอะไรไหลผ่านลำไส้ไปเลี้ยงดูพยาธิตัวน้อยเลยก็ดันร้องส่งเสียงเหมือนประท้วงว่า กูหิวข้าวโว้ย.....

“เดี๋ยว”

จางเหว่ยร้องเรียกหญิงสาวที่กำลังจะเดินออกไปพร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหา

“มีอะไรอีกล่ะ”

ด้วยความสูงของจางเหว่ย พอเดินมาอยู่ตรงหน้าแล้วเธอถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมอง พอสบสายตาเขาเท่านั้นแหละ คุณพระ พอมองใกล้ๆ แล้วความหล่อและผิวพรรณของเขาช่างดีจริงๆ ทำเอาเธอหัวใจเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ

“ฉันหิวข้าว”

จางเหว่ยพูดเหมือนเชิญชวนว่าไปกินข้าวกัน แต่ประโยคที่ออกมากลับเหมือนเป็นประโยคบอกเล่าเสียมากกว่า

“แล้วมาบอกฉันทำไม หิวก็ไปกินสิ เมื่อกี้เห็นกำลังกินอยู่นี่”

“ฉันไม่อยากกินสเต๊กแล้ว”

“ก็เรื่องของคุณอีกนั้นละ ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน”

มนสิชาพูดเสร็จก็หันหลังจะเดินออกมาจากห้อง จางเหว่ยจึงคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของหญิงสาวก่อนจะออกแรงดึงเบาๆ กึ่งเดินกึ่งลากเธอออกจากห้อง

“โอ๊ย คุณฉันเจ็บ จะลากฉันไปไหน ปล่อย “

เสียงโหวกเหวกโวยวายของมนสิชาดังไปทั่วบริเวณชั้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาผ่อนแรงที่จับแขนไว้ลงสักนิด

จางเหว่ย สั่งลูกน้องให้เอารถออก จิน หั่วได้แต่ทำหน้างงๆ ว่าเจ้านายจะออกไปไหน วันนี้ไม่มีตารางงานที่จะต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   ความผูกพัน(1)

    เรียวขายาวที่รับกับรูปร่างกำยำ ย่างก้าวเข้ามาใน อพาร์ทเม้นท์ ก็ทำเอาเหล่าพนักงานที่อาศัยอยู่ที่นี่ถึงกับแตกตื่น ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่หรือเปล่า เพราะท่านประธานหวังไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งหากแม้ว่าที่นี่มีปัญหาอะไรผิดพลาดจะมีเพียงแค่ลูกน้องปลายแถวที่ถูกส่งมาจัดการความเรียบร้อย เมื่อวันก่อนคุณจิน หั่ว มาที่นี่ว่าแปลกแล้ว แต่วันนี้ท่านประธานมาเองน่าแปลกเสียยิ่งกว่าจางเหว่ยเดินมาหยุดที่ประตูห้องหนึ่ง ก่อนจะเคาะห้องสองสามทีเพื่อให้คนด้านในรู้ว่ามีผู้มาเยือนแต่ก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยาของบุคคลที่อยู่ด้านในจะเดินมาเปิดประตูให้สักนิด เขาได้ยินเพียงเสียงดนตรีเพลงEDMที่จังหวะ ชวนให้ออกมาแดนซ์เสียมากกว่าจางเหว่ยยืนรออยู่นานและคิดว่าแม่สาวเจ้าที่อยู่ด้านในนั้นคงไม่ออกมาเปิดประตูให้เขาเป็นแน่ ใบหน้าคมจึงพยักหน้าให้ลูกน้อง ที่ยืนท่าสงบนิ่งอยู่ไม่ไกล เขาล้วงกุญแจสำรองออกมายื่นให้กับเจ้านายอย่างไว ราวกับรู้ใจนิ้วมือเรียวค่อยๆ ไขประตูลูกบิดเข้าไป วินาทีที่เปิดประตูออก จางเหว่ย ถึงกับตะลึงทางด้านลูกน้องที่ตามติดมาด้วยก็ถึงกับหันหลังให้กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามนสิชาที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว ซึ

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   หลบซ่อน

    “ พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม ที่นี่ FM 91.5….”เสียงคำขวัญประจำจังหวัดสกลนครที่ดังแว่วผ่านโฆษณาวิทยุธานินทร์สีดำเงา ของลุงกับป้าที่อายุราวๆ 50 ปี ซึ่งได้ศจีจ้างบุคคลทั้งสองมาตัดหญ้าที่บริเวณรอบๆ บ้านสวนในตำบลเล็กๆ ของอำเภอพรรณนานิคม“แม่คะ ตาว่าเรากลับไปรับพี่มนเถอะนะคะ”เรียวขายาวยังก้าวไม่ทันถึงคนเป็นมารดาด้วยซ้ำ กวิตาก็เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาคุยกับศจีทันที พอมาถึงสกลนคร เธอก็คะยั้นคะยอให้มารดาเล่าทุกอย่างให้ฟังกวิตาจึงรู้เรื่องแล้วว่า มารดาได้ติดหนี้การพนัน จนต้องเอาบ้านเอาที่ดินไปค้ำประกัน แถมยังทิ้งพี่มนเอาไว้ใช้หนี้แทนเธอเสียอีก“แกจะกลับไปให้พวกมันฆ่าทิ้งหรือไงหนีเอาตัวรอดมาได้ก็บุญแล้ว”“แล้วพี่มนละแม่ ที่เราทำอยู่ตอนนี้ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ พี่มนก็ลูกแม่นะ แม่ไม่ห่วงพี่มนเลยหรือไง”“ฉันรู้แล้ว กำลังคิดหาวิธีหาเงินกลับไปไถ่ตัวพี่แกอยู่นี้ไง”ศจีตัดบทสนทนา ไม่อยากฟังคำบ่นของลูกสาวคนเล็ก จึงเลี่ยงการต่อปากต่อคำแล้วเดินขึ้นมาบนห้องพระ ซึ่งมีรูปของสามีที่ตายไปแล้วตั้งอยู่อีกมุมของบ้านมื

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   ช่องทางชำระหนี้(3)

    “คุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย บอกให้ปล่อย”จางเหว่ย ไม่ตอบ แต่กลับผลักเธอเข้าไปในรถและสั่งคนขับให้ออกรถพร้อมกับบอกสถานที่ที่จะไป น่าจะเป็นที่ไหนสักแห่ง แต่เธอฟังเขาคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เพราะพวกเขาสนทนาเป็นภาษาจีนตลอดทางที่รถเคลื่อนตัวมาบนถนน มนสิชาก็เอาแต่บ่นกระปอดกระแปดมาตลอดทาง จนจางเหว่ยเองก็เริ่มรำคาญและหมดความอดทน จึงหันไปผลักเธอลงบนเบาะแล้วโถมตัวคร่อมไว้ มนสิชาเองถึงกับตกใจใบหน้าซีด“คะ คุณจะทำอะไร อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ นะ”“เธอจะหยุดพูดได้หรือยัง ฉันรำคาญ ถ้าเธอไม่หยุดฉันจะปิดปากเธอด้วยปากของฉันเอง”“แต่คุณ...”“ยังไม่หยุดอีก”สายตาดุๆ ที่จ้องมา ใบหน้ามึนตึง มนสิชาถึงกับเม้มปากมองเขาด้วยตาใสแจ๋วก่อนพยักหน้างึกๆ ให้บอกว่าจะไม่พูดแล้ว เขาเห็นว่าเธอเงียบสงบลงแล้ว จึงลุกขึ้นนั่งมนสิชาพอหลุดพ้นจากพันธนาการได้ก็เขยิบไปชิดติดกับประตูอีกฝั่งของเบาะรถทำตัวลีบเล็กหากสิงประตูได้คงทำไปแล้วจางเหว่ย แอบชำเลืองมองท่าทางนั้นแล้วหันหน้าหนี เผลออมยิ้มเบาๆ นึกว่าจะแน่ ไม่เก่งให้ตลอดนี่นาเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ จิน หั่ว ที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ เขาเห็นท่าทีของเจ้านายผ่านกระจกมองหลังในร

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   ช่องทางชำระหนี้(2)

    สูดอากาศเข้าให้เต็มปอด ขันติๆ แต่ตอนนี้ขันแตกแล้ว มนสิชาเดินกระแทกไหล่จิน หั่ว อย่างแรงเพื่อให้เขาหลบทางให้แล้วก้าวเดินลงบันไดไปอย่างเร็วตรงลิ่วไปที่โรงแรมที่ตั้งอยู่ไม่ไกลทันที มีเพียงจิน หั่ว ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมนสิชาให้ทันโดยมีลูกน้องสองสามคนวิ่งตามหลังมา ตั้งแต่ทำงานกับคุณหวังมาไม่เคยมีใครจะมีปัญหาและปวดหัวได้เท่ากับยัยผู้หญิงคนนี้สักคน คุณหวังคิดอะไรของเขาอยู่จะต่อรองอะไรให้เสียเวลามนสิชาเดินมาถึงโรงแรมได้ก็เดินตรงดิ่งไปยังลิฟต์ VIP ที่เธอเคยขึ้นประจำเมื่อหลายวันก่อน แต่ก็ถูกพนักงานวิ่งมาดักไว้ ไม่ให้ขึ้นไปเพราะเธอยังไม่ได้แจ้งว่าขึ้นไปพบใคร และจะขึ้นไปด้วยจุดประสงค์อะไร อีกอย่างรายชื่อเธอก็ไม่ได้อยู่ในลิสต์แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า“ฉันมาหา หวัง จาง...เหว่ย,,, “เธอเอ่ยชื่อลอดผ่านร่องฟันออกมาทีละคำ“นัดไว้หรือเปล่าคะ”“ไม่ได้นัดค่ะ แต่ฉันมีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับเขา”“ถ้าไม่ได้นัด ก็ขึ้นไปพบไม่ได้ค่ะ”มนสิชาถอนหายใจด้วยความเซ็ง แล้วหันกลับไปมองหน้า จิน หั่ว ที่เดินมาถึงพอดี เชิงบอกว่าจะเอายังไงจิน หั่วจึงพยักหน้าให้พนักงานสาวว่าหลบทางให้เธอขึ้นไป หญิงสาวจึงหลบให้ด้วยท่าทางงงๆ ว่

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   ช่องทางชำระหนี้(1)

    “ฮาโหล มน นั้น มนหรือเปล่า นี่มีนเองนะ”เสียงใสรอดผ่านปลายสายมาทันที ที่มนสิชากดรับ แค่ได้เห็นว่าเป็นเบอร์เพื่อนรักโทรข้ามประเทศมา เธอเองก็เหมือนเห็นแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์แล้ว“มีน มนอยากลับบ้าน “ เสียงแหบสั่นที่พยายามกลั้นน้ำเสียงสะอื้นเอาไว้“แกเป็นอะไรวะมน ใครทำอะไรแล้วแกร้องไห้ทำไม ทะเลาะกับคุณป้ามาเหรอ”“เปล่า มนถูกแม่กับน้องทิ้งไว้ที่ฮ่องกงอ่า มีน ........”เรื่องราวทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาให้มีนาฟัง เธอพรั่งพรูทุกอย่างออกมาด้วยความทุกข์ใจเพราะยังคิดไม่ออกเลยว่าจะหาเงินด้วยวิธีไหนมาใช้หนี้ให้ทันภายใน 6เดือนให้เจ้าหนี้อย่างหวัง จางเหว่ย“ทำไมคุณป้าใจร้ายแบบนี้นะ ให้ฉันไปยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือที่สถานทูตให้ไหม”“ไม่ได้นะมีน ถ้าทำแบบนั้นแม่กับน้องฉันได้ถูกพวกนั้นตามฆ่าตายแน่ๆ”“ทำไมแกต้องห่วงด้วยวะ พวกเขาทำกับแกขนาดนี้นะมน เฮอ แล้วฉันจะช่วยอะไรแกได้มั่งเนี่ย”มีนาถามออกมาด้วยความร้อนใจ และเป็นห่วงไม่คิดเลยว่าแม่แท้ๆจะทำกับลูกได้ เห็นแค่ในนิยายเจอเรื่องจริงก็กับเพื่อนตัวเองนี่ละ“ฉันต้องทำ ต้องหาเงินมาคืนเขาให้ได้ แต่มีนช่วยอะไรมนหน่อยได้ไหม”“ได้สิ ให้ช่วยอะไร ให้มีนบินไปหาตอน

  • หนี้ร้าง มาเฟียรัก   ใครเป็นคนทำ(เตือน) (2)

    หลังจากนั้นไม่นานลูกน้องก็หิ้วปีกของชายวัยกลางคนเข้ามา ใบหน้าที่มีรอยช้ำเหมือนถูกซ้อมมาไม่นาน พอเห็นว่าหวัง จางเหว่ยยืนอยู่ก็แทบคลานเข่า เข้าไปหา พร้อมกับร้องขอให้ไว้ชีวิต“มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ ทำไมสภาพคุณหมอถึงเป็นแบบนี้” เฟ่ยตง ถามออกไปด้วยความโมโหแต่ก็ทำอะไรไม่ได้“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเฟ่ยตงนะครับ คุณหวัง เขาไม่รู้เรื่องนี้”“ถ้างั้น ใครเป็นคนสั่งให้แกทำ”“ผมเองก็ไม่ทราบครับ ผมไม่ได้รู้จักกับพวกมือปืนนั้นเลย แต่มีคนส่งข้อความมาจ้างให้ผมผสมยาให้ ผมเห็นว่าเขาให้ค่าจ้างเยอะเลยตกลงยอมทำให้”หวัง จางเหว่ย หรี่ตามองทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องอย่างใช้ความคิด“ที่มันพูดมาน่าจะเป็นความจริงครับ เพราะเมื่อเช้าตอนที่ผมให้ลูกน้องไปลากมันมา มันกำลังหนีกลุ่มมือปืน สงสัยจะถูกตามมาฆ่าปิดปาก”จิน หั่ว เดินเข้ามาบอกเจ้านาย เพราะดูจากสภาพที่ถูกตามเช็ดล้างแล้วก็คงจะเป็นเรื่องจริง“แล้วคนที่จ้างให้แกทำงาน แกเห็นหน้ามันไหม”“ผมไม่เห็นครับ มันใช้วิธีส่งข้อความมาหรือไม่ก็โทรมา ส่วนค่าจ้างมันก็ให้ผมไปเอาที่ตู้ฝากของที่สถานีรถไฟใต้ดิน”“แกแน่ใจนะว่าพูดความจริง ถ้าฉันจับได้ว่าแกโกหก แกจะไม่เหลือลมหายใจบนโลกใบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status