คริสต์พูดกับพี่ชายของเขาหากทว่าสายตาคู่นั้นกลับจ้องมองไปที่ภิณไลย์ญาซึ่งในเวลานั้นเธอหลบตามองต่ำราวกับว่าไม่อยากสบตากับใครแม้แต่คนเดียวในวงสนทนาที่ทำให้ดูเหมือนว่าเธอเป็นส่วนเกินของครอบครัวนี้ ครอบครัวของมหาเศรษฐีและมันทำให้คนต่ำต้อยเช่นเธอยิ่งดูตัวเล็กไปถนัดใจ ตอนแรกภิณไลย์ญาคิดว่านิโคลัสจะพาเธอกับโซอี้ไปที่บ้านพักส่วนตัวของเขาที่ไหนสักแห่งแต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะพาเธอมาที่นี่คฤหาสน์ของตระกูลซาเวียร์และทำให้เธอต้องกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้ข้องแวะกับชีวิตของเขาอีกแล้ว นิโคลัสกำลังคิดอะไรอยู่เธอไม่รู้และไม่อาจหยั่งเห็นไปถึงจินตนาการของเขา แต่เท่าที่รู้ตอนนี้เธอเหมือนสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาท่ามกลางวงสังคมของคนมีเงิน ภิณไลย์ญาเริ่มอึดอัดจนเผลอบีบมือของโซอี้แน่นขึ้นและทำให้เด็กหญิงรู้สึกได้ โซอี้เงยหน้ามองคนข้าง ๆ แต่ก่อนที่เด็กหญิงจะอ้าปากถามก็ได้ยินเสียงคริสเอ่ยขึ้นว่า
“โซอี้...สวัสดีจ้ะ เป็นยังไงบ้าง...จำอาคริสได้ไหม?”
คริสก้าวเข้าไปและนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งในช่วงเวลานั้นเองภิณไลย์ญาก็รีบปล่อยมือจากเด็กหญิงและขยับไปยืนห่างจากนั้นสองถึงสามก้าว โซอี้จ้องมองคริสและมีสีหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิด
“หนูจำไม่ได้ค่ะ...คุณอาเป็นใคร...เราไม่เคยเจอกันนี่คะ”
“เราไม่เคยเจอกันหรอก...เอ้อ...แต่ว่าอาน่ะเคยเห็นหนูนะ”
“เคยเห็นที่ไหน”
คริสลูบเรียนผมสีแดงมะฮอกกานีนุ่มนิ่มของเด็กหญิงประกายตาของเขาฉายความรักและความเอ็นดูออกมาท่วมท้นจนทำให้แม้แต่ภิณไลย์ญาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นท่าทีของเขา คริสยิ้มกับเด็กหญิงและจับมือทั้งสองของเธอไว้ในอุ้งมือหนาแกร่งของเขา
“อาเคยเห็นหนูตั้งแต่แรกเกิด หนูจำไม่ได้หรอก ตอนนี้หนูน่ารักมาก หนูน่ารักมากจริง ๆ ขออากอดหนูจะได้ไหม”
“แด๊ดดี้ขา ให้อาคริสกอดหนูได้ไหม”
โซอี้หันไปถามนิโคลัสซึ่งเขาเองก็ยิ้มอ่อนโยนกับเด็กหญิงพร้อมทั้งพยักหน้าแทนคำตอบและพอโซอี้หันกลับมายังคริสอีกครั้งเขาก็ดึงร่างน้อยเข้าไปไว้ในอ้อมแขนกอดเด็กหญิงเอาไว้แนบแน่น ใบหน้านั้นฉายความปีติออกมา ความรู้สึกสุขใจล้นท่วมขึ้นมาหากแต่ภาพที่อบอุ่นในสายตาของนิโคลัสและภิณไลย์ญากลับเป็นภาพที่สร้างแรงกระเพื่อมในอารมณ์ให้กับลาริสา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคริสถึงดูท่าทางใส่ใจและรักเด็กคนนี้ทั้งที่เป็นลูกสาวของนิโคลัส เธอเข้าใจว่านิโคลัสเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเขาแต่คริสแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาดีใจมากขนาดไหนที่ได้เห็นหน้าแม่หนูน้อยซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติสำหรับเธอ
คริสกอดโซอี้ไว้ชั่วขณะแล้วเขาก็ค่อย ๆ คลายวงแขนเด็กหญิงมองเขาด้วยประกายตาไร้เดียงสาแต่แล้วนิโคลัสก็กล่าวขึ้นว่า
“ฉันพาโซอี้กลับมาอยู่ที่นี่และจะเตรียมให้แกเข้าโรงเรียนที่นี่ด้วย”
“ก็ดีสิครับพี่ โซอี้จะได้มาอยู่ใกล้ ๆ ผม...ผมอยากเจอแกมาตั้งนานแล้ว แต่ว่า...โซอี้ก็ต้องปรับตัวใหม่อีกนะครับพี่”
“ฉันรู้ แต่แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคริสต์ โซอี้น่ะจะมาอยู่ที่นี่โดยมีพี่เลี้ยงที่จะคอยดูแล...คือเนเน่”
คริสขยับลุกขึ้นก็จ้องมองไปที่หญิงสาวซึ่งยืนอยู่ด้านหลังพี่ชายของเขา แววตาคู่นั้นมีอะไรบางอย่างฉายวาบขึ้นมา มันมีทั้งความแปลกใจ ตกใจและไม่อยากเชื่อ
“เนเน่จะมาเป็นพี่เลี้ยงของโซอี้เหรอครับ?”
“ใช่...เธอจะมาอยู่คอยดูแลโซอี้ คอยเป็นพี่เลี้ยงก่อนที่โซอี้จะเข้าโรงเรียนและในช่วงนี้ฉันจะให้สถาปนิกออกแบบบ้านให้แกกับลาริสา แกอยากจะได้ทำเลที่ไหนสวย ๆ ก็บอกฉันได้เลย หรือว่าอยากจะได้เป็นห้องชุดหรือเพ้นท์เฮ้าส์จะได้อยู่กับเมียของแกได้อย่างเป็นอิสระยังไงล่ะ”
“ขอบคุณครับ แต่เรื่องบ้านของผมกับลาริสาผมคิดว่าจะจัดการเองครับ”
นิโคลัสหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีชมพูเล็ก ๆ และเมื่อเขาเปิดมันออกก็ทำให้เป็นภิณไลย์ญาดวงตาเบิกกว้างเพราะภายในนั้นเป็นแหวนแพลตตินัมประดับเพชรแม้เม็ดไม่ใหญ่แต่ประกายของมันก็ล้อเล่นกับแสงแดดอุ่นที่สาดส่องลงมาอาบไล้ เขาบรรจงหยิบมันและสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภิณไลย์ญาก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากของเขาบนเรือนแหวนที่อยู่บนนิ้วของเธอหญิงสาวมองดูราวกับไม่อยากเชื่อสายตา นิโคลัสเงยหน้าขึ้นและเอ่ยว่า“คริสเคยบอกผมเหมือนกันว่าคนอย่างผมคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นค่าของเงินเป็นใหญ่ ผมไม่เคยคิดถึงใคร แต่ตอนนี้ผมอยากพิสูจน์ให้น้องชายของผมได้เห็นว่าผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยว่าเอาไว้ ผมอาจจะเลวร้ายกับคุณมาก่อนแต่คนเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นี่ไม่ใช่เหรอ คุณอาจไม่ต้องอภัยให้ผมวันนี้ มันอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ว่าแต่คุณจะยินยอมให้โอกาสนั้นกับผมไหม”“บอกแล้วไงคะว่าฉันต่ำต้อยมากเกินไป คนที่ต้องขอร้องโอกาสคุณเป็นฉันมากกว่าที่จะร้องขอจากคุณ”“ผมจะไม่ให้คุณร้องขออะไร แต่เป็นผมที่จะต้องขอร้องคุณ”นิโคลัสทรุดตัวลงนั่
“แต่ฉันยังเป็นหนี้คุณนะคะนิค ฉันเป็นหนี้คุณตั้ง 3 ล้านดอลลาร์ ฉันจะพยายามหามันมาใช้คุณ”“ลืมเรื่องนั้นไปเถอะนะ รู้หรือเปล่าว่าจริง ๆ ผมลืมมันไปตั้งนานแล้ว”“ฉันรู้ค่ะนิคว่าเงินสำคัญสำหรับคุณเสมอและไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลืมมันได้ง่าย ๆ”“อยากรู้ไหมว่าผมลืมมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมลืมมันไปตั้งแต่ที่คุณเป็นของผมครั้งแรก”เธอเม้มปากแน่นน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว“คุณคงอยากให้ฉันดีใจ คุณคงแค่อยากจะปลอบใจฉัน”“เปล่าเลย...นี่เป็นคำสารภาพแบบโง่ ๆ ของคนที่ไม่เคยมีและไม่เคยเห็นค่าในความรักอย่างผม แม้แต่จะพูดคำนี้ก็ยังไม่เคย ผมได้แต่ภาวนาขอให้คุณเข้าใจ”“ฉันเข้าใจว่าคุณไม่เคยรักใครไม่เคยจริงจัง”“ผมอาจจะไม่เคยรักใครอย่างที่คุณว่าแต่ผมไม่เคยหลอกผู้หญิงเล่น ๆ และคุณก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมได้เห็นคุณค่าของความรักจากที่ผมรู้จักแต่งการใช้เงิน รู้ไหมว่าตอนที่คริสต์อยากจะใช้หนี้แทนคุณมันทำให้ผมโกรธมาก ผมรู้ว่าผมกำลังหึงคุณและคิดบ้าๆ ว่าคริสมันคงอยากได้คุณกลับคืนไป ผมลืมไปว่าสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่ได้มีแค่เรื่องนั้น แต่มันหมายถึงความรักและความหวังดี คริสหวังดีกับคุณมากกว่าที่จะรู้สึกรั
“ผมยอมรับนะว่าตอนแรกตกใจมากที่รู้เรื่องระหว่างคุณกับนิคแต่มันก็ทำให้ผมมาคิดได้ในหลาย ๆ เรื่องว่าที่ผ่านมาหลาย ๆ เหตุการณ์และเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมมันก็ล้วนเกิดขึ้นมาจากตัวผมเองและคนที่เข้ามาคอยจัดการให้ผมทุกสิ่งทุกอย่างก็คือพี่ชายของผม บางทีถ้าเราสองคนยังรักกันมันก็อาจจะทำให้ผมไม่ได้คิดถึงสิ่งสวยงามที่สุดที่ผมทอดทิ้งไปนานนั่นก็คือโซอี้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องเลิกกับลาลิสาแต่มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรับผิดชอบและมันทำให้ได้มองเห็นตัวเอง มองเห็นความจริงว่าถ้าหากผมยังไม่กล้าคิดและตัดสินใจคงจะไม่มีวันค้นพบว่าต้องจัดการชีวิตตัวเองยังไงบ้างการไปอยู่ฝรั่งเศสมันเกิดจากการเลือกของผมเองและนิคก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้โซอี้ไปอยู่กับผมเพราะอย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังมีคุณกับชีวิตเล็ก ๆ”“ฉันกับเขาไม่คู่ควรกัน เหมือนที่เขามองฉันกับคุณว่าไม่คู่ควร ฉันต่ำต้อยเหลือเกินค่ะคริส ฉันคิดว่า...”“ว่าไงล่ะคริส...จะไปกันแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มห้าวที่ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของคริสและภิณไลย์ญาแต่โซอี้กลับกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น นิโคลัสช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นอุ้มและจูบแ
“คุณอาคริสจะพาหนูไปฝรั่งเศสค่ะ”โซอี้เป็นฝ่ายตอบขณะที่นั่งอยู่บนตักของคริส เขาโอบกอดหนูน้อยเอาไว้และจูบแก้มยุ้ยเบาๆแสดงความรักความห่วงใยพร้อมกันนั้นก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา“ผมจะมารับโซอี้ไปฝรั่งเศสวันนี้ นี่ก็ให้คนของผมจัดกระเป๋ากับของใช้เรียบร้อยแล้ว พวกเขารอผมอยู่ที่สนามบิน”กล่าวจบเขาก็จับเด็กหญิงให้เลื่อนลงจากตักและนั่งบนโซฟา เขาลุกขึ้นและก้าวเข้าไปหาภิณไลย์ญาซึ่งตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีละมุนตา คริสหยุดยืนตรงหน้าเธอ รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนมุมปากได้รูป“เป็นยังไงบ้าง คุณสบายดีแล้วใช่ไหม?”“ฉันสบายดีค่ะ ว่าแต่คุณเถอะค่ะ คุณจะไปฝรั่งเศสแล้วจะพาโซอี้ไปด้วยเหรอคะ”“ใช่...ผมจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสและรับตำแหน่ง CEO ของบริษัทในเครือของซาเวียร์กรุ๊ปที่นั่น”“คุณลาริสาไปด้วยใช่ไหมคะ พวกคุณเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ”เขาส่ายหน้าและตอบว่า “ผมหย่ากับลาลิสาแล้ว เราเพิ่งหย่ากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”“ว่ายังไงนะคะ! คุณหย่ากับลาริสา...คุณพระ...เธอคงโกรธเรื่องของฉันอย่างนั้นสินะคะ ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะคริส ฉันไม่ตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกหักกันอย่างนี้เลย”เขาส่ายหน้าอีก
“คุณน้าเนเน่นอนพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูจะเช็ดตัวให้คุณน้านะคะ”โซอี้กระวีกระวาดทำเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด เด็กหญิงวิ่งออกไปจากห้องนั้นนิโคลัสจึงหันมาทางภิณไลย์ญาที่นอนบนเตียงโดยมีเขานั่งอยู่ข้าง ๆ“ผมรู้ว่าคุณไม่สบายและต้องการพักผ่อน”“ใช่...ฉันต้องการพักผ่อนแต่เป็นบ้านของฉันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากกลับบ้าน ถ้าคุณไม่ว่างไปส่งฉันก็เรียกคนขับรถของคุณให้พาฉันไปส่งก็ได้ค่ะนิค”“วันนี้คนของผมไม่มีใครว่างหรอกนะ”“ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก คุณอยากจะกักตัวฉันไว้ที่นี่ หรือว่าถ้าคุณอยากจะให้ฉันอยู่ที่นี่ก็ให้ฉันกลับไปที่บ้านก่อนแล้วฉันจะบอกแม่ฉันว่าฉันต้องออกมาทำงานท่านจะได้เข้าใจจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”“ท่านไม่เป็นห่วงคุณหรอกนะ ท่านรู้ว่าคุณอยู่กับโซอี้และผมก็อยากจะขอร้องให้คุณอยู่กับแกที่นี่คืนนี้”“ด้วยเหตุผลอะไรกันคะ ได้โปรดเถอะค่ะ คุณไม่ควรจะใช้คำว่าขอร้องกับฉันเพราะนี่เป็นการบังคับ”“OK… ถ้าคุณอยากจะกลับก็ได้แต่โซอี้จะรู้สึกยังไงในเมื่อแกคิดว่าคุณไม่สบายและแกก็ตั้งใจที่จะดูแลคุณ ถ้าคุณกลับไปมันก็เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจแก”“คุณกำลังสร้างเงื่อนไขและกำลังกดดันฉันอยู่นะคะ”“ผมพูดความจริงต่างหากและมันก
“ คุณคิดแบบนั้นเหรอเนเน่”“ ใช่ค่ะ...และฉันก็คิดถูกใช่ไหมคะ ฉันพูดถูกทุกอย่าง ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณจะไม่สูญเสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะฉันจะไม่ผิดสัญญาเรื่องที่จะหาเงินมาชดใช้ให้คุณ”“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ผิดสัญญาแต่คุณก็ผิดคำพูดกับผม ““แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันทำยังไงคะนิค ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปแล้ว”ภิณไลย์ญาเผลอร้องไห้ออกมาและทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องน้ำ เธอกอดเข่าแล้วร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง ตอนนี้หัวใจของเธอแหลกสลายทั้งจากความผิดหวังและร่างกายที่ยิ่งนับวันยิ่งอ่อนแอ เธอดูเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอกและถึงทางตันของชีวิต นิโคลัสทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ จ้องมองร่างเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนแทบขาดใจแต่ภิณไลย์ญาก็ไม่ส่งเสียงออกมาดัง ๆ เธอกดเก็บตัวเองไว้เพราะกลัวโซอี้จะได้ยินแต่ในเวลานี้เธอช่างดูอ่อนแอและเป็นภาพที่ฉุดรั้งความรู้สึกของนิโคลัสให้ยิ่งดำดิ่ง เขารู้ตัวดีว่าทำให้เธอเจ็บช้ำอย่างสาหัสหากทว่าคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากลับเป็นเขาเสียเอง ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือเพื่อลูบเรือนผมของภิณไลย์ญาที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้นั้นก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นข้างหลั