นิโคลัส ซาเวียร์ เจ้าพ่อธุกิจนำเข้าและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของอเมริกา ผู้ชายที่ไม่เคยสนใจว่าความรักมีค่ามากเกินกว่าวัตถุสิ่งของ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคน ยอมเอาตัวเองแลกกับเศษเงินของมหาเศรษฐีเพื่อความสบาย เขาจึงไม่เคยยอมรับพริตตี้สาวที่ คริสต์ น้องชายคนเดียวไปติดพันด้วย กีดกั้นเธอออกจากชีวิตของน้องชาย ดูหมิ่นและเหยียดแคลนเธอสารพัด ถึงที่สุดแล้วจอมมารอย่างเขาก็ไม่ยอมวางมือง่าย ๆ ทำทุกวิถีทางที่จะบดขยี้หัวใจ ของผู้หญิงที่สุดท้าย...ทำให้เขาต้องตกหลุมพรางตัวเอง
View More“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
เสียงจากเบาะด้านหลังทำให้คนขับรถแท็กซี่ค่อย ๆ ชะลอความเร็วรถและจอดลงที่หน้าประตูรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ก่อนร่างบอบบางในชุดเสื้อเทรนช์โค้ทสีน้ำตาลพาสเทลจะเปิดประตูและก้าวลงไป
“จะให้ผมกดแตรเรียกคนในบ้านหรือเปล่าครับคุณผู้หญิง?”
คนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคนถามขึ้นเมื่อลดกระจกลงและรับค่าโดยสารจากหญิงสาวที่สะพายกระเป๋าและหิ้วถุงของขวัญขนาดใหญ่ ภิณไลย์ญามองลอดรั้วเข้าไปยังทางเดินทอดตัวยาวไปยังบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์สร้างจากหินอ่อนสะท้อนประกายระยับใต้แสงแดดส่องและหันไปตอบว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก เดี๋ยวดิฉันกดกริ่งเรียกเองค่ะ”
เมื่อเธอบอกเช่นนั้นคนขับจึงปิดกระจกและขับรถออกไปทิ้งไว้แต่ร่างแน่งน้อยที่ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ขณะเดินไปกดกริ่งประตูของบ้านซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านคนรวยอย่างเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ สักครู่จึงมีชายร่างใหญ่ในชุดสูทเดินมาเปิดประตู
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าต้องการมาพบใครหรือครับ?”
“ดิฉันมาเยี่ยมน้องสาวน่ะค่ะ...เอ้อ...ลลิล...”
“คุณลาริมาร์นะหรือครับ ไม่ทราบว่าได้นัดไว้ก่อนหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ”
“ขอทราบชื่อของคุณหน่อยครับ”
“ภิณไลย์ญาค่ะ”
“สักครู่นะครับ”
ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาใครคนหนึ่งเพื่อรายงานว่ามีใครมา ดูเหมือนการมาเยี่ยมเยียนคนที่เธอต้องการพบจะเป็นเรื่องซับซ้อนสักหน่อยซึ่งเธอก็เข้าใจและยอมรับว่าการมาหาลลิลซึ่งแม้จะเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเธอเป็นภรรยาของพัลเลเดียม ล็อค มหาเศรษฐีติดอันดับของอเมริกาทำให้ต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลและตรวจสอบคนเข้าออกในบ้าน และที่สำคัญลลิลพึ่งคลอดลูกเมื่อไม่กี่วันมานี้นี่เอง สักครู่ชายคนนั้นจึงวางสายโทรศัพท์และบอกว่า
“ขอเชิญคุณภิณไลย์ญาด้านในครับ”
หญิงสาวแทบจะถอนใจยาวถ้าหากไม่เกรงใจเพราะโล่งอกที่ได้เข้าไปยังคฤหาสน์สุดหรูของเพื่อนสาวรุ่นน้อง วันนี้เธออุตส่าห์ไม่รับงาน นั่นคือการเป็นพริตตี้ในงานโชว์ของบริษัทยานยนต์ก็เพื่อมาที่นี่ ร่างบอบบางเดินตามชายร่างใหญ่เข้าไปกระทั่งถึงห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงขานเรียกดังขึ้น
“พี่เนเน่...พี่เนเน่มาจริงๆ ด้วย”
ร่างเล็กในชุดแสกยาวสีหวานวิ่งเข้ามากอดภิณไลย์ญาที่ยิ้มอ่อนหวานเมื่อได้เห็นรุ่นน้องสาวมีท่าทีแข็งแรงดี
“เฮ้...ลิล...นี่ลิลพึ่งคลอดลูกเหรอจ๊ะ ดูซี หน้าตาไม่มีร่องรอยความซีดเซียวอิดโรยเลยนะ ดูสดใสมาก ๆ เลย”
“ลิลคลอดลูกเองนะคะ ก็เลยฟื้นตัวได้เร็วมาก ดีใจที่สุดเลยค่ะที่พี่เนเน่มาเยี่ยมลิลถึงที่นี่”
“พี่ก็ดีใจนะที่ได้เจอลิล วันนี้พี่อุตส่าห์หยุดงานทุกอย่างเลยเพื่อเยี่ยมลิลโดยเฉพาะ และนี่จ้ะของขวัญของหลานสาวพี่”
ภิณไลย์ญายื่นถุงใส่ของขวัญขนาดใหญ่ให้ขณะสายตาคู่นั้นมองข้ามไหล่ลลิลไปยังเปลไกวเด็กอ่อนซึ่งมีพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลใกล้ ๆ ลลิลยิ้มกว้าง
“ขอบคุณมากนะคะพี่เนเน่ ทั้งที่งานพริตตี้ของพี่รัดตัวมากขนาดนี้ก็ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมน้องกับลูก”
“ไม่ได้หรอกนะ” อีกฝ่ายกอดลลิลไว้แน่น “พี่จะไม่มาดูน้องสาวของพี่ได้ยังไง งานรัดตัวขนาดไหนพี่ก็จัดตารางเวลาได้นะจ๊ะ อืม...แล้วนี่คุณพัลเลเดียมล่ะ เขาอยู่หรือเปล่า?”
“อาพีทยังไม่กลับค่ะ แต่เห็นบอกว่าวันนี้จะเลื่อนประชุม”
“เขาคงเป็นห่วงเมียกับลูก เลยอยากกลับมาไวๆ ลิลโชคดีมากรู้ไหมที่ได้สามีน่ารักอย่างเขา”
ลลิลยิ้มแต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรบอดี้การ์ดคนเดิมก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งรายงานว่า
“ขอโทษนะครับคุณลาริมาร์ มีแขกมาเยี่ยมคุณอีกคนครับ”
“ใครหรือคะลอยด์”
“คุณนิโคลัส ซาเวียร์ครับ”
เมื่อได้ยินชื่อนั้นภิณไลย์ญาก็ต้องชะงักทว่าลลิลกลับไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนรุ่นพี่ เธอกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม
“จริงเหรอคะ แล้วตอนนี้นิคอยู่ที่ไหน”
“ผมอยู่นี่ครับ ลาริมาร์”
เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน ลลิลผละจากพริตตี้สาวและเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่ภูมิฐาน ภิณไลย์ญาแค่เหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคร้ามของบุรุษร่างสูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นต์ นัยน์ตาประกายทองแดงจัดเหมือนสีผมหยักศกของเขาที่เคยมองพริตตี้สาวอย่างเหยียดแคลนจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวร่างเล็กซึ่งเป็นภรรยาของเพื่อนสนิท ท่าทางลลิลตื่นเต้นกับการมาของอีกหนึ่งบุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็นอภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูของอเมริกาที่ทั้งหล่อเหลารุ่มรวยด้วยเสน่ห์ ใบหน้าคมเข้มราวเทพบุตรหากแต่สำหรับภิณไลย์ญาแล้วนิโคลัส ซาเวียร์คือจอมมารที่ใช้อำนาจเงินระรานผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอไม่วายเว้นโทษฐานที่เธอเคยผูกใจรักกับ คริสต์ ซาเวียร์ น้องชายคนเดียวของเขา
นิโคลัสหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีชมพูเล็ก ๆ และเมื่อเขาเปิดมันออกก็ทำให้เป็นภิณไลย์ญาดวงตาเบิกกว้างเพราะภายในนั้นเป็นแหวนแพลตตินัมประดับเพชรแม้เม็ดไม่ใหญ่แต่ประกายของมันก็ล้อเล่นกับแสงแดดอุ่นที่สาดส่องลงมาอาบไล้ เขาบรรจงหยิบมันและสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภิณไลย์ญาก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากของเขาบนเรือนแหวนที่อยู่บนนิ้วของเธอหญิงสาวมองดูราวกับไม่อยากเชื่อสายตา นิโคลัสเงยหน้าขึ้นและเอ่ยว่า“คริสเคยบอกผมเหมือนกันว่าคนอย่างผมคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นค่าของเงินเป็นใหญ่ ผมไม่เคยคิดถึงใคร แต่ตอนนี้ผมอยากพิสูจน์ให้น้องชายของผมได้เห็นว่าผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยว่าเอาไว้ ผมอาจจะเลวร้ายกับคุณมาก่อนแต่คนเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นี่ไม่ใช่เหรอ คุณอาจไม่ต้องอภัยให้ผมวันนี้ มันอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ว่าแต่คุณจะยินยอมให้โอกาสนั้นกับผมไหม”“บอกแล้วไงคะว่าฉันต่ำต้อยมากเกินไป คนที่ต้องขอร้องโอกาสคุณเป็นฉันมากกว่าที่จะร้องขอจากคุณ”“ผมจะไม่ให้คุณร้องขออะไร แต่เป็นผมที่จะต้องขอร้องคุณ”นิโคลัสทรุดตัวลงนั่
“แต่ฉันยังเป็นหนี้คุณนะคะนิค ฉันเป็นหนี้คุณตั้ง 3 ล้านดอลลาร์ ฉันจะพยายามหามันมาใช้คุณ”“ลืมเรื่องนั้นไปเถอะนะ รู้หรือเปล่าว่าจริง ๆ ผมลืมมันไปตั้งนานแล้ว”“ฉันรู้ค่ะนิคว่าเงินสำคัญสำหรับคุณเสมอและไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลืมมันได้ง่าย ๆ”“อยากรู้ไหมว่าผมลืมมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมลืมมันไปตั้งแต่ที่คุณเป็นของผมครั้งแรก”เธอเม้มปากแน่นน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว“คุณคงอยากให้ฉันดีใจ คุณคงแค่อยากจะปลอบใจฉัน”“เปล่าเลย...นี่เป็นคำสารภาพแบบโง่ ๆ ของคนที่ไม่เคยมีและไม่เคยเห็นค่าในความรักอย่างผม แม้แต่จะพูดคำนี้ก็ยังไม่เคย ผมได้แต่ภาวนาขอให้คุณเข้าใจ”“ฉันเข้าใจว่าคุณไม่เคยรักใครไม่เคยจริงจัง”“ผมอาจจะไม่เคยรักใครอย่างที่คุณว่าแต่ผมไม่เคยหลอกผู้หญิงเล่น ๆ และคุณก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมได้เห็นคุณค่าของความรักจากที่ผมรู้จักแต่งการใช้เงิน รู้ไหมว่าตอนที่คริสต์อยากจะใช้หนี้แทนคุณมันทำให้ผมโกรธมาก ผมรู้ว่าผมกำลังหึงคุณและคิดบ้าๆ ว่าคริสมันคงอยากได้คุณกลับคืนไป ผมลืมไปว่าสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่ได้มีแค่เรื่องนั้น แต่มันหมายถึงความรักและความหวังดี คริสหวังดีกับคุณมากกว่าที่จะรู้สึกรั
“ผมยอมรับนะว่าตอนแรกตกใจมากที่รู้เรื่องระหว่างคุณกับนิคแต่มันก็ทำให้ผมมาคิดได้ในหลาย ๆ เรื่องว่าที่ผ่านมาหลาย ๆ เหตุการณ์และเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมมันก็ล้วนเกิดขึ้นมาจากตัวผมเองและคนที่เข้ามาคอยจัดการให้ผมทุกสิ่งทุกอย่างก็คือพี่ชายของผม บางทีถ้าเราสองคนยังรักกันมันก็อาจจะทำให้ผมไม่ได้คิดถึงสิ่งสวยงามที่สุดที่ผมทอดทิ้งไปนานนั่นก็คือโซอี้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องเลิกกับลาลิสาแต่มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรับผิดชอบและมันทำให้ได้มองเห็นตัวเอง มองเห็นความจริงว่าถ้าหากผมยังไม่กล้าคิดและตัดสินใจคงจะไม่มีวันค้นพบว่าต้องจัดการชีวิตตัวเองยังไงบ้างการไปอยู่ฝรั่งเศสมันเกิดจากการเลือกของผมเองและนิคก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้โซอี้ไปอยู่กับผมเพราะอย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังมีคุณกับชีวิตเล็ก ๆ”“ฉันกับเขาไม่คู่ควรกัน เหมือนที่เขามองฉันกับคุณว่าไม่คู่ควร ฉันต่ำต้อยเหลือเกินค่ะคริส ฉันคิดว่า...”“ว่าไงล่ะคริส...จะไปกันแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มห้าวที่ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของคริสและภิณไลย์ญาแต่โซอี้กลับกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น นิโคลัสช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นอุ้มและจูบแ
“คุณอาคริสจะพาหนูไปฝรั่งเศสค่ะ”โซอี้เป็นฝ่ายตอบขณะที่นั่งอยู่บนตักของคริส เขาโอบกอดหนูน้อยเอาไว้และจูบแก้มยุ้ยเบาๆแสดงความรักความห่วงใยพร้อมกันนั้นก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา“ผมจะมารับโซอี้ไปฝรั่งเศสวันนี้ นี่ก็ให้คนของผมจัดกระเป๋ากับของใช้เรียบร้อยแล้ว พวกเขารอผมอยู่ที่สนามบิน”กล่าวจบเขาก็จับเด็กหญิงให้เลื่อนลงจากตักและนั่งบนโซฟา เขาลุกขึ้นและก้าวเข้าไปหาภิณไลย์ญาซึ่งตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีละมุนตา คริสหยุดยืนตรงหน้าเธอ รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนมุมปากได้รูป“เป็นยังไงบ้าง คุณสบายดีแล้วใช่ไหม?”“ฉันสบายดีค่ะ ว่าแต่คุณเถอะค่ะ คุณจะไปฝรั่งเศสแล้วจะพาโซอี้ไปด้วยเหรอคะ”“ใช่...ผมจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสและรับตำแหน่ง CEO ของบริษัทในเครือของซาเวียร์กรุ๊ปที่นั่น”“คุณลาริสาไปด้วยใช่ไหมคะ พวกคุณเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ”เขาส่ายหน้าและตอบว่า “ผมหย่ากับลาลิสาแล้ว เราเพิ่งหย่ากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”“ว่ายังไงนะคะ! คุณหย่ากับลาริสา...คุณพระ...เธอคงโกรธเรื่องของฉันอย่างนั้นสินะคะ ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะคริส ฉันไม่ตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกหักกันอย่างนี้เลย”เขาส่ายหน้าอีก
“คุณน้าเนเน่นอนพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูจะเช็ดตัวให้คุณน้านะคะ”โซอี้กระวีกระวาดทำเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด เด็กหญิงวิ่งออกไปจากห้องนั้นนิโคลัสจึงหันมาทางภิณไลย์ญาที่นอนบนเตียงโดยมีเขานั่งอยู่ข้าง ๆ“ผมรู้ว่าคุณไม่สบายและต้องการพักผ่อน”“ใช่...ฉันต้องการพักผ่อนแต่เป็นบ้านของฉันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากกลับบ้าน ถ้าคุณไม่ว่างไปส่งฉันก็เรียกคนขับรถของคุณให้พาฉันไปส่งก็ได้ค่ะนิค”“วันนี้คนของผมไม่มีใครว่างหรอกนะ”“ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก คุณอยากจะกักตัวฉันไว้ที่นี่ หรือว่าถ้าคุณอยากจะให้ฉันอยู่ที่นี่ก็ให้ฉันกลับไปที่บ้านก่อนแล้วฉันจะบอกแม่ฉันว่าฉันต้องออกมาทำงานท่านจะได้เข้าใจจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”“ท่านไม่เป็นห่วงคุณหรอกนะ ท่านรู้ว่าคุณอยู่กับโซอี้และผมก็อยากจะขอร้องให้คุณอยู่กับแกที่นี่คืนนี้”“ด้วยเหตุผลอะไรกันคะ ได้โปรดเถอะค่ะ คุณไม่ควรจะใช้คำว่าขอร้องกับฉันเพราะนี่เป็นการบังคับ”“OK… ถ้าคุณอยากจะกลับก็ได้แต่โซอี้จะรู้สึกยังไงในเมื่อแกคิดว่าคุณไม่สบายและแกก็ตั้งใจที่จะดูแลคุณ ถ้าคุณกลับไปมันก็เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจแก”“คุณกำลังสร้างเงื่อนไขและกำลังกดดันฉันอยู่นะคะ”“ผมพูดความจริงต่างหากและมันก
“ คุณคิดแบบนั้นเหรอเนเน่”“ ใช่ค่ะ...และฉันก็คิดถูกใช่ไหมคะ ฉันพูดถูกทุกอย่าง ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณจะไม่สูญเสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะฉันจะไม่ผิดสัญญาเรื่องที่จะหาเงินมาชดใช้ให้คุณ”“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ผิดสัญญาแต่คุณก็ผิดคำพูดกับผม ““แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันทำยังไงคะนิค ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปแล้ว”ภิณไลย์ญาเผลอร้องไห้ออกมาและทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องน้ำ เธอกอดเข่าแล้วร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง ตอนนี้หัวใจของเธอแหลกสลายทั้งจากความผิดหวังและร่างกายที่ยิ่งนับวันยิ่งอ่อนแอ เธอดูเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอกและถึงทางตันของชีวิต นิโคลัสทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ จ้องมองร่างเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนแทบขาดใจแต่ภิณไลย์ญาก็ไม่ส่งเสียงออกมาดัง ๆ เธอกดเก็บตัวเองไว้เพราะกลัวโซอี้จะได้ยินแต่ในเวลานี้เธอช่างดูอ่อนแอและเป็นภาพที่ฉุดรั้งความรู้สึกของนิโคลัสให้ยิ่งดำดิ่ง เขารู้ตัวดีว่าทำให้เธอเจ็บช้ำอย่างสาหัสหากทว่าคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากลับเป็นเขาเสียเอง ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือเพื่อลูบเรือนผมของภิณไลย์ญาที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้นั้นก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นข้างหลั
Comments