"อะไรนะ! นี่เธอว่าไงนะอิง ตาเจตน์น่ะหรือนอนเมาหัวทิ่มอยู่ในห้องเธอ"
"ค่ะคุณท่าน เมื่อคืนหนูนอนไม่หลับแล้วเปิดหนังดู พอตอนออกไปเอาขนมเข้ามากินก็เลยเจอคุณเจตน์เข้า คุยกันเรื่องหนังแล้วคุณเจตน์ก็เลยบอกว่าเขาก็ดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เลยว่าจะดูด้วยกันต่อ ทำไปทำมาไม่รู้ท่าไหนคุณเจตน์หอบเบียร์เข้าไปด้วยเฉย จากนั้นก็เริ่มฟูมฟายเมาหัวทิ่มเลยค่ะ"
อิงรดาเล่าไปด้วยน้ำเสียงยเจือด้วยความเศร้าน้อยๆ เหตุก็เพราะว่ายังนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ถูกจิรายุทั้งดึงเข้าไปกอดจูบลูบคลำ จนถูกเธอตบจนหน้าคว่ำไม่หาย และที่ตอนนี้เธอกล้าเล่าหรือว่าจำเป็นต้องเล่านั้นก็เป็นเพราะว่าตั้งแต่แรกอิงรดาถูกคุณกนกวรรณสั่งเอาไว้ ว่าต่อไปนี้ไม่ว่าจิรายุจะทำอะไรให้เธอคอยรายงานความเคลื่อนไหวมาให้หมด แน่นอนว่าในขณะที่จิรายุยังคงหลับอุตุไม่ตื่น แต่ผู้หญิงสูงอายุทั้งสองคนนั้นตื่นลงมาใส่บาตรกันแล้ว หากว่าเธอไม่บอกไป ยังไงเสียตอนที่ฝ่ายนั้นเดินออกจากห้องเธอมา คุณกนกวรรณและยายนางผู้เป็นยายของเธอก็ต้องเห็น สู้เธอเล่าไปเลยตอนนี้ยังจะดีกว่า เพราะถึงยังไงเสีย ต่อให้เธอและจิรายุจะนอนห้องเดียวกัน มันก็ไม่มีทางที่จะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิง
"แล้วเพราะอะไรตาเจตน์มันถึงได้มาหัวทิ่มแบบนั้น แล้วเจ้านั่นมันได้ทำอะไรเธอหรือเปล่า"คุณกนกวรรณถามอิงรดาหน้าเครียดถึงสาเหตุการเมาของหลานชาย
"ก็ เปล่าหรอกค่ะ" อิงรดาพูดปด หากแต่จะบอกว่าตนเองเกือบถูกจิรายุปล้ำกอดไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อฝ่ายนั้นทั้งเมา แถมยังไม่ใช่ผู้ชาย พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เลยเลือกเก็บไว้ดีกว่า
"คุณเจตน์แค่อกหักค่ะ บอกว่าความรักไม่สมหวัง เลยถูกแฟนบอกเลิกเพื่อไปแต่งงานใหม่ สาเหตุหลักๆเลยเป็นเพราะว่าคุณเจตน์ให้สถานะที่ชัดเจนกับคนรักไม่ได้ แฟนคุณเจตน์ไม่อยากอยู่แบบหลบๆซ่อนๆอีกค่ะ" พออิงรดาเล่าจบคุณกนกวรรณก็ตบหน้าขาตัวเองฉาดใหญ่ เพราะสิ่งที่เคยคิดเอาไว้นั้นเป็นไปตามที่คาด
"ฉันว่าแล้วไง ว่าตาเจตน์กับเพื่อนมันต้องมีอะไรกันจริงๆด้วย ตาเจตน์นะตาเจตน์รูปร่างทั้งหล่อทั้งหน้าตาดี ไม่น่ามีรสนิยมแบบนี้ไปได้ ฉันอยากจะบ้าตาย แทนที่มันจะหาเมียได้เป็นโขยง ดันริอาจจะอยากมี ผ.."
คุณกนกวรรณหยุดคำพูดไว้เพียงแค่นั้นทันทีเมื่อหันไปเห็นว่าคนที่ตนกำลังพูดถึงนั้นเดินออกจากห้องเธอมา อิงรดานั่งก้มหน้าอยู่หลบตา บอกตามตรงว่าเธอยังไม่กล้ามองหน้าเขา ไม่รู้ว่าจิรายุจะรู้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไป และถูกเธอทำอะไรไปบ้าง
"ตื่นแล้วหรือไงพ่อตัวดี รู้ตัวหรือเปล่าว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป"
"ป้าไก่ครับ ยายนาง คือว่าเมื่อคืนผม.."
จิรายุพูดเพียงเท่านั้นก็เงียบไป สายตาคมจ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าลงและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาด้วยความสงสัยว่าเมื่อคืนระหว่างเขาและเธอเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือเปล่า จำได้แค่เพียงว่าเมื่อคืนเขาตามอิงรดาเข้าไปดูซีนี่ย์ในห้องเธอด้วยแล้วก็หยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องติดมือเข้าไป จากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อเขาจำไม่ได้จริงๆ นอกจากรอยอะไรแดงๆที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าในตอนเช้าซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองยังอยู่ในห้องของอิงรดา แต่เจ้าตัวนั้นไม่อยู่แล้ว สิ่งเดียวที่เขาค่อนข้างจะมั่นใจว่าระหว่างเขาและเธอนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยก็คือตอนที่ตื่นมาเสื้อผ้าเขายังอยู่ครบดีทุกตัว
"ผมจำอะไรไม่ได้เลยครับ"
"เจ้าอิงมันบอกว่าเมื่อคืนแกเมาแล้วไปพร่ำพรรณาเรื่องความรักที่ไม่สมหวังของแกมันจริงหรือเปล่า แกไปมีความรักอะไรที่ไม่สมหวังกับใครซ่อนไว้ที่ไหนกันตาเจตน์ ทำไมถึงไม่เคยบอกป้า"
จิรายุหันขวับไปมองหน้าอิงรดาทันที แต่จนแล้วจนรอดคนที่ถูกเอ่ยถึงก็ยังคงนั่งก้มหน้าไม่เงยขึ้นมามองเขา คงจะเพราะกลัวว่าจะถูกเขาตำหนิ
"ผมนี่เหรอครับที่ทำแบบนั้น"
"ก็แกน่ะสิ บอกป้ามานะว่าคนรักของแกเป็นใคร" คุณกนกวรรณทำเป็นกลั้นใจถามหลานชายออกไปทั้งๆที่ในใจนั้นก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคนรักของหลานชายคือใคร
"ก็..ไม่มีนี่ครับ ผมยังไม่ได้มีใคร"
"นี่แกคิดจะปิดบังป้าไปถึงเมื่อไหร่ตาเจตน์"
"ก็ถ้าผมบอกไปแล้วป้าไก่จะรับได้หรือครับ"
"นี่หมายความว่าแกแอบมีคนรักจริงๆใช่ไหม ใครแกบอกป้ามานะ"
"ผมขอไม่เอ่ยถึงเขาก็แล้วกันนะครับ ไหนๆผมกับก็จบกันไปสักพักแล้ว หรืออีกอย่างถึงผมกับเขาจะยังไม่จบกัน ยังไงเสียป้าไก่ก็คงไม่มีทางให้ผมคบกันกับเขาหรอก"
ใช่จริงๆด้วย ในที่สุดจิรายุก็ยอมรับออกมาแล้วว่าตัวเองแอบคบหากันกับนพนนท์ ดูท่าว่าคุณเจตน์ของเธอน่าจะรักฝ่ายนั้นมาก ดูจากอาการเมามายเมื่อคืนแล้วเขาคงเสียใจมากน่าดู
"นี่ตกลงแกยอมรับแล้วจริงๆหรือตาเจตน์ว่าแก..(เป็นเกย์"
"ครับผมยอมรับ(ว่าผมแอบคบหากับคนที่คุณป้าไม่มีทางยอมรับได้)"
"อกอีแป้นจะแตก ตายแล้วยายนางแกฟังมันสิ ในที่สุดตาเจตน์มันก็ยอมรับออกมา โอ๊ยฉันจะเป็นลม"
จากนั้นทุกอย่างก็อย่างก็ชุลมุนวุ่นวายเมื่ออยู่ๆคุณกนกวรรณก็ทำท่าลมใส่ล้มลงไปบนโซฟา เป็นอันว่าถึงกับต้องเรียกรถพยาบาลมากันเลยทีเดียว และได้ข้อสรุปว่าหมอให้นอนโรงพยาบาลต่อหนึ่งคืนเนื่องจากว่าผู้ป่วยค่อนข้างจะสูงอายุแล้ว โดยยายนางบอกว่าให้เธอกับจิรายุกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ทางนี้ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะว่ามีพยายาบาลพิเศษเฝ้าดูแลอย่างดี
ระหว่างทางกลับบ้านจิรายุไม่พูดกับเธอสักคำ ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไรเธอเรื่องนั้นหรือเปล่า ทำเอาอิงรดาได้แต่สงสัยแต่ก็ยังไม่กล้าถาม จนกระทั่งเขาพูดออกมา
"ทำไมเธอถึงได้เอาเรื่องของฉันไปเล่าให้ป้าไก่ฟังแบบนั้น รู้หรือเปล่าว่าป้าไก่สุขภาพไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น พอมารู้เรื่องอะไรแบบนี้เข้าเดี๋ยวคุณป้าจะช็อกเอาได้ ฉันไม่อยากให้ป้าไก่ต้องไม่สบายใจเพราะเรื่องของฉัน"
จิรายุไม่ได้โกรธเธอ หากแต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบราบเรียบในขณะที่สายตายังคงโฟกัสไปบนท้องถนน อิงรดาฟังแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด จากที่ต้องการอยากจะช่วยทุกคนแท้ๆเชียว ทำไปทำมาเธอกลับเป็นคนทำทุกอย่างให้ยุ่งเหยิง
"คือว่า หนูขอโทษค่ะคุณเจตน์ หนูแค่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้" อิงรดายกมือขึ้นไหว้ขอโทษเขาตาปรอย
"อื้ม ช่างมันเถอะ ทีหน้าทีหลังทำอะไรก็คิดหน่อยก็แล้วกัน แค่นี้ฉันก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว ไม่อยากให้ป้าไก่ต้องเป็นอะไรไปเพราะฉันน่ะ"
"หนูขอโทษจริงๆค่ะ ทีหลังหนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"
อิงรดารับปากจิรายุเสียงอ่อน ในเมื่อยังไม่รู้เลยว่าต่อไปเรื่องราวจะเป็นยังไง หน้าที่ที่ถูกมอบหมายนั้นเธอควรต้องทำต่อหรือไม่ หรือว่าจะหยุดทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้ดี
"หนูท้องจริงๆด้วยค่ะคุณเจตน์""อะไรนะ นี่พูดจริงหรือเปล่าอิง""สองขีดชัดเจนขนาดนี้โกหกได้ด้วยเหรอคะ"อิงรดาชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่ปรากฎสัญลักษณ์สองขีดที่อยู่ในมือชููยื่นให้จิรายุดู ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอมีอาการแปลกๆ เอาแต่เวียนหัวหงุดหงิดวิงเวียนเป็นว่าเล่น ดึกๆดื่นๆก็ชอบตื่นลุกขึ้นมาหาอะไรกินทั้งที่นอนหลับไปแล้ว จนจิรายุเองยังเคยแอบแซวว่าสงสัยเธอคงจะท้องแล้วแน่ๆยิ่งพอได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน รายนั้นก็ชอบจับเธอกินทั้งเช้าและค่ำ บางทีดึกดื่นค่ำมืดกว่าจะได้หลับได้นอนก็ปาไปเกือบค่อนคืน ทั้งทีเธอเองก็บอกไปแล้วว่าให้เขาเพลาๆลงหน่อย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด กว่าจะถึงฤกษ์ก็ต้องรออีกตั้งสองเดือนถึงจะถึงวันที่คุณกนกวรรณหาเอาไว้ให้ เธอเลยกลัวว่าป่านนั้นตัวเองจะได้ท้องโย้ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน"เย้!ในที่สุดลูกพ่อก็มาสักที แบบนี้ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าจิรายุก็มีน้ำยา นึกว่าจะต้องอับอายขายขี้หน้าคนแถวนี้เสียแล้วว่าฉันทำลูกไม่เป็น"จิรายุกระโดดเย้วๆอยู่สามสี่ทีก็วิ่งกลับมาอุ้มเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ อิงรดาอดขำไม่ได้ที่จิรายุยังจำได้อยู่ว่าเธอแกล้งล้อเขาว่าอะไร เพราะตั้งแต่ที่ตั้งใจมีอะไรกันไปแบบไม่มีกา
"แกต้องรับผิดชอบยายอิง"นั่นคือคำประกาศิตที่คุณกนกวรรณพึ่งจะประกาศออกไป อิงรดายังคงนั่งก้มหน้าโดยมีจิรายุหลานชายของเธอนั่งจับมือไว้ คงจะเป็นเพราะว่าเด็กนั่นกลัวทำให้เธอและผู้เป็นยายผิดหวังเสียใจ จึงไม่กล้าเงยหน้าสบตา หากแต่ว่าความจริงเป็นอย่างไร คงจะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังคงส่งนักสืบเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของอดีตสามีที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือ นันที อดีตแม่บ้าน ด้วยความที่ยังคงรักและเป็นห่วง บวกกับที่เธอได้ข่าวมาว่าพักหลังมานี้อดีตสามีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนักและออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่ และไม่ได้ใส่ใจดูแลอดีตสามีของเธออย่างที่ควรจะเป็น จนอดีตสามีของเธอรู้เข้าก็เริ่มตรอมใจ เธอเองด้วยความที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บอกตามตรงก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เลยยังแอบดูแลให้ความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้ใครรู้แต่พอสืบไปสืบมา นอกเหนือจากเรื่องสามี ความจริงบางอย่างที่เธอได้รับรู้เพิ่มมาอีกอย่างด้วยก็คือ พ่อหลานชายตัวดี ยังคงติดต่อคบหากับเอมมิกาลูกสาวของนันที
ไม่ใช่แค่อิงรดาที่หน้าเหวอ แต่เอวารินที่โทรมาอยู่ในสายก็หน้าเหวอตกใจไปตามๆกัน แถมฝ่ายนั้นยังจะถามจิรายุซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกต่างหาก จนได้ฟังคำตอบรอบที่สองของจิรายุไป ทำเอาอิงรดาถึงกับต้องรีบแย่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกจิรายุแย่งไปคืนกลับมา'น้องแอลฟังไม่ผิดหรอกครับ พี่บอกว่าอิงเป็นแฟนพี่ หรือว่าจะเอาให้ชัดๆเลยก็คือ อิงเป็นเมียพี่ครับ'"คุณเจตน์พูดแบบนั้นกับคุณแอลไปได้ยังคะ""ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันพูดความจริง หรือเธอจะเถียงอีกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"จิรายุหน้ายุ่งคิ้วยุ่งสวนกลับคนตัวเล็กทันทีที่เธอแหวมา ก็จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ ยอมทนเห็นแฟนตัวเองถูกคนอื่นจีบเฉยๆอย่างนั้น ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตามอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาล่ะ คอยดูเถอะ นี่ขนาดยังไม่ได้คบกันออกหน้าออกตาเขายังหวงเธอขนาดนี้ วันไหนที่มีโอกาสได้ประกาศความเป็นเจ้าของขึ้นมา รับรองว่าอิงรดาจะไม่มีทางได้เหลียวมองใคร"แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่คะ"อิงรดาน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงราวกับว่าหมดอะไรตายยาก ในเมื่อตอนนี้เธอเองไม่สามารถแสดงสิทธิ์ในการครอบครองเขาได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสถานะความสัมพันธ์ระหว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นก้องอยู่ภายในห้องครัว ยิ่งอิงรดาส่งเสียงกระเส่าครวญครางออกมาเท่าไหร่ เเรงกระแทกที่ถูกส่งไปก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทันที่ผละออกจากริมฝีปากหวานได้ สายตาคมของเขาก็ก้มจ้องลงมายังจุดสอดประสาน อิงรดามองภาพจิรายุซี๊ดปากหน้านิ่วที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของเขาและเธอก็เกิดความเสียวซ่านบวกกับความอาย จิรายุเองก็เลือกที่จะมองสลับกันบนล่าง ใบหน้างดงามที่กำลังเสียวซ่านของอิงรดา สลับกับจุดเชื่อมประสานกลางกาย"อ่าส์ แน่นดีมากๆเลยอิง ได้มองหน้าเธอสลับกับมองนมไปด้วยแบบนี้ ขยับแค่ไม่กี่ทีฉันก็เกือบจะเสร็จแล้ว""แน่ใจเหรอคะว่าคุณเจตน์มองแค่หน้าหนูแล้วก็มองนม หนูเห็นว่าคุณเจตน์ชอบมองลงไป..ข้างล่าง""ก็อันนั้นฉันก็อยากเห็นไงว่าร่างกายของเราสองคนเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน ว่าแต่เธอยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า""ไม่เจ็บแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่..เสียว"อิงรดายิ้มหวานตาหยี พร้อมกับใบหน้ายู่ยี่แล้วจึงแลบลิ้นน้อยๆออกมา พอจิรายุเห็นเข้าก็รีบตามเข้าไปประกบดูดปากอย่างไว ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงซอยขยับเรียกเสียงครางหวานๆ อิงรดาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขที่จิรายุมอบให้ จนเผลอปล่อยเสียงครางออกมาเป็นที
"แล้วคุณเจตน์กับพี่เอม เอ่อ คบกันมานานแล้วเหรอคะ""อื้ม เป็นสิบปีแล้ว แต่ก็คบๆเลิกๆ บางทีเลิกกันไปปีสองปีแล้วก็กลับมาคบกันใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตัดเอมออกไปจากชีวิตจริงๆไม่ได้บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า เราเป็นคนแรกของกันและกัน""คุณเจตน์กับพี่เอม เป็นคนแรกของกันและกัน" อิงรดาเผลอพูดย้ำซ้ำคำนั้นออกมาเสียงเบา ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ลึกๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆน้อยๆสามสี่ทีเพื่อไล่เอามวลน้ำตาที่กำลังทำท่าว่าจะเอ่อทะลักขึ้นมา กระนั้นถ้าหากตอนนี้เขาได้จ้องมองเข้ามาในดวงตาก็คงจะเห็นได้ถึงร่องรอยความแดงของมัน"เธอหึงฉันเหรออิง น้อยใจฉันอยู่หรือเปล่า""ปละ เปล่านี่คะ""แต่ถ้าเธอจะบอกว่าหึงแทนคำว่าเปล่า คำนั้นมันอาจจะทำให้ฉันดีใจมากกว่าก็ได้นะ"จิรายุเองก็มองมาที่เธอตาละห้อยสร้อยเศร้า ทั้งในใจก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าความรู้สึกที่อิงรดามีต่อตนเองนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า หากแต่ก็ทำได้เพียงแค่เว้าวอนว่าขอให้เธอชอบเขาจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เขาชอบเธอ"คุณเจตน์ อยากให้หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ""อื้ม อยาก เพ
'ถ้าเธออยากจะยกเลิกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ห้ามกินยาคุมฉุกเฉินเด็ดขาด รอจนกว่าประจำเดือนจะมา ถ้าประจำเดือนมาเธอก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องมาตกลงกัน'อิงรดานั่งเหม่อกับข้อเสนอแกมคำสั่งล่าสุดของจิรายุอยู่ที่บริเวณใต้ร่มไม้หน้าบ้านอย่างหมดไร้ซึ่งหนทางและไม่เข้าใจเลยว่าจิรายุจะบังคับเธอไปทำไม ในเมื่อการมีลูกกับเธอนั้นก็ไม่ได้ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เพราะการที่เธอยอมตกลงทำเรื่องอะไรกับเขาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้นก็คือความต้องการของคุณกนกวรรณต่างหาก บวกกับความสงสารและแอบมีเขาเข้ามาอยู่ในใจ ด้วยความที่อยากจะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เธอยอมรับปากอะไรออกไปแบบนั้น การที่เธอยินยอมที่จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้เข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายของเธอได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอรักเขา แล้วเขาล่ะ รักเธอก็ไม่ได้รัก ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิดเพศผิดปกติอะไรเสียหน่อย ทำไมถึงต้องรั้งเธอไว้ด้วยเรื่องแบบนี้ ไม่รู้บ้างเลยหรือไงว่าแค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วภายใต้ความทึบของม่านกรองแสงผืนยาวบนชั้นสอง เรือนร่างสูงใหญ่ยืนเอียงตัวพิงบานกระจกหนามองทะลุผ่านเงาสะท้อนออกไปยังด้านนอก เพื