Share

บทที่ 11

last update Last Updated: 2025-09-13 18:52:47

ตอนที่ 9 : เปิดเผยตัวตน

หลายวันต่อมา

“กลับก่อนนะคะ ไว้เจอกันวันจันทร์” ฉันบอกลาบรรดาเพื่อนและรุ่นพี่แผนกเดียวกันในช่วงเย็นเมื่อได้เวลาเลิกงานในวันศุกร์ของสัปดาห์ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันยังคงทำงานได้อย่างปกติ ถึงจะมีความรู้สึกแปลกๆกับเจ้านายหนุ่มหลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำตัวปกติใส่ฉัน ยังคงยิ้มให้กับพนักงานทุกคนเหมือนเดิม ราวกับไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นอย่างไงอย่างงั้น สายตาและรอยยิ้มชวนขนลุกในวันนั้นก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันพยายามสังเกตปฏิกิริยาของเขาและเลขาข้างกายทุกอย่างก็ยังคงปกติ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมวันนั้นดนัยถึงเดินไปหน้าห้องน้ำหญิงแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังหาคำตอบของเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน

ฉันเองก็ยังหาคำตอบเรื่องพนักงานที่ชื่อนพไม่ได้ ยังคงรับรู้แค่ว่าเขาลาออกตามที่ติดป้ายประกาศ ถ้ามองในแง่ที่ฉันอยากให้เป็นสายตาของฉันอาจจะตาฝาดไปเองที่ได้เห็นเป็นรูปของพนักงานคนนั้น แต่สิ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจคือทำไมเจ้านายหนุ่มถึงมีภาพศพที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่บนโต๊ะทำงาน มันคงไม่ใช่ของที่น่าสะสมเลยสักนิด ฉันเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้กับใครเพราะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ไม่มีใครเชื่อว่าผู้ชายรูปหล่อ มีหน้ามีตาทางสังคม ดูสุขุมเป็นขวัญใจของใครหลายคนจะเก็บภาพศพที่เต็มที่ด้วยเลือดนั้นไว้ดูเล่นเป็นแน่ แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาเหมือนกัน

ไม่นานรถเก๋งสีขาวขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับหญิงสาววัยพึ่งเข้าสู่วัยทำงานแล่นออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง

"เย็นวันศุกร์รถติดแบบนี้ตลอดเลย และแล้วก็มืดจนได้" ริมฝีปากบางบ่นพึมพำอยู่ภายในรถยนต์ส่วนตัวที่พึ่งถอยออกมาได้ไม่นานจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ถนนเบื้องหน้า การจราจรในช่วงเย็นหลังเลิกงานมักเป็นแบบนี้เสมอ ก่อนจะปรายตามองนาฬิกาภายในรถที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้วและท้องฟ้าก็เริ่มลดแสงลงเรื่อยๆจนกลายเป็นความมืด

"ที่แท้ก็ปิดถนนเพราะเกิดอุบัติเหตุนี่เอง" ฉันปรายตามองเหตุการณ์ตรงหน้าและเลี้ยวรถไปอีกทางตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทางไว้ให้ ทำให้รถทุกคันต้องตามกันไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่ทางหลักที่ฉันใช้กลับบ้านในทุกวัน แต่ก็สามารถทะลุหากันได้แต่ค่อนข้างที่จะอ้อมและเปลี่ยวถ้ามาเพียงคันเดียวโดดๆ โชคดีที่วันนี้มีเพื่อนร่วมทางทำให้ฉันเบาใจไปได้เยอะ

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...จากถนนสี่เลนถูกบีบให้เหลือสองเลนสวนกัน ก่อนหน้านี้ยังมีรถของคนอื่นขับตามกันมา แต่ ณ ปัจจุบันบนถนนเส้นนี้กลายเป็นว่ามีเพียงรถของฉันคันเดียวที่กำลังแล่นอยู่ อยู่ๆเรื่องเล่าต่างๆของถนนเส้นนี้ก็ผุดขึ้นในหัว หลายครั้งที่ได้ยินข่าวอุบัติเหตุจากถนนเส้นนี้และส่วนใหญ่ก็หมดลมหายใจจากที่เกิดเหตุ ภายในรถตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศด้านนอกมืดสนิทมีเพียงแสงสว่างจากไฟส่องถนนเแผ่นระยะเท่านั้น ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ดึกมากแต่บรรยากาศโดยรอบทำเอาฉันเสียวสันหลังแปลกๆ ข้างทางมีต้นไม้สลับกับบ้านคนอย่างกับกำลังขับอยู่ต่างจังหวัดแต่ความเป็นจริงเป็นเพียงถนนเลี่ยงเมืองแค่นั้น ดวงตากลมโตชำเลืองมองกระจกหลังเป็นระยะด้วยความหวาดระแวง มือบางที่จับพวงมาลัยเหงื่อเริ่มซึมออกมาจนรู้สึกได้

"แยกหน้าก็ถึงทางตัดเข้าเส้นทางหลักแล้วแก้มใส หยุดคิดฟุ้งซ่าน" มือซ้ายเอื้อมไปเปิดเพลงเพื่อทำให้บรรยากาศไม่เงียบมากเกินไป เสียงเพลงเคล้าคลอทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่แล้วแสงไฟจากด้านหลังสาดส่องเข้ามาจนทำให้ดวงตากลมโตชำเลืองมองกระจกหลัง เห็นรถคันหลังจี้เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ฉันเลือกที่จะเบี่ยงหลบเข้าไหล่ทางพอที่คันหลังจะแซงขึ้นไปได้ และก็ใจชื้นขึ้นมานิดเมื่อมีรถคันอื่นอยู่บนถนนเส้นเดียว

"หื้ม..." คิ้วทั้งสองข้างขมวดเป็นปมเมื่อเบี่ยงรถให้คันหลังแซงแต่รถยนต์คันหลังยังคงจี้ท้ายไม่ลดละ ฉันพยายามเบี่ยงซ้ายเข้าข้างทางให้ชิดกว่าเดิมและชะลอความเร็วลง แต่คันด้านหลังก็เบี่ยงตามดูเหมือนจะชะลอความเร็วตามไปด้วย แสงไฟสาดส่องเข้ามาจากด้านหลังทำเอาสายตาพร่ามัวไม่สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนของรถคันนั้นได้ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำไม่หยุดเมื่อเห็นถึงสถานการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล และสมองก็สั่งให้เท้าเล็กเหยียบคันเร่งเพื่อหนีห่าง

บรื้นนนน...

แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด รถคันหลังที่ดูเหมือนจะคันใหญ่และสูงกว่าทรงรถกระบะขนาดใหญ่ยังคงตามไม่เลิกราวกับตั้งใจจะมาหาเรื่อง

บรื้นนนน...

เลขไมล์พุ่งไปถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแต่ก็ยังไม่มีทางที่จะหนีพ้น

"เรื่องบ้าอะไรอีกวะเนี่ย" ฉันสบถออกมาอย่างหัวเสีย แรงเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่าและเป็นครั้งแรกที่ฉันเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์ขนาดนี้ แต่แล้วนัยส์ตากลับวูบไหวเมื่อเห็นแสงไฟจากรถคันหน้าสาดส่องเข้ามา เป็นไฟที่ไม่ได้อยู่ในเลนตัวเองและแสบตาจนต้องหยี๋ตาพยายามมองทางพร้อมกับควบคุมรถ และมันก็สายเกินไปที่จะเหยียบเบรคให้หยุดได้ทันเวลาเมื่อคันตรงหน้าตั้งใจขับพุ่งเข้ามา ไฟสีขาวสาดส่องใบหน้าหวานและแยงนัยส์ตาทั้งสองข้างจนไม่สามารถจะต้านทานไหว

"กรี๊ดดดด...."

เอี๊ยดดดด…โคล้ม!

เสียงกรีดร้องดังลั่นพร้อมกับการเบรคกะทันหันทำให้ล้อเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณ และสุดท้ายรถเก๋งรุ่นมาตรฐานที่มีหญิงสาวร่างเล็กเป็นคนขับพุ่งลงข้างทางชนกับต้นไม้ใหญ่อย่างจังราวกับเลือกจุดที่จะให้รถยนต์คันนี้พุ่งลงไปชนไว้ตั้งแต่แรก สภาพรถเก๋งสีขาวด้านหน้าพังยับไอความร้อนระบายขึ้นจนเกิดควันขาวราวกับหมอกจางๆ

"อึก..." หน้าผากมนกระแทกกับพวงมาลัยอย่างจัง แรงอัดกับความแรงที่ขับมาทำเอาร่างกายจุกจนร้องออกมาไม่มีเสียง ขาทั้งสองข้างชาจนไม่สามารถขยับได้ ใบหน้าหวานค่อยๆเงยขึ้นมาทั้งที่สติเริ่มขาดหาย ภาพทุกอย่างเบลอไปหมดแต่กลิ่นคาวเลือดกลับคละคลุ้งไปทั่วบ่งบอกว่าตอนนี้ใบหน้าของฉันคงเต็มไปด้วยเลือด น้ำตาไหลออกมาจากหางตาเมื่อหน้าพ่อแม่ลอยเข้ามาในหัว เปลือกตาที่หนักอึ้งเริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ

รถกระบะโฟร์วิลคู่กรณีที่ขับไล่มาจอดดูสถานการณ์อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุก่อนจะลงจากรถไปหาเจ้านายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถยนต์คันหรูเป็นคันที่ตั้งใจพุ่งเข้าหารถเก๋งของหญิงสาว

สายตาคมมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นสภาพรถคันนั้นแต่ยังคงนั่งนิ่งไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"น่าจะสาหัสครับคุณพายุ"

"สาหัส...แสดงว่ายังไม่ตายสินะ" น้ำเสียงเย็นยะเยือกพูดขึ้นเมื่อได้ยินคำรายงานจากลูกน้องที่ขับรถโฟร์วิล ริมฝีปากหนาระบายยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็นก่อนจะก้าวขาลงจากรถยนต์คันหรูเดินตรงไปยังรถเก๋งของแก้มใส

ตึก ตึก ตึก

เปลือกตาที่หนักอึ้งใกล้ปิดเต็มทีแต่หูทั้งสองข้างกลับได้ยินเสียงของคนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ความมืดและม่านตาที่ใกล้จะปิดไม่สามารถบอกได้ว่าใครกำลังเดินเข้ามา เห็นเพียงเงาดำรางๆ ลักษณะสูงใหญ่จนหวาดผวา แต่ฉันกลับรู้สึกคุ้นกับเจ้าของเงาดำนี้

"ชะ ช่วยด้วย..." ฉันพยายามเปล่งเสียงขอความช่วยเหลือแต่มันก็เป็นเพียงลมออกจากปากอย่างแผ่วเบา ผสมกับความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนไม่มีแม้แต่แรงขยับปาก "ช่วย...ด้วย..."

"สภาพเธอไม่ต่างจากไอ้เวรนั่นเลยนะแก้มใส" พายุมองภาพของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก

"คะ คุณพายุ" น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจนฉันรู้ว่าใครคือเจ้าของเงาดำ น้ำเสียงนี้ไม่ใช่น้ำเสียงปกติแต่เป็นน้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับฉันในห้องทำงานวันนั้น

“เก่งสมคำร่ำลือจริงๆ พยายามสังเกตฉันอยู่ทุกวันจนจำได้ขึ้นใจเลยสินะ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอจดจำฉันจนวันตายเลยล่ะ…ไหนๆก็อยากรู้ตัวตนของฉัน ฉันก็จะเปิดเผยให้เธอเห็นถือว่าเป็นโบนัสครั้งสุดท้าย”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 184

    "หื้ม? อาการหนักแล้ว ใครมางานเขาก็ต้องรู้ค่ะว่าแก้มเป็นเมียพี่ วันนี้งานแต่งงานของเรานะคะ และลูกๆก็อยู่ในงานด้วยทุกคนรู้กันหมดว่าเรามีลูกด้วยกันแล้ว""ไม่รู้ล่ะ พี่หวงหมดไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน แล้วนมพี่ให้แค่งานนี้เท่านั้น อย่าให้พี่เห็นว่าแหวกแบบนี้อีก ถ้าพี่ได้เห็นแบบก่อนหน้านี้พี่คงสั่งให้ปิดยั

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 183

    ตอนพิเศษ 5วันแต่งงานในที่สุดวันสำคัญของฉันกับพายุก็มาถึง และเป็นวันสำคัญของลูกน้อยฝาแฝดเช่นกันที่ทั้งสองคนอายุครบหนึ่งขวบบรรยากาศงานในช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี เราทั้งสี่คนได้ใส่บาตรตอนเช้าตามประเพณีของงานหมั้นและเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันเกิดของสองแฝด งานหมั้นถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของเรา ทุกอย่างเป็นไป

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 182

    ตอนพิเศษ 4ภายในเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรู ท้องฟ้าที่มืดสนิทก่อนหน้านี้เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ บนเตียงขนาดคิงไซซ์มีคู่รักที่พึ่งผ่านศึกมาราธอนกิจกรรมรักกันมาหมาดๆนอนกอดกันกลม ชุดนอนสีแดงสดแบรนด์ดังกองอยู่ที่พื้น ข้าวของกระจัดกระจายเพราะกิจกรรมบรรเลงรักในครั้งนี้ไม่ได้อยู่แค่บนเตียง"สว่างคาตาเลยนะคะ""ถ้าไม่

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 181

    "อื้อ อ่าา สะ เสียวค่ะ อ๊ายย พี่พายุจะเสร็จ อีกนิด....อ๊าาาา" เสียงครางดังลั่นเมื่อพายุสามารถพาฉันมาถึงจุดหมายปลายทางได้ด้วยลิ้น ร่างกายกระตุกไม่หยุด น้ำหวานที่อยู่ภายในตัวไหลออกมาหลังจากไม่ปลดปล่อยมาแรมปี ความเหนื่อยล้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง สมองขาวโพลนราวกับไม่มีเรื่องอะไรให้คิด ทุกอย่างรอบตัวดูเบาและร

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 180

    ตอนพิเศษ 3ค่ำคืนในเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูถูกตกแต่งด้วยเทียนหอมและโรยด้วยดอกกุหลาบสีแดงตามพื้นตั้งแต่ทางเข้ามาจนถึงห้องนอน บรรยากาศไฟสลัวๆสร้างความโรแมนติกและความรุ่มร้อนให้กับคู่สามีภรรยาที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มบนเตียงนอนสีดำขนาดใหญ่ภายในห้องนอน ชายหนุ่มที่อยู่ในร่างกายเปลือยเปล่ากำลังส่งมอบความสุขให้

  • หน้ากากร้ายท่านประธาน   บทที่ 179

    "พี่พัตเตอร์ น้องเพียงฝัน มาแฮปปี้เบิร์ดเดย์แด๊ดดี๊กันนะคะ" ฉันหันไปพูดคุยกับลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่เลี้ยง ฉันต้องให้พี่เลี้ยงดูแลให้ระหว่างที่เตรียมงานให้สามี และดูเหมือนลูกๆจะรู้ว่าวันนี้คือวันสำคัญของพ่อทำให้ทั้งสองคนไม่งอแงเลย กินอิ่มนอนหลับ พอตื่นมาก็เล่นได้อย่างปกติรถยนต์คันหรูขับเข้ามา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status