EP.34“พี่เวลล์ นี่มันก็ดึกมากแล้ว กลับกันเถอะค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเขาเมื่อเห็นหน้าจอมือถือบอกว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งแล้ว “พรุ่งนี้แจนมีเรียนเช้านะคะ”พี่เวลล์ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเขาก่อนที่จะพยักหน้ารับ แล้วเรียกพนักงานเช็คบิลทันที เขาเดินนำออกไปก่อน ส่วนฉันก็เดินตามหลังเขา เป็นครั้งแรกในชีวิตถ้าไม่นับพ่อของตัวเอง ที่ฉันเดินตามคน ๆ หนึ่ง มองแผ่นหลังของเขา ราวกับตอนนี้ฉันเองได้เป็นฝ่ายที่ถูกปกป้องบ้าง จากที่ปกติ ฉันมักจะยืนอยู่ข้างหน้าคนอื่นเสมออาจเป็นเพราะฉันเหม่ออยู่ในภวังค์จิตใจล่องลอยพอพี่เวลล์หยุดเดิน ฉันก็เป็นฝ่ายเดินชนหลังเขาอย่างจัง ใบหน้ากระแทกหลังเขา ทำเอาเจ็บไม่น้อย“ขอโทษค่ะ แจนไม่ทันระวัง” ฉันยกมือจับจมูกตัวเองบีบมันเบาๆ ให้หายหน่วง“ระวังด้วยสิ จับมือพี่ไว้” เขาเหลียวมองดูฉัน สายตาเขาไม่ดุสักนิด พร้อมยื่นมือหนาของเขาออกมาตรงหน้าฉัน แน่นอนว่าฉันไม่รอช้ายื่นมือเรียวบางของตัวเองจับมือเขาทันที ฉันรู้สึกได้นะความอบอุ่นที่แผ่ซ่านในมือข้างนั้นของเขา เขากระชับมือฉันแน่นจากนั้นจึงเดินเคียงข้างกันออกจากร้านอาหารไปยังรถที่จอดอยู่เขาเปิดประตูรถให้ฉันเข้าไปนั่ง ก่อนที่เข
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.41หลายวันผ่านมาฉันกับพี่เวลล์ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น เราได้แต่โทรคุยกันครั้งล่ะไม่เกินสองนาที แชตไลน์ที่กว่าจะตอบกันก็ทิ้งช่วงหลายชั่วโมง ไม่ใช่แค่พี่เวลล์ที่ไม่มีเวลาให้ ฉันเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน สภาพเพื่อนๆ ทั้งสาขาแทบเหมือนศพเดินได้ ไฟลนตูด ฉันไม่ต่างอะไรกับยัยเพิ้งหัวยุ่ง ยังดีที่พลอยยังเป็นสมาชิกกลุ่มโปรเจคของฉัน ทำให้พอกลับมาห้องก็ยังช่วยกันปั่นงานต่อ ไม่งั้นงานยิ่งไม่เดินแน่ ยัยมีนที่มองสภาพฉันกับพลอยด้วยความสงสาร ก็คอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาประเคน คอยจิกให้ทานข้าว เพื่อไม่ให้ตายกันซะก่อนฉันกับยัยพลอยจ้องหน้ากัน พลางหัวเราะ ใส่กันราวกับคนบ้า บางครั้งก็ร้องไห้ฮือออกมากันซะดื้อ ๆ ที่แท้การเรียนหนักจนแทบบ้ามันเป็นแบบนี้นี่เองและแล้วขุมนรกของพวกเราก็ใกล้จะผ่านพ้นไป กลุ่มสมาชิกทั้งห้าคนของพวกเราวางเอกสารปึกใหญ่เกี่ยวกับโปรเจคที่ทำกันแทบขายวิญญาณต่อหน้าคณะอาจารย์สาขา ที่ตอนนี้กำลังเพ่งมองพวกเราด้วยความคาดหวัง สมาชิกกลุ่มทุกคนหันหน้าให้กำลังใจ ปลอบใจกันไปมา พวกเราทำกันเต็มที่แล้วจริง ๆ จนเมื่ออาจารย์
หมอพัฒน์ หมอที่ดูโอบอ้อมอารี ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ฉันเคยรักษากับเขา พี่แม็กเองก็ชมเขาไม่หยุด และดูเหมือนพี่เวลล์เองก็จะให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้าที่แสนดีขนาดนี้ จะซุกซ่อนความเลวร้ายได้เกินจะบรรยาย“ทำหน้าแบบนั้น ตกใจรึไงกัน” หมอพัฒน์ยังบีบคางฉันแน่นไม่ยอมปล่อย“หึ ถุย...” ฉันสถบถุยใส่เขาไม่เกรงกลัว และแน่นอนว่าฉันถูกตบหน้าไปอีกหนึ่งฉาด ‘เพี๊ยะ’ มือของชายคนนี้รุนแรงมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหลายสิบเท่า ตบเพียงครั้งเดียวทำให้หน้าสั่นเลือดกลบปากฉัน จนสำลักเลือดออกมาทางเรียวปากไหลเป็นทาง“ไม่เอานา...ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยนี้ต้องระบมไปมากกว่านี้” หมอพัฒน์ปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะเดินวนไปมา ท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ฉันยิ่งเห็นความน่ากลัวของชายวัยกลางคนคนนี้“หมอพัฒน์ ไม่สิคุณพัฒน์ คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมคือใคร เหมือนที่ผมรู้ว่าคุณคือใครน่ะ คุณหนูแจน” เขายืนกอดอกมองฉันด้วยใบหน้าแสยะยิ้มมองฉันราวกับลูกไก่ในกำมือ ในขณะที่ผู้หญิงด้านหลังนั่นมองฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้ออยากฆ่าฉันให้พ้น ๆ“งั้นฉันก็ไม่พิ
EP.50ณ.โรงพยาบาลฉันได้สติอีกทีเหมือนจะถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว มองไปรอบ ๆ ดูเหมือนจะนอนพักอยู่ในห้องพิเศษวีไอพีของโรงพยาบาลที่คุ้นตานั่นแหละ จริง ๆ ก็จำเหตุการณ์หลังจากที่หมดสติในรถนั่นไม่ได้หรอก คงเป็นพี่เวลล์ที่เรียกรถพยาบาลมาละมั้ง ทำให้ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็มีพยาบาลวนเข้ามาตรวจฉันเป็นระยะ อาหารอ่อนเข้ามาเสิร์ฟ ส่วนพี่เวลล์ก็มีเข้ามาหาบ้าง ไม่สิค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ แต่เพราะเขาเองก็ยังวุ่นกับวอร์ดจึงอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียง ให้กำลังใจ มอบรอยยิ้มให้ แล้วก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนยัยมีน กับพลอย ก็เจียดเวลามาเยี่ยมแล้ว แต่ฉันก็เป็นฝ่ายไล่พวกมันกลับไปไม่อยากให้พวกมันเฝ้า เพราะยังไงฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาจะฟูมฟาย ดูกังวลและแสดงออกว่าเป็นห่วงมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยเขาไม่เพียงดูนิ่งขรึมใบหน้าราบเรียบ แต่ไม่เอ่ยถามไถ่สาเหตุที่ฉันได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อยฉันที่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงเครั้ง ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่บนเตียงผู้ป่วยเหมือนเดิน พลางมองฝ้าเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เหมือนกันที่หมดสติไป
หลายเดือนต่อมาอีกไม่กี่วันก็ใกล้ปิดภาคเรียนแล้ว การมุ่งไปสู่ปีสี่ก็คืบคลานเข้ามา แม้โปรเจคนรกปีสามจะผ่านไป แต่การเรียนวิศวะมันไม่ง่ายเลย ยิ่งปีสี่แล้วถึงใจฉันจะพับโครงการนั่นไป แต่การเรียนในมหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ง่วนกับโรงพยาบาลตามเคย แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน ความรักของฉันกับพี่เวลล์ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี โดยฉันกับพี่เขาก็เติมหวานด้วยการสัญญาว่าในหนึ่งวัน ต้องโทร หรือส่งข้อความหากัน ห้ามหายเด็ดขาด บางครั้งพอมีเวลาวันหยุดก็มักไปเที่ยวด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเมคเลิฟกันบ้างถ้าสถานที่อำนวยส่วนวันนี้ ฉันกะจะเข้าไปตรวจโกดังสักหน่อย เพราะที่ผ่านมายุ่งทั้งเรื่องการเรียน และหาเวลาให้พี่เวลล์ ทำให้ห่างจากการไปดูแลงานของตระกูลไปพอสมควร จะปล่อยให้พี่ทิมจัดการคนเดียวได้ไง เขาก็มนุษย์คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นพี่เขา ก็คงบ่นว่า เจ้านายไม่ได้เรื่องแหง ๆ อีกอย่างเด่นเรื่องเรียน กับ ความรักไปแล้ว การงานจะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมดังนั้นวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เจียดไปเยี่ยมลูกน้อง แถมยังต้องติดตามอัปเดตข่าวสารพวกสายลับมาเฟียคู่อริอีก จะให้พวกมันมาหยามแย่งอิทธิพลทางการค้าฝั่งตะวันตกไม่ได้เด็ด
ดวงตาที่หลับสนิทของฉัน ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่าง ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หรี่มองไปยังหน้าต่างเล็กน้อยทอดมองออกไปยังตำแหน่งของแสงที่พาดผ่านมา ยกมือขยี้ดวงตาเบา ๆ พลางยืดแขนขึ้นเพื่อคลายความงัวเงีย“อ่ะ...” เพียงแค่ขยับจะลงจากเตียงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว เสียงที่เปล่งออกทำให้คนที่อยู่ด้านนอกวิ่งมาด้วยความตกใจ“เป็นอะไรครับ” ฉันที่เห็นพี่เวลล์วิ่งกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจหน้าตื่น เลิกคิ้วมองเพื่อรอให้ฉันตอบ อึ้ย...ใครจะไปบอกกันล่ะ ว่าพี่คะฉันปวดตรงนั้นมาก ให้ตายก็ไม่พูดหรอก แค่นี้ไม่สะเทือน ‘อึก’“ป่าวค่ะ สะดุ้งตื่นนิดหน่อย ว่าแต่กลิ่นอะไรหอมจัง”“พี่ทำกับข้าวไว้ให้ รีบลุกมาแปรงฟัน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาทานด้วยกันนะ”“ค่ะ ฮี่...” ฉันยิ้มจนตาหยี่ให้เขาก่อนที่เขาจะลูบหัวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป“ว่าแต่เมื่อคืนฉันนอนไปตอนไหน” ฉันลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็จ้องมองกระจกที่สะท้อนตัวเองขึ้นมา “แล้วชุดที่สวมใส่นี่ล่ะ พี่เวลล์ก็จัดการให้หมดงั้นเหรอ” พอหลับตาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ในสมองฉันกลับจดจำแต่เรื่องอย่างว่า ท่านั้น ท่านี้ ได้เท่านั้น
ให้ตายเถอะ เสียวมากอยู่หรอก แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะเสียวกว่าฉันมากไปหน่อยไหม เล่นสอบเอวใส่ปากฉันจนมิดลำแทบสำลัก ดีนะว่าควบคุมมันไว้ทันทันทีที่เขากระตุกตัวปล่อยน้ำขุ่นอุ่นร้อนของเขาออกมาเต็มโพรงปากฉัน ฉันก็ตั้งใจกลืนมันทุกหยดไม่ให้เหลือ รอบนี้เหมือนเขาไม่ได้บังคับ แต่เป็นฉันเองที่เสียวซ่านจนอยากจดจ่ออยู่ตรงกึ่งกลางกลายเขาอีกสักหน่อย แต่พอโลมเลียได้ไม่ทันไร มันกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งแล้ว‘พี่เวลล์ แอบหื่น นะเนี่ย’พอฉันละปากออกจากเจ้าแท่งที่ตอนนี้มันพยักหงึก ๆ อีกรอบนั้น ฉันก็ทรุดลง มือยันพื้นหยัดตัวไว้ หอบหายใจแรงจนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ยกมือเช็ดคราบบริเวณริมฝีปากพลางหายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย แต่นั่งได้ไม่นาน คนที่ยืนจ้องมองกันอยู่ก็สอดแขนใต้รักแร้ฉัน ดึงฉันขึ้นให้ยืนจากนั้นก็สวมกอด“เหนื่อยแล้วเหรอ” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ส่วนฉันหอบหายใจแรงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละหายใจไม่ทัน“ค่ะ เหนื่อย” ฉันตอบไปตามตรงแม้ว่าตรงนั้นจะปวดหนึบเพราะอยากมากก็ตาม“แต่พี่ไม่เหนื่อยเลยนะ” เขาเอ่ยเสียวแผ่วเบาก่อนจะงับใบหูเล็กๆ ของฉัน ตอนนี้เขาคงอารมณ์มาเต็มที่เพราะลมหายใจที่รดฉันมันร้อนมาก ร้อนช
EP.46(Well Part)จู่ๆ คนเมาในอ้อมแขนของผมก็กระซิบบอกรักผมซะงั้น ถ้าในเวลาปกติของแจนล่ะก็ไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักด้วยแววตาเสน่ห์แบบนี้เป็นแน่ สงสัยผมต้องขอบคุณคนที่คิดค้นน้ำมึนเมาขึ้นมานี้แล้วล่ะ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่แข็งกร้าวในยามปกติ ให้กลายเป็นคนขี้อ่อย ขี้อ้อนมาได้แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดอีก ถ้าเธอไปดื่มหนักที่ไหน เธอจะมีท่าทีแบบนี้กับคนอื่นด้วยรึเปล่า ไม่ได้การหลังจากนี้ผมคงต้องเข้มงวดกับเธอหน่อย ก็ตอนนี้เธอคือแฟนผมผมอุ้มคนเมามายวางลงโซฟากลางห้อง เพราะผมยังไม่ได้ทายาบริเวณขาและเข่าของเธอที่มันยังปรากฏรอยฟกช้ำ แม้ตอนนี้มันเป็นรอยจางสีม่วงแล้วก็ตาม แต่เพราะเธอทำตัวยุกยิกนั่งไม่นิ่ง จนผมต้องนั่งโอบรัดเธอจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ พี่ทายาให้ก่อน” ผมบีบยาลงในมือก่อนจะเอื้อมลูบไปตามรอยแผลฟกช้ำอย่างเบามือ “ยังเจ็บอยู่ไหม” ผมเอ่ยข้างหูเธอ“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงอันบางเบาของเธอตอบผม“ถ้าหายแล้วงั้น.....” ผมพูดให้เธอคิด ก่อนจะงับใบหูของเธอเบาๆมือผมเริ่มอยู่ไม่สุขละจากการทายาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอกของเธอคลึงเบาๆ ผ่านเสื้อยืนแสนบางที่ผมให้เธอเปลี่ยน ใบหน้าผมโน้มลงเล็กน้อยมองต้นคอระหงส์ท
EP.45พี่เวลล์พาฉันขับรถออกจากร้านอาหาร ฉันมองเขาอย่างคาดเดาความคิดไม่ได้สักนิดว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ทำอะไร ฉันรู้ได้แค่ว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนร่างท่านมารสุดหล่อสายตาสุดแซ่บที่สามารถชี้นิ้วสั่งฉันให้ทำอะไรก็ได้แบบนั้น สายตาความอ่อนโยนที่เคยเห็นมันไม่มีเลยสักนิด ดูร้ายๆ เหมือนจ้องจะงับเหยื่ออยู่ตลอด“วันนี้พี่แปลกๆ นะคะ” ฉันจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ก็ดูสิขนาดขับรถอยู่ก็ทำมุมปากยกยิ้มเป็นระยะ ดื้อๆ เขาเหมือนคนโดนเข้าสิงอ่ะ“ฮ่า....พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”“เนี้ย หัวเราะแบบนี้ก็แปลกแล้ว พี่ไปโดนยาอะไรมารึเปล่า” ฉันยืดหน้าไปมองเขาที่กำลังตั้งใจขับรถใกล้ๆ จ้องเขาอย่างคาดคั้น แต่ไม่ทันที่ฉันได้ตั้งตัว เขากลับหันมาจุ๊บฉันหนึ่งทีที่ริมฝีปากแล้วกลับไปสนใจกับการขับรถต่อฉันหดตัวกลับมานั่งประจำที่ตัวเอง ยกมือลูบปากตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองค้อนคนข้าง ๆ วันนี้ปากฉันเปื่อยไปหมดแล้วเพราะเขาแต่ถามว่าชอบไหม ริมฝีบางของเขาฉันต้องชอบอยู่แล้วล่ะ“พี่จะบอกฉันได้รึยังว่าจะพาฉันไปไหน”&ldquo
EP.44แม้ตอนนี้ฉันจะมีอะไรให้คิดมากมาย แต่เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ ฉันก็ต้องเฮฮาให้เต็มที่ สายตาอาจจะยังดูออกว่าหนักอึ้งเพราะยังเอาแต่คิดถึงเขา แต่ฉันก็ต้องฝืนเพราะพวกเราทุกคนในโต๊ะนี้ต่างผ่านนรกที่เรียกว่าโปรเจคเล็ก ๆ ปีสามกันมาจะให้มาเสียบรรยากาศเพราะฉันได้ยังไงล่ะอาหารที่สั่งเริ่มทยอยจัดวางบนโต๊ะของพวกเรา จากโต๊ะที่โล่งโจ้ง ตอนนี้กลับดูแคบไปถนัดตา เพราะหน้ามืดตามัวสั่งกันแบบไม่ยั้งคิด ตอนนี้ก็เลยมาลำบากท้องของพวกเราเองล่ะนะ“สั่งกันขนาดนี้จะกินหมดเหรอ” พลอยมองอาหารบนโต๊ะพลางทำหน้าเจื่อน“แค่เห็นก็รู้สึกอิ่มแล้วนะเนี้ย” ฉันพูดพลางกอดอกพิงหลังลงพนักพิง“จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะเว้ย พวกแกเองก็พูดสิ่งที่อยากกินออกมาทั้งนั้น ฉันก็สั่งไปตามนั้น” ไอ้นัทลุกขึ้นยืนยันโต๊ะเถียงขาดใจ“ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร นั่งลง ๆ” มิกที่อยู่ข้าง ๆ ไอ้นัทดึงตัวมันนั่งลง“เออ ใจเย็นก็แค่บ่น ๆ กันเท่านั้น ทานกันเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นชืดหมด”พวกเราทั้งสี่คน ต่างเอ็นจอยกับอาหารที่อยู่ต
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ