โอ๊ยเมื่อยตัวไปหมด เมื่อคืนฉันกับพี่เวลล์จัดหนักกันยกใหญ่จนตีสี่ กว่าฉันจะตื่นนอนก็ปาไปเกือบเที่ยง ดีนะว่าวันนี้มีเรียนบ่ายสองโมง ส่วนเขายังอยู่และดูเหมือนจะตื่นก่อนฉันเสียอีก ซึ่งเขากำลังเล่นมือถือ อยู่เงียบ ๆ ข้างฉัน
เราสองคนต่างมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย เหมือนเรากลับมาเป็นอีกตัวตนหนึ่งที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ที่พูดมากตอนกลางคืนนั้นก็คงเป็นฤทธิ์แอลที่ถาโถมซัดดื่มอย่างกับน้ำเปล่านั่นแหละ
ฉันละจากหน้าเขาหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงพันรอบตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำแต่ทันทีที่ลุก กลับโดนคนข้างๆ ดึงแขนให้กลับไปในอ้อมแขนของเขาก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากจูบเฉยเลย ก็จูบตอบเขาแหละเอากันทั้งทีก็เอาให้คุ้ม เพราะคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่เพราะมีเรียนบ่ายสอง ถ้าขืนมัวต่อมีหวังติดลมดังนั้นจึงกลั้นใจผลักเขาออกไป
“ขอตัว พอดีมีเรียนต่อค่ะ” ฉันหยักคิ้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะตอนนี้เหนียวตัวจากเหงื่อสุดๆ พออาบน้ำเสร็จก็พบว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยไปก่อนแล้ว
“พี่ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ”
“ไม่ครับ จะกลับไปอาบที่ รพ.”
“อ่อ” พูดจบฉันก็หันไปแต่งตัวของตัวเอง ในขณะที่ปากก็ยังเอ่ยต่อ
“รุ่นพี่ ก่อนออกจากห้องรบกวนจ่ายค่าห้องคนล่ะครึ่งนะคะ ”
“อืม”
“แล้วถ้าเจอกันข้างนอก อย่าทำเป็นรู้จักฉันล่ะ”
“...” เขาเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยต่อ “มันก็ควรเป็นแบบนั้น”
“ขอให้รุ่นพี่โชคดีค่ะ หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นความสุขของกันแหละกันครั้งหนึ่งนะคะ”
“....” พี่เวลล์ไม่ตอบอะไร ฉันจึงโบกมือให้ก่อนที่เขาจะวางเงินไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินออกไปทันที ส่วนฉันก็รีบแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนคว้ากระเป๋า คว้าเงินที่วางบนโต๊ะ
“เชี้ย บอกแล้วว่าคนล่ะครึ่ง ค่าห้องมันคนละพันห้าเอง จะวางไว้หมื่นหนึ่งทำไม ฉันไม่ได้ขายตัวซะหน่อย” ฉันส่ายหัวอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปจ่ายเงินแล้วตีตัวกลับคอนโดทันที เพื่อเปลี่ยนชุดนักศึกษาก่อนปรี่ตัวอย่างเร่งรีบไปมหาลัย
ยามเย็น..คอนโด
ฉันเดินเปิดประตูเข้าห้องด้วยความเหนื่อยล้าจากการเรียนและเรื่องเมื่อคืนก็ส่งผลมากอยู่ หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น แหงนมองฝ้าเพดานขาว ตอนนี้ในหัวขาวโพนไปหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาทำเอาลืมไม่ลงจริงๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาของรุ่นพี่เวลล์ยังตราตรึงสุดๆ แต่ไงก็เถอะ จบคือจบ แอบแซ่บแล้วแยกย้ายนะดีที่สุดแล้ว ฉันเองก็สมใจอยาก และนั่นก็เป็นกฎที่ฉันพูดก่อนเพื่อไม่ให้เกิดพันธะใดๆ ใช่ฉันมันคนที่ไม่ควรมีพันธะใดๆ จริงๆ
“แหมมมมมมมมม....” ยัยมีนเปิดประตูออกมาจากห้องของตัวเอง พร้อมเอ่ยหยอกทันทีเมื่อเห็นฉัน
“...”
“เป็นไง รุ่นพี่เวลล์” ยัยมีนนั่งลงข้างๆ ก่อนจะสะกิดถามด้วยความอยากรู้
“ก็ดี” ฉันตอบไปในขณะที่ยังพิงพนักโซฟาหลับตาแบบนั้น
“ก็ดี.. รีแอคแค่นี้เนี่ยนะ นั่นพี่เวลล์เลยนะยะ ผู้หญิงที่แทบจะรองาบทั้งมหาลัย ทั้งในคลับ แต่แกแค่ไปนั่งร่วมโต๊ะก็ได้งาบเฉยโชคดีสุดๆ” ยัยมีนตบมือดัง เปาะๆ จนฉันรำคาญ
“โชคดีอะไร ไม่ได้เป็นเจ้าของเขาซะหน่อย แค่เอาแล้วก็จาว ไม่ได้มีซัมติงอะไรกันต่อ”
“ไม่ลองจีบพี่เขาดูเหรอ พี่แม็กบอกว่าพี่เวลล์โสดนะมึง”
“ไม่ล่ะไม่อยากมีแฟน แกก็รู้คนอย่างฉันไม่ควรมีแฟน”
“เอ่อ.....ก็นะ” ยัยมีนเหมือนฉุกนึกอะไรได้ก็เงียบไป
“ว่าแต่มึงเถอะมีน เอาไงต่อกับพี่แม็ก จูนติดป่าววะ”
“พี่เขาก็ดีนะ ก็แลกไลน์กันไปก่อน มึงก็รู้อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการคบหาผู้ชายของกูคือพ่อกูค่ะ”
“พ่อมึงห่วงมึงแหละ ถ้าไม่ได้กูจะได้มานอนคอนโดแบบนี้ไหมล่ะ แต่เอาเถอะ รอบนี้ก็ค่อยๆ ศึกษาไปแล้วกัน ผู้ชายน่ะ รู้หน้าไม่รู้ใจ”
“น้อมรับคำสอนค่ะ คุณมึง”
‘ตู๊ด........................’
“ขอตัวแป๊บ ป๊ากูโทรมา” ฉันที่มองไปยังมือถือเห็นว่าป๊าโทรมาเลยเอ่ยบอกเพื่อนไป
“อืม งั้นกูกลับเข้าห้องก่อนล่ะ” ยัยมีนปลีกตัวเดินเข้าห้องไป
ฉันเดินมาตรงระเบียงคอนโดจากใบหน้าแน่นิ่ง ก็หลุบตาเข้าสู่โหมดจริงจังทันที
“ว่าไงคะ ป๊า”
“แจนลูก คืนนี้ช่วยป๊าทำงานหน่อย” เสียงอันน่าเกรงขามที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้น
“เรื่องสำคัญ?”
“ใช่ล็อตนี้สำคัญมากมูลค่าหลักร้อยล้าน ป๊ายังกลับประเทศไม่ได้”
“ได้ค่ะป๊า เดี๋ยวแจนจัดการให้ค่ะ”
“ขอบใจมากลูก ป๊าคิดถึงลูกนะ”
“เช่นกันค่ะ ป๊า”
ฉันวางสายจากผู้เป็นพ่อ ทอดสายตาออกไปยังวิวข้างหน้าพลางถอนหายใจแรงๆ
“คืนนี้ก็คงไม่ได้พักอีกแล้วสินะ ช่างเถอะก็ขอให้อย่าเกิดเรื่องจนต้องออกแรงเลย ไม่อยากจะฆ่าใครถ้าไม่จำเป็น”
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมายในการซื้อขายสินค้าล็อตสำคัญล็อตใหญ่ของบริษัทพ่อ ฉันก็ตรงดิ่งออกจากคอนโดขับรถมุ่งไปยังสถานที่นัดหมายทันทีซึ่งเป็นท่าเรือร้างแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลมากนัก ขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย
“คุณหนู สวัสดีครับ”
“ทำตัวตามสบายค่ะพี่ทิม เป็นไงบ้างคะ ตรวจเช็คของไปก่อนรอบหนึ่งหรือยัง”
“เรียบร้อยครับคุณหนู”
“พาแจนไปที่คลังสินค้าหน่อยค่ะ แจนจะตรวจอีกรอบเผื่อมันเกิดปัญหาแจนจะได้เป็นคนรับผิดชอบได้”
“ขอบคุณคุณหนูมากครับ เชิญทางนี้ครับ”
ฉันเดินตามพี่ทิม ซึ่งเป็นมือขวาของคุณพ่อที่ถูกสั่งให้ประจำการในประเทศรองจากฉันก็พี่เขานี่แหละที่มีอำนาจตัดสินใจแทนพ่อฉัน
เมื่อตรวจสอบสินค้า และตรวจตราความเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เข้าไปนั่งโซฟาในห้องรับแขกเพื่อรอลูกค้ารายใหญ่
“นี่เป็นรายชื่อของลูกค้าวันนี้ครับคุณหนู” ฉันเอื้อมไปหยิบเอกสารในมือพี่ทิมขึ้นมาอ่าน “ตระกูลอิทธิฤทธิ์”
“ใช่ครับคุณหนู แต่ดูเหมือนคนที่จะเข้าทำการซื้อขายครั้งนี้จะเป็นลูกชายคนโต ของตระกูลอิทธิฤทธิ์ครับ”
“อ่อ แจนจำเขาได้เคยเจอที่งานสังคมครั้งหนึ่งน่ะค่ะ งั้นคงง่ายที่จะคุยหน่อย” ตระกูลอิทธิฤทธิ์เป็นลูกค้ารายใหญ่ของครอบครัวฉัน เป็นตระกูลที่เบื้องหน้าทำธุรกิจอสังหา แต่เบื้องหลังก็ดำสนิทซึ่งก็ไม่ต่างจากตระกูลฉันเท่าไหร่
ไม่นานนักก็มีคนคุ้มกันคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
“คุณหนูครับ พวกเขามาแล้วครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็นั่งไขว้ห้างมองไปยังประตู ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคุ้นอยู่บ้าง เพราะเคยเจอสองสามหน ฉันจึงเอ่ยทักก่อนตามมารยาทของคนค้าขาย
“สวัสดีค่ะ คุณเจมส์ ไม่เจอกันตั้งนานนะคะ” ฉันยื่นมือออกไปจับมือพอเป็นพิธี
“เช่นกันครับคุณแจน”
“เชิญทางนี้ค่ะ”
“ครับ”
“ขอบคุณที่ทำการค้ากับทางเรานะคะ สินค้าตรงหน้าทั้งหมดแจนเป็นคนตรวจสอบเอง รับรองไม่มีผิดพลาดค่ะ จะตรวจสินค้าก่อนไหมคะ”
“ถ้าคุณแจนเป็นคนตรวจเองผมก็สบายใจครับ ไม่ต้องตรวจอีกรอบหรอกครับ”
“นี่เป็นเอกสารรายการทั้งหมดนะคะ”
“ครับ ผมโอนส่วนที่เหลือให้แล้วนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ หวังว่าจะได้ทำการค้ากันอีกนะคะ”
“เอ่อ คุณแจนครับ”
“คะ” ในขณะที่คุณเจมส์ทำเป็นเอื้อมมือจะมารั้งฉัน พี่ทิมก็เข้าขวางเขาไว้ทันที จนเขาชะงักไป
“เอ่อ... ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้จะล่วงเกินอะไร” เขายกมือพลางยิ้มมาให้ด้วยใบหน้ายิ้ม
“ขอโทษแทนพี่เขาด้วยค่ะ เขาทำตามคำสั่งของป๊าแจน”
“ลูกสาวสวยก็ต้องห่วงเป็นธรรมดาสินะครับ”
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ”
“ผมแค่จะชวนทานข้าวสักมื้อได้ไหมครับ” คุณเจมส์เอ่ยออกมา
“ทานข้าว? ต้องดูเจตนาก่อนค่ะว่าชวนทานเพราะอะไร ถ้าชวนเพราะจีบก็ต้องขอปฏิเสธน่ะค่ะ แต่ถ้าชวนเพราะการค้าทางธุรกิจ ก็ยินดีเสมอค่ะ”
“ได้ครับ ไว้จะรอโอกาสนั้นครับ”
“แจนขอตัวก่อนนะคะคุณเจมส์ ส่วนสินค้าเดี๋ยวแจนให้พี่ทิมจัดการเคลื่อนย้ายไปที่รถของคุณเจมส์ค่ะ”
ฉันปลีกตัวออกมาเมื่อเห็นว่าปิดดีลสำเร็จโดยให้พี่ทิมมือขวาคุณพ่อจัดการที่เหลือต่อ
EP.8การทำธุระให้พ่อครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความราบรื่น เจอลูกค้าดีอย่างคุณเจมส์ไม่ต้องให้ถึงมือฉันเตะต่อยฉันก็โล่งใจ นึกว่าวันนี้จะได้ปะทะซะแล้วฉันขับรถออกจากโกดังสินค้า มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดของตัวเอง แต่แล้วก็เจอรถคันหรูจอดข้างทางคันหนึ่ง มีผู้หญิงแต่งตัวด้วยเดรสสีชมพูโบกไม้โบกมือยกใหญ่ด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ช่วยไม่ได้หรอก แถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยวแสงไฟตามไรทางไม่ได้สว่างมากนัก หากขับผ่านไปฉันคงรู้สึกแย่แน่ ๆ เลยตัดสินใจจอดเทียบรถคันดังกล่าว ก่อนจะลดกระจกรถเอ่ยถามหญิงสาวคนนั้นทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามเธอก็แทรกเสียงเอ่ยขึ้นมาก่อน“ระ.. รุ่นพี่แจนใช่ไหมคะ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”“ฮืม...”“หนูชื่อวีค่ะ ปีสองนิเทศ เรียนคณะเดียวกับพี่มีนค่ะ”“อ่อ แล้วรู้จักฉันเหรอ”“ค่ะ ต้องรู้จักแน่นอนสิคะ พี่ดังจะตาย”“เหอะๆ ชื่อเสียงไร้สาระนั่นนะเหรอ อย่าไปใส่ใจ ว่าแต่ทำไมมาจอดรถอยู่ตรงนี้ รถเสียเหรอ”“ค่ะ วีกำลังจะกลับบ้าน ต้องผ่านทางนี้ตลอด แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรยางรถรั่วค่ะ ขับไม่ได้เลย”“แจ้งช่างรึยัง”“แจ้งแล้วค่ะ แต่เพราะตรงนี้ห่างไกล ช่างแจ้งกับวีว่าจจะมาช้าน่ะค่ะ”“งั้นพี่ไปส่งใ
EP.9(Well Part)“พี่เวลล์ พี่ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” ผมที่กำลังนอนพักอยู่ในห้องพักหมอของโรงพยาบาล สะดุ้งตื่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงที่คุ้นหูอย่างดี คนที่กล้าจะเข้าห้องผมมาปลุกถึงที่ นอกจากพ่อแม่ผมแล้ว ก็มีแค่น้องสาวจอมดื้อตัวดีของผมเท่านั้นแหละ แน่นอนว่าหากทำเมินเชย น้องสาวผมได้คว้าหมอนมาทุบตีผมแน่นอน“มีอะไร ว่างมากรึไงมากวนพี่” ผมขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะมองไปยังต้นเสียง ใบหน้าน้องสาวผมยู่ยี่อย่างไม่พอใจ แต่จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอ ผมตกใจไม่น้อย ไม่เคยเห็นเธองอแงแบบนี้มาก่อน คนเอาแต่ใจอย่างน้องผมปกติมีแต่คนตามใจจนไม่เคยร้องไห้สักครั้ง“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”“พี่ลืมไปแล้วรึไงที่วีโทรมาหาพี่อ่ะ”“....” ผมนิ่งอึ้ง นี่ผมลืมไปได้ไง“พะ...พี่ อีอนเอ็บเอาะอั้น”“ตั้งสติก่อนแล้วบอกพี่ดีๆ” น้องผมเอามือปาดน้ำตา และสูดหายใจเข้าลึกๆ“พี่เวลล์ เมื่อกี้มีคนจะวิ่งมาแทงฉัน”“อะไรนะ!!!”ผมได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นทันที“มันเป็นใคร แจ้งตำรวจรึยัง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”ผมจับตัวเธอหมุนซ้ายหมุนขวา มองน้องสาวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จนน้องสาวผมเอามือสองมือจับแขนผมไว้ก่อนจะนั่งกดผมให้นั่งลง“หนูปลอดภัยดีค่ะพี่ มีรุ่นพี่ค
EP.10‘เอี๊ยด...’ เสียงประตูห้องเปิดออก“ไงน้องแจน ดีขึ้นไหม” เสียงของรุ่นพี่แม็กเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปโบกมือพร้อมรอยยิ้มให้กับยัยมีน ยัยมีนก็เหมือนกันโบกมือตอบเขาไป แหม..พวกข้าวใหม่ปลามันก็งี้ แต่ดูเหมือนพี่แม็กไม่ได้เข้ามาคนเดียวนะสิ มีร่างชายสูงตระหง่านในชุดกาวน์หมอไม่ต่างไปจากพี่แม็ก วันนี้เขาสวมแว่นกรอบเงินหล่อเหลาเอาการ แน่นอนว่าเป็นใบหน้าที่ฉันจดจำได้ดี จะลืมลงได้ไง แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในจิตใต้สำนึกอยู่เลย “สวัสดีค่ะพี่แม็ก แล้วก็...” ยัยมีนเอ่ยทักทายกับพี่แม็ก แต่พอเห็นอีกคนนางก็หันมองมาที่ฉันอย่างยิ้มกรุ่น ก่อนจะพูดต่อด้วยชื่อเขา “พี่เวลล์” “ครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ จากนั้นปลีกตัวเดินไปยังริมหน้าต่างมองออกไปด้านนอกอาคารทำตัวเหมือนโดนลากมาอย่างนั้น ก็ใช่สิเราสองคนเมื่อจบคืนนั้น ก็คือคนแปลกหน้าและแน่นอนว่าเรื่องนี้ฉันเป็นคนพูดเอง แต่ทำไมกันนะ ใจมันดันเจ็บจี๊ดแปลกๆ กับท่าทีเมินเฉยของเขาตรงหน้า ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่“วันนี้ช่วงบ่ายน้องแจนคงได้กลับบ้านแล้วครับ”“ดีจังเลยค่ะ แจนไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนี้ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว” ฉันยิ้
เมื่อไหร่จะถึงคอนโดสักที อยากจะหลุดพ้นจากความอึดอัดนี้เต็มทน เพราะตอนนี้เหลือแค่ฉันกับรุ่นพี่เวลล์เท่านั้น น้องวีขอตัวลงระหว่างทางไปก่อน แถมเขาก็ขับรถมองซ้ายขวาราวกับสงสัยบางอย่าง“เลี้ยวซ้ายด้านหน้าเลยค่ะ คอนโดตึกสูงๆ นั่นค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเมื่อรถมาถึงคอนโด เขาขับไปยังลานจอดรถด้านในซึ่งเป็นที่จอดสำหรับวีไอพีเท่านั้นแต่คนนอกอย่างพี่เวลล์มาจอดได้ไง“พี่จอดตรงนี้ไม่ได้นะของวีไอพีคอนโด”“เพื่อนพี่ให้บัตรจอดมา” เขาเดินลงออกจากรถแล้วมาเปิดประตูให้ฉัน ฉิบหายตอนนี้ฉันอืดอาดมากจนทำอะไรช้าไปหมด เขาจะว่าฉันสำออยไหม (ถึงจะมีหน่อยก็เถอะ แล้วดันเป็นกับคนหล่อคนนี้ซะด้วยสิ)“ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่กลับเถอะ ฉันเกรงใจ”“....”“ฉันขึ้นไปเองได้ค่ะ พี่เวลล์”“....” ไม่รู้คิดไปเองไหม เขาไม่พูด ทำหูทวนลม คว้ากระเป๋าฉันเดินนำทันที ก่อนจะหยุดชะงักหันมองมาเหมือนเร่งให้ฉันเดิน ให้ตายเถอะทำไมพี่เขาพูดด้วยยากขนาดนี้ ดูท่าจะหัวรั้นสุดๆ จนฉันถอนหายใจ“แล้วแต่ล่ะกัน ตามมาค่ะ”ฉันเร่งเท้าก้าวนำเขา ในขณะที่เขาก็เดินตามถือกระเป๋าเงียบๆ จนมาถึงชั้นหก หน้าห้องตัวเอง“ถึงแล้วค่ะ รุ่นพี่วางกระเป๋าไว้ได้เลย ฉันจะเข้าห้องไปพักผ่อนแล
EP.12ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ฉันนอนฝันร้ายสุดๆ ฝันถึงแต่พี่เขา จดจำแต่เรือนร่างอันแข็งแกร่งและทรงเสน่ห์นั้นแทบทุกส่วน แถมในฝันก็เป็นฉันที่เอาแต่กอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างกายเขาอย่างหิวโหย จนคิดตลกไปว่าเขาเล่นของใส่ฉันรึเปล่า หรือแท้จริงแล้วฉันมันพวกหื่นกระหายเกินเบอร์ตอนนี้ระหว่างขาของฉันมันชุ่มแฉะเต็มไปด้วยน้ำรัก หรือที่ใครๆ เรียกว่าฝันเปียกนั่นแหละ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มานานมากจริงๆ ให้ตายเถอะหลับแล้วยังเสือกมีอารมณ์ร่วมอีก“แม่งเอ้ย...ทำไมพี่เวลล์ถึงทำให้กลายเป็นคนหื่นกามได้ขนาดนี้เนี้ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”เพราะอารมณ์ที่ค้างต่อจากฝัน ตื่นมาก็ยังคงกระสับกระส่าย วาบหวิวไปทั้งตัว ซ่านไปหมด จึงลุกจากเตียงไปโต๊ะเครื่องแป้งหยิบเซ็กทอยที่ลิ้นชัก เดินกลับมาบนเตียงอารมณ์อันเร่าร้อน ทั้งเนื้อทั้งตัวรุ่มร้อนไปหมด มือหนึ่งก็เฟ้นหน้าอกตัวเองอย่างเสียวซ่าน อีกมือหนึ่งก็จับเจ้าอุปกรณ์แท่งสวรรค์ที่สั่งออนไลน์มาสอดใส่ลงไประหว่างขาที่เปียกชื้นแฉะค่อยๆ ดันเข้าไปจนมิดโคน“อ่า...” ชักเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะพลานนึกถึงใบหน้าเขาคนนั้น กระตุ้นให้เกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน ขนลุกไปทั้งตัว“พะ...พี่เวลล
หลายวันต่อมา...ณ. คอนโด“มึง ช่วงนี้พี่แม็กไม่มีเวลาให้กูเลย นอยสุดๆ” ยัยมีนสถบก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟาที่ฉันกำลังนั่งดูซีรีส์จีนอยู่“พี่เขาเรียนหมอ ขึ้นชื่อว่าเรียกหนักอยู่แล้วป่ะ มึงต้องเผื่อใจปัญหาด้านเวลา ที่มึงต้องเจอ”“ฉันก็บ่นไปงั้นแหละรู้นา.. แล้วมึงกับพี่เวลล์ล่ะ”“เกี่ยวไรกับกู” ฉันหันหน้าควับไปหายัยมีน จู่ๆ ก็โยนถามมาเฉยเลย“มึงไม่คิดถึงพี่เวลล์บ้างเหรอ” ยัยมีนทำหน้าสนอกสนใจ“กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขา จะคิดถึงเขาทำเพื่อ?”“อ่อ ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่...”“มึงพูดมากจังว่ะมีน”“หยอกหน่อยนา...ทำเป็นหงุดหงิดไปได้ อย่าให้เห็นนะว่าตกหลุมรักพี่เวลล์ หล่อขั้นเทพขนาดนั้น ฉันว่าแกไม่รอดแน่ ฮ่าๆ” ยัยมีนพูดจบ ก็หันหลังรีบลุกเดินเข้าห้องของตัวเองทันที เพราะตอนนี้ฉันกำลังง้างเท้าจะถีบมันไงล่ะ ขนาดเข้าห้องไปแล้ว เสียงหัวเราะร่ายังดังลอดออกมา กวนประสาทฉันสุดแต่ก็จริงอย่างที่ยัยมีนพูดอยู่หนึ่งอย่าง หลังจากเรื่องวันนั้น ฉันก็ไม่ได้พบกับรุ่นพี่เวลล์อีกเลย ก็ไม่ได้คิดถึงอะไรหรอกยัง
EP.14 อุกอาจ22.00ฉันขับรถออกจากโกดังเก็บสินค้า วิ่งไปตามถนนเส้นหลักมุ่งหน้าเพื่อกลับคอนโด แต่แล้วก็พบว่ามีรถคันหรูคันหนึ่งจอดอยู่ไหล่ทาง และมีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งราวสามถึงสี่คนพยายามทุบกระจกรถนั้นอย่างรุนแรง เนี่ยแหละนะกลางคืนของเมืองนี้ เมืองคนเถื่อน ตำรวจหลับหูหลับตา ปล่อยให้เกิดอาชญากรรม แน่นอนว่าครอบครัวฉันก็เป็นหนึ่งในพวกนี้แหละในสมองคิดจะปล่อยผ่าน เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งวังวนแห่งการแก้แค้นของตระกูลไหน แต่พอเหลือบมองพบว่าคนในรถเป็น คู่ชายหญิงมีอายุ ทำให้ตัวฉันทนดูไม่ได้ตัดสินใจหยิบมือถือเรียกพี่ทิมให้เตรียมคนมาสมทบตามโลเคชั่นก่อนจะหักเลี้ยวรถกลับอย่างกะทันหัน จนเสียงล้อที่เบียดเสียดกับพื้นดังสนั่นหวั่นไหว ‘เอี๊ยด....’ ขับย้อนกลับไป พลางมือหนึ่งหยิบปืนใต้ลิ้นชักรถออกมารถของฉันจอดออกไปไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ลดกระจกข้างลงเอี้ยวตัวโผล่พ้นรถยิงไปยังชายชุดดำที่กำลังมั่วแต่ทุบกะจกของชายหญิงมีอายุ“ปัง...ปัง” ฉันรัวปืนเล็งยิงไปยังขาของชายชุดดำทุกคน แน่นอนว่าจะฆ่าพวกมันไม่ได้เพราะไม่อยากให้มีคดี แต่หากยิงขามันก็ถือว่าป้องกันตัวได้ เรื่องยิงปืนฉันไม่พลาดสักนัด เพราะพ่อสอนฉันที่ฮาวายตั้งแต่เด
EP.15 ณ. คอนโด ฉันกลับถึงคอนโดด้วยความเหนื่อยล้า “อยากนอนบนฟูกนุ่มๆ แล้วสิ แต่สภาพแบบนี้คงต้องอาบน้ำอุ่นๆ ให้หายเหนื่อยซะก่อน ชีวิตมาเฟียไหนจะสบาย วันๆ มีแต่เรื่องให้จัดการ” ฉันขึ้นลิฟท์ เดินก้มหน้าไปยังห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่จะถึงห้องกลับถูกรั้งแขนไว้ แถมยังถูกดึงหมวกเสื้อฮู้ดที่คลุมอยู่ออก ฉันตวัดตัวมองคนที่กระทำด้วยท่าที่ขึงขังไปพร้อมกับกำลังจะเตะก้านคอคนที่บังอาจมาแตะต้องตัวฉัน แต่แล้วขาที่กำลังตั้งฉากเกือบร้อยแปดสิบองศาก็หยุดชะงักกลางอากาศ ไม่อยากจะเจอทำไมดันเจอกันตลอด “รุ่นพี่” ฉันชะงักลง แถมข้อมือเขาก็จับแขนฉันอย่างแรง “ไปไหนมาครับ” เสียงหล่อเอ่ยถามแต่ใบหน้าของเขากลับน่ากลัวแปลกๆ ไปโดนรังแตนไหนมา แล้วมาลงกับฉันวะ “รุ่นพี่ ปล่อยแขนฉันก่อน ฉันเจ็บ” ฉันทำหน้ายู่ยี่ มันเจ็บจริงๆ นะแก ถ้าเป็นคนอื่นฉันสวนคืนไปนานแล้วนะ แต่ดูเหมือนว่าพอเขาเห็นหน้าฉันแสดงสีหน้าไม่ดีนักเขาก็คลายมือปล่อยฉันแต่โดยดี ฉันสะบัดแขนไปมาก่อนจะยืนกอดอกจ้องมองเขาอย่างหาเรื่อง “รุ่นพี่มีอะไรจะคุยกับแจนถึงมาดักถึงหน้าห้อง ว่ามาได้เลยค่ะ ”ฉันจ้องเขาไม่ละสายตา นึกว่าฉันจะกลัวเขารึไง ไม่มีทาง มาเฟียอย่างฉันกลั
หมอพัฒน์ หมอที่ดูโอบอ้อมอารี ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ฉันเคยรักษากับเขา พี่แม็กเองก็ชมเขาไม่หยุด และดูเหมือนพี่เวลล์เองก็จะให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้าที่แสนดีขนาดนี้ จะซุกซ่อนความเลวร้ายได้เกินจะบรรยาย“ทำหน้าแบบนั้น ตกใจรึไงกัน” หมอพัฒน์ยังบีบคางฉันแน่นไม่ยอมปล่อย“หึ ถุย...” ฉันสถบถุยใส่เขาไม่เกรงกลัว และแน่นอนว่าฉันถูกตบหน้าไปอีกหนึ่งฉาด ‘เพี๊ยะ’ มือของชายคนนี้รุนแรงมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหลายสิบเท่า ตบเพียงครั้งเดียวทำให้หน้าสั่นเลือดกลบปากฉัน จนสำลักเลือดออกมาทางเรียวปากไหลเป็นทาง“ไม่เอานา...ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยนี้ต้องระบมไปมากกว่านี้” หมอพัฒน์ปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะเดินวนไปมา ท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ฉันยิ่งเห็นความน่ากลัวของชายวัยกลางคนคนนี้“หมอพัฒน์ ไม่สิคุณพัฒน์ คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมคือใคร เหมือนที่ผมรู้ว่าคุณคือใครน่ะ คุณหนูแจน” เขายืนกอดอกมองฉันด้วยใบหน้าแสยะยิ้มมองฉันราวกับลูกไก่ในกำมือ ในขณะที่ผู้หญิงด้านหลังนั่นมองฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้ออยากฆ่าฉันให้พ้น ๆ“งั้นฉันก็ไม่พิ
EP.50ณ.โรงพยาบาลฉันได้สติอีกทีเหมือนจะถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว มองไปรอบ ๆ ดูเหมือนจะนอนพักอยู่ในห้องพิเศษวีไอพีของโรงพยาบาลที่คุ้นตานั่นแหละ จริง ๆ ก็จำเหตุการณ์หลังจากที่หมดสติในรถนั่นไม่ได้หรอก คงเป็นพี่เวลล์ที่เรียกรถพยาบาลมาละมั้ง ทำให้ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็มีพยาบาลวนเข้ามาตรวจฉันเป็นระยะ อาหารอ่อนเข้ามาเสิร์ฟ ส่วนพี่เวลล์ก็มีเข้ามาหาบ้าง ไม่สิค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ แต่เพราะเขาเองก็ยังวุ่นกับวอร์ดจึงอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียง ให้กำลังใจ มอบรอยยิ้มให้ แล้วก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนยัยมีน กับพลอย ก็เจียดเวลามาเยี่ยมแล้ว แต่ฉันก็เป็นฝ่ายไล่พวกมันกลับไปไม่อยากให้พวกมันเฝ้า เพราะยังไงฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาจะฟูมฟาย ดูกังวลและแสดงออกว่าเป็นห่วงมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยเขาไม่เพียงดูนิ่งขรึมใบหน้าราบเรียบ แต่ไม่เอ่ยถามไถ่สาเหตุที่ฉันได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อยฉันที่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงเครั้ง ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่บนเตียงผู้ป่วยเหมือนเดิน พลางมองฝ้าเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เหมือนกันที่หมดสติไป
หลายเดือนต่อมาอีกไม่กี่วันก็ใกล้ปิดภาคเรียนแล้ว การมุ่งไปสู่ปีสี่ก็คืบคลานเข้ามา แม้โปรเจคนรกปีสามจะผ่านไป แต่การเรียนวิศวะมันไม่ง่ายเลย ยิ่งปีสี่แล้วถึงใจฉันจะพับโครงการนั่นไป แต่การเรียนในมหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ง่วนกับโรงพยาบาลตามเคย แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน ความรักของฉันกับพี่เวลล์ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี โดยฉันกับพี่เขาก็เติมหวานด้วยการสัญญาว่าในหนึ่งวัน ต้องโทร หรือส่งข้อความหากัน ห้ามหายเด็ดขาด บางครั้งพอมีเวลาวันหยุดก็มักไปเที่ยวด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเมคเลิฟกันบ้างถ้าสถานที่อำนวยส่วนวันนี้ ฉันกะจะเข้าไปตรวจโกดังสักหน่อย เพราะที่ผ่านมายุ่งทั้งเรื่องการเรียน และหาเวลาให้พี่เวลล์ ทำให้ห่างจากการไปดูแลงานของตระกูลไปพอสมควร จะปล่อยให้พี่ทิมจัดการคนเดียวได้ไง เขาก็มนุษย์คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นพี่เขา ก็คงบ่นว่า เจ้านายไม่ได้เรื่องแหง ๆ อีกอย่างเด่นเรื่องเรียน กับ ความรักไปแล้ว การงานจะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมดังนั้นวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เจียดไปเยี่ยมลูกน้อง แถมยังต้องติดตามอัปเดตข่าวสารพวกสายลับมาเฟียคู่อริอีก จะให้พวกมันมาหยามแย่งอิทธิพลทางการค้าฝั่งตะวันตกไม่ได้เด็ด
ดวงตาที่หลับสนิทของฉัน ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่าง ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หรี่มองไปยังหน้าต่างเล็กน้อยทอดมองออกไปยังตำแหน่งของแสงที่พาดผ่านมา ยกมือขยี้ดวงตาเบา ๆ พลางยืดแขนขึ้นเพื่อคลายความงัวเงีย“อ่ะ...” เพียงแค่ขยับจะลงจากเตียงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว เสียงที่เปล่งออกทำให้คนที่อยู่ด้านนอกวิ่งมาด้วยความตกใจ“เป็นอะไรครับ” ฉันที่เห็นพี่เวลล์วิ่งกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจหน้าตื่น เลิกคิ้วมองเพื่อรอให้ฉันตอบ อึ้ย...ใครจะไปบอกกันล่ะ ว่าพี่คะฉันปวดตรงนั้นมาก ให้ตายก็ไม่พูดหรอก แค่นี้ไม่สะเทือน ‘อึก’“ป่าวค่ะ สะดุ้งตื่นนิดหน่อย ว่าแต่กลิ่นอะไรหอมจัง”“พี่ทำกับข้าวไว้ให้ รีบลุกมาแปรงฟัน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาทานด้วยกันนะ”“ค่ะ ฮี่...” ฉันยิ้มจนตาหยี่ให้เขาก่อนที่เขาจะลูบหัวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป“ว่าแต่เมื่อคืนฉันนอนไปตอนไหน” ฉันลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็จ้องมองกระจกที่สะท้อนตัวเองขึ้นมา “แล้วชุดที่สวมใส่นี่ล่ะ พี่เวลล์ก็จัดการให้หมดงั้นเหรอ” พอหลับตาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ในสมองฉันกลับจดจำแต่เรื่องอย่างว่า ท่านั้น ท่านี้ ได้เท่านั้น
ให้ตายเถอะ เสียวมากอยู่หรอก แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะเสียวกว่าฉันมากไปหน่อยไหม เล่นสอบเอวใส่ปากฉันจนมิดลำแทบสำลัก ดีนะว่าควบคุมมันไว้ทันทันทีที่เขากระตุกตัวปล่อยน้ำขุ่นอุ่นร้อนของเขาออกมาเต็มโพรงปากฉัน ฉันก็ตั้งใจกลืนมันทุกหยดไม่ให้เหลือ รอบนี้เหมือนเขาไม่ได้บังคับ แต่เป็นฉันเองที่เสียวซ่านจนอยากจดจ่ออยู่ตรงกึ่งกลางกลายเขาอีกสักหน่อย แต่พอโลมเลียได้ไม่ทันไร มันกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งแล้ว‘พี่เวลล์ แอบหื่น นะเนี่ย’พอฉันละปากออกจากเจ้าแท่งที่ตอนนี้มันพยักหงึก ๆ อีกรอบนั้น ฉันก็ทรุดลง มือยันพื้นหยัดตัวไว้ หอบหายใจแรงจนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ยกมือเช็ดคราบบริเวณริมฝีปากพลางหายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย แต่นั่งได้ไม่นาน คนที่ยืนจ้องมองกันอยู่ก็สอดแขนใต้รักแร้ฉัน ดึงฉันขึ้นให้ยืนจากนั้นก็สวมกอด“เหนื่อยแล้วเหรอ” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ส่วนฉันหอบหายใจแรงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละหายใจไม่ทัน“ค่ะ เหนื่อย” ฉันตอบไปตามตรงแม้ว่าตรงนั้นจะปวดหนึบเพราะอยากมากก็ตาม“แต่พี่ไม่เหนื่อยเลยนะ” เขาเอ่ยเสียวแผ่วเบาก่อนจะงับใบหูเล็กๆ ของฉัน ตอนนี้เขาคงอารมณ์มาเต็มที่เพราะลมหายใจที่รดฉันมันร้อนมาก ร้อนช
EP.46(Well Part)จู่ๆ คนเมาในอ้อมแขนของผมก็กระซิบบอกรักผมซะงั้น ถ้าในเวลาปกติของแจนล่ะก็ไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักด้วยแววตาเสน่ห์แบบนี้เป็นแน่ สงสัยผมต้องขอบคุณคนที่คิดค้นน้ำมึนเมาขึ้นมานี้แล้วล่ะ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่แข็งกร้าวในยามปกติ ให้กลายเป็นคนขี้อ่อย ขี้อ้อนมาได้แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดอีก ถ้าเธอไปดื่มหนักที่ไหน เธอจะมีท่าทีแบบนี้กับคนอื่นด้วยรึเปล่า ไม่ได้การหลังจากนี้ผมคงต้องเข้มงวดกับเธอหน่อย ก็ตอนนี้เธอคือแฟนผมผมอุ้มคนเมามายวางลงโซฟากลางห้อง เพราะผมยังไม่ได้ทายาบริเวณขาและเข่าของเธอที่มันยังปรากฏรอยฟกช้ำ แม้ตอนนี้มันเป็นรอยจางสีม่วงแล้วก็ตาม แต่เพราะเธอทำตัวยุกยิกนั่งไม่นิ่ง จนผมต้องนั่งโอบรัดเธอจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ พี่ทายาให้ก่อน” ผมบีบยาลงในมือก่อนจะเอื้อมลูบไปตามรอยแผลฟกช้ำอย่างเบามือ “ยังเจ็บอยู่ไหม” ผมเอ่ยข้างหูเธอ“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงอันบางเบาของเธอตอบผม“ถ้าหายแล้วงั้น.....” ผมพูดให้เธอคิด ก่อนจะงับใบหูของเธอเบาๆมือผมเริ่มอยู่ไม่สุขละจากการทายาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอกของเธอคลึงเบาๆ ผ่านเสื้อยืนแสนบางที่ผมให้เธอเปลี่ยน ใบหน้าผมโน้มลงเล็กน้อยมองต้นคอระหงส์ท
EP.45พี่เวลล์พาฉันขับรถออกจากร้านอาหาร ฉันมองเขาอย่างคาดเดาความคิดไม่ได้สักนิดว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ทำอะไร ฉันรู้ได้แค่ว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนร่างท่านมารสุดหล่อสายตาสุดแซ่บที่สามารถชี้นิ้วสั่งฉันให้ทำอะไรก็ได้แบบนั้น สายตาความอ่อนโยนที่เคยเห็นมันไม่มีเลยสักนิด ดูร้ายๆ เหมือนจ้องจะงับเหยื่ออยู่ตลอด“วันนี้พี่แปลกๆ นะคะ” ฉันจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ก็ดูสิขนาดขับรถอยู่ก็ทำมุมปากยกยิ้มเป็นระยะ ดื้อๆ เขาเหมือนคนโดนเข้าสิงอ่ะ“ฮ่า....พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”“เนี้ย หัวเราะแบบนี้ก็แปลกแล้ว พี่ไปโดนยาอะไรมารึเปล่า” ฉันยืดหน้าไปมองเขาที่กำลังตั้งใจขับรถใกล้ๆ จ้องเขาอย่างคาดคั้น แต่ไม่ทันที่ฉันได้ตั้งตัว เขากลับหันมาจุ๊บฉันหนึ่งทีที่ริมฝีปากแล้วกลับไปสนใจกับการขับรถต่อฉันหดตัวกลับมานั่งประจำที่ตัวเอง ยกมือลูบปากตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองค้อนคนข้าง ๆ วันนี้ปากฉันเปื่อยไปหมดแล้วเพราะเขาแต่ถามว่าชอบไหม ริมฝีบางของเขาฉันต้องชอบอยู่แล้วล่ะ“พี่จะบอกฉันได้รึยังว่าจะพาฉันไปไหน”&ldquo
EP.44แม้ตอนนี้ฉันจะมีอะไรให้คิดมากมาย แต่เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ ฉันก็ต้องเฮฮาให้เต็มที่ สายตาอาจจะยังดูออกว่าหนักอึ้งเพราะยังเอาแต่คิดถึงเขา แต่ฉันก็ต้องฝืนเพราะพวกเราทุกคนในโต๊ะนี้ต่างผ่านนรกที่เรียกว่าโปรเจคเล็ก ๆ ปีสามกันมาจะให้มาเสียบรรยากาศเพราะฉันได้ยังไงล่ะอาหารที่สั่งเริ่มทยอยจัดวางบนโต๊ะของพวกเรา จากโต๊ะที่โล่งโจ้ง ตอนนี้กลับดูแคบไปถนัดตา เพราะหน้ามืดตามัวสั่งกันแบบไม่ยั้งคิด ตอนนี้ก็เลยมาลำบากท้องของพวกเราเองล่ะนะ“สั่งกันขนาดนี้จะกินหมดเหรอ” พลอยมองอาหารบนโต๊ะพลางทำหน้าเจื่อน“แค่เห็นก็รู้สึกอิ่มแล้วนะเนี้ย” ฉันพูดพลางกอดอกพิงหลังลงพนักพิง“จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะเว้ย พวกแกเองก็พูดสิ่งที่อยากกินออกมาทั้งนั้น ฉันก็สั่งไปตามนั้น” ไอ้นัทลุกขึ้นยืนยันโต๊ะเถียงขาดใจ“ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร นั่งลง ๆ” มิกที่อยู่ข้าง ๆ ไอ้นัทดึงตัวมันนั่งลง“เออ ใจเย็นก็แค่บ่น ๆ กันเท่านั้น ทานกันเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นชืดหมด”พวกเราทั้งสี่คน ต่างเอ็นจอยกับอาหารที่อยู่ต
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ