แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-29 04:48:28

บทที่ 8

คำของท่านแม่ลอยขึ้นมาในหัว

“พี่ของเจ้ามีโชคชะตาที่จะเป็นคู่กับพี่สะใภ้ เจ้าเองก็เหมือนกัน วันหนึ่งเจ้าก็จะเจอ เหมือนที่แม่เจอพ่อของเจ้า”

“ท่านแม่เล่าตอนที่มาเจอกับท่านพ่อให้ข้าฟังอีกได้ไหมเจ้าคะ” นิทานเรื่องหญิงสาวที่ไม่เชื่อในความรัก ถูกสายน้ำศักดิ์สิทธิ์พัดพามาเจอกับรักแท้ เป็นนิทานกล่อมนอนของไป๋ซีเยว่มาตั้งแต่เด็ก

แม้ว่าตอนเด็กมันจะเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่เมื่อโตขึ้นมาหญิงสาวก็เริ่มรู้ว่าทุกอย่างที่ท่านแม่ของตนเคยเล่านั้นหมายถึงอะไร

“ซีเยว่” เสียงของกู้หยวนเฉิงทำให้ซีเยว่หลุดออกจากภวังค์ และคำสุดท้ายที่ยังคงติดอยู่ในหัวคือคำของท่านแม่ “อย่าได้ไว้ใจหรือเชื่อใจใคร เพราะแม้บางครั้งสายน้ำจะพัดพาไปเจอกับคนแห่งโชคชะตา แต่เขาก็อาจจะไม่ใช่คนที่จริงใจ” ซีเยว่ยิ้มให้คนตรงหน้า

“ไม่เจ้าค่ะ ท่านแม่ไม่เคยพูด” หญิงสาวจงใจโกหก ต่อให้กู้หยวนเฉิงอาจจะเป็นโชคชะตาที่ว่า แต่มันก็ยังคงมีเส้นทางให้เลือกเหมือนที่ท่านแม่เลือก

“ข้าจะไปช่วยทุกคนเก็บของ” ซีเยว่กำลังจะลุกแต่กู้หยวนเฉิงดึงมือหญิงสาวเอาไว้ “ไม่ต้องหรอก เธอไม่อยากเรียนวิธีการพูดของคนยุคนี้เหรอ เผื่อเอาไว้ใช้เวลาไปบ้าน...ไปปักกิ่งน่ะ”

ข้อเสนอนั้นไม่ใช่เรื่องไม่ดี รู้เพิ่มมากขึ้นอีกอย่างไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องหนักหนาอะไรสำหรับไป๋ซีเยว่อยู่แล้ว

ที่จริงเพราะก่อนหน้านี้ทุกคนมัวแต่ยุ่ง ๆ เรื่องนั่นนี่ จึงไม่ได้แสดงอาการเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกจากปากหญิงสาว แต่เมื่อลองคิดให้ดี บางทีฝึกเอาไว้อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องเห็นสายตาแปลก ๆ

“ก็ดีเจ้าค่ะ”

หลังจากนั้นเมื่อมีเวลาว่าง กู้หยวนเฉิงก็ใช้เวลาทั้งหมดในการเล่าเรื่องราวความเป็นไปของสถานที่แห่งนี้ บางเรื่องหญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ฟัง บางเรื่องกลับทำหน้าราวกับได้ยินมาแล้วไม่รู้สึกสนใจ หรือแม้แต่บางอย่างก็บอกว่าท่านแม่ของตัวเองบอกว่ามันมีของที่ทันสมัยมากกว่า

และสิ่งหนึ่งที่กู้หยวนเฉิงค่อนข้างจะแปลกใจ

“นี่เธออ่านภาษาอังกฤษได้ด้วยเหรอ” แม้แต่กับคนยุคนี้ยังยาก อย่าว่าแต่ใคร ตัวเขาเองก็ยังได้ไม่มากนัก แม้จะอ่านออกเขียนได้ แต่การใช้ก็ไม่ถนัด แต่เพราะถูกฝึกในหน่วยทหารพิเศษและส่งมาไกลขนาดนี้ก็เพื่อตรวจสอบข่าวกรอง เลยพอพูดได้ และที่นี่ก็เลยยังมีหนังสือที่มีภาษาอังกฤษอยู่บ้าง

“ไม่ใช่แค่อ่านได้นะ พูดได้ด้วย แต่แค่นิดหน่อย อย่างชื่อยาพวกนั้นก็อ่านออก แต่ใช้ไม่เป็น”

“ที่จริงมีคู่มือภาคสนามด้วยเธอจะดูไหม เผื่อว่าจะได้เรียนรู้ยาพวกนั้น” ดวงตาของไป๋ซีเยว่เป็นประกายอีกครั้งหลังจากเบื่อ ๆ เพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อ “ก็ดี ข้าเองก็อยากรู้ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน พูดอย่างนี้ถูกไหมคะ” ท่าทางที่พูดออกมาทำให้หัวใจของกู้หยวนเฉิงเต้นแรง

“เธอทำอะไรกับฉันเนี่ย” เขาพูดบ่นออกมาตรง ๆ แต่ไป๋ซีเยว่กลับทำหน้าสงสัย

“ทำอะไรอย่างนั้นหรือ” ยิ่งชายหนุ่มยกมือขึ้นจับหัวใจยิ่งทำให้ซีเยว่กังวล “เป็นอะไรหรือเปล่า” ซีเยว่ขยับเข้ามาดูคนที่ดูอย่างไรก็เหมือนคนไม่สบาย หญิงสาวเกือบจะหยิบยาที่เก็บไว้

“เปล่าแค่...” เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงจับมือของเธอไปวางที่หัวใจของเขา “มันเต้นแรงขนาดนี้เพราะเธอ” หน้าของไป๋ซีเยว่กลายเป็นสีแดงระเรื่อ นี่เป็นครั้งที่สองที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางชัดเจนอย่างนี้

และทั้ง ๆ ที่ซีเยว่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่เสียอาการกับการกระทำของอีกฝ่ายง่าย ๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อยู่ดี

“ฉันว่าฉันไปหาตำรา ไม่ใช่สิหนังสือเกี่ยวกับยาพวกนั้นจะดีกว่า” ไป๋ซีเยว่รีบขอตัวจากชายหนุ่มที่เริ่มมีอิทธิพลต่อหัวใจของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

กู้หยวนเฉิงแม้จะเห็นว่าอีกฝ่าย ตั้งใจหนีเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาคิดว่ามันคือสัญญาณที่ดี

“มองตามตาไม่กระพริบเลยนะครับท่านผู้บัญชาการ” ชายหนุ่มที่ถูกเพื่อนเอ่ยแซวหันไปมองอย่างไม่พอใจ

“ทีขอให้ช่วยไม่ช่วย ทีตอนนี้มาพูดมากนะ”

“โธ่จะให้ฉันช่วยอะไร เคยเห็นฉันมีคนรักสักคนไหม จีบใครสักคนล่ะเคยเห็นหรือเปล่า เพราะฉะนั้นฉันช่วยไม่ได้หรอก แต่สิ่งที่ฉันบอกได้อย่างหนึ่ง ไม่ใช่ว่าไม่มีหวัง ถึงจะไม่เคยจีบใคร แต่ก็เคยเห็น ๆ มาบ้าง ถึงดูเหมือนตอนนี้คุณหมอคนสวยจะยังไม่สนใจท่านผู้บัญชาการสุดหล่อ แต่ขยันหน่อยเดี๋ยวก็ขยับสถานะเอง”

แม้จะรู้ว่านั่นเป็นคำปลอบของเพื่อนที่รู้จักกันมานาน แต่กู้หยวนเฉิงขอเชื่อมันจะได้ไหม เขายอมรับตรง ๆ ว่าไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้กับใครมาก่อน และการจีบใครสักคนก็เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่ายากยิ่งกว่ายาก เพราะเขาไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แต่บางทีสิ่งที่ยากกว่าอาจจะไม่ใช่การได้ใจของไป๋ซีเยว่มาครอบครองก็เป็นได้

กู้หยวนเฉิงคิดถึงครอบครัวของเขาที่อยู่ที่ปักกิ่ง แม้ว่าไป๋ซีเยว่จะมีความรู้และมีความสามารถมากมายในแบบที่คงหายากในปักกิ่ง หรืออาจจะในประเทศตอนนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าเธอจะทำให้คนในครอบครัวของเขาพอใจได้

“คิดไปไกลถึงไหนกันนะหยวนเฉิง” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเอง จีบเขายังไม่ได้ และยังไม่รู้เลยว่าหญิงสาวจะหนีเขาไปเมื่อไร แต่กลับคิดเรื่องเข้าบ้านซะแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 31

    บทที่ 31“ตั้งแต่เด็กผมเคยถามพ่อตลอดว่าผมทำดีหรือยัง แต่พ่อไม่เคยบอกว่ามันดี ตอนนี้ผมไม่สนใจอีกแล้วว่าพ่อจะคิดอย่างไร ในเมื่อทำแค่ไหนก็ไม่ดีสำหรับพ่ออยู่ดี ผมก็จะทำในแบบของผมเอง” “ลูกพูดกับพ่ออย่างนี้ได้อย่างไรหยวนเฉิง...” กู้หยวนเฉิงหันมองแม่ตัวเอง “ทำไมผมจะพูดไม่ได้ แม่เคยเห็นใจผมบ้างไหม ตั้งแต่เด็กมาผมเคยใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นไหม มีแต่แม่อยากให้เป็นอะไร พ่อชอบให้ผมทำอะไร หากแม่อยากเอาใจพ่อ แม่ก็ทำเองสิครับ จะมาใช้ผมเป็นเครื่องมือทำไม แม่เห็นใจผมบ้างไหมหรือแค่ทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของแม่เท่านั้น” “พูดจาไม่สมกับเป็นคนตระกูลกู้” กู้หยวนเฉิงหัวเราะเย้ยหยันตัวเองและคนตรงหน้า “พ่อเคยถามผมหรือเปล่าว่าผมอยากเป็นไหม เป็นคนตระกูลกู้ต้องเป็นอย่างไรเหรอครับ พ่อเคยทำให้ปู่พอใจได้ไหม ผมมั่นใจเลยว่าไม่ได้ ความต้องการของคนตระกูลกู้ช่างสูงส่งจริง ๆ แต่ผมคงเป็นไม่ไหว ผมแค่อยากมีครอบครัวของผมแค่นั้น เป็นคนธรรมดาที่ช่วยเหลือคนอื่น...” กู้หยวนเฉิงชี้ไปที่ซีเยว่“พ่อกับแม่รู้ไหมว่าเธอ...ไม่สิ อธิบายบอกไปก็คงไม่ทำให้พ่อแม่เข้าใจหรอก ครั้งนี้ผมจะออกไปจากบ้านหลังนี้อีกครั้ง แต่มันไม่ใช่การหนี ผ

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 30

    บทที่ 30“ไปข้างบนเถอะ” กู้หยวนเฉิงที่เดินออกมารีบประคองภรรยาของเขาขึ้นไปบนบ้าน แต่เพียงแค่เดินผ่านแม่ของเขา เสียงของแม่เขาก็ดังตามมา“เดินไปทั่วราวกับเห็นที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง ที่เข้ามาอยู่ที่นี่ได้ ก็เพราะลูกชายของฉันยืนกรานจะรับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะมีที่ยืนในตระกูลกู้หรอกนะ” แม้จะไม่พูดอะไรออกมาแต่ไป๋ซีเยว่กลับคิดอะไรอยู่มากมายในหัวของเธอในตอนนี้“คำพูดของพ่อคุณหมายความว่าอย่างไร” ไป๋ซีเยว่ไม่อยากคิดมากไปเอง เธอท้อง...นี่เป็นความจริงที่เธอยังไม่ได้บอกสามี เธอรู้ตั้งแต่ยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แต่แค่อยากแน่ใจว่าจะไม่มีปัญหาอะไร จึงคิดว่าจะบอกเขาตอนที่ทุกอย่างมันดีกว่านี้ แต่คำที่ได้ยินเมื่อครู่“พ่อไม่คิดถึงอะไรนอกจากตระกูลหรอก หลานจากฉันก็คือทายาทของเขา เธอไม่ต้องกังวลหรอก ปัญหายังมาไม่ถึง เอาแค่วันพรุ่งนี้พวกเราจะอยู่ที่นี่ไหวไหมดีกว่า”ไป๋ซีเยว่เงียบไป เธอรู้สึกไม่มั่นใจกับการรับมือกับปัญหาครอบครัวของคนตรงหน้าเลยสักนิด กู้หยวนเฉิงที่วางแผนรบได้ แต่กลับจัดการพ่อแม่ของตัวเองไม่ได้“พรุ่งนี้เราย้ายไปหาบ้านเช่ากันไหม แล้วค่อยทำอย่างเธอบอก หนีไปอยู่มณฑลไกล ๆ”“แล้วต้องหนีไปไกลแค่ไ

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 29

    บทที่ 29แม้จะรู้ว่าแม่สามีไม่ชอบ และพ่อสามีก็ยังคงคิดเหมือนกัน แต่ในเมื่อตั้งใจจะทำให้ถึงที่สุดแล้ว ซีเยว่จึงตัดสินใจลงมาช่วยคนงานในครัวจัดอาหารเย็น“คุณไม่ต้องมาช่วยก็ได้ค่ะ ปกติคุณนายก็ไม่ทำ” ซีเยว่ยิ้มเมื่อเธอเดินเข้ามาในครัวแล้วทุกคนตกใจและแปลกใจมากกว่าไม่ต้อนรับ“ฉันแค่อยากทำอาหารที่บำรุงร่างกายให้พวกท่านได้ลองน่ะค่ะ” คนงานในครัวเข้าใจ หญิงสาวคงอยากจะทำตัวให้แม่สามีรัก แต่คงจะยากสักหน่อยเพราะเหมือนอคติจะอยู่ในใจไปแล้วไป๋ซีเยว่อยู่ในครัวเกือบสองชั่วโมงเพื่อทำอาหารที่ต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถหากินได้ หลังจากทำเสร็จเธอรีบกลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็จำเป็นต้องเดินผ่านแม่สามีที่นั่งอยู่ที่ห้องโถงก่อนขึ้นบันได“แต่งตัวให้ดีอย่างไรก็ไล่กลิ่นสาบบ้านนอกออกไปไม่ได้สินะ” สายตาเหยียด ๆ ถูกส่งมาให้ ไป๋ซีเยว่ได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินหนีไป ไม่แม้แต่จะต่อความยาวกับคนอายุมากกว่า “ผู้ใหญ่พูดด้วยไม่ได้ยินหรืออย่างไร” แม้แม่สามีของเธอจะลุกขึ้นมายืนต่อว่าซีเยว่ก็ทำเพียงแค่หันมองแล้วก้มหัวให้ก่อนจะเดินหนีมาเท่านั้นเธอไม่คิดว่าการพูดจาจะมีประโยชน์อะไร ที่จริงตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าที่นี่ไม่น่าอยู่ โ

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 28

    บทที่ 28ไป๋ซีเยว่มองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้า เธอรู้แค่ว่ามันใหญ่แค่นั้นไม่ได้ตื่นเต้นหรือคิดว่ามันแตกต่างอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่ากู้หยวนเฉิงมีตระกูลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่เมื่อหันไปมองคนข้าง ๆ กู้หยวนเฉิงมองประตูคฤหาสน์ของตนด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่ได้รู้สึกดีกับมันสักเท่าไร ถ้าหากเลือกเกิดได้เขาอยากเป็นแค่คนธรรมดา ๆ แบบป๋ออี้หรันมากกว่า แต่มันคงทำไม่ได้“คุณชายกลับมาแล้วเหรอครับ” หยวนเฉิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ส่งของของเขาและของซีเยว่ไปให้กับลุงคนทำสวนเท่านั้น“เอาไปไว้ที่ห้องผม” “ไม่ต้องเอาไปไหนทั้งนั้นนั่นแหละ กลับมาได้แล้วเหรอ นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีบ้านอยู่ตรงนี้” คุณนายกู้มองลูกสะใภ้ของตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า “ลูกเต้าเหล่าใครล่ะ...” ซีเยว่ยังไม่ทันตอบอีกฝ่ายก็พูดต่อ “ถึงได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัว อายุเท่านี้ก็แต่งงานแล้ว หนังสือคงไม่รู้เลยล่ะมั้ง” ใบหน้าเหยียด ๆ นั่นทำให้ซีเยว่ไม่ค่อยพอใจนัก เธอเริ่มเข้าใจคำของกู้หยวนเฉิงแล้วที่ไม่อยากกลับบ้าน ขนาดลูกชายอยู่ตรงนี้ อีกฝ่ายยังไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด“ผมแค่กลับมาเยี่ยมก่อนจะเข้าไปรายงานตัวครับ ถ้าแม่ไม่พอใจผมเลยไปนอนที่กรมเลยก็ได้”

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 27

    บทที่ 27กู้หยวนเฉิงและไป๋ซีเยว่เดินผ่านคนมากมายเข้าไปที่ลานกว้างหน้าหอระฆัง พวกเขาเห็นป๋ออี้หรันยืนรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองโบกมือให้กันทันทีที่เห็น “ในที่สุดก็มาสักที นึกว่าจะต้องไปตามแล้ว” ป๋ออี้หรันอย่างไรก็ยังเป็นคนพูดมากอยู่ดี “กลัวไหม” กู้หยวนเฉิงถามไป๋ซีเยว่ คนที่เมืองหลวงเดินไม่ค่อยดูคน และบรรดาคนที่ขายของก็มักจะถึงเนื้อถึงตัว“ชุดนี้เหมาะกับแม่หนูมากเลยนะ สนใจไหม” ไป่ซีเยว่มองแล้วก็พยักหน้า ที่จริงมันก็ไม่ต่างอะไรกับตลาดชายแดนเมื่อก่อน คนเยอะมากมาย“ชุดนี้เหมาะกับเธอดี เอาไหมฉันซื้อให้” ซีเยว่ส่ายหน้า “ให้ฉันได้ใช้เงินบ้างเถอะ”“ฉันเองก็ไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกันนะ” “จะเถียงกันทำไม แม่หนูก็เอาไปสองชุด ซื้อเองด้วย ให้สามีของหนูซื้อให้ด้วยดีไหม” สุดท้ายแวะร้านแรกก็ได้ชุดมาตั้งสองชุด “พูดเยอะจนแม่ค้าล้อเลย” ป๋ออี้หรันที่เดินตามมาก็อดหัวเราะขำไม่ได้ แม้สองคนนี้จะแต่งกันมานาน แต่ก็ยังมีท่าทางเกร็ง ๆ ต่อกันอยู่ดี“อุ๊ย น่ารักจัง” ไป๋ซีเยว่เห็นกิ๊บติดผมแล้วก็หยุดยืนดู คงเป็นเพราะคนที่นี่ไม่ค่อยประดับผมเท่าไร แต่เธอชอบมาก แม้จะไม่เหมือนกับการปักปิ่นแบบนั้นแต่มันก็ดูสวยดี“สวยทั

  • หมอหญิงยอดดวงใจพันเอก   บทที่ 26

    บทที่ 26รถไฟเที่ยวพิเศษสำหรับเหล่าทหารที่กลับไปยังเมืองหลวงและมณฑลต่าง ๆ จอดนิ่งอยู่ที่ชานชาลา เสียงหวีดเบา ๆ ของหัวรถจักรทำให้ไป๋ซีเยว่ที่เพิ่งเคยเห็นรถไฟครั้งแรกออกจะตื่นเต้นแต่ก็ต้องพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้“เพิ่งเคยขึ้นครั้งแรกใช่ไหม” กู้หยวนเฉิงกระซิบเบา ๆ ข้างหูภรรยาของเขา ซีเยว่พยักหน้า “ใช่ เหมือนที่ท่านแม่เคยเล่า แต่ว่ามันมีเร็วกว่านี้ด้วยนะ” “รู้ได้อย่างไรว่าเร็วกว่า” “ท่านแม่บอกว่ามันมีหลายแบบ อันนี้มีไอน้ำน่าจะเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำใช่ไหม” กู้หยวนเฉิงพยักหน้า “ใช่ ขึ้นไปกันเถอะ” ไม่ว่าอะไรในชีวิตของไป๋ซีเยว่ก็ดูจะใหม่ทั้งหมดเมื่อได้มาอยู่ข้างกายของกู้หยวนเฉิง แม้หลายสิ่งจะแตกต่างจากที่เคยได้ยินแม่ของเธอเล่าแต่มันก็ดูคลับคล้ายพอไปถึงที่นั่งซีเยว่ก็จะเอาของขึ้นเก็บด้านบนหัวที่เป็นที่เก็บของ แต่กู้หยวนเฉิงก็จัดการให้ “อะไรจะหวานกันขนาดนั้น นั่งไปสองคนเลยฉันนั่งตรงนี้คนเดียวก็ได้” ป๋ออี้หรันแกล้งชนกู้หยวนเฉิงก่อนจะเดินไปนั่้งฝั่งตรงข้าม“ว่าแต่รถไฟมันโยกเยก ร้อยโทไป๋ก็นั่งดี ๆ นะครับ หรือจะให้เพื่อนของผมประคองเอาไว้ก็ได้” “ปากนายนี่ ไปนั่งที่อื่นเลย”“เห็นฉันเป็นส่วนเกิน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status