ตอนที่ 2 โลกเหวี่ยงให้พบเจอ
พ่อของปลายฟ้าเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลางดึก หญิงสาวจึงพาพ่อของเธอไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจ
“โอ๊ย! ปวด ปลายฟ้าพ่อปวดจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” เสียงร้องโอดครวญของชายวัยห้าสิบปลาย ๆ ที่ตอนนี้นอนขดตัวเอามือกุมที่หน้าท้องตัวเองอยู่บนเตียงรถเข็นของโรงพยาบาล
“พ่อใจเย็น ๆ นะหมอกำลังมาค่ะ” ใบหน้าหวานที่ตอนนี้แทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อที่นอนกุมท้องด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะปวดท้องอย่างหนัก
“เจ็บเหมือนไส้จะขาดเลยฟ้าเอ๊ย” น้ำเสียงที่แหบและขาดช่วงนั้นทำเอาปลายฟ้าใจคอไม่ดี ก่อนที่จะได้ยินเสียงพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจใบหน้าหวานที่น้ำตาคลออยู่รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูกเมื่อพ่อของเธอถึงมือหมอสักที ปลายฟ้ารีบเดินตามบุรุษพยาบาลที่เข็นพ่อของเธอเข้าไปในห้องตรวจทันที พ่อของปลายฟ้าถูกย้ายให้ขึ้นนอนบนเตียงเพื่อให้คุณหมอตรวจโดยมีปลายฟ้ายืนมองอยู่ไม่ห่าง
“จากที่หมอตรวจดูรวมถึงอาการที่คนไข้และญาติบอกหมอเกี่ยวกับอาการที่เป็นแล้ว เบื้องต้นคาดว่าเป็นอาการจากโรคกระเพาะนะคะแต่อาจจะอยู่ในภาวะที่กำเริบอย่างรุนแรง เดี๋ยวหมอจะฉีดยาบรรเทาอาการปวดให้ก่อน เนื่องจากคนไข้ทานยาแล้วอาการยังไม่ค่อยทุเลา แล้วพรุ่งนี้หมอจะส่งคนไข้ไปเอกซเรย์ดูอีกทีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ยังไงคืนนี้หมอจะให้แอดมิดดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ” คุณหมอของขวัญผู้เป็นแพทย์เจ้าของไข้และเป็นผู้ตรวจบอกกับญาติคนไข้ที่ตอนนี้มีปลายฟ้าและแม่ยืนฟังอย่างตั้งใจ
“คุณหมอคะคุณพ่อของดิฉันไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ” ปลายฟ้าหันไปถามหมอท่าทางกังวลจนเห็นได้ชัด
“เดี๋ยวรอดูผลเอกซเรย์พรุ่งนี้อีกทีค่ะถ้าหากว่าผลออกมาปกติก็แสดงว่าเป็นเพียงโรคกระเพาะธรรมดา ก็คงจะต้องทานยาร่วมกับการปรับพฤติกรรมเรื่องอาหารการกินและงดอาหารบางชนิดด้วยค่ะ” คำอธิบายเบื้องต้นของคุณหมอสาวถึงแม้จะยังไม่สามารถคลายความกังวลของปลายฟ้าลงได้แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็เบาใจที่คืนนี้ยังไงก็ยังอยู่ใกล้หมอ
เช้าวันถัดมา
“ขออนุญาตพาคนไข้ไปเอกซเรย์ครับ” รถเข็นแบบนั่งถูกบุรุษพยาบาลเข็นมารอที่ปลายเตียงเพื่อรอรับคนไข้ในเช้าของวันใหม่ หลังจากที่เมื่อคืนปลายฟ้าเลือกที่จะอยู่เฝ้าพ่อของเธอโดยให้ผู้เป็นแม่กลับไปพักที่บ้าน
“ฉันสามารถไปด้วยได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามบุรุษพยาบาลเวรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจ
“ได้ครับแต่รบกวนรออยู่ด้านนอกนะครับ”
“โอเคค่ะ” ปลายฟ้าเดินตามบุรุษพยาบาลที่เข็นพ่อของเธอไปยังห้องเอกซเรย์ เช้านี้อาการของพ่อของเธอเริ่มดีขึ้นเมื่อได้รับยาไปตอนเช้ามืดที่ผ่านมา เมื่อไม่เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของคนเป็นพ่อปลายฟ้าก็เบาใจลงบ้างและภาวนาให้ผลเอกซเรย์ออกมาปกติดี
ระหว่างที่หญิงสาวยืนรอพ่อของเธออยู่สายตาก็เหลือบไปเห็นคุณหมอหนุ่มสามคนกำลังเดินผ่านตรงที่เธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก สีหน้าท่าทางดูเคร่งเครียด และหนึ่งในสามของกลุ่มนั้นปลายฟ้าจำได้ว่าคือหมอภีร์พ่อของลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอที่ชื่อมินนี่ ปลายฟ้าคิดว่าเธอจำคนไม่ผิดแม้ว่าจะเห็นเพียงด้านข้างก็ตาม หญิงสาวเคยได้ยินลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอพูดถึงคุณพ่อบ่อย ๆ มินนี่ดูภูมิใจทุกครั้งที่เอ่ยถึง คนเป็นพ่อรวมถึงเรื่องที่ภีร์เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้ปลายฟ้าก็รู้มาจากเด็กสาวเช่นกัน
ผลตรวจเอกซเรย์ออกมาช่วงบ่ายหมอเจ้าของไข้ได้ถือฟิล์มเอกซเรย์เข้ามาในห้องแล้วมาหยุดอยู่ที่เตียงพ่อปลายฟ้า โดยขณะที่หมอกำลังดูผลแผ่นฟิล์มเอกซเรย์อยู่ ๆ ก็มีเคสด่วนที่ต้องรีบไปดู คุณหมอสาวจึงเสียบชาร์จคนไข้พร้อมผลเอกซเรย์ไว้ที่ปลายเตียงก่อนจะรีบออกจากห้องไป เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงเศษหมอเจ้าของไข้ก็ไม่มีท่าทีจะกลับมาตรวจ ปลายฟ้าที่ใจจดจ่ออยู่กับผลตรวจนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติด
“ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ไม่ทราบว่าหมอเจ้าของไข้คนไข้เตียงหนึ่งจะกลับมาตรวจคนไข้อีกเมื่อไหร่คะ พอดีคุณหมอยังไม่ได้แจ้งผลเอกซเรย์ให้ทราบค่ะว่าคุณพ่อของดิฉันเป็นอะไรกันแน่” ปลายฟ้าเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่พยาบาลตรงเคาน์เตอร์ เพื่อถามหาหมอเจ้าของไข้พ่อของเธอด้วยท่าทางสุภาพ
“ตอนนี้คุณหมอของขวัญกำลังติดคนไข้เคสฉุกเฉินอยู่ค่ะ ยังไงรบกวนญาติรอสักครู่นะคะเดี๋ยวคุณหมอเสร็จจากการดูคนไข้แล้วจะรีบกลับมาค่ะ” ใบหน้ายิ้มแย้มสมกับทำงานด้านบริการผู้ป่วยของพยาบาลสาวบอกกับปลายฟ้าให้รับทราบ แต่ก็ไม่สามารถลดระดับความร้อนใจของปลายฟ้าให้เบาลงได้
ปลายฟ้าที่ร้อนใจอยากทราบผลตรวจของผู้เป็นบิดาไว ๆ จึงแอบหยิบชาร์จคนไข้ที่มีประวัติการตรวจรักษาทั้งหมดแนบอยู่นั้นขึ้นมาดูและแอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ซึ่งการกระทำของหญิงสาวเป็นการทำผิดกฎของโรงพยาบาลที่ห้ามถ่ายรูปในโรงพยาบาล
จังหวะนั้นภีร์ซึ่งเป็นเจ้าของไข้เตียงข้าง ๆ ที่พ่อปลายฟ้านอนรักษาตัวก็กำลังเดินเข้ามาเพื่อตรวจอาการคนไข้ในความดูแลของเขา คุณหมอหนุ่มเหลือบไปเห็นปลายฟ้าตั้งแต่หยิบชาร์จที่เสียบไว้ตรงปลายเตียงขึ้นมาเปิดดูรวมถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ภีร์หยุดมองดูการกระทำที่เป็นข้อห้ามของโรงพยาบาลจากหญิงสาวตรงหน้าแต่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมอง คุณหมอหนุ่มจึงเดินไปหยิบชาร์จผลตรวจในมือหญิงสาวมาถือไว้เอง
พรึ่บ!!
ชาร์จคนไข้ในมือของปลายฟ้าถูกดึงออกจากมือไปอย่างรวดเร็วจนหญิงสาวตกใจ ก่อนที่ปลายฟ้าจะหันไปมองคนที่แย่งประวัติการรักษาพ่อของเธอทันที
“คุณ!!” ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อได้เห็นว่าคนที่แย่งชาร์จผลตรวจพ่อของเธอคือคุณหมอหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งคุณพ่อของลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอนั่นเอง
ปลายฟ้ายืนมองภีร์ตัวสั่น ตอนนี้นอกจากอาการกลัวเพราะถูกตำหนิเรื่องการแอบถ่ายรูปแล้ว ปลายฟ้ายังใจเต้นรัวเมื่อได้เห็นภีร์แบบใกล้ ๆ หญิงสาวไม่เคยตั้งใจมองชายหนุ่มเลยสักครั้งถึงแม้ว่าภีร์จะไปรับไปส่งลูกสาวของเขาอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ต่างจากตอนนี้ที่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงแขน ปลายฟ้าจึงมีโอกาสได้พิจารณาใบหน้าของคุณหมอหนุ่มใกล้ ๆ แม้ตอนนี้ภีร์จะมีสีหน้าที่เรียบเฉยสายตาคมดูเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ แต่นั่นกลับทำให้ปลายฟ้ารู้สึกแปลก ๆ ใบหน้าคมที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ล้ำลึกชวนให้หญิงสาวออกอาการหน้าแดงโดยไม่รู้ตัวทั้งที่สถานการณ์ไม่ได้เอื้อต่อความรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด ภีร์ถือชาร์จที่แย่งมาจากมือของปลายฟ้าแล้วเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวช้า ๆ หลังจากที่ยืนตะลึงในความสวยหวานของปลายฟ้าอยู่นานเช่นกัน
“ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปผลการรักษาที่ถือว่าเป็นความลับของคนไข้และทางโรงพยาบาลนะครับ ซึ่งเป็นกฎที่ทางโรงพยาบาลได้แจ้งปิดประกาศไว้ตรงหัวเตียงทุกเตียงถ้าหากว่าคุณจะอ่านบ้าง การกระทำของคุณถือเป็นการละเมิดกฎนะครับรู้ตัวหรือเปล่า” น้ำเสียงเรียบของคุณหมอหนุ่มสร้างความรู้สึกผิดแก่ปลายฟ้าจนต้องก้มหน้าหลบสายตาคมคู่นั้น
“คือ คือฉันแค่ร้อนใจที่ยังไม่เห็นคุณหมอเจ้าของไข้มาบอกเรื่องผลเอกซเรย์ของคุณพ่อสักทีน่ะค่ะ” เสียงหวานออกอาการสั่นเล็กน้อยบอกออกไปตามความจริง
“คุณก็เลยจะถ่ายรูปเพื่อไปโพสต์ลงโซเชียลให้ชาวเน็ตช่วยอ่านผลการรักษาอย่างนั้นหรือ” คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นของปลายฟ้าทำให้ภีร์สวนกลับทันที
“ไม่ใช่นะคะคุณภีร์ เอ่อ คุณหมอ คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันแค่จะถ่ายเก็บไว้” ความเคยชินในการเรียกชื่อผู้ปกครองนักเรียนของปลายฟ้าทำให้หญิงสาวหลุดเรียกชื่อคุณหมอหนุ่มเหมือนรู้จักกัน ก่อนจะรีบกลับมาเรียกคุณหมอตามตำแหน่งงานชายหนุ่ม เมื่อตอนนี้ภีร์ไม่ได้อยู่ในบทบาทของคุณพ่อแต่เป็นคุณหมอที่กำลังรักษาคนไข้
“ถ่ายเก็บไว้เพื่ออะไรครับเพราะยังไงคุณก็อ่านผลไม่เป็นอยู่ดี ยังไงหมอเจ้าของไข้เขาก็ต้องมาอธิบายผลให้ฟังอยู่แล้ว คุณเป็นครูสอนนักเรียนควรจะมีวุฒิภาวะมากพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรคราวหลังอย่าทำอีกนะครับเพราะคุณอาจจะโดนทางโรงพยาบาลเอาผิดได้” ภีร์พูดกับปลายฟ้าด้วยสีหน้าจริงจังค่อนไปทางไม่พอใจ ปลายฟ้าพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้พร้อมกับสีหน้าที่รู้สึกผิดเมื่อถูกคุณหมอหนุ่มตักเตือนและต่อว่า ภีร์มองดูเจ้าของใบหน้าหวานที่เครื่องหน้าลงตัวแบบไร้ที่ตินั้นอีกครั้งก่อนจะเดินไปตรวจคนไข้ของตนเองที่อยู่เตียงถัดไป แม้ใบหน้าหวานนั้นจะดูตรึงใจสำหรับเขาแต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมของหญิงสาวที่กระทำที่หน้าโรงเรียนของลูกสาวบวกกับพฤติกรรมที่ขาดวุฒิภาวะในวันนี้ภีร์ก็รู้สึกไม่ชอบใจปลายฟ้าโดยไม่มีสาเหตุ
ชาร์จประวัติที่อยู่ในมือเกี่ยวกับการรักษาพ่อของปลายฟ้าถูกภีร์สแกนอ่านด้วยสายตาอย่างรวดเร็ว คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเหมือนไม่แน่ใจอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเวลาอ่านมากนัก เพราะต้องรับไปตรวจคนไข้แล้วอีกอย่างเคสนี้ก็เป็นเคสของเพื่อนหมอด้วยกันจึงอยากให้หมอเจ้าของไข้เป็นคนวิเคราะห์จะเป็นการดีกว่า ภีร์วางชาร์จคนไข้ลงบนโต๊ะหมอของขวัญแพทย์เจ้าของไข้อย่างไม่สนใจอีก
สองชั่วโมงผ่านไป
“ขอโทษนะคะพอดีก่อนหน้านี้หมอมีเคสด่วนเลยต้องรีบไปดู ผลเอกซเรย์ออกมาแล้วนะคะคนไข้เป็นแผลในกระเพาะอาหารซึ่งเกิดได้จากการที่ทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานอาหารรสจัด รสเค็ม หรือโดยเฉพาะการดื่มสุราอย่างหนักเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้เป็นพิษต่อโรคนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่อยากทรมานกับอาการปวดท้องอีกคนไข้ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหารให้ดีควบคู่ไปกับการทานยาที่หมอให้นะคะ” คุณหมอแพทย์หญิงเจ้าของไข้รายงานผลเอกซเรย์ให้คนไข้และญาติทราบหลังจากกลับเข้ามาพร้อมผลตรวจอีกครั้ง ปลายฟ้ายืนฟังรายงานผลเอกซเรย์จากหมอเจ้าของไข้อย่างตั้งใจก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อผลออกมาไม่เป็นอะไรร้ายแรงอย่าที่เธอและแม่กังวล
“งั้นวันนี้คุณพ่อของดิฉันก็สามารถกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมคะ”
“เดี๋ยวรับยาแล้วก็กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ค่ะ พยายามปฏิบัติตัวตามที่หมอแนะนำนะคะอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ”
ขณะที่ปลายฟ้ากำลังนั่งรอรับยาให้คนเป็นพ่ออยู่นั้น หญิงสาวก็เห็นภีร์กำลังเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ส่วนภีร์นั้นก็มองเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่เช่นกัน
“คุณหมอคะ คุณหมอภีร์คะ” เสียงหวานใสที่เอ่ยเรียกชื่อคุณหมอหนุ่มเสียงดังทำให้ภีร์ที่กำลังจะเดินกลับไปห้องพักแพทย์หยุดเดินแล้วหันมามองก่อนจะเห็นว่าเป็นใคร
“ครับมีอะไรหรือครับ” ใบหน้าที่เรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ พร้อมน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรของภีร์ทำเอาปลายฟ้าแทบอยากหันหลังกลับแต่ก็ทำใจดีสู้เสือพูดออกไป
“เอ่อ..พอดีฉันกำลังจะพาคุณพ่อกลับบ้านค่ะ คุณหมอของขวัญอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ค่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจปลายฟ้าให้บอกชายหนุ่มออกไปแบบนั้น
“ครับ ก็ดีแล้วนี่ครับ ขอตัวก่อนนะครับผมมีตรวจคนไข้ต่อ” พูดจบภีร์ก็ปลีกตัวเดินออกไปทันที
ตอนที่ 33 ขอบคุณที่เกิดมา“อือ..อื้อ” สิ้นเสียงคำตอบภีร์ก็กระโจนใส่ร่างบางราวเสือเจอเนื้อชิ้นโปรดที่ยืนเฝ้าอยู่เนิ่นนาน บัดนี้ถึงเวลาเจ้าของชิ้นเนื้ออนุญาตให้ลิ้มรสได้จึงไม่รีรอที่จะเขมือบเข้าปากภีร์จัดการถอดชุดนอนปลายฟ้าจนเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ก่อนจะหันกลับมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองพลางซุกคลอเคลียจนหญิงสาวเริ่มคล้อยตาม เขาอาศัยจังหวะนั้นแทรกตัวกลางหว่างขา ยกมือขึ้นลูบกลีบดอกไม้อวบนูนเบา ๆ ก่อนที่น้ำหล่อลื่นสีใสจะแทรกซึมออกมาตอบสนองปลายฟ้าเม้มปากแน่นเมื่อถูกพันธะการข้อมือตรึงไว้เหนือศีรษะทุยด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว แรงกระทุ้งเข้ามาในกายของช่วงล่างทำเอาปลายฟ้าน้ำตาคลอ พยายามกัดฟันแน่นข่มความเจ็บ“อึก..มะ..มันเจ็บค่ะ..เอาออกก่อนได้ไหม” ปลายฟ้าบอกเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า“เข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะให้ผมเอาออกอีกเหรอฟ้า อดทนหน่อยนะคนดียิ่งเอาออกแล้วใส่เข้ามาใหม่คุณจะยิ่งเจ็บ”“มันใหญ่เกินไป มันเข้าไม่ได้หรอกค่ะ” เพียงแค่เห็นภีร์ใช้ลิ้นดันมุมปากก็พานหายใจไม่ทั่วท้อง“ธรรมชาติสร้างหญิงและชายให้เกิดมาคู่กัน เราสองคนจะเข้ากันได้ดี ผ่อนคลายนะคนดี” ภีร์ปลอบประโลมคนใต้ร่างที่ตอนนี้นอนเ
ตอนที่32 เรื่องเล่าหลอกเด็กมื้อค่ำบรรยากาศที่เงียบสงัดยามค่ำคืนพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปและมีแสงไฟหลากสีสว่างขึ้นแทน บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกันต่างกำลังมีความสุขกับครอบครัวในมื้อค่ำ ภีร์และปลายฟ้านั่งทานอาหารที่ช่วยทำขึ้นมาอย่างมีความสุข“คุณกลัวผีไหม” อยู่ ๆ ภีร์ก็ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าปลายฟ้านั้นทานอาหารเสร็จแล้ว“ที่นี่มีผีด้วยเหรอคะ ฉันนึกว่ามีแต่ที่เมืองไทยเสียอีก” ปลายฟ้าไม่ได้ตอบคำถามของภีร์แต่กลับถามกลับด้วยสีหน้าจริงจัง“ที่ไหนก็มีผีทั้งนั้นแหละ ยิ่งที่เยอรมันบ้านเมืองมีแต่หลังเก่าแก่อาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ รุ่นปู่ รุ่นย่า ตกทอดมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เขาเล่ากันว่าบรรพบุรุษของที่นี่หลังจากเสียชีวิตจะอยู่คอยดูแลทรัพย์สมบัติให้ลูกหลาน แล้วคุณคิดว่าบ้านหลังนี้ที่มีอายุเกือบร้อยปีตอนนี้จะมีแค่เราไหมที่อยู่ที่นี่”ปลายฟ้าที่ตั้งใจฟังภีร์เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ ในหัวก็จินตนาการตามสิ่งที่ชายหนุ่มเล่า ตากลมโตหันมองซ้ายมองหน้าต่าง มองประตู เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง“คุณแกล้งเล่าให้ฉันกลัวใช่ไหมคะ”“ผมโตจนอายุเท่านี้แล้วไม่มาเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แบบนี้หรอก เพื่อนคนเยอรมันเขาเล่าให้ผ
ตอนที่31 เพศศึกษา“อ่ะ!” ปลายฟ้าร้องเสียงหลงอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มรั้งเธอเข้าหา สองขาเรียวถูกจับแยกออก ก่อนที่ภีร์จะดันตัวเองแทรกเข้าหว่างขา“คุณจะทำอะไรคะ”“บางทีความไร้เดียงสาของคุณ ก็ทำให้ผมแทบทนไม่ไหวนะฟ้า” คำตอบของภีร์ปลายฟ้าได้ฟังถึงกลับหน้าแดงไม่รู้เพราะกำลังโกรธหรือกำลังอาย“ทนอะไรไม่ไหวคะ คุณโกรธฉันเหรอคะ” ปลายฟ้าตีความหมายเป็นอย่างแรก จนภีร์ถึงกับส่ายหัวและถอนหายใจเสียงดัง“เฮ้อ! ผมคิดถูกหรือผิดกันแน่ ขึ้นเองก็ต้องเอาลงเองสินะ คุณไปเก็บของเถอะผมขอไปจัดการตัวเองก่อน” ปลายฟ้าเบิกตาเล็กน้อย เมื่อเริ่มเข้าใจความหมายสิ่งที่ภีร์พูดได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่ตอนนี้กำลังเร่งฝีเท้าเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด“คุณน่ากลัวกว่าที่ฉันคิดเลยนะคะคุณหมอ ฉันจะรอดจากเงื้อมมือคุณไปอีกกี่วันกันคะ ตาหมอบ้ากาม” บ่นพึมพำกับตัวเองเสร็จก็รีบไปจัดการจัดเก็บข้าวของก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับออกมาเพราะเธอยังไม่กล้าสู้หน้าเขาตอนนี้ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ฟ้า..คุณจะขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ออกมาสูดบรรยากาศข้างนอกบ้าง” ภีร์ตะโกนเรียกปลายฟ้าที่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้องตั้งแต่มาถึงจนป่านนี้ยังไม่กลั
ตอนที่30 เพื่อเธอเมื่อใกล้ถึงวันเดินทางปลายฟ้ายิ่งกังวลมากขึ้นที่จะต้องห่างจากคนรักรวมทั้งพ่อและแม่ ทางด้านภีร์ที่อีกสองวันก็ต้องเดินทางไปพร้อมปลายฟ้าแล้วแต่ยังไม่ยอมบอกปลายฟ้าเรื่องที่เขาจะไปเยอรมันด้วย“อีกสองวันคุณก็ต้องเดินทางแล้ว เราคงไม่มีโอกาสได้มานั่งทานข้าวด้วยกันแบบนี้แล้วสิ ผมคงคิดถึงเสียงไวโอลินของคุณมากแน่ ๆ” คนที่มีความลับพูดเศร้า ๆ แม้ในใจจะไม่ได้เศร้าเหมือนคำพูดที่ออกมาก็ตาม“คุณอย่าพูดแบบนี้สิไหนคุณบอกฉันว่าเยอรมันใกล้แค่นี้เอง คุณบินไปหาฉันแป๊บเดียวก็ถึงไง” ปลายฟ้าที่กำลังเอื้อมมือไปตักอาหารตรงหน้าชักมือกลับทันทีเพราะรู้สึกอิ่มขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อถูกแฟนหนุ่มเอ่ยเรื่องที่จะต้องห่างกันขึ้นมา“ผมพูดเล่น..อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ กลายเป็นว่าผมทำให้คุณต้องอิ่มทั้งที่ทานข้าวไปได้เพียงไม่กี่คำ ยังไงผมจะรีบบินไปหาคุณทันทีที่ว่างผมสัญญา ทานข้าวต่อเถอะนะ” เสียงทุ้มที่เจือไปด้วยความห่วงใยของภีร์บอกกับปลายฟ้าก่อนจะตักอาหารใส่จานให้หญิงสาว ภีร์แทบอยากหยิกตัวเองที่เกิดอยากแสดงละครตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อหน้าคนรักแล้วดันมาแสดงได้เนียนจนเกือบเอาน้ำตาแฟนสาวร่วงภีร์อยากให้ปลายฟ้าเสพติดเข
ตอนที่29 ตัดสินใจปลายฟ้านั่งคิดทบทวนเรื่องการไปเข้าร่วมแสดงดนตรีนานาชาตินี้อยู่หลายรอบกว่าจะตัดสินใจปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อแม่ในตอนเช้า“ทำไมยังไม่ไปสอนล่ะลูกนี่ก็สายแล้วนะมีอะไรหรือเปล่า” เสียงมารดาของปลายฟ้าถามขึ้นเมื่อวันนี้ลูกสาวยังไม่ออกจากบ้านทั้งที่ดูเวลาก็สายแล้ว“ฟ้ามีเรื่องที่จะบอกพ่อกับแม่น่ะค่ะ” ท่าทางเหมือนคนที่มีอะไรในใจของลูกสาวทำให้นิธิพ่อของปลายฟ้าอดเป็นห่วงไม่ได้จึงถามขึ้นมาอีกคน“มีอะไรก็พูดมาเถอะลูกพ่อกับแม่พร้อมรับฟังเสมอ”“วงดนตรีที่ประเทศเยอรมันที่ฟ้าสมัครไว้เขาแจ้งมาว่าสนใจในผลงานของฟ้าเลยอยากให้ไปร่วมฝึกซ้อมและร่วมแสดงโชว์ในเทศกาลดนตรีนานาชาติที่กำลังจะมีขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้านี้ค่ะ”“จริงหรือลูกนี่ฟ้ากำลังจะได้ไปทำตามฝันของตัวเองแล้วสิ” คนเป็นแม่เมื่อได้ฟังในสิ่งที่ลูกสาวบอกก็ดีใจจนรอยยิ้มฉาบไปทั่วใบหน้า แต่ก็แปลกอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมปลายฟ้าถึงดูไม่ค่อยดีใจเหมือนที่ควรจะเป็น“จริงค่ะแม่พี่เรนรุ่นพี่ที่เป็นคนสอนดนตรีฟ้าพึ่งมาบอกเมื่อวาน ฟ้าต้องให้คำตอบเขาภายในอาทิตย์นี้”“แล้วทำไมลูกถึงดูไม่ค่อยดีใจเลยล่ะทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ลูกเคยฝันไว้ และวันนี้มันก็ใกล้ที
ตอนที่28 เป็นแฟนกัน“แล้วคุณอยากไปหรือเปล่า” ภีร์เอ่ยถามขึ้นหลังจากนั่งเงียบมาสักพัก“ฉันเป็นห่วงพ่อค่ะ ท่านพึ่งผ่าตัดมาร่างกายยังไม่แข็งแรงดี ฉันไม่อยากทิ้งท่านอยู่กันลำพังแค่สองคน”“แต่มันคือความฝันของคุณ”“ใช่ค่ะ มันคือความฝันของฉันแต่..ฉันก็ไม่อยากทิ้งครอบครัวไปตอนนี้”“คุณลองไปปรึกษาพวกท่านดูก่อน อีกอย่างคุณก็แค่ไปซ้อมและขึ้นเล่นงานเทศกาลดนตรีนานาชาติ ยังไม่รู้ว่าจะได้เซ็นสัญญาหรือเปล่า พอถึงวันนั้นเราก็ค่อยมาคุยกันอีกที ระหว่างที่คุณไม่อยู่พ่อคุณผมช่วยดูแลให้เองไม่ต้องห่วง”“แต่ถ้าฉันผ่านการคัดเลือกฉันต้องเซ็นสัญญาและทำงานอยู่ที่นั่นตลอด ฉันคิดว่า” ท่าทางสับสนระหว่างความฝันและความห่วงครอบครัวที่กำลังตีกันของปลายฉันทำให้ภีร์ต้องยื่นมือไปกุมมือเธอเอาไว้เบา ๆ“ถ้ามันคือความฝันและสิ่งที่คุณรักผมก็อยากให้คุณทำมันให้เต็มที่ โอกาสแบบนี้มันไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ นะปลายฟ้า คุณอาจจะคิดว่าคุณยังเด็กยังมีเวลาอีกมากมาย โอกาสมันไม่ได้เพิ่มจำนวนครั้งตามอายุคนเราหรอกนะ” คนที่ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตมาพอสมควรบอกปลายฟ้าพร้อมยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาคู่คมฉายแววอาทรอย่างจริงใจ“คุณอยากให้ฉันไปมากเลยเห