Share

Chapter 9. เว้าวอน 

last update Last Updated: 2024-12-05 21:44:29

            “ซื่อเอ๋อร์...มองข้า”   

น้ำเสียงเว้าวอนทำให้นางลืมตามองเขา อารมณ์ปรารถนาในดวงตาคู่นี้ทำให้นางไม่อาจหลบสายตาได้เลย  เขาต้องการนางเช่นเดียวกับที่นางปรารถนาในตัวเขา  สองมือยื่นมือไปโอบล้อมลำคอ เขายกบั้นท้ายงามงอนขึ้นก่อนจะชำแรกเข้าไปในร่องรักที่ฉ่ำแฉะ ฝากฝั่งตัวตนจนหมด เสียงหวานครางออกมาผสานกับเสียงคำรามอย่างพอใจ เพราะความเสียวซ่านทำให้นางรัดเอวเขาแน่น เขายกนางอุ้มทั้งที่สอดประสาน ยกสะโพกนางขึ้นแล้วกดลง

            “อ๊า...”  หรูซื่อกอดรัดเขาแน่น ทรวงอกงามบดเบียดแผงอกกำยำ ทุกการขยับโยกของเขาทำให้นางแทบสำลักความเสียวซ่าน กระแสแห่งความสุขแล่นไปทั่วร่างยันปลายนิ้วเท้า เขาอุ้มนางพร้อมยกสะโพกตอกตรึงลำทวน  มันลึกเสียจนนางได้แต่จิกเล็บกับแผ่นหลังของเขา

            “ชอบหรือไม่”

เขายังคงเพียรถามทั้งที่ร่องรักนางขมิบรัดลำทวนแข็งแกร่งจนเขาแทบคลั่ง นางพยักหน้าอย่างสิ้นอาย เขายกสะโพกนางขึ้นลงกระแทกกระทั้นอย่างดุเดือด เหงื่อไหลพราวไปทั่วร่าง ความปรารถนาถาโถมราวพายุหลงฤดู  หรูซื่อไม่อาจรับรู้สิ่งใดได้นอกจากความสุขสมที่เขามอบให้  กระทั่งเขาอุ้มนางมาที่โต๊ะอีกครั้ง วางสะโพกนางไว้หมิ่นเหม่ ตามด้วยจุมพิตร้อนแรง นางแทบมอดไหม้ด้วยไฟราคะที่เขาก่อขึ้น  เขาจับตามองทุกอากัปกิริยาของนาง ดื่มด่ำกับความงามเบื้องหน้า ร่างอรชนบิดเร่า เส้นผมคลี่สยาย บัวคู่งามสั่นไหวตามแรงขยับโยก เขาถอนริมฝีปากแล้วประคองแผ่นหลังของนางไปแนบโต๊ะ  เรียวขางามไร้เรี่ยวแรง เขาแยกมันออกกว้างแล้วดุนดันแก่นกายเข้าออกถี่กระชั้น  นิ้วหยาบกระด้างนวดคลึงเกสรอ่อนไหวจนเขาได้ยินเสียงสูดลมหายใจลึกด้วยความเสียวซ่านจึงยิ้มพอใจ ความบ้าคลั่งร้อนแรงทำเอานางร่อนเอวรับอย่างไม่รู้ตัว แท่งหยกร้อนอาบคราบรักเคลื่อนไหวเข้าออกถี่รัวและดิบเถื่อน แตกต่างจากทุกครั้ง 

            “ท่านพี่...ข้าไม่ไหวแล้ว...” นางวิงวอนด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม

            “เรียกชื่อข้า” เขายังคงโหมกระหน่ำจนขาโต๊ะส่งเสียงปะท้วง

            “หลวน..หลวนคุน...”

            สิ้นเสียงนางเขาก็คำรามออกมาอย่างสุดกลั้น รั้งเอวคอดตอกตรึงไว้มั่น  ปลดปล่อยธารรักขาวขุ่นจนเอ่อล้นไหลเปื้อนเปรอะต้นขา ความสุขซ่านเสียวแล่นไปทั่วร่าง นางเหนื่อยล้าจนลมหายใจอ่อนระโหย เขาอุ้มที่ไร้เรี่ยวแรงกลับมาที่เตียง ตวัดผ้าห่มคลุมกายของนางไว้แล้วสวมเสื้อคลุมหลวมๆ เดินหายไปครู่หนึ่งจึงกลับมาพร้อมอ่างน้ำอุ่น บรรจงเช็ดตัวให้นาง

            “ท่านพี่...” นางส่งเสียงงึมงำ

            “ชอบที่ข้าปรนนิบัติเจ้าหรือไม่” เขายังถามน้ำเสียงหยอกเย้า ใบหน้านางระบายยิ้มแล้วยกศีรษะขึ้นจูบแก้มของเขา  ยามนางหยัดกายขึ้น ผ้าห่มเลื่อนหล่นลงไปเปิดเผยบัวคู่งามเย้ายวนตา นางรู้ถึงสายตาของเขาจึงรีบดึงผ้าขึ้นปิด

            “ไม่ได้แล้วนะ ข้าไม่มีแรงแล้ว”

            “เช่นนั้นเจ้าหลับพักผ่อนเถิด วันนี้ข้าจะไปตลาดม้า ประเดี๋ยวจะให้ป้าหวงฝูเข้ามาดูแลเจ้า”

            “ตลาดม้า?”   ดวงตากลมโตฉายแววอยากรู้อยากเห็น

            “เจ้าอยากไปรึ” เขาแปลกใจที่เห็นนางสนใจ

            นางพยักหน้าน้อย ๆ แต่ก็รีบพูดขึ้น “ท่านไปทำงาน ข้าไม่ควรติดตามไปใช่ไหม”

            “ได้สิ ไปตลาดม้าไม่ใช่ความลับอะไร เจ้าพักผ่อนสักชั่วยามค่อยออกไปพร้อมกัน”

            “อื้ม”  นางยิ้มกว้าง “ท่านพี่น่ารักที่สุด”

            “น่ารักแล้วรักหรือไม่”

            นางไม่เอ่ยตอบแต่หลุบหายไปในผ้าห่ม

‘น่ารัก’ ‘ใจดี’ ใต้หล้านี้จะมีใครกล้าพูดกับเขาเช่นนางได้อีกหนอ

            ซุนหลวนคุนไม่คิดว่าการพานางออกไปข้างนอกจะทำให้นางดีใจถึงเพียงนี้  นึกถึงที่ป้าหวงฝูเล่าว่านางต้องการไปซื้อเครื่องประดับแต่กลับมีเรื่องเสียก่อน  ความจริงเขาเองก็ไม่ได้ซื้อของอะไรให้นางเลย คิดแค่ว่าหากนางต้องการอะไรก็สามารถชี้นิ้วสั่งได้  นางมาอยู่ที่นี่นานนับเดือนแล้วแต่เขาไม่เคยพานางออกไปข้างนอกด้วยตนเองสักครั้ง

            ในอดีตเขาละเลยนาง แต่เวลานี้เขาจะดูแลใส่ใจนาง  ให้นางได้ ‘รัก’ เขาอีกครั้ง

            ปกติท่านแม่ทัพซุนเดินทางด้วยอาชางามสง่า ทว่าวันนี้แม่ทัพหนุ่มพาภรรยามาชมตลาดจึงให้คนในจวนจัดรถม้าให้  แม้มีทหารอารักขาติดตามเพียงไม่กี่คน ทว่าทุกสายตาจับจ้องมายังรถม้าคันนี้

            “มีแต่คนมองมาที่เรา”   หรูซื่อขมวดคิ้วแล้วลอบมองเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่วันนี้ไม่ได้แต่งกายเครื่องแบบทหาร  สายตาคมปลาบคู่นั้นจับจ้องตัวอักษรในหนังสือรายงาน

            “พวกเขารบกวนเจ้าหรือ” เขาถามทั้งที่ยังอ่านรายงานฉบับนั้นอยู่

            “ถ้าข้าบอกว่ารบกวน ท่านพี่จะทำอย่างไร” นางถามอย่างนึกสนุก แม้สงสัยใคร่รู้ในสิ่งที่เขาทำอยู่แต่ก็ไม่อาจก้าวล่วงการงานของเขาได้

            “ควักลูกตาทิ้ง”

            “ท่านพี่!” นางขึงตาใส่ “ท่านจะทำเช่นนั้นไม่ได้นะ”

            คราวนี้ซุนหลวนคุนเงยหน้าขึ้น เห็นแววตาของนางแล้วก็ยื่นมือไปคว้าร่างเล็กมานั่งบนตักของตน

            “เหตุใดจึงทำไม่ได้ ในสนามรบ ข้าทำมากกว่านี้”

            “แต่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด”

            “ทำให้ฮูหยินของข้าไม่พอใจคือความผิดอย่างหนึ่ง”

            หรูซื่อยกมือขึ้นประคองใบหน้าของเขาแล้วเอ่ย “แล้วหากข้าทำผิดเล่า ท่านจะลงโทษอย่างไร”

            แม่ทัพหนุ่มจับฝ่ามือของภรรยาตัวน้อยมาจุมพิตที่กลางฝ่ามือ “ข้าไม่มีวันทำร้ายเจ้า หากมีวันนั้นจริง ข้าซุนหลวนคุนขอให้...”

            “ไม่เอา ท่านอย่าพูดจาเหลวไหล” นางปิดปากเขาไม่ให้กล่าวถ้อยคำออกมา นางคิดถึงเรื่องที่นางเจอบุรุษแปลกหน้าในคราวนั้น “ท่านพี่...ข้าเคยทำเรื่องไม่ดีกับท่านหรือไม่”

            ซุนหลวนคุนลูบหลังมือของภรรยาเบาๆ “มีเพียงข้าที่ทำผิดต่อเจ้า ไม่ได้ทำหน้าที่สามีที่ดี ปล่อยให้เจ้าอยู่กับมารดาของข้า และหากไม่เพราะเจ้าเดินทางมาหาข้า คงไม่ต้องพบเจอเรื่องร้ายเช่นนี้”

            “ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้หรอกเจ้าค่ะ”  นางยิ้ม “ข้าเองอยู่ในสภาพนี้แล้วท่านพี่ยังรักใคร่ใส่ใจข้า ก็นับว่าดีมากแล้ว”

            “เจ้าเป็นเช่นนี้เพราะข้า ข้าจะละเลยเจ้าได้อย่างไร”  เขากอดนางไว้ “ฐานะของข้าต่ำต้อยกว่าเจ้ามากนัก สกุลของข้าเดิมทีเป็นเพียงชาวนายากจน ข้าไต่เต้าเข้ากองทัพสร้างผลงานจนฮ่องเต้ทรงประทานเจ้าให้ข้า เดิมทีข้าคิดสร้างชื่อและฐานะให้มั่นคง จัดการเรื่องชายแดนให้เรียบร้อยแล้วจะเดินทางกลับเมืองหลวง ใช้ชีวิตเคียงข้างเจ้า แต่ไม่คิดว่าเรื่องที่นี่ยุ่งยากกว่าที่คิด ทำให้ห้าปีมานี้ เจ้าต้องอยู่เพียงลำพัง”

            “ข้าเข้าใจ” นางพูดแล้วสบตากับเขา ริมฝีปากคลี่ยิ้มซุกซน “เวลานี้ข้าอยู่ตรงนี้แล้ว ท่านก็ชดเชยให้ข้ามากๆ หน่อย”

            “ฮูหยินต้องการสิ่งใด บัญชามาได้เลย”  เขาหัวเราะออกมา “คราวก่อนเจ้าไปตลาด จะไปร้านขายเครื่องประดับแต่ยังไม่ทันได้ซื้ออะไรมิใช่หรือ เจ้าอยากได้อะไร ก็ซื้อได้ตามใจเถิด หรือถ้าอยากออกไปไหนก็บอกข้า ถ้าข้าไม่ว่างจะให้ทหารอารักขาติดตามเจ้า ดูแลความปลอดภัยของเจ้า”

            “ข้าไม่ได้อยากได้เครื่องประดับ” นางส่ายหน้าไปมา “ความจริงข้าอยากซื้อกำไลให้ป้าหวงฝูสักวงสองวง นางดูแลข้าดียิ่ง ข้ามอบเงินให้นาง นางก็ไม่รับ ข้าจึงอยากมอบอะไรให้นางบ้าง”

            “เป็นอย่างนี้เอง เจ้าดีกับนางเช่นนี้ หวงอี้ต้องดีใจมากเป็นแน่” เขายิ้มแล้วเชยคางนางขึ้น “แล้วเจ้าเล่าไม่ต้องการอะไรหรือ?”

            “ท่านมีเงินซื้อให้ข้ารึ” นางย่นจมูกใส่ “เสื้อผ้าของท่านขาดมีรอยปะชุนไปทั่ว น่าอายจริงๆ”

            คราวนี้ซุนหลวนคุนหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม นานแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะเช่นนี้

“นั้นเพราะเสื้อผ้าของข้ามีเพียงฮูหยินที่คอยซ่อมแซมให้ นางหวงข้ามาก เสื้อผ้าของข้าล้วนส่งมาจากเมืองหลวง นางตัดเย็บเองกับมือ ฝีมือการเย็บปักของนาง เลื่องชื่อในเมืองหลวงเลยทีเดียว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 35.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 2. (จบ)

    “เข้ามาคุยด้านในเถิด” เขาปล่อยมือจากไหล่ของนางแล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ทว่าสายตาของนางถูกตำรามากมายดึงดูดไว้จนหลงลืมว่ามี ‘สามี’ อยู่ใกล้ๆ “ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะชอบสะสมหนังสือมากขนาดนี้” ‘ท่านแม่ทัพ’ ภรรยาหมาดๆ สนใจแต่หนังสือมากมายเหล่านั้น จึงไม่ได้เห็นแววตาไม่พอใจของสามีหมาดๆ อย่างเขา ซุนหลวนคุน ลอบถอนหายใจ นางเพิ่งย่างเท้าเข้าบ้านมาเป็นคนสกุลซุน คงไม่คุ้นชินกับการเรียกขานนัก “อีกห้าวันข้าต้องออกเดินทางแล้ว” “เดินทาง? ท่านแม่ทัพจะไปไหนรึ” หลิวหรูซื่อหันมามองหน้า ‘สามี’ นางทำหน้างุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขบกรามเน้นเช่นนั้น“ได้ ข้าจะเตรียมตัว” “เจ้าไม่ต้องไป” น้ำเสียงของเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย บอกตนเองว่าต้องให้ ‘เวลา’ นางมากกว่านี้ เขาจะโมโหนางไม่ได้เด็ดขาด “เหตุใดไม่ให้ข้าไป” นางเอียงคอถาม ท่าทางไร้เดียงสา “เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมารดาข้าเถิด” เขากดน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดจนเกินไป “นับจากนี้เจ้าเป็นนายหญิงของจวน ต้องรับภาระดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในบ้านร่วมกับมารดาข้าแล

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 34.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 1.

    “แต่งงาน! น้องเล็กอายุแค่สิบเอ็ดจะให้แต่งงานแล้วหรือ?” “อีกสองเดือนน้องเล็กคนนี้ก็สิบสองแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างเล็กเดินเร็วๆ ยื่นมือมาหยิบขนมดอกกุ้ยฮวาที่วางบนโต๊ะเข้าปากกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ซื่อเอ๋อร์ เจ้าแอบฟังพ่อกับพี่ๆ คุยกันอีกแล้วนะ”ราชครูหลิวถอนหายใจเบาๆ แต่กลับยิ้มเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของสกุลหลิวไม่ได้ แม้นางเป็นหญิงแต่เฉลียวฉลาดแต่เด็ก หากไม่นับเรื่องวรยุทธแล้ว นางก็ไม่ด้อยกว่าบุรุษเลย “ซื่อเอ๋อร์ไม่ได้แอบฟังเสียหน่อย แต่เสียงพี่ๆกับท่านพ่อดังไปนอกห้องเอง” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ได้ยิน “แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” บิดาเอ่ยถามพลางรินน้ำให้ลูกสาวอย่างเอาใจ “คนแซ่ซุนอยากแต่งข้าเป็นภรรยา ก็แต่งสิ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” นางรับน้ำมาดื่มเล็กน้อยแล้วกินขนมต่อ มุมปากเลอะคราบขนมทำให้พี่ใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้นาง “คนแซ่ซุนไม่มีอะไรเหมาะสมกับเจ้าเลยสักนิด” พี่ชายคนรองเอ่ยอย่างหงุดหงิด “แค่ทหารปลายแถวที่ถีบตนเองขึ้นมาจากดินโคลน” “ข้าเชื่อว่าคนแซ่ซุน

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status