Home / รักโบราณ / หมื่นฝันพันคะนึง / Chapter 10. หากวันหนึ่งข้าทำผิดไป

Share

Chapter 10. หากวันหนึ่งข้าทำผิดไป

last update Huling Na-update: 2024-12-05 21:45:11

            “ข้านะหรือ?”  หรูซื่อชี้หน้าตัวเอง เห็นเขาพยักหน้ารับแล้วนางก็คิดตามแล้วพยักหน้าตาม“มิน่าเล่า ข้าเข้าครัวทำอาหารก็เกือบทำไฟไหม้ห้องครัวของท่านแล้ว แต่พอได้จับเข็มจับด้าย ข้ากลับรู้สึกทำได้คล่องแคล่ว เช่นนั้นข้าจะเย็บเสื้อให้ท่านเอง”

            “ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเหนื่อย” เขาจับมือเรียวเล็กขึ้นมาลูบไล้นิ้วงามอย่างทะนุถนอม

            “ข้าอยากทำให้ท่านพี่”  นางยิ้มเขินอาย เพราะตั้งใจหลบสายตาร้อนแรงของเขาจึงเสมองไปทางอื่น ทว่ากลับเห็นแผ่นที่กางอยู่บนโต๊ะ นางหลุบตาลงทันที แต่กระนั้น ทุกกิริยาของนางอยู่ในสายตาของซุนหลวนคุน

            “ไม่ใช่ความลับอะไร เจ้าดูได้” เขาเชยคางนางขึ้น “หากเจ้าอยากรู้อะไรก็ถาม เพียงแต่เรื่องพวกนี้อาจจะทำให้เจ้าหมดสนุก ข้าจึงไม่ได้ให้เจ้าดู”

            “ข้าดูได้หรือ?” แววตาวาววับจ้องมองกลับ และเมื่อเขาพยักหน้ายืนยัน นางจึงหันไปมองที่กระดาษแผ่นนั้น “นี่คือแผนที่หรือเจ้าคะ”

            “ใช่” เขาตอบแล้วจับเอวนางให้นางตัวตรง แผ่นหลังของนางแนบอกแกร่ง วงแขนกว้างโอบร่างเล็กแล้วชี้ให้นางดูตำแหน่งต่างๆ “นี่คือค่ายทหาร ตรงนี้เป็นกำแพงเมือง แนวเขานี้เป็นเสมือนป้อมปราการ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่ข้าศึกใช้สุ่มโจมตีได้”

            หญิงสาวมองตามนิ้วกร้านที่ชี้ตำแหน่งต่างๆ นางกัดริมฝีปากครุ่นคิดก่อนยื่นนิ้วไปจิ้มที่แผ่นที่บ้าง

 “ท่านพี่อยู่ที่นี่คอยป้องกันไม่ใช้ข้าศึกบุกข้ามกำแพงเมืองเข้ามารึเจ้าคะ”

            “ถูกต้อง แต่เจ้าไม่ต้องกลัว เจ้าอยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นอน”

            “ข้าไม่ได้กลัวเสียหน่อย” เสียงหวานใสเอ่ยอย่างเอาใจ “สามีของข้าเก่งกาจนัก มีหรือที่ข้าจะต้องกลัวเรื่องพวกนี้ เพียงแค่คิดว่า...”

            “อย่าได้เที่ยวออกไปซุกซนเชียว อย่างไรก็เขตทหาร” เขาหัวเราะอย่างรู้ทัน

            “เมื่อครู่ท่านเพิ่งบอกข้าว่าอยากไปไหนก็ได้นี่”  นางย่นจมูกใส่

            “มันเป็นกฎ” เขาพูดแล้วอ้าปากขบติ่งหูดุจไข่มุกของนาง “เมื่อก่อนข้าไม่เข้าใจกฎข้อห้ามเหล่านี้ แต่เมื่อเจ้าอยู่ใกล้ จึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะหักห้ามใจไม่ให้สนใจภรรยาตัวน้อยที่แสนเย้ายวน”

            ยังไม่ทันที่นางจะอ้าปากโต้เถียง ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ทาบทับลงมาก่อน ดูดกลืนถ้อยคำของนางไปหมดสิ้น ทว่าครั้งนี้เรียวลิ้นของหญิงสาวเป็นฝ่ายหยอกเย้าภมรหนุ่มจนเขาเป็นฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใจอยากสั่งสอนที่กล้าหยอกล้อเขา แต่ด้วยรับรู้ว่าใกล้ถึงที่หมายแล้วจึงถอนจุมพิตแล้วสบตากับดวงตากระจ่างใสของหญิงสาวบนตัก

            “เรียนรู้รวดเร็วดียิ่ง” เขาเอ่ยชมแล้วใช้นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปากนางเบาๆ

            “ข้ามีอาจารย์ดี” นางยื่นนิ้วไปเช็ดริมฝีปากให้เขาบ้าง 

            ท่าทางของนางทำให้ซุนหลวนคุนอ่อนใจ เขาหลุดหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะที่ไม่ค่อยมีใครได้ยิน ทำให้เหล่าทหารที่ติดตามอยู่ต่างประหลาดใจ แต่ก็ดีใจที่เห็นว่ามีคนใจกล้ากำราบแม่ทัพปีศาจของพวกเขาได้แล้ว เพราะทุกวันนี้หากมีเรื่องใด ก็มักเข้าไปรายงานฮูหยินท่านแม่ทัพเสียหมด 

            แม่ทัพหนุ่มจัดเรือนผมและเสื้อผ้าให้ภรรยาสาวเข้าที่แล้วจึงพยักหน้าให้ หรูซื่อยิ้มเอียงอายแล้วเป็นฝ่ายทำเช่นเดียวกัน  รถม้าหยุดนิ่งสนิทแล้ว แม่ทัพหนุ่มจึงก้าวลงจากรถม้าแล้วยื่นมือไปรับภรรยาลงมา สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่คนทั้งสอง  หรูซื่อออกอาการประหม่าเล็กน้อย แต่เพราะมือใหญ่กุมมือนางไว้ นางจึงลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปหมดสิ้น เสียงพ่อค้าส่งเสียงลูกค้าข้างทาง สินค้าแปลกตาหลากหลาย ทุกอย่างแปลกตาทำให้หรูซื่อตื่นเต้นราวกับเด็กน้อย  ซุนหลวนคุนผ่อนฝีเท้าตัวเองไม่ให้เดินเร็วเกินไป กุมมือนางไว้ให้ด้วยกลัวนางหลงทาง  แต่นางพยายามชักมือกลับ ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย  ทำเอาหญิงสาวเอ่ยเสียงเบา

            “ไม่ต้องจับมือข้าตลอดทางเช่นนี้ก็ได้”

            “ทำไมเล่า ภรรยาข้าตัวเล็กนิดเดียว หากข้าทำหลุดมือไปเกรงจะหายไปจนหาไม่เจอ”

            “ข้าไม่ใช่เด็กนะ” นางกระเง้ากระงอด แต่อีกฝ่ายหลับหัวเราะในลำคอแล้วยกมือนางที่กุมไว้ขึ้นมาจุมพิตที่หลังมือ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อก้มหน้าหงุดไม่กล้าพูดอะไรอีก  ทำไมสามีนางหน้าหนาถึงเพียงนี้ กลางถนนยังกล้าทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ได้

            ท่าทางรักใคร่เอ็นดูที่แม่ทัพหนุ่มมีต่อภรรยาสาวสร้างความตะลึงงันให้กับผู้คนที่พบเห็น เขาพานางเดิมชมสินค้าพื้นเมืองต่าง ๆ จนมาถึงบริเวณลานกว้าง มีคอกม้าอยู่หลายคอก หลายคนที่รู้จักต่างประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม ครั้งนี้เขามีสตรีข้างกายติดตามมาด้วยก็ให้ความเคารพไม่ต่างกัน   นางยิ้มรับบาง ๆ  เดินเคียงข้างบุรุษร่างสูงใหญ่ แม้ยามนี้เขาแต่งกายธรรมดาแต่กลับมิอาจซ่อนความองอาจได้เลย นางเผลอมองอย่างหลงใหล เหตุใดเพิ่งรู้สึกว่าสามีของตนหล่อเหล่าน่ามองถึงเพียงนี้

ชายหนุ่มย่อมรับรู้ถึงสายตาของคนรัก เขาโน้มหน้าลงเล็กน้อย สีหน้ายังคงนิ่งขรึมทว่ากลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

            “เหตุใดฮูหยินถึงได้กล้าลวนลามสามีด้วยสายตาเช่นนี้”

            “ข้าเปล่านะ”  นางรีบพูดขึ้นแล้วก็รู้ว่าถูกเขาแกล้งเข้าแล้วจึงยกมือขึ้นหมายจะทุบอกเขา แต่นึกได้ว่าไม่ได้อยู่กันตามลำพังจึงได้แต่ขึงตาใส่

            “เคยได้ยินว่าท่าแม่ทัพซุนมีภรรยาที่รักใคร่มาก เดิมทีไม่เคยเชื่อจนวันนี้ได้เห็นด้วยตาของตนเอง”

            หรูซื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับสตรีผู้หญิงรูปร่างปราดเปรียว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง มุมปากกระตุกยิ้ม การแต่งกายด้วยชุดสตรีชนเผ่าสีสันสดใส ทุกการก้าวเดินเกิดเสียงกังวานจากกระพรวนเงินที่ข้างเอวของนาง

            “คารวะท่านแม่ทัพซุน”

            “แม่นางลี่หย่า”  ซุนหลวนคุนพยักหน้ารับเล็กน้อย

            “วันนี้มาดูม้าด้วยตนเองเลยหรือ” นางถามแต่สายตายังจ้องมองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนเคียงข้างเขา “ภรรยาของท่านช่างงดงามแต่กต่างหญิงชาวบ้านเสียจริง”

            “นางคือหรูซื่อบุตรสาวท่านราชครูหลิว”  เขาแนะนำเรียบง่าย คล้ายไม่ต้องการสนทนาด้วย

            ลี่หย่ากวาดตามองอย่างไม่เกรงมารยาท ทำเอาหรูซื่อเผลอขยับกายเบียดแขนของซุนหลวนคุนเพราะไม่ต้องการถูกจ้องมอง เขาเพียงตบหลังมือนางเบาๆ เป็นเชิงปลอบโยนแล้วพานางเดินไปถึงคอกม้า อาชางามสง่าสีนิลเหยาะย่างในคอกม้า  

            “งามสง่ายิ่งนัก”  แม้นางไม่รู้เรื่องม้า แต่หรูซื่อต้องยอมรับว่าอาชาตัวนี้ดูองอาจยิ่ง

            “ฮูหยินสายตาแหลมคม อาชาตัวนี้ท่านแม่ทัพก็หมายปอง แต่ข้ายังตัดใจขายไม่ลง”

            “เจ้าไม่อยากขายก็ไม่ต้องพูดมาก ม้าศึกที่ทำสัญญาซื้อขาย เจ้าจัดส่งให้ครบก็พอ”  น้ำเสียงกระด้างเสียจนหรูซื่อประหลาดใจ นางไม่เคยได้ยินเขาใช้น้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน

            “ท่านแม่ทัพอย่าเพิ่งหัวเสีย” ลี่หย่าหัวเราะระรื่น “ท่านเป็นยอดขุนศึกย่อมคู่ควรกับม้าที่ดีของข้า ข้าขายมันให้ท่านก็ได้ มีเงื่อนไขเดียว”

            “ข้าไม่ต่อรองใด ๆ กับเจ้า”  เขาตัดบททันที ดวงตาคมปลาบจ้องมองนาง หากเป็นบุรุษอื่นคงได้หวาดกลัวตัวสั่น แต่ลี่หย่าปรายตามองไปทางหรูซื่อแล้วเชิดปลายคางขึ้นพูดต่อ

            “หากท่านแม่ทัพต้องการอาชาตัวนั้นจริงๆ ขอเพียงท่านและฮูหยินมาเป็นแขกที่เผ่าของข้า ให้พวกข้าได้เลี้ยงต้อนรับฮูหยินของท่านสักมื้อ เพียงแค่นี้ ข้าก็ยินดีมอบอาชาตัวนั้นให้ท่านด้วยความเต็มใจ”

            “ลี่หย่า” น้ำเสียงกดต่ำแสดงความไม่พอใจหลายส่วน

            “แค่นั้นหรือ?”  หรูซื่อถามด้วยรอยยิ้ม

            “ถูกต้อง แค่มาเยือนเผ่าของข้าสักครั้ง ให้พวกเข้าได้รับเกียรติต้อนรับท่านทั้งสอง”

            “ไม่”

            “ได้”

            หรูซื่อตอบรับอย่างรวดเร็ว ทั้งที่สามีเอ่ยปากปฏิเสธ นางแหงนหน้ามองสามีที่มีสีหน้าเคร่งเครียดก็หุบยิ้มลงแล้วเอ่ยเสียงเบา  

“แค่...แค่ไปกินเลี้ยงต้อนรับนี่น่า”

            “ฮูหยินเข้าใจถูกแล้ว”  ลี่หย่าฉีกยิ้มหวานแล้วเดินเข้ามาใกล้แม่ทัพหนุ่ม “หรือท่านแม่ทัพจะให้ฮูหยินมาเพียงผู้เดียว”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 35.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 2. (จบ)

    “เข้ามาคุยด้านในเถิด” เขาปล่อยมือจากไหล่ของนางแล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ทว่าสายตาของนางถูกตำรามากมายดึงดูดไว้จนหลงลืมว่ามี ‘สามี’ อยู่ใกล้ๆ “ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะชอบสะสมหนังสือมากขนาดนี้” ‘ท่านแม่ทัพ’ ภรรยาหมาดๆ สนใจแต่หนังสือมากมายเหล่านั้น จึงไม่ได้เห็นแววตาไม่พอใจของสามีหมาดๆ อย่างเขา ซุนหลวนคุน ลอบถอนหายใจ นางเพิ่งย่างเท้าเข้าบ้านมาเป็นคนสกุลซุน คงไม่คุ้นชินกับการเรียกขานนัก “อีกห้าวันข้าต้องออกเดินทางแล้ว” “เดินทาง? ท่านแม่ทัพจะไปไหนรึ” หลิวหรูซื่อหันมามองหน้า ‘สามี’ นางทำหน้างุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขบกรามเน้นเช่นนั้น“ได้ ข้าจะเตรียมตัว” “เจ้าไม่ต้องไป” น้ำเสียงของเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย บอกตนเองว่าต้องให้ ‘เวลา’ นางมากกว่านี้ เขาจะโมโหนางไม่ได้เด็ดขาด “เหตุใดไม่ให้ข้าไป” นางเอียงคอถาม ท่าทางไร้เดียงสา “เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมารดาข้าเถิด” เขากดน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดจนเกินไป “นับจากนี้เจ้าเป็นนายหญิงของจวน ต้องรับภาระดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในบ้านร่วมกับมารดาข้าแล

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 34.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 1.

    “แต่งงาน! น้องเล็กอายุแค่สิบเอ็ดจะให้แต่งงานแล้วหรือ?” “อีกสองเดือนน้องเล็กคนนี้ก็สิบสองแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างเล็กเดินเร็วๆ ยื่นมือมาหยิบขนมดอกกุ้ยฮวาที่วางบนโต๊ะเข้าปากกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ซื่อเอ๋อร์ เจ้าแอบฟังพ่อกับพี่ๆ คุยกันอีกแล้วนะ”ราชครูหลิวถอนหายใจเบาๆ แต่กลับยิ้มเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของสกุลหลิวไม่ได้ แม้นางเป็นหญิงแต่เฉลียวฉลาดแต่เด็ก หากไม่นับเรื่องวรยุทธแล้ว นางก็ไม่ด้อยกว่าบุรุษเลย “ซื่อเอ๋อร์ไม่ได้แอบฟังเสียหน่อย แต่เสียงพี่ๆกับท่านพ่อดังไปนอกห้องเอง” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ได้ยิน “แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” บิดาเอ่ยถามพลางรินน้ำให้ลูกสาวอย่างเอาใจ “คนแซ่ซุนอยากแต่งข้าเป็นภรรยา ก็แต่งสิ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” นางรับน้ำมาดื่มเล็กน้อยแล้วกินขนมต่อ มุมปากเลอะคราบขนมทำให้พี่ใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้นาง “คนแซ่ซุนไม่มีอะไรเหมาะสมกับเจ้าเลยสักนิด” พี่ชายคนรองเอ่ยอย่างหงุดหงิด “แค่ทหารปลายแถวที่ถีบตนเองขึ้นมาจากดินโคลน” “ข้าเชื่อว่าคนแซ่ซุน

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status