Masukบทที่ ๘๘สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผีเมืองฮั่นหลินเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น!เพื่อไม่ให้ตนมัวแต่จมปลักอยู่กับความรักที่ไม่อาจร่วมทางไปกับคนรักได้จนสุดฝั่ง จินหลี่จินจึงขอฮ่องเต้ไปสืบคดีนี้ด้วยตนเอง ฮ่องเต้อนุญาตเพราะคิดว่าการทำงานหนักอาจทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาฟุ้งซ่านส่วนจินเทียนหลุนนั้น ยามนี้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ รับหน้าที่เป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงต่อจากท่านตาของจินหลี่จินเดิมทีตำแหน่งนี้ฮ่องเต้จินจิ่นฟู่อยากมอบให้จินหลี่จิน แต่อีกฝ่ายรักอิสระ อยากทำหน้าที่ที่ไม่กังขังตนเอาไว้เพียงในเมืองหลวง เขาจึงได้รับหน้าที่พิเศษเป็นฑูตประจำแคว้น ทำหน้าที่เจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้น เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ได้สะดวกสมกับที่ไม่มีครอบครัวส่วนจินเทียนหลุนที่มีชายาที่ท้องโตขึ้นทุกวันรอที่จวนอยู่แล้ว เช้ามาเข้ากองทัพฝึกทหาร ค่ำกลับจวนอยู่เป็นเพื่อนชายาและแนบหูคุยกับลูกน้อยทุกคืนแม้เด็กในท้องจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเพราะเพิ
บทที่ ๘๗ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่งยามนี้เทพโอสถกำลังยืนอยู่บนกลางท้องฟ้า ใต้เท้าเป็นสัตตบงกชแห่งการเคลื่อนย้าย ด้านซ้ายมีหวงผิงที่ยืนอยู่บนปุยเมฆมองการแต่งงานของไช่จงซินในมุมสูงสีหน้าของเขาเรียบเฉยต่างกับเทพโอสถที่ฉายแววปวดใจ เมื่อคนที่กำลังเดินเคียงคู่กับไช่จงซินเข้าไปในโถงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินมิใช่คนที่มีใจต้องกัน“ข้าเป็นคนนอก มองดูแล้วยังปวดใจเพียงนี้ พวกเขาสองคนก็คงปวดใจจนหายใจไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ จุกลิ้นปี่ตรงนี้”หวงผิงหันมามองนิ้วมือเรียวที่ชี้จุดตรงลิ้นปี่ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างอกเหนือกระเพาะอาหาร“ท่านเจ็บเพราะจิ้มแรงเกินไป”คนที่กำลังคล้อยไปกับเรื่องราวไม่สมหวังของคู่รักมนุษย์ตวัดสายตามามองหวงผิง แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้จริง ๆ ก็ไม่โทษเขา“เอาเถอะ! เรื่องยังไม่เกิดกับตนจะเข้าใจได้อย่างไร ลองจินตนาการดู หากเจ้าเป็นไช่จงซินหรือจินหลี่จินจะไม่รู้สึกอันใด
บทที่ ๘๖เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้การมาเยือนแคว้นฝูครั้งนี้ จินเทียนหลุนคิดว่าคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องไปถามวิธีการดูแลบุตรจากหมอหลวงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ แต่ได้ความรู้จากเหล่าฮูหยินทั้งหลายที่ต่อไปจะกลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าสตรีมีครรภ์จะเป็นเหน็บชา ต้องหมั่นนวดเท้า เรื่องอาหารการกิน งดดื่มสุรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่จะมีผลต่ออารมณ์และอย่างสุดท้ายที่สำคัญสำหรับชีวิตคู่คือการร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยา“เสี่ยวจิ่ว เปิ่นหวางถามฮูหยินทั้งสามแล้ว เรายังเข้าหอกันได้ตามปรกติ เว้นเพียงช่วงนี้กับช่วงใกล้คลอด ขอแค่เปิ่นหวางระวังไม่เน้นท่าโลดโผน ค่ำคืนของเราก็ยังคงเร่าร้อนได้เหมือนเคย”จิ่วเหลียนฮวาหน้าร้อนฉ่า ไม่คิดว่าสวามีของนางจะกล้าพูดเสียงดังต่อหน้าบ่าวในจวนตระกูลไช่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกนางดึงแขนเขาเข้าไปด้านในเรือนทันทีเพราะปั้นสีหน้าไม่ถูกแล้ว“ท่านอ๋อง! กล่าวเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้เพคะ”“ขออ
บทที่ ๘๕เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้าสองหนุ่มใหญ่จ้องหน้ากันนิ่ง จิ่วเหลียนฮวาเห็นเช่นนั้นก็มองหน้าจินเทียนหลุน ไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของตนจะไปขัดจังหวะคนทั้งคู่“ยายหนูจิ่ว ขนมของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง”ไช่จงซินถอนสายตาจากจินหลี่จินก่อน เดินไปนั่งตำแหน่งประมุขตระกูล รอคำตอบจากจิ่วเหลียนฮวาอย่างใจเย็น คำอวยพรจากจินหลี่จินเมื่อครู่ทำให้เขาไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายอีก ด้วยกลัวจะพรั่งพรูความรู้สึกต่อหน้าทุกคน“อร่อยเจ้าค่ะท่านประมุข”“เรียกข้าว่าท่านอาจารย์ตามเจ้าหนูหลุนเถิด”จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะ ขนมอร่อยมากเจ้าค่ะท่านอาจารย์ หากใจไม่ห้ามเอาไว้ ข้าอยากทานแทนอาหารสามมื้อ”ไช่จงซินหลุดหัวเราะเกือบสำลักน้ำชา“เสี่ยวจิ่วมีอารมณ์ขันแล้ว สตรีวัยเจ้าที่ทานมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีมีครรภ์ทั้งนั้น หรือเจ้ากำลังมีครรภ์”ไช่จงซินถามโดยไม่คิดอันใด ไม่คิดว่าทุกคนจะเงียบ เขามองหน้าจินเทียนหลุนสลั
บทที่ ๘๔คราวนี้ใครก็ดูถูกเจ้าไม่ได้แล้ววันเวลามาถึงวันที่จินเทียนหลุนเดินทางไปร่วมงานแต่งของท่านอาจารย์ตนที่แคว้นฝู ผู้ร่วมเดินทางประกอบไปด้วย จินหลี่จิน จินเทียนหลุน จิ่วเหลียนฮวา องครักษ์ของอ๋องทั้งสองและนางกำนัลคอยปรนนิบัติจิ่วเหลียนฮวาที่กำลังตั้งครรภ์ตอนนี้ผู้ทราบว่านางตั้งครรภ์มีเพียงฮ่องเต้ ไทเฮาและจินหลี่จินเท่านั้น อายุครรภ์เพิ่มขึ้นเมื่อไรจินเทียนหลุนจะประกาศเรื่องนี้ให้ทราบโดยทั่วกัน“พลังยายหนูจิ่วดีนัก มิเช่นนั้นเราต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเดินทางถึง”ขบวนเดินทางไปร่วมงานมงคลยังไปไม่ถึงไหน แต่จิ่วเหลียนฮวาใช้พลังเทพเคลื่อนกายมาที่ปลายทางล่วงหน้าขบวนเดินทางมาก่อนแล้ว“จริงอย่างที่เสด็จอากล่าว เช่นนี้ดียิ่ง ครรภ์ของเจ้าจะได้ไม่เป็นอันตรายไปด้วย”จิ่วเหลียนฮวาพาเพียงสองหนุ่มราชวงศ์จินมาด้วยเท่านั้น เมื่อขบวนเดินทางใกล้เมืองหลวงแคว้นฝูเมื่อใดถึงค่อยกลับไปนั่งขบวนรถม้าอีกครั้ง“อีกหลาย
บทที่ ๘๓ไม่อยากได้รับคำแสดงความยินดีฉายาชายารองมือปราบมาร ตอนนี้ไม่ได้ลือกันในหมู่จวนขุนนางแล้วเท่านั้น แต่ยังเล่าลือกันไปทั้งเมืองหลวง ปากต่อปากรวดเร็ว เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนก็แพร่ไปทั้งแผ่นดินใหญ่ แม้แต่ไช่จงซินที่อยู่เมืองหลวงแคว้นฝูยังได้ยิน“ยายหนูจิ่วมีชื่อเสียงใหญ่แล้ว คราวนี้เจ้าหนูหลุนได้กินน้ำส้มสายชูรายวันแน่”ไช่จงซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความสุข จนกระทั่งดวงตาเหลือบไปมองเทียบเชิญงานแต่งของตนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ความเศร้าหมองก็มาแทนที่“นายท่านจะให้ข้าน้อยส่งเทียบเชิญเลยหรือไม่”ไช่จงซินยังไม่ตอบ หลับตาลงซ่อนเร้นความเศร้าหมอง จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้ารับ แม้ไม่อยากให้คน ๆ นั้นมาร่วมงานด้วย…แต่หากไม่เชิญเลย เขาคงก็โดนอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าไม่ให้ความสำคัญ!“ส่งเลย ขออภัยพวกเขาแทนข้าด้วยที่ไม่ได้มาเชิญด้วยตัวเอง”“ขอรับนายท่าน”







