Share

บทที่ ๒ ชะตาแมวเก้าชีวิต

last update Last Updated: 2025-09-13 14:07:39

บทที่ ๒

ชะตาแมวเก้าชีวิต

“ท่านเป็นองครักษ์ของชินอ๋องหรือ”

ใบหน้าหล่อเหลาส่ายหน้า ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหมุนตัวหนึ่งรอบ ชุดองครักษ์ถูกเปลี่ยนเป็นชุดสวยงามผ้ามุ้ง ดูแปลกตาแต่งดงาม

แต่สิ่งที่งดงามที่สุดไม่ใช่ชุดที่สตรีนางนี้ใส่ แต่เป็นใบหน้างดงามหยาดฟ้า บรรยากาศรอบกายดูสูงส่งไม่คล้ายมนุษย์…ไม่สิ! นางไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่หมุนตัวชุดเปลี่ยนแล้ว

“ท่านงดงามขึ้นมาก”

“เจ้าเคยเจอข้ามาก่อนหรือ…อ้อ! นึกออกแล้ว เมื่อสองวันก่อน…ไม่สิ! สองวันสรรค์ก็สองปีมนุษย์”

จิ่วเหลียนฮวามองสตรีตรงหน้า ในหัวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน…

‘นั่น! ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลหม่า’

จิ่วเหลียนฮวาที่กำลังซักผ้าอยู่ชะงักเมื่อได้ยินคำพูดจากบุรุษวัยกลางคน นางชำเลืองหางตาดูเล็กน้อยก็เห็นว่าเป็นพระปิตุลาของฮ่องเต้จินจิ่นฟู่

‘จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร ต้องมารับโทษในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ…ว่าแต่นางมีนามว่าอันใด’

‘นั่นแหละที่ข้าแปลกใจ’

เสียงถอนหายใจดังขึ้น จิ่วเหลียนฮวาอยากหันไปมองทั้งสองยิ่งนัก แต่ก็ห้ามตัวเองเอาไว้ ลอบฟังสิ่งที่พวกเขาสนทนากัน

‘จิ่วเหลียนฮวา นางมีคำนี้สลักอยู่กลางฝ่ามือตั้งแต่ยังเป็นเด็กทารก คนที่เลี้ยงนางมาจึงตั้งชื่อให้นางว่าจิ่วเหลียนฮวา’

จิ่วเหลียนฮวานิ่งค้าง เพราะสิ่งที่พระปิตุลากล่าวล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น

จิ่วเหลียนฮวาไม่มีสมาธิซักผ้าแล้ว ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองไปยังทั้งสองด้วยสายตาเรียบเฉย

นางเคยเห็นพระปิตุลาไม่กี่ครั้งซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่นางยังเยาว์วัย แต่กับสตรีที่มีใบหน้างามล่มเมืองนั้นนางไม่เคยพบเห็นมาก่อน

‘หม่าจิ่วเหลียนฮวา’

สตรีผู้งดงามเรียกนามดรุณีน้อย จ้องนางด้วยสายตาอ่านยาก ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นสายตาตื่นตะลึง

ตั้งแต่วันนั้นจิ่วเหลียนฮวาก็จำหน้าสตรีผู้งดงามไว้ รอวันที่นางจะเผยกายอีกครั้ง แต่รอมาสองปีนางก็ไม่เผยกายให้จิ่วเหลียนฮวาเห็นอีกเลยจนกระทั่งวันนี้

กลับมาที่ปัจจุบัน…

“ท่านเป็นนางเซียนหรือเจ้าคะ”

“เหตุใดจึงรู้ หรือว่าข้างามสมกับเป็นเทพชั้นสูง”

จิ่วเหลียนฮวาปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นสตรีตรงหน้าใช้สองมือรองคางไว้ ด้วยไม่เข้าใจในท่านี้จึงทำเลียนแบบนาง

“หมายถึงอันใดเจ้าคะ”

“เฮ้อ~”

ยิ้มหวานบนใบหน้างามหายไปทันทีเมื่อเจอคนไม่ทันตน ด้านจิ่วเหลียนฮวาพอโดนถอนหายใจใส่ก็ซ่อนมือไว้ใต้แขนเสื้อนางกำนัล

“ขออภัยเจ้าค่ะ”

แม้ไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิด แต่นางก็ยังเอ่ยขอโทษเพราะไม่อยากเพิ่มจำนวนคนที่ไม่ชอบตนมากขึ้น เทพชั้นสูงผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากทั้งยังเข้าใจสถานการณ์ของนาง สีหน้าพลันเศร้าหมองในทันที

“ชีวิตเจ้าไม่ง่ายเลย ข้าไม่แปลกใจหากเจ้าจะพูดคำนี้ติดปาก ต่อไปนี้ข้าจะมาหาเจ้าบ่อย ๆ แต่เจ้าไม่ต้องพูดขออภัยข้าแล้ว เพราะเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

“จะมาหาข้าบ่อย ๆ หรือเจ้าคะ”

แววตาจิ่วเหลียนฮวาไหวระริก ความรู้สึกของการมีการญาติมิตรกลับมาอีกครั้ง

จิ่วเหลียนฮวาไม่เคยวางใจใครง่าย ๆ ทว่ากลับวางใจสตรีตรงหน้าทั้งที่เจอกันเพียงสองครั้ง

“ใช่! ข้าจะมาหาเจ้าบ่อย ๆ ข้าคือเทพบุปผา เรียกข้าว่าท่านเทพก็พอ”

จิ่วเหลียนฮวาไม่รู้ว่าควรทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างไรจึงย่อกายทำความเคารพแบบธรรมเนียมแคว้นจิน

“คารวะท่านเทพเจ้าค่ะ”

“เด็กดี”

เทพบุปผาส่งยิ้มเอ็นดูจิ่วเหลียนฮวา ก่อนจะกวาดตามองกองผ้าที่นางต้องรับผิดชอบ

“ข้าเพิ่งรับรู้การมีอยู่ของเจ้าเมื่อสองปีก่อน ที่ผ่านมาลำบากมากเลยใช่หรือไม่”

ว่าแล้วเทพบุปผาก็เอื้อมมือมากุมมือจิ่วเหลียนฮวาเอาไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าใจ

“แค่ซักผ้าเท่านั้น เมื่อเทียบกับนางกำนัลคนอื่นนับว่าลำบาก แต่หากเทียบกับชาวเมืองด้านนอกแล้ว อย่างน้อยก็ยังได้สวมผ้าเนื้อดี มีอาหาร ที่อยู่ อาจโดนแกล้งบ้าง แต่ข้าถือว่าเป็นความบันเทิงในชีวิตเจ้าค่ะ”

“โธ่~เด็กน้อย ใครสอนให้เจ้าคิดแบบนี้ อีคิวสูงยิ่งนัก เจอมาขนาดนี้ยังมองโลกในแง่นี้ได้”

“อีคิวคืออันใดหรือเจ้าคะ”

“คือความฉลาดทางอารมณ์ แต่หากเจ้าไม่มีอีคิวสูงขนาดนี้ก็คงบ้าตายแล้ว แต่จะเป็นไปได้หรือที่เจ้าจะไม่มีภาวะซึมเศร้าเลย ขอข้าตรวจสอบ”

สิ้นคำเทพบุปผาก็ผสานสองมือสอดมือหยาบกระด้างของจิ่วเหลียนฮวา

จิ่วเหลียนฮวาพลันรู้สึกว่าร่างกายเย็นเฉียบ นางไม่อาจขยับตัวได้แต่รู้สึกได้ว่ารอบด้านพลันหยุดเคลื่อนไหว นางกำนัลคนหนึ่งกำลังเดินมาลานซักผ้า ทว่าเท้ากลับหยุดอยู่เพียงเท่านั้น

ในใจจิ่วเหลียนฮวาคิด…

ท่านเทพหยุดเวลาเช่นนั้นหรือ

“ก็นั่นนะสิ จะไม่มีภาวะซึมเศร้าได้อย่างไร โดดเดี่ยวไร้ญาติขาดมิตรแบบนี้”

เวลากลับมาเดินเป็นปรกติ นางกำนัลคนดังกล่าวก้าวเดินต่อ จุดหมายปลายทางที่นางจะมาคือลานซักล้าง จิ่วเหลียนฮวาเห็นเช่นนั้นจึงรั้งมือเทพบุปผาคิดจะพานางหลบ ทว่าอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ

“ท่านเทพไม่หลบหรือเจ้าคะ”

เทพบุปผายิ้มมุมปากไม่ตอบ ในตอนนั้นเองที่สหายนางกำนัลคนดังกล่าวตอบคำถามแทน

“ไปไหนของนาง จะตามให้ไปช่วยงานเสียหน่อย”

เมื่อไม่เห็นจิ่วเหลียนฮวา นางกำนัลคนดังกล่าวก็หมุนตัวเดินจากไป

“นี่…”

“นางมองไม่เห็นเรา วางใจ”

จิ่วเหลียนฮวาผ่อนลมหายใจ ในตอนนี้เองที่นางรู้ตัวว่าตนแอบกลั้นหายใจเอาไว้

“ข้าเชื่อว่าท่านคือเทพชั้นสูงจริง ๆ แล้วเจ้าค่ะ”

เทพบุปผาตีหน้ายุ่งใส่จิ่วเหลียนฮวาทันที

“คุยกันมาตั้งนานคิดว่าข้าเป็นเทพตัวปลอมหรือ เจ้าหัวแข็งดีนะ ไม่เชืิ่อจนกว่าจะพิสูจน์”

จิ่วเหลียนฮวารีบคิดคำอธิบาย

“ขออภัยท่านเทพเจ้าค่ะ ข้า…”

“ขออภัยกันอีกแล้ว ข้าบอกว่าอย่างไร อยู่กับข้าไม่ต้องขออภัยกับพร่ำเพรื่อ”

“ขอ…” นิ้วเรียวมีแผลตบปากตัวเองเมื่อกำลังจะเผลอกล่าวขออภัยอีกครั้ง “ท่านเทพกับข้ามีความเกี่ยวพันกันอย่างไรหรือเจ้าคะ เหตุใดจึงอยากมาหาข้าบ่อย ๆ”

เทพบุปผาถอนหายใจ มองเห็นแผลบนนิ้วมือจิ่วเหลียนฮวาแล้วก็ใช้พลังบุปผารักษาแผลให้

“ทุกคนมีชะตาเป็นของตัวเอง ข้ารักษาแผลให้เจ้าได้ แต่ไม่อาจให้พรเจ้าห้ามบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นเรื่องซักผ้ายามอากาศหนาวติดลบแบบนี้ เป็นไปได้เจ้าก็ปฏิเสธบ้าง อย่างไรก็เป็นนางกำนัลเหมือนกัน ไยต้องรับบทเป็นนางทาสเวอร์ชั่นจีนโบราณ”

จิ่วเหลียนฮวามุ่นคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เทพบุปผากล่าว ในใจนางคิด…

หรือจะเป็นภาษาเทพเซียน มนุษย์ชั้นต่ำเช่นข้าฟังไม่ออกก็ไม่แปลกกระมัง

เมื่อทำความเข้าใจได้แล้วนางก็พยักหน้ารับเบา ๆ ดวงตาคู่โตจับจ้องเทพบุปผา มองความงามที่เหมือนไม่มีจริง

“ข้าไม่อยากมีปัญหาเจ้าค่ะ อย่างน้อยตอนที่คนสั่งงานก็ยังได้สนทนากันหลายประโยค ข้าไหวไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

“แล้วเจ้าไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตบ้างหรือ นางเอกส่วนมากที่เป็นเหมือนเจ้ามักอยากได้รับอิสรภาพ หรือเจ้าไม่อยากได้” ปลายเสียงสูง

จิ่วเหลียนฮวาส่ายหน้าเบา ๆ เริ่มรู้สึกแย่เมื่อตนไม่มีเป้าหมายในชีวิต

“ข้าอยากขอโทษท่านที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่เรื่องนี้ใครจะโทษข้า ต่อว่าข้าอย่างไรข้าก็ขอน้อมรับเอาไว้”

เทพบุปผายื่นมือแตะแก้มซีดขาวที่ตอนนี้เย็นเฉียบ แต่กลับไม่ปรากฏสีเลือดให้เห็น

“เจ้าไม่ผิดที่จะไม่มีเป้าหมายในชีวิต คนเราเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ใจไม่เกี่ยวใคร ไม่มีคนให้ห่วงหา ไม่มีคนให้คอยกังวลใจ ไร้ญาติไม่พอยังไม่มีมิตรสหายอีก จะเอาเป้าหมายในชีวิตมาจากไหน”

“ใครจะอยากเป็นสหายกับสตรีคนสุดท้ายของตระกูลหม่า”

“ตอกย้ำตัวเองอีกแล้ว ข้าช่วยบอกชะตาของเจ้าให้ดีหรือไม่ เจ้าจะเอามาเป็นจุดหมายของชีวิตหรือไม่อยู่ที่เจ้า ข้าไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะดีหรือร้ายต่อเจ้า แต่การที่เจ้าต้องตายเก้าครั้งจะทำให้เจ้ากลับสู่ในที่ที่ควรอยู่”

“ตายเก้าครั้งแล้วกลับไปที่ที่ควรอยู่”

จิ่วเหลียนฮวาหน้าถอดสีแล้ว

“ใช่ เจ้าแมวเก้าชีวิตของข้า เมื่อใดที่เจ้าตายครบเก้าครั้ง เจ้าจะกลับสู่แดนบุปผาของเรา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๘ สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผี

    บทที่ ๘๘สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผีเมืองฮั่นหลินเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น!เพื่อไม่ให้ตนมัวแต่จมปลักอยู่กับความรักที่ไม่อาจร่วมทางไปกับคนรักได้จนสุดฝั่ง จินหลี่จินจึงขอฮ่องเต้ไปสืบคดีนี้ด้วยตนเอง ฮ่องเต้อนุญาตเพราะคิดว่าการทำงานหนักอาจทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาฟุ้งซ่านส่วนจินเทียนหลุนนั้น ยามนี้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ รับหน้าที่เป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงต่อจากท่านตาของจินหลี่จินเดิมทีตำแหน่งนี้ฮ่องเต้จินจิ่นฟู่อยากมอบให้จินหลี่จิน แต่อีกฝ่ายรักอิสระ อยากทำหน้าที่ที่ไม่กังขังตนเอาไว้เพียงในเมืองหลวง เขาจึงได้รับหน้าที่พิเศษเป็นฑูตประจำแคว้น ทำหน้าที่เจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้น เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ได้สะดวกสมกับที่ไม่มีครอบครัวส่วนจินเทียนหลุนที่มีชายาที่ท้องโตขึ้นทุกวันรอที่จวนอยู่แล้ว เช้ามาเข้ากองทัพฝึกทหาร ค่ำกลับจวนอยู่เป็นเพื่อนชายาและแนบหูคุยกับลูกน้อยทุกคืนแม้เด็กในท้องจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเพราะเพิ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๗ ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่ง

    บทที่ ๘๗ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่งยามนี้เทพโอสถกำลังยืนอยู่บนกลางท้องฟ้า ใต้เท้าเป็นสัตตบงกชแห่งการเคลื่อนย้าย ด้านซ้ายมีหวงผิงที่ยืนอยู่บนปุยเมฆมองการแต่งงานของไช่จงซินในมุมสูงสีหน้าของเขาเรียบเฉยต่างกับเทพโอสถที่ฉายแววปวดใจ เมื่อคนที่กำลังเดินเคียงคู่กับไช่จงซินเข้าไปในโถงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินมิใช่คนที่มีใจต้องกัน“ข้าเป็นคนนอก มองดูแล้วยังปวดใจเพียงนี้ พวกเขาสองคนก็คงปวดใจจนหายใจไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ จุกลิ้นปี่ตรงนี้”หวงผิงหันมามองนิ้วมือเรียวที่ชี้จุดตรงลิ้นปี่ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างอกเหนือกระเพาะอาหาร“ท่านเจ็บเพราะจิ้มแรงเกินไป”คนที่กำลังคล้อยไปกับเรื่องราวไม่สมหวังของคู่รักมนุษย์ตวัดสายตามามองหวงผิง แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้จริง ๆ ก็ไม่โทษเขา“เอาเถอะ! เรื่องยังไม่เกิดกับตนจะเข้าใจได้อย่างไร ลองจินตนาการดู หากเจ้าเป็นไช่จงซินหรือจินหลี่จินจะไม่รู้สึกอันใด

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๖ เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้

    บทที่ ๘๖เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้การมาเยือนแคว้นฝูครั้งนี้ จินเทียนหลุนคิดว่าคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องไปถามวิธีการดูแลบุตรจากหมอหลวงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ แต่ได้ความรู้จากเหล่าฮูหยินทั้งหลายที่ต่อไปจะกลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าสตรีมีครรภ์จะเป็นเหน็บชา ต้องหมั่นนวดเท้า เรื่องอาหารการกิน งดดื่มสุรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่จะมีผลต่ออารมณ์และอย่างสุดท้ายที่สำคัญสำหรับชีวิตคู่คือการร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยา“เสี่ยวจิ่ว เปิ่นหวางถามฮูหยินทั้งสามแล้ว เรายังเข้าหอกันได้ตามปรกติ เว้นเพียงช่วงนี้กับช่วงใกล้คลอด ขอแค่เปิ่นหวางระวังไม่เน้นท่าโลดโผน ค่ำคืนของเราก็ยังคงเร่าร้อนได้เหมือนเคย”จิ่วเหลียนฮวาหน้าร้อนฉ่า ไม่คิดว่าสวามีของนางจะกล้าพูดเสียงดังต่อหน้าบ่าวในจวนตระกูลไช่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกนางดึงแขนเขาเข้าไปด้านในเรือนทันทีเพราะปั้นสีหน้าไม่ถูกแล้ว“ท่านอ๋อง! กล่าวเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้เพคะ”“ขออ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๕ เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้า

    บทที่ ๘๕เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้าสองหนุ่มใหญ่จ้องหน้ากันนิ่ง จิ่วเหลียนฮวาเห็นเช่นนั้นก็มองหน้าจินเทียนหลุน ไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของตนจะไปขัดจังหวะคนทั้งคู่“ยายหนูจิ่ว ขนมของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง”ไช่จงซินถอนสายตาจากจินหลี่จินก่อน เดินไปนั่งตำแหน่งประมุขตระกูล รอคำตอบจากจิ่วเหลียนฮวาอย่างใจเย็น คำอวยพรจากจินหลี่จินเมื่อครู่ทำให้เขาไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายอีก ด้วยกลัวจะพรั่งพรูความรู้สึกต่อหน้าทุกคน“อร่อยเจ้าค่ะท่านประมุข”“เรียกข้าว่าท่านอาจารย์ตามเจ้าหนูหลุนเถิด”จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะ ขนมอร่อยมากเจ้าค่ะท่านอาจารย์ หากใจไม่ห้ามเอาไว้ ข้าอยากทานแทนอาหารสามมื้อ”ไช่จงซินหลุดหัวเราะเกือบสำลักน้ำชา“เสี่ยวจิ่วมีอารมณ์ขันแล้ว สตรีวัยเจ้าที่ทานมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีมีครรภ์ทั้งนั้น หรือเจ้ากำลังมีครรภ์”ไช่จงซินถามโดยไม่คิดอันใด ไม่คิดว่าทุกคนจะเงียบ เขามองหน้าจินเทียนหลุนสลั

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๔ คราวนี้ใครก็ดูถูกเจ้าไม่ได้แล้ว

    บทที่ ๘๔คราวนี้ใครก็ดูถูกเจ้าไม่ได้แล้ววันเวลามาถึงวันที่จินเทียนหลุนเดินทางไปร่วมงานแต่งของท่านอาจารย์ตนที่แคว้นฝู ผู้ร่วมเดินทางประกอบไปด้วย จินหลี่จิน จินเทียนหลุน จิ่วเหลียนฮวา องครักษ์ของอ๋องทั้งสองและนางกำนัลคอยปรนนิบัติจิ่วเหลียนฮวาที่กำลังตั้งครรภ์ตอนนี้ผู้ทราบว่านางตั้งครรภ์มีเพียงฮ่องเต้ ไทเฮาและจินหลี่จินเท่านั้น อายุครรภ์เพิ่มขึ้นเมื่อไรจินเทียนหลุนจะประกาศเรื่องนี้ให้ทราบโดยทั่วกัน“พลังยายหนูจิ่วดีนัก มิเช่นนั้นเราต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเดินทางถึง”ขบวนเดินทางไปร่วมงานมงคลยังไปไม่ถึงไหน แต่จิ่วเหลียนฮวาใช้พลังเทพเคลื่อนกายมาที่ปลายทางล่วงหน้าขบวนเดินทางมาก่อนแล้ว“จริงอย่างที่เสด็จอากล่าว เช่นนี้ดียิ่ง ครรภ์ของเจ้าจะได้ไม่เป็นอันตรายไปด้วย”จิ่วเหลียนฮวาพาเพียงสองหนุ่มราชวงศ์จินมาด้วยเท่านั้น เมื่อขบวนเดินทางใกล้เมืองหลวงแคว้นฝูเมื่อใดถึงค่อยกลับไปนั่งขบวนรถม้าอีกครั้ง“อีกหลาย

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๓ ไม่อยากได้รับคำแสดงความยินดี

    บทที่ ๘๓ไม่อยากได้รับคำแสดงความยินดีฉายาชายารองมือปราบมาร ตอนนี้ไม่ได้ลือกันในหมู่จวนขุนนางแล้วเท่านั้น แต่ยังเล่าลือกันไปทั้งเมืองหลวง ปากต่อปากรวดเร็ว เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนก็แพร่ไปทั้งแผ่นดินใหญ่ แม้แต่ไช่จงซินที่อยู่เมืองหลวงแคว้นฝูยังได้ยิน“ยายหนูจิ่วมีชื่อเสียงใหญ่แล้ว คราวนี้เจ้าหนูหลุนได้กินน้ำส้มสายชูรายวันแน่”ไช่จงซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความสุข จนกระทั่งดวงตาเหลือบไปมองเทียบเชิญงานแต่งของตนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ความเศร้าหมองก็มาแทนที่“นายท่านจะให้ข้าน้อยส่งเทียบเชิญเลยหรือไม่”ไช่จงซินยังไม่ตอบ หลับตาลงซ่อนเร้นความเศร้าหมอง จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้ารับ แม้ไม่อยากให้คน ๆ นั้นมาร่วมงานด้วย…แต่หากไม่เชิญเลย เขาคงก็โดนอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าไม่ให้ความสำคัญ!“ส่งเลย ขออภัยพวกเขาแทนข้าด้วยที่ไม่ได้มาเชิญด้วยตัวเอง”“ขอรับนายท่าน”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status