Share

บทที่ ๓ เกิดจากความสงสัย

last update Last Updated: 2025-09-13 14:10:51

บทที่ ๓

เกิดจากความสงสัย

“ที่จริงแล้ว ข้าเป็นใครหรือเจ้าคะ เหตุใดต้องกลับแดนบุปผา”

“ความลับของสวรรค์ไม่อาจบอกได้ เป็นอันว่าเจ้ารู้เพียงเท่านี้ก็พอ”

จิ่วเหลียนฮวาได้ยินเช่นนั้นก็ไม่คิดซักไซ้อีกต่อไป ตอนนี้คำถามเดียวที่นางอยากทราบจากเทพบุปผาคือ…

“ท่านเทพเจ้าคะ โลกหลังความตายของข้าจะสวยงามหรือไม่”

เทพบุปผายื่นมือไปจับแก้มซีดขาวแล้วลูบขึ้นลงแผ่วเบา “แล้วเจ้าจะมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

ความสุขเช่นนั้นหรือ

จิ่วเหลียนฮวาได้ยินเช่นนั้นหัวใจพลันอุ่นวาบ

ในตอนนี้เองที่นางรู้ว่าตนเริ่มจะมีเป้าหมายเป็นของตัวเองแล้ว!

“แล้วเรื่องตายเก้าครั้ง ข้าต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติหรือว่าต้องฆ่าตัวตายเจ้าคะ”

“เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะทราบเอง แต่อย่าได้คิดฆ่าตัวตายเป็นอันขาด”

จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับ เริ่มมีความรู้สึกเบาใจขึ้นแล้ว เทพบุปผาอยู่สนทนากับนางไม่นานก็ขอตัวกลับ

“ข้าต้องกลับไปทำงานแล้ว เห็นหรือไม่เทพชั้นสูงก็ไม่ได้ว่างงาน มีเวลาว่างแล้วข้าจะมาหา ไปแล้วนะ”

จิ่วเหลียนฮวาย่อกายขอบคุณเทพบุปผา ก่อนที่ร่างงามจะหายวับไปต่อหน้านางเหลือทิ้งไว้เพียงกลีบบุปผาให้รู้ว่านางเคยมาปรากฏตัวตรงนี้[1]

นางย่อตัวลงเก็บกลีบบุปผาสีชมพูอ่อนขึ้นมา สัมผัสกลีบที่มีกลิ่นหอมจรุงได้ไม่นานกลีบบุปผาก็สลาย

“หายไปไหนแล้ว…”

“เสี่ยวจิ่ว! เจ้านั่นแหละหายไปไหนมา เมื่อครู่ข้าจะมาตามเจ้าไปช่วยงานจวนจือเล่อ”

จิ่วเหลียนฮวาสะดุ้งเมื่อนางกำนัลคนเมื่อครู่เดินกลับมาที่ลานซักล้างอีกครั้ง

“คือข้า…”

“ช่างเถอะ! ไปช่วยข้าเช็ดหน้าต่างก่อน”

หากเป็นเวลาปรกติจิ่วเหลียนฮวาย่อมตอบรับการขอความช่วยเหลือนี้ แต่ในตอนนั้นเองที่คำพูดของเทพบุปผาแล่นเข้ามาในหัว

‘...เป็นไปได้เจ้าก็ปฏิเสธบ้าง อย่างไรก็เป็นนางกำนัลเหมือนกัน ไยต้องรับบทเป็นนางทาสเวอร์ชั่นจีนโบราณ’

“อาฉู่ ข้าต้องซักผ้าให้เสร็จก่อน คงไปช่วยงานไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วยนะ”

“แต่…”

ไม่รอให้อาฉู่กล่าวคำพูดใด จิ่วเหลียนฮวาก็นั่งลงเก้าอี้ไม้เตรียมซักผ้าต่อ หากนางหันมามองด้านหลังสักนิดจะเห็นว่าอาฉู่ทำปากพะงาบ ๆ

ไม่คิดว่าจิ่วเหลียนฮวาจะรู้จักปฏิเสธ!

“แต่หากเจ้าไม่ไปช่วยข้าเช็ดหน้าต่าง ใครจะช่วยข้าเล่า…นะ! ไปช่วยข้าก่อนแล้วค่อยมาซัก”

อาฉู่ยังไม่คิดยอมแพ้ จิ่วเหลียนฮวาที่เริ่มรำคาญแล้วหยุดมือที่กำลังเอาผ้าแปรงกับไม้กระดาน ชำเลืองมองอาฉู่

“เช่นนั้นเจ้ามาช่วยข้าซักผ้าก่อน แล้วข้าจะไปช่วยเจ้าเช็ดหน้าต่าง”

“เรื่องอะไร! นี่ไม่ใช่หน้าที่ข้า อีกอย่างหนาวขนาดนี้ใครจะซักผ้าได้”

จิ่วเหลียนฮวามองอาฉู่นิ่ง ๆ ให้รู้ว่าตนเองที่กำลังซักผ้าท่ามกลางอากาศหนาว อาฉู่ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเข้าใจความหมายและคิดว่าวันนี้จิ่วเหลียนฮวาพูดคุยด้วยไม่ง่ายจึงล่าถอย ก่อนไปไม่วายทิ้งคำพูดนี้ไว้

“จำไว้ หากเจ้าตกทุกข์ได้ยากข้าจะไปช่วยเจ้า”

ว่าแล้วก็สะบัดหน้าเดินจากไป จิ่วเหลียนฮวาส่ายหน้าไล่หลังอาฉู่ พูดด้วยน้ำเสียงไม่เบานัก

“ทำอย่างกับว่าเจ้าเคยช่วยอะไรข้า”

จิ่วเหลียนฮวาไม่สนใจใครอีก ซักผ้าของนางต่อไป นางค้นพบว่าหลังจากมือได้รับการรักษาแล้วก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดกับการซักผ้าอีกต่อไป ไม่แม้แต่จะรู้สึกหนาวด้วยซ้ำ

เพราะนางกำลังให้ความสนใจกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายจึงไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครกำลังจับจ้องอยู่

“พลังบริสุทธิ์แบบนั้นมาจากตรงนี้แน่ แต่จิ่วเหลียนฮวาสตรีที่มีชีวิตรอดได้เพราะข้านะหรือจะมีพลังบริสุทธิ์แบบนั้น”

ชินอ๋องจินเทียนหลุนวัย 20 ชันษาซ่อนตัวอยู่หลังเสาจับจ้องแผ่นหลังบางของจิ่วเหลียนฮวา ใบหน้าของเขายาวได้รูป ดวงตา จมูก ริมฝีปากรับกันทุกสัดส่วนให้ความละมุนสวนทางกับร่างกายที่ดูบึกบึนสมกับที่ฝึกในหน่วยพิเศษของกองทัพพิทักษ์ชายแดน

“ท่านอ๋อง…”

องครักษ์เฉียวเหอเงียบไปเมื่อมือหนาชูกำปั้นในความหมายให้เงียบเสียง ทว่าเฉียวเหอทำเพียงเบาเสียงลงเท่านั้น สู้กับเสียงในหัวไม่ได้เอ่ยถามออกไปในที่สุด

“ท่านอ๋องถูกใจนางหรือพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เคยเห็นพระองค์แอบมองสตรีคนใดมาก่อนเลย…โอ๊ย! พี่ใหญ่เตะข้าทำไม”

เฉียวเหอนับว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน สวนทางกับพี่ชายของเขาเฉียวฉือวัย 23 หนาวที่มีบุคลิกนิ่งขรึม เมื่อเห็นน้องชายวัย 19 หนาวเริ่มลามปามเจ้านาย เขาก็ลงโทษโดยการเตะน่องอีกฝ่ายไม่เบานัก

“ขออภัยท่านอ๋องขอรับ”

จินเทียนหลุนเพียงมององครักษ์ข้างกายนิ่ง ๆ ก่อนที่จะตวัดสายตาไปมองจิ่วเหลียนฮวา

“เปิ่นหวางสัมผัสได้ถึงพลังบริสุทธิ์บางอย่าง ก่อนหน้านี้เจ้าทั้งสองรู้สึกเวลาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งหรือไม่”

เฉียวฉือและเฉียวเหอมองหน้ากันก่อนที่จะส่ายหน้า

“กระหม่อมไม่รู้สึกอันใดเลยพ่ะย่ะค่ะ”

จินเทียนหลุนมุ่นคิ้วเพราะไม่แน่ใจว่าตนคิดไปเองหรือไม่ ยิ่งสององครักษ์กล่าวว่าไม่รู้สึกเช่นเดียวกับตนจึงเก็บความสงสัยนี้เอาไว้ก่อน

“ช่างเถอะ…นั่นนางกำลังซักชุดของเปิ่นหวางอยู่หรือไม่ กำจัดเลือดก่อนหรือยัง”

“กระหม่อมกำจัดเลือดก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ผ้าย่อมมีรอยขาดแน่ กำชับนางไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ รวมถึงให้นางปะซ่อมชุดให้เปิ่นหวางด้วย”

เฉียวเหอรับคำแล้วเป็นคนเดินเข้าไปหาจิ่วเหลียนฮวาด้วยตนเองโดยมีสองหนุ่มจับจ้องตาไม่กะพริบ

จิ่วเหลียนฮวาเงยหน้าขึ้นเมื่อหางตาเห็นชุดสีดำขององครักษ์ประจำกายจินเทียนหลุน นางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพราะคิดว่าเป็นเทพบุปผามาหานางในชุดองครักษ์

“ท่านเทพมีอันใดจะกำชับข้าหรือเจ้าคะ”

ไม่เพียงเฉียวเหอเท่านั้นที่มุ่นคิ้วให้กับคำพูดของจิ่วเหลียนฮวา แม้แต่จินเทียนหลุนที่ลอบมองอยู่ก็เช่นกัน ในใจจินเทียนหลุนคิด…

ท่านเทพเช่นนั้นหรือ เวลาหยุดนิ่งเมื่อครู่มิใช่ข้าที่คิดไปเองหรือนางโกหกเพื่อสร้างความสนใจให้แก่ข้ากันแน่

  “ท่านเทพอันใด ข้าเฉียวเหอ องครักษ์ประจำกายชินอ๋องจินเทียนหลุน”

จิ่วเหลียนฮวาหน้าถอดสี ตะโกนร้องในใจว่าตนพลาดแล้ว

“ข้า…เอ่อ ข้าเห็นท่านองครักษ์หล่อเหลาดุจเทพเซียนจึงเผลอพูดในสิ่งที่คิดไปเจ้าค่ะ”

เฉียวเหอมีสีหน้าดีขึ้น ภาษากายที่แสดงถึงความพอใจของเขาฉายชัดแม้จะมองจากด้านหลัง จินเทียนหลุนเห็นเช่นนั้นก็ส่ายหน้าเบา ๆ

“ชมถูกคนเสียด้วย”

“กระหม่อมไปกำชับอีกคนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” 

จินเทียนหลุนยกมือห้ามทัพ

“ไม่ต้อง เพียงคนสนิทของเปิ่นหวางเข้าไปสนทนากับนางกำนัลซักล้างก็สร้างความสนใจให้ทุกคนพอแล้ว”

เฉียวฉือผงกศีรษะรับ “เป็นกระหม่อมคิดไม่รอบคอบ ขออภัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”

จินเทียนหลุนไม่กล่าวอะไร สายตาจับจ้องไปยังจิ่วเหลียนฮวาเพื่อจะจับพิรุธนาง

เฉียวเหอกระแอมหนึ่งครั้งเรียกความสงบนิ่งกลับคืนมา แม้จะพอใจกับคำแก้ตัวของนางแต่ดึงสติตัวเองกลับมาได้ว่าห้ามเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเป็นอันขาด

ต้องคำนึงถึงหน้าท่านอ๋อง!

“ข้ารู้ตัวว่ารูปงาม แต่ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับคำชมของเจ้า แต่จะมากำชับเรื่องพระภูษา”

จิ่วเหลียนฮวามองไปที่ชุดสีดำ รู้ในทันทีว่าหมายถึงชุดที่นางซักเสร็จแล้วเตรียมตากแห้ง

“พระภูษามีอันใดหรือเจ้าคะ ข้าไม่เห็นอะไร”

จิ่วเหลียนฮวาตีหน้าซื่ีอ ทว่าเฉียวเหอรู้ว่านางรับคำแล้วว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป

“นับว่าเจ้าหัวดี…อ้อ! อย่าลืมปักชุนให้ด้วย หวังว่าจะไม่มีใครเห็นรอยขาดนี้นอกจากเจ้า”

จิ่วเหลียนฮวาหน้าเจื่อน เฉียวเหอจึงเลิกคิ้ว

“ทำไมหรือ”

“ข้าปักชุนไม่เป็นเจ้าค่ะ”

“แต่เจ้าเป็นนางกำนัลและยังเป็นสตรี ไยเรื่องงานปะชุนจึงทำไม่เป็น”

จิ่วเหลียนฮวาไม่ตอบแต่มองไปยังชุดที่วางไว้ในลานซักล้าง เฉียวเหอมองตามแล้วลั่นปากถาม

“อย่าบอกว่าเจ้าซักเองทั้งหมดนี่!”

“เจ้าค่ะ แค่ซักผ้าก็หมดวันแล้ว ข้ายังจะเอาเวลาไหนไปเรียนปักผ้า”

เฉียวเหอถอนหายใจ เมื่อคิดว่าชะตาชีวิตของสตรีจากตระกูลต้องโทษไม่ได้ราบรื่นนักก็รู้สึกเห็นใจนาง

“เอาเป็นว่าจัดการให้เรียบร้อย ท่านอ๋องไม่ประสงค์ให้เรื่องนี้ล่วงรู้ถึงไทเฮาให้ทรงกังวลพระทัย”

จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับเบา ๆ

ในตอนนั้นเองที่หางตาสังเกตเห็นร่างสูงในชุดสีดำขาวปักลายอินทรีย์ดูน่าเกรงขามกำลังกอดอกมองมาที่นางโดยมีองครักษ์ใส่ชุดสีเดียวกับองครักษ์ข้างกายนางยืนอยู่ด้วยคนหนึ่ง

ท่านอ๋อง

หน้าตาที่มีเค้าโครงแบบวัยเยาว์ทำให้จิ่วเหลียนฮวาเดาได้ไม่ยาก รีบย่อกายคารวะเขาในทันที

[1]ติดตามเรื่องราวของเทพบุปผาได้ที่เรื่อง…บุปผาเยียวยาใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๔๒ ส่งพันลี้ก็ต้องลาจาก

    บทที่ ๔๒ส่งพันลี้ก็ต้องลาจาก วันสถาปนาแคว้นสิ้นสุดลงแล้วสำหรับแขกบ้านแขกเมือง จินเทียนหลุนและจินหลี่จินในฐานะตัวแทนราชวงศ์จินเดินทางมาที่ประตูเมืองจิ้งอันส่งราชทูตทั้งสี่แคว้นออกจากเมืองหลวง วันนี้จะไม่น่าใจหายสำหรับใครบางคนหากว่า… ไช่จงซินไม่เดินทางไปกับขบวนด้วย! จินหลี่จินกับไช่จงซินอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิด เติบโตแล้วก็ยังย้ายไปสร้างสำนักยุทธ์ด้วยกัน ความสัมพันธ์มากกว่าสี่สิบปีมิใช่พูดว่าจะจากกันวันนี้ก็จากกันได้เลย จินเทียนหลุนเห็นเสด็จอามีสีหน้าไม่สู้ดีแล้วก็อดเป็นห่วงความรู้สึกเขาไม่ได้ “เสด็จอา หากทำใจลำบาก ตามท่านอาจารย์ไปด้วยดีหรือไม่ ท่านอาจารย์เองก็คงรู้สึกไม่ต่างจากเสด็จอา”&nb

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๔๑ ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองมานานมากแล้ว

    บทที่ ๔๑ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองมานานมากแล้ววงสนทนาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ไช่จงซินจะสูดน้ำมูก เมื่อทุกคนมองไปหาเขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายน้ำตาไหลอาบแก้มเทพบุปผาที่เห็นน้องชายตัวโตผมเริ่มหงอกที่โคนแล้วร้องไห้เหมือนเด็กน้อยก็ยื่นมือไปจับแก้มเขา“น้องพี่ ร้องไห้ทำไม”“พี่รองไม่มาเยี่ยมพวกเราหลายปีแล้ว แม้แต่ท่านแม่ก็ไม่ไปเยี่ยม ตอนนี้ท่านพ่อแก่มากแล้ว ข้าลงจากเขาเหลียงซานครั้งนี้เพราะท่านแม่ส่งสารถึง”เทพบุปผาดวงตาไหววูบ แม้การบำเพ็ญเพียรจะช่วยให้นางตัดจากโลกมนุษย์ แต่เมื่อได้สัมผัสกับญาติสนิทอีกครั้งก็ดึงนางให้กลับมาสู่ห้วงอดีตเพราะเช่นนี้นางจึงปฏิเสธที่จะเจอกับไช่จงซิน!“ท่านแม่ตามเจ้ากลับไปเป็นประมุขตระกูลหรือ”ไช่จงซินพยักหน้ารับ จินหลี่จินเห็นสหายเงียบไปก็เป็นเสียงแทนเขา“ตระกูลไช่ไม่มีทายาทเป็นบุรุษอีกแล้ว เขาเตรียมใจมานานแล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง ประมุขตระกูลไช่ต้องมีคนสืบทอดสักวันหนึ่ง”“เจ้าล่ะหลี่จิน”

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๔๐ ทุกคนต้องรู้ว่าเจ้าเป็นคนโปรดของข้า          

    บทที่ ๔๐ทุกคนต้องรู้ว่าเจ้าเป็นคนโปรดของข้านางรักข้า ไม่ขอรับความเห็นต่าง เห็นทีว่าจะมีโอกาสพูดเรื่องนี้ให้นางคล้อยตามแล้วจินเทียนหลุนลำดับความคิดลำดับคำพูดไว้ในใจ ก่อนที่จะทำน้ำเสียงจริงจังใส่นาง“ไม่ว่าความรักหรือความยึดติดหรืออะไรก็ตาม ในเมื่อเจ้าพูดแล้ว ห้ามคืนคำเป็นอันขาด ห้ามรู้สึกเช่นนี้กับใครนอกจากข้า…”“...”“เจ้าไม่ยอมให้ข้าสละตำแหน่งอ๋อง เช่นนั้นข้าจะทำอย่างไรทุกคนถึงจะรู้ว่าเจ้าเป็นของข้า ต้องทำอย่างไรถึงจะถูกใจเจ้า ช่วยบอกได้หรือไม่”คำก็ข้าสองคำก็ข้า เขาไม่คิดจะแทนตัวเองว่าเปิ่นหวางแล้วหรือ“ทำเหมือนเดิมที่เป็นมาเถิดเพคะ”...ไม่แน่ว่าหม่อมฉันจะตายวันตายพรุ่งจิ่วเหลียนฮวาเว้นคำพูดนี้เอาไว้ในใจ นางหลุบตาอยู่จึงไม่เห็นว่าชายหนุ่มดวงตาไหววูบ“เหมือนเดิมก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงนะสิ ต่อไปหากมีใครเข้ามายุ่มย่ามกับเจ้าจะว่าอย่

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๓๙ เจ้าไม่ต้องเป็นนางกำนัลแล้ว

    บทที่ ๓๙เจ้าไม่ต้องเป็นนางกำนัลแล้วจินเทียนหลุนเดินจับข้อมือจิ่วเหลียนฮวาเข้ามาในห้องหนังสือแทนที่จะเป็นห้องบรรทมเขาเพราะไม่อยากใช้สถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อหัวใจเช่นนั้นในหัวเห็นภาพตัวเองเหวี่ยงจิ่วเหลียนฮวาเข้ากับผนังแล้วบดขยี้จุมพิตนาง ไม่ให้ปากน้อย ๆ ได้มีโอกาสโต้เถียงหรือว่าเม้มปากยามที่เขาขึ้นเสียงใส่ทว่าเขาไม่อาจชนะภาพในหัวได้ เมื่อปิดประตูในห้องหนังสือก็ทำเพียงดึงนางมานั่งที่โต๊ะน้ำชา สนทนากันด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์“นั่ง”จิ่วเหลียนฮวาถูกดันไหล่ให้นั่งเก้าอี้ ชายหนุ่มรู้ว่าหากไม่ทำเช่นนี้ จิ่วเหลียนฮวาจะต้องนั่งลงที่พื้นแน่“ดื่มชา”จิ่วเหลียนฮวาทำตามที่เขาบอก จับป้านชาเทใส่ให้เขาก่อนถึงค่อยเทใส่ให้ตัวเอง“เชิญท่านอ๋องก่อนเพคะ”จิ่วเหลียนฮวาไม่ยอมดื่มหากไม่เห็นเขาดื่มก่อน จินเทียนหลุนจึงยกชาเย็นชืดดื่มจนหมด จิ่วเหลียนฮวาถึงดื่มชาตาม สีหน้าฉายความสดชื่นในทันทีเมื่อได้ดื่มน้ำหลังอาหารจินเทียนหลุนเห็นเช่นนั้น ความคุกร

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๓๘ ไม่พอพระทัยหม่อมฉันหรือเพคะ

    บทที่ ๓๘ไม่พอพระทัยหม่อมฉันหรือเพคะจิ่วเหลียนฮวาแปลกใจในตัวเองเล็กน้อยที่ท้องหิวเหมือนอดอาหารสามวันทั้งที่นางรู้สึกว่าตนจากโลกไปเพียงครึ่งเค่อตามระยะเวลาสวรรค์เท่านั้น“อีกถ้วยหรือไม่ เปิ่นกงเลี้ยงเจ้าได้โดยไม่สะเทือนคนหน้าแข้งอยู่แล้ว”ฝูเจี้ยนถานเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามทานหมดไปหนึ่งถ้วยแล้ว“ไม่เจอกันเกือบสี่วัน อย่าบอกว่าเจ้าไม่ได้ทานอันใดเลย” เขาถามโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่นึกว่าจิ่วเหลียนฮวาจะพยักหน้ารับ“จะว่าอย่างนั้นก็ได้เพคะ ร่างกายจดจำได้ดียิ่ง แต่ว่า…ต่อให้จดแค่ไหน ท้องหม่อมฉันก็ใส่ได้เพียงเท่านี้”จิ่วเหลียนฮวาตอบชายหนุ่มก่อนที่จะกวาดตามองหาร้านน้ำชา แต่เมื่อคิดได้ว่าจะเดือดร้อนคนตรงหน้าอีก นางถึงได้ถือวิสาสะยกถ้วยบะหมี่ขึ้นซดน้ำ“เสียมารยาทต่อหน้าองค์รัชทายาทแล้ว”“เช่นนี้เรียกว่าประหารก่อนแล้วค่อยรายงานหรือไม่ ไฉนทำไปแล้วเพิ่งมาคิดได้”จิ่วเหลียนฮวาหน้าซีด ไม่ได้ตั้งตัวว่าอีก

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๓๗ เกือบสี่วันทุกคืนที่ไม่ได้นอน

    บทที่ ๓๗เกือบสี่วันทุกคืนที่ไม่ได้นอน“เด็กสมัยนี้ แสดงความรักกันไม่เลือกที่”เสียงของสตรีวัยกลางคนดังขึ้นลอย ๆ ขัดจังหวะคู่รักทั้งสองวัดความคิดถึงกันด้วยคำพูดและการกระทำ สองหนุ่มสาวผละกอด หลงฮ้าวยังมีสีหน้าปรกติต่างจากเทพบุปผาที่ตีหน้ายุ่งไล่หลังสตรีวัยกลางคนนั้น“อยู่ ๆ ก็โดนคุณน้าอิจฉา เราไปแสดงความรักกันเพียงสองคนเถอะหลงฮ้าว”“ตามใจเจ้า แล้วนางเล่า”หลงฮ้าวมองมาที่จิ่วเหลียนฮวา หญิงสาวจึงย่อกายลงคารวะเขา มั่นใจว่า ‘ท่านเขย’ ที่ซูเมี่ยวพูดถึงก็คือเขา“เดี๋ยวข้าไปส่งนางที่จวนจือเล่อก่อน…ไปเสี่ยวจิ่ว!”“มิเป็นไรเจ้าค่ะท่านเทพ”จิ่วเหลียนฮวารีบโบกมือปฏิเสธเพราะไม่อยากขัดความสุขของเทพที่นางเคารพ“มิเป็นไรได้อย่างไร ข้าพาเจ้าไปก็ต้องพากลับ ทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่นนี้มิใช่ข้า”“ท่านเขยเพิ่งออกจากด่านมิใช่หรือเจ้าคะ กว่าจะได้พบท่านเทพไม่ง่ายเลย ไปใช้เวลาด้วยกันเถอะเจ้าค่ะ จวนจือเล่ออยู่ใกล้แค่นี้ ข้าเดินกลับเองได้เจ้าค่ะ”เทพเซียนทั้งสองมีสีหน้าพอใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำว่าท่านเขยจากปากจิ่วเหลียนฮวา“ข้าไปเดินเล่นทางนั้นนะเจ้าคะ ลาท่านเทพทั้งสองเจ้าค่ะ” ว่าแล้วก็ย่อกายลงทำความเคารพหนึ่งคร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status