แชร์

แกล้ง

ผู้เขียน: สโนว์ไวท์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 08:11:58

ฉันกำลังยืนอยู่หน้ารถอีแต๋น รถอีแต๋นเป็นรถดัดแปลงจากรถไถนาประกอบด้วยที่นั่งไม้เรียบ ๆ สองแถว ด้านหน้ามีหลังคาผ้าใบกันแดด ส่วนกระบะด้านหลังน่าจะใช้สำหรับบรรทุกพืชผล อุปกรณ์การเกษตร หรือสินค้าทั่วไป

เสียงเครื่องยนต์ดีเซลเก่าดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาเหยียบคันเร่งขึ้นมาเหมือนจะเร่งเร้าให้เธอนั้นรีบขึ้นมากราย ๆ

บรึ้นนนน บรื้นนนน!!!

“ระ รอด้วย โรสนั่งรถอีแต๋นบ้า ๆ นี่ไปกับพี่ไวน์ด้วยก็ได้!!”

พูดเพียงแค่นั้นโรสรินทร์ก็รีบปีนขึ้นไปนั่งบนเบาะไม้แถวหน้าข้างคนขับ บ่งบอกได้เลยว่าชีวิตสาวชาวกรุงของเธอต่อจากนี้คือการเริ่มต้นการผจญภัยบนรถอีแต๋น ยานพาหนะพื้นบ้านที่ใครหลาย ๆ คนคงมองว่าเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ แต่สำหรับเธอ….นี่มันรถหรือเกวียนลากกันแน่ ทั้งช้า ทั้งแข็ง ไม่นุ่มนวลกับผู้หญิงบอบบางแถมสวยเริศอย่างเธอเอาเสียเลย กว่าจะถึงทุ่งกุลาร้องไห้เธอจะไม่มดลูกพิการไปก่อนหรือไง

“รถอีแต๋นอะไรของพี่เนี่ย ทำไมมันช้าอย่างกับเต่าคลานแบบนี้คะ กว่าจะไปถึงโน่นไม่ชาติหน้าเลยหรือไง”

เสียงแหลมแสบแก้วหูดังก้องกังวานประสานกับเสียงเครื่องยนต์ขึ้นมา เมื่อเธอรู้สึกได้ว่านอกจากมันจะช้าแล้ว มันยังแข็งและนั่งไม่สบายเอาเสียเลย

“นี่กะเร็วสุด ๆ แล้ว ถ้ายังว่าช้าอีก กะสั้นกะจับดี ๆ เด้อ เดี๋ยวตกลงไปดั้งแหมบกว่าเก่า สิมาโทษอ้ายบ่ได้เด้!!”

(นี่ก็เร็วสุด ๆ แล้ว ถ้ายังว่าช้าอีก งั้นก็จับดี ๆ เดี๋ยวตกลงไปจมูกแบนกว่าเดิม จะมาโทษพี่ไม่ได้นะ)

บรื้นนนนนน

“อร๊ายยยยยยย !! ขับเบา ๆ ไม่ได้หรือไง อร๊ายยยย!!”

“ขับเบาเธอก็ว่าช้า ขับแรง ๆ เร็ว ๆ เธอก็บ่นอีก มาขับเองเลยไหมล่ะ จะได้ถูกใจ” วายุภัคพูดขึ้นมาเมื่ออีกคนเอาแต่บ่นและทำหน้าง้ำหน้างอ ก่อนริมฝีปากหนาจะยกยิ้มมุมปากเบา ๆ อย่างชอบใจ

“ขับเป็นที่ไหนล่ะ ถ้าขับเป็นก็คงขับไปแล้วไหม!!”

เธอบ่น ๆ ขึ้นมาอย่างหงุดหงิด วายุภัคได้แต่แอบลอบยิ้มเมื่อเห็นเธอทำหน้าคว่ำเป็นภควัมแบบนี้

ทันทีที่ล้อรถหมุนมาได้สักระยะบรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไป รถอีแต๋นเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ผ่านทุ่งนาที่เต็มไปด้วยสีเหลืองทองอร่าม ต้นข้าวที่ออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยวโบกสะบัดตามแรงลมไปมา เด็ก ๆ ในหมู่บ้านชนบทที่รถอีแต๋นวิ่งผ่านต่างวิ่งเล่นหยอกล้อหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีผู้คนนั่งเรียงรายจับกลุ่มคุยกันตามใต้ถุนบ้าน เธอได้แต่มองวิวทิวทัศน์รอบตัวอย่างเพลินตา

รถอีแต๋นยังคงเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ให้เวลาสาวชาวกรุงเช่นเธอได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนในต่างจังหวัด บ้างเด็ก ๆ ก็วิ่งเล่นบนทุ่งนา วัวควายต่างยืนเลาะเล็มหญ้า บางบ้านก็มีผู้หญิงทอผ้าอยู่บริเวณหน้าบ้าน ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ของชนบทที่หาไม่ได้ในเมือง

ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง !!

“โอ๊ยยยย พี่ไวน์ขับดี ๆ หน่อยสิคะ แค่นี้มดลูกโรสก็แทบจะพังก้นกบก็แทบจะหักแล้วนะคะ รถบ้าอะไรแข็งก็แข็ง มีโช๊คหรือเปล่าก็ไม่รู้ !!” โรสรินทร์บ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเส้นทางเริ่มที่จะขรุขระมีหลุมมีบ่อ

“ก็ขับดีสุด ๆ แล้วไง ต้องขับดีแบบไหนอีก”

ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!!

“ว๊ายยยย !!” เธอร้องเสียงหลงขึ้นมาอีกครั้งทำเอาวายุภัคเผลอลอบยิ้มออกมาอย่างชอบใจ รถอีแต๋นลุยผ่านหลุมโคลน ไม่ว่าจะเป็นหลุมเล็กหลุมน้อยที่กระจายไปเต็มท้องถนนลูกรัง ทำให้โคลนตมต่างกระเด็นกระดอนขึ้นมาโดนตัวของเธอเต็มเสื้อผ้าไปหมด ทั้งตัวของเธอตอนนี้ต่างเลอะเทอะไปด้วยโคลน

“จะดิ้นทำไม เดี๋ยวก็ตกรถหรอก” น้ำเสียงขุ่นเคืองเอ่ยขึ้น เมื่ออีกคนเอาแต่ดิ้นขยุกขยิกอยู่แบบนั้น

“พี่ไวน์ก็เห็นว่าไอ้โคลนบ้าเนี่ยมันกระเด็นขึ้นมาโดนตัวโรสจนเปื้อนไปหมดทั้งตัวแล้ว เมื่อไหร่จะถึงสักทีคะ”

“ก็แค่โคลนไหม ล้างน้ำก็ออกแล้ว”

“รู้ค่ะว่าล้างน้ำก็ออกแล้ว แต่พี่ไวน์ช่วยขับรถหลบหลุมโคลนบ้า ๆ นี่ไม่ได้รึไงคะ ขับรถพุ่งลงหลุมอยู่ได้!”

เธอรีบหันมาแหวใส่เขาทันทีเมื่ออีกคนยังทำท่าทางนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เธอเองกระดูกกระเดี้ยวแทบจะหักออกมาเป็นท่อน ๆ อยู่แล้ว อีกทั้งตามตัวต้องมาเลอะไปด้วยขี้โคลนที่กระเด็นขึ้นมาติดตามเสื้อผ้าของเธอ แต่เขาก็ยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรอีก

“ได้สิ ทำไมจะขับหลบไม่ได้ งั้นก็เกาะแน่น ๆ หน่อยนะน้องนะ ถนนขรุขระหน่อย !!”

บรื้นนนนนนน!!!

“อร๊ายยยยยยย กรี๊ดดดด ไอ้พี่ไวน์บ้า ไอ้ชิบหายวายวอด ไอ้บ้า ว๊ายยยย!!” ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุเมื่ออีกคนจงใจหักพวงมาลัยซ้ายทีขวาที

รถอีแต๋นวิ่งโฉบเฉี่ยวไปมาหลบหลุมโคลนบนถนน เดี๋ยวก็หลบซ้าย เดี๋ยวก็หลบขวา ทำเอาเธอแทบจะอ้วกแตกเลยทีเดียวเพราะรู้สึกเวียนหัว วายุภัคได้แต่ลอบยิ้มเป็นระยะที่ได้แกล้งอีกคน เพราะเด็กดื้ออย่างเธอต้องโดนสั่งสอนซะบ้างจะได้หลาบจำ และหัดรู้จักที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถาณการณ์บ้าง

รถอีแต๋นขับเคลื่อนไปตามถนนลูกรังที่คดเคี้ยวผ่านทุ่งนาที่กว้างใหญ่ไพศาล ตอนนี้เธอได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์ของรถอีแต๋นจนแทบจะหูอื้อ โรสรินทร์ทอดมองออกไปเห็นบ้านหลังหนึ่งอยู่ไกลลิบ ๆ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยท้องทุ่งนาสีเหลืองทองอร่ามกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา เธอไม่รู้ว่าทุ่งกุลาร้องไห้มันจะมีพื้นที่กี่ร้อยกี่พันไร่ เธอรู้เพียงแค่ว่ามันกว้างขวางมาก มากกว่าที่เธอนึกเอาไว้เสียอีก

บ้านเรือนไทยไม้สักทองหลังใหญ่ตั้งตระหง่านสง่างามท่ามกลางท้องทุ่งนาสีทองล้อมรอบ หลังคาบ้านมุงด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้มอิฐ ผนังบ้านเป็นไม้สักทองขัดเงาจนวาววับ บานประตูหน้าต่างแกะสลักลวดลายอย่างประณีต ใต้ถุนบ้านสูงโปร่งมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนภายในรอบตัวบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ร่มรื่นเขียวขจี ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น โดยเฉพาะกลิ่นของดอกมะลิที่หอมโชยมาเป็นระยะ โรสรินทร์มองไปโดยรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มแววตาของเธอฉายแววความสุขออกมาอย่างเห็นได้ชัด วายุภัคมองเธอพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก อย่างน้อยแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอแบบนี้ ก็แสดงว่าเธอไม่ได้รังเกียจความเป็นบ้านนอกคอกนาอย่างที่เขานึกเอาไว้ตั้งแต่แรก

“ลงมาได้แล้ว” น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น เมื่อยังคงเห็นเธอนั่งทอดมองออกไปรอบ ๆ บริเวณตัวบ้าน ทั้งที่รถก็จอดสนิทเป็นเวลากว่าสองนาทีแล้ว

“ตะ แต่…โรสลงไม่ได้ โรสเจ็บตามตัวไปหมดเลยค่ะพี่ไวน์ ขาก็แทบจะไม่มีแรงเลยค่ะ” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ปนออดอ้อน ประกอบกับทำหน้าให้ดูเศร้าสุดชีวิต

“มา งั้นพี่ช่วยพยุงลงจากรถ”

“ไม่ค่ะ ต่อให้พยุงโรสก็ไม่มีแรงเดินอยู่ดี พี่ไวน์ช่วยอุ้มโรสลงหน่อยสิคะ” เธอพูดขึ้นอย่างเว้าวอน

“เป็นคนปกติดี ๆ ไม่ชอบ ชอบเป็นง่อยหรือไง หื้ม”

“พี่ไวน์ !!” โรสรินทร์เอ่ยชื่อเขาขึ้นเสียงดัง ก่อนจะทำหน้าเง้าหน้างอใส่เหมือนเด็กโดนขัดใจ

“โอเค ๆ อุ้มลงก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมาทำหน้างอหน้าบูดเหมือนตูดเป็ดขนาดนั้นเลย”

“พี่นี่ก็ชอบบ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยนะคะ”

พรึ่บบบ!!

“อร๊ายยย!! คนบ้า จะอุ้มก็บอกกันก่อนสิคะ” แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างโอบคล้องลำคอหนาไว้อย่างอัตโนมัติ เมื่อจู่ ๆ เขาก็อุ้มเธอลงจากรถอีแต๋นในท่าเจ้าสาว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของบุรุษเพศจากตัวเขาที่โชยมาปะทะจมูกมันช่างทำให้เธอเคลิบเคลิ้มจนแทบอยากจะเสียตัวซะตอนนี้

‘อุ๊ย! บ้า คิดอะไรแบบนั้นได้ยังไง แกเป็นกุลสตรีนะยัยโรส แกต้องเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้สิถึงจะถูก’

โรสรินทร์ก้มหน้าซบกับแผ่นอกกว้างของเขาพลางคิดอะไรต่าง ๆ นานาไปไกลแสนไกลถึงดาวอังคาร

“ปล่อยพี่ได้แล้ว” วายุภัคพูดขึ้นเมื่อแขนทั้งสองข้างของเธอยังคงโอบบริเวณรอบคอของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนสองมือเรียวจะละออกจากการโอบกอดลำคอหนา และแปรเปลี่ยนไปจับใบหน้าของเขาแทน แล้วโน้มใบหน้าขึ้นไปหอมแก้มสากนั้นสองฟอดอย่างถือวิสาสะ โดยที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง

ม๊วบ ม๊วบ !!

“ทะ ทำอะไรของเธอน่ะ! นี่เธอเป็นผู้หญิงนะเผื่อมีใครมาเห็นจะทำยังไง” เขาอดที่จะต่อว่าเธอไม่ได้ เพราะเธอเองไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองแบบนี้

“เห็นก็เห็นไปสิคะ โรสไม่ถือ! ก็เราเป็นคู่หมั้นกัน ต่อให้นอนห้องเดียวกันก็ไม่เห็นแปลก คิกคิก!” เธอพูดขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉยจนอีกคนแทบหมดคำจะพูด

วายุภัควางร่างเธอลงข้าง ๆ ตุ่ม ก่อนจะตักน้ำสะอาดในตุ่มราดรดบนตัวเธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ว๊ายยย ทำอะไรของพี่เนี่ย!!”

“ล้างโคลนออกให้ไง ไม่เห็นหรือไงว่ามันเลอะเทอะจนทำให้สมองเธอเลอะเลือนไปด้วย” พูดเพียงแค่นั้นเขาก็เทราดน้ำลงมาขันแล้วขันเล่า ราวกับจงใจจะแกล้งเธอ

“อร๊ายยย นี่มันแกล้งกันชัด ๆ ไอ้พี่ไวน์บ้า จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม…” โรสริสทร์แย่งขันน้ำจากเขามาได้ก่อนจะเป็นฝ่ายสาดน้ำใส่เขาบ้าง เล่นเอาทั้งสองต่างเปียกปอนไปทั้งตัว

‘เล่นกับใครไม่เล่น แต่ดันมาเล่นกับคนอย่างโรสรินทร์ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ’

“นี่แน่ะ! คิดว่าโรสจะยอมให้พี่แกล้งโรสฝ่ายเดียวเหรอ รู้จักโรสรินทร์น้อยไปซะแล้ว…!!”

“พอแล้ว ๆ พี่เปียกหมดแล้วนะครับ”

“ไม่พอ จนกว่าน้ำจะหมดตุ่ม นี่แน่ะ!!” เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาสาดน้ำใส่เขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมลดละ

“เฮ้ยย!! เดี๋ยวก็ป่วยหรอก พอได้แล้ว!!” เสียงเข้มดุดันพูดขึ้น แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะกลัว

“ไม่หยุด แบร่ ๆ”

เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาสาดน้ำใส่คนตัวโต แถมยังแลบลิ้นปริ้นตาใส่อีก ตกลงว่านี่เธออายุ 22 หรือ 3 ขวบกันแน่ วายุภัคได้แต่นึกขำในใจ

“ไม่หยุดใช่ไหม…ได้!!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status