“อะไรนะ! เรย์มีนหายไป”
ร่างสูงของเรย์เดนลุกพรวดขึ้นเมื่อได้ยินคำรายงานจากลูกน้อง ดวงตาคมดุกร้าว กำมือแน่น
“สั่งแล้วใช่ไหมว่าดูแลให้ดี”
“ขอโทษครับ ตอนนั้นคุณเรย์มีนบอกว่าปวดท้อง แม่บ้านเลยเอายาเข้าไปให้ ไม่คิดว่าเธอจะทำร้ายแม่บ้านจนสลบแล้วหนีออกไป”
“คนของเราอยู่กันรอบบ้าน แต่ไม่เห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หลบออกไป ถ้าเกิดวันหนึ่งถูกแก๊งอื่นบุกเข้ามา ไม่ตายห่ากันหมดหรือไง!”
บอดีการ์ดได้แต่พากันก้มหน้า ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง มือขาวโบกมือให้ลูกน้องหางแถวออกไปตามหาคุณหนูของตระกูล เพิ่งหายไปสองชั่วโมงคิดว่าคงยังไปไม่ถึงเมืองดาเรนเทียร์
“ไม่ต้อง! เดี๋ยวกูไปเอง” รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากดวงตา
“จะดีเหรอครับ ถ้าเราบุกไปถึงที่นั้นจะผิดข้อตกลงเอาได้นะ”
“กลัวเหรอ?” หันขวับมองขวาง “กูแค่ไปตามน้องสาวกลับบ้าน ไม่ได้ไปหาเรื่องใคร”
“ครับ ผมจะไปเตรียมรถให้” ค่อมศีรษะรับคำสั่ง ก้าวเท้าออกจากห้องด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
เรย์เดนหันกลับไปคว้าเอาปืนคู่กายมาเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง การหายตัวไปของน้องสาวเดาได้ไม่ยากว่าเธอจะไปหาใคร เรย์มีนจะรักใครชอบใครเขาไม่เคยว่าแต่ต้องไม่ใช่ศัตรูคู่แค้นอย่างไอ้ฌอน
เวลาการเดินทางจากเมืองโดมินิคมายังเมืองดาเรนเทียร์ ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง แม้ว่าลูกน้องจะเสนอให้นั่งเฮลิคอปเตอร์ไป เชาเลือกปฏิเสธเพราะอยากใช้เวลาตรงนั้นสำรวจบ้านเมืองในเขตปกครองของศัตรู
การบุกมาของเรย์เดนพร้อมกับลูกน้องหลายคนทำเอาคนในเมืองเริ่มแตกตื่นเพราะคิดว่าจะเกิดการต่อสู้ของแก๊งมาเฟีย เดฟ ครูซเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่ได้มีความรู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใดราวกับว่ากำลังรอการมาของเขาอยู่
“สวัสดีครับคุณเรย์เดน” เดฟทำเพียงค่อมศีรษะให้เล็กน้อยตามมารยาท พลางเหลือบสายตาไปยังลูกน้องเกือบสิบคนด้านหลัง
การบุกมาครั้งนี้คงไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่อง เพราะไม่อย่างนั้นคงผิดข้อตกลงระหว่างสามแก๊ง ที่เคยตกลงกันเอาไว้ว่าจะไม่มีการหยามเกียรติด้วยการหาบลูกน้องไปเยือนอีกถิ่นเกินสิบคน และหากการไปเยือนถิ่นของอีกแก๊ง ห้ามเกิดเรื่องอันตรายจนนำไปสู่การต่อสู้
เพราะอย่างนี้ลูกน้องที่ตามมารวมถึงตัวเรย์เดนจึงมีแค่สิบคนพอดี
“ฌอน ไคโรอยู่ที่ไหน” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“คุณฌอนกำลังรออยู่ด้านบนครับ เชิญทางนี้”
เดฟผายมือเชิญแล้วก็เป็นฝ่ายเดินนำหน้า พลางหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องหลายสิบคนปลดอาวุธของอีกฝ่ายออก ตอนแรกไม่ยอมแต่เพราะ
อีกฝ่ายมีมากกว่า เรย์เดนจึงพยักหน้าให้เบา ๆ เพื่อให้ลูกน้องตนเองจำยอม
เรย์เดนใช้สายตากวาดมองรอบบริเวณอย่างระแวดระวัง แค่เขากล้าพาตัวเองมาเยือนถึงที่นี่มันก็อันตรายมากพออยู่แล้ว แต่เพราะความเป็นห่วงว่าน้องสาวจะเอาความลับของแก๊งมาบอกต่อ จึงทำให้ต้องดั้นด้นมาถึงที่นี่
การรักษาความปลอดภัยของที่นี่ถือว่าแน่นหนาพอ ๆ กับบริษัทของตัวเอง ไม่สิ อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แม้กระทั่งหน้าห้องของฌอนยังมีลูกน้องหลายคนยืนอยู่ประจำจุด ตามเพดานมีกล้องวงจรปิดทุกจุด ไม่มีตรงไหนเป็นจุดบอดเลย
“ยินดีต้อนรับการมาเยือนแก๊งเดียร์มาสนะ เรย์เดน”
ฌอนยืนขึ้นเต็มสูง กระชับเสื้อสูทเข้าหากันแล้วติดกระดุมให้เรียบร้อยด้วยความเคยชิน เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปทรุดตัวนั่งลงโซฟาด้านหน้า สองขายกขึ้นไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักด้วยท่าทีสบาย ๆ ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
...นั่นก็หมายความว่ามันรู้อยู่แล้วว่าเขาถ่อมาถึงที่นี่เรื่องอะไร
ฌอนมองตลบไปยังเรย์เดนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ต่างฝ่ายต่างมีลูกน้องคนสนิทยืนอยู่ด้านหลัง
“มาถึงที่นี่ ... มีอะไรหรือเปล่า”
“รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมาทำเป็นไขสือ”
“ถ้ารู้จะถามเหรอ”
เรย์เดนขบกรามแน่น ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเพื่อระงับความโกรธไว้ในใจ “เรย์มีนหายตัวไป...”
“หายไป? แล้วมาตามหาอะไรที่นี่”
รูปถ่ายหลายใบถูกโยนลงบนโต๊ะเบื้องหน้า เขาเพียงชำเลืองมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่า เป็นรูปถ่ายของตัวเองกับน้องสาวมัน
“เลิกยุ่งกับเรย์มีน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้จริงใจกับเธอ”
“ถ้าคุณมีรูปถ่ายมากมายขนาดนี้ ก็น่าจะรู้ว่าผม ... ไม่เคยเป็นฝ่ายตามน้องสาวคุณเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วก็น่าเสียดายนะที่คนของคุณทำงานช้า เพราะกว่าจะคาบข่าวไปบอกมันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว”
มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย เรย์เดนรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งเห็นนัยน์ตาของฌอนฉายแววความเจ้าเล่ห์ออกมายิ่งไม่พอใจ เพราะสายตานั่นเหมือนจะบอกว่าน้องสาวเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมบางอย่าง แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่
มาเฟียหนุ่มตีหน้าเย็นชานิ่ง ต่อให้อีกฝ่ายจะลอบมองยังไงก็มองไม่ออกอยู่ดีว่า ผู้นำของเดียร์มาสกรุ๊ปกำลังมีแผนการอะไรอยู่
“ถ้าคุณคิดจะทำอะไรน้องสาวผม รับรองผมไม่ปล่อยคุณเอาไว้”
เรย์เดนลุกพรวดยกมือขึ้นชี้หน้า เดฟ ครูซ ขยับเท้า ล้วงมือเข้าไปในเสื้อสูท ไม่ต่างกันกับลูกน้องคนสนิทของเรย์เดน ฌอนยกมือขึ้นห้าม เพราะหากมีปัญหากันที่นี่ อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างแก๊งขึ้น
บอดีการ์ดทั้งสองจึงสงบลงถอยไปยืนมองสถานการณ์อยู่ห่างๆ เพื่อระวังภัยให้กับเจ้านายตัวเอง
“คุณคงเป็นห่วงน้องสาวมาก เอาเป็นว่าถ้าผมเจอเธอแล้ว จะพาไปส่งโดยไม่ให้ ... บุบสลาย ... แม้แต่ปลายเล็บ”
เรย์เดนไม่ชอบประโยคนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจหนัก ตอบด้วยการพยักหน้านิด แล้วชวนลูกน้องกลับแม้จะเป็นห่วงน้องสาว
“แกเป็นยังไงบ้างเจ็บมากหรือเปล่า” วิลันดาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเพื่อนทำท่าเหมือนจะร้องไห้“เจ็บมากเลยแก เจ็บทั้งใจเจ็บทั้งตัวเสียทั้งลูก” ปากเรียวฉีกยิ้มให้กับเพื่อนแต่ดวงตากลับคลอไปด้วยหยดน้ำใส“โธ่ ยัยกรีน ทำไมแกต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคุณชรัณต์เขาจะทำร้ายแกได้ลง” ร่างเล็กของวิลันดาก้มลงกอดเพื่อนแม้จะมีเหล็กกั้นเตียงเป็นอุปสรรคอยู่บ้างแต่มันก็ไม่สามารถกั้นความเป็นห่วงของเพื่อนที่คอยดูแลกันมาตั้งแต่เด็กได้“ฉันขอบใจแกมากนะที่คอยไปดูร้านให้”“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้สบายมาก ว่าแต่แกเถอะจะเอายังไงต่อไปเรื่องคุณชรัณต์” ที่ถามแบบนี้เพราะหล่อนรู้ดีว่าเพื่อนเธอรักเขามากแค่ไหนแต่ว่าทำร้ายกันขนาดนี้ถ้าเพื่อนเธอยังให้อภัยได้ก็แกร่งเกินคนแล้ว ส่วนเธอก็เตรียมกินอาหารเม็ดแทนข้าวได้เลย“แกช่วยหาทนายเก่ง ๆ สักคนให้หน่อยได้ไหม”หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแต่พอวิลันดาได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับและพอเข้าใจความหมายจึงไม่ได้ถามอะไรต่อจนกระทั่งพ่อกับย่าศรีไพรเข้ามาเยี่ยมเธอจึงขอตัวลากลับทางด้านอรจิราซึ่งก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองร่วมก่อจึงเดินทางมาเยี่ยมกวินตาเหมือนกันแต่เธอไม่ยอ
บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินชรัณต์ยังคงมองผ่านช่องกระจกใสเข้าไปด้านใน ทีมแพทย์และพยาบาลต่างวุ่นวายกับการรักษาเสียงร้องจากความเจ็บปวดของคนเป็นเมียดังเล็ดรอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ เสียงที่ได้ยินมันช่างบาดลึกลงไปก้นบึ้งของหัวใจ“ยัยกรีนอยู่ไหน หลานย่าอยู่ที่ไหน”หญิงชราเดินโอนเอนด้วยความเร็วเข้ามาโดยที่มีพ่อของกวินตาประคองเข้ามา ชรัณต์รีบเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะเอ่ยขอโทษที่ดูแลกวินตาไม่ดีโดยที่คิดว่าพวกท่านไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือแรง ฝ่ามือจากคนเป็นพ่อตา“คุณพ่อ”“ไม่ต้องมาเรียกผมว่าพ่อ คุณทำกับลูกสาวผมแบบนี้ได้ยังไง” สองมือขยุ้มคอเสื้อสรรพนามที่เรียกลูกเขยเปลี่ยนไปเป็นห่างเหินจากที่เมื่อก่อนท่านเคยรักและเอ็นดูยามนี้แทบไม่อยากจะเผาผีผู้ชายตรงหน้าด้วยซ้ำ ใบหน้าคมคายสลดลงดวงตาแดงก่ำร่างสูงสั่นคลอนไปมาตามแรงเขย่า“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่ได้ตั้งใจเหรอคุณกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ยังไง ฮะ!” ยิ่งชรัณต์พูดก็เหมือนกับแก้ตัวมันกลับยิ่งเพิ่มแรงเขย่ามากขึ้นไปอีกจนก้านแก้วต้องรีบเข้ามาห้ามปราม“พอเถอะค่ะคุณ ต้นเหตุเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันเอง”“ก้านแก้ว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ย
เสถียรรู้ดีว่าในสายตาของลูกชายเมียเก่าของเขานั้นเป็นเหมือนนางฟ้าใจที่มีจิตใจดี แต่ใครจะรู้ว่านั่นมันคือเปลือกนอก“ไม่จริง พ่อโกหกผมเพื่อปกป้องมัน” ดวงตาคมแดงก่ำลำคอแข็งเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่“ถ้าไม่เชื่อแกก็เอานี่ไปอ่าน จดหมายส่งมาจากเรือนจำถ้าอ่านแล้วแกไม่เชื่อก็ไปหาไอ้ภากรได้เลย ที่พ่อปิดเรื่องนี้เอาไว้ก็เพราะไม่อยากเห็นแกต้องเสียใจ คุณก้านแก้วเขายอมรับบทเป็นคนร้ายให้แกทำร้ายมานานเกินไปแล้วตารัณต์”คนเป็นพ่อยื่นจดหมายให้ลูกพร้อมกับเอื้อมมือไปตบไหล่ ชายหนุ่มมองหน้าพ่อตัวเองแล้วไม่อยากจะเชื่อกับความจริงที่ได้รับรู้ก้านแก้วเดินเข้าไปประคองเสถียรด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้สุขภาพของคนเป็นสามีไม่ค่อยดี เธอได้แต่ยกมือไหว้และยิ้มขอบคุณที่อย่างน้อยสามีเธอก็เป็นคนมีเหตุผล ความผูกพันที่เธอได้อยู่กันมามันหล่อหลอมเป็นความเข้าใจมือสั่นเทาเปิดอ่านจดหมายทีละคำด้วยทุกบรรทัดมันได้เล่ารายละเอียดเรื่องราวที่ทำให้เขาฝั่งใจจนเก็บเป็นความแค้นเอาลงกับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาช้า ๆ เขาร้องไห้มันออกมาโดยที่ไม่อายใครแต่แล้วความแค้นที่เขาได้ก่อไว้มันกำลังจะหวนกลับมาคืนสนองเ
รุ่งเช้าของวันใหม่กวินตาตื่นขึ้นมาภายในห้องนอนของตัวเอง เธอมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความเจ็บปวดยิ่งมือบางสัมผัสเตียงนอนที่พวกเขามาเสวยสุขกันบนนี้เธอยิ่งรู้สึกรังเกียจร่างเล็กดีดตัวลุกจากเตียงแล้วกระชากผ้าปูที่นอนออกไปกองไว้กับพื้น แค่คิดถึงเรื่องอย่างว่าที่พวกเขาทั้งสองมาเหยียบย้ำหัวใจเธอมันก็เกิดอาการอยากอาเจียนขึ้นมาจึงรีบวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำบนโต๊ะอาหารเช้าทุกคนต่างลงมานั่งรอทานอาหารด้วยกันเว้นเพียงกวินตาที่ยังไม่ได้ลงมาจากด้านบนเพียงแค่คนเดียว“แล้วนี่กวินตาไปไหน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ฉันยังไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นลงมากินอาหารเช้าร่วมกับคนอื่นเลยนะ”อยู่ ๆ เสถียรก็ถามหากวินตาขึ้นมาทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่สนใจเสียด้วยซ้ำและไม่เคยยอมรับว่ากวินตาเป็นลูกสะใภ้“ฉันก็ไม่ทราบเลยค่ะ ยังไม่เห็นเธอลงมาจากบนห้องเลยตั้งแต่เช้า”ก้านแก้วเองก็รู้สึกเป็นห่วงลูกอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้ยินเรื่องเมื่อวานเย็นที่ป้านวลเห็นเรื่องบัดสีของชรัณต์กับอรจิราแล้วนำมาเล่าให้ฟังเธอยิ่งรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวจับใจบทสนทนาของคนเป็นพ่อกับแม่เลี้ยงอรจิราได้ยินทุกคำแล้วหันไปมองหน้าชรัณต์ที่นั่งกินข้าวเหมือนทองไม่รู้ร้
หายไปไหนมา รู้ไหมนี่มันกี่โมงแล้ว” น้ำเสียงที่ตะโกนถามตั้งแต่กวินตายังเดินไม่พ้นขอบประตูบ้านเสียด้วยซ้ำ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าวันนี้ไปกินรังแตนจากที่ไหนมาถึงได้มาฉุนเฉียวใส่หน้าเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกของวัน“สองทุ่มค่ะ ยังไม่ได้ดึกด้วย” น้ำเสียงราบเรียบที่ตอบหญิงสาวไม่รู้เลยว่าได้สร้างความเดือดดาลให้กับชรัณต์มากขึ้นไปอีก“แล้ววันนี้ไปไหนมา ผมโทรไปที่ร้านคุณก็ไม่ได้เข้าไปที่นั่น” มือหน้าคว้าเข้าไปที่ต้นแขนพร้อมกับออกแรงบีบจนขึ้นรอยแดงแม้มันจะเจ็บแต่กวินตาก็ไม่เอ่ยร้องออกมาเหมือนทุกครั้งในเมื่อเขาอยากจะทรมานเธอเพื่อระบายความแค้นเธอก็จะยอมทนแต่เมื่อใดที่เธอหลุดพ้นไปแล้วเธอสัญญาว่าจะไม่หวนกลับมาอย่างแน่นอน“ไปกับวิมาค่ะ เรานัดทานข้าวด้วยกัน”“แล้วทำไมถึงไม่บอกคนที่บ้านไว้ ไปไหนมาไหนทำไมถึงไม่บอก”ชรัณต์ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองกลายเป็นคนจู้จี้ไปตั้งแต่เมื่อไร เมื่อก่อนหญิงสาวจะไปไหนมาไหนเขาแทบจะไม่เคยเอ่ยปากถามเลยเสียด้วยซ้ำ“จำเป็นด้วยเหรอคะ เพราะยังไงการที่กรีนอยู่บ้านหลังนี้ก็เหมือนวิญญาณที่ไร้ตัวตนอยู่แล้ว จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ต่างกัน”คางเล็กเชิดขึ้นมองตาคนที่สูงกว่าเห
“ป้านวล หนูกรีนยังไม่ลงมาทานข้าวอีกเหรอ” ก้านแก้วหันไปถามแม่บ้านที่กำลังยกทัพพีตักข้าวให้กับเสถียร“คุณกรีนออกไปข้างนอกตั้งแต่รุ่งสางแล้วค่ะ ไม่ได้บอกไว้ว่าไปไหนแต่เห็นบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับมานอนที่นี่นะคะ”ชรัณต์ที่นั่งร่วมโต๊ะทานอาหารเช้าอยู่เมื่อได้ยินอย่างนั้นถึงกับ ขบกรามแน่น เขาไม่พอใจที่เธอไปไหนมาไหนไม่บอกจึงวางช้อนลงพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะอาหาร“คุณอิ่มแล้วเหรอคะรันต์ อรเห็นทานแค่ไม่กี่ช้อนเองนะ” อรจิราเอ่ยทักท้วงเมื่อเห็นเขาลุกขึ้นยืน“กินไม่ลง เห็นหน้าฆาตกรแล้วชวนอ้วก” ไม่ได้แค่เอ่ยประโยคทิ่มแทงออกมาแต่ดวงตาคมยังตวัดมองก้านแก้วซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกด้วยชรัณต์เดินออกมาบริเวณหน้าบ้านโดยที่มีอรจิราเดินตามหลังออกมาพร้อมกับถือกระเป๋าสะพาย“แล้วนี่คุณจะไปไหน” เมื่อเห็นหญิงสาวจะเดินไปยังโรงเก็บรถชรัณต์จึงเอ่ยปากถาม“คุณรันต์อย่าลืมสิคะว่าอรก็มีงานที่จะต้องทำไม่ได้มีหน้าที่เล่นละครรับบทบาทเป็นเมียหลวงอย่างเดียวนะ” รอยยิ้มอ่อนผุดขึ้นบนใบหน้าชรัณต์มองตามหลังรถของอรจิราที่เคลื่อนออกไปแล้วจึงยกโทรศัพท์โทรหากวินตาแต่ทว่าโทรไปเท่าไรเจ้าตัวก็เอาแต่ตัดสายทิ้งแถมสายล่าสุดยังปิดเครื