ตอนที่ 4 หย่าให้ฉันสิ
ทั้งสามพากันเดินเข้ามาในบ้านพูดคุยหัวเราะราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกับ ชิงเหมยยืดกอดอกเบะปากไม่พอใจสิ่งที่แม่กับพี่ชายทำกับดีกับคนที่ไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวด้วยซ้ำ คนที่คุณแม่กับพี่ชายควรจะทำดีด้วยคือพี่สะใภ้ต่างหาก
“คิดว่าแขกที่ไหนมา รีบตื่นแต่เช้ามาต้อนรับเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่แท้ก็แค่พี่ซินอี๋ จะมาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ พี่ชายของฉันต้องแต่งงานแล้ว เข้าบ้านชายมีภรรยาอย่างนี้สมควรหรือ” ชิงเหมยพูดออกมาอย่างไม่สนใจว่าคนที่ฟังจะรู้สึกอย่างไร จนแม่ถังรีบเดินเข้ามาหยิกแขนของชิงเหมย
“ชิงเหมยทำไมลูกถึงพูดกับพี่ซินอี๋แบบนั้น รีบขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ เสียมารยาทจริง ๆ ”
“โอ๊ย คุณแม่ฉันเจ็บนะ ฉันนะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทกับฉันเท่านั้นแหละ ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น” ชิงเหมยพูดพร้อมจ้องหน้าของซินอี๋ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องกินข้าว ใบหน้าของซินอี๋ซีดเซียวแม่ถังรีบเดินเข้าไปจับมือของซินอี้เพื่อปลอบใจ
“หนูซินอี๋อย่าใส่ใจชิงเหมยเลยนะ เธอยังเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจและอ่อนต่อโลก ไปที่ห้องกินข้าวกันเถอะ หลังกินข้าวเสร็จเราไปที่ห้องนั่งเล่นดื่มน้ำชาพูดคุยกันสักหน่อยวันนี้ป้ามีเครื่องเพชรมาใหม่อยากให้หนูซินอี๋ช่วยดูหน่อยว่าควรจะเก็บเอาไว้หรือขายกินกำไรดี”
“ได้ค่ะคุณป้า ฉันไม่ถือสาชิงเหมยหรอกค่ะ เพราะทุกคำที่เธอพูดมาล้วนเป็นความจริง”
“ซินอี๋เธอไม่ต้องไปฟัง เดี๋ยวฉันจะจัดการชิงเหมยให้เองเธอคงถูกเสี่ยวถงเป่าหูมาสินะ ถึงได้มีท่าทีรังเกียจและยังนิสัยเสียไร้มารยาทแบบนี้” เจี๋ยหยางใบหน้าคิ้วขมวดเข้ากันอย่างตึงเครียด ปลอบหญิงที่รักก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวเพื่อจัดการกับเสี่ยวถง เขาไม่เชื่อหรอกว่าน้องสาวของเขาจะพูดแบบนี้เอาเองนอกจากเสียว่าจะถูกเสี่ยวถงเป่าหูและสอนให้เธอเกลียดซินอี๋
เสี่ยวถงจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้วเธอเดินเข้าครัวเพื่อนำถ้วยชามออกไป สองหูของเธอได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว มือหนาจับแขนของเธออย่างแรง
“เธอสอนอะไรชิงเหมย เธอแค่น่ารังเกียจคนเดียวก็พอแล้วยังมีหน้าสั่งสอนให้น้องสาวของฉันรังเกียจซินอี๋อีกหรือ ? ฉันขอเตือนเธอเอาไว้ตรงนี้เลยนะ อย่าได้แตะต้องซินอี๋เด็ดขาด” เสี่ยวถงแสยะยิ้ม เขาไม่เคยถามอะไรก่อนเลยจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยได้ทำอะไรทำไมต้องมาต่อว่าถึงในครัว เสี่ยวถงเงยหน้ามองชายตรงหน้าด้วยสายตาจ้องเขม็ง
“ฉันไม่เคยสอนหรือสั่งให้ชิงเหมยไปทำอะไรทั้งนั้น หยุดหาเรื่องกันสักที ถ้าหวงนักห่วงหนาก็ไปอยู่กับซินอี๋เสียเลยสิ ..” เจี่ยหยางตระตุกยิ้มมุมปาก เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของเสี่ยวถงสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดแบบนี้ออกมา
“เธอต้องการประชดฉันใช่มั้ย ห่ะ!! คิดว่าฉันไม่กล้าทิ้งเธอไม่กล้าหย่ากับเธอเพราะเป็นคำขอสุดท้ายของคุณพ่อหรือไง ถึงกล้าพูดออกมาแบบนี้”
“ฉันไม่เคยกลัว เอาสิหย่าให้ฉันสิฉันจะได้ออกจากบ้านหลังนี้แล้วออกไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่ต้องทนทุกข์ใจอยู่กับผู้ชายที่ไม่เคยสนใจใยดีฉันเลยสักนิด” เจี่ยหยางกัดฟันกรามแน่นบีบแขนของเธอแรงมากกว่าเดิม ตั้งแต่อยู่กันมา 3 ปี ไม่ว่าเขาจะต่อว่าเธอขนาดไหน เธอไม่เคยพูดคำว่าหย่าเลยสักครั้ง ทำให้เขาหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก
“อย่ามาปากดีพูดเรื่องนี้อีก รีบยกจานไปที่ห้องกินข้าวก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” เสี่ยวถงกัดริมฝีปากข่มความเจ็บเอาไว้ และไม่เข้าใจชายที่อยู่ตรงหน้าสักนิด ในเมื่อไม่รักทำไมเขาถึงไม่หย่าให้เธอแต่ยังไงเธอก็ไม่ยอมแพ้เพียงแค่นี้หรอก หลังจากที่เจี่ยหยางเดินจากไป เสี่ยวถงถกแขนเสื้อขึ้นมองดูรอยแดงที่แขนเป็นริ้ว ๆ เขาโมโหเธอถึงขนาดนี้เพียงเพราะเธอพูดถึงเรื่องหย่าอย่างนั้นหรือ เป็นผู้ชายที่เดาทางยากจริง ๆ ร่างเล็กรีบยกชามไปที่ห้องกินข้าว ได้ยินเสียงพูดคุยสนุกสนานของแม่ถังที่กำลังพูดคุยกับซินอี๋อย่างถูกคอ ต่างจากที่เธอคุยกับเสี่ยวถง แม้แต่รอยยิ้มยังไม่เคยมีให้เธอด้วยซ้ำ เวลาทำอะไรให้เหมือนทำไม่เคยถูกใจสักอย่าง ได้กลับมาเพียงแค่สายตามองดูถูกเหยียดหยามและคำด่าทอ
‘ชอบมากสินะซินอี๋คนนี้ อีกไม่นานแล้วล่ะฉันจะทำให้เธอเข้ามาเป็นสะใภ้อย่างที่ทุกคนต้องการเอง’ เสี่ยวถงคิดในใจก้มหน้าเดินเข้าไปพร้อมวางจานลงต่อหน้าทุกคน
“พี่สะใภ้ให้ฉันช่วยนะคะ ลำบากพี่แล้วต้องหาเตรียมอาหารต้อนรับฉันแบบนี้” ซินอี๋รีบลุกขึ้นจะไปช่วยเสี่ยวถงตักข้าว เจี่ยหยางรีบสั่งให้เธอนั่งลงทันที
“ซินอี๋เธอเป็นแขกของบ้านเรา ไม่ต้องทำอะไรนั่งรอและกินให้อร่อยเถอะ เรื่องนี้เป็นงานของเสี่ยวถงอยู่แล้ว”
“ฮึ พี่เสี่ยวถงก็ไม่ใช่สาวใช้เสียหน่อย อีกอย่างพี่เสี่ยวถงเป็นถึงสะใภ้ใหญ่แทนที่จะได้นั่งรอกินข้าวสบาย ๆ เหมือนทุกคนทำไมต้องเป็นเธอที่ทำงานแบบนี้ไม่ยุติธรรมสักนิด คุณแม่ฉันไม่หิวขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ พี่เสี่ยวหลงฉันไปก่อนนะ” ชิงเหมยไม่อาจจะทนนั่งฟังและเห็นเรื่องไม่ยุติธรรมนี้ จึงเลือกที่จะออกไปจากบ้านก่อน
“ชิงเหมยเธอจะเกินไปแล้วนะ ติดกับเสี่ยวถงจนเกินไปเอานิสัยของเธอมาใช้หรือไงกัน ถ้าทำตัวไม่ดีฉันจะหักเงินค่าขนม” เจี่ยหยางตวาดขึ้นเสียงใส่น้องสาวแต่มีหรือที่ชิงเหมยจะสนใจเธอเดินหนีออกไปทันที จนแม่ถังส่ายหน้าไปมา
“ปล่อยน้องไปเถอะ หนูซินอี๋เองก็อย่าใส่ใจ นั่งลงเถอะส่วนเธอรีบตักข้าวเสียสิ ยืนนิ่งทำอะไรอยู่ ”
“ค่ะคุณแม่” เสี่ยวถงรีบตักข้าวใส่จานให้ทุกคน ก่อนที่เธอจะนั่งลงที่เก้าอี้ของเธอ สายตาของเธอคอยเหลือบมองอย่างจดจ้องว่าเมื่อไหร่ที่ซินอี๋จะตักน้ำแกงกิน ทันใดนั่นเองนั่นเองซินอี๋ซดน้ำแกงคำใหญ่ ทว่ากลับกระฉูดออกมาเต็มโต๊ะไปหมด
“ฟู้ดดด!!”
“อุ้ย!! คุณป้า พี่เจี่ยหยางฉันขอโทษนะคะที่เสียมารยาทแบบนี้ น้ำแกงของฉันมันเค็มจนฉันไม่อาจจะกลั้นมันเอาไว้” ใบหน้าของซินอี๋ตื่นตระหนกตกใจเมื่อทำเรื่องน่าอายบนโต๊ะอาหาร เสี่ยวถงแอบหัวเราะในใจเพราะเธอเลือกใส่เกลือในน้ำแกงถ้วยของซินอี๋
“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง นังเสี่ยวถงแกแกล้งหนูซินอี๋ใช่มั้ย ”
“แม่ถังฉันจะแกล้งน้องซินอี๋ได้ยังไงกันคะ ในเมื่อทุกคนกินน้ำแกงแต่ไม่มีใครรู้สึกอะไรสักนิด เมื่อครู่ฉันเห็นแม่ถังซดคำใหญ่ไม่เห็นว่าจะแสดงสีท่าอาการเค็มเลยสักนิด ซินอี๋ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบฉันที่ ฉันแย่งเจี่ยหยางมาจากเธอ เลยคิดจะกลั่นแกล้งหาเรื่องให้ทุกคนในบ้านต่อว่าและรังเกียจฉัน แม้ว่าเธอไม่ทำแบบนี้ทุกคนล้วนเข้าข้างเธออยู่แล้ว ฉันทำอะไรให้เธอเกลียดหนักหนา” ซินอี๋หน้าเหวอมากกว่าเดิม ตั้งแต่ที่เธอรู้จักเสี่ยวถงจะเป็นเธอทุกครั้งที่คอยกลั่นแกล้งและต่อว่า ทำไมครั้งนี้เสี่ยวถงสู้กลับแถมยังแสดงว่าเธอเป็นผู้ถูกกระทำแบบนี้
‘ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้แกล้งทำอ่อนแอมาโดยตลอดเลยสินะ ฮึ คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะไม่ทันเธอหรือไง คิดจะใส่ร้ายกันเธอคิดผิดแล้วเสี่ยวถง’ ซินอี๋คิดในใจก่อนจะบีบน้ำตาให้เอ่อนองเต็มดวงตา หันไปมองเจี่ยหยางกับแม่ถัง
“พี่เจี่ยหยางฉันไม่เคยทำแบบนั้นจริง ๆ นะ ฉันไม่เคยคิดจะแย่งพี่กลับคืนมาและไม่เคยนึกเกลียดชังพี่สะใภ้ด้วยซ้ำ แต่น้ำแกงของฉันวันนี้มันมีรสชาติเค็มจริง ๆ พี่สะใภ้ไม่ชอบฉันเกลียดฉัน ใส่ร้ายฉัน ต่อจากนี้ฉันจะไม่มาที่นี่เพื่อสร้างความลำบากใจให้ทุกคนอีก”
ตอนที่ 9 เจอเพื่อนเก่ามาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวถงเข้าไปพบหมอทำแผลล้างแผลนั่งรอยากลับบ้านระหว่างนั้นเจี่ยหยางเดินไปจ่ายเงินให้เธอ มีชายรูปร่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเสี่ยวถงพร้อมรอยยิ้มเต็มดวงหน้า ราวกับพบเจอเพชรเม็ดงาม“โม่เสี่ยวถง นั่นใช่โม่เสี่ยวถงใช่มั้ย?”น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถามสองเท้ามาหยุดตรงหน้าของร่างบางเธอคิ้วขมวดชนกันด้วยความสงสัยชายคนนี้คือใครกัน แถมยังรู้จักเสี่ยวถงอีกด้วย“เอ่อ...ขอโทษนะคะฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักกันด้วยเหรอ”“ฉันเยี่ยเจี้ยนจื่อไง เพื่อสมัยเด็กของเธอโตมาฉันแทบจำเธอไม่ได้เลยนะ สวยยิ่งกว่าตอนเด็ก ๆ เสียอีกแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมที่แขนของเธอถูกพันด้วยผ้าแบบนั้น” เสี่ยวถงพยายามครุ่นคิดความทรงจำในวัยเด็กของเจ้าของร่างกลับคืนมาอีกครั้ง นี่คือเพื่อนสนิทที่คอยเหลือเธอในตอนเด็ก ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรไปที่ไหนหรือมีคนมากลั่นแกล้งจะมีเจี้ยนจื่อคอยช่วยเหลือเสมอ และเขาก็ยังเคยบอกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอครั้นก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่มณฑลอื่น หลายปีมากแล้วที่ไม่เคยพบเจอกันเด็กชายคนนั้นคือชายที่รูปหล่อคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเธอ เสี่ยวถงยิ้มกว้างเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ“ฉันดีใจจริงที่เจอนายอีกครั
ตอนที่ 8 แผนซ้อนแผน“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ชิงเหมยพาเสี่ยวถงไปที่รถพี่จะพาเธอไปหาหมอเอง” เจี่ยหยางเดินมาถึงรีบสั่งให้น้องสาวพาเสี่ยวถงไปที่รถเขาเองก็รีบเข้ามาประคองช่วยอีกคน ซินอี๋ใบหน้าเศร้าสลดเมื่อเห็นคนรักเข้าไปช่วยเสี่ยวถง จังหวะที่เสี่ยวถงถูกประคองไปเธอหันกลับมามองซินอี๋พร้อมกระตุกยิ้มให้ซินอี๋ได้เห็นว่าเจี่ยหยางก็เป็นห่วงจนรีบวิ่งเข้ามาประคอง ซินอี๋เจ็บใจแค้นมากกว่าเดิมกำมือแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์เสี่ยวถงรู้ทันว่าซินอี๋ต้องการทำอะไร เมื่อเห็นซินอี๋กำลังตบตีตนเองเหมือนละครยามเย็นแล้วมาใส่ร้ายว่าเธอเป็นคนตบตี เพื่อให้คนอื่นต่อว่าและด่า มีหรือที่เสี่ยวถงจะยอม เมื่อครู่เธอกำลังปอกลูกท้ออยู่พอดี จึงคว้ามีดมาแทงที่แขนตัวเองยอมเจ็บตัวนิดหน่อยเพื่อแลกกับการทำให้ซินอี๋รู้ว่าไม่ใช่มีแต่เธอที่มีมารยาใช้ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้และทำให้คนอื่นเห็นว่าซินอี๋เป็นคนนิสัยยังไง และก็เป็นอย่างที่เธอคาดคิดเอาไว้ไม่มีใครเชื่อซินอี๋ว่าเสี่ยวถงจะลงมือทำร้ายตนเอง'แม้จะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเธอเป็นคนแบบไหน มาสิร้ายมาฉันจะร้ายกลับ' เสี่ยวถงคิดในใจ“พี่สะใภ้เลือดไหลไม่หยุดเลย โชคดีที่โดนแค่แข
ตอนที่ 7 ถูกทำร้ายหลังจากเก็บผ้าเสร็จเสี่ยวถงเดินลงมากจากห้องไปหาลี่ไป๋พาเธอเดินดูทั่วบ้านและบอกงานของเธอที่จะต้องทำต่อจากนี้ เวลาล่วงเลยจนดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนค่ำลง เสียงรถประจำทางจอดเทียบหน้าบ้าน ชิงเหมยกลับมาจากเรียบนหนังสือเห็นพี่สะใภ้เดินอยู่หน้าบ้าน เธอรีบเข้าไปทักทายพอดี“ว๊าว ตกใจหมดคิดว่าพี่สาวที่ไหนที่แท้พี่เสี่ยวถงพี่สะใภ้ฉันนี่เอง พี่สวยมากเลย ถ้าพี่แต่งตัวแบบนี้ทุกวันคงจะดีใบหน้าของพี่สวยหวานเพียงแค่แต่งนิดหน่อยทำให้พี่เป็นคนสวยจนละสายตาไม่ได้เลย ว่าแต่วันนี้ทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ปกติเวลานี้พี่ต้องอยู่ในห้องครัวมิใช่หรือ”“ชิงเหมยกลับมาแล้วหรือ ? ต่อจากนี้พี่จะไม่ทำงานบ้านอีกพี่จะใช้ชีวิตเป็นสะใภ้บ้านถังอย่างสมเกียรติจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาหยามหน้าอีกแล้ว”“ฉันชอบพี่เสี่ยวถงตอนนี้จริง ๆ เลย อย่างนั้นพี่จะไม่ยอมให้ซินอี๋อะไรนั่นเข้ามาใกล้พี่เจี่ยหยางอีกแล้วใช่มั้ย? ฉันละไม่ชอบขี้หน้าผู้หญิงคนนั้นสักนิด ไม่ถูกชะตาตั้งแต่คราแรกที่พบเจอ”“ไม่เอาน่า ชิงเหมยแม้ฉันจะเปลี่ยนไปแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากบอกให้ชิงเหมยรู้เอาไว้ถึงเป้าหมายที่ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันไม่อยากอยู่ที
ตอนที่ 6 ต่อต้านลี่ไป๋ถือของช่วยเจ้านายคนใหม่ของตัวเองเดินตามเธอจนมาถึงบ้านหลังใหญ่ ดีใจที่มีที่อยู่ในใจสำนึกบุญคุณจะทำดีและหวังดีตอบแทนที่เสี่ยวถงยอมพาเธอเข้ามาทำงาน“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไปไหนมาคนอย่างเธอทิ้งหน้าที่ของตัวเองแล้วออกไปเที่ยวเล่นอย่างสบายใจได้ยังไง ดูเข้าสิตัดผมใหม่แต่งหน้าอย่างไม่เคยจะทำตลกสิ้นดี แถมยังซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่อีกสิ้นเปลืองเสียจริง แล้วผู้หญิงมอมแมมด้านหลังนั่นเป็นใครอีกอย่าบอกนะว่าเธอไปรับญาติพี่น้องจากชนบทมาอยู่ที่นี่ บ้านตระกูลถังไม่ใช่บ้านรับเลี้ยงคนไร้ที่อยู่ มาทางไหนออกไปทางนั้น” แม่ถังยืนอยู่หน้าบ้านในมือถือพัด พัดไปพัดมาพรางต่อว่าเสี่ยวถงอย่างไม่พอใจ“แม่ถังเด็กคนนี้ไม่ใช่ญาติของฉันและเธอจะไม่ออกไปที่ไหน ต่อจากนี้เธอจะมาอยู่ที่นี่ทำงานบ้านทุกอย่างแทนฉัน”“อะไรกัน !! ใครอนุญาตให้เธอทำแบบนี้ตามใจชอบ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”“แม่ถังเป็นคนร่ำรวย บ้านหลังใหญ่โตเมื่อก่อนตอนที่ฉันยังไม่เข้ามาอยู่ที่นี่ ก็มีสาวใช้ถึง 3 คนแต่เมื่อฉันเข้ามาที่นี่แม่ถังกลับขับไล่สาวใช้ทุกคนออก แม่ถังไม่ได้ขี้เหนียวแต่อยากให้ฉันทำงานทุกอย่างในบ้าน ให้ฉันเหน็ดเหนื่อยจนทนไม่ไ
ตอนที่ 5 เปลี่ยนแปลงตัวเองเสี่ยวหลงรู้สึกสายตาอาฆาตของเจี่ยหยางที่มองเธออยู่ ตอนนั้นแม่ถังได้เอ่ยขึ้นเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายตอนนี้“เอาล่ะ ๆ อย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวายแต่เช้าเลย เสี่ยวถังนำชามน้ำแกงไปเก็บแล้วเปลี่ยนชามใหม่มา อย่าให้เกิดขึ้นอีกครั้งที่สองอีก” แม่ถังกวาดสายตาจ้องมองอย่างตำหนิและเหมือนข่มขู่เสี่ยวถงอีกคน เธอพยักหน้านำชามไปเปลี่ยน ทำไมไม่เหมือนที่เธอคิดเอาไว้เลยล่ะ ทำไมเรื่องที่จบง่ายๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เปลี่ยนชามและตักน้ำแกงในหม้อให้ซินอี๋อีกครั้ง เสี่ยวถงนั่งมองทุกคนกินข้าวต่อ จนกินอิ่มแม่ถังชวนซินอี้ไปที่ห้องน้ำชาต่อ เสี่ยวถงเก็บชามไปล้างเหมือนหน้าที่ของเธอทุกวันเจี่ยหยางเดินเข้ามากระชากแขนเธอจนชามในมือของเธอหล่นล่วงลงพื้นเพล้ง!!“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าหย่าทำอะไรซินอี๋็ เธอนี่ร้ายไม่เปลี่ยน ไม่กลัวคำขู่ของฉันเลยใช่มั้ย?”“โอ๊ย !!ฉันเจ็บนะ.. ทำไมคิดว่าเป็นฉันที่เลวร้ายทำเรื่องแบบนั้น หรือเพราะความรักของคุณที่มีต่อซินอี๋มีมากจนมองไม่เห็นความจริง คนที่ร้ายคือซินอี๋ต่างหาก ฉันเหนื่อยเต็มทน ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เป็นสาวใช้ของบ้านหลังนี้แล้ว คุณลงชื่อในใบหย่าให้ฉัน
ตอนที่ 4 หย่าให้ฉันสิทั้งสามพากันเดินเข้ามาในบ้านพูดคุยหัวเราะราวกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกับ ชิงเหมยยืดกอดอกเบะปากไม่พอใจสิ่งที่แม่กับพี่ชายทำกับดีกับคนที่ไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวด้วยซ้ำ คนที่คุณแม่กับพี่ชายควรจะทำดีด้วยคือพี่สะใภ้ต่างหาก“คิดว่าแขกที่ไหนมา รีบตื่นแต่เช้ามาต้อนรับเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่แท้ก็แค่พี่ซินอี๋ จะมาที่นี่ทำไมบ่อย ๆ พี่ชายของฉันต้องแต่งงานแล้ว เข้าบ้านชายมีภรรยาอย่างนี้สมควรหรือ” ชิงเหมยพูดออกมาอย่างไม่สนใจว่าคนที่ฟังจะรู้สึกอย่างไร จนแม่ถังรีบเดินเข้ามาหยิกแขนของชิงเหมย“ชิงเหมยทำไมลูกถึงพูดกับพี่ซินอี๋แบบนั้น รีบขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ เสียมารยาทจริง ๆ ”“โอ๊ย คุณแม่ฉันเจ็บนะ ฉันนะมีมารยาทกับคนที่มีมารยาทกับฉันเท่านั้นแหละ ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น” ชิงเหมยพูดพร้อมจ้องหน้าของซินอี๋ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องกินข้าว ใบหน้าของซินอี๋ซีดเซียวแม่ถังรีบเดินเข้าไปจับมือของซินอี้เพื่อปลอบใจ“หนูซินอี๋อย่าใส่ใจชิงเหมยเลยนะ เธอยังเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจและอ่อนต่อโลก ไปที่ห้องกินข้าวกันเถอะ หลังกินข้าวเสร็จเราไปที่ห้องนั่งเล่นดื่มน้ำชาพูดคุยกันสักหน่อยวันนี้ป้ามีเครื่องเพชรมาใหม่อยา