ช่อผกากลับไปถึงบ้านก็ขึ้นไปหาสามีบนห้องนอน ดูท่าเขาคงจะร้อนใจอยากรู้อาการของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ชยันต์เห็นประตูห้องเปิดเข้ามาก็ลุกออกจากเตียงเดินเข้าไปหาภรรยา
“น้ำค้างล่ะ”
“หนูน้ำค้างไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ หมอฉีดยาแล้วก็ให้ยาแก้แพ้กับยาทาผื่นคัน ตอนนี้กลับคอนโดไปแล้ว”
“กลับคอนโด รถก็ยังอยู่ที่นี่ แล้วจะกลับยังไง”
“เธอให้เพื่อนมารับน่ะค่ะ”
ช่อผกาสวมกอดแขนผู้เป็นสามีพากันเข้าไปนั่งบนเตียง เงยใบหน้าอ่อนกว่าวัยแสดงสีหน้ารู้สึกผิดขึ้นมอง
“คุณโกรธฉันไหมคะ”
“ผมจะโกรธคุณเรื่องอะไร”
“ก็ที่ฉันทำให้ลูกสาวคุณแพ้อาหาร ฉันขอโทษนะคะ ต่อไปจะจำให้ขึ้นใจว่าหนูน้ำค้างกินถั่วเหลืองไม่ได้”
เธอว่าพลางซบใบหน้าออเซาะลงที่แผงอกของสามีเพื่อขอความเห็นใจ นับตั้งแต่คบกันจนกระทั่งแต่งงาน ชยันต์ไม่เคยหาเรื่องทะเลาะหรือมีปัญหากันเลยสักครั้ง และครั้งนี้เธอก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
“ผมจะโกรธคุณได้ยังไง ก็คุณไม่ได้ตั้งใจ อย่าคิดมากเลยนะคุณช่อ ผมรู้ว่าคุณหวังดีกับน้ำค้าง”
“ค่ะ ฉันจะไม่คิดมาก ขอบคุณคุณมากนะคะที่เชื่อใจ”
เอ่ยจบรอยยิ้มมุมปากของช่อผกาก็เผยขึ้นพร้อมกับดวงตาที่แข็งกระด้าง
*****
คอนโดของนายน์ เวลาสี่ทุ่ม
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า… พี่นายน์ อื้ม ซี้ด…”
นายน์กำลังควงน้องชายอยู่ในร่องของสาวสวยบนเตียงขนาดคิงส์ไซซ์ ทั้งสองตกลงกันว่าจะอยู่ในสถานะคู่นอน ห้ามหึง ห้ามหวง ห้ามแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แค่บางเวลาที่อยากได้ความสุขทางกายก็ค่อยนัดเจอกัน
ไอรินยินดีรับข้อเสนอนี้ด้วยความเต็มใจ เพราะเธอเองก็ยังไม่พร้อมมีแฟนเช่นเดียวกัน แต่จะทำยังไงได้ เธอกำลังหลงไหลกับใบหน้าหล่อเหลา น้ำเสียงละมุน ความเอาอกเอาใจผู้หญิงเก่งอย่างเขา แต่ถ้าจะให้คบกันจริง ๆ ก็คงไม่ไหว
หลังจากเสร็จกิจกรรมบนเตียง สองร่างเปลือยเปล่าก็นอนโอบกอดกันอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ไอรินรู้ดีว่าสถานะนี้คืออะไร ต่างคนก็ต่างโสด แล้วมันจะทำไม ถ้าเธอและเขาต่างก็อยากเล่นสนุกด้วยกัน
“คืนนี้นอนกับพี่ไหม” เสียงพร่าเอ่ยแผ่วเบา
“ลืมไปรึเปล่าคะ ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
ไอรินเอ่ยพลางดันตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับมือเล็กจับผ้าห่มขึ้นทาบหน้าอกอวบใหญ่ที่เขาเคล้นคลึงจนเป็นรอยแดงของฝ่ามือ ก็อย่างที่เธอบอกว่าแค่เล่นสนุก มีอะไรกันเสร็จก็ไม่จำเป็นต้องนอนค้างเหมือนอย่างคู่รักที่กำลังคบหาดูใจกัน
“พี่ไม่ได้ลืมครับ แค่หวังดี เผื่อว่าน้องไอรินจะเหนื่อย ขาไม่มีแรงขับรถ อยากจะนอนค้างที่นี่”
หญิงสาวหันไปส่งยิ้มเย้ายวน ดวงตาคู่สวยจ้องใบหน้าหล่อของคนที่ดันตัวลุกขึ้น ขยับเข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง แล้วกดหอมที่หัวไหล่บาง
“ไม่ดีกว่าค่ะ เผื่อพี่อยากพาผู้หญิงคนอื่นมานอนต่อ”
คนอื่นแค่ซื้อกินครั้งเดียวจบ แต่ไอรินเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่นายน์ยื่นข้อเสนอคู่นอนให้และพามามีอะไรกันที่คอนโดส่วนตัว ยอมรับว่าถูกใจเธอมาก แต่เสือยังไม่สิ้นลายก็ไม่อยากจริงจังกับใคร แล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยแก้ตัวแต่อย่างใด ไอรินจึงลุกออกจากเตียง หยิบเสื้อผ้าถูกโยนเกลื่อนพื้นตรงไปยังห้องน้ำ
ไอรินเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ขณะเดินเข้ามายังห้องนอนก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ในกระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่ข้างเตียง จึงเลื่อนมือเล็กไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดเอาโทรศัพท์ออกมากดรับสาย
“ฮัลโหล”
(แกนอนรึยัง)
เสียงของปลายสายเอ่ยถาม ไอรินจับน้ำเสียงได้ว่าน้ำค้างกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ
“ยัง แกมีอะไรรึเปล่า”
(ฉันอยู่โรงพยาบาล แกมาอยู่เป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม)
“อยู่โรงพยาบาลไหน เดี๋ยวฉันรีบไป”
ตอบเพื่อนเสร็จไอรินก็กดวางสายทันที
“ใครเป็นอะไรเหรอครับ”
นายน์ได้ยินเธอคุยโทรศัพท์แต่ไม่รู้ว่าสายที่คุยอยู่นั้นคือใคร แต่น่าจะเป็นคนสำคัญสำหรับเธอ เพราะดูไอรินจะร้อนใจเป็นอย่างมาก
“น้ำค้างเข้าโรงพยาบาล”
“เป็นอะไรครับ”
“แพ้ถั่วเหลืองค่ะ ไปก่อนนะคะ ตอนนี้เพื่อนไอรินอยู่คนเดียว ไม่มีใครนอนเฝ้า”
เธอรีบเดินออกจากห้อง ลงลิฟต์ไปยังลานจอดรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
*****
น้ำค้างนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงคนป่วย เปลือกตาก็หย่อนลงเรื่อย ๆ เนื่องจากฤทธิ์ของยาแก้แพ้ จนกระทั่งเพื่อนของเธอทั้งสองคนเปิดประตูเข้ามา แล้วเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง
“อีชะนีเป็นยังไงบ้าง ตายแล้ว ดูสภาพแกสิ แดงไปทั้งตัวเลย”
เฟญ่าแสดงสีหน้าตกใจเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากไอรินได้รับสายของน้ำค้าง ก็รีบโทรบอกหล่อนว่าจะไปรับที่คอนโด แล้วมาหาเพื่อนของพวกเธอที่โรงพยาบาล
น้ำค้างคอยระวังเรื่องของกินมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองแพ้รุนแรง มีผื่นเม็ดเล็กสีแดงผุดขึ้นเต็มตัว ใบหน้าก็เป็นผื่นหนา ริมฝีปากบวมเจ่อ
“น้าช่อใส่นมถั่วเหลืองในกับข้าวอะ”
“แม่เลี้ยงแกนี่หน้าเนื้อใจเสือสุด ๆ ไม่รู้เหรอว่าแกแพ้ถั่วเหลือง กะจะฆ่ากันทางอ้อมหรือยังไง”
ไอรินรู้สึกโกรธแทนเพื่อน ช่อผกาแต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านคนอื่นแท้ ๆ แต่กลับไม่ทำดีกับลูกสาวของเขา แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แล้วยัยลูกติดนั่นอีกคน ไม่คิดว่าน้ำค้างเป็นพี่สาวเลย ทุกวันนี้เห็นหน้าก็เหมือนเห็นผี รีบเดินหลีกไม่สนใจจะทักทายตามมารยาท
“พ่อแกไม่ว่าอะไรยัยป้านั่นเลยเหรอ” เฟญ่าเอ่ยถาม
“จะให้ว่าอะไรล่ะ น้าช่อบอกว่าลืมว่าฉันแพ้ถั่วเหลือง”
“แล้วนี่อย่าบอกนะว่าปล่อยให้แกมาหาหมอคนเดียว” ไอรินเอ่ยเสียงกร้าวด้วยความไม่พอใจ
“น้าช่อเป็นคนมาส่ง”
น้ำค้างเอ่ยพลางถอนหายใจ แค่มาส่งจริง ๆ ไม่ถามถึงอาการเธอเลยสักนิดว่าเป็นหนักหรือว่าอาการดีขึ้นหรือไม่
“ยังดีที่ยัยป้านี่ยังมีความเป็นคน ไม่ต้องคิดมากนะยัยชะนี คืนนี้พวกฉันจะนอนเป็นเพื่อนแกเอง” เฟญ่าเอ่ยปลอบใจเพื่อน
“ขอบใจพวกแกมากนะ”
น้ำค้างคลี่ยิ้มเล็กน้อย ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเพราะมีเพื่อนรักทั้งสองคนอยู่ด้วย
“ขอบจงขอบใจอะไรกัน รีบนอนพักเลย จะได้หายเร็ว ๆ”
ไอรินเอ่ยพลางเดินอ้อมไปอีกด้านเพื่อหยิบรีโมตมากดปรับระดับเตียงคนป่วยเพื่อให้น้ำค้างนอนสบายตัวขึ้น ก่อนที่พวกเธอทั้งสองคนจะพากันหาที่หลับนอนเพื่อเฝ้าเพื่อนรักในคืนนี้
“อุแว้ อุแว้…”ทารกน้อยเปล่งเสียงร้องเมื่อตื่นขึ้นลืมตาดูโลกในวินาทีแรกที่คลอดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ฉลามได้เข้าไปให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงของเมียอยู่ไม่ห่าง ทั้งสองต่างหันจ้องมองกัน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความสุขที่เฝ้าทะนุถนอมเด็กน้อยในท้องมาตลอดเก้าเดือน แต่ตอนนี้ได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากทำความสะอาดร่างกายและตรวจเบื้องต้นเสร็จหมอก็อุ้มมาวางไว้แนบอกของผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มอบน้ำนมหยดแรกให้เจ้าตัวน้อยได้ดื่มกินหยาดน้ำตาของน้ำค้างร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโล่งและดีใจที่ได้เห็นลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มมีส่วนคล้ายทั้งพ่อและแม่อย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นลูกของใครฉลามเลื่อนมือไปลูบลูกสาวผ่านผ้าอ้อมสีขาวที่ทางโรงพยาบาลใช้ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยอย่างเบามือ ทั้งสองไม่เคยคาดหวังจึงไม่เคยผิดหวังว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอเพียงเป็นลูกที่เกิดจากทั้งสองคน พวกเขาก็พร้อมที่จะรักและเอ็นดูไม่ต่างกัน รวมถึงพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยคาดหวังในเรื่องนี้เช่นกันว่าจะต้องได้หลานชายเป็นคนแรก“หลานของพวกเรามาแล้ว”นภา แม่ของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ครบกำหนดสองอาทิตย์ที่น้ำค้างขอเวลาจากผู้เป็นพ่อ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างคนที่เธอคิดถึงมาตลอด คอยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม สานต่อธุรกิจที่พ่อและแม่สร้างร่วมกันมา และเก็บรักษาไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวสามเดือนหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากฝากชีวิต อยู่ดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าหาดทรายสีขาวด้านหน้าร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉลามได้ถูกเนรมิตให้เป็นงานแต่งสุดเรียบหรู พิธีสำคัญได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าร้านอาหารของครอบครัวฝ่ายชายได้ถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งสองครอบครัวต่างปลื้มปิติไม่ต่างจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ได้เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันงานเลี้ยงจบลงคู่บ่าวสาวก็อยู่กันตามลำพังที่เรือนหอชั่วคราว นั่นก็คือห้องของฉลาม คืนนี้พ่อและแม่ของเขาเต็ม
“คุณนิรุตช่วยผมดูนี่หน่อยสิ”“อะไรเหรอครับ”นิรุตปรายตามองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ชยันต์เปิดไฟล์วิดีโอ แล้วหันหน้าจอมาทางเขา ก่อนจะกดปุ่มเอ็นเทอร์เพื่อเล่นภาพเคลื่อนไหว(อะ อ๊า… แรงอีกค่ะ ช่อชอบที่คุณตอกแรง ๆ)(คุณช่วยบดลงมาด้วย ซี้ด… อย่างนั้นแหละ)“ว้าย นี่มันอะไรกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากคลิปวิดีโอ จึงตกใจรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปโอบกอดหน้าจอ หวังใช้ตัวบังภาพอันน่าอายซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นภาพของใครชู้รักทั้งสองคนใบหน้าร้อนชาส่งสายตามองกันอย่างผวา ชยันต์เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน“นี่คุณแอบติดกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”“หึ ถ้าคุณรู้ว่าก็คงไม่มีหลักฐานคาตาว่าคนที่ผมไว้ใจทั้งสองคนกำลังแอบเล่นชู้กันอยู่”“คุณชยันต์ครับ ฟังผมอธิบายก่อน”“รอไปคุยกันในชั้นศาลเถอะ คุณถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงินของโรงแรม และร่วมมือกันวางยาผม คุณก็เหมือนกันคุณช่อ ผมจะฟ้องคุณในฐานสมรู้ร่วมคิดและฟ้องชู้ พวกคุณทั้งคู่เตรียมตัวกันได้เลย”“กรี๊ด… คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นเมียคุณ ฉันดูแลคุณมาตั้งนาน”“หึ แล้วเมียทำกับผัวแบบนี้เหรอ ผมไว้ใจคุณ คอยดูแลคุณ
สองเดือนต่อมา“วันนี้ผู้จัดการโรงแรมจะมาหาคุณชยันต์ที่บ้าน ฝากกำชับทุกคนด้วยว่าอย่าขึ้นไปยุ่มย่ามที่ชั้นสองเด็ดขาด เข้าใจไหม”นายหญิงของบ้านเอ่ยสั่งแม่บ้านเก่าแก่ให้ฝากไปบอกกับคนอื่น ๆ เนื่องจากช่วงนี้ชยันต์ไม่สบาย จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่โรงแรมได้“ค่ะคุณช่อ”“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำงานสิ มัวมายืนบื้ออยู่ทำไม”“ค่ะ”ช่อผกาออกคำสั่งเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเข้าไปหาสามีที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าในห้องทำงาน เธอยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ เลื่อนแขนทั้งสองข้างสวมกอดรอบคออย่างที่เคยทำเป็นประจำ“คุณกำลังไม่สบายอยู่ อย่าเอาแต่ทำงานสิคะ”“ผมยังมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีกเยอะ แล้วก็นัดนิรุตไว้ตอนบ่ายสามด้วย”นิรุตเป็นบุคลากรที่เขาเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน เป็นคนที่คัดเลือกมากับมือให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาตำแหน่งอื่น ๆ รองจากเขา ชยันต์ไว้ใจนิรุตเป็นอย่างมาก หวังจะให้สอนน้ำค้างหลังจากเธอกลับมาดำรงตำแหน่งเดียวกัน เพราะว่าอีกไม่กี่ปีลูกน้องที่เขาเชื่อมั่นก็จะเกษียณแล้ว“งั้นเดี๋ยวฉันลงไปเอาข้าวกับยามาให้นะคะ”ชยันต์มองแผ่นหลังของภรรยาเดินออกจากห้อง สักพัก
ประเทศออสเตรเลีย“ห่างแค่คืนเดียวก็คิดถึงใจจะขาด พี่คิดถึงฉันไหม”น้ำค้างลงจากเครื่องแล้วเดินทางไปถึงบ้านของผู้เป็นแม่ ก็รีบตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไปหาฉลามทันที และดีที่มันตรงกับช่วงพักเที่ยง เขาจึงมีเวลารับสาย(คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมากด้วย)“พี่ฉลาม ฉันมีอะไรจะให้ดู”ฉลามจ้องมองแฟนสาวในหน้าจอมือถือ เหมือนว่าเธอกำลังเอื้อมหยิบอะไรบางอย่าง ก่อนจะพบว่ามันเป็นสมุดโน้ต แล้วเธอก็เปิดไปยังหน้าที่ต้องการให้เขาดู(ดอกสแตติส)“ใช่ค่ะ ฉันสตัฟฟ์ไว้ในสมุด จะเอาพกติดตัวไปเรียนทุกวันเลย”(หึ น่ารักจัง พี่ก็มีเหมือนกัน)“อะไรเหรอคะ”จากนั้นเขาก็หยิบกิ๊บติดผมที่เป็นโบว์สีชมพูขนาดเล็กที่เธอชอบใช้ขึ้นมาโชว์ให้ดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อไปให้แฟนสาวที่เผยรอยยิ้มหวานจนหน้าแดง“แอบขโมยไปตอนไหนเนี่ย ถึงว่าหาไม่เจอเลย”(เอามาตั้งแต่เริ่มทำงาน)“พี่น่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงโคตรรักพี่มากเลย”(พี่ก็โคตรรักเธอเหมือนกัน)“คิกคิก”(หึหึ)ทั้งสองต่างหยอกล้อด้วยคำบอกรัก ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่อยู่ไกลกันก็ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในทุกวันยังสามารถโทรคุยแบบเห็
ทางด้านช่อผกา“ฉันได้ยินคุณชยันต์บอกว่านังเด็กน้ำค้างจะไปเรียนต่ออยู่กับแม่ของมันที่เมืองนอก เห็นทีอนาคตที่ฉันคิดไว้ว่าจะให้แกรับช่วงต่อโรงแรมก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ช่อผกาเข้าไปหาลูกสาวในห้อง ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ปิดภาคเรียนแล้ว และยิปโซก็เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาวันแรก เนื่องจากช่วงก่อนเธอได้ขอผู้เป็นแม่ออกไปอยู่ข้างนอก นั่นก็คือไปอยู่ที่คอนโดของเคน เพื่อหลีกเลี่ยงถ้อยคำชักจูงของผู้เป็นแม่ให้ทำในสิ่งที่เธอไม่เต็มใจ แล้วที่กลับมาบ้านก็เพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพราะว่าต้องไปฝึกงานที่ต่างประเทศสามเดือน“แม่ แต่ฉันไม่ได้อยาก…”ช่อผการีบยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของยิปโซ ถลึงตาใส่ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกร้าว“แกหุบปากไปเลย ฉันเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหนก็น่าจะรู้ ทำไมไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณฉันบ้างฮะ แกจะโง่เรียนจบมาแล้วมาเป็นขี้ข้าคนอื่นหรือไง ได้นั่งอยู่ในห้องผู้บริหารแค่ชี้นิ้วสั่งลูกน้องแล้วมันไม่ดียังไง”“มันไม่ดีตรงที่มันไม่ใช่ของเราไงแม่”“นังโง่ แกเป็นลูกแม่ แม่เป็นเมียคุณชยันต์ ของผัวก็เหมือนของเมีย แล้วมันจะไม่ใช่ของเราได้ยังไง แกไม่ต้องคิดจะอ้าปากเถียง รีบเรียนให้จบแล้วกลับมาช่