เช้าวันต่อมา
ชยันต์ได้โทรมาถามอาการของลูกสาว ต่อด้วยคำถามที่ว่าทำไมถึงกลับไปนอนคอนโด มันทำให้รู้ได้ทันทีว่าแม่เลี้ยงน่าจะบอกไปแบบนั้น น้ำค้างจึงจำใจต้องโกหกว่าเพื่อนเป็นห่วงจะมานอนด้วย เลยเลือกกลับไปนอนคอนโด เมื่อบอกไปดังนั้นผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ
ในช่วงบ่ายหมอก็ได้มาตรวจอาการ ผื่นตามตัวของเธอเริ่มบางลงกว่าเมื่อคืน อาการแน่นหน้าอกก็หายแล้ว หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
ส่วนไอรินและเฟญ่าก็อยู่ดูแลเธอไม่ห่าง พอออกจากโรงพยาบาลก็พาไปส่งที่บ้านเพื่อกลับไปเอารถ เช้าวันจันทร์น้ำค้างก็ไปเรียนตามปกติ
หลังเลิกเรียนน้ำค้างแวะที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นตึกสามคูหาตั้งอยู่ถัดจากมหาวิทยาลัยไปเพียงไม่กี่หลัง เพื่อหาของกินไปแช่ไว้ในตู้เย็นที่คอนโด
น้ำค้างส่งมอบแซนวิชให้พนักงานก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อให้เขานำไปอุ่น ระหว่างนั้นเธอก็หยิบของกินอื่น ๆ ออกวางบนเคาน์เตอร์เพื่อรอคิดเงิน แต่แล้วก็มีมือของใครบางคนยื่นผ่านหน้าไป พร้อมกับวางกล่องถุงยางอนามัยลงบนเคาน์เตอร์
ก่อนหน้านี้ฉลามกำลังขับรถออกจากมหาวิทยาลัย ดวงตาคู่คมก็เหลือบไปเห็นสาวสวยกำลังเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ จึงตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเดินตามเข้าไป
เขาเห็นเธอกำลังมองหาของกิน จึงเลี่ยงไปเดินคนละช่องเพื่อไม่ให้เธอเห็น จนกระทั่งน้ำค้างถือตะกร้าตรงไปยังแคชเชียร์ หนุ่มหล่อกระตุกยิ้มขึ้นอย่างมีแผนการ ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องถุงยางอนามัยที่วางอยู่บนชั้นหน้าเคาน์เตอร์ วางมันลงรวมกับของกินที่สาวรุ่นน้องเลือกหยิบมาด้วยความอยากแกล้ง
“คิดรวมได้เลยครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยกับพนักงานร้านสะดวกซื้อ โดยไม่ถามความสมัครใจของลูกค้าที่ยืนรอคิดเงินอยู่ก่อน
น้ำค้างหันมองคนยืนซ้อนหลัง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปม ก่อนจะเมินเฉยแล้วหันไปเอ่ยกับพนักงานด้วยน้ำเสียงเข้ม
“คิดแยกค่ะ”
“คิดรวมครับ”
“อย่ามากวนประสาทได้ปะ ถ้าอยากซื้อไอ้กล่องนั้นมาก ก็ไปจ่ายเงินเองสิ”
“อย่าทำให้พนักงานลำบากใจสิครับ คิดรวมจะได้เสร็จไว ๆ”
พนักงานเห็นทั้งสองคนโต้เถียงกันก็ทำหน้าไม่ถูก สรุปจะให้คิดแยกหรือคิดรวมกันแน่ สงสัยจะเป็นแฟนที่อยู่ในช่วงแง่งอนกัน แต่เมื่อเห็นว่านักศึกษาสาวนิ่งเงียบไปพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึง เขาจึงได้คิดเงินรวมตามที่ลูกค้าชายบอก
ฉลามรีบนำโทรศัพท์ขึ้นมาแสกนจ่ายเงิน แล้วหยิบถุงที่พนักงานยื่นให้เดินล้วงกระเป๋าออกไปนอกร้านด้วยท่าทางอารมณ์ดี
น้ำค้างรีบก้าวเท้าเดินตามหนุ่มรุ่นพี่ นอกจากเขาจะเอาแต่ใจแล้วยังโรคจิตอีกต่างหาก ถ้ามีคนรู้จักผ่านมาเห็นเข้า คงจะคิดไปเลยเถิดว่าเขาต้องซื้อถุงยางมาใช้กับเธอแน่ ๆ
“เอาของกินฉันคืนมา แล้วเอาไอ้กล่องนั่นออกไปด้วย”
“ของฉัน?พูดผิดพูดใหม่ได้นะ พี่เป็นคนจ่ายเงิน แล้วจะเป็นของเธอได้ยังไง”
“บอกเลขบัญชีมา ฉันจะโอนคืนเดี๋ยวนี้เลย”
น้ำค้างเอ่ยพลางปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ กดเข้าแอปธนาคารรออีกฝ่ายเอ่ยตอบ คิดว่าเธอไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง
“แอดเฟรนด์พี่ก่อนสิ เดี๋ยวส่งเลขบัญชีให้”
“มุกจีบสาวเหรอ เชยชะมัด”
“จีบได้ไหมล่ะ”
“แบดบอยแบบพี่คงมีสาวในสต๊อกเยอะแล้ว ฉันไม่อยากไปแย่งพื้นที่คนพวกนั้นหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ชอบพวกมักมากในกาม”
“โอ๊ย”
น้ำค้างเอ่ยจบฉลามก็เปล่งเสียงอุทานราวกับเจ็บปวด พร้อมกับยืนงอตัวทำหน้าเหยเก ยกมือข้างที่ว่างขึ้นทาบอกข้างซ้าย
“พี่เป็นอะไร อย่ามาตายแถวนี้นะ”
ไม่รู้ว่าเขาแกล้งหรือป่วยจริง แต่คำพูดของน้ำค้างก็ทำให้ฉลามเงยใบหน้าทะเล้นให้อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของเธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว
“โดนน้องว่าแล้วมันโคตรเจ็บตรงนี้เลย”
เขาเอ่ยพลางชี้นิ้วไปยังหน้าอกข้างซ้ายของตน ก่อนจะเอ่ยต่ออีกประโยคพร้อมกับริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มยียวน
“สัญญาว่าถ้าได้น้องเป็นแฟน พี่จะเลิกยุ่งกับผู้หญิงทุกคน”
“ไปเลิกให้ได้ก่อนเถอะแล้วค่อยมายุ่งกับฉัน ฉันไม่ชอบผู้ชายหน้าหม้อ”
เธอรีบคว้าถุงในมือของฉลามตอนที่เขาเผลอ กางถุงออกแล้วหยิบกล่องใบเล็กสีน้ำเงินม่วงยัดใส่มือของหนุ่มรุ่นพี่
“เอาของบ้า ๆ นี่คืนไป”
“ของบ้า ๆ ที่ไหน พี่ซื้อเตรียมไว้ใช้กับคนแถวนี้เลยนะ”
คนตัวสูงกระตุกยิ้มโน้มใบหน้าหล่อเข้าไปเอ่ยกระซิบข้างหูของสาวรุ่นน้องเสียงเบาที่ได้ยินกันแค่สองคน ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาอยู่ในระดับเดียวกันกับน้ำค้าง ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนจนหูแดง พลันทำให้ใจดวงน้อยส่งเสียงเต้นดังคล้ายกับกลองที่กำลังถูกตีรัว
“อี๋ ไอ้โรคจิต เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะ”
น้ำค้างสูดหายใจเพื่อเรียกสติแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น พร้อมกับคำต่อว่าแบบไม่ดังมาก รีบจ้ำอ้าวหนีไปขึ้นรถด้วยอาการเขินอายอย่างบอกไม่ถูก
เธอจะมาแพ้ให้กับมุกอ่อยสาวของคนแบบนี้ไม่ได้นะ อย่าหลงกลผู้ชายคนนี้เป็นอันขาด
*****
หลายอาทิตย์ต่อมา
เทอมนี้ฉลามลงเรียนเต็มทุกคาบเพราะต้องเคลียร์หน่วยกิตให้สอบผ่านตามแพลนที่วางไว้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับออกสหกิจศึกษาตอนปีสี่ภาคเรียนที่หนึ่ง
ฉลามเดินไปยังลานจอดรถหลังจากเรียนเสร็จ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ส่งเสียงดังขึ้น หลังจากหยิบขึ้นมาดูชื่อคนที่โทรเข้ามาริมฝีปากหยักก็กระตุกยิ้ม ปล่อยให้เสียงเรียกเข้าดังอยู่สักพักค่อยกดรับ
“ว่าไงยัยตัวแสบ”
(พี่เลิกเรียนรึยัง)
เสียงของปลาดาวเอ่ยถาม เธอคือน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ตอนนี้เรียนอยู่มอหกและกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เหมือนกัน และที่โทรเข้ามาไม่รู้ว่าเพราะคิดถึงพี่ชายหรือมีเรื่องให้เขาปวดหัวกันแน่
“อืม มีอะไร”
(อยู่กับพี่ทะเลไหม)
“นี่จะโทรมาหาพี่หรือจะโทรหาพี่ชายของเธออีกคน”
น้องสาวของเขาค่อนข้างสนิทกับทะเล เพื่อนของเขาเคยไปเที่ยวที่บ้านบ่อยครั้ง และยังเคยไปเลี้ยงวันเกิดของปลาดาว ด้วยความใจดีและสุภาพของทะเลก็ส่งผลให้น้องสาวของเขามีพฤติกรรมดีขึ้น
(ก็ฉันมีการบ้านจะให้พี่ทะเลสอน หรือว่าพี่จะสอนฉันล่ะ)
“แค่นี้ก่อนนะ พี่ไม่ได้อยู่กับมัน เธอช่วยเหลือตัวเองไปก่อน ไม่งั้นก็ให้เพื่อนช่วยคิด”
คราแรกกะจะช่วยเหลือน้องสาวอยู่หรอก แต่สายตาของเขาดันเห็นรถของน้ำค้างขับผ่าน จึงเร่งฝีเท้าเดินไปที่รถ แล้วขับตามเธอออกไป ขณะที่มือถือก็กดเปิดลำโพง
(ฉันจะฟ้องแม่ว่าพี่หนีเที่ยวอีกแล้ว)
“ไม่ได้หนีเที่ยว เอางี้ ตอนนี้พี่ไม่ว่าง เดี๋ยวกลับถึงห้องแล้วจะไปหาไอ้ทะเลที่ห้องของมันให้ แล้วให้มันโทรกลับ โอเคไหม”
ฉลามเอ่ยต่อรองกับน้องสาว แม้ว่าเขาจะมอบความไว้วางใจให้เพื่อนรักอย่างทะเลคอยดูแลและสอนการบ้านตอนที่ปลาดาวโทรมาขอความช่วยเหลือ แต่ทุกครั้งก็ต้องผ่านพี่ชายอย่างเขาเสมอ
(โอเค ฉันจะรอ)
หลังจากวางสายของน้องสาว เขาก็จับจ้องไปยังรถตรงหน้าแล้วขับตามไปจนกระทั่งรถของน้ำค้างจอดที่ร้านคาเฟแห่งหนึ่ง ฉลามจึงขับไปจอดตรงที่ว่างแล้วดับเครื่องยนต์
“อุแว้ อุแว้…”ทารกน้อยเปล่งเสียงร้องเมื่อตื่นขึ้นลืมตาดูโลกในวินาทีแรกที่คลอดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ฉลามได้เข้าไปให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงของเมียอยู่ไม่ห่าง ทั้งสองต่างหันจ้องมองกัน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความสุขที่เฝ้าทะนุถนอมเด็กน้อยในท้องมาตลอดเก้าเดือน แต่ตอนนี้ได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากทำความสะอาดร่างกายและตรวจเบื้องต้นเสร็จหมอก็อุ้มมาวางไว้แนบอกของผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มอบน้ำนมหยดแรกให้เจ้าตัวน้อยได้ดื่มกินหยาดน้ำตาของน้ำค้างร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโล่งและดีใจที่ได้เห็นลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มมีส่วนคล้ายทั้งพ่อและแม่อย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นลูกของใครฉลามเลื่อนมือไปลูบลูกสาวผ่านผ้าอ้อมสีขาวที่ทางโรงพยาบาลใช้ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยอย่างเบามือ ทั้งสองไม่เคยคาดหวังจึงไม่เคยผิดหวังว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอเพียงเป็นลูกที่เกิดจากทั้งสองคน พวกเขาก็พร้อมที่จะรักและเอ็นดูไม่ต่างกัน รวมถึงพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยคาดหวังในเรื่องนี้เช่นกันว่าจะต้องได้หลานชายเป็นคนแรก“หลานของพวกเรามาแล้ว”นภา แม่ของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ครบกำหนดสองอาทิตย์ที่น้ำค้างขอเวลาจากผู้เป็นพ่อ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างคนที่เธอคิดถึงมาตลอด คอยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม สานต่อธุรกิจที่พ่อและแม่สร้างร่วมกันมา และเก็บรักษาไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวสามเดือนหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากฝากชีวิต อยู่ดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าหาดทรายสีขาวด้านหน้าร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉลามได้ถูกเนรมิตให้เป็นงานแต่งสุดเรียบหรู พิธีสำคัญได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าร้านอาหารของครอบครัวฝ่ายชายได้ถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งสองครอบครัวต่างปลื้มปิติไม่ต่างจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ได้เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันงานเลี้ยงจบลงคู่บ่าวสาวก็อยู่กันตามลำพังที่เรือนหอชั่วคราว นั่นก็คือห้องของฉลาม คืนนี้พ่อและแม่ของเขาเต็ม
“คุณนิรุตช่วยผมดูนี่หน่อยสิ”“อะไรเหรอครับ”นิรุตปรายตามองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ชยันต์เปิดไฟล์วิดีโอ แล้วหันหน้าจอมาทางเขา ก่อนจะกดปุ่มเอ็นเทอร์เพื่อเล่นภาพเคลื่อนไหว(อะ อ๊า… แรงอีกค่ะ ช่อชอบที่คุณตอกแรง ๆ)(คุณช่วยบดลงมาด้วย ซี้ด… อย่างนั้นแหละ)“ว้าย นี่มันอะไรกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากคลิปวิดีโอ จึงตกใจรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปโอบกอดหน้าจอ หวังใช้ตัวบังภาพอันน่าอายซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นภาพของใครชู้รักทั้งสองคนใบหน้าร้อนชาส่งสายตามองกันอย่างผวา ชยันต์เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน“นี่คุณแอบติดกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”“หึ ถ้าคุณรู้ว่าก็คงไม่มีหลักฐานคาตาว่าคนที่ผมไว้ใจทั้งสองคนกำลังแอบเล่นชู้กันอยู่”“คุณชยันต์ครับ ฟังผมอธิบายก่อน”“รอไปคุยกันในชั้นศาลเถอะ คุณถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงินของโรงแรม และร่วมมือกันวางยาผม คุณก็เหมือนกันคุณช่อ ผมจะฟ้องคุณในฐานสมรู้ร่วมคิดและฟ้องชู้ พวกคุณทั้งคู่เตรียมตัวกันได้เลย”“กรี๊ด… คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นเมียคุณ ฉันดูแลคุณมาตั้งนาน”“หึ แล้วเมียทำกับผัวแบบนี้เหรอ ผมไว้ใจคุณ คอยดูแลคุณ
สองเดือนต่อมา“วันนี้ผู้จัดการโรงแรมจะมาหาคุณชยันต์ที่บ้าน ฝากกำชับทุกคนด้วยว่าอย่าขึ้นไปยุ่มย่ามที่ชั้นสองเด็ดขาด เข้าใจไหม”นายหญิงของบ้านเอ่ยสั่งแม่บ้านเก่าแก่ให้ฝากไปบอกกับคนอื่น ๆ เนื่องจากช่วงนี้ชยันต์ไม่สบาย จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่โรงแรมได้“ค่ะคุณช่อ”“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำงานสิ มัวมายืนบื้ออยู่ทำไม”“ค่ะ”ช่อผกาออกคำสั่งเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเข้าไปหาสามีที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าในห้องทำงาน เธอยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ เลื่อนแขนทั้งสองข้างสวมกอดรอบคออย่างที่เคยทำเป็นประจำ“คุณกำลังไม่สบายอยู่ อย่าเอาแต่ทำงานสิคะ”“ผมยังมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีกเยอะ แล้วก็นัดนิรุตไว้ตอนบ่ายสามด้วย”นิรุตเป็นบุคลากรที่เขาเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน เป็นคนที่คัดเลือกมากับมือให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาตำแหน่งอื่น ๆ รองจากเขา ชยันต์ไว้ใจนิรุตเป็นอย่างมาก หวังจะให้สอนน้ำค้างหลังจากเธอกลับมาดำรงตำแหน่งเดียวกัน เพราะว่าอีกไม่กี่ปีลูกน้องที่เขาเชื่อมั่นก็จะเกษียณแล้ว“งั้นเดี๋ยวฉันลงไปเอาข้าวกับยามาให้นะคะ”ชยันต์มองแผ่นหลังของภรรยาเดินออกจากห้อง สักพัก
ประเทศออสเตรเลีย“ห่างแค่คืนเดียวก็คิดถึงใจจะขาด พี่คิดถึงฉันไหม”น้ำค้างลงจากเครื่องแล้วเดินทางไปถึงบ้านของผู้เป็นแม่ ก็รีบตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไปหาฉลามทันที และดีที่มันตรงกับช่วงพักเที่ยง เขาจึงมีเวลารับสาย(คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมากด้วย)“พี่ฉลาม ฉันมีอะไรจะให้ดู”ฉลามจ้องมองแฟนสาวในหน้าจอมือถือ เหมือนว่าเธอกำลังเอื้อมหยิบอะไรบางอย่าง ก่อนจะพบว่ามันเป็นสมุดโน้ต แล้วเธอก็เปิดไปยังหน้าที่ต้องการให้เขาดู(ดอกสแตติส)“ใช่ค่ะ ฉันสตัฟฟ์ไว้ในสมุด จะเอาพกติดตัวไปเรียนทุกวันเลย”(หึ น่ารักจัง พี่ก็มีเหมือนกัน)“อะไรเหรอคะ”จากนั้นเขาก็หยิบกิ๊บติดผมที่เป็นโบว์สีชมพูขนาดเล็กที่เธอชอบใช้ขึ้นมาโชว์ให้ดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อไปให้แฟนสาวที่เผยรอยยิ้มหวานจนหน้าแดง“แอบขโมยไปตอนไหนเนี่ย ถึงว่าหาไม่เจอเลย”(เอามาตั้งแต่เริ่มทำงาน)“พี่น่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงโคตรรักพี่มากเลย”(พี่ก็โคตรรักเธอเหมือนกัน)“คิกคิก”(หึหึ)ทั้งสองต่างหยอกล้อด้วยคำบอกรัก ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่อยู่ไกลกันก็ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในทุกวันยังสามารถโทรคุยแบบเห็
ทางด้านช่อผกา“ฉันได้ยินคุณชยันต์บอกว่านังเด็กน้ำค้างจะไปเรียนต่ออยู่กับแม่ของมันที่เมืองนอก เห็นทีอนาคตที่ฉันคิดไว้ว่าจะให้แกรับช่วงต่อโรงแรมก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ช่อผกาเข้าไปหาลูกสาวในห้อง ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ปิดภาคเรียนแล้ว และยิปโซก็เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาวันแรก เนื่องจากช่วงก่อนเธอได้ขอผู้เป็นแม่ออกไปอยู่ข้างนอก นั่นก็คือไปอยู่ที่คอนโดของเคน เพื่อหลีกเลี่ยงถ้อยคำชักจูงของผู้เป็นแม่ให้ทำในสิ่งที่เธอไม่เต็มใจ แล้วที่กลับมาบ้านก็เพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพราะว่าต้องไปฝึกงานที่ต่างประเทศสามเดือน“แม่ แต่ฉันไม่ได้อยาก…”ช่อผการีบยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของยิปโซ ถลึงตาใส่ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกร้าว“แกหุบปากไปเลย ฉันเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหนก็น่าจะรู้ ทำไมไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณฉันบ้างฮะ แกจะโง่เรียนจบมาแล้วมาเป็นขี้ข้าคนอื่นหรือไง ได้นั่งอยู่ในห้องผู้บริหารแค่ชี้นิ้วสั่งลูกน้องแล้วมันไม่ดียังไง”“มันไม่ดีตรงที่มันไม่ใช่ของเราไงแม่”“นังโง่ แกเป็นลูกแม่ แม่เป็นเมียคุณชยันต์ ของผัวก็เหมือนของเมีย แล้วมันจะไม่ใช่ของเราได้ยังไง แกไม่ต้องคิดจะอ้าปากเถียง รีบเรียนให้จบแล้วกลับมาช่