ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่ฉลาม”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่ฉลาม ตื่นเร็ว”
เสียงของน้องสาวดังรบกวนเวลานอนของเขา วันนี้เป็นวันที่ฉลามจะต้องไปส่งปลาดาวย้ายเข้าไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เพราะใกล้จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วัน แต่เปลือกตาของเขาที่ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ยัยตัวแสบนี่เล่นกูแล้ว”
คนถูกรบกวนเอ่ยพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเพื่อเรียกสติที่ยังมาไม่ครบ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเอาคืนหรืออย่างไร ที่เมื่อสามปีก่อนเขาให้เธอออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขนของไปไว้หอพัก เพราะโกหกว่าต้องไปถึงก่อนเก้าโมง
แต่นี่มันเพิ่งจะตีห้าครึ่ง อยากจะบ้าตาย
ตั้งแต่จัดกระเป๋าและเตรียมของที่จำเป็นเมื่อวาน ปลาดาวก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และวันนี้ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะมาปลุกคนขี้เกียจสันหลังยาวให้ตื่นมาเตรียมตัว
ครืด ครืด…
(ตื่นแล้ว จะโทรมาทำไมอีก)
ฉลามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายของน้องสาวที่โทรมากวน แค่เคาะประตูเรียกก็ทำเอาตื่นกันทั้งบ้านแล้ว ยังจะโทรมาหาอีก
“ก็เรียกไม่ตอบ นึกว่าซ้อมตาย”
(แล้วจะมากวนอะไรแต่เช้า นี่มันเพิ่งตีห้าครึ่ง นาฬิกาที่ห้องเสียรึไง)
“ไม่เสีย แต่อยากตื่นแล้ว ตื่นเต้นอะ รีบตื่นเลยจะได้ออกบ้านแต่เช้า เดี๋ยวรถติด”
ใช้คำเดียวกันเป๊ะ เฮ้อ ปลาดาวคงกะเอาคืนเขาแน่ ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สองพี่น้องก็ออกจากห้องมาพร้อมกัน ฉลามช่วยน้องสาวขนของไปใส่ไว้หลังรถ ก่อนจะพากันเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมหน้าสี่คนพ่อแม่ลูก และเช้านี้ก็เป็นเมนูย่อยง่ายอย่างข้าวต้มปลาที่ผู้เป็นแม่ลงมือทำ
หลังจากกินข้าวเสร็จ พ่อกับแม่ก็เดินออกมาส่งที่รถ เนื่องจากฉลามได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดตั้งแต่เรียนปีสอง เลยต้องนำรถอีกคันไปใช้ และเทอมนี้ก็ต้องเดินทางไปออกสหกิจศึกษาที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้สมัครไว้
“ตั้งใจเรียนนะปลาดาว อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเอง แล้วโทรมาหาพ่อกับแม่บ่อย ๆ ล่ะ”
นภาจับมือของลูกสาวเอามากอบกำ ตอนฉลามย้ายไปเรียนที่นั่นยังไม่ห่วงเท่าลูกสาวคนเล็ก เพราะอย่างน้อยฉลามก็กลับมาบ้านในช่วงแรกบ่อย มาพร้อมกับเพื่อนของเขา แต่พอขึ้นปีสองก็เริ่มอยู่ที่นั่นยาว จะกลับมาก็ช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอมเท่านั้น
แต่พอปลาดาวได้เข้ามหาวิทยาลัย พี่ชายก็ถึงวัยที่จะต้องออกไปหาประสบการณ์การฝึกงานตลอดทั้งเทอม ทำให้ปลาดาวต้องอยู่หอพักยาวตลอดสี่เดือนกว่าจะได้กลับมาบ้าน
“พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูเอาตัวรอดได้อยู่แล้วค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเข้าไปสวมกอดพ่อกับแม่ให้พวกท่านคลายความกังวล
“ขับรถพาน้องไปดี ๆ นะฉลาม”
“ครับแม่ ผมไปก่อนนะครับ”
ฉลามทำหน้าที่ขับรถพาน้องสาวมุ่งหน้าไปหอพักของมหาวิทยาลัย และก็ไปถึงที่นั่นในเวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบห้านาที
“มาเช้าเกิน ยังลงทะเบียนไม่ได้เลย”
“อีกแค่สิบห้านาทีเองปะ รอแค่นี้ไม่ได้เหรอ”
ฉลามได้แต่ถอนหายใจใส่น้องสาว แล้วนั่งรออยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งชั้นล่างของหอพัก ได้มีเอกสารสำหรับลงทะเบียนมาวางไว้บนโต๊ะ ก็พาน้องสาวเข้าไปเซ็นชื่อเข้าพัก และช่วยกันขนของขึ้นไปไว้บนห้อง
แม้ว่าจะเป็นหอพักหญิงที่มีกฎชัดเจนว่าห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่ได้พักในหอนี้เข้าไป แต่วันนี้เป็นวันแรกที่มีการขนของย้ายเข้า และฉลามก็มาในนามของพี่ชาย จึงสามารถขึ้นไปได้ชั่วคราว ขนของเสร็จแล้วก็ให้ลงมาทันที
“แล้วนี่เพื่อน ๆ ยังไม่มากันสักคน อยู่บนห้องคนเดียวได้เหรอ”
ฉลามถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอมักจะอยู่แปลกที่คนเดียวไม่ได้
“ฉันไปนั่งรอข้างล่างดีกว่า ถ้าพี่รีบก็กลับไปก่อนได้เลย”
“หมดประโยชน์แล้วก็ไล่”
“อ้าว หรือจะอยู่ช่วยจัดของล่ะ”
“ไม่เอาอะ กลับห้องดีกว่า อยากกลับไปนอนจะแย่”
“ไอ้คนขี้เกียจ”
สองพี่น้องโต้เถียงกันไม่กี่ประโยคก็พากันปิดห้อง แล้วลงมาด้านหน้าหอพักเพราะปลาดาวก็ไม่อยากอยู่บนห้องคนเดียวตามลำพัง
“จะไปแล้วนะ ติดขัดอะไรก็โทรมา เพราะเทอมนี้ไม่ได้เข้ามหา’ ลัย แต่ไอ้ทะเลมันยังมาเรียนอยู่ ถ้ามีอะไรก็ไปหามันแล้วกัน”
ฉลามได้ฝากฝังน้องสาวให้เพื่อนช่วยดูแล เพราะเพื่อนของเขานั้นฝึกงานไปแล้วช่วงปิดภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา
“อื้อ” หญิงสาวขานรับในลำคอ พลางอมยิ้มเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เธออยากเจอ
พี่ชายขับรถออกไปแล้ว ปลาดาวก็นั่งเล่นมือถืออยู่ที่ม้าหินอ่อนด้านหน้าหอพัก เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อนรักของเธอก็ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับครอบครัว
“ปลาดาว ฉันมาแล้ว”
ประตูรถถูกเปิดออกเสียงของเพื่อนรักก็ดังขึ้นมาทันที เธอจึงลุกออกจากม้าหินอ่อนแล้วเดินเข้าไปหา
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า”
ปลาดาวยกมือไหว้พ่อแม่ของเพื่อนที่มาส่งลูกสาวด้วยตัวเอง ก่อนจะเอ่ยกับลูกตาล
“แล้วนี่เอาของมาเยอะรึเปล่า เดี๋ยวฉันช่วยขนขึ้นไป”
“มีกระเป๋าสองใบ กับอีกหนึ่งกล่อง”
ลูกตาลเข้าไปเซ็นชื่อเสร็จแล้วก็ล่ำลาพ่อแม่ ปลาดาวก็ช่วยขนของที่เพื่อนนำมาด้วยขึ้นบนห้อง ดีที่ว่าได้อยู่ชั้นสอง เลยไม่ต้องเหนื่อยเหมือนคราที่ได้มาช่วยพี่ชาย
“แล้วนี่แกขนอะไรมาเยอะแยะ”
ลูกตาลเห็นกระเป๋าของเพื่อนสองใบ ไหนจะกล่องผ้าสำหรับใส่ของอีกสองใบใหญ่
ปลาดาวเดินไปนั่งที่เตียงของเธอ แล้วชี้ไปที่สัมภาระที่นำมาจากบ้าน
“อันนี้เสื้อผ้า อันนี้ของใช้ทั่วไป ส่วนกล่องนี้เป็นพวกหมอนกับผ้าห่ม และนี่ก็เป็นของสะสมที่ฉันอยากนำมาด้วย”
“ของสะสมอะไรอะ”
ลูกตาลลุกออกจากเตียงเดินเข้าไปหาเพื่อนด้วยความอยากรู้ ปลาดาวก็เปิดกระเป๋าใบเล็กแล้วหยิบของสะสมขึ้นมาวางบนเตียง
มีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจากเพื่อนพี่ชาย แล้วก็มีกระเป๋าหน้าแมวที่พี่ชายของเธอเป็นคนซื้อให้ และมีของอื่น ๆ อีกสองสามอย่าง
ส่วนสร้อยข้อมือที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนอยู่ชั้นมอห้า เธอเก็บรักษาไว้ในกล่องเป็นอย่างดีตลอดสองปี และวันนี้เธอได้นำสวมไว้ที่ข้อมือตั้งแต่ก่อนออกบ้าน
ส่วนวันเกิดตอนอยู่ชั้นมอหก เธอไม่ได้รับของขวัญที่สามารถเก็บเอาไว้ได้ เนื่องจากพี่ชายได้แวะซื้อขนมที่ร้านเบเกอรีเจ้าดังในเมืองมาให้ ส่วนพี่ทะเลก็ซื้อเค้กวันเกิดมาเช่นกัน ทุกคนก็ได้ร่วมฉลองกันแบบเป็นกันเองที่ร้านอาหารริมหาดพร้อมด้วยพ่อแม่ และลูกตาลที่ไม่พลาดงานวันเกิดของเธอเลยสักปี
ก๊อก ก๊อก!!!
เสียงเคาะดังขึ้นสองที ปลาดาวกับลูกตาลก็หันไปมองอย่างพร้อมเพรียง และประตูก็ได้ถูกเปิดเข้ามาโดยรูมเมตอีกสองคนที่จะมานอนในห้องนี้ด้วย
“สวัสดี ฉันชื่อฮารุ”
“ฉันชื่อมีนา ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
แล้วลูกตาลกับปลาดาวก็เผยรอยยิ้มให้คนมาใหม่อย่างเป็นมิตร และก็ได้แนะนำตัวกลับไปเช่นเดียวกัน
อีกสองคนนำกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ที่นำติดตัวมาไปวางไว้ที่เตียงของตัวเอง ระหว่างที่พากันจัดเก็บข้าวของก็พูดคุยทำความรู้จักกันไปด้วย และนั่นก็ทำให้รู้ว่าทุกคนเรียนสาขาการตลาดด้วยกันทั้งหมด จะว่าโชคดีมากเลยก็ว่าได้ที่ได้รูมเมตเรียนด้วยกัน
หลายเดือนต่อมาก๊อก ก๊อกปลาดาวที่กำลังกลับมาถึงห้องได้ไม่นานก็หันมองไปยังประตูที่มีเสียงเคาะดังขึ้นด้วยความแปลกใจ วันนี้เป็นวันพุธจะว่าเป็นแฟนหนุ่มก็คงไม่น่าใช่ แต่เธอก็ไม่ได้นัดเพื่อนให้มาหาที่ห้อง จึงได้ลุกออกจากโซฟาเดินไปที่ประตูเพื่อแอบดูว่าเป็นใคร“ใครคะ”หญิงสาวเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปที่ตาแมวซึ่งติดอยู่ตรงประตู ริมฝีปากอวบอิ่มก็เผยรอยยิ้มขึ้น รีบหมุนลูกบิดเปิดออกไป โผเข้าสวมกอดคนที่กางแขนพร้อมรับ“มาได้ยังไงคะ มีธุระแถวนี้เหรอ”“เปล่าครับ พี่ตั้งใจมาหาเรา”“มาหาหนูเหรอคะ”ปลาดาวผละตัวออกเล็กน้อยช้อนสายตาขึ้นมองแฟนหนุ่ม ก่อนจะก้มลงมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่เขานำมาด้วย ซึ่งรอบนี้ก็เป็นใบใหญ่กว่าทุกครั้ง“เข้าไปในห้องกันเถอะครับ”ปลาดาวพยักหน้ารับ ทะเลก็ก้มลงหยิบกระเป๋านำไปเก็บไว้ในห้องนอนโดยที่มีแฟนสาวเดินตามเข้าไปด้วย“พี่ตั้งใจมาอยู่กับเราจนกว่าจะสอบเสร็จ”ทะเลหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง คว้าเอาตัวของแฟนสาวนั่งลงบนตักแล้วเอ่ยกระซิบข้างหู อีกสามอาทิตย์ปลาดาวก็จะสอบปลายภาคและเรียนจบหลักสูตรปริญญาตรีแล้ว เขาจึงรีบเคลียร์งานที่สำคัญแล้วมาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโด“มาอยู่นานแบบนี้ไม่กระทบกั
ระยะเวลาเกือบสามเดือนที่ปลาดาวมาฝึกงานที่รีสอร์ตของแฟนหนุ่ม ก็ทำให้ทั้งสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่เวลามันก็ผ่านไปเร็วจนน่าใจหาย เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดภาคเรียน ปลาดาวก็ต้องกลับไปเรียนต่ออีกปีหนึ่งก็จะจบการศึกษา ส่วนทะเลก็มีหน้าที่ของตนต้องดูแลธุรกิจอยู่ที่นี่ ทั้งคู่จึงทำได้เพียงโทรคุยกันเหมือนที่ผ่านมา และเจอกันช่วงเย็นวันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์เขาก็เดินทางกลับเย็นนี้เหล่าพนักงานจึงร่วมใจกันจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อเลี้ยงส่งให้กับปลาดาว เธอจึงได้ขออนุญาตพ่อแม่มานอนค้างที่บ้านแฟนหนุ่มหนึ่งคืนหลังจากงานเลี้ยงจบลงในเวลาสามทุ่มกว่าพนักงานก็พากันกลับ ทะเลจึงพาแฟนสาวไปที่บ้านเล็ก ซึ่งปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับบ้านของพ่อแม่ แต่บ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาที่พักอาศัยอยู่ตามลำพัง“หน้าเราแดงมากเลยนะ เมารึเปล่าครับ”ทะเลโอบเอวแฟนสาวเข้ามาแนบชิด ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบพวงแก้มที่แดงปลั่ง ดวงตาหวานหยาดเยิ้มเงยขึ้นมองพร้อมกับรอยยิ้ม“เมาค่ะ เมามากด้วย แต่ว่า…”“แต่ว่าอะไรครับ”“แต่ว่าไม่ได้เมาเหล้า แต่เป็นเมารักพี่ คิกคิก”ปลาดาวส่งเสียงหวานหัวเราะชอบใจ ตอนนี้เธอเมาระดับหนึ่งแต่ก็ยั
สองปีต่อมาตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ทะเลได้ขับรถออกจากบ้านแต่เช้ามุ่งหน้าไปยังบ้านของแฟนสาว พอเปิดประตูลงจากรถก็เจอกับแม่ของเธอที่กำลังเดินออกมาหน้าบ้านก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง“มาแต่เช้าเลยนะจ๊ะ”“สวัสดีครับ ผมมารับปลาดาวไปฝึกงานครับ”“แล้วนี่กินข้าวกินปลามารึยัง”นภาเอ่ยถามแฟนลูกสาวแต่คิดว่าทะเลคงยังไม่ได้กินอะไรก่อนออกจากบ้านมา เพราะนี่มันก็เพิ่งจะเจ็ดโมง คงจะตื่นเต้นเลยรีบออกจากบ้านมาแต่เช้า“ยังเลยครับ”“รอน้องแป๊บนึงนะ ปลาดาวคงกำลังแต่งตัวอยู่ข้างบน”“ครับ ผมรอได้”ทะเลเดินตามแม่ของแฟนสาวเข้าไปในครัว แล้วอาสาช่วยตักอาหารไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าว“ค่อย ๆ เดินก็ได้ปลาดาว ดูยัยลูกสาวคนนี้ ซนไม่เคยเปลี่ยน”ปลาดาววิ่งลงบันไดมาด้วยใบหน้าสดใส นภาเห็นแล้วก็ได้แต่ส่งเสียงเอ็ดพลางยกยิ้มส่ายหน้าไปมา คงดีใจที่ทะเลมารับแต่เช้า ก่อนที่ปลาดาวจะเดินอมยิ้มเข้ามาหาแล้วสวมกอดแขนของผู้เป็นแม่ ก่อนจะส่งยิ้มหวานทักทายแฟนหนุ่มที่ช่วยแม่ของเธอเตรียมมื้อเช้าเสร็จแล้ว ทะเลก็ได้นั่งกินข้าวกับครอบครัวของปลาดาว แต่ก็ขาดเพื่อนรักไปหนึ่งคนสองปีมานี้ฉลามก็ได้ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้กับที่ทำงาน เขาทำงานในตำแหน
สองเดือนต่อมาพี่ชายของเธอและแฟนหนุ่มก็ได้ส่งโปรเจกต์ผ่านเรียบร้อยแล้ว หลังจากสอบปลายภาคเสร็จทั้งสามคนก็พากันกลับไปเยี่ยมคนที่บ้านปลาดาวได้นั่งรถไปกับทะเล ปล่อยให้พี่ชายของเธอขับรถไปเอง และพอไปถึงก็เข้าไปหาพ่อกับแม่ที่ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่”หญิงสาวเอ่ยทักทายบิดามารดา ก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่ของเธอให้หายคิดถึง“สวัสดีครับ” ฉลามยกมือไหว้พ่อและแม่ของตน“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”“ทะเลก็มาด้วยกันเหรอจ๊ะ ดีเลย เที่ยงนี้ก็กินข้าวด้วยกันที่ร้านนะ”นภาเอ่ยกับเพื่อนของลูกชาย ฉลามเห็นดังนั้นก็กระตุกยิ้มคิดในใจ ว่าที่แม่กำลังชวนอยู่น่ะคือว่าที่ลูกเขย แต่ว่าเรื่องนี้ได้รับปากน้องสาวเอาไว้แล้วว่าเธอจะเป็นคนบอกด้วยตัวเอง เขาจึงทำได้แค่เงียบหลังจบมื้ออาหารที่วันนี้นภาตั้งใจเข้าครัวที่ร้านเพื่อลงมือทำต้อนรับลูกทั้งสอง รวมทั้งเพื่อนสนิทของลูกชายอย่างสุดฝีมือ ทะเลก็ได้จับมือปลาดาวที่นั่งอยู่เก้าอี้ถัดจากเขาข้างใต้โต๊ะ ก่อนที่ใจดวงน้อยจะเต้นระรัวไปด้วยความลุ้นระทึก“คุณลุงคุณป้าครับ ผมมีเรื่องอยากขออนุญาต”“เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ” นภาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง“พ่อคะ แม่คะ หนูกับพี่ทะเลเรากำล
หลายวันต่อมาหลังจากเรียนเสร็จแฟนหนุ่มใจดีของเธอก็อาสาพาเพื่อน ๆ ไปนั่งเล่นกันที่ร้านคาเฟซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ร้านนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ด้านหลังเป็นสวนที่มีน้ำตก มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น น่านั่งจิบกาแฟยามบ่ายสุด ๆทั้งห้าคนได้เข้าไปจับจองโต๊ะว่างที่อยู่ข้างน้ำตกให้ฟีลแบบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อยแต่แล้วก็มีลูกค้าสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ทำการสั่งขนมเค้กและสตรอว์เบอร์รีสมูททีที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะว่างเย็นนี้เชอร์รีมีนัดกับหนุ่มนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ที่ร้านนี้ โดยที่เขาบอกให้เธอมาสั่งอาหารรอแล้วจะรีบตามมา และพอเธอได้รับของที่สั่งก็เลื่อนมือไปหยิบแก้วสมูททีขึ้นมาดื่ม แต่แล้วสายตาที่กวาดมองสำรวจไปรอบร้าน ก็สะดุดเข้ากับคนรู้จักมือเล็กจับแก้วน้ำปั่นเอาไว้แน่นราวกับอยากให้แตกละเอียดคามือ เธอได้แต่กัดกรามแน่น จ้องคนกลุ่มนั้นด้วยดวงตาแข็งกร้าวคนที่หันหน้ามาทางเธอนั่นก็คือหนุ่มรุ่นพี่กับปลาดาว แล้วตอนนี้เพื่อนร่วมสาขาก็กำลังตักอาหารป้อนเข้าปากชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้กัน เห็นแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาที่ท
นับตั้งแต่เป็นแฟนกัน ทะเลก็รีบออกจากคอนโดแต่เช้าเพราะได้บอกกับแฟนสาวเอาไว้ว่าจะมากินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารของคณะในช่วงเช้า กลางวัน ส่วนตอนเย็นก็จะพาเธอออกไปกินข้าวข้างนอกเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ก่อนจะกลับมาส่งเธอที่หอพักในเวลาสองทุ่มทะเลมักจะมาถึงโรงจอดรถก่อนเวลานัดหมาย แล้วก็รีบเดินเท้าไปนั่งรอปลาดาวที่ม้าหินอ่อนหน้าหอพัก“แฟนใครมาโน่นแล้ว” ลูกตาลเห็นออร่าความหล่อของแฟนเพื่อนตั้งแต่ลงบันไดมาจึงได้เอ่ยแซวปลาดาวระบายยิ้มรีบเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มที่เสมอต้นเสมอปลาย มานั่งรอเธอก่อนเวลาในทุกคราที่เธอมีเรียนในช่วงเช้า ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยก็ได้ เธอเข้าใจว่าเวลาเรียนของทั้งสองคนนั้นต่างกัน แต่ทะเลก็อยากมีเวลาให้แฟนสาวของเขาให้ได้มากที่สุด“มารอนานรึยังคะ”“เพิ่งมาถึงได้ไม่นานครับ” ทะเลระบายรอยยิ้มหล่ออย่างคิดถึง ไม่ต่างจากหญิงสาว“จ้องกันนานแบบนี้ เดี๋ยวก็ท้องหรอกค่ะ คิกคิก”ฮารุเอ่ยแซวขัดจังหวะคนทั้งสองที่เอาแต่ส่งยิ้มจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่ทะเลและปลาดาวจะหลุดขำในลำคอ แล้วทุกคนก็พากันเดินไปยังโรงอาหาร โดยที่ทะเลได้อาสาช่วยถือหนังสือที่ปล