ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่ฉลาม”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
“พี่ฉลาม ตื่นเร็ว”
เสียงของน้องสาวดังรบกวนเวลานอนของเขา วันนี้เป็นวันที่ฉลามจะต้องไปส่งปลาดาวย้ายเข้าไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เพราะใกล้จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วัน แต่เปลือกตาของเขาที่ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ยัยตัวแสบนี่เล่นกูแล้ว”
คนถูกรบกวนเอ่ยพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเพื่อเรียกสติที่ยังมาไม่ครบ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเอาคืนหรืออย่างไร ที่เมื่อสามปีก่อนเขาให้เธอออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขนของไปไว้หอพัก เพราะโกหกว่าต้องไปถึงก่อนเก้าโมง
แต่นี่มันเพิ่งจะตีห้าครึ่ง อยากจะบ้าตาย
ตั้งแต่จัดกระเป๋าและเตรียมของที่จำเป็นเมื่อวาน ปลาดาวก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และวันนี้ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะมาปลุกคนขี้เกียจสันหลังยาวให้ตื่นมาเตรียมตัว
ครืด ครืด…
(ตื่นแล้ว จะโทรมาทำไมอีก)
ฉลามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายของน้องสาวที่โทรมากวน แค่เคาะประตูเรียกก็ทำเอาตื่นกันทั้งบ้านแล้ว ยังจะโทรมาหาอีก
“ก็เรียกไม่ตอบ นึกว่าซ้อมตาย”
(แล้วจะมากวนอะไรแต่เช้า นี่มันเพิ่งตีห้าครึ่ง นาฬิกาที่ห้องเสียรึไง)
“ไม่เสีย แต่อยากตื่นแล้ว ตื่นเต้นอะ รีบตื่นเลยจะได้ออกบ้านแต่เช้า เดี๋ยวรถติด”
ใช้คำเดียวกันเป๊ะ เฮ้อ ปลาดาวคงกะเอาคืนเขาแน่ ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สองพี่น้องก็ออกจากห้องมาพร้อมกัน ฉลามช่วยน้องสาวขนของไปใส่ไว้หลังรถ ก่อนจะพากันเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมหน้าสี่คนพ่อแม่ลูก และเช้านี้ก็เป็นเมนูย่อยง่ายอย่างข้าวต้มปลาที่ผู้เป็นแม่ลงมือทำ
หลังจากกินข้าวเสร็จ พ่อกับแม่ก็เดินออกมาส่งที่รถ เนื่องจากฉลามได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดตั้งแต่เรียนปีสอง เลยต้องนำรถอีกคันไปใช้ และเทอมนี้ก็ต้องเดินทางไปออกสหกิจศึกษาที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้สมัครไว้
“ตั้งใจเรียนนะปลาดาว อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเอง แล้วโทรมาหาพ่อกับแม่บ่อย ๆ ล่ะ”
นภาจับมือของลูกสาวเอามากอบกำ ตอนฉลามย้ายไปเรียนที่นั่นยังไม่ห่วงเท่าลูกสาวคนเล็ก เพราะอย่างน้อยฉลามก็กลับมาบ้านในช่วงแรกบ่อย มาพร้อมกับเพื่อนของเขา แต่พอขึ้นปีสองก็เริ่มอยู่ที่นั่นยาว จะกลับมาก็ช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอมเท่านั้น
แต่พอปลาดาวได้เข้ามหาวิทยาลัย พี่ชายก็ถึงวัยที่จะต้องออกไปหาประสบการณ์การฝึกงานตลอดทั้งเทอม ทำให้ปลาดาวต้องอยู่หอพักยาวตลอดสี่เดือนกว่าจะได้กลับมาบ้าน
“พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูเอาตัวรอดได้อยู่แล้วค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเข้าไปสวมกอดพ่อกับแม่ให้พวกท่านคลายความกังวล
“ขับรถพาน้องไปดี ๆ นะฉลาม”
“ครับแม่ ผมไปก่อนนะครับ”
ฉลามทำหน้าที่ขับรถพาน้องสาวมุ่งหน้าไปหอพักของมหาวิทยาลัย และก็ไปถึงที่นั่นในเวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบห้านาที
“มาเช้าเกิน ยังลงทะเบียนไม่ได้เลย”
“อีกแค่สิบห้านาทีเองปะ รอแค่นี้ไม่ได้เหรอ”
ฉลามได้แต่ถอนหายใจใส่น้องสาว แล้วนั่งรออยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งชั้นล่างของหอพัก ได้มีเอกสารสำหรับลงทะเบียนมาวางไว้บนโต๊ะ ก็พาน้องสาวเข้าไปเซ็นชื่อเข้าพัก และช่วยกันขนของขึ้นไปไว้บนห้อง
แม้ว่าจะเป็นหอพักหญิงที่มีกฎชัดเจนว่าห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่ได้พักในหอนี้เข้าไป แต่วันนี้เป็นวันแรกที่มีการขนของย้ายเข้า และฉลามก็มาในนามของพี่ชาย จึงสามารถขึ้นไปได้ชั่วคราว ขนของเสร็จแล้วก็ให้ลงมาทันที
“แล้วนี่เพื่อน ๆ ยังไม่มากันสักคน อยู่บนห้องคนเดียวได้เหรอ”
ฉลามถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอมักจะอยู่แปลกที่คนเดียวไม่ได้
“ฉันไปนั่งรอข้างล่างดีกว่า ถ้าพี่รีบก็กลับไปก่อนได้เลย”
“หมดประโยชน์แล้วก็ไล่”
“อ้าว หรือจะอยู่ช่วยจัดของล่ะ”
“ไม่เอาอะ กลับห้องดีกว่า อยากกลับไปนอนจะแย่”
“ไอ้คนขี้เกียจ”
สองพี่น้องโต้เถียงกันไม่กี่ประโยคก็พากันปิดห้อง แล้วลงมาด้านหน้าหอพักเพราะปลาดาวก็ไม่อยากอยู่บนห้องคนเดียวตามลำพัง
“จะไปแล้วนะ ติดขัดอะไรก็โทรมา เพราะเทอมนี้ไม่ได้เข้ามหา’ ลัย แต่ไอ้ทะเลมันยังมาเรียนอยู่ ถ้ามีอะไรก็ไปหามันแล้วกัน”
ฉลามได้ฝากฝังน้องสาวให้เพื่อนช่วยดูแล เพราะเพื่อนของเขานั้นฝึกงานไปแล้วช่วงปิดภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา
“อื้อ” หญิงสาวขานรับในลำคอ พลางอมยิ้มเมื่อได้ยินชื่อของคนที่เธออยากเจอ
พี่ชายขับรถออกไปแล้ว ปลาดาวก็นั่งเล่นมือถืออยู่ที่ม้าหินอ่อนด้านหน้าหอพัก เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อนรักของเธอก็ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับครอบครัว
“ปลาดาว ฉันมาแล้ว”
ประตูรถถูกเปิดออกเสียงของเพื่อนรักก็ดังขึ้นมาทันที เธอจึงลุกออกจากม้าหินอ่อนแล้วเดินเข้าไปหา
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า”
ปลาดาวยกมือไหว้พ่อแม่ของเพื่อนที่มาส่งลูกสาวด้วยตัวเอง ก่อนจะเอ่ยกับลูกตาล
“แล้วนี่เอาของมาเยอะรึเปล่า เดี๋ยวฉันช่วยขนขึ้นไป”
“มีกระเป๋าสองใบ กับอีกหนึ่งกล่อง”
ลูกตาลเข้าไปเซ็นชื่อเสร็จแล้วก็ล่ำลาพ่อแม่ ปลาดาวก็ช่วยขนของที่เพื่อนนำมาด้วยขึ้นบนห้อง ดีที่ว่าได้อยู่ชั้นสอง เลยไม่ต้องเหนื่อยเหมือนคราที่ได้มาช่วยพี่ชาย
“แล้วนี่แกขนอะไรมาเยอะแยะ”
ลูกตาลเห็นกระเป๋าของเพื่อนสองใบ ไหนจะกล่องผ้าสำหรับใส่ของอีกสองใบใหญ่
ปลาดาวเดินไปนั่งที่เตียงของเธอ แล้วชี้ไปที่สัมภาระที่นำมาจากบ้าน
“อันนี้เสื้อผ้า อันนี้ของใช้ทั่วไป ส่วนกล่องนี้เป็นพวกหมอนกับผ้าห่ม และนี่ก็เป็นของสะสมที่ฉันอยากนำมาด้วย”
“ของสะสมอะไรอะ”
ลูกตาลลุกออกจากเตียงเดินเข้าไปหาเพื่อนด้วยความอยากรู้ ปลาดาวก็เปิดกระเป๋าใบเล็กแล้วหยิบของสะสมขึ้นมาวางบนเตียง
มีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจากเพื่อนพี่ชาย แล้วก็มีกระเป๋าหน้าแมวที่พี่ชายของเธอเป็นคนซื้อให้ และมีของอื่น ๆ อีกสองสามอย่าง
ส่วนสร้อยข้อมือที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนอยู่ชั้นมอห้า เธอเก็บรักษาไว้ในกล่องเป็นอย่างดีตลอดสองปี และวันนี้เธอได้นำสวมไว้ที่ข้อมือตั้งแต่ก่อนออกบ้าน
ส่วนวันเกิดตอนอยู่ชั้นมอหก เธอไม่ได้รับของขวัญที่สามารถเก็บเอาไว้ได้ เนื่องจากพี่ชายได้แวะซื้อขนมที่ร้านเบเกอรีเจ้าดังในเมืองมาให้ ส่วนพี่ทะเลก็ซื้อเค้กวันเกิดมาเช่นกัน ทุกคนก็ได้ร่วมฉลองกันแบบเป็นกันเองที่ร้านอาหารริมหาดพร้อมด้วยพ่อแม่ และลูกตาลที่ไม่พลาดงานวันเกิดของเธอเลยสักปี
ก๊อก ก๊อก!!!
เสียงเคาะดังขึ้นสองที ปลาดาวกับลูกตาลก็หันไปมองอย่างพร้อมเพรียง และประตูก็ได้ถูกเปิดเข้ามาโดยรูมเมตอีกสองคนที่จะมานอนในห้องนี้ด้วย
“สวัสดี ฉันชื่อฮารุ”
“ฉันชื่อมีนา ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
แล้วลูกตาลกับปลาดาวก็เผยรอยยิ้มให้คนมาใหม่อย่างเป็นมิตร และก็ได้แนะนำตัวกลับไปเช่นเดียวกัน
อีกสองคนนำกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ที่นำติดตัวมาไปวางไว้ที่เตียงของตัวเอง ระหว่างที่พากันจัดเก็บข้าวของก็พูดคุยทำความรู้จักกันไปด้วย และนั่นก็ทำให้รู้ว่าทุกคนเรียนสาขาการตลาดด้วยกันทั้งหมด จะว่าโชคดีมากเลยก็ว่าได้ที่ได้รูมเมตเรียนด้วยกัน
ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม”ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!“พี่ฉลาม ตื่นเร็ว”เสียงของน้องสาวดังรบกวนเวลานอนของเขา วันนี้เป็นวันที่ฉลามจะต้องไปส่งปลาดาวย้ายเข้าไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เพราะใกล้จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วัน แต่เปลือกตาของเขาที่ปรือขึ้นอย่างงัวเงีย ยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลาก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“ยัยตัวแสบนี่เล่นกูแล้ว”คนถูกรบกวนเอ่ยพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองเพื่อเรียกสติที่ยังมาไม่ครบ ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเอาคืนหรืออย่างไร ที่เมื่อสามปีก่อนเขาให้เธอออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขนของไปไว้หอพัก เพราะโกหกว่าต้องไปถึงก่อนเก้าโมงแต่นี่มันเพิ่งจะตีห้าครึ่ง อยากจะบ้าตายตั้งแต่จัดกระเป๋าและเตรียมของที่จำเป็นเมื่อวาน ปลาดาวก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และวันนี้ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะมาปลุกคนขี้เกียจสันหลังยาวให้ตื่นมาเตรียมตัวครืด ครืด…(ตื่นแล้ว จะโทรมาทำไมอีก)ฉลามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายของน้องสาวที่โทรมากวน แค่เคาะประตูเรียกก็ทำเอาตื่นกันทั้งบ้านแล้ว ยังจะโทรมาหาอีก“ก็เรียกไม่ตอบ นึกว่าซ้อมตาย”(แล้วจะมา
เจ้าของรถเก๋งสีดำได้แวะไปส่งเพื่อนของปลาดาวก่อน เพราะถึงบ้านของลูกตาลเป็นคนแรก จากนั้นก็แวะมาส่งสองพี่น้องต่อ“ขอบใจมากนะเว้ยที่เลี้ยงหมูจุ่ม แถมน้องกูยังเอาเสื้อมึงมาใส่อีก”“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย” ทะเลตอบกลับเพื่อน“งั้นกูเข้าบ้านก่อนนะ”“...” ทะเลคลี่ยิ้มพยักหน้ารับ“อย่าลืมปิดประตูบ้านด้วยล่ะ”“คนขี้เกียจ หลอกให้ปิดประตูอีกละ”ปลาดาวตะโกนว่าพี่ชายที่สะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าบ้าน แล้วยกมืออีกข้างโบกไปมาเพื่อลาเพื่อนของเขา ก่อนเธอจะหันกลับมาพบกับใบหน้าหล่อละมุน ทำให้คิ้วที่ขมวดใส่พี่ชายเมื่อครู่คลายออกจากกันอัตโนมัติ ริมฝีปากสวยอมยิ้มในทันที“รอพี่แป๊บนึงนะครับ”ทะเลหันไปเปิดประตูฝั่งที่ฉลามนั่ง แล้วเปิดช่องเก็บของหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กออกมายื่นให้กับเด็กสาว“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลัง”“ขอบคุณนะคะพี่ทะเล”ปลาดาวยื่นมือออกไปรับพร้อมกับรอยยิ้มหวาน หัวใจดวงน้อยพองโตทุกครั้งที่ได้เจอกับเพื่อนพี่ชาย และเขาก็มักจะเป็นผู้ให้ที่ดีอยู่เสมอ“แล้วเสื้อของพี่ล่ะคะ”“เก็บไว้ที่เราได้เลย ไว้เจอกันครั้งหน้าค่อยคืน”หลังจากที่ทะเลได้อาสาปิดประตูบ้านให้เหมือนเช่นเคยและขับรถออกไปแล้ว ปลาดาวก็เ
ในวันนี้ของเดือนกรกฎาคมก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวคนเล็กของบ้าน ตอนนี้ปลาดาวก็อายุครบสิบเจ็ดปีและเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าแล้ว“พ่อขอให้ลูกมีความสุขมาก ๆ นะปลาดาว”“แม่ก็เหมือนกันนะจ๊ะ ขอให้ลูกมีความสุข คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวัง”“แฮปปีเบิร์ดเดย์จ้าเพื่อนรัก ฉันก็ขอให้แกมีความสุข สวยวันสวยคืนนะปลาดาว”“ขอบคุณทุกคนนะคะ”งานวันเกิดได้จัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้าน แต่ปีนี้มันกลับเงียบเหงาเพราะพี่ชายดันไปเรียนอยู่ในเมือง เลยมีแต่พ่อแม่และลูกตาลที่แวะมาฉลองเป็นเพื่อนครืด ครืด...ในขณะที่กำลังตัดเค้กแบ่งใส่จาน ก็มีเสียงเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าของวันเกิดจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วใช้ปลายนิ้วสไลด์หน้าจอเพื่อกดรับสาย(แฮปปีเบิร์ดเดย์ยัยตัวแสบ)ขนาดวันเกิดน้องสาวก็ยังจะกวนประสาทไม่เลิก พี่ชายใครเนี่ย(ทำหน้างอนอีกละ)“ทำไมเพิ่งจะโทรมาล่ะ”เด็กสาวทำหน้าน้อยใจ วันนี้เธอไม่ได้โทรหาพี่ชายเพราะรู้ว่าเขามีเรียน แต่อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความมาก็ได้ เพราะทุกปีจะมีพี่ชายเป็นคนมากวนให้ตื่นตอนเช้า แล้วบอกอวยพรวันเกิดให้ก่อนใคร(สุขสันต์วันเกิดครับปลาดาว)ฉลามเบี่ยงเลนส์กล้องด้านหน้าของโทรศัพท์หันไปทางทะ
“ผลสอบออกแล้ว แกเข้าไปดูรึยัง” (กำลังเปิดดูเลย กรี๊ด สามจุดสามเจ็ด เกรดดีกว่าเทอมก่อนอีกอะ แล้วของแกล่ะปลาดาว ได้เกรดเท่าไหร่) “ของฉันสามจุดสี่ห้า ถ้าพ่อกับแม่รู้ต้องดีใจมากแน่เลยที่ผลการเรียนของฉันดีขึ้น” วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบในเว็บไซต์ของโรงเรียน ริมฝีปากผลิยิ้มจนแก้มแทบปริรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น ไม่รู้จะแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ นี้กับใคร จึงได้โทรคุยกับลูกตาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท เพราะตอนนี้เธออยู่บ้านเพียงลำพัง พ่อกับแม่ออกไปดูแลร้านอาหารริมหาด ส่วนพี่ชายก็ยังสอบไม่เสร็จตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาปลาดาวตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และเกรดเฉลี่ยที่ออกมามันก็ดีกว่าเทอมก่อนที่สอบได้มากสุดก็คงจะเป็นสามจุดหนึ่งศูนย์ ไม่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ยเกินกว่านี้เลยสักครั้งแต่ข่าวดีแบบนี้ก็ควรจะบอกให้พี่ชายรับรู้ จะได้ไม่มาล้อว่าเธอสอบได้ที่สิบของห้องอีก เพราะรายชื่อในเทอมนี้อยู่ในลำดับที่เจ็ดหลังจากวางสายจากเพื่อนที่เมาท์มอยกันเกือบยี่สิบนาที ก็ได้โทรไปหาพี่ชายต่อ เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ป่านนี้ก็คงจะนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหาร (ว่าไง ทำไมวันนี้โทรมาตั้งแต่กลางวัน) ฉลามกดรับสายของน้องสาวด้วยความแปลกใจ
หนึ่งเดือนต่อมาเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน ฉลามก็ได้เตรียมตัวกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวของทะเล ที่ได้นำมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะ เนื่องจากหอพักในมหาวิทยาลัยห้ามนักศึกษานำรถมาใช้ช่วงแรกของการเปิดภาคเรียนพวกเขาต้องเข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการปรับพื้นฐาน กิจกรรมรับน้อง กิจกรรมประกวดดาวเดือนของแต่ละคณะ ซึ่งไอ้หน้าหล่ออย่างทะเลก็ได้รับเลือกให้เป็นเดือนของคณะบริหารธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัยครืด ครืด…ขณะที่นั่งอยู่บนรถของเพื่อนที่ขับออกจากมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ก็มีเสียงสั่นเตือนสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของฉลาม “ครับแม่” (กำลังจะกลับบ้านใช่ไหม แม่ฝากแวะไปรับน้องหน่อย) “สถาบันสอนพิเศษข้างโรงเรียนใช่ไหมครับ” (ใช่จ้ะ แม่ฝากหน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้แม่จะเตรียมของโปรดลูกเอาไว้รอ อ้อ แล้วอย่าลืมชวนเพื่อนที่มาส่งกินข้าวที่บ้านเราด้วยนะ) “ครับ” หลังจากวางสายผู้เป็นแม่ ฉลามก็หันไปเอ่ยกับเจ้าของรถ “ก่อนเข้าบ้าน กูขอแวะรับน้องด้วยนะ” “อือ” สถาบันสอนพิเศษอยู่ถัดจากโรงเรียนมัธยมเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งก็เป็นทางผ่านก่อนจะถึงบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว และทั้งสองหนุ่มก็ได้เดินทางไปถึงที่นั่นก่อนเวลาเลิก
วันต่อมา“พี่ไปก่อนนะ อย่าแอบร้องไห้เพราะคิดถึงพี่ล่ะ” ฉลามบอกลาน้องสาววันนี้พ่อของเขาจะเป็นคนไปส่งที่หอพัก เพราะในอีกสามวันข้างหน้าก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว พ่อแม่มีความเป็นห่วงไม่อยากให้นำรถไปใช้เพราะถึงอย่างไรก็พักอยู่หอใน กลัวออกไปเถลไถลกับกลุ่มเพื่อนแล้วจะเกิดอันตราย เลยเลือกไปส่งแล้วนำรถกลับมาบ้าน แต่ฉลามก็ยังเป็นห่วงยัยตัวแสบกลัวว่าจะเหงาขึ้นมา เพราะปกติจะอยู่ทะเลาะกันทุกวันราวกับเขาเป็นเพื่อนเล่น“...”ปลาดาวสวมใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนตัวใหญ่ กางเกงขาสั้นสีขาว ปล่อยผมยาวใส่ที่คาดผมยืนอยู่ตรงประตูพยักหน้าให้พี่ชายด้วยใบหน้าหงอย พอคิดว่าในบ้านจะขาดใครไปสักคนมันก็รู้สึกใจหายขึ้นมา“ถ้าไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย ก็โทรไปหาพี่ได้”“ฉันโทรไปได้ใช่ไหม โทรได้ตลอดเวลารึเปล่า”ได้ยินพี่ชายบอกว่าโทรหาได้ ดวงตาที่หลุบต่ำก็รีบช้อนขึ้นมองฉลามที่กำลังเปิดประตูรถ ถ้าอย่างนั้นเธอก็อาจจะได้ยินเสียงของพี่ชายคนนั้นเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ้าง“เฉพาะช่วงเย็น ถ้าว่างก็จะคุยเป็นเพื่อน”“พูดแล้วห้ามคืนคำ”“รู้แล้วน่ายัยบ๊อง พี่ไปก่อนนะ”ฉลามโบกมือให้น้องสาวก็เข้าไปนั่งที่ฝั่งคนขับ ขาไปเขาจะเป็นคนขับรถให้ผู้เป็นพ่อ