สี่สาวใช้เวลาทำความรู้จักกันแค่คืนเดียว ก็สนิทกันราวกับรู้จักกันมาเป็นปี เช้านี้ทุกคนดูตื่นเต้นกันมาก เพราะวันแรกของการเปิดภาคเรียนก็ต้องเจอกับกิจกรรมรับน้อง
“ตื่นเต้นจังเลย วันนี้พวกเราก็จะเป็นเฟรชชีกันแล้ว”
ลูกตาลแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาพอดีตัว และยืนสำรวจความเรียบร้อยอยู่หน้ากระจกของตู้เสื้อผ้า เธอเอ่ยกับเพื่อนอีกสามคนที่ตอนนี้แต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ฉันก็ตื่นเต้น ลองจับหน้าอกฉันดูสิ ใจเต้นตุบ ๆ ไม่หายเลย”
ฮารุสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผู้ชอบสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูป จัดเต็มทั้งเครื่องสำอางบนใบหน้า และนั่งลอนผมตั้งแต่เช้า เลื่อนมือไปจับข้อมือของมีนาหญิงสาวต่างจังหวัด หน้าตาสวยแบบไทย ๆ ที่ตอนนี้นั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงของเธอ มาจับหน้าอกที่นูนเด่นจนกระดุมเสื้อแทบปริ
“หลอกให้ฉันจับนมรึเปล่าเนี่ยยัยฮารุ” มีนารีบผละมือออกจากหน้าอกกลมโตของเพื่อน
“ทะลึ่ง แต่ถ้าอยากจับก็ไม่ซีนะ คิกคิก”
ฮารุแสร้งเอ็ดเพื่อน แต่ความจริงเธอก็ไม่ใช่คนถือเนื้อถือตัวอะไร ยิ่งเป็นเพื่อนผู้หญิงด้วยกันแล้วยิ่งไม่หวง
“ปลาดาว แกนั่งเงียบเลยอะ ไม่ตื่นเต้นเหรอ” ลูกตาลเอ่ยถามเพื่อนรัก ที่เช้านี้ดูเงียบผิดปกติ
“ตื่นเต้นสิ ฉันตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกแล้ว”
เธอตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้ม ที่ไม่พูดไม่ใช่อะไรหรอก แค่คิดถึงใบหน้าหล่อละมุนของใครบางคน ที่ใกล้จะได้เจอกันตามสัญญาแล้วต่างหาก ไม่รู้ว่ากิจกรรมวันนี้เขาจะมาร่วมไหม แต่เท่าที่ได้ยินมาก็มักจะเป็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามเป็นคนจัดกิจกรรมรับน้อง
แต่ขอให้ได้เจอทีเถอะ อยากเห็นหน้าจะแย่
นักศึกษาสาวสวยพากันออกจากห้อง ก็แวะไปกินข้าวที่โรงอาหารด้านล่างหอพักก่อน โดยที่หอในก็จะเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเสียส่วนใหญ่ มีรุ่นพี่ปีสองบ้างประปราย เพราะส่วนมากคนที่ขึ้นปีสองไปแล้วนั้นก็มักจะไปหาหอพักข้างนอกมหาวิทยาลัยอยู่กัน ไม่ก็เช่าคอนโดหรืออะพาร์ตเมนต์ เพราะมันสะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
กินข้าวเสร็จก็พากันเดินไปยังตึกคณะบริหารธุรกิจ แล้วลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องที่จัดขึ้นตลอดทั้งวัน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนใหม่ รุ่นน้องและรุ่นพี่
ในช่วงครึ่งวันเช้าก็จะเรียกน้ำย่อยด้วยการเล่นเกมคลายเครียดต่าง ๆ ที่รุ่นพี่สรรหามาให้เล่นกัน และในช่วงบ่ายก็จะเป็นการล่ารายชื่อรุ่นพี่ให้ได้ครบห้าสิบคนภายในเวลาสองชั่วโมง
“เฮ้อ เกือบไม่รอด”
ลูกตาลวิ่งมานั่งรวมกับเพื่อนในกลุ่ม เธอเอ่ยออกมาแผ่วเบาในขณะที่พ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหอบ ตามหารายชื่อครบแล้วก็ต้องนำส่งให้รุ่นพี่ตรวจสอบ แล้วต้องวิ่งกลับมานั่งที่แถวดังเดิม แต่ดีที่ยังทันเวลา
ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา มันจะโดนไม้เสียบ...
นักศึกษาต่างช่วยกันร้องเพลงไก่ย่างถูกเผา ให้คนที่ล่ารายชื่อมาส่งไม่ทันเต้นประกอบเพลง เรียกได้ว่ากิจกรรมในวันนี้ได้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสัมพันธ์อันดีให้กับทุกคน
และก่อนจะเลิกกิจกรรมรับน้อง พวกรุ่นพี่ก็ได้ให้นักศึกษาปีหนึ่งจับฉลากแล้วตามหาพี่สายรหัสซึ่งก็คือนักศึกษาปีสองที่เรียนสาขาเดียวกัน แล้วให้รุ่นพี่นำผ้าที่ผูกข้อมือของตนมาผูกให้กับน้องรหัสแทนเป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรม
สี่สาวแยกกันเดินตามหาพี่รหัส โดยที่บอกกันไว้ว่าถ้าใครเสร็จก่อนก็ให้ไปรอที่ม้าหินอ่อนหน้าหอพัก
และปลาดาวก็ได้พบกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่นั่งถือไม้ตีกลองนั่งอยู่ตรงขอบเวทีที่ไม่สูงมาก เธอเดินเข้าไปใกล้ใช้สายตาไล่อ่านตัวหนังสือที่ป้ายห้อยคอสีเหลือง ก่อนจะก้มดูกระดาษสี่เหลี่ยมที่จับฉลากได้ในมือ มีชื่อเล่นและรหัสสี่ตัวของรุ่นพี่ติดอยู่ ก็แน่ใจว่าคนนี้ต้องใช่พี่สายรหัสของเธอแน่ ๆ เดินตามหาตั้งนาน เจอตัวสักที
“สวัสดีค่ะพี่พฤกษ์ หนูชื่อปลาดาว เป็นน้องรหัสของพี่ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องปลาดาว”
พฤกษ์กระโดดลงจากเวทีมายืนอยู่ข้างหน้าสาวรุ่นน้อง ชื่อก็น่ารัก คนก็น่ารัก จนเขาเผลอจ้องตาไม่กระพริบ ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้น
“พี่ช่วยผูกข้อมือให้หน่อยค่ะ” ปลาดาวรีบท้วงขึ้น เพราะรุ่นพี่เอาแต่ยืนนิ่ง
“อ้อ ครับ”
รุ่นพี่แกะผ้าที่ข้อมือของตนมามัดให้กับปลาดาวอย่างเบามือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวในระยะใกล้
“พี่เป็นสายรหัสของน้องแล้ว ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่ขอแอดไลน์ด้วยนะครับ ถ้าติดขัดเรื่องเรียนหรือกิจกรรมก็ทักหาพี่ได้ตลอด”
พฤกษ์เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงสีดำแล้วยื่นออกไปตรงหน้า เนื่องจากนักศึกษาปีหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ห้ามพกโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย เนื่องจากกลัวจะสูญหายระหว่างทำกิจกรรม
“เอ่อ ได้ค่ะ”
ปลาดาวเออออตามรุ่นพี่ เพราะคิดว่าคนอื่นก็คงจะขอเหมือนกัน แล้วรับโทรศัพท์ของเขามากดแอดไลน์ของเธอไว้
แต่แล้วขณะเงยหน้าขึ้นแล้วยื่นโทรศัพท์ส่งคืนเจ้าของ สายตาก็พลันเห็นชายหนุ่มรูปร่างคุ้นตาเดินมาแต่ไกล และพอเขาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ริมฝีปากของเธอก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที
ในที่สุดคนที่อยากเห็นหน้า ก็ได้เจอกันสักที
“อ้าวพี่ทะเล มาทำอะไรที่นี่ครับ”
พฤกษ์เอ่ยทักทายรุ่นพี่ด้วยความสงสัย แม้จะไม่ได้เรียนสาขาเดียวกัน แต่ก็ยังอยู่คณะบริหารธุรกิจเหมือนกัน และหนุ่มหล่อการเรียนดี เป็นถึงอดีตเดือนคณะอย่างทะเล ใครบ้างจะไม่รู้จัก และปกตินักศึกษาปีสี่จะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมกิจกรรม เพราะต้องสัมมนาและทำโปรเจกต์จบ
“มาหาน้องเทค”
“น้องเทคเหรอคะ?” ปลาดาวเอ่ยขึ้นอย่างงุนงง
“พี่คือพี่เทคของปลาดาวครับ ไม่ต้องไปมองหาใครแล้วนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างละมุน ต่างจากน้ำเสียงที่เขาใช้พูดกับพฤกษ์เมื่อครู่ ทำเอาใจคนฟังเต้นตึกตัก พวงแก้มแดงระเรื่อ
“ทำไมพี่ถึงเลือกน้องปลาดาว”
พฤกษ์ถามรุ่นพี่ด้วยความอยากรู้ เพราะในแต่ละปีทะเลไม่เคยรับเป็นพี่เทคให้ใครทั้งนั้น แต่ทำไมเขาถึงได้เลือกสาวสวยคนนี้
“เธอเป็นน้องสาวของเพื่อนฉันเอง”
ทะเลตอบหนุ่มรุ่นน้องเสียงเรียบ ก่อนจะก้มลงมองคนตัวเล็ก
“กิจกรรมเสร็จแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เราไปกันเถอะ”
หญิงสาวอมยิ้มมองแผ่นหลังของคนตัวสูงที่จูงมือเธอเดินออกไปจากตึกคณะ ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทั้งหลายที่ยังทำกิจกรรมตามหาพี่รหัสไม่เสร็จด้วยความอิจฉา ที่มีหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีขนาดนั้นให้ความสนใจ
ปลาดาวไม่คิดว่าวันนี้เขาจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเองแล้วเลือกเธอเป็นน้องเทคอย่างไม่ทันตั้งตัว และพอทั้งสองคนเดินลงบันไดไปถึงชั้นล่าง มือของชายหนุ่มก็คลายออกจากข้อมือของปลาดาว แล้วยืนหันหน้าเข้าหากัน
“ต่อไปอย่าให้เบอร์ใครง่าย ๆ อีกล่ะ”
ทะเลเอ่ยกับเธอด้วยเสียงเบาแต่ก็แฝงไปด้วยความจริงจัง และพอหลุบตามองต่ำก็เห็นว่าเธอใส่สร้อยข้อมือที่เขามอบให้เป็นของขวัญ ริมฝีปากหยักก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึม
“หนูก็ไม่เคยให้เบอร์ใครนะคะ แต่เมื่อกี้พี่รหัสบอกว่าถ้าติดขัดเรื่องเรียนก็ให้ติดต่อกันทางไลน์”
“แล้วก็เชื่อ”
“เอ่อ…”
ปลาดาวรู้สึกเหมือนกำลังถูกเอ็ดที่ให้ไลน์รุ่นพี่คนนั้นไปอย่างง่ายดาย เท่าที่ได้ยินมาส่วนใหญ่พี่สายรหัสจะคอยดูแลรุ่นน้อง ส่งมอบหนังสือให้กัน และปรึกษาเรื่องเรียน เธอจึงไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรในตอนที่พฤกษ์ขอ
“ให้คุยกันเรื่องเรียนเท่านั้นนะครับ เรายังไม่ถึงวัยที่จะมีแฟน”
“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วพี่ทะเลล่ะคะ มีแฟนรึยัง”
“ถามทำไมเหรอครับ”
เขาว่าพลางยกมือขึ้นวางบนศีรษะของหญิงสาว เผยรอยยิ้มมองใบหน้าหวาน ปลาดาวเองก็ย่นคอลงเล็กน้อย ช้อนสายตามองใบหน้าหล่อที่ยกยิ้มมุมปากออกมา
“ก็แค่อยากรู้ค่ะว่าพี่ห้ามหนูมีแฟน แต่พี่แอบมีรึเปล่า”
เธอเอ่ยกับคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึก แอบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ ขอให้เขาตอบกลับมาว่ายังไม่มี
สองปีต่อมาตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ทะเลได้ขับรถออกจากบ้านแต่เช้ามุ่งหน้าไปยังบ้านของแฟนสาว พอเปิดประตูลงจากรถก็เจอกับแม่ของเธอที่กำลังเดินออกมาหน้าบ้านก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง“มาแต่เช้าเลยนะจ๊ะ”“สวัสดีครับ ผมมารับปลาดาวไปฝึกงานครับ”“แล้วนี่กินข้าวกินปลามารึยัง”นภาเอ่ยถามแฟนลูกสาวแต่คิดว่าทะเลคงยังไม่ได้กินอะไรก่อนออกจากบ้านมา เพราะนี่มันก็เพิ่งจะเจ็ดโมง คงจะตื่นเต้นเลยรีบออกจากบ้านมาแต่เช้า“ยังเลยครับ”“รอน้องแป๊บนึงนะ ปลาดาวคงกำลังแต่งตัวอยู่ข้างบน”“ครับ ผมรอได้”ทะเลเดินตามแม่ของแฟนสาวเข้าไปในครัว แล้วอาสาช่วยตักอาหารไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าว“ค่อย ๆ เดินก็ได้ปลาดาว ดูยัยลูกสาวคนนี้ ซนไม่เคยเปลี่ยน”ปลาดาววิ่งลงบันไดมาด้วยใบหน้าสดใส นภาเห็นแล้วก็ได้แต่ส่งเสียงเอ็ดพลางยกยิ้มส่ายหน้าไปมา คงดีใจที่ทะเลมารับแต่เช้า ก่อนที่ปลาดาวจะเดินอมยิ้มเข้ามาหาแล้วสวมกอดแขนของผู้เป็นแม่ ก่อนจะส่งยิ้มหวานทักทายแฟนหนุ่มที่ช่วยแม่ของเธอเตรียมมื้อเช้าเสร็จแล้ว ทะเลก็ได้นั่งกินข้าวกับครอบครัวของปลาดาว แต่ก็ขาดเพื่อนรักไปหนึ่งคนสองปีมานี้ฉลามก็ได้ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้กับที่ทำงาน เขาทำงานในตำแห
สองเดือนต่อมาพี่ชายของเธอและแฟนหนุ่มก็ได้ส่งโปรเจกต์ผ่านเรียบร้อยแล้ว หลังจากสอบปลายภาคเสร็จทั้งสามคนก็พากันกลับไปเยี่ยมคนที่บ้านปลาดาวได้นั่งรถไปกับทะเล ปล่อยให้พี่ชายของเธอขับรถไปเอง และพอไปถึงก็เข้าไปหาพ่อกับแม่ที่ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่”หญิงสาวเอ่ยทักทายบิดามารดา ก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่ของเธอให้หายคิดถึง“สวัสดีครับ” ฉลามยกมือไหว้พ่อและแม่ของตน“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”“ทะเลก็มาด้วยกันเหรอจ๊ะ ดีเลย เที่ยงนี้ก็กินข้าวด้วยกันที่ร้านนะ”นภาเอ่ยกับเพื่อนของลูกชาย ฉลามเห็นดังนั้นก็กระตุกยิ้มคิดในใจ ว่าที่แม่กำลังชวนอยู่น่ะคือว่าที่ลูกเขย แต่ว่าเรื่องนี้ได้รับปากน้องสาวเอาไว้แล้วว่าเธอจะเป็นคนบอกด้วยตัวเอง เขาจึงทำได้แค่เงียบหลังจบมื้ออาหารที่วันนี้นภาตั้งใจเข้าครัวที่ร้านเพื่อลงมือทำต้อนรับลูกทั้งสอง รวมทั้งเพื่อนสนิทของลูกชายอย่างสุดฝีมือ ทะเลก็ได้จับมือปลาดาวที่นั่งอยู่เก้าอี้ถัดจากเขาข้างใต้โต๊ะ ก่อนที่ใจดวงน้อยจะเต้นระรัวไปด้วยความลุ้นระทึก“คุณลุงคุณป้าครับ ผมมีเรื่องอยากขออนุญาต”“เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ” นภาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง“พ่อคะ แม่คะ หนูกับพี่ทะเลเรากำล
หลายวันต่อมาหลังจากเรียนเสร็จแฟนหนุ่มใจดีของเธอก็อาสาพาเพื่อน ๆ ไปนั่งเล่นกันที่ร้านคาเฟซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ร้านนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ด้านหลังเป็นสวนที่มีน้ำตก มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น น่านั่งจิบกาแฟยามบ่ายสุด ๆทั้งห้าคนได้เข้าไปจับจองโต๊ะว่างที่อยู่ข้างน้ำตกให้ฟีลแบบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อยแต่แล้วก็มีลูกค้าสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ทำการสั่งขนมเค้กและสตรอว์เบอร์รีสมูททีที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะว่างเย็นนี้เชอร์รีมีนัดกับหนุ่มนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ที่ร้านนี้ โดยที่เขาบอกให้เธอมาสั่งอาหารรอแล้วจะรีบตามมา และพอเธอได้รับของที่สั่งก็เลื่อนมือไปหยิบแก้วสมูททีขึ้นมาดื่ม แต่แล้วสายตาที่กวาดมองสำรวจไปรอบร้าน ก็สะดุดเข้ากับคนรู้จักมือเล็กจับแก้วน้ำปั่นเอาไว้แน่นราวกับอยากให้แตกละเอียดคามือ เธอได้แต่กัดกรามแน่น จ้องคนกลุ่มนั้นด้วยดวงตาแข็งกร้าวคนที่หันหน้ามาทางเธอนั่นก็คือหนุ่มรุ่นพี่กับปลาดาว แล้วตอนนี้เพื่อนร่วมสาขาก็กำลังตักอาหารป้อนเข้าปากชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้กัน เห็นแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาที่ท
นับตั้งแต่เป็นแฟนกัน ทะเลก็รีบออกจากคอนโดแต่เช้าเพราะได้บอกกับแฟนสาวเอาไว้ว่าจะมากินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารของคณะในช่วงเช้า กลางวัน ส่วนตอนเย็นก็จะพาเธอออกไปกินข้าวข้างนอกเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ก่อนจะกลับมาส่งเธอที่หอพักในเวลาสองทุ่มทะเลมักจะมาถึงโรงจอดรถก่อนเวลานัดหมาย แล้วก็รีบเดินเท้าไปนั่งรอปลาดาวที่ม้าหินอ่อนหน้าหอพัก“แฟนใครมาโน่นแล้ว” ลูกตาลเห็นออร่าความหล่อของแฟนเพื่อนตั้งแต่ลงบันไดมาจึงได้เอ่ยแซวปลาดาวระบายยิ้มรีบเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มที่เสมอต้นเสมอปลาย มานั่งรอเธอก่อนเวลาในทุกคราที่เธอมีเรียนในช่วงเช้า ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยก็ได้ เธอเข้าใจว่าเวลาเรียนของทั้งสองคนนั้นต่างกัน แต่ทะเลก็อยากมีเวลาให้แฟนสาวของเขาให้ได้มากที่สุด“มารอนานรึยังคะ”“เพิ่งมาถึงได้ไม่นานครับ” ทะเลระบายรอยยิ้มหล่ออย่างคิดถึง ไม่ต่างจากหญิงสาว“จ้องกันนานแบบนี้ เดี๋ยวก็ท้องหรอกค่ะ คิกคิก”ฮารุเอ่ยแซวขัดจังหวะคนทั้งสองที่เอาแต่ส่งยิ้มจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่ทะเลและปลาดาวจะหลุดขำในลำคอ แล้วทุกคนก็พากันเดินไปยังโรงอาหาร โดยที่ทะเลได้อาสาช่วยถือหนังสือที่ปล
ช่วงเย็นทะเลก็ได้ลงไปรับเสื้อผ้าของแฟนสาวที่ได้นำไปส่งซักแห้งเอาไว้ เพื่อให้เธอนำมาใส่กลับหอพักระหว่างที่เขาขับรถไปส่งปลาดาว ก็ยื่นมือมาจับประสานกันตลอดทาง พอนึกว่าจะได้อยู่ห่างกันต่างก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกรถเก๋งสีดำได้หยุดลงด้านหลังตึกคณะบริหารธุรกิจแทนที่จะเป็นหน้าหอพักหญิง ทะเลก็ได้เอียงข้างหันไปหาหญิงสาวที่เขารัก ยื่นมือไปรั้งท้ายทอยของเธอให้ใบหน้าหวานที่ฉายแววเศร้าเข้ามาใกล้กัน ก่อนจะพรมจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากอวบอิ่มของแฟนสาว“ไม่อยากกลับเหรอครับ”“ค่ะ หนูอยากอยู่กับพี่”ปลาดาวเอ่ยเสียงแผ่วตามความต้องการของหัวใจ เธอเพิ่งจะเสียครั้งแรกให้กับคนที่เธอรัก แต่หลังจากนั้นก็ต้องแยกกันอยู่ มันก็ทำให้รู้สึกใจหวิว โหยหาช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันขึ้นมา“พี่รู้ครับ พี่ก็อยากอยู่กับเราเหมือนกัน แต่ว่าฉลามอาจจะไม่เห็นด้วย เพราะถ้าพี่เรียนจบ ปลาดาวก็ต้องอยู่คนเดียว แล้วเราจะอยู่ได้เหรอ”เขาเป็นห่วงความรู้สึกของหญิงสาว เพราะหลังจากนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งเขาและพี่ชายของเธอก็จะเรียนจบกันแล้ว และหลังจากนั้นก็ต้องกลับไปดูแลธุรกิจที่บ้านความคิดถึงของคนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน แต่พอถึงวันที่
“นายต่อยฉันแรงไปรึเปล่าวะ”“แค่นี้มันยังน้อยไปกับที่มึงแอบเอาน้องกูมานอนด้วย”“ฉันกับปลาดาวมีเรื่องเข้าใจผิดกัน แล้วเมื่อคืนเธอก็แอบออกมาจากหอพัก ฉันไปเจออยู่ที่ร้านเหล้าก็เลยพาเธอกลับมา”สองหนุ่มนั่งคุยกันตรงโซฟา ทะเลได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฉลามฟัง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกอย่างไรกับปลาดาว“กูรู้ว่าน้องกูแอบชอบมึงมาตั้งนานแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่ามึงเองก็ชอบน้องสาวกูเหมือนกัน แต่ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้วะ”คนหนึ่งก็น้องสาว ส่วนอีกคนก็เพื่อนรักที่รู้ไส้รู้พุงกันหมด แต่ที่ทำให้เขาโมโหก็คือน้องสาวที่ควรจะนอนอยู่ที่หอพัก แต่ดันมานอนกับเพื่อนของตนที่นี่ ทั้งที่ห้องของเขาเองก็อยู่ติดกันแค่นี้เอง“ขอโทษนะ ฉันผิดเองที่บอกกับนายช้าไป แต่ฉันจริงใจกับน้องสาวนายจริง ๆ” ทะเลเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“แมน ๆ แบบนี้สิวะ กูไม่โกรธมึงหรอก แต่กลับดีใจด้วยซ้ำที่แฟนน้องสาวกูคือมึง”ฉลามวางมือบนบ่าของเพื่อน กระตุกยิ้มมุมปากขึ้น ก็อย่างที่เขาเคยบอกกับทะเลก่อนหน้าว่าถ้าในอนาคตน้องสาวจะมีแฟน แล้วถ้าได้นิสัยแบบทะเลเขาก็วางใจ และพอมันเกิดขึ้นจริง เขาก็ยังคิดแบบนั้น และเชื่อว่าทะเลจะรับผิดชอบดูแลน้องสาวข