บทที่ 9
ความจริง “เสียดายเวลาที่รู้จักกันมาฉิบหาย” กระต่ายพูดออกมาด้วยความผิดหวังในตัวเพื่อนตัวเอง “แล้วจะให้ทำไงได้อะ” “ทำยังไงก็ได้แต่ไม่ใช่ทำแบบนี้ แกยอมให้มันบังคับแกได้ทุกอย่าง มันเห็นว่าแกยอมมันก็ทำแบบเดิมเรื่อยๆ ได้ไง” “ต่าย แกลองมาเป็นฉันดูปะ ลองมาอยู่ในจุดเดียวกันไหม!” “…” กระต่ายยืนเงียบ เมื่อเห็นว่าณดาพูดเสียงดังมากกว่าเดิม ซ้ำยังร้องไห้ออกมาอีก “แกแค่ต้องมาเจอหน้าเขา อยู่ใกล้เขา แกไม่ชอบฉันเข้าใจ” “….” “แต่มันก็แค่นี้เอง!” “มันไม่แค่นี้ไง มันกำลังวุ่นวายกับชีวิตฉัน!” “แต่ฉันต้องนอนกับเขา!” “…” “ทุกครั้งที่เขาไม่พอใจ ทุกครั้งที่ฉันพยายามไม่ทำตามคำสั่ง สุดท้ายแล้วฉันคนเดียวที่เจ็บ แกรู้อะไรบ้างวะ” “…” “ฉันโดนอยู่ฝ่ายเดียวเพียงเพราะว่าเขาชอบแก มันใช่หรอวะ ไม่สมเหตุสมผลเลย” น้ำตาณดายังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย เธอเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ถึงจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้สักที “แกนอนกับมันทำไมแต่แรกล่ะ ถ้าแกไม่ยอมมันส่งท้ายนักเขียนถึงนักอ่านสวัสดีค่ะ อิมฮายอนทักทายส่งท้ายนะคะ ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนที่สนับสนุนและซัพพอร์ตนักเขียนมือใหม่คนนี้ เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่ตัดสินใจเขียนและเผยแพร่ออกไปอันที่จริงอิมฮายอนตั้งใจให้จบก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ด้วยเวลาว่างที่ไม่ค่อยมีเพราะส่วนตัวทำงานประจำจันทร์ถึงเสาร์ มีเวลาว่างแค่หลังเลิกงาน บวกกับล่าสุดที่พึ่งคว้าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ติดตัวมา ทำให้แผนการวางงานเป๋ไปหมด ทั้งที่นิยายควรปิดจบลงไปแล้วแต่กลับต้องหยุดเขียนถึงหนึ่งอาทิตย์ ต้องขอโทษที่ปล่อยให้นักอ่านรอนานถึงขนาดนี้ หลายคนอาจจะเทนิยายเรื่องหลงกลรักวิศวะตัวร้ายไปแล้ว แต่ไรท์เข้าใจดี เป็นเพราะวางแผนงานไว้ไม่ดีเองแต่แรก แต่สุดท้ายตอนนี้นิยายของอิมฮายอนก็ได้ปิดจบลงด้วยดีไรท์ไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อมากเกินไป การที่ณดายอมคืนดีง่ายๆ อาจจะขัดใจใครหลายๆ คน แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าในชีวิตจริงมีอีกหลายคนที่ให้อภัยคนรักได้ง่ายๆ แบบนี้ บางคนทำเรื่องไม่ดีมากกว่านี้ยังได้รับการให้อภัยและกลับใจ คีย์เองก็เหมือนกัน เขารักณดาแค่ฟอร์มจัดและมัวแต่มองจุดอื่นจนลืมโฟกัสหัวใจตัวเองเรื่องนี้เนื้อหาบาง
Special episode“อันนี้คืออะไร” ชิ้นเนื้อสีดำถูกยกคีบขึ้นด้วยมือหนาของคิมหันต์ หน้าหล่อขมวดคิ้วสีหน้าเหยเก“หมูไง แหกตาดูดิ” คีย์เดินมาพูดใส่ ก่อนจะโดนร่างของคิมหันต์กระแทกไหล่ใส่“กูรู้!”“แล้วถามเพื่อ!”“กูแค่สงสัยว่าใครทำ ไหม้ขนาดนี้ใครจะแดกลงวะ!” คิมหันต์ตอบเสียงดัง“กูเอง มัวแต่เอาน้ำไปให้โรสลืมว่าตัวเองย่างหมูไว้” ปวินทร์ตอบสีหน้าเรียบเฉย ยกถาดหมูย่างที่ย่างเสร็จแล้วออกไปต่อหน้าต่อตา“เฮ้ยๆ มึงจะเอาไปไหน” คิมหันต์ยื้อแย่งอย่างไม่ยอม “กูยังไม่ได้แบ่งให้เมียกูเลย”“กูก็จะเอาไปให้เมียกูเหมือนกัน”“มึงเอาไปหมดนี่อะนะ!”“เออ คนท้องอยากกินมึงอย่ามาแย่งว่ะ” วินดึงถาดหมูย่างจนหลุกออกมาจากมือคิมหันต์ เขามองด้วยสายตาละห้อย วินมักจะอ้างเรื่องที่โรสท้องอยู่เพื่อแย่งอาหารไปจากเขาอยู่เสมอคิมหันต์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ทำอะไรไม่ได้เพราะเห็นแก่ผู้หญิงของเขา เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนไม่อยากแย่งอาหารหลานตัวเอง เขายกถาดหมูดิบมาตรงหน้าเตรียมก่อไฟย่างหมูใหม่อีกรอบ“ทำเร็วๆ ณดารอกินอยู่” คีย์เกาะไหล่แกร่งของพี่เขย พลางกระโดดเหยงๆ อยู่ด้านหลังเหมือนเด็ก“เอ้า เมียมึงอยากกินมึงไม่มาทำ
บทที่ 39จองตัวณดานั่งอยู่ปลายเตียงมองออกไปทางหน้าต่างด้านนอก เธอยิ้มอย่างดีใจเพราะคีย์บอกว่าจะพาเธอไปอควอเรียมที่พึ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่นาน ขึ้นชื่อว่าเป็นอควอเรียมที่มีสัตว์น้ำมากที่สุดในตอนนี้ ณดาจึงดีใจมากเป็นพิเศษ“เสร็จรึยัง” คีย์เดินเข้ามาตามคนตัวเล็ก พอเห็นการแต่งตัวของเธอเขาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ “แต่งตัวสวยจัง”“จริงหรอคะ” ณดาเดินไปส่องกระจกก่อนจะหมุนมองตัวเองรอบๆ ชุดเดรสลายลูกไม้สีขาว สั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ไม่โป๊มากจนเกินไปแอบเซ็กซี่ปนขี้เล่น“จริงสิ แฟนพี่สวยสุดๆ ไปเลย” คีย์บอก เขาเดินเข้าโอบเอวบาง แอบขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กไปอีกหนึ่งฟอด “ไปกัน เดี๋ยวสายแล้วจะร้อน”ทั้งสองนั่งรถส่วนตัวไปตามจีพีเอส ด้วยความที่เป็นสถานที่ที่พึ่งเปิดใหม่ คีย์ไม่ชำนาญทางมากพอจึงเลือกที่จะใช้จีพีเอสช่วยในการนำทางอีกที ระหว่างทางเขากอบกุมมือเล็กไว้ตลอด เป็นความเคยชินอีกอย่างที่เขาทำตั้งแต่เริ่มคบกันมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งณดาเองก็ไม่ได้ขัด ชอบซะอีกขับออกจากตัวที่พักได้ราวๆ เกือบครึ่งชั่วโมง ข้างทางเริ่มออกจากตัวเมืองเข้าสู่ชนบทเสียอย่างนั้น จากที่เต็มไปด้วยบ้านคนกลายเป็นป่ารกทึบ ขับต่อไปอีกกลายเป
บทที่ 38กระชับมิตร“พี่คีย์ทำอะไรของพี่เนี่ย!” ณดายืนเท้าเอวเอียงคอถามคนรักของตัวเอง ที่มานั่งเล่นก่อกองทรายราวกับเด็กน้อยเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอใครในบ้านเลยเดินหาอยู่พักใหญ่ จนตอนนี้เหงื่อเริ่มออกท่วมตัว พึ่งจะเจอคีย์ที่กำลังเล่นกองทรายอย่างสนุกสนาน เวลานี้เป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แสงแดดจึงแทบไม่เหลือ คีย์ถึงมานั่งก่อกองทรายที่ริมหาดอย่างไม่กลัวผิวไหม้เขาเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้เธอก่อนจะลุกปัดตูดที่มีเศษทรายติดออก มือหนาเอื้อมมากอบกุมมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะออกแรงดึงให้คนตัวเล็กเดินเข้ามาใกล้ปราสาททรายของตัวเอง“สวยไหม” เขาถามด้วยสีหน้าภูมิใจ“สวยค่ะ นึกยังไงมาเล่นทรายอยู่คนเดียว”“อยากโชว์ความสามารถ” เขาหัวเราะเบาๆ “ไปเดินเล่นกันไหม” ณดาพยักหน้ารับทั้งสองจูงมือกันเดินเล่นริมชายหาด ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนแรก จึงตกลงกันว่าจะมาค้างที่ทะเลสักอาทิตย์ เพราะเทอมหน้าณดาคงได้เตรียมออกฝึกงาน คงจะหาเวลาว่างมาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ได้ยากกว่าเดิมลมเย็นๆ พัดกระทบใบหน้า เสียงคลื่นซัดเข้ากับชายฝั่งช่างเป็นเสียงที่สงบ ณดาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอชอบบรรยากาศในช่วงเวลานี้มากที่สุด
บทที่ 37วัดใจ“คิดดีแล้วหรอณดา” คิมหันต์ถามเสียงเข้ม ใบหน้าหล่อบึ้งตึงอย่างไม่พอใจสุดขีดเมื่อน้องสาวของเขาพาคนที่ตัวเองยกพวกไปรุมกระทืบถึงมหาวิทยาลัยมาที่บ้าน เมื่อคืนณดาหายไปบอกจะไปค้างห้องเพื่อน ตัวเขาเองก็ไม่ได้นึกเอะใจอะไรเพราะคิดไว้ว่าณดาคงไม่กลับไปหาผู้ชายที่เคยทำร้ายตัวเองจนเจ็บไปทั้งร่างกายและหัวใจแบบนั้นไหงตอนนี้มาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าละห้อยเสียได้ คงต้องบอกว่ามีแค่ณดาที่แสดงสีหน้ากังวลใจ เพราะผู้ชายตัวสูงข้างกายเอาแต่ทำหน้าท้าทายเขาอยู่ตลอดเวลา สภาพนี้จะมาขอให้ยกโทษให้แล้วคบกับน้องสาวเขาง่ายๆ หรอไม่มีทาง“ณดาทบทวนความรู้สึกของตัวเองดีแล้วค่ะ” คนตัวเล็กที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเอ่ยตอบ “จริงอยู่ที่พี่คีย์เคยใจร้ายกับณดาไว้สารพัด เพียงแค่คำขอโทษไม่กี่คำคงทดแทนไม่ได้ แต่ตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้พูดคุยกัน ณดากลับเอาแต่คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน จนเผลอลืมสิ่งไม่ดีพวกนั้นไป”“แล้วมันรู้สึกผิดอย่างที่พูดหรอ” คิมหันต์ปลายตามองคีย์ที่นั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไร “คนอย่างมึงเนี่ยหรอจะเปลี่ยนนิสัยเพื่อน้องกู”“…”“บอกว่าหมาคลอดลูกเป็นควายยังน่าเชื่อกว่าอีก” ณดาลอบก
บทที่ 36คิดถึง[Nada’s Part]“เฮ้อ” ฉันนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน ทั้งที่วันนี้เพื่อนๆ ในคณะพากันมากินเลี้ยงฉลองปิดภาคเรียนที่หนึ่งแท้ๆมันควรจะสนุกกว่านี้สิตั้งแต่วันนั้นที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันไม่เจอหน้าพี่คีย์อีกเลย ถามใครก็ไม่ได้คำตอบ แต่ไม่ได้ถามพี่คิมหันต์หรือคุณลุงโดยตรงเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาทั้งสองคงไม่ตอบคำถาม และน่าจะโดนดุกลับมาแทนทั้งที่วันนั้นเขาเป็นคนพาฉันไปโรงพยาบาลแท้ๆ แต่พอตื่นมากลับไม่เจอหน้าเขา อันที่จริงก็ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่ต่อมสำนึกมันทำงานอยากจะขอบคุณที่อุตส่าห์พาไปหาหมอได้ทันท่วงที อาการแพ้ขั้นรุนแรงจนเกือบตายแบบนี้ในชีวิตเป็นมาแล้วสี่ครั้ง สำหรับรอบที่พี่คีย์เจอนี่น่าจะกลางๆ ไม่แรงหรือน้อยเกินไปเป็นความผิดของฉันเองด้วย รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองแพ้อาหารแต่ไม่ตรวจให้ดีก่อนจะกิน ห่วงกินจนได้เรื่อง“ณดาครับ ชนแก้วกันหน่อยไหม” พี่แซม พี่รหัสของอลันเดินเข้ามาคุยกับฉันเป็นรอบที่สิบแล้วมั้ง เขาดูเหมือนจะสนใจตัวฉันพอสมควร เพราะรอบก่อนก็พึ่งจะขอช่องทางโซเชี่ยลไป รอบนี้วนกลับมาชนแก้วอีกแล้ว“ไม่ดีกว่าค่ะ ณดาอิ่มแล้ว” ฉันยิ้มตอบตามมารยาทไป เบื่อเต็มทีแล