เสียงจอแจของผู้คนในยามเช้าวันเปิดภาคเรียนของนักศึกษาปีหนึ่งต่างเริ่มทยอยเตรียมเข้าเรียน บ้างก็เดินมานั่งพูดคุยกันบริเวณหน้าตึกเรียน หญิงสาวเดินมาที่หน้าตึกเรียนพร้อมกับเพื่อนสาวที่เพิ่งทำความรู้จักกันเมื่อวันรับน้องไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา หญิงสาวโบกมือทักทายเพื่อนสาวคนสวยพร้อมท่าทางดีใจที่ได้พบกัน
“นา แกมานานหรือยัง” เสียงสดใสของเพื่อนสาวเอ่ยทักอย่างร่าเริงพร้อมโอบกอดเอวบางของหญิงสาวกับรอยยิ้มสวย
“เพิ่งมาเมื่อกี้เอง” หญิงสาวกอดตอบเพื่อนอย่างสนิทสนมพร้อมกับเอียงซบเล็กน้อย
“ส้มโอกินอะไรหรือยัง”
“กินแล้ว นาล่ะ”
“เรียบร้อยแล้ว เราขึ้นเรียนกันเลยไหม”
“เอาสิไปกันเถอะ ไปจองที่นั่งด้วย”
ทั้งสองสาวเดินขึ้นมายังตึกเรียน ก่อนจะมองหาที่นั่งว่างเพื่อจับจอง ภายในห้องสโลป ตอนนี้เก้าอี้ยังคงว่างสำหรับการจองที่ ขาเรียวเดินลงไปตามขั้นบันไดก่อนจะวางกระเป๋าเมื่อได้ที่นั่งที่ต้องการ เสียงพูดคุยของนักศึกษาภายในห้องไม่ได้เข้า โสตประสาทของหญิงสาวสักเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องถึงกับชะงักก็คือบทสนทนาของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“เมื่อวันก่อน ฉันไปร้าน SUNSET มาเจ้าของร้านหล่อมาก” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยคุยกันอย่างออกรส พร้อมกับหน้าตาที่ดูภูมิใจ
“อย่าว่าแต่เจ้าร้านของเลย พนักงานก็หน้าตาดีทุกคน” เพื่อนอีกคนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกปากทำหน้าตาภูมิใจในสิ่งที่เห็นไม่แพ้กัน
“แกก็ว่าไป สงสัยพวกเราต้องไปร้านนั้นบ่อย ๆ แล้ว” ทั้งสองปรบมือเข้าหากันเหมือนกับรู้ว่าสิ่งที่ควรทำนั้นคืออะไรก่อนจะเดินออกไป
หญิงสาวที่ยืนฟังอยู่กับเพื่อนสาวถึงกับต้องสะกิดถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงได้นิ่งไป เมื่อได้สติหญิงสาวก็หันไปมองเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตนเองทันที ก่อนจะยิ้มบางให้กับเพื่อนแล้วชวนกันไปเข้าห้องก่อนจะถึงเวลาเรียนเมื่อถึงเวลาเข้าเรียนนักศึกษาก็ต่างพากันทยอยเข้ามาบรรยากาศเป็นที่คึกคัก เมื่อวันแรกไม่ได้ทำอะไรที่หนักสมองจนเกินไป อาจารย์เพียงแค่ให้ทำความรู้จักเพื่อนในคลาสเรียน และจับกลุ่มเพื่อทำงานร่วมกัน
เวลาพักเบรกมาถึงเมื่อเริ่มเรียนไปได้ครึ่งชั่วโมง อาจารย์ผู้สอนให้นักศึกษาออกมาเดินเล่น เพื่อผ่อนคลายเป็นเวลาสิบนาที เพื่อนสาวที่เดินมาตามหลังเอ่ยถามหญิงสาวว่าเย็นวันนี้จะเริ่มทำงานกลุ่มเลยไหม หญิงสาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อยเพราะวันนี้ตั้งใจว่าจะแวะไปที่ร้าน SUNSET เพื่อไปเจอชายหนุ่มที่ชอบ
“อือ ที่จริงวันนี้ฉันไม่ว่าง แต่ถ้าส้มโออยากเริ่มทำงานเลยก็นัดเพื่อน ๆ ได้เลยนะ” ในใจก็อยากไปแต่อีกใจก็อยากไปนั่งมองชายหนุ่ม แต่เพื่อนต้องมาก่อนและการเรียนก็ย่อมสำคัญกว่าอยู่แล้ว เรื่องผู้ชายเอาไว้ทีหลัง
“งั้นไปทำที่ห้องสมุดนะ จะได้นัดเพื่อน ๆ เลย” เพื่อนสาวเอ่ยอย่างร่าเริง เพราะที่ห้องสมุดไม่ได้มีแค่หนังสือน่ะสิ
“โอเค นัดเพื่อนเลย ตอนนี้หิวขนมมากไปซื้อขนมกันเถอะ” ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนจะหันมาสนใจทางเดินตรงหน้า
“ไปสิ ฉันอยากกินมาการอง”
“มาการองแถวนี้ไม่มีขายหรอกนะ”
ที่ตึกเรียนมันแทบไม่มีร้านขายมาการองเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมเธอถึงมาอยากกินอะไรตอนนี้กันนะ
“ก็ไปที่ร้าน SUNSET ใกล้ ๆ นี่แหละ” เพื่อนสาวเอ่ยเสร็จก็แอบตกใจนิดหน่อยที่ต้องถ่อไปถึงที่ร้านเพราะมันไกลจากคณะพอสมควร
“แค่เดินไปก็หมดเวลาเเล้วไหม กว่าจะเดินลงตึกเรียนเดินไปร้านเดินกลับมาอีก” หญิงสาวเอ่ยห้ามปรามเพื่อนเพราะมันอาจจะเลยเวลาเรียนและโดนหักคะแนนก็เป็นได้ แต่คิดไปคิดมาถ้าไปที่ร้านนั้นก็อาจจะได้เจอกับเขาคนนั้นก็ได้
เมื่อเพื่อนสาวเอ่ยชื่อร้านใบหน้าของหญิงสาวก็แดงระเรื่อโดยอัตโนมัติ แค่ได้ยินก็นึกถึงชายหนุ่มขึ้นมาทันที หัวใจเจ้ากรรมพลันคิดถึงเขาตลอดเวลาที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวชายหนุ่ม เห็นแบบนี้คงไม่เรียกว่าตกหลุมรักธรรมดา ว่าแล้วเนื้อเพลงยอดฮิตในวัยเด็กก็ผุดมาในหัว ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ คิดถึงแต่เขา
“นี่แกหน้าแดงอะไรนา” เพื่อนสาวเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีอาการหน้าขึ้นสี
“บ้า หน้าแดงอะไร ไม่มีนะ” หญิงสาวเอามือนาบกับใบหน้านวลของตัวเองพลางส่ายหน้าไปมาช้า ๆ
“แก้มแกมันแดงจริง ๆ นี่ เดี๋ยวนะ ไม่ใช่แกไปแอบชอบหนุ่มร้านนั้นเหมือนสาวคนอื่น ๆ หรอกนะ” เพื่อนอย่างไรก็คือเพื่อน ถึงจะรู้จักกันไม่นานแต่ทำไมรู้ความคิดฉันไปหมด
“ถ้าบอกว่าใช่ แกอย่าล้อฉันนะส้มโอ” เอาเถอะไหน ๆ ก็โดนจับได้แล้ว จะไม่ยอมโป๊ะแตกเพราะปิดบังเพื่อนหรอก
“ถามจริง นี่แกเอาจริงเหรอ” ส้มโอสีหน้าดูตกใจเมื่อได้ยินคำตอบ
“เอาจริงแบบไม่ได้มาเล่น ๆ เลยแหละ” ความมั่นใจเต็มเปี่ยม กับการตอบแบบไม่ต้องลังเล เพราะไม่ได้มาเล่น ๆ แบบที่พูดจริง ๆ
“ว่าแต่ไปตกหลุมพรางหนุ่มคนไหนเหรอ” เพื่อนก็ขยันหลอกถามจริง ๆ แต่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้หรอก
“ไม่บอก”
“ถ้าไม่บอกฉันช่วยแกไม่ได้หรอกนะ” เพื่อนสาวถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่ต้องช่วย เดี๋ยวฉันลุยเอง” ใช่ ตอนนี้ฉันลุยเอง ไปตายเอาดาบหน้า ถ้าไม่ไหวจะขอให้ช่วยนะเพื่อน
“โคตรเชื่อเลย ธาตุแท้ออกแบบไม่ต้องศึกษา ฉันชอบแกจังนาน้อยของฉัน นึกว่าจะเรียบร้อย” เพื่อนสาวหัวเราะออกมาอย่างนึกขำ เมื่อสิ่งที่ได้ยินทำเอาเหลือเชื่อจริง ๆ
“นี่ชมอยู่ใช่ไหม” คิดแล้วก็สงสัย นี่เพื่อนชมหรือเพื่อนด่า แต่ช่างมัน มั่นใจในตัวเองไว้ก่อน พุ่งชนเท่านั้นนั่นคือเป้าหมาย
“ไม่บอก” เล่นตัวไปก่อนแล้วกัน ยังไม่บอกแน่ ๆ ว่าคนไหน ไปเดาเอาเองนะเพื่อน
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท