Home / โรแมนติก / หลงลมหวน / 10.พ่อตาแม่ยาย

Share

10.พ่อตาแม่ยาย

Author: HikkyOneside
last update Last Updated: 2024-12-19 19:08:52

พอถึงวันหยุดที่นัดกันไว้ ภูดิศก็ตื่นแต่เช้ามาเตรียมสำรับไปถวายพระและข้าวกล่องสำหรับพวกเขา เพราะตั้งใจว่าพาน้องน้อยไปปิกนิกในวัดวาอารามสักหน่อย

พริมาลงมายืนแอบมองเข้าไปในครัว เห็นร่างสูงกำลังจัดเรียงอาหารใส่กล่องอย่างตั้งใจ

แต่ยิ่งมองหัวใจเธอก็ยิ่งเต้นรัวผิดปกติ คนอะไรทำได้แทบทุกอย่าง ชักจะเก่งเกินไปแล้วนะ

ไม่น่าเชื่อว่าพี่ข้างบ้านคนนั้นจะโตมาได้น่ารักขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรกเธอจะได้ชิงจีบตั้งแต่ตอนเด็กเพื่อเอาของแถมตอนโต

แม้ตอนนี้จะดูเหมือนว่าเธอได้มาครอบครองแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าเรียกคนตัวโตด้วยสถานะอื่น ต่อให้ในใจจะจัดลำดับความสำคัญของเขาไว้บนสุดก็ตาม

ก็เรื่องแบบนี้สมควรให้ผู้ชายเป็นคนขอคบก่อนไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอก็เริ่มได้ สงสัยต้องไปถามเพื่อนดูสักหน่อย

“คิดอะไรอยู่ครับ ดูเพ้อเอาเรื่องเชียว”

คนตัวโตบีบจมูกเล็กอย่างมันเขี้ยว พอเธออ้าปากก็ป้อนไข่หวานม้วนให้

“ลองชิมดูหน่อยสิว่าอร่อยไหม พี่ลองทำตามในคลิปแม่บ้านญี่ปุ่นน่ะ”

“อืม ขออีกคำได้ไหมคะ พราวยังไม่แน่ใจเลย”

“แสดงว่าอร่อยสินะ” เขาป้อนให้อีกชิ้นตามคำขอ “ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วครับ”

“ค่า ๆ”

ร่างบางวิ่งขึ้นชั้นสองไปอย่างน่าเอ็นดู ลงมาอีกทีก็อยู่ในชุดกระโปรงสีหวาน พอบวกกับรอยยิ้มร่าเริงก็ยิ่งน่ามองจนคนตัวโตยืนนิ่งไป

พริมารีบก้มลงมองสภาพตัวเอง “ชุดนี้แปลกเหรอคะ”

“เปล่า น่ารักมากต่างหาก”

คนชมพูดตรงไปตรงมาจนอีกคนเขินแทบไม่ทัน

“เอ่อ...เราไปกันเถอะค่ะ”

หญิงสาวเข้าไปช่วยถือของสำหรับทำบุญ ก่อนคล้องแขนร่างสูงเดินออกจากบ้านไปพร้อมกัน

ทั้งคู่ช่วยกันทำความสะอาดรอบ ๆ สถานที่เก็บอัฐิพ่อแม่ ก่อนจะนิมนต์พระมาสวดบังสุกุลทำบุญให้

พอทำพิธีทุกอย่างเรียบร้อย ภูดิศก็ช่วยถือสังฆทานกับข้าวปลาอาหารไปส่งพระสงฆ์ที่กุฏิ ส่วนพริมานั่งคุยกับพ่อแม่ต่อ

“พ่อจ๋าแม่จ๋า หนูเลิกกับพี่เปลวแล้วนะ เขานอกใจไปมีคนอื่น แต่พราวรู้นานแล้วเลยไม่ได้เสียใจอะไรมาก”

นิ้วเรียวลูบไปตามกรอบภาพขาวดำเล็ก ๆ อย่างรักใคร่ พอนึกถึงเรื่องต่อไปที่จะพูด ริมฝีปากอิ่มก็ยกยิ้มเขิน ๆ

“ตอนนี้มีคนมาช่วยดูแลพราวแล้วด้วย เป็นพี่ภูลูกคุณลุงภาศกับคุณป้ากัญญาที่เคยอยู่ข้างบ้านไงคะ เขาดีกับพราวมาก ๆ ไม่นึกเลยว่าคนที่ชอบทำหน้าบึ้งตอนนั้นจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้”

พริมาเหลือบมองข้าวกล่องที่วางอยู่ไม่ไกล ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ไม่รู้ว่าพวกเราจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน แต่พราวเข้มแข็งมาก ดูแลตัวเองได้แน่ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”

ภูดิศที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างหลังรู้สึกหลากหลายมาก ทั้งดีใจที่ได้รับคำชม และคิดหนักที่เธอยังไม่เชื่อใจนัก

แต่ไม่เป็นไร เขารู้ว่าเรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน มันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องสร้างมันขึ้นมา

ชายหนุ่มเข้าไปคุกเข่าอยู่ข้างหญิงสาว สายตาจับจ้องภาพเล็ก ๆ ของชายหญิงคู่หนึ่งที่ส่งยิ้มมาให้

“สวัสดีครับลุงภพ ป้าลออ ผมเจ้าภูเด็กข้างบ้านไงครับจำได้ไหม แต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมจะแนะนำตัวใหม่”

เขาเอื้อมไปกุมมือคนข้างกายไว้แล้วพูดต่อ

“ผมภูดิศเป็นแฟนของพราวครับ ผมย้ายมาอยู่ดูแลน้องที่บ้านด้วย หวังว่าคุณลุงจะไม่หวงลูกสาวจนไล่ตีผมอีกนะครับ”

“คืออะไรคะพี่ภู”

“พี่เคยไปขอคุยกับเราแล้วคุณลุงไม่ยอมน่ะ พี่เลยต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ แต่ยังไม่ทันได้บุกถ้ำเสืออีกทีก็ต้องย้ายตามพ่อไปเมืองนอกซะก่อน”

“แบบนี้นี่เอง” คุณพ่อนะคุณพ่อ หวงลูกสาวไม่เข้าเรื่อง เธอเกือบไม่ได้เจอเขาอีกแล้วนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเสียดายแย่

ชายหนุ่มยกยิ้มส่งให้แล้วหันไปพูดกับผู้ล่วงลับต่อ

“ผมสัญญาว่าจะดูแลพราวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะไม่ทำให้น้องต้องเสียใจ เพราะผมรักพราวมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”

“พี่ภูพูดอะไรเนี่ย” ใบหน้าหวานแดงซ่าน ยกมือเล็กตีแขนล่ำระบายความเขิน

“พี่ก็พูดความจริงไงครับ”

ร่างบางยิ่งเขินหนักเข้าไปใหญ่ ภูดิศมองแล้วต้องนึกเตือนตัวเองว่าอยู่เขตวัดวาอาราม รอกลับบ้านแล้วค่อยจับฟัดให้หนำใจ

พอรายงานตัวกับพ่อแม่ของเธอเสร็จเรียบร้อย เขาก็หยิบร่มขึ้นมากางให้คนตัวเล็กเพราะเห็นว่าแดดจ้ามาก

“พราวคงหิวแย่แล้ว เราไปนั่งกินข้าวกล่องตรงนั้นกันดีกว่า จะได้อยู่กับพ่อแม่อีกสักพัก”

ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะหินใต้ต้นไม้ใหญ่ ภูดิศส่งทิชชูเปียกให้คนน้องเช็ดมือก่อน ตามด้วยตะเกียบและกล่องข้าวแบบญี่ปุ่นที่เขาตั้งใจทำกับมือ

“โห น่ากินมากเลยค่ะ พี่ภูเก่งจังเลย”

พริมามองอาหารตาเป็นประกาย ทั้งหมูย่างซีอิ้ว ข้าวปั้นพอดีคำ ไข่ม้วนสีเหลืองแสนอร่อย กุ้งชุบแป้งทอดตัวกำลังดีและสลัดผักน้ำใสไว้กินตัดเลี่ยน

“กินสิครับ แล้วบอกด้วยนะว่าชอบไหม”

“ชอบมากค่ะ”

“หมายถึงพี่อ่ะเราชอบไหม”

คนถูกหยอกรีบก้มหน้าทำเป็นสนใจแต่อาหาร คนถามก็ไม่คาดคั้นอะไร แค่ได้เห็นใบหูแดง ๆ นั่นก็พอใจแล้ว

ร่างบางคีบอาหารเข้าปากทีละคำ ๆ สีหน้ายิ้มแย้มร่าเริง รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน

ช่วงแรก ๆ ที่คบกับอัคคี เขาเคยมาเป็นเพื่อนอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ก็แค่ไหว้พ่อแม่เท่านั้น

พอหลัง ๆ ที่ต้องมาคนเดียว เธอก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป

นึกแล้วก็อดเหลือบมองคนข้าง ๆ ไม่ได้ เธออยากเผื่อใจไว้ล่วงหน้าว่าความสุขที่ได้รับอาจไม่ยืนยาวนัก แต่อีกใจก็อยากต่อสู้เพื่อรักษาเอาไว้ให้ได้นานที่สุด

พ่อคะ แม่คะ พราวจะเลือกทางไหนดี’

ภูดิศเห็นเธอชะงักนิ่งไปก็ส่งขวดน้ำส้มให้ “วันนี้อากาศดีเนอะ โชคดีจัง”

“นั่นสิคะ” พริมาหันไปคลี่ยิ้มกว้าง “หมูย่างอร่อยมากเลยค่ะ นี่พี่ภูทำเองทั้งหมดจริง ๆ เหรอคะ ต้องตื่นตั้งแต่ตีอะไรเนี่ย”

“เปล่า พี่แอบสั่งในแอพแล้วเอามาจัดลงกล่อง”

“ใช่ที่ไหน พราวเห็นข้าวของกองรกเต็มครัวเลย”

“พี่สร้างภาพน่ะ”

“ยังจะหลอกกันต่ออีก”

“ก็แกล้งพราวสนุกดี”

สองหนุ่มสาวหัวเราะให้กันและกัน เปลี่ยนวันหยุดธรรมดา ๆ ให้มีความหมายขึ้นมา

พอออกจากวัดภูดิศก็พาน้องแวะเดินตลาดแถวนั้น หาอะไรง่าย ๆ กินเล่นแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน

ระหว่างทางหลังจากชั่งใจอยู่นาน พริมาก็ตัดสินใจถาม

“พ่อพี่ภูเป็นยังไงบ้างคะ”

“ก็เรื่อย ๆ” เสียงทุ้มฟังดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด แต่ก็ยังหันไปส่งยิ้มให้อีกคน “ทำไมครับ พราวอยากเจอพ่อพี่เหรอ”

“ก็...พี่ภูบอกว่าพราวเป็นแฟน...” ร่างบางเอ่ยเสียงอ่อนลงทุกที สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดความในใจต่อไป

“เอาไว้พี่จะพาไปหานะครับ”

มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ แต่แววตาแอบซ่อนความกังวลไว้

เขาไม่ได้กลัวว่าพ่อจะไม่ชอบใจพริมา แต่กลัวครอบครัวใหม่ของพ่อต่างหาก

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกของแม่เลี้ยงนัก เรียกว่ารำคาญจะดีกว่า แค่สงสารพวกน้อง ๆ ที่อาจถูกระบายอารมณ์ใส่แทน เพราะเธอไม่ค่อยอยากเห็นเขามีความสุขเท่าใดนัก

แต่ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง เขาก็ไม่มีทางปล่อยมือเล็กคู่นี้ไปเป็นอันขาด

“วันนี้ไม่ต้องทำมื้อเย็น งั้นเราขึ้นไปนอนคุยกันเร็วกว่าเดิมหน่อยดีไหม”

ชายหนุ่มเอ่ยชวน สายตาคมวิบวับบอกความนัย ทำอีกคนแก้มแดงแทบจะคั้นน้ำหวานออกมาได้

“แต่พราวอยากแช่เท้าก่อนค่ะ”

“ได้สิครับ”

“เราแช่ด้วยกันไหมคะ”

“พี่กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะให้พราวนั่งบนตักแล้วแช่เท้าไปพร้อมกัน แต่เราต้องไม่ใส่อะไรเลยนะ”

คนฟังเผลอคิดภาพตามอยู่นาน กว่าจะรู้ตัวว่าถูกคนพี่หยอกเย้าก็เขินไม่ทันแล้ว

“เลิกหื่นสักวันได้ไหมคะเนี่ย”

“ถ้าอยู่ห่างพราวพี่ก็ไม่หื่นหรอก” คนตัวโตยิ้มกรุ้มกริ่ม “แต่พอมีเนื้อนุ่ม ๆ อยู่ใกล้ ๆ ใครจะไปอดใจไหว”

“หมายถึงหมูย่างนมสดนี่เหรอคะ พราวป้อนให้นะ”

“มีนมสดกว่านี้อีก แต่พี่จะรอกลับไปกินที่บ้าน”

“ไม่เคยชนะเลยอ่ะ”

คนตัวเล็กตัดพ้อแก้มป่อง เรียกสายตาเอ็นดูจากอีกคนได้

“เรื่องหื่นยกให้พี่เถอะ ส่วนเรื่องอื่นพี่ยกให้พราวหมดเลย”

“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”

พริมาต้องยอมจำนน หันไปทำหน้าที่ป้อนลูกชิ้นทอดให้คนตัวโตแทน

“ที่นี่มีแต่ของอร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ พี่ภูว่าไหม”

“พราวอร่อยกว่าเยอะ”

“เฮ้อ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงลมหวน   25.คนกันเอง

    ภูดิศใจร้อนมาก พอเข้าเช้าวันจันทร์ก็พาแฟนสาวไปจดทะเบียนสมรส เปลี่ยนสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายให้เรียบร้อยแต่คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอนิธินันท์กับอิงฤดีที่นั่นด้วย ในมือถือเอกสารไว้ไม่ต่างกันเลย“อ้าว”“อุ้ย คือ...คุณภูขอให้เรามาเป็นพยาน...”“ไม่ต้องหาเรื่องแก้ตัวเลยย่ะ เปิดตัวได้สักทีนะเรา”พริมากอดแขนเพื่อนสนิทพากันเดินเข้าไปในสำนักงานเขต ทิ้งให้สองหนุ่มยืนมองคุมเชิงกันไปมาแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ทั้งคู่รับรู้ตรงกันว่าการแข่งขันได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วเย็นนี้ต้องรีบกลับไปผลิตทายาททันทีต่างคนต่างเซ็นเป็นพยานให้อีกคู่หนึ่ง เพียงไม่นานธุระก็เสร็จเรียบร้อย พอดีกับที่อธิปโทรตามให้รีบเข้าบริษัท“ไปไหนกันมา ทำไมที่แผนกบัญชีมีใครสักคน”บอสหนุ่มยืนกอดอกจ้องมองคนทั้งสี่ที่ดูมีพิรุธชอบกล“กูพาเมียไปจดทะเบียนสมรสมา”ภูดิศกอดคอพริมา ทำท่าทางอวดว่านี่คือภรรยาของตน อธิปเบะปากใส่เพื่อนก่อนหันไปหาหัวหน้าแผนกบัญชี“คู่นี้ก็เลยไปจดบ้างว่างั้น”“เปล่านะคะ ๆ” อิงฤดีรีบปฏิเสธพัลวัน“เราตั้งใจไปจดของเรากันเองครับ ไม่ได้แข่งกับใครจริง ๆ”นิธินันท์เอ่ยตอบแทน แต่นั่นกลับทำให้สีหน้าบอสหนุ่มยิ่งเคร่งข

  • หลงลมหวน   24.ต้องรอดแน่ (NC)

    พอปรับความเข้าใจกับแฟนสาวเรียบร้อย ภูดิศก็ขึ้นไปคุยกับน้องสาวบ้าง แต่กลับเจออธิปอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพัง“อ้าว เดมี่ล่ะ”“กูสั่งให้ลงไปช่วยเก็บกวาดที่ห้องบัญชี”“เออ ให้แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก็ดี จะได้รู้ว่าไม่ควรทำ”“มึงไม่กลัวเธอลงไปทะเลาะกับพราวเหรอ”“ไม่หรอก กูคุยกับพราวเข้าใจแล้ว” ภูดิศทิ้งตัวลงนั่งไขว่ห้างที่โซฟา “กูห่วงเดมี่มากกว่า สงสัยจะทะเลาะกับแม่มาอีกแล้ว คงต้องให้หลบอยู่ที่ไทยสักระยะ”อธิปพับกระดาษใบหนึ่งเก็บใส่ลิ้นชักชั้นบนสุด ตาแอบมองเพื่อนสนิทที่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด“กูจะให้น้องมึงมาเป็นผู้ช่วย”“จริงเหรอ ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีสิ”“มึงจะไม่ถามเหรอว่ากูทำไปทำไม”“ไม่ล่ะ ถ้ามึงยอมช่วยเดมี่กูก็พอใจแล้ว”“แต่งานผู้ช่วยของกูมันหนักนะเว้ย เลิกงานก็ไม่เป็นเวลา ต้องตามกูไปทุกที่ ขนาดผู้ชายยังลาออกกันไปหมด”“ก็ลองให้เธอทำดูก่อน ถ้าไม่ไหวค่อยเลิก มึงโอเคไหมล่ะ”“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้”“เออ ขอบใจมึงมาก”สีหน้าภูดิศสบายใจขึ้นเยอะ เพราะตอนอยู่ต่างประเทศก็มีอธิปนี่แหละที่เดมี่ดูจะเกรงใจบ้าง คงพอช่วยอบรมสั่งสอนได้อยู่“ถ้าเดมี่ทำตัวงอแงมึงก็ลงโทษได้เลยนะ”“มึงพูดเองนะ”อธิปถามย้ำ ภูดิศจึ

  • หลงลมหวน   23.ว่าไงนะ

    “ว่าไงนะ”“คุณภูพูดขอยายพราวแต่งงานแล้ว อิงก็เลยคิดว่าในเมื่อคู่ที่เพิ่งคบกันแค่เดือนกว่ายังคิดไปถึงขั้นนั้นได้ แล้วทำไมพวกเราถึงจะก้าวไปอีกขั้นไม่ได้”นิธินันท์รีบตบไฟเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอี้ยวตัวไปกอดแฟนสาวไว้แน่น“ขอบคุณครับที่คิดฝากชีวิตไว้กับพี่ พี่สัญญาว่าจะดูแลเราให้ดีที่สุด”“อิงต่างหากที่ต้องขอบคุณ นอกจากพี่นันท์แล้วคงไม่มีใครทนกินไข่เจียวกรอบในไหม้นอกของอิงหรอกค่ะ”“พูดถึงเรื่องนี้...พราวยังเปิดคอร์สสอนเราทำกับข้าวอยู่ไหม”“พี่นันท์!”“ตัวพี่น่ะไม่เท่าไหร่หรอก สงสารก็แต่ลูก”“นี่คิดไปถึงไหนแล้วคะ”“ถึงตอนทำลูกไงครับ”“คนหื่น!”ร่างบางเอ็ดเข้าให้อีกรอบ แต่คนตัวโตก็หาได้เกรงกลัว กดจูบกดหอมจนน้ำลายเปียกหน้าแฟนสาวไปหมด“ถ้าอิงอยากจัดงานแต่งแบบไหนก็บอกได้เลยนะ พี่อาจทำได้ไม่หรูหราอะไรนัก แต่พี่ก็ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้เราต้องอายใคร”“ไม่ต้องหรอกค่ะ เราจดทะเบียนกันเฉย ๆ ก็ได้ เก็บเงินค่าจัดงานไว้เลี้ยงลูกดีกว่า”“ไปถามพ่อแม่ก่อนไหม พี่อยากให้เกียรติเราเต็มที่ เพราะชาตินี้พี่จะแต่งงานแค่ครั้งเดียว”“อิงเคยถามแล้ว พ่อกับแม่บอกว่าให้พี่ไปผูกข้อมือที่บ้านก็พอ ไม่ต้องใ

  • หลงลมหวน   22.ดีจัง

    คนป่วยรู้สึกตัวตื่นตอนเช้ามืดวันถัดมา ความรู้สึกแรกคือคันปากยิบ ๆ และหายใจไม่สะดวกเท่าไรนัก แต่ก็ยังดีกว่าตอนก่อนจะหมดสติไปภูดิศกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นเสาน้ำเกลือก็แน่ใจแล้วว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นเงาตะคุ่ม ๆ ที่ฟุบอยู่ข้างเตียงก็ต้องเป็นสุดที่รักของเขาแน่นอนไม่รู้ว่าพริมาได้หลับไปตอนกี่โมง ภูดิศจึงปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนไปดวงตาคมจ้องมองคนหลับสนิทไม่วางตา เจ้าของดวงหน้าหวานที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ต่อให้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปีก็ยังไม่ลืม เพราะไม่มีใครทำให้ใจเขาเต้นแรงได้เท่าเด็กแว่นข้างบ้านคนนี้อีกแล้วนึกไปก็น่าขำ ที่เขาฝึกเล่นกีต้าร์ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากน้องน้อย แต่ดันได้ความรำคาญมาเสียอย่างนั้นยังดีที่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอจดจำเขาได้เช่นกันตอนนั้นเองอีกคนก็รู้สึกตัวตื่น พอเห็นว่าเขานอนลืมตาอยู่ก็รีบควานหาแว่นมาสวมก่อนลุกขึ้นยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ“พี่ภูฟื้นแล้ว ดีจังค่ะ”“เด็กขี้แย พี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ภูดิศยกมือจะช่วยเช็ดน้ำตาให้คนรัก แต่เธอกลับจับมือเขาไปกุมไว้“พี่ทำให้พราวตกใจมากเลย ทำไมถึงดื่มแอลกอฮอล์ล่ะคะ”“มีคนสลับแก้วของพี่น่ะ ไ

  • หลงลมหวน   21.เกือบไปแล้ว

    “แกทำอะไรผัวฉัน”พอได้ยินแบบนั้นอธิปถึงเข้าไปดูสภาพเพื่อนให้ดี ๆ ก่อนจะรีบโทรตามรถพยาบาลโดยด่วนให้ตายสิ ลืมเช็กเรื่องนี้ไปได้อย่างไร นี่ถ้าไอ้ภูเป็นอะไรขึ้นมาชาตินี้เขาคงไม่มีทางให้อภัยตัวเองเป็นแน่ส่วนปภาดาที่ถูกตบถึงกับนิ่งอึ้งไปนาน เพราะคราวก่อนไม่เห็นว่ายายเด็กนี่จะทำอะไรเลย ขนาดนั่นเป็นผู้ชายที่คบกันมาตั้งหลายปี เธอจึงคิดว่ากับคนที่เพิ่งคบกันไม่กี่เดือนคงไม่หวงถึงขั้นลงไม้ลงมืออย่างนี้อัคคีเองก็ตกใจไม่แพ้กัน พอเห็นสายตาของเพื่อนร่วมงานก็ยิ่งหงุดหงิด ทำไมต้องมองเหมือนเขาเป็นคนถูกทิ้งด้วยระหว่างที่ยังไม่มีใครตั้งสติได้ พริมาก็ตบคู่กรณีเข้าอีกฉาด คราวนี้ปภาดารู้สึกตัวแล้ว“นังนี่ ผัวแกเมาแล้วข่มขืนฉันนะ”“ยังจะพูดพล่อย ๆ เอาอีกสักฉาดไหม”พริมาง้างมือจะตบอีกรอบจริง ๆ แต่อธิปเข้ามาห้ามไว้“พอแล้วพราว มาดูไอ้ภูก่อนดีกว่า”“รถฉุกเฉินยังมาไม่ถึงอีกเหรอคะ”พอเธอถามแบบนั้นอธิปจึงแยกไปดูให้ ส่วนร่างบางย่อตัวลงข้างชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนโซฟา มือก็ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยขึ้นหน่อย“เดี๋ยวสิยะ แกต้องเคลียร์กับฉันก่อน จะเอาตัวคุณภูไปทั้งแบบนี้ไม่ได้”ปภาดากระชากไหล่คนตัวเล็กอย่างแรงให

  • หลงลมหวน   20.จนได้

    เวลาที่ปิดโปรเจคอะไรได้ ทีมงานมักรวมตัวไปสังสรรค์กันที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนักภูดิศในฐานะคนคุมโปรเจคย่อมปฏิเสธไม่ได้ อีกอย่างอธิปก็บอกว่าอยากให้มารู้จักกับเจ้าของร้านเอาไว้ด้วย เผื่อพาลูกค้ามาคุยงานที่นี่จะได้สะดวกหน่อย“นี่คุณวีรกร ส่วนนี้ไอ้ภูดิศ เพื่อนสนิทผมเองครับ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมได้ยินคุณเอสพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ”วีรกรจับมือกับชายหนุ่ม อีกฝ่ายก็ส่งยิ้มกลับไป“ยินดีเช่นกันครับ”“เชิญตามสบายนะครับ อยากได้อะไรก็บอกเด็ก ๆ ได้เลย”“ขอเป็นม็อกเทลให้เพื่อนผมนะครับ”อธิปกำชับเจ้าของร้าน ก่อนที่จะเดินไปร่วมวงกับคนอื่น ๆ ที่เปิดโต๊ะรออยู่ก่อนแล้ว เขาไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร ยิ่งงานเลี้ยงอย่างนี้ก็ยิ่งปล่อยตามสบายภูดิศนั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากเพื่อนสนิทได้ไม่นาน ก็มีคนมานั่งตรงเก้าอี้ข้าง ๆ“คุณภูอยากดื่มอะไรไหมคะ เดี๋ยวดาชงให้”ปภาดาขยับเก้าอี้เข้าใกล้ร่างสูงมากขึ้น เอียงหน้าเข้าไปพูดคุยราวกับกลัวอีกฝ่ายไม่ได้ยิน ทั้งที่ดนตรีเพิ่งเริ่มเล่นคลอเบา ๆ เท่านั้น ท่าทางไม่ได้เกรงใจอัคคีที่นั่งอยู่ไม่ไกลเลย“ผมไม่ดื่ม”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบพร้อมขยับเก้าอี้ออกห่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status